cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ห้องสมุดราตรี => ข้อความที่เริ่มโดย: ชายวัยทอง ที่ 27 มิถุนายน 2007, 17:20:52

หัวข้อ: ผลวิจัยระบุไฟรัก(อาจ)มอดเชื้อได้ใน 2 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: ชายวัยทอง ที่ 27 มิถุนายน 2007, 17:20:52
นักวิจัยแนะคู่รักไม่ต้องกลุ้มใจไปหากไฟสวาทมอดไหม้ แจงฮอร์โมนในร่างกายจะทำให้ความดึงดูดทางเพศในตัวคนรักหายไปภายในเวลาอย่างช้าที่สุดไม่เกินสองปี และเปลี่ยนแปลงอารมณ์ปรารถนากลับกลายเป็นความผูกพันแทน

วารสารเคมิสทรี เวิลด์ ที่ตีพิมพ์โดยรอยัล โซไซตี้ ออฟ เคมิสทรีรายงานโดยอ้างอิงผลการศึกษาของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยปิซาในอิตาลี ที่อธิบายว่า เมื่อคู่รักพัฒนาเข้าสู่ ?สัมพันธภาพที่มั่นคง? ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนใหม่ขึ้นมาทดแทนฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตอน ?แรกรัก?

การค้นพบดังกล่าวมาจากการวัดระดับปัจจัยสร้างการเติบโตให้เส้นประสาท (nerve growth factor ? NGF) หรือฮอร์โมนนิวโทรฟินส์ในเลือดของอาสาสมัคร ซึ่งผลปรากฏว่าพบฮอร์โมนชนิดนี้ในกลุ่ม ?แรกรัก? สูงกว่าระดับปกติ ขณะที่กลุ่มที่คบหากับแฟนมาเนิ่นนาน ?โมเลกุลรัก? จะจืดจางหายไป แม้ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี นักวิจัยพบว่า โมเลกุลรักถูกแทนที่ด้วย ?ฮอร์โมนแห่งการสวมกอด? หรือออกซิโทซิน ในหมู่คู่รักที่คบกันยืดยาวหลายปี โดยฮอร์โมนนี้ว่าเกี่ยวข้องกับการคลอดบุตรและการผลิตน้ำนม

?คู่รักอาจสาบานว่า ความรู้สึกจะยืนยงชั่วฟ้าดินสลาย แต่ถ้าดูจากฮอร์โมนจะเป็นคนละเรื่องกันเลย? โดนาเตลลา มาราซซิติ ผู้นำการวิจัย อธิบาย

อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีผลงานการวิจัยของเอนโซ เอมานูเอลแห่งมหาวิทยาลัยปาเวีย ซึ่งระบุว่าระดับฮอร์โมนที่เรียกว่า NGF เพิ่มสูงขึ้นขณะที่อารมณ์โรแมนติกกำลังเข้มข้น แต่หลังจากสองปีผ่านไป ฮอร์โมนนี้จะลดลงสู่ระดับปกติ

กระนั้น นักวิจัยชี้ว่า ยังต้องศึกษากันต่อไปว่า ที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน NGF ออกมาเป็นเพราะสมองได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ในช่วงแรกรัก หรือเป็นเพราะฟังก์ชันการทำงานที่ยังไม่มีคำตอบของสารเคมีแห่งรักในสมองกันแน่

ไมเคิล กรอส นักเคมี-ชีววิทยาและนักเขียนแนววิทยาศาสตร์ที่ร่วมอยู่ในการวิจัยครั้งล่าสุด กล่าวว่า ผลการวิจัยชี้ว่า มีฮอร์โมนต่างชนิดกันปรากฏในเลือดของคนที่เพิ่งตกหลุมรัก กับคนที่คบหากับแฟนมานานหลายปี

?จริงๆ แล้วฮอร์โมนรักจะหายไปอย่างเร็วที่สุดภายใน 12 เดือนหลังจากความสัมพันธ์เริ่มต้น โดยถูกแทนที่ด้วยฮอร์โมนอีกประเภทที่ทำให้คู่รักอยู่ร่วมกันต่อไป และการค้นพบว่า มีสารเคมีที่เป็นเสมือนพ่อสื่อนำสารแห่งความโรแมนติกระหว่างคู่รัก ก็อาจเป็นสิ่งที่เดียวที่บ่งชี้ว่า วิทยาศาสตร์สามารถให้ข้อเปรียบเทียบในโลกแห่งความเป็นจริงของศรรักของกามเทพ?

กระนั้น ดร. เปตรา บอยน์ตันแห่งบริติช ไซโคโลจิคัล โซไซตี้ แสดงความเป็นห่วงว่า การที่นักวิจัยสามารถแยกแยะฮอร์โมนเหล่านี้ออกมา อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดๆ และทำให้บางคนพยายามหาฮอร์โมนทดแทน เพื่อให้ตัวเองและคู่รักกลับมารู้สึกเสียวซ่านซาบซ่ากันอีกครั้ง


ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์