-->

ผู้เขียน หัวข้อ: พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 3  (อ่าน 282 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18154
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 3
« เมื่อ: 30 สิงหาคม 2018, 16:26:16 »

พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 3

ตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิมช่วยสร้างสะพาน



ตำนานหนึ่งเล่าถึงพระโพธิสัตว์ทรงช่วยชาวบ้านที่อาศัยแถบแม่น้ำลั่วหยางสร้างสะพาน โดยมีความว่า
ชายหนุ่มนามว่า "เซี๊ยะเสียง" เขาอยากจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำลั่วหยางด้วยแม่น้ำที่กว้างและมักเกิด
อุบัติเหตุขึ้น กับผู้ที่โดยสารข้ามแม่น้ำลั่วหยาง มักเกิดเรือล่มเสมอเพราะแม่น้ำมักเกิดคลื่นและวังน้ำวน
อยู่เสมอ


แต่เซี๊ยะเสียงขาดทุนทรัพย์จะสร้างสะพาน เซี๊ยะเสียงซึ่งเคารพนับถือในพระโพธิสัตว์มาตั้งแต่เด็ก
(ด้วยเหตุว่า ตอนที่มารดาของเขาตั้งท้องเขาอยู่นั้น ได้สัญจรเรือข้ามแม่น้ำลั่วหยางและเกิดแม่น้ำ
ปั่นป่วนเรือจะล่ม อยู่ๆมีหญิงสาวในชุดสีขาวสะอาดปรากฏกายพร้อมด้วยรัศมีงดงามลอยอยู่กลางอากาศ
และแล้ว แม่น้ำก็สงบนิ่งอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแล้วหญิงสาวก็หายวับไป ทุกคนเชื่อว่าตนเอง
ได้รับความช่วยเหลือจากพระโพธิสัตว์กวนอิม จากนั้นมาพอมารดาของเซี๊ยะเสียงให้กำเนิดตนมา
และให้ตนกราบไหว้และเคารพในพระโพธิสัตว์มาโดยตลอด)

จึงอธิษฐานต่อพระโพธิสัตว์ให้พระองค์ประทานช่องทางหาทุนทรัพย์ในการสร้างสะพานครั้งนี้
จนอยู่มาวันหนึ่งมาหญิงสาวงดงามมากดุจนางฟ้านางสวรรค์ยืนลอยอยู่บนเรือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวว่า

"หากบุรุษใดหมายจะได้เราเป็นภรรยาแล้วไซร้ เพียงปาแก้ว แหวน เงิน และทองที่มีค่า โดนตัวเราได้
เราจะยอมรับบุรุษผู้นั้นเป็นสามี"


ข่าวนี้แพร่ไปทั่ว เหล่าบุตรชายเศรษฐี พ่อค้า คหบดี ขุนนางก็พากันยกแก้ว แหวน เงิน ทอง มามากมายหลายหีบ
หวังจะปาให้ต้องตัวนางเพื่อจะได้นางมาเป็นชายา แต่เหล่าชายหนุ่มพยายามจะปาไปเพียงใด แก้ว แหวน เงิน
และทอง เหล่านั้น ก็พากันตกลงสู่แม่น้ำลั่วหยางสิ้น เหล่าชายหนุ่มก็พากันหยุด และล้มเลิกความคิดที่จะได้นางมา
เป็นภรรยา แต่แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น หญิงสาวนั่งสมาธิภาวนา และแล้วแก้ว แหวน เงิน และทองสิ่งมีค่าก็ลอยขึ้น
จากแม่น้ำมาหล่นบนเรือที่นางนั่งอยู่นั้น และเรือนั้นก็ลอยเข้าหาฝั่งเองโดยไม่มีคนพาย


หญิงสาวมอบสมบัติเหล่านี้ให้เซี๊ยะเสียง เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างสะพาน เซี๊ยะเสียงทราบได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้
คือ พระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นแน่ เซี๊ยะเสียงทำความเคารพหญิงสาวและแล้วร่างของหญิงสาวก็หายวับไป ทุกคน
พากันตะลึง เซี๊ยะเสียงจึงได้สร้างสะพานได้สำเร็จ

ตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับ ความเมตตาแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิมมีอยู่อย่างมากมาย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ก็ยังมีเรื่องเล่า ถึงปาฏิหาริย์แห่งพระโพธิสัตว์กวนอิมอย่างไม่ขาดสาย พระองค์ยังทรงเมตตาต่อสรรพสัตว์
ตลอดกาล

     
 

ความรู้เสริมเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์กวนอิม



เด็กชายเด็กหญิงที่อยู่ข้างพระโพธิสัตว์คือใคร ?

รูปเคารพพระโพธิสัตว์กวนอิมมักมีเด็กชายและเด็กหญิงหรือพุทธสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวา
อยู่เคียงข้างเสมอโดยถูกเรียกว่า

"กุมารทอง (กิมท้ง)" คือเด็กชายผู้ที่ทุบศีรษะเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านจนดวงปราณละสังหารได้นั้นเอง และ
"กุมารีหยก (เง็กนึ้ง)" คือสาวใช้ผู้ปวารณาเป็นข้ารับใช้พระองค์ขณะเป็นภิกษุณี

บางตำนานว่า กิมท้งคือ บุตรชายคนรองแห่งแม่ทัพหลี่จิ้ง (เทพถือเจดีย์บิดาแ้ห่งนาจา) นามว่า "ซ่านไฉ่"
ซึ่งถวายตัวเป็นพุทธสาวกแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม


ส่วนเง้กนึ้งบางตำนานกล่าวว่าคือ เจ้าหญิงมังกร นามว่า "หลงหนี่" ซึ่งเป็นพระธิดาแห่งเจ้าสมุทรผัวเจี๋ยหลัว
ปวารณาตนเป็นพุทธสาวกพระโพธิสัตว์กวนอิม




แต่บางตำนานว่า ซ่านไฉ่ กับ หลงหนี่ เป็นพระโพธิสัตว์เลยทีเดียว โดยมีเทวตำนานดังนี้ ตอนที่เจ้าหญิงหลงหนี่
อายุได้  8 พรรษาได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนาจากพระโพธิสัตว์เหวินซู (พระมัญชุศรีโพธิสัตว์) บังเกิดเห็น
ดวงตาเห็นธรรมจึงเสด็จขึ้นจากวังบาดาล ยังชมพูทวีปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และถวายตัวเป็นพุทธสาวก และต่อมา
ไม่นานก็สำเร็จมรรคผลเป็นพระโพธิสัตว์

ส่วนซ่านไฉ่นั้น เป็นบุตร 1 ใน 500 คน แห่งผู้เฒ่าฝูเฉิง เกิดเห็นว่าทุกสรรพสิ่งเป็นสิ่งไม่เที่ยงมาแต่ไหนแต่ไร
ด้วยเหตุนี้จึงสนใจศึกษาพระธรรม โดยได้รับคำชี้แนะจากพระโพธิสัตว์เหวินซู (พระมัญชุศรีโพธิสัตว์) และได้รับ
การสั่งสอนจากพระภิกษุสงฆ์ถึง 53 รูป ผ่านอุปสรรคต่างๆจนบรรลุสู่การเป็นพระโพธิสัตว์
 


อั้งไฮยี เป็นเทพหรือปีศาจกันแน่ ?



ชื่อนี้คงเป็นที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่รู้จักวรรณกรรมจีน เรื่อง ไซอิ๋ว คงจำกันได้ว่า อั้งไฮยี เป็นลูกของปีศาจวัวกระทิง
กับ องค์หญิงพัดเหล็ก และสุดท้ายพระโพธิสัตว์กวนอิมมาปราบ และรับตัวเป็นศิษย์ขัดเกลาจนกลายเป็นเซียน
อันนี้เป็นเนื้อหาทางวรรณกรรมที่ปรุงแต่งขึ้นมา


แต่ตามพุทธตำนานกล่าวไว้ว่า อั้งไฮยี คือ เจ้าชาย เป็นพระโอรสแห่งพระเจ้าฮกเซ้งอ้วง ตอนที่เจ้าชายอั้งไฮยี
ประสูตินั้น ได้มีเพชรนิลจินดาผุดขึ้นมาเต็มบ้านเมือง เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์นั้น ชาวเมืองจึงกล่าวขนานนามเจ้าชายว่า
"อาเอี๊ย" ซึ่งแปลว่า ผู้มั่งคั่งด้วยสมบัติ


พอเจ้าชายอั้งไฮยีพระชนมายุได้ 3 พรรษา ทรงเบื่อหน่ายทางโลกเข้าสู่ทางธรรม ทรงลาพระราชบิดา พระราชมารดา
ออกแสวงหาสัจธรรม ได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ได้ศึกษาพระธรรมกับพระโพธิสัตว์ถึง 55 พระองค์ จนกระทั่ง
พระองค์พระชนมายุได้ 6 พรรษา ทรงเข้ากราบนมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิม พระองค์ทรงเอ็นดูและชื่นชมกับ
เจ้าชายอั้งไฮยี ซึ่งตั้งมั่นอยู่ในหลักแห่้งพระโพธิสัตว์เพื่อมุ่งสู่การเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ทรงประทานโอวาท
สั่งสอนเ้จ้าชายอั้งไฮยีด้วยความเมตตา จนเจ้าชายอั้งไฮยีรู้สึกซาบซึ้ง

จากนั้นมาเจ้าชายอั้งไฮยี ทรงรักและเทิดทูนพระโพธิสัตว์ประดุจมารดาบังเกิดเกล้า และปวารณาตนขอเป็นบุตรบุญธรรม
พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วย สรุปว่า อั้งไฮยี มิได้เป็นปีศาจ แต่เป็นพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งซึ่งเป็นบุตรบุญธรรม
พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วย

 

เหตุไฉนผู้ที่นับถือพระโพธิสัตว์กวนอิมไม่ทานเนื้อ?



ผู้ที่นับถือพระโพธิสัตว์กวนอิมจะทราบกันดีว่า หากผู้ใดนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิม จะไม่ "ทานเนื้ออันมาจากวัวและควาย"
ด้วยมีตำนานอันเนื่องมาจากเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ซึ่งเป็นร่างอวตารแห่งพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ถูกพระเจ้าเมี่ยวจวง
ซึ่งเป็นพระราชบิดาตามราวีต่างๆนานา และถึงกับจะประหารเจ้าหญิง


ซึ่งตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนานั้น เคยกล่าวว่าบาปที่หนักในพระุพุทธศาสนา คือ การทำร้ายสมณะ
นักบวช ผู้ทรงศีล และ พระพุทธองค์ แต่นี้เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านเป็นถึงร่างอวตารแห่งพระโพธิสัตว์ พระเจ้าเมี่ยวจวง
ทรงรังควาญพระราชธิดา ซึ่งเป็นร่างอวตารแห่งพระโพธิสัตว์ พระองค์จึงมีบาปมหันต์ต้องตกนรกอเวจี
พอพระองค์ทรงสวรรคตไปดวงพระวิญญาณทรงไปกำเนิดยังอเวจี ได้รับการทุกขเวทนาเป็นอันมาก

เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านซึ่งบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมทราบเ้ข้า ก็ทรงสงสารพระราชบิดาเลยลงมาโปรดพระราชบิดา
ยังอเวจี แต่พระองค์มิอาจจะช่วยพระราชบิดาได้มากนัก เพราะบาปกรรมของพระราชบิดาหนักเหลือเกิน
พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อขอให้พระพุทธองค์ช่วยพระราชบิดา พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า

"กวนอิมเธอเป็นบุตรกตัญญูรู้คุณผู้เป็นบุพการี ผลบุญแห่งเธอสามารถช่วยพระเจ้าเมี่ยวจวงได้ แต่ผลกรรม
ของพระเจ้าเมี่ยวจวง ถือว่าเป็นกรรมหนักมิอาจจะใช้ผลบุญแห่งเธอลบล้างได้ แต่สามารถช่วยให้พระเจ้าเมี่ยวจวง
หลุดพ้นจากอเวจีได้ แต่พระเจ้าเมี่ยวจวงต้องไปชดใช้กรรมในเดรัจฉาภูมิแทนเท่านั้น
"

พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงแผ่ผลบุญ ช่วยลดผลกรรมแห่งพระเจ้าเมี่ยวจวงจนหลุดพ้นจากอเวจีได้ แต่พระองค์
ก็ยังไม่หมดกรรม พระองค์ทรงต้องเกิดเป็น วัว และ ควาย 900 ชาติ ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้เลื่อมใสในพระโพธิสัตว์
จะไม่ทานเนื้อวัวและควาย ด้วยเกรงว่าจะไปกินถูกพระเจ้าเมี่ยวจวง ซึ่งเป็นพระราชบิดาพระโพธิสัตว์กวนอิม
เข้านั้นเอง



เหตุไฉนหอยนางรมจึงสามารถทานเป็นอาหารเจ ?



มีบางความเชื่อว่า หอยบางชนิดสามารถทานเป็นอาหารเจได้ โดยมีตำนานมาจากเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านซึ่งพา
ประชาชนส่วนหนึ่งทีนับถือในพระพุทธศาสนาหนีจากการเข่นฆ่าจากพระเจ้าเมี่ยวจวงลงเรือออกทะเลไป
พอนานๆวันเข้าเสบียงที่เตรียมมานั้นก็เริ่มจะหมดลงทุกทีจนหมด ผู้คนขาดอาหารเกิดความหิวโหย


เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านทรงตั้งจิตอธิษฐาน โดยเอาไม้พายจุ่มลงสู่ทะเลว่าหากสิ่งใดติดขึ้นมาก็จะทานสิ่งนั้นเป็นอาหาร
ผลปรากฏว่ามีหอยนางรมติดไม้พายขึ้นมา ด้วยหอยนางรมเองก็ยอมปวารณาตนถวายแด่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน
และเหล่าพุทธศาสนิกชน

จากนั้นเป็นต้นมา หอยนางรมจึงสามารถทานเป็นอาหารเจได้ และถูกทำเป็นซอสปรุงอาหารผัดกับผักต่างๆ
เช่น คะน้าน้ำมันหอย เป็นต้น
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กันยายน 2018, 10:40:13 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่