-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Charles Ng & Leonard Lake บังเกอร์นรก  (อ่าน 733 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Charles Ng & Leonard Lake บังเกอร์นรก
« เมื่อ: 24 มิถุนายน 2016, 10:39:34 »

Charles Ng & Leonard Lake บังเกอร์นรก

<a href="https://www.youtube.com/v/sdWYLu78j0Q" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/sdWYLu78j0Q</a>

ไม่เพียงแต่ชาวอเมริกันผิวขาวเท่านั่นที่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาแสดงให้ว่าฆาตกรต่อเนื่อง
ที่ออกอาละวาดในประเทศสหรัฐฯ มีหลากหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็นแอฟริกันอเมริกัน ยุโรป และเอเชีย
ซึ่งเป็นเรื่องปกติของความหลายหลายเชื้อชาติในสหรัฐอยู่แล้ว ยกตัวอย่างที่น่าตกใจคือกรณีของ ชาร์ลส์ อิ้ง
ชายหนุ่มที่พื้นเพมีสัญชาติฮ่องกงและจีนที่ได้สมคบคิดกับเลียวนาร์ด เลก ก่อคดีลักพาตัว ข่มขืนและฆ่าผู้หญิง
ที่อาจมากถึง 25 คน ในคาลาเวอราส แคลิฟอร์เนีย

กรณีของชาร์ลส์ อิ้งนั้นเป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับลูกไม่รักดี เพราะชาร์ลส์ อิ้งเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อแม่
เป็นนักธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต หากแต่ไม่รู้เพราะการเลี้ยงดูไม่ดีหรือเป็นเพราะนิสัยของเจ้าตัว ชาร์ลส์
เป็นเด็กเกเร ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เรียนไม่จบ ต่อมาก็เป็นโจรลักเล็กขโมยน้อย ก่อนที่จะจบเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
ที่โหดเหี้ยมที่น่าตกตะลึง



ชาร์ลส์ อิ้ง และเลียวนาร์ด เลก
(Charles Ng and Leonard Lake)



เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 มิถุนายน 1985 พนักงานไสไม้ ในซานฟรานซิสโกสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งคาดว่าเป็นชาวเอเชีย
คาดว่าจะเป็นชาวจีนเพราะเขาพูดภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว เดินออกจากร้านค้าของพวกเขาด้วยเครื่องหนีบโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
และเมื่อเขาถูกจับได้หนุ่มชาวจีนนั้นก็รีบขึ้นรถฮอนด้า และขับหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานตามเขาที่วิ่งด้วยเท้า
ตามเขาไม่ทัน

พนักงานรีบเรียกตำรวจ และพยายามติดตามรถฮอนด้าดังกล่าว เมื่อมาถึง พวกเขาก็พบรถตัวต้นปัญหา หากแต่สิ่งที่แปลกใจคือ
เจ้าของรถไม่ใช่ชาวจีนหากแต่เป็นชาวผิวขาวค่อนข้างอ้วน ไว้เครายาว ตำรวจได้สอบทรามชื่อ ชายผิวขาวบอกว่าเขาชื่อ “โรบิน เชฟลี่”
หากแต่ตำรวจสงสัยว่าไม่ใช่ชื่อจริง ใบอนุญาตขับรถมีปัญหา และเขาก็มีอาวุธปืนผิดกฎหมายอยู่หลังกระโปรงรถเป็นปืนพก .22

ชายไว้เคราสีขาวไม่มีใบอนุญาตครอบครองปืนโดยถูกกฎหมาย เชื่อว่าเขาน่าจะใช้ปืนดังกล่าวก่อเหตุโจรกรรมมากมาย ส่งผลทำให้
มีการจับกุมเขาต่อมา ที่สถานีพวกนักสืบพยายามสอบสวนเขา แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่กี่ชั่วโมงในการสอบสวน
เขาก็เอาอะไรบางอย่างเข้าไปในปาก เขาสั่นไปทั้งตัว และล้มลง เมื่อตำรวจรีบส่งเข้าโรงพยาบาล หากแต่ก็สายเกินไปแล้วที่จะช่วยเหลือเขา
เขาตายอย่างทรมานในสี่วันต่อมา จากการชันสูตรพบว่าเขาตายเพราะพิษไซยาไนด์ ซึ่งยาดังกล่าวถูกซ่อนอยู่ในเข็มขัดของเขา

เขาฆ่าตัวตายทำไม? ความผิดแค่พกอาวุธ ถึงกับหนีความผิดด้วยการฆ่าตัวตายโดยกรอกไซยาไนด์เชียวเหรอ?

มันช่างไม่มีคำอธิบายเรื่องราวเหล่านี้เลย แม้ว่าชายไว้เคราผิวขาวจะตายไปแล้ว แต่ตำรวจก็พยายามสืบสวนว่าเขาก่อคดีโจรกรรมอะไรบ้าง
ซึ่งนำไปสู่เรื่องราวสยองขวัญที่เกินกว่าที่หลายคนคิดเอาไว้!!



ภาพสนัฟฟ์ฟิล์มที่พบในบังเกอร์ของเลียวนาร์ด




ต่อมาตำรวจได้ทราบชื่อจริงชายไว้เคราสีขาว คือชื่อ “เลียวนาร์ด เลก” ส่วนรถฮอนด้านั้นพบว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา เมื่อตรวจสอบประวัติ
พบว่าเลียวนาร์ดมีคดีติดตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโจรกรรมรถหรือพกอาวุธปืนผิดกฎหมาย อีกทั้งยังมีอาการทางจิตที่ไม่ได้รับการรักษา
ให้หายขาดอีก


และเมื่อตำรวจกลับมาค้นฟาร์มซึ่งเป็นบ้านของเขาอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ก็พบว่ามีบังเกอร์ลับ ที่นั้นเต็มไปด้วยความลับของเลียวนาร์ด
ที่ไม่อยากให้คนภายนอกรู้ ภายในเต็มไปด้วยอาวุธ และไดอารี่ที่เขาเขียนราวกับคนบอก เนื้อหาบอกว่าอีกไม่นานทั่วโลกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์
และการที่จะรอดตาย เขาต้องสร้างบังเกอร์และสร้างโลกใหม่ของเขา โดยสร้างเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ที่มีคอลเลกชันเป็นผู้หญิงที่มีสถานะเป็นทาส
และเขาได้ตั้งชื่อแผนนี้ว่า “แผนการมิรานด้า” (Operation Miranda) ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากตัวละครในหนังสือ “The Collector”
โดย จอห์น โฟร์เรส นักเขียนชาวอังกฤษ แต่งในปี 1963 ซึ่งนิยายมีเนื้อหาลักพาตัว กักขัง และทรมานเหยื่อที่เป็นผู้หญิง



ตำรวจได้อ่านไดอารี่ตอนแรกตำรวจไม่รู้ว่าแผนการมิรานด้าที่ว่ามันเป็นยังไง หากแต่เมื่ออ่านต่อไปรู้คำตอบถึงรายละเอียดของแผนการเมื่อเขา
ลักพาตัวผู้หญิงเพื่อเป็นทาสกาม ทรมานและฆ่า

ต่อมาตำรวจพบวีดีโอเทปจำนวนหนึ่ง เมื่อเปิดจำนวนมากก็พบเรื่องน่าตกใจ เพราะเนื้อหาของวีดีโอนั่นคือสนัฟฟ์ฟิล์ม ที่เนื้อหาเต็มไปด้วย
ผู้หญิงที่ไม่ซ้ำหน้ากันถูกทรมานและข่มขืนโดยเลียวนาร์ด และชายหนุ่มเอเชียที่ขโมยคีมจากร้านค้า (ภายหลังมาทราบว่าคีมที่ซื้อเอามาไว้ทรมานเหยื่อ)
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเลียวนาร์ดกับชายหนุ่มเอเชียเป็นคู่หูกัน

ตำรวจเชื่อว่าผู้หญิงในวีดีโอทั้งหมดนั้นคงถูกฆ่าหลังจากการทรมานและข่มขืน.... และตอนนี้ตำรวจแล้วว่าพวกเขากำลังพบคู่หูฆาตกรต่อเนื่อง
ที่เลวร้ายในประวัติศาสตร์ของอเมริกาอีกราย

<a href="https://www.youtube.com/v/3xb3EK-GE8w" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/3xb3EK-GE8w</a>

นอกจากนี้ตำรวจยังพบยานหนะที่ถูกขโมยมา ของใช้ส่วนตัวของเหยื่อเป็นชุดชั้นในสตรีจำนวนมากที่มีคราบเปื้อนด้วยคราบสีแดงเข้ม และรูปถ่าย
จำนวนมากที่เป็นรูปผู้หญิงเปลือยกาย ซึ่งต่อมาตำรวจพบว่าผู้หญิงประมาณ 65 รายยังมีชีวิต หากแต่ผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างน้อย 9 คนเชื่อว่า
ถูกฆ่าตายไปแล้ว

ตำรวจพบศพมากมายในบริเวณรอบบังเกอร์ของทะเลทราบ ถูกฝังในหลุมตื้น ส่วนมากเป็นโครงกระดูกและเศษกระดูกจำนวนมาก ซึ่งต่อมา
ก็ถูกตั้งชื่อว่า “สุสานเลกและอิ้ง” ที่น่าตกใจคือบรรดาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีสองครอบครัว มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กทารกรวมอยู่ด้วย จำนวนเหยื่อ
ไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง เพราะบางศพเผาไหม้เกรียม แต่เชื่อว่าจำนวนเหยื่ออาจสูงถึง 11-25 ราย

 
 
ต่อมาตำรวจก็ทราบชื่อชาวเอเชียที่อยู่กับเลียวนาร์ด ชื่อ “ชาร์ลส์ อิ้ง” ชาวฮ่องกงที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในอเมริกา และเป็นคู่หูของเลียวนาร์ด
ช่วยเหลือฆ่าเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งเขาไหวตัวทันเสียก่อน เลยหลบหนีมาได้ ตำรวจต้องประกาศไปทั่วอเมริกาเพราะเขาเป็นหนึ่งในบุคคลอันตราย
ที่ไม่รู้จะก่อคดีร้ายแรงอะไรขึ้นมาอีก



ชาร์ลส์ อิ้ง



อิ้ง เกิดในฮ่องเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1960 ซึ่งกรณีของอิ้งแสดงให้เห็นว่าต่อให้เด็กเกิดมาในสภาพแวดล้อมแบบดีเลิศขนาดไหน
เด็กก็มีสิทธิเป็นฆาตกรต่อเนื่องในอนาคตได้ อิ้งเป็นลูกชายของผู้บริหารบริษัทที่ร่ำรวยมั่งคั่งมากไปด้วยความสามารถ มีทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่อิ้งต้องการ หากแต่เพราะการเลี้ยงดูที่เข้มงวดและชอบทำร้ายลูกของพ่อของเขา ทำให้เขากลายเป็นเด็กดื้อรั้น กลายเป็นแกะดำ
ของครอบครัว เป็นเด็กมีปัญหาและถูกไล่ออกจากโรงเรียนบ่อยครั้ง สาเหตุที่ไล่ออกเพราะชอบมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย


พ่อของอิ้งพยายามให้ลูกชายของเขามีระเบียบวินัย พอเขาอายุ 15 ปีพ่อของเขาจึงส่งเขาไปโรงเรียนประจำที่อังกฤษที่ลุงของเขาเป็นครู
หากไม่เมื่อย้ายเรียนไม่นานเขาก็ถูกจับได้ว่าเป็นคนลักขโมยของคนในโรงเรียนและร้านค้าท้องถิ่น จนถูกไล่ออกจากโรงเรียน
และกลับไปยังฮ่องกง

เมื่ออิ้งกลับที่ฮ่องกงจนอายุ 18 ปีเขาก็ได้รับวีซ่านักเรียนไปศึกษาต่อในประเทศอเมริกาและเรียนในมหาลัยมหาวิทยาลัย
นอเทรอดาม เดอ นามูร์ ในเบลมอนต์ แคลิฟอร์เนีย แต่เรียนแค่ปีเดียวก็ถูกไล่ออก



ในตอนต้นปี 1980 แม้ว่าอิ้งจะไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หากแต่ด้วยความช่วยเหลือของนายตำรวจคนหนึ่งที่เขาให้เอกสารปลอม
ระบุว่าเขาเกิดในบลูมิง อินเดียน่า เพื่อที่เขาจะสามารถสามารถเกณฑ์เขาไปอยู่ในกองพลนาวิกโยธิน และได้เลื่อนยศเป็นสิบตรี
อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่ปี อาชีพทหารของเขาก็จบลง เพราะไม่เลิกนิสัยลักเล็กขโมยน้อย คราวนี้เขากับเพื่อนอีกสามคนขโมยอาวุธหนัก
และปืนกล เมื่อเขาจะไหวตัวทันจึงหนีออกมาได้ แต่ก็ถูกจับโดยทหารในเดือนต่อมา ถูกเพิ่มข้อหาหนีทหารและถูกคุมขังในคุกทหาร
ที่ฮาวายเพื่อพิจารณาคดี หากแต่ปลายปี 1982 เขาก็ถูกปล่อยตัวออกมา

เชื่อกันว่าหลังจากที่เขาหนีมานั้น เขาได้ไปที่แคลิฟอร์เนีย และที่นั่งเองเขาก็ได้รู้จักเลียวนาร์ดและภรรยาของเขาแล้ว ซึ่งพวกเขา
เป็นเพื่อนรวมห้องกัน จนกระทั่งอิ้งถูกจับกุมและตัดสินโทษจำคุก แต่เลียวนาร์ดประกันตัวและพาอิ้งไปซ่อนตัวอยู่ในที่ห่างไกล
ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ภรรยาของเขาใน Wilseyville แคลิฟอร์เนีย

การที่อิ้งพบกับเลียวนาร์ดนั้น ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หูฆาตกรโหดก็ว่าได้ ตามประวัติของเลียวนาร์ดนั้น ถือเป็นเป็นคนโรคจิตอันตราย
เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 1945 เกิดในฟรานซิสโก ในครอบครัวบ้านแตกสาแหลกขาด พ่อแม่ของเขาหย่าขาดจากกันเมื่ออายุเขาอายุ 6 ปี
และถูกส่งไปเลี้ยงอยู่กับปู่ย่าตายายของเขา คนรอบข้างบอกว่าเขาเป็นเด็กลามกที่ความคิดถูกครอบงำด้วยสื่อลามก ซึ่งเชื่อว่า
เกิดจากการดูภาพเปลือยของน้องสาวของเขา จนเกิดอารมณ์ทางเพศที่มีต่อน้องสาวของเขา



เลียวนาร์ด เลก


 
ในปี 1965 เลียวนาร์ดเข้าร่วมนาวิกโยธินสหรัฐไปสงครามเวียดนามตำแหน่งหน้าที่เรดาร์ และถูกวินิจฉัยว่าเขามีอาการป่วยทางจิตเภท
ส่งผลทำให้เขาได้ถูกปลดจากกองทัพกลายเป็นพลเรือนในปี 1971 และถูกส่งไปบำบัดทางจิตพักใหญ่ ต่อมาก็เขามหาลัยแต่ก็ไปรอด
ไม่นานก็เลิกเรียน จากนั้นก็หายตัวไปพักใหญ่ เชื่อว่าเขาตั้งรกรากอยู่ในชุมชนพวกฮิปปี้ ใช้ชีวิตอิสระไร้แก่นสาร


พอถึงปี 1970 เขาก็ได้แต่งงาน แต่ 5 ปีต่อก็ชีวิตแต่งงานก็ล้มเหลวเพราะเธอจับได้ว่าเขาเป็นพวกลามกจัด เท่านั้นยังไม่พอยังพบว่า
เขาปรากฏอยู่ในภาพยนต์ลามกมือสมัครเล่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทาสและมาโซอย่างรุนแรง

ต่อมาไม่นาน เลียวนาร์ดก็ก่อเหตุโจรกรรมรถและถูกจำคุกไปไปพักใหญ่และถูกปล่อยตัวมาในปี 1980 เขาแต่งงานใหม่
อย่างไรก็ตามชีวิตหลังแต่งงานก็เริ่มมีปัญญา เมื่อภรรยาคนที่สองพบว่าสามีของเธอมีพฤติกรรมผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ
สามีของเธอเรียกร้องให้เธอเป็นดาราในภาพยนตร์ลามกอนาจาร ในปี 1982 เขาก็ถูกจับในข้อหามีอาวุธปืนครอบครอง
หากแต่ได้รับประกันตัวและหนีไปกับดานในฟาร์ปศุสัตว์ที่ห่างไกล ซึ่งที่นั้นเองเขาก็พบชายคนหนึ่งที่มาจากฮ่องกง ชื่อชาร์ลส์ อิ้ง
หลังจากทั้งสองพูดคุยกันก็เกิดมิตรภาพและเริ่มตั้งถิ่นที่บ้านไร่แห่งใหม่และกลายเป็นคู่ฆาตกรต่อเนื่อง ทรมาน ข่มขืน
และฆ่าคนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นคนที่พวกเขารู้จัก

เมื่อคนโรคจิตกับคนนอกคอกมาเจอกัน ก็เป็นส่วนผสมของความชั่วร้ายทีก่อตัวกลายเป็นคู่หูฆาตกรโรคจิตที่น่าสะพรึ่ง เมื่อเลียวนาร์ดและอิ้ง
พบว่าทั้งสองมีความคิดเหมือนกันอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็น รักความรุนแรง เป็นอดีตนาวิกโยธินเหมือนกัน อีกทั้งยังมองผู้หญิง
เป็นไปเพียงทาส ต่อมาเลียวนาร์ดและอิ้งก็ยายมาอยู่บ้านไร่ในทะเลสาบ Calaveras County ซึ่งเป็นบ้านที่ติดกับป่า และมีการสร้าง
บังเกอร์ข้างบ้านเพื่อเก็บอุปกรณ์ที่ถูกขโมยมาและต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสถานที่ทรมานทาสกามของทั้งสอง




ไม่นานพวกเขาก็เริ่มต้นชีวิตในการออกล่าเหยื่อ เพื่อสนองความซาดิสต์และราคะของเลียวนาร์ด ซึ่งว่ากันว่าเลียวนาร์ดดี้รับแรงบันดาลใจ
จากนิยายเรื่อง 'The Collector' บอกกับความเชื่อว่าอีกไม่นานจะถึงยุควันสิ้นโลก ฝุ่นกัมมนตรังสีจะกระจายไปทั่วโลก หลังหายนะ
ของนิวเคลียร์ พวกเขาจะปลอดภัยในบังเกอร์ใต้ดินของพวกเขา และเพื่อการเพิ่มประชากรของโลก เขาจะต้องมีทาสกามเพื่อการนั้น
และเขาก็เริ่มเขียนแผนการขึ้น


ไม่มีข้อมูลว่าชาร์ลส์ อิ้ง และเลียวนาร์ด เลกเริ่มต้นฆ่าเหยื่อเมื่อใด แต่สิ่งที่หลายคนทราบจากซากศพที่พบในทะเลสาปใกล้บ้าน
ของคนทั้งสองพบว่าเป็นครอบครัวพี่ชายของเลียวยาร์ดชื่อ “โดนัลด์ เลก” ซึ่งเชื่อว่าเป็นเหยื่อรายแรก แม่ของเขาได้บอกว่าเขาหายไป
หลังจากไปเยี่ยมเลียวนาร์ด ต่อมาก็เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงของเลียวนาร์ด ที่น่าตกใจคือครอบครัวดริฟท์ที่ประกอบไปด้วยสามีภรรยาฮาร์วีย์
และเดโบราห์และลูกชายณอมที่ถูกลักพาตัวมาและฆ่าในบังเกอร์

จากการค้นพบศพ 12 ศพในทะเลพบว่ามี ผู้ชายเจ็ดคน ผู้หญิงอีกสามคน และสองทารก ในสภาพศพที่จำแทบไม่ได้ การระบุศพนั้น
ทำได้เพียงใช้บัตรประชาชนระบุตัวตนนั้น และไม่ทราบว่าศพทั้ง 12 ถูกทรมานอะไรบ้างก่อนที่จะถูกฆ่าตาย



จากวีดีโอที่ตำรวจค้นพบก็พบเรื่องน่าตกใจว่าภายในมีผุ้หญิงสองคนถูกทรมานและข่มขืน ต่อมาระบุว่าคนหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่งชี่อ “แคธลีน อัลเลน”
เสมียนในซุปเปอร์มาร์เก็ตจในโฮเซฮัลเลน ที่เชื่อว่าถูกทั้งสองบุกที่อยู่ของเธอและยิงแฟนและลักพาตัวไปที่บังเกอร์ในบ้านของเขา
จากนั้นก็ถ่ายทำหนังโป๊ ข่มขืนและมีเพศสัมพันธ์ทางปาก เธอร้องไห้ ขอชีวิต หากแต่สุดท้ายเธอก็ถูกฆ่า ซึ่งเทปรายละเอียดทั้งหมดนั้น
ไม่นำมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้


บังเกอร์ของเลนและอิ้งนั้นเป็นสถานที่เหมาะในก่ารฆ่าเหยื่อโดยเฉพาะ ตำรวจค้นพบชิ้นส่วนต่างๆ ของชุดชั้นในเปื้อนเลือด เลือดที่พบตามจุดต่างๆ
โดยเฉพาะที่นอน ภายในบังเกอร์มีสามห้องและมีห้องลับสองห้อง ห้องที่ซ่อนนั้นมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และป้ายที่มีคำว่า “มิแรนดา”
แขวนอยู่บนผนัง ห้องที่ซ่อนนั้นมีขนาด 3x7 ค่อนข้างมืดและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี ต่อให้เหยื่อแหกปากอะไร คนข้างนอกก็ไม่ได้ยิน

อย่างไรตาม ความสนุกในการล่าเหยื่อของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง เมื่ออิ้งขโมยของในร้านค้าไสไม้ ซึ่งพนักงานจึงได้แจ้งตำรวจ เพื่อตามจับ
จนกระทั่งตามมาพบเลก ซึ่งเขาพยายามที่จะโน้นนามให้ตำรวจว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด หากแต่มีสำรวจรถของเขาก็พบปืนพก .22
และต่อมาก็พบว่ารถของเขาถูกขโมยมา เป็นเหตุทำให้เลกจนมุมและหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายในที่สุด


อิ้งไหวตัวทันและพยายามหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจที่ถูกประกาศจับว่าเป็นบุคคลอันตรายตำรวจพยายามติดต่อครอบครัวของอิ้ง
ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเขามีเงินติดตัวพอสมควรสำหรับหนีออกนอกประเทศทำให้ตำรวจจำเป็นต้องแพร่ประกาศ
จับไปทั่วโลก

อิ้งได้ข้ามแดนไปยังประเทศแคนาดา ไปยังคาลการีอย่างไรก็ตามสุดท้ายอิ้งก็ถูกตำรวจจากจับกุมในที่สุดเพราะนิสัยชอบ
ลักเล็กขโมยน้อยเป็นต้นเหตุ (อีกแล้ว)

 kjhg kjhg

วันที่ 6 มิถุนายน1998 แม้ว่าอิ้งจะถูกไล่ล่าตลอดสามสิบวัน แต่ยังคงไม่เลิกนิสัยเล็กขโมยน้อย ทั้งๆที่นิสัยของเขานำความชิบหายวายวอด
สู่ชีวิตของเขาหลายครั้งคราว ครั้งนี้เขาแอบขโมยของตามร้านในห้างสรรพสินค้าเบย์ จนถูกจับได้โดยสองยามรักษาความปลอดภัยประจำห้าง
ได้เข้ามาอิ้งที่ออกจากร้านของชำ ที่เขาขโมยใส่ในกระเป๋าเป๋สะพายหลัง เมื่อเขาเห็นสองยาม เขาก็ทำท้าทายดึงปืนและขู่พวกเ
ขา

แต่สองยามไม่กลัวซ้ำยังยิงตอบโต้ อิ้งพยายามต่อสู้หากแต่การต่อสู้ก็จบระยะสั้น เพราะหนึ่งในสองยามนั้นเคยเป็นทหารเก่งกาจมาก่อน
สามารถใช้อาวุธปืนยิงปืนใส่มือของอิ้งได้อย่างแม่นยำ จนเขาสิ้นฤทธิ์จนพ่ายแพ้และถูกจับส่งเขาตำรวจ เขาถูกตั้งข้อหาขโมยของตามร้าน
ยิงปืนในที่สาธารณะและครอบครองอาวุธปืนพก เขาถูกจำคุกสี่ปีครึ่งในคุกแคนาดา

หลังจากที่อเมริกาทำเรื่องขอให้แคนาดาส่งตัวนักโทษอิ้งข้ามแดนมายาวนาน อิ้งก็ได้ถูกส่งตัวไปอเมริกาเพื่อนำไปไต่สวนเมื่อวันที่1988
อิ้งได้ใช้ประโยชน์จากการที่คู่หูเลกที่ฆ่าตัวตายก่อนหน้านี้แล้วเป็นประโยชน์โดยโบยความผิดให้แก่เลกทั้งหมด หากแต่อิ้งก็ยอมรับว่า
เขาได้เพียงแค่กำจัดร่างกายของเหยื่อเท่านั้น

อิ้งบอกว่า เขากับเลกมีเป้าหมายเฉพาะผู้หญิงแต่ก็ไม่ลังเลที่จะลักพาตัวไปทั้งครอบครัว หลังจากที่ฆ่าผุ้ชายและเด็กแล้วพวกเขาจะเอาผู้หญิง
เป็นเชลยและเอาไปไว้ในห้องในบังเกอร์ มัดและทรมาน และข่มขืนถ่ายในวีดีโอ บางครั้งก็บังคับให้ผุ้ชายไปผสมลงโรงด้วยหลังจากที่เบื่อ
พวกเขาก็ฆ่าเหยื่อไม่ว่าจะเป็นรัดคอหรือยิงก่อนนำไปกำจัดและนำไปฝังในหลุมฝังศพตื้นๆ รอบบังเกอร์

   
   
 
เหยื่อที่ระบุได้


 
จากการสอบสวนเพิ่มเติมของตำรวจก็สามารถรวบรวมรายชื่อเหยื่อของเลกและอิ้งเป็นที่เรียบร้อย โดยประกอบไปด้วยครอบครัวสองวครอบครัว
คือครอบครัว ดริฟท์ ฮาร์วีย์ ดริฟท์ (พ่อ), เดโบราห์ ดริฟท์ (แม่) และฌอน ดริฟท์ ลูกชายที่ยังเป็นทารก และครอบครัวของบอนด์ ประกอบไปด้วย
ลอนนี่ บอนด์ (พ่อ), เบรนด้า โอ คอนเนอร์ (แม่) และลอนนี่ บอนด์ จูเนียร์
ทั้งหมดไม่สามารถทราบว่าถูกฆ่าเมื่อวันที่เท่าไหร่และโดนอะไรบ้าง
ก่อนที่จะตาย

เหยื่อรายต่อมามีทั้งผู้หญิงและผู้ชายประกอบไปด้วย แคธลัน อัลเลน (อายุ 18), ไมเคิล แครอลโรบิน สกอตต์, แรนดี้ จอห์นสัน
ไม่ทราบถูกวันที่ถูกฆ่าชัด

เหยื่อต่อมาคาดว่าน่าจะถูกฆ่าในปี 1983 ประกอบด้วย ชาร์ลส์ กุนนาร์ และโดนัลด์ เลก น้องชายของเลกที่หายตัวไปและเชื่อว่าถูกฆ่าโดยเลกและอิ้ง
และในเดือนพฤศจิกายน 1984 พอล คอสต์เนอร์ ก็ตกเป็นเหยื่อของทั้งสองคน อย่างไรก็ตามยังเหลือเศษกระดูกเผาอีกจำนวนมากซึ่งเชื่อว่าเหยื่อ
อาจที่เลกและอิ้งและฆ่านั้นอาจสูงถึง 25 ราย



ในปี 1991 อิ้งได้ขึ้นศาล ซึ่งเขาต้องเผชิญหน้ากับรรดาญาติผู้เสียชีวิตและคนที่รอดชีวิตที่จ้องจะกินเลือดเนื้อของเขา อย่างไรก็ตามอิ้งก็พยายาม
ที่จะต่อสู้ในชั้นศาล ด้วยการจ้างทนายฝีมือดี การต่อสู้ในชั้นศาลดำเนินนานถึง 7 ปี หมดเงินกว่า 10,000,000 ดอลลาร์กับการใช้จ่ายพิจารณาคดีของอิ้ง
สุดท้ายคณะลูกขุนก็พบว่า เขาผิดจริงจากข้อกล่าวหาทั้งหมดผละถูกตัดสินประหารชีวิต อย่างไรก็ตามในข้อหาคดีฆาตกรรมคอสต์เนอร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้
ว่าเขาตายด้วยเงือมมือของอิ้ง ทำให้ต้องมีการต่อสู้ในชั้นศาลอีกในรัฐแคลิฟอร์เนีย สรุปแล้วเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 20,000,000ดอลลาร์
และปัจจุบันอิ้งยังคงใช้ชีวิตในแดนประหารในเรือนจำซานเควนติน




The Collector นิยายแนวอาชญากรรมไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจแก่เลกและอิ้งในการลักพาตัวผู้หญิงมาทรมาน และฆ่าในบังเกอร์บ้านของตนเองเท่านั้น
หนังสือดังกล่าวได้เป็นแรงบันดาลใจกับฆาตกรคนอื่นๆ อย่างโรเบิร์ต เบอร์เดลลา ที่ลักพาตัวชายหนุ่มหลายคนมาทรมานและฆ่า ซึ่งหลังจากเขาถูกจับกุม
เขายอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์จากนิยายดังกล่าว

 
   
อ้างอิง
http://criminalminds.wikia.com/wiki/Leonard_Lake_and_Charles_Ng
credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2016, 12:08:00 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่