-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Wi-Max ไม่ใช่ Wi-Fi ใช้แทนกันไม่ได้  (อ่าน 454 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป
Wi-Max ไม่ใช่ Wi-Fi ใช้แทนกันไม่ได้
« เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2008, 17:18:15 »

 >:(

เขียนโดย พ่อบ้าน หัวหมอ      
ศุกร์, 03 ตุลาคม 2008
เมื่อวันก่อนได้ยินเสียงการให้สัมภาษณ์ของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพมหานครท่านหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยนามแต่ท่านมีนโยบายที่จะพัฒนาระบบ Wi-Max ทั่วกรุงเทพมหานคร ให้เป็นนครที่มีการสื่อสารไร้สายทั่วกรุง เรียกว่าเข้าสู่อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงได้ทั่วไป แต่ผมไม่แน่ใจว่านโยบายนี้ท่านได้รับข้อมูลมาจากที่ปรึกษาท่านใด เพราะดูจากสิ่งที่ท่านคาดหวังจากนโยบาย Wi-Max นี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะตอนนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหลายจะใ้ช้เทคโนโลยีไร้สายแบบ Wi-Fi ซึ่งจะต้องมีใช้อุปกรณ์รับส่งสัญญานที่มีเทคโนโลยีแตกต่างจาก Wi-Max ดังนั้นถ้าจะใช้งานก็ต้องซื้ออุปกรณ์มาเพิ่ม หรือรอเครื่องโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่ติืดตั้ง Wi-Max มาพร้อมกัน

วันนี้เมื่อเราพูดถึง Wi-Max นั่นหมายถึงเรากำลังคุยกันเรื่องนาคต เพราะในวันนี้ Wi-Max เอาอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง ซึ่งยังมีอุปกรณ์ต่างๆออกมาสนับสนุนค่อนข้างน้อย ซึ่งเป็นปัจจัยให้ราคาของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับ Wi-Max ยังมีราคาแพงมาก และในขณะเดียวกันก็ยังมีคู่แข่งอย่าง 3G ที่ต้นปีหน้าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายมีความเร็วในระดับ 400K ก็ถือว่าเร็วใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ต้องไปพูถึงความเร็วในระดับเป็นเมกกะไบต์เลยครับ เพราะไม่มีความจำเป็น เครือข่าย CDMA ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ชอบชีวิตไร้สายความเร็วสูง ซึ่ง E-VDO เครือข่ายใหม่ของ CDMA ที่ลงทุนโดย บมจ.กสทโทรคมนาคม ก็ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดถึง 2.4 เมกกะไบต์ (แต่น่าเสียดายที่ไ้ด้ข้อมูลเบื้องหลังมาว่า การเจรจาระหว่างคู่สัมประทาน ที่กลายมาเป็นคู่แข่ง ดูท่าจะไม่มีจุดสิ้นสุด และระบบใหม่ที่ลงไปก็ไม่ครอบคลุมพื้นที่มากเพียงพอ แต่ทั้งนี้ Wi-Max จึงต้องพบคู่แข่งอย่าง 3G โดยไม่ต้องสงสัย มวยคู่นี้หากไม่ใช้การชกข้ามรุ่น แต่เป็นการต่อสู้ที่ใช้วิชาที่แตกต่างกัน แต่ให้ผลลัพท์ที่เหมือนกัน คือการรับ-ส่งข้อมูลผ่านอากาศได้อย่างรวดเร็ว ผมมีรูปให้ดูการทำงานของ Wi-Max ก่อนที่จะกล่าวต่อไป


 
ความจริงวันนี้ของ Wi-Max ไม่ได้มาทำหน้าที่แทน Wi-Fi แต่อาจจะทำงานร่วมกัน โดยอาศัยจุดเด่นของกันและกันในการสร้างขอบเขตการให้บริการไร้สายความเร็วสูงที่กว้างขวางขึ้น เพราะจุดรับส่งสัญญาน Wi-fi ในวันนี้ก็ต้องเชื่อมต่อกันด้วยสายโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงเครือข่ายสื่อสารด้วยเทคโนโลยี ADSL แต่ถ้าเราจะหย่าขาดจากระบบสายแล้ว Wi-Max ก็เป็นทางเลือกต่อไปสำหรับการเชื่อมต่อ Wi-fi ดังที่แสดงไว้ในรูป แม้จะมีข่าวออกมาจากค่ายผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Intel ที่กล่าวถึงการผลิตชิปประมวลผลในรุ่นต่อไปที่จะสนับสนุนเทคโนโลยี Wi-MAx เหมือนอย่างที่ทุกวันนี้สนับสนุน Wi-fi

คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ที่เทคโนโลยี Wi-Max จะอยู่ในจุดที่เรียกว่า Economy of Scale ที่ทำให้เทคโนโลยีมีราคาต่ำลงจนใชักันอย่างแพร่หลายเหมือนอย่างเช่น Wi-fi และ Wi-fi ก็ยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน เพราะระบบสายยังไม่หายไป ต้นทุนของระบบสายตอนนี้คงเป็นศูนย์ สรุปได้ว่า Wi-Max จะเกิดได้นั้นต้องอาศัยตัวแปร 2 ตัว ได้แก่ ระบบสายที่ด้อยคุณภาพ และ ผู้ผลิตอุปกรณ์สนับสนุน Wi-Max เร็วขึ้น ผมเขียนไว้เป็นข้อมูลให้ัแฟนรายการได้รับทราบกันพอสังเขปนะครับ