-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ซิยิ่นกุ้ย นายพลเสือขาวจอมทัพคู่บัลลังก์ผู้พิชิตโคคูเรียว Part 2  (อ่าน 448 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18209
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

ซิยิ่นกุ้ย นายพลเสือขาวจอมทัพคู่บัลลังก์ผู้พิชิตโคคูเรียว Part 2



ในปี 657 ทัพถังในยุคของถังเกาจง(唐高宗)ฮ่องเต้ก็บุกไปกำหราบเผ่าต่างๆ ที่เคยสยบมาก่อนทางเหนือและทางตะวันตก
นายพลซูติงฟาง(蘇定方) ในการปะทะกันที่ชายขอบทัพถังเอาชนะทัพของถูเจี๋ยตะวันตก(西突厥 - เผ่าเติร์กตะวันตก)
ซึ่งนำมาโดยหัวหน้าเผ่าหนีชู ( 泥孰 - Nishu ) ซึ่งเป็นพันธมิตรภายใต้การปกครองของถูเจี๋ยเป็นๆ มาได้ ขณะที่กำลังจะประหาร
ชีวิตนายพลต่างชาติท่านนี้ ก็เป็นซิยิ่นกุ้ย ที่ให้คำปรึกษาต่อองค์จักพรรดิว่าให้ใช้นโยบาย ยุแยงภายในดีกว่าทำสงครามซึ่งๆ หน้า


แผนก็คือให้ปล่อยหัวหน้าเผ่าหนีชู แล้วสนับสนุนเขาขึ้นเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทน เผ่าหนีชูก็เลยสวามิภักดิ์กับราชวงศ์ถัง
พร้อมกับส่งกองทัพและอาวุธให้เผ่าหนีชูปฏิวัติ ถูเจี๋ยตะวันตกแทน แผนนี้ได้ผลเพราะสุดท้ายก็เป็นกองทัพผสมของเผ่าหนีชู
กับทัพถังที่บุกเข้าโจมตีและจับตัว อาซือนาเหอลู่(阿史那賀魯)ข่านถูเจี๋ยได้สำเร็จ

ปีต่อมาทัพถังออกปราบตะวันออกอีกครั้ง ครั้งนี้ถังเกาจงสั่งนายพลอาวุโสอย่างเฉิงหมิงเจิน(程名振)และ ซิยิ่นกุ้ย(薛仁貴)
เป็นหัวหอกในการจัดการกับโคคุเรียว ซิยิ่นกุ้ยสามารถบุกเข้ายึดเมืองฟูซุน (撫順 - ปัจจุบันอยู่มณฑลเหลียวหนิง) เอาชนะ
นายพล ตูบางนู(豆方婁)จนแตกพ่าย ในปี 659 ซิยิ่นกุ้ยปลิดชีพนายพลเกาหลีที่ชื่อ อนซามุน(溫沙門) ได้อีกหนึ่งราย
ทำลายกองทัพผสมของพวกชี่ตัน(契丹)ที่นำโดยข่านอาบูกู(阿卜固)ได้สำเร็จ กองทัพของเขายังจัดการจับตัวข่านอาบูกู
ได้เป็นๆ และนำกลับไปยังลั่วหยาง(洛陽)ได้ด้วย ถึงเวลานี้ซิยิ่นกุ้ยก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลเขตเหอตง(河東)เรียบร้อยแล้ว
จากผลงานอันสุดยอดของเขา




สองปีต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงในเผ่าหุยเก๋อ(回紇)เมื่อหัวหน้าเผ่าคนเก่าตายลง บิซูตู(比粟毒)หลานชายหัวหน้าเผ่าเดิม
ขึ้นครองตำแหน่งแทน เขาประกาศตัวเป็นอิสระพร้อมกับเผ่าตงลั่ว(同羅)และเผ่าปูกู(仆骨) แถมยังโจมตีเขตปกครอง
ทางเหนือของอาณาจักรถังเสียด้วย ซิยิ่นกุ้ย ต้องยกกองทัพจากเขตของเขาเข้าร่วมปราบเผ่าเหล่านี้

ทัพของเผ่าหุยเก๋อนั้น นอกจากจะมีเผ่าที่กล่าวมาแล้ว ยังมีนักรบจากเถี่ยเล่อ(鐵勒)เข้ามาร่วมหวังที่จะคว้าชิ้นปลามันจากการ
โจมตีถังอีกด้วย เขตการรบที่ตึงมือที่สุดก็คือ การต้องเจอกับ 10 กองพันหฤโหดของเถี่ยเล่อนี่เองครับ ในการรบครั้งนี้เกียรติ
และชื่อเสียงความเป็น "เทพเจ้าสงคราม" ของซิยิ่นกุ้ย ก็พุ่งทะยานอย่างที่ไม่มีใครคาดมาก่อน เพราะเขาใช้ธนูคู่มือและลูกธนู
อีกสามดอก ปลิดชีวิตนายพลจอมโหดของเถี่ยเล่อไปถึง 3 คน นั่นเป็นเหตุให้เผ่าเถี่ยเล่อถึงกับยอมแพ้ในความเก่งกาจของ
ซิยิ่นกุ้ยทันที


แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะ ขณะที่ 7 นายพลที่เหลือ เข้าสู่กระโจมเพื่อลงนามและสวามิภักดิ์อย่างเป็นทางการ แต่เกิดเหตุ
อะไรก็ไม่ทราบแน่ ที่ทำให้ซิยิ่นกุ้ยนั้นลงมือฆ่านายพลทั้ง 7 คนดังกล่าว แถมยังออกคำสั่งให้ทหารในสังกัดของตัวเองสังหาร
เชลยศึกของเถี่ยเล่ออีกหลายพันคน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแม่ทัพถัง ที่ร่วมเดินทางมารบด้วยจนกลายเป็นเรื่องเป็นราว
ใหญ่โตขึ้นมา ที่ทัพถังซึ่งถือว่ามีอารยะธรรมกลับประหารเชลยศึกที่ยอมแพ้แล้วหลายพันคน

หนักกว่านั้นการที่ซิยิ่นกุ้ยสามารถใช้ธนูสามดอกปราบทัพเถี่ยเล่อได้ ก็ทำเอาทหารถังนั้นเอาไปร้องเป็นเพลงว่า
“ ซิยิ่นกุ้ยพิชิตเขาเทียนซานด้วยธนูแค่สามดอก นับเป็นบุญตายิ่งนักที่ได้มีโอกาสเห็นเขาผู้นี้”



ซิยิ่นกุ้ยยอดขุนพลก็เลยโดยธงอาญาสิทธิ์ ที่คุมมาจากเมืองหลวงเข้าจับทันที โดยทางราชสำนักตั้งข้อหาไว้ว่า อาจจะเป็นกบฏ
และทำร้ายเชลยศึกจนเสียชีวิตหลายพันคน ข้อหาทั้งสองข้อหานี้ร้ายขนาดสามารถที่จะโดนประหารชีวิตได้เลย

โชคยังดีที่ถังเกาจงฮ่องเต้พิจารณาแล้ว ก็ตัดปัญหาเรื่องของการเป็นกบฏไปได้ พระองค์การันตีในฐานะที่ซิยิ่นกุ้ยรับใช้ท่านมานาน
ส่วนเรื่องของข้อหาประหารเชลยศึกนั้น ถังเกาจงบอกว่าเป็นความผิด แต่ก็หักไปกับความชอบที่เอาชนะศึกได้ ซิยิ่นกุ้ยก็เลย
ไม่มีความผิดอะไรแล้วถูกปล่อยตัวออกมารับตำแหน่งเดิม

เหตุแห่งการที่ซิยิ่นกุ้ยจะพิชิตตะวันออก เกิดขึ้นเมื่อปี คศ 666 เมื่อ ยอนแกโซมุน ( 淵蓋蘇文) ผู้นำของโคคูเรียวเกิดตายลง
ลูกชายสองคนของเขาได้แก่ ยอนนัมแซง(淵男生)ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นผู้นำชาติคนต่อไป ก็ถูก
ยอนนัมกอน(淵男建)และ ยอนนัมซาน(淵男產)น้องชายทั้งสองคนก่อกบถ ยอนนัมแซง ต้องเผ่นหนีออกจากเมืองเปียงยาง(平壤)
และขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรถัง

โอกาสนี้เหมาะเหม็งที่สุดที่จะจัดการกับโคคูเรียว พวกเขาดำเนินยุทธการที่สุดยอดให้นายพล ผังถงซ่าน(龐同善)และ เกาขั่น(高侃 )
นำทัพมาช่วยตามที่ ร้องขอ แต่ “นัมกอน” น้องชายผู้ก่อกบฏ ได้วางแผนโจมตีทัพถัง ที่ล่วงเข้ามาในแดนข้าศึกโดยไม่ให้รู้ตัว

แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือแผนลวง เพราะทัพใหญ่จริงๆที่ตามหลังมาเพื่อตลบหลังกองทัพกบฏโคคูเรียวอีกที นำโดยซิยิ่นกุ้ย ผลก็คือ
ทัพกบถเกาหลีโดนกระหนาบทั้งหน้าทั้งหลังทัพของนัมกอนเสียชีวิตเกือบทั้งหมด ซิยิ่นกุ้ยถือโอกาสกระจายทัพออกไปบุก
ยึดเมืองนัมโซ (南蘇 - ปัจจุบันคือเถี่ยหลิง(鐵嶺)ในเขตเหลียวหนิง) ยึดเมืองมกจอ (木底 - ปัจจุบันคือฟูซุน) และ
เมืองจังอัม(蒼巖 - ปัจจุบันคือเมือง เปนซี่ิ่(本溪)ในเหลียวหนิง)



เมื่อช่วยเหลือนัมซังกษัตริย์อย่างเป็นทางการแล้ว ในปี 668 ทัพของซิยิ่นกุ้ยก็เดินทางปราบทัพกบฏที่เหลืออย่างเมามัน
เขาบุกยึดเมืองพูยอ(夫餘) และเดินหน้าไปจนกระทั่งถึงทะเลญี่ปุ่น ยึดได้อีก 40 เมืองที่อยู่ตอนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด
จากนั้นก็เคลื่อนพลลงใต้ บุกโจมตีเมืองเปียงยางเมืองหลวงในขณะนั้นแตก ก็เป็นอันว่าอาณาจักรโคคูเรียวที่เป็นเอกราชมาเกือบ
700 ปี (ใครเคยดูซี่รี่ย์เกาหลีคงพอจได้ว่าผู้ก่อตั้งคือ จูมง) แถมเคยสร้างความปวดหัวมาให้แก่ชนชาติฮั่นตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย
ยันมาถึงราชวงศ์ถังก็ถูกพิชิตภายใต้การนำทัพของซิยิ่นกุ้ยนี่เอง

ความดีความชอบครั้งนี้ ทำให้ซิยิ่นกุ้ยได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้พิทักษ์ผู้พิชิตตะวันออก( the Protectorate General to Pacify the East )
ตัวของเขาเองนอกจากตำแหน่งนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ครองเขตแคว้นผิงหยาง( 平陽郡公 - the Duke of Pingyang )
ที่ทำหน้าที่บริหารทั้งการทหารและพลเรือน รับผลประโยชน์ในเขตนี้จากชาวโคคูเรียวอย่างเต็มที่


ในตำนานของซิยิ่นกุ้ย ที่ว่าด้วยเรื่องอภินิหารนั้นจบกันที่ตรงที่ซิยิ่นกุ้ย แสดงฝีมือในการบุกเกาหลีครั้งแรกกับถังไท่จงฮ่องเต้หลี่ซื่อหมิน
ไม่ใช่ครั้งที่ทำการยึดเกาหลีทั้งประเทศแบบนี้นะครับ พงศาวดารยังพูดถึงเรื่องทหารเกาหลีที่ซิยิ่นกุ้ยฆ่านั้นว่า เป็นเทพมังกรเขียวมาจุติ
ตัวของซิยิ่นกุ้ยนั้นเป็นเทพเสือขาว แถมยังบอกด้วยว่าม้าของซิยิ่นกุ้ยนั้น ควบไปบนผิวน้ำสามารถข้ามทะเลไปได้ด้วย เรื่องจบเอาตรงที่ว่า
ซิยิ่นกุ้ยได้รับตำแหน่งเป็นข้าราชการใหญ่ แอบกลับมาบ้านก็ดันเอาลูกธนูมายิงลูกชายของตนเองคือซิติงซาน (薛丁山)แถมยังโดน
เสือดำคาบศพเด็กไปเสียอีก




ตามตำนานนั้นซิติงซานไม่ตาย แต่ท่านเซียนแปลงเป็นเสือดาวมาคาบไปทำการรักษา ต่อมาก็ได้ทำราชการจนสามารถรับใช้ราชวงศ์ถัง
และกลายเป็นแม่ทัพพิชิตตะวันตกไปได้อีกตำแหน่งหนึ่ง

แต่เรื่องจริงของซิยิ่นกุ้ยนั้นไม่จบเท่านั้น เพราะ เมื่อปี 670 ซิยิ่นกุ้ยได้รับบัญชาจากถังเกาจงฮ่องเต้ให้ไปปราบถูฟาน(吐蕃)หรือธิเบต
ปรากฏว่าเกิดการประสานงานทีย่ำแย่มาก ในกองทัพโดยเฉพาะตัวซิยิ่นกุ้ย กับ กัวไต้เฟิง แม่ทัพที่มีตำแหน่งเท่าเทียมกัน กัวไต้เฟิง(郭待封)
นั้นไม่ยอมดำเนินการตามแผนที่วางกันไว้ ส่งผลให้การประสานงานย่ำแย่ ทัพถังโดนทัพแกร่งถูฟานโจมตีในเขตซีอี้ จนเสียชีวิตไปเกือบ
สองแสนนาย ถือเป็นการพ่ายแพ้ที่เอน็จอนาถที่สุดในรัชกาลนี้


เพื่อรักษาชีวิตของทหารในทัพที่ยังพอเหลืออยู่บ้าง ซิยิ่นกุ้ย ก็นำแม่ทัพที่เหลือยอมเจรจากับถูฟานซึ่งหลายข้อซึ่งทำให้ราชวงศ์ถังเสียเปรียบ
ราชสำนักมีคำสั่งจับและขังทั้งหมด เมื่อสอบสวนว่ามีความผิดจริงซิยิ่นกุ้ย ก็ถูกปล่อยตัวเพียงแต่ต้องถูกปลดจากทุกตำแหน่งที่มี อีก 5 ปีต่อมา
หลังจากนั่งตบยุงอยู่ในเมืองหลวง ซิยิ่นกุ้ยและครอบครัวก็ถูกเนรเทศไปที่กวางสี

ปี 681 ถูเจี๋ยตะวันออกก่อกบถอีกครั้ง ถังเกาจง นึกถึงความดีความชอบของซิยิ่นกุ้ยที่เคยปราบถูเจี๋ยมาแล้ว ก็โปรดเกล้าให้รับตำแหน่ง
นายพลคุมกองทัพไปรบกับถูเจี๋ยอีกครั้ง และไม่เป็นที่ผิดหวังเขาเอาชนะทัพของ อาซือเต๋อหยวนเจิน(阿史德元珍)อุปราชของถูเจี๋ย
ได้สำเร็จ เรื่องราวบันทึกไว้ว่า ทหารถูเจี๋ยถึงกับหมดแรง เมื่อทราบว่าแม่ทัพผุ้นำทัพถังคือซิยิ่นกุ้ยผู้ยิ่งใหญ่ที่หลายคนคิดว่าตายไปนานแล้ว
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้รับใช้ราชสำนักถัง ซิยิ่นกุ้ยสุขภาพไม่ดีนัก เขาเสียชีวิตในปี 683 เรื่องราวของเขาถูกแต่งเติมจนกลายเป็น
เทพเสือขาวผู้พิทักษ์ขึ้นมาในที่สุด

ลูกชายของเขาที่มีนามว่า เซี่ยหนี(薛訥)และ และเซี่ยฉูอี้(薛楚玉)ได้ทำราชการรับใช้ราชสำนักถังในเวลาถัดมา
ส่วนซิติงซานตามพงศาวดารนั้นไม่มีอยู่ในสารบบครับ


เพิ่มเติม

- ชาวถูเจี่ย คือ ชาวเติร์ก 
- ชาวถูฟัน คือ ชาวทิเบต
- เมืองพูยอ อยู่ในเขตมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน เป็นอาณาเขตเกาหลีโบราณ
- ยอนแกโซมุน เป็นวีรบุรุษที่ชาวเกาหลียกย่อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 กันยายน 2018, 16:40:55 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่