-->

ผู้เขียน หัวข้อ: การกลับมาของ เนฟิลิม (The Nephilim) หรือ มนุษย์ต่างดาว  (อ่าน 1256 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18221
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

The Nephilim
   
"ในคราวนั้น มีคนเนฟิล (พวกมนุษย์ยักษ์) อยู่บนแผ่นดิน..." (ปฐมกาล 6.4)


   
" แผ่นดินที่เราได้ไปสืบดูตลอดแล้วนั้น เป็นแผ่นดินที่กินคนซึ่งอยู่ในนั้น ชาวเมืองที่เราเห็นเป็นคนรูปร่างใหญ่โต
ที่นั่น เราเห็นคนเนฟิลในสายตาของเรา เราเหมือนเป็นตั๊กแตน ในสายตาของเขาก็เหมือนกัน"

(กันดารวิถี 13.32-33)
   
จากเรื่องราวใน หนังสือปฐมกาลและกันดารวิถี ซึ่งเป็นหนังสืออยู่ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม
ได้เขียนไว้ชัดเจนว่า มีมนุษย์ยักษ์เนฟิลิม ลักษณะของมนุษย์ยักษ์นั้นคือ มีรูปร่างใหญ่โต แสดงว่าจะต้องมีรูปร่าง
ใหญ่โตกว่าคนในสมัยนั้นมากนัก ทั้งๆ ที่ตามหลักฐานทางโบราณคดีหลายชิ้นระบุว่า มนุษย์โบราณทั่วไปก็มีรูปร่าง
ใหญ่โตกว่าคนในปัจจุบันนี้

   
แต่นี่มนุษย์ยักษ์เนฟิลิมกลับมีรูปใหญ่โตกว่ามนุษย์โบราณยุคแรกๆของโลก จึงทำให้คนส่วนใหญ่เกิดคำถามขึ้นมาว่า
มนุษย์ยักษ์มีจริงหรือ? หรือว่าพระคริสต์ธรรมคัมภีร์เขียนขึ้นเอง?

   
เรื่องฑูตสวรรค์ที่เรียกว่า "เนฟิลิม" นี้ ถือว่ายังลึกลับในวงการคริสเตียนอยู่ เหตุผลคือ
   
1. พระคัมภีร์กล่าวถึงแบบตรง ๆ ค่อนข้างน้อยมาก มีเฉพาะในพระคัมภีร์เดิมเท่านั้น
   
2. เรื่องราวส่วนใหญ่อยู่ในหนังสือของเอโนค "Book of Enoch"
ซึ่งไม่ได้ถูกรวบรวมเข้าสารระบบพระคัมภีร์ที่เห็นปัจจุบันนี้



   
สรุป เนฟิลิม คือพวกฑูตสวรรค์กลุ่มหนึ่งที่มีหัวหน้าใหญ่คือลูซิเฟอร์ล่อลวงและพามายังโลก ด้วย พวกนี้เท่าที่มีผู้ศึกษาในต่างประเทศได้ค้นคว้า
หาข้อมูลจากแหล่ง ต่าง ๆ และในหนังสือเอโนคจริงจัง พบว่า พวกนี้ครั้งหนึ่งได้เคยลงมาสมสู่กับมนุษย์ผู้หญิงที่เป็นมนุษย์โลกปกติ
และให้กำเนิดมนุษย์ประหลาดตัวโต เก่งกาจ ไอคิวสูงมาก และแพร่ขยายไปมาก และก่อให้เกิดมนุษย์ยักษ์ที่มีอายุยืน และมีอยู่ใน
ตำนานมนุษย์ทั่วโลก และแพร่กระจายไปยังสัตว์

เป็นที่มาของ ไดโนเสาร์ และการกลายพันธุ์ของสัตว์แปลก ๆ ซึ่ง ทำให้เชื่อกันว่านั่นคือการวิวัฒนาการ แต่มันคือการผสมและพยายาม
บิดเบือนสิ่งสมบูรณ์ที่พระเจ้าสร้างมาแต่แรก สัตว์ยักษ์ มนุษย์ยักษ์ สัตว์ประหลาด รูปทรงประหลาดผิดปกติ อัปลักษณ์
วิญญาณฑูตสวรรค์ชั่วส่งผบต่อกายภาย หรือวิญญาณส่งผลต่อวัตถุภายนอก วิญญาณชั่วก็ส่งผลให้เกิดรูปกายที่อัปลักษณ์และน่ากลัวด้วย

   

"ในคราวนั้น มีคนเนฟิล (พวกมนุษย์ยักษ์) อยู่บนแผ่นดิน..." (ปฐมกาล 6.4)


     
จริง ๆ แล้วฑูตสวรรค์ทั้งดีและชั่วหรือพวกเนฟิลิมนี้ เป็นวิญญาณที่สามารถปรากฎในร่างมนุษย์มีเนื้อหนังได้
ดังเช่นที่กล่าวหลายครั้งในพระคัมภีร์เดิม เราไม่รู้ลึกมากเกี่ยวกับ ชีวิตความเป็นอยู่ของฑูตสวรรค์ทั้งสองกลุ่ม
เอโนคเป็นคนที่ได้รู้ได้เห็นเรื่องโลกวิญญาณและโลกฑูตสวรรค์อย่างมากจนเขียน เป็นหนังสือหรือเชิงจดหมาย
เหตุบันทึกไว้เป็นเล่ม
     
คำถามคือเหตุใดหนังสือเอโนคไม่ถูกรวบเข้าสารระบบพระคัมภีร์ เพราะมันล่อแหลม เนื่องจากหนังสือเอโนค
บรรยายไว้มากเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และ พวกพ่อมด แม่มด หมอผีนั้นมักเอาเรื่องที่เอโนคเปิดเผยถึงสิ่งเหล่านี้
ไปใช้เป็นประโยชน์ใน ทางมืด ซึ่งมันล่อแหลมต่อผู้เชื่อที่จะหลงไปกับสิ่งเหล่านี้ได้
     
แต่ไม่ได้หมายความว่าหนังสือเอโนคคือคู่มือพ่อมดหรือแม่มด เพียงแต่กล่าวเล่าเรื่องราวรายละเอียดมากถึงการ
ติดต่อสื่อสารระหว่างสิ่ง เหล่านี้กับมนุษย์ และอื่น ๆ ตามที่เขาได้รู้ได้เห็น การหมกหมุ่นสนใจมากอาจถูกล่อ
ให้หลงไปได้กับการหลงในในอำนาจเหนือธรรมชาติจาก อำนาจมืด พระเจ้าก็เลยให้น้ำท่วมโลก เพราะน้ำ
ไม่ว่าอะไรก็หนีไม่พ้น


     
คำถามต่อมาแล้วพวกมนุษย์ยักษ์พวกนี้ไปหลบที่ไหน คำตอบก็คือตายหมดสมัยน้ำท่วมโลกแล้ว รวมทั้ง
สัตว์ประหลาดต่าง ๆ อีกเหตุหนึ่งที่ต้องให้น้ำท่วมโลกเพราะเชื้อสายมนุษย์ที่ผสมและผิดปกติไปนี้ อาจจะไป
ผสมกับครอบครัวของโนอาห์ในอนาคตได้ ซึ่งนั่นจะทำให้มีผลต่อการมาเกิดของพระเยซู คือเป็นการทำลาย
พงศ์พันธุ์ของอิสราเอลที่พระเยซูจะมาเกิด และมนุษย์โลกจะไม่รอดหากเป็นเช่นนี้
     
ส่วนวิญญาณพวกมนุษย์ยักษ์และตัวประหลาดยังอยู่ ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์และถกเถียงกันว่าพวกนี้คือวิญญาณ
ที่หลบไปอยู่ใต้ โลกเพราะโลกด้านบนน้ำท่วม ดังที่เคยมีเรื่องเล่าตำนานของชนเผ่าอื่น ๆ ที่ว่าโลกเรานี้กลวง
หรือไม่ได้ตันอย่างที่คิด ซึ่งก็น่าจะจริงว่าโลกอาจจะ "กลวง" ก็ได้
     
เรื่องโลกกลวงนี้ มีเหตุผลที่น่าเชื่อได้ว่าจริง จากประสบการณ์ของผู้เชื่อจำนวนมากที่มีประสบการณ์หลังความตาย
หรือตายแล้วฟื้น และได้พบกับพระเยซู และทุกคนมีประสบการณ์เหมือนกันคือว่าพระเยซูได้พาเขา " ลง" ไปยังใต้โลก
ที่เราอาศัยหรือยืนกันอยู่นี้ เพื่อไปดูนรกนั่นเอง หรือนรกอยู่ใต้โลกที่เรายืนอยู่



จากประสบการณ์ของคนที่ได้พบมากล่าวว่า มีถ้ำ อุโมงค์ขนาดใหญ่และหลุมไฟจำนวนนับล้าน ๆ อยู่ใต้โลกไว้สำหรับ
ดวงวิญญาณที่มีเนื้อหนังด้วยทุกขเวทนาอยู่ที่นั่น เขาได้เห็นวิญญาณคนตกลงมาจากโลกด้านบนผ่านจากเพดานถ้ำ
ขนาดใหญ่ลงมาเข้าหลุม ไฟนี้ตลอดเวลา ที่ละคน สองคน หรือหลาย ๆ คน ตลอดเวลา หรือมีคนตกไปนรกอยู่ตลอดเวลา
จนในขณะที่เรานั่งคุยกันอยู่นี้ก็มีคนตายบนโลก ไปนรกใต้พื้นโลกทุกวินาทีก็ว่าได้ ก็คือใต้โลก หรือใจกลางโลก
คือโลกเรามันกลวง ถ้าขุดหลุมลงไปเรื่อย ๆ จะไปเจอนรก !

     



ความสูงของโกไลแอธนั้น หากเทียบมาตรากับสมัยนี้แล้วก็ประมาณ 9 ฟุต (270 ซม.)


กลับมาต่อ... ก็เลยทำให้เรื่องเนฟิลิมนั้นไม่ได้ถูกสอนและเผยแพร่ คริสเตียนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าพวกนี้มีอยู่จริง
หรือคิดแต่ว่าคงเป็นพวกวิญญาณที่จับต้องตัวตนไม่ได้ เพราะหนังสือของเอโนคไม่ได้อยู่ในพระคัมภีร์ หลายคนอ่านพระคัมภีร์
เดิมในปฐมกาลที่กล่าวถึงพวกมนุษย์ยักษ์ที่สู้กับดาวิด เข้าใจว่าดาวิดคงจะเป็นแค่เด็กตัวเล็ก หรือตัวแคระ แต่จริง ๆ
แล้วดาวิดก็เป็นคนปกติ แต่สู้กับยักษ์จริง ๆ ไม่ใช่สู้กับคนตัวใหญ่ธรรมดา ๆ อย่างที่คิด และพวกคนมีชื่อเสียงที่พระคัมภีร์
กล่าวก็คือเนฟิลิม คือพวกฉลาดผิดมนุษย์ปกติ พวกมนุษย์ยักษ์ที่แย่งอาหารมนุษย์ปกติและแพร่ขยายไปมาก
จนในที่สุดก็หันมากินมนุษย์ปกติ

     
เนฟิลิมจะฉลาดกว่ามนุษย์ปกติไอคิว สูง พวกเนฟิลิมนี้เองที่สอนมนุษย์ปกติให้รู้จักการทำเครื่องโลหะ การถลุงแร่
การเล่นแร่แปรธาตุ เวทมนต์คาถา และการสร้างวัสดุสิ่งของต่าง ๆ โดยธรรมชาติฑูตสวรรค์ทั้งดีและชั่วล้วนฉลาด
กว่ามนุษย์ธรรมดา ๆ อยู่แล้ว พวก ที่หลบไปอยู่ใต้โลกก็ออกมาในรูป UFO มนุษย์ต่างดาวที่เห็น พวก นี้มีเนื้อหนังจริง
จับต้องได้ มีไอคิวสูง เลยสามารถสร้างยานอวกาศได้ด้วยเทคโนโลยีที่สูงกว่ามนุษย์



จะว่าไปแล้วเนฟิลิมพวกนี้ก็ดูเหมือนถูกตัดขาดจากโลกส่วนอื่นเพราะหนีไป อยู่ใต้โลกสมัยน้ำท่วมโลกแล้ว
หรือถูกขังไว้ และเป็นวิญญานในนรกหรือเป็นซาตานในนรกที่คอยทรมานวิญญาณคนตาย
     
ในเมื่อเนฟิลิมสมัยเอโนคนั้นมีพัฒนาการอย่างไร ฉลาดและก้าวหน้ากว่ามนุษย์สมัยนั้นอย่างไร เนฟิลิมสมัยนี้ก็มีพัฒนาการ
เหมือนกันคือไฮเทคเหมือนกันก็ว่าได้ ก็คือสร้างยานอวกาศได้ฉลาดกว่ามนุษย์สมัยนี้ด้วย หรือดำเนินไปตามโลกมนุษย์เหมือนกัน
คือมันฉลาดกว่าไอน์สไตน์หลายเท่าก็ว่าได้ มนุษย์เรายังโง่กว่าอีกเยอะ
     
สรุปรวม ๆ กันแล้วก็คือพวกซาตาน
     
เอโนค พระคัมภีร์กล่าวว่าเขาเป็นคนที่ดำเนินชีวิตกับพระเจ้า คือเป็นคนที่มีความเชื่อในพระเจ้า และมีชีวิตที่ชอบธรรม
พระเจ้าจึงรับเขาหายไปเลย ซึ่งเอโนคถูกรับหายขึ้นไปก่อนน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์



     
ตรงนี้น่าคิดมาก ๆ ว่า ทฤษฏี Rapture หรือ การที่พระเจ้าจะรับผู้เชื่อให้หายไปจากโลก ก่อนที่จะเกิดกลียุคเวทนาก่อน
วันสิ้นยุคอาจจะเกิดจริง เพราะเอโนคอาจเป็นนัยบ่งบอก พระคัมภีร์กล่าวว่า ก่อนวันสิ้นยุคหรือก่อนที่พระเยซูจะกลับมาครั้งที่สอง
เหตุการณ์ต่าง ๆในโลกนี้จะเหมือนสมัยโนอาห์ คือ
     
จะมีการปรากฎตัวของเนฟิลิมอย่างโจ่งแจ้ง เด่นชัด การล่อลวงอย่าง ก็คือพวก UFO มนุษย์ต่างดาว เอเลี่ยน ที่ออกอาละวาด
อย่างมากในปลายยุคนี้ หรือเป็น "มหากาพย์" แห่งการโกหกหลอกลวงระดับโลกจากเนฟิลิม ให้ผู้เชื่อหลงไปหรือให้คนทั่วไป
หลงตาม และคิดว่ามนุษย์ต่างดาวคือพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ขึ้นมาได้เอาเซลล์มาเพาะไว้ ที่โลกนี้เมื่อหลายหมื่นปีก่อน
แล้วกลับมาดูงาน


     
สำหรับคนทั่วไปมันคือมนุษย์ต่างดาว แต่สำหรับคริสเตียนมันคือ การกลับมาของเนฟิลิม หรือ "the return of nephilim"
คือสัญญาณที่ตรงกับสมัยโนอาห์ คือพวกเนฟิลิมสมัยที่เอโนค โนอาห์ อยู่ที่มีมาก


เรา เห็นมนุษย์ต่างดาวปรากฎอย่างมากมหาศาลในช่วงไม่กี่สิบปีหลังมานี้ทุกที่ทั่ว โลกและนอกโลกตลอดเวลาไม่เคยขาด
และการลักพาตัวมนุษย์ปกติไปของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งกระทำการเหมือนสมัยเอโนคทุกประการ คือการสมสู่ ผสมพันธุ์
การทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
     


เพราะพระเยซูไม่ได้มาไถ่บาปฑูตสวรรค์และ วิญญาณสมสู่เหล่านี้ แต่เพื่อมนุษย์ปกติ ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนกันทุกประการ
แต่ต่างยุคสมัยแค่นั้นเอง ซึ่งถ้าการติดต่อกับเนฟิลิมในการสร้าง ค้นคว้าอะไรทางวิทยาศาสตร์เป็นจริงดั่งคำร่ำลือใน Area 51
อย่างที่ ดร.อาจอง บอกแล้วละก็ เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก!! จนบางคนถึงกับกล่าวว่า คนบางคนในโลกนี้อาจไม่ใช่มนุษย์แท้ ๆ
ก็ได้ หรืออาจมีการผสมกันขึ้นมาดังเช่นสมัยโนอาห์แล้วก็ได้

     
ชีวิตเอโนค คือนัยยะสำคัญบ่งบอกให้คริสเตียนทั้งหลายรู้ไว้ว่า พระเจ้ารับเอโนคหายไปก่อนน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์ฉันใด
พระเจ้าก็จะรับผู้เชื่อให้หายไปจากโลกก่อนที่กลียุคเวทนา (Great Tribulation)จะเกิดในโลกฉันนั้น หรือ การ Rapture


"แต่" หากเมื่อเกิดการ Rapture แล้ว คนทั้งโลกจะคิดว่า พวกมนุษย์ต่างดาวมาลักพาตัวมนุษย์ไป หรือมนุษย์ต่างดาว
จะบุกโลก หรือเป็นการเล่นตลกแหกตาของพวกคริสเตียนหลอกลวงชาวโลก งานนี้เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ยังต้องอาย
เพราะเสกคนหายไปได้อย่างมากหลักสิบหลักร้อย แต่เกิดมีคนหายไปเป็นหลักล้านใครจะทำได้ แต่คริสเตียนบางส่วน
จะไม่ถูกรับไปคือพวก Left Behind คนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์นี้จะไม่เชื่อ เราประมาณการไม่ได้ถึงจำนวนว่าเท่าไหร่



     
ครั้งแรกโลกถูกทำลายด้วยน้ำสมัยโนอาห์ ส่วนครั้งที่สองโลกจะถูกทำลายด้วยไฟ กงล้อประวัติศาสตร์พระคัมภีร์
ได้หมุนมาจะเข้าที่เดิมแล้ว วันเวลาตายตัวไม่รู้แต่คาดเดาได้
     
สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เชื่ออาจเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผู้เชื่อ นี่คือหมายสำคัญที่มีนัยยะสูงมากอันหนึ่ง และ อาจเป็นสงคราม
ฝ่ายวิญญาณครั้งสุดท้าย "The Last Spiritual War" มนุษย์ต้องอยู่ในสงครามนี้และต่อสู้กับมัน ก็คือเรานั่นเอง
สงครามทางความคิด และความรู้ที่ทวีคูณมหาศาล

     
แต่พระเจ้ามีทางเลือกให้คนที่อยากพบความจริง ในท่ามกลางสงครามฝ่ายวิญญาณที่รุนแรงและยิ่งใหญ่นี้
     
เนฟิลิมและพรรคพวก ได้สร้างผลงานระดับ Master piece หรืองานชิ้นโบว์แดง และสื่อไปถึงมนุษย์ เช่น
หนังเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว เอเลี่ยน UFO พ่อมด แม่มด ต่าง ๆ ที่ออกฉายมาตลอดหลายสิบปีหลังนี้อย่างมากมายไม่ขาด
ก่อกำเนิดทฤษฎีเกี่ยวกับพระเจ้าใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย เช่น พระเจ้าจากอวกาศ สตาร์เกท
     
สำหรับความเชื่อคริสเตียนแล้ว ไม่มีทางใด ไม่มีผู้ใด ไม่มีหลักการคำสอนของใครที่จะนำเราไปถึงความจริงได้
นอกจากทางพระเยซู และได้สรุปแล้วว่า เนฟิลิมและพรรคพวกซาตานได้ทำสงครามฝ่ายวิญญาณครั้งสุดท้าย
เพื่อล่อลวงมนุษยชาติให้เชื่อมัน หรือปฏิเสธพระเยซู



ในฐานะของการเป็นพระเจ้าไถ่บาปให้มากที่สุด นี่คือสงครามครั้งสุดท้าย เท่าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษา รอเวลาหมาย
สำคัญทางกายภาพอื่น ๆ เพิ่ม เช่น ภัยพิบัติ สงครามระหว่างอิสราเอลกับอาหรับ การเกิดของคริสตจักรใต้ดินจำนวนมาก
ในดินแดนที่เรื่องพระเยซูห้ามเผย แพร่อย่างเสรี คนทุกวัยฝันเห็นนิมิตรต่าง ๆ
     
เนฟิลิม คือหมายสำคัญที่สำคัญยิ่งอันหนึ่งในปลายยุคสุดท้าย ก่อนที่พระเยซูจะกลับมาครั้งที่สอง เหตุการณ์ทุกอย่าง
ในโลกจะเหมือนในสมัยก่อนน้ำท่วมโลกยุคโนอาห์ แต่เรายังพอมีเวลาที่จะขึ้นเรือโนอาห์ โนอาห์รู้ล่วงหน้าว่าน้ำจะท่วมโลก
มีการเตือนว่าจะทำลายเมืองโสโดมโกมรา ฯลฯ




มัธทิว 24 ข้อ 37 "ด้วยสมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย"

credit :: pad.fix.gs
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่