-->

ผู้เขียน หัวข้อ: โพสจัง ตอน คุณลุงกับเหม่ยลี่พบรัก และแล้วก็ปิดเกมส์  (อ่าน 784 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Phate

  • บุคคลทั่วไป

การบ้านนี้ผมทำไว้หลายอาทิตย์ละ แต่เพิ่งได้เขียนส่ง ยาวนิดหน่อยคงไม่ว่ากัน ใครไม่ชอบยาว ๆ ก็ผ่านได้นะครับ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ไม่รู้เป็นอะไรนั้งพิมพ์ไป ๆ มา ๆ มันยาวขึ้นเรื่อย ๆๆๆ  ljhgf
งานนี้เป็นการซ้ำคนเดิมที่เคยส่งไปแล้ว ปรกติผมไม่ส่งซ้ำคนถ้าไม่มีเหตุการณ์ใหม่ ๆ กับคนคนนั้น (แต่กลับไปซ้ำคนเดิม ก็หลายรอบอยู่ แต่ถ้าไม่มีอะไรใหม่ก็จะไม่ค่อยเขียนส่ง)
ครั้งนั้นเธอให้แค่ระดับสอง ระดับสาม สงวนไว้ให้แฟนคนเดียว แต่ครั้งนี้มีการอัพเดทเลยส่งเพิ่มครับ
การบ้านเก่าของเธอคนนี้ >>>> http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=27137.0


------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากเหตุการณ์ครั้งก่อน ผมก็ไม่ได้เจอกับเหมยลี่อีกเลย อาจจะคุยกันบ้างแค่เพียงโทรศัพท์ หรือคุยกันผ่านเอ็มเอสเอ็นเท่านั้น ช่วงนี้เราต้องเว้นระยะห่างกันบ้าง เนื่องจากแฟนผมเริ่มเป็นนักจับผิดที่มีฝีมือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ผม น้องเหมยลี่ก็เหมือนกัน เธอกับแฟนของเธอก็มีเรื่องทะเลาะกันทุกวัน ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรกัน จะเกี่ยวกับผมหรือไม่ ทางที่ดี ช่วงนี้เว้นระยะสักพักก็ดีเหมือนกัน

เหมยลี่ เป็นฉายาของหญิงสาวคนนั้น สาเหตุที่ผมเรียกแบบนี้เพราะเธอเรียกผมว่า ‘ลุง’ เธอเคยบอกว่าที่เรียกผมแบบนี้เพราะผมมีอาชีพเป็นวิศวกรเหมือนเขา หน้าตาเราห่างไกลกับคำว่า ’เคน’ อยู่หลายกิโลเมตร ไม่มีทางเรียกลุงเพราะหน้าตาหรอก ผมคิด

ผมรู้จักกับน้องเหมยลี่ผ่านเว็บหาเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต เว็บแรกที่ขึ้นในกูเกิ้ลเมื่อพิมพ์คำว่า ‘หาเพื่อน’ ลงไป เธอเป็นนักศึกษาอายุเพียงสิบเก้าปีที่ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ปีหนึ่งวิทยาลัย N หอพักเธอเป็นหอหญิงของวิทยาลัย ปิดหนึ่งทุ่ม ผมเคยชวนเธอเดทอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็เหมือนซินเดอร์เรล่า คือมีกำหนดเวลาเพียงหนึ่งทุ่ม ในเหตุการณ์ครั้งก่อนผมเคยพาเธอเที่ยวในคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นคืนที่หอพักของวิทยาลัยไม่บังคับให้กลับมานอน ผมเช่าห้องนอนค้างกับเธอแต่ยังไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน

“น่าเสียดาย เราน่าจะรู้จักกันเร็วกว่านี้ ไม่งั้นหนูคงขอคบลุงเป็นแฟนจริง ๆ ไปแล้วละ” เหมยลี่เคยพูดกับผม เรารู้จักกันตอนต่างฝ่ายต่างมีแฟนแล้ว เรามีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ความรู้สึกดี ๆ ของเธอถึงขั้นอยากคบผมจริง ๆ จัง ๆ แต่ความรู้สึกดี ๆ ของผมอาจเป็นเพียง เพื่อนคุยเพื่อนเที่ยวหรือเพียงคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข

เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ผมไม่ได้เจอกับเธอ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมไปเที่ยวกับแฟนผมสามวันสองคืน จะว่าไปเที่ยวก็ไม่ถูกเพราะความจริงคือไปทำธุระ แต่พาแฟนไปด้วยเท่านั้นเอง น้องเหมยลี่รู้เรื่องนี้เข้า เธอร้องไห้ใหญ่เลย ที่เธอรู้เรื่องนี้เพราะผมบอกเธอเองแหละ เตือนไม่ให้โทรมาช่วงสามวันนั้น เพราะมันคือ ช่วงอันตราย ผมคุยกับเธอตอนเธอร้องไห้ ใจหนึ่งก็สงสาร แต่อีกใจหนึ่งก็อยากตอบกลับไปว่า ‘ทีเดือนที่แล้วหนูไปเที่ยวทะเลกับแฟนเป็นอาทิตย์ พี่ยังไม่ว่าอะไรเลย’

เย็นวันศุกร์ วันธรรมดา ๆ ผมนั่งทำงานเลิกงานตามปรกติห้าโมงเย็น โชคดีที่มันไม่ใช่คืนที่ประกาศเคอร์ฟิว มันเป็นเป็นเหตุการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่รัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิว
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เสียงโทรศัพท์มือถือผมดัง
“สวัสดีคะ ลุงเฟทเลิกงานหรือยัง” เหมยลี่โทรมา ผมสงสัยว่าคงชวนกินข้าวเย็นด้วยกัน เผลอๆ คืนวันศุกร์ด้วยอาจจะต้องไปส่งที่บ้านแถวจอมทองหลังทานข้าวเสร็จแน่ ๆ มอเตอร์ไซค์เก่า ๆ เราจะไหวไหมน้า
“เพิ่งเลิกงานจ๊ะ กำลังเก็บของอยู่เลย จะชวนออกเดทหรือจ๊ะหนู” ผมตอบแกมหยอดเล็กน้อย
“คืนนี้หนูนัดเพื่อนไว้ที่แฟชั่นตอนห้าทุ่ม ลุงไปด้วยกันไหม”
“ก็ดีนะ อยากไปอยู่”  ในใจผมคิดหาทางสับรางกับแฟนอย่างรวดเร็ว ทำยังไงดีถึงจะแยกร่างไปหาได้  แต่ก่อนหน้านั้น ผมต้องรู้ตารางเวลาของน้อเหมยลี่ให้ชัดเจนก่อน “แล้วให้พี่ไปรับไปส่งหนูด้วยไหม”
“ลุงก็ต้องไปรับไปส่งหนูสิ”
“ตอนห้าทุ่มหนูให้ลุงไปรับที่ไหน แล้วขากลับให้ส่งกลับบ้านจอมทองหรือหอเพื่อนละ”
“ไม่ใช่ ๆๆๆๆ  ลุงมารับหนูตอนนี้เลย แล้วเราไปหาห้องเช่าด้วยกันดีไหม หนุจะได้อยู่กับลุงจนถึงห้าทุ่ม แล้วค่อยไปแฟชั่นด้วยกัน ขากลับก็กลับมานอนที่ห้อง ลุงค้างเป็นเพื่อนหนูคืนนึงได้ไหม” เสียงใส ๆ และคำพูดของเหมยลี่ ผู้ชายหลายคนฟังอาจจะรู้สึกโชคดี และน่าอิจฉา แต่สำหรับผมมันหมายความว่า คืนนี้ งานเข้าอีกแล้ว
“อื้อ ได้จ๊ะหนู ตามนั้นละกัน เดี่ยวพี่ไปรับนะ รอหน่อยละกัน เตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็ก ๆ นะ พี่เอามอเตอร์ไซค์เก่า ๆ ไปรับนะ”
“รู้แล้วนา อยู่กับลุง ไม่มีหรอก รถยนต์”
“จ๊ะ ไว้เจอกันจ๊ะ”
“จ้าลุง สวัสดีคะ” แล้วต่างคนต่างก็วางสาย
หัวสมองผมวิ่งฉิว พยายามหาทางออกว่า คืนนี้จะไปอยู่สองที่ในเวลาเดียวกันได้อย่างไร ทุกคืนผมต้องไปรายงานตัวกับแฟนหลังเลิกงานแล้วตรงกลับบ้านเลย เมื่อก่อนพอถึงบ้านต้องโทรหาเพื่อให้แฟนได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วบ้าน เสียงมันดังเป็นเอกลักษณ์ประตูเลื่อนเหล็กขนาดใหญ่ ปลอมไม่ได้ ฉลาดจริง ๆ
แต่ช่วงหลังมานี้ไม่จำเป็นต้องได้ยินเสียงประตูรั้วแล้วเพราะเลิกงานดึกบ่อย กว่าจะไปหาเธอก็ราว ๆ สองทุ่มเกือบสามทุ่ม สี่ทุ่มกลับบ้าน ห้าทุ่มครึ่งโทรหาก่อนนอนก็พอ
นั้นแหละ โจทย์วันนี้คือจะปฏิบัติทั้งงานหลวงและงานราษฎ์ อย่างไรโดยไม่ให้ขาดทั้งคู่


เวลา 17.30 น. ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไทเกอร์เก่า ๆ พร้อมแบกสัมภาระรุงรังมากมาย มาจอดหน้าโรงแรมบีทู โชคดีที่หอน้องชายอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงานจึงไปขอยืมเสื้อผ้าแกก่อน
โรงแรมบีทูสันติธรรม เป็นโรงแรมขนาดเล็ก สี่ชั้น ไม่มีลิพท์ ราคาห้องต่อคืนเพียง 350 บาท ราคาสบายกระเป๋าแบบนี้เป็นสาเหตุที่ผมใช้บริการเป็นประจำ จนพนักงานต้อนรับจำหน้าได้
“สวัสดีคะ รอบนี้พักกี่คืนคะ” พนักงานต้อนรับสาวสวย เสื้อส้มยิ้มให้อย่างคุ้นเคย
“คืนเดียวก่อนครับถ้าจะเบิ้ลผมจะบอกอีกที” ผมตอบประโยคเดิม ๆ ที่เคยพูดไปหลายครั้ง “มีเตียงเดี่ยวสามร้อยห้าสิบว่างไหมครับ”
“มีคะ สามร้อยห้าสิบบาทพร้อมค่ามัดจำกุญแจอีกสามร้อยคะ”

ห้องเตียงเดี่ยวมีสองราคาคือ สามร้อยห้าสิบบาท กับ สามร้อยแปดสิบ ความแตกต่างเพียงแค่ ความลำบากในการขึ้นห้อง ห้องชั้นหนึ่งและสองจะราคาสามร้อยแปดสิบ ชั้นสามและสี่ราคาสามร้อยห้าสิบ ความแตกต่างในการเดินขึ้นบันไดคิดเป็นราคาสามสิบบาทต่อคืน

หลังจากจ่ายเงินเสร็จสรรพ พนักงานสาวจดหมายเลขบัตรประชาชนของผม เธอส่งบัตรคืนพร้อมยิ้มให้ ผมรับบัตร เดินขึ้นชั้นสี่เพื่อเอาสัมภาระอันหนักอึ้ง ทั้งเอกสารงาน แลปท๊อบ และเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนไปเก็บไว้ในห้องก่อน น่าเสียดายที่พนักงานต้อนรับคนนี้รู้ความเป็นไปของผมมากเกินไป ไม่งั้นผมคงหามุขหยอดเธอไปแล้ว ทั้งขาวและน่ารัก น่าเสียดายจริง ๆ ผมรู้ว่ารอยยิ้มที่เธอให้ผมนั้น น่าจะหมายความว่า คืนนี้จะเอาใครมานอนอีก เพราะเธอเห็นผมมาพักกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันราว ๆ สองสามคนแล้ว

หน้าวิทยาลัย N เหมยลี่ยืนอยู่ใต้ต้นไม่หน้าประตูทางเข้า แดดร้อนๆ เธอคงคิดบ่นในใจที่โชเฟอร์ของเธอมาสาย เขานัดเธอไว้ 17.30 น. แต่นี่เวลาล่วงเลยจนเกือบ 18.00 น. แล้ว ยังไม่เห็นแม้แต่เงา  ทันใดนั้นเธอก็เห็นมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์เก่า ๆ แล่นมาด้วยเสียงเครื่องยนต์อันดัง จนคนรอบข้างกลัวว่ามันจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“ขอโทษที่มาสายจ๊ะ ไปจองห้องมา ขอโทษจริง ๆ นะ” ผมบอกเธอเพราะเห็นเธอทำหน้าหงุดหงิด
“ยกโทษให้ก็ได้ แต่ลุงต้องเลี้ยงไอศกรีม เป็นการไถ่โทษนะ อยากกินน่ะ” เหมยลี่ก้าวขึ้นซ้อน พร้อมกระเป๋าใบโต โชคดีที่ผมเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องแล้ว ไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่

รถมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์ออกตัวอย่างโทรม ๆ จากหน้าวิทยาลัย
“แล้วแฟนหนูล่ะ คืนนี้หนูเที่ยวแถมค้างข้างนอกอีก เขาไม่สงสัยอะไรเหรอ” ผมตะโกนถามเธอแข่งกับเสียงลมและเครื่องยนต์
“เมื่อกี้หนูโทรบอกเขาแล้วว่าคืนนี้จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่วิทยาลัย เขาก็ไม่พอใจ แล้วก็ทะเลาะกัน เขาวางหูใส่แล้วไม่โทรมาอีกเลย” เหมยลี่บ่น “เขาหวงหนูมากจนน่ารำคาญ แค่หนูไปซื้อของที่ตลาดเป็นต้องถามว่า ไปกับใคร? ไปซื้ออะไร? ฝากเพื่อนไปไม่ได้เหรอ? หรือบางครั้ง แค่ลงมาหาของกินใต้หอก็ต้องถาม ลงมาทำไม? ลงมากับใคร? ทำไมไม่อยู่บนห้อง? ฝากเพื่อนซื้อไม่ได้เหรอ?  หนักสุด ๆ คือ หนูทำกิจกรรมรับน้อง ทำให้เขาโทรมาแล้วหนูไม่ได้รับสาย เขาถึงขนาดต่อตรงเข้ามหาวิทยาลัย คุยกับรุ่นพี่ เพียงเพื่อไม่ยอมให้หนูทำกิจกรรมรับน้อง จะได้มีเวลาให้เขาละมั้ง หนูรำคาญจริง ๆ ลุงว่างี่เง่าไหม”
“มันก็เกินไปหน่อยนะ น่ากลัวดีแหะ”ผมตะโกนตอบแบบไม่เหลียวไปมองข้างหลัง “แต่หลายครั้งที่หนูพูดถึงข้อดีของเขานี่ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข รักกันดีนี่นา”
“มัน..... มันก็..... ก็ รู้สึกไม่ค่อยดีแบบนี้บางครั้งเท่านั้นเอง”
แล้วมาหาความสุขจากฉันแทนใช่ไหม ผมเผลอคิดแบบนี้ไปวูบหนึ่ง

ผมพาเธอมาเก็บข้าวของที่โรงแรมก่อน พนักงานต้อนรับมองผมตอนขึ้นบันใด พอผมมองกลับเธอก็หลบตา คราวนี้เป็นคนเดิมกับครั้งก่อน แต่ไม่ใช่คนเดิมครั้งที่แล้ว ผมเดาว่าเธอคงคิดในใจแบบนี้ แล้วผมดึงโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อดูเวลา

ภายในร้านเซเวนเซ่น ห้างสรรพสินค้าเซนทรัน แอร์พอร์ท หรือที่เขาเรียกกันว่า โรบินสัน ผมกับเหมยลี่ นั่งกินเฮอริเคนด้วยกัน คุยเรื่องจิปาถะทั่วไป ไม่สำคัญอะไร เธอเป็นคนเลือกที่นั่งเอง โต๊ะอยู่ริมร้านด้านนอก เสี่ยงต่อการเจอคนรู้จักอย่างยิ่ง คนรู้จักผมไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก แต่คนรู้จักแฟนผมนี่สิน่ากลัว

หนูเหมยลี่ทั้งจับมือ เล่นหน้าเล่นตาราวกับว่าเราสองเป็นแฟนกัน ช่างเป็นภาพที่อันตรายอย่างยิ่ง คิดผิดที่มาห้างนี้ รู้อย่างนี้ไปกาดสวนแก้วดีกว่าคนรู้จักเดินผ่านน้อยกว่า ท้ายสุดก็ไม่เจออะไร ผมเหลือบดูเวลา ซึ่งล่วงเลยไปเกือบสองทุ่ม ได้เวลาที่จะส่งเธอกลับไปที่ห้องพักแล้ว

“อยู่คนเดียวก่อนแปปนึงนะ พี่ไปธุระข้างนอก เดี๋ยวพี่กลับมา เอาคอมพ์พี่มาเปิดดูก็ได้ โหลดหนังสนุก ๆ ไว้เยอะนะ” ผมบอกเธอว่าผมไปธุระเรื่องงาน ขืนบอกตามความจริงไปเดี๋ยวบรรยากาศหดหู่กันพอดี  เธอรู้อยู่แล้วว่าผมเก็บหนังไว้ส่วนไหนของเครื่อง ส่วนผมไม่กลัวหลักฐานอะไร เพราะเอาออกหมดแล้ว

ก่อนออกจากห้อง เธอดึงผมไปจูบปากหนึ่งที แถมยังพูดว่า “ไม่ยอมอยู่ด้วย เดี๋ยวกลับมาจะลงโทษ”

ก่อนขี่รถออกจากโรงแรม ผมต้องตรวจหน้าตาตัวเองโดยใช้กระจกข้างมอเตอร์ไซค์ กลัวมีรอยผิดปรกติ โดยเฉพาะรอยจูบ ติดหน้า แล้วก็ดูเวลาจากโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามตารางเวลา

ผมไปหาแฟน ก่อนหน้าไปรับเหมยลี่ผมโทรบอกแฟนว่าวันนี้มีโอทีเลิกงานสองทุ่มซึ่งเป็นเวลาโอทีปรกติที่มีบ่อย ๆ เธอจึงไม่สงสัยติดใจอะไร ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เรื่องระหว่างนี้ไม่สำคัญ ผู้เขียนของข้ามละกัน เวลาราวสามทุ่ม ผมอาบน้ำชำระร่างกายเฉพาะส่วนสำคัญบางจุด เพื่อกลบกลื่นกลิ่นที่อาจเป็นพิรุธได้ และไม่อาบน้ำถูสบู่ทุกส่วน มันจะสะอาดจนผิดสังเกต แล้วผมกลับมาที่โรงแรมบีทู

ภายในห้อง เหมยลี่นอนดูหนังอยู่บนเตียง ผมนั่งลงข้าง ๆ เธอ แล้วเราสองก็เคลื่อนตัวเข้าหากันเหมือนรู้ถึงความต้องการคนอีกฝ่าย มือของผมโอบหลังเธอ เรามองหน้ากัน แล้วปากของผมและเธอก็ประกบกัน........




เหมยลี่นอนหงายอยู่บนเตียง ปากประกบกับชายหนุ่มที่นอนคว่ำทับเธออยู่ ถึงเธอจะยังคงใส่เสื้อผ้าครับทึกชิ้น แต่มือของเขาก็ล้วงเข้าใต้เสื้อเพื่อมาขย้ำหน้าอกของเธอ สำหรับเธอแล้ว ชายคนนี้เป็นอะไรกับเธอก็ยังไม่แน่ใจนัก อาจจะเป็น เพื่อน พี่น้องท้องชนกัน หรือลุง ผู้ชายคนนี้เคยกอดจูบแบบนี้เธอมาแล้วครั้งหนึ่งที่โรงแรมแห่งนี้ แต่ครั้งนั้นเธอกับเขาก็ยังไม่เคยมีอะไรกัน
ครั้งนี้จะใจอ่อนให้เขาดีไหมนะ...... เอ๊ะ รู้แล้ว โทษฐานที่เมื่อกี้เขาหายไป ฉันรู้แล้วว่าจะลงโทษเขายังไงดี เหมยลี่คิด
ชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงถอดเสื้อเธอออก เธอยอมแต่โดยดี
ผมถอดเสื้อเธอออกทั้ง ๆ ที่เธอนอนหงายอยู่ เผยให้เห็นยกทรงสีดำพร้อมกับหน้าอกขนาดเหมาะมือไม่ใหญ่จนเกินไป ค่อนข้างเล็กด้วยซ้ำ



ผมยิ้มให้เธอ เธอจับเสื้อของผมแล้วถลกขึ้น โยนลงไปข้างเตียง
“ถอดคนเดียวได้ไง ต้องเสมอภาคกันสิ”



เวลาผ่านไปสักพัก เราสองคนเปลือยเปล่า ต่างฝ่ายต่างนอนกอดกัน ผลัดกันเล้าโลม ตักตัวความสุขจากร่างกายของอีกฝ่าย ผมจูบเธอ เลียไล้และดูด ไปทั่วเลือนร่าง เธอก็เช่นกัน มือเธอข้างหนึ่งคลำไปที่อาวุธสำคัญของผู้ชาย ส่วนอีกข้างนั้นลูบไล้ราวกับต้องการสัมผัสร่างกายของผมให้ทั่วทั้งหมด
 
“ตัวพี่เปื้อนเหงื่อ อับทั้งตัวเลย ขอไปล้างตัวแปบนึงนะ” ผมขอตัวเข้าห้องน้ำ ซึ่งที่จริงเป็นการลบพิรุธที่ร่างกายบางส่วนสะอาดเกินไป จากนั้นก็กลับมาที่เตียงที่มีหญิงสาวเปลือยเปล่านอนคอยอยู่

ท่าทางของเราทั้งสองค่อยปรับเปลี่ยนจนเป็นหกเก้าโดยไม่ได้นัดกัน ถึงจะมีกลิ่นอับบ้างเนื่องจากเหงื่อที่อับมาทั้งวันละมั้ง แต่ผมก็ยังพยายามใช้เคล็ดวิชา ‘ชิวหาพาเพลิน’ อย่างเต็มที่ เธอก็ไม่ยอมแพ้ ฝีปากของเธอทำให้ผมลุกสู้ขึ้นมาจนได้ ตอนนี้ได้ทุกอย่างแล้ว ขาดเพียงสอดใส่เท่านั้น คราวที่แล้วเธอขอร้องว่าไม่ให้ แต่คราวนี้เธอไม่พูดอะไร





“ลุง” เธอขัดขึ้นขณะผมกำลังไปหยิบกระเป๋าตังค์เพื่อเอาซีดี “ขออาบน้ำก่อนได้ไหม มันเหนียว ๆ ไม่สบายตัว ลุงก็อาบด้วยกันนะ”

ผมเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ทำตามใจเธอ

ในห้องน้ำอันขับแคบ มีเพียงอ่างล้างหน้า ชักโครก ฝักบัว ไม่มีอ่าง ไม้แขวนเสื้อห้อยผ้าเช็ดตัวสองผืน ไม่มีเสื้อผ้าใด ๆ เพราะทั้งสองคนแก้ผ้าก่อนเข้าห้องน้ำแล้ว ผมเปิดฝักบัว น้ำที่นี้แรงมาก แต่ยังแรงสู้ห้องน้ำนวดแผนโบราณหลังธนาคาร K ไม่ได้ ที่นั้นแรงจนไข่กระเด็นติดผนัง ตัวปรับอุณหภูมิที่นี้สามรถปรับความร้อนได้สูงมากเลยทีเดียว อากาศในห้องน้ำค่อนข้างอบ ประกอบกับห้องคับแคบที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้ทีละสองคนยิ่งทำให้ร้อนเข้าไปอีก ผมเลยไม่ได้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่น

หลังจากเราสองคนตัวเปียกจากฝักบัวแล้ว เธออาบน้ำโดยใช้สบู่เหลวถูทั่วตัวของเธอ แล้วมาถูตัวผม ไม่ใช่สบู่ แต่ใช้ร่างกายเธอมาถู ผมนึกถึงการบีทูบีในหนังเรทเอ๊กซ์ที่เคยดูมา เราถูตัวไปมาอย่างนั้นเป็นเวลานานทีเดียว เหมือเธอจงใจอาบนาน ๆ สงสัยชอบเล่นบีทูบีกับผมละมั้ง




รู้แล้ว โทษฐานที่เมื่อกี้เขาหายไป ฉันรู้แล้วว่าจะลงโทษเขายังไงดี



หลังอาบน้ำเป็นเวลานาน ผมและเหมยลี่ออกมาเช็ดตัวนอกห้อง โชคดีที่ก่อนหน้านี้ผมเสร็จกิจไปครั้งหนึ่งกับแฟนแล้ว เลยทำให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ทำให้รู้สึกน้ำขังสักเท่าไหร่ หนำซ้ำยังเข้าทางผมอีกต่างหาก ตอนแรกผมกลัวว่าตัวเองจะไม่ลุกสู้แล้ว แต่โดนเล้าโลมซะขนาดนี้ ถึงไหนถึงกัน

เช็ดตัวเสร็จ เธอก็เข้ามากอดผม เราจูบกันหน้าห้องน้ำอย่างเร้าร้อน เธอขอให้ผมอุ้มเธอไปที่เตียง อุ้มท่าแบบเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือนหอที่เคยเห็นในการ์ตูนขายหัวเราะบ่อย ๆ แต่ต่างกันตรงที่ตอนนี้ผมและเธอต่างเปลือยเปล่า

“ลุง! ตายแล้ว ดูเวลาสิ สี่ทุ่มครึ่งแล้ว หนูต้องรีบแต่งตัวแล้ว เดี๋ยวไปไม่ทันนัด” เหมยลี่โพล่งออกมาขณะผมกำลังวางเธอบนเตียง
ผมมองดูนาฬิกา  จริงด้วย!!! ต้องแต่งตัวแล้วเหรอเนี้ย!
“งั้นรีบแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเอา” ผมไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าเมื่อกี้ไม่ไปหาแฟน ตอนนี้ผมคงอารมณ์ค้าง น้ำขังสุด ๆ แน่
“อิ อิ อิ” เหมยลี่แอบหัวเราะเบา ๆ
“แต่พี่ขอไม่ไปนะ หนูไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ กลุ่มสาวโสด ไม่อยากเป็นส่วนเกินน่ะ ขอนอนตากแอร์รออยู่ที่นี้ก็แล้วกัน” ผมไปเที่ยวด้วยไม่ได้
“อ่าว ลุง หนูบอกเพื่อน ๆ ไว้แล้วว่าจะมีหนุ่มไปด้วย กะจะเปิดตัวลุงสักหน่อย ไปเถอะนะ นะ นะ นะ”

แหม เธอ ช่างกล้า เปิดตัวผู้ชายให้เพื่อน ๆ รู้จักไม่เกรงใจแฟนเลยนะ ผมคิด ผมยังไม่กล้าพาสาวอื่นที่ไม่ใช่แฟนไปเปิดตัวเลย กลัวพระเอก อีกทั้งเชียงใหม่เมืองใหม่มันเล็ก จะเจอคนรู้จักของแฟนเมื่อไหร่ก็ได้

“แหะ ๆ ไอ้คำพูดเมื่อกี้มันสวยหรูไปหน่อย แต่ความจริงแล้วลุงทำงานมาเหนื่อย ๆ เพลียจริง ๆ นะเนี้ย ขอนอนหลับพักก่อน เดี๋ยวตีสองตีสามค่อยตื่นไปรับหนู ขอนอนหลับเอาแรงดีกว่า เดี๋ยวคืนนี้ต้องเสียแรงอีกเยอะ” ผมหาข้อแก้ผ้า เอ๊ย  ข้อแก้ตัวใหม่
“บ้า คืนนี้จะเหนื่อยอะไรยะ ทะลึ่งนะเรา” เธอพูดคำว่า ’ทะลึ่ง’ เหมือนผมกำลังลามปามเธอด้วยคำพูด แต่ตอนนี้เราแก้ผ้าคุยกันอยู่นี่ “ก็ได้ ๆ งั้น ตีสองแล้ว ลุงโทรหาหนูเลยนะ ถ้าหนูไม่รับ ก็โทรหาเรื่อยๆ เลยนะ”
“จ๊ะ”
ผมและเหมยลี่ แต่งตัว แล้วขี่รถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไป แฟชั่น ระหว่างทางมือเธอที่โอบเอวผมอยู่ ผมรู้สึกได้ว่ามันค่อย ๆ ขยับลงต่ำไปเรื่อยๆ แล้วมือข้างหนึ่งก็มุดเข้าไปในกางเกงยีนส์ ผมต้องแขม่วท้องเพื่อให้มือของเธอลงไปได้สะดวก โชคดีที่ไม่รัดเข็มขัดมากเกินไป

มือข้างหนึ่งของเธอลงไปขย้ำอวัยวะสำคัญของบุรุษ ส่วนอีกข้างลูบไล้ไปตามร่างกายผม

บนรถมอเตอร์ไซค์นะเนี้ย แถมกลางเมืองด้วย เธอช่างไม่แคร์สื่อเลยจริง ๆ  ผมคิดไปเสียวไป
“เป็นไงบ้างลุง รู้สึกดีไหม” เธอกระซิบถามพร้อมหอมแก้มผมหนึ่งทีจากข้างหลัง
“เยี่ยมไปเลยหนู อย่าเพิ่งเอามือออกนะ”

ผมขี่รถไปจอดตรงสามแยกก่อนถึงกาดสวนแก้ว แม้ว่าจะจอดติดไฟแดง แต่มือเธอก็ยังไม่ยอมหยุด ช่างกล้าเหลือเกิน ผมมองรถมอเตอร์ไซค์คันซ้าย ขวา ที่ประกบคู่ผมอยู่ ไม่มีใครสังเกตเห็น หรือว่าเห็นแต่ไม่มองมาตรง ๆ กลัวเสียมารยาทเลยมองด้วยหางตาแทนหรือเปล่าผมก็ไม่รู้

หลังกาดสวนแก้ว หน้าแฟชั่น ผมจอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วเดินไปส่งเธอ สาวงามแต่งตัวซะเปรี้ยวจี๊ดสำหรับเที่ยวผับโดยเฉพาะ เสื้อกล้ามสีดำ ทับด้วยเสื้อยีนสีดำแขนกุดตัวเล็กแบบเอวลอย กางเกงสีดำขายาวติดเนื้อโชว์ให้เห็นความโค้งเว้าชัดเจน สวมส้นสูงสีดำสะท้อนแสง แต่ผู้ขายที่เดินมาคู่กันใส่เสื้อโปโลสีฟ้า กาเกงยีนส์ รองเท้าแตะ เดินจับมือกันเข้าผับดูไม่เหมาะกันเลย

เมื่อถึงหน้าทางเข้า เธอเจอกลุ่มเพื่อนเธอ ผมขอตัวกลับ
“รู้ตัวไหมว่าลุงโดนหนูลงโทษอยู่” เธอเอ่ยมาก่อนผมจะกลับ “หนูแกล้งทำให้ลุงอยากมาก ๆ แล้วหนูก็จากไปอยากให้ลุงอึดอัดทั้งคืน เป็นการลงโทษที่ทำให้หนูคอยเมื่อกี้”
“......” ผมยิ้ม
“หนูเคยทำอย่างนี้กับแฟนหนูนะ เขานอนหน้าเขียวทั้งคืนเลย กระวนกระวายนอนไม่หลับ ส่วนหนูก็ไม่ยอม เห็นแล้วขำดี หนูอยากทำให้ลุงหน้าเขียวแบบนั้นบ้าง” เธอแอบกระซิบไม่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ยิน
“จ้า จ้า เดี๋ยวกลับไปพี่ทรมานตายแน่ ลงโทษได้เจ็บจริง ๆ มิน่าละ อะไร ๆ ก็ดูเหมือนจะยืดเยื้อ ฮ่า ๆ ๆ” ผมหัวเราะ “เที่ยวให้สนุกละกัน เดี๋ยวตีสองพี่โทรหานะ” ผมเดินจากไป

ความจริงแล้ว ผมไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่หรอก เมื่อกี้เพิ่งชกไปหนึ่งยก เพราะฉะนั้น แค่นี้ไม่ทำให้ผมอึดอัดมากเท่าปรกติหรอก แถมยังช่วยปลุกให้สู้อีก เข้าทางผมพอดี แล้วตีสองเจอกัน

เวลาเธอพูดถึงแฟนเธอ ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ อาจจะเซ็ง ๆ บ้างเล็กน้อย ประมาณว่า ‘พูดถึงทำไม’ แค่นั้น แต่ถ้าผมพูดถึงแฟนผมบ้าง เธอจะทำหน้าบูดแล้วไม่ยอมคุยกับผม บางครั้งถ้าเธอรู้ว่าผมอยู่กับแฟน เธอถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว สองมาตรฐานชัด ๆ

เวลา ประมาณ 23.40 น. ณ  โรงแรมบีทู ชั้นสี่ ผมนอนอยู่บนเตียงคนเดียว แต่ไม่เดียวดาย ผมคุยโทรศัพท์กับแฟน บอกเธอว่า ตอนนี้อาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่บนเตียงพร้อมจะนอนละ คืนนี้ไปได้ชวนเธอออกไปกินข้าวเย็นด้วยกัน หรือออกไป ‘ลาดตระเวน’ หลังเลิกงาน เลยต้องเอาใจเธอหน่อยด้วยโทรศัพท์กับเธอยาว ๆ เหมือนกลับเป็นเด็กมัธยมปลายอีกครั้ง

เวลาล่วงเลยไปจนใกล้ตีสอง ผมวางสายแฟนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอเข้าใจว่าผมนอนหลับอยู่ที่บ้าน เคล็ดวิชาแยกร่าง 'อยู่สองที่ในเวลาเดียวกัน' สำเร็จตามเป้าหมาย ผมโทรหาเหมยลี่

สายแรก ไม่มีคนรับสาย
สายที่สอง เธอรับ เสียงฝั่งเธอดังมาก ต้องตะโกนใส่โทรศัพท์ถึงจะได้ยิน
“เป็นไงบ้าง ให้ไปรับหรือยัง”  ผมตะโกน ไม่เกรงใจห้องข้าง ๆ
“มาเลยลุง มาเลย ๆ เดี๋ยวขอลาเพื่อน ๆ ก่อน ลุงรอหนูที่จอดรถตอนขามานะ”
“ได้ ๆ ออกมาเลยนะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

ผมไปถึงหน้าแฟชั่นภายในสิบนาที รถน้อยมากขับขี่สะดวก ผมเห็นหญิงสาวชุดดำเดินเซ ๆ มาหา เห็นสภาพแล้ว กลัวเธอล้มลงตรงนั้นจริง ๆ ผมวิ่งเข้าไปรับ เธอเกาะแขนผมเดินควงออกมา

ทันทีที่ขึ้นซ้อนท้าย เธอกอดและฟุบซบแผ่นหลังผมทันที เธอคงจะมึนมาก
“เที่ยวสนุกไหมหนู”
“สนุกมากเลย หมดร้อยปีเปอร์ไปสองขวดกินกันสี่คน ขวดที่สามสั่งมาแล้ว เพื่อน ๆ หนูเขาจะต่อกันถึงเช้า แต่หนูขอกลับก่อน หนูอยากอยู่กับลุง” เธอพูดช้า ๆ พยายามประคองสติให้อยู่กับรองกับรอย “มีผู้ชายกับทอมมาขอเบอร์หนูด้วยแหละ สงสัยความมืดทำให้ผีกลายเป็นคน”
“ไม่หรอก หนูน่ารักออก ไม่งั้นพี่คงไม่หลงขนาดนี้หรอก” ผมหยอดหนึ่งดอก

มอเตอร์ไซค์ไทเกอร์เก่า ๆ แล่นฉิวสู่โรงแรมบีทู ผมประคองเธอขึ้นห้อง ไม่ถึงกับลาก เธอเดินไหว แต่แค่เซนิดหน่อย ผมถือโอกาสจับโน้นจับนี้นิดหน่อย

หลังประตูห้องปิด เธอนอนหงายลงบนเตียงทันที ผมเอนตัวลงคร่อมตามทันทีโดยไม่ต้องมีใครให้คิว

ผมและเหมยลี่ประกบปากจูบกันอย่างดูดดื่ม ครั้งนี้เหมยลี่เป็นฝ่ายลุกมากกว่า เธอแทบจะเลียหน้าผมทั้งใบหน้า ผมค่อย ๆ ถลกเสื้อของเธอออก เธอก็ไม่ยอมแพ้ พยายามดึงเสื้อผมออกเช่นกัน หลังจากเราแก้บนกันแล้ว ฝีปากผมก็ไหลไปทั่วเรือนร่างส่วนบนของเธอ

เล้าโลมกันไปสักพัก เราทั้งคู่ก็เปลือยอีกครั้ง คราวนี้ผมไม่รอช้า รีบหยิบซีดีทันทีที่จุดหมายเผยให้เห็น

ระหว่างแกะซอง เหมยลี่ลุกไปปิดไฟแล้วเปิดเฉพาะไฟตั้งโต๊ะที่หัวเตียง ส่วนผมผมรอฟังดูว่าเหมยลี่จะขอสงวนจุดซ่อนเร้นนั้นให้แฟนเธอเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า ผมรอฟัง

ครั้งนี้เธอเงียบ ไม่พูดอะไร ผมก็รีบสวนซีดีแล้วจับสอดใส่อย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจ

การชกครั้งนี้ ทั้งมุมแดงและมุมน้ำเงิน ต่างเจอกันครั้งแรก เทคนิคและท่วงท่าจึงยังไม่เข้าขากันนัก ต่างฝ่ายต่างยังไม่รู้เกมส์กัน รู้แค่ว่า ฝ่ายหญิงร้องดังมาก

ครั้งนี้ไม่ค่อยถนัดจริง ๆ รู้สึกเก้ง ๆ ก้าง ๆ แปลก ๆ ขยับตัวไม่สะดวก ยังไม่เข้าจังหวะกัน ครั้งนี้ผมกับเธอคงแค่ลองจังหวะกันด้วยสองท่าคลาสสิก MOT และ WOT สลับไปมาเท่านั้น จนการขยับเริ่มเข้าจังหวะกัน ผมก็เสร็จภารกิจด้วย MOT ส่วนฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นอย่างไร เธอไม่ได้บอกไว้

หลังจากนำซากซีดีทิ้งลงถังขยะ ผมปิดไฟหัวเตียงแล้วเราสองคนนอนกอดคุยกัน ห่มผ้าผืนเดียวกัน

เราจะเป็นผู้ชายค้างทางกับนางฟ้าคืนเดียวไหมเนี้ย ผมคิด

เรานอนคุยกัน แล้วก็หลับไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้าทั้งคู่

หกโมงเช้าของวันถัดมา ผมตื่นก่อนมาอาบน้ำ สลับกันอาบ ผมกับเธอคุยกันปรกติเหมือนที่ผ่านมา อย่างกับว่าเมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เรายังยิ้มให้กันเหมือนที่ผ่านมา

ผมไปส่งเธอที่หอราว ๆ 07.30 น. แล้วกลับมาเก็บของ เช็คเอ้าจากโรงแรม แล้วตรงไปที่ทำงาน แปดโมงกว่าพอดี

ก่อนส่งเธอกลับ เธอบอกผมว่า
“ไว้คราวหน้า เรามาค้างด้วยกันบ่อย ๆ นะ”




หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ ผมกับเธอก็ไม่เคยค้างคืนด้วยกันอีกเลย เรายังโทรคุยกัน กินข้าวเย็นด้วยกัน เลาเธอทะเลาะกับแฟนก็มักมาคุยปรับทุกข์กับผม เหมือนปรกติที่ผ่านมา อย่างกับเรื่องคืนนั้นมันแค่ฝันไป สำหรับผม ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่วงนี้ทำตัวเป็นแฟนที่ดี ไม่ซ่ามาหลายอาทิตย์แล้ว แล้วมันก็คงเป็นแบบนั้นต่อไปอีกสักพักใหญ่ ๆ

จบ... เอวัง....  รอลุ้นภาคถัดไปว่าจะมีเมื่อไหร่
-----------------------------------------------------------------------------------------


ปล. อยากระบายนิดนึง อย่างที่รู้ ๆ กันว่า ผมทำงานอาทิตย์ละเจ็ดวัน เลิกดึก ๆ ก็บ่อย เริ่มงานก็แปดโมงเช้า ผมจึงไม่ค่อยได้เที่ยวกลางคืน หรือสังสรรค์กับใครที่ไหน ใครชวนส่วนใหญ่ปฎิเสธ  uilo เดี๋ยวไม่มีสภาพทำงานตอนเช้า ผมยิ่งเป็นชนชั้นผู้ใช้แรงงานอยู่ด้วย สภาพร่างกายต้องพร้อมตลอดเวลา ทำงาน กลับบ้าน นอน ทำงาน กลับบ้าน นอน ทุกวัน ไม่ได้ไปพบปะใครที่ไหนเลย ไม่มีโอกาสสังสรรค์เพื่อเพิ่ม network (เพื่อนของเพื่อน เป็นต้น)  ผมเลยใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางหาคนรู้จักใหม่ ๆ ตลอดมา   ....................   แต่วันนี้อยากบอกว่า   ที่ทำงานผมเขายกเลิกอินเตอร์เน็ตแล้ว!! ยกเลิกมาอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว  ตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนเป็นปลาขาดน้ำ!!!  ออนไลน์วันละไม่กี่นาทีก่อนนอนเท่านั้น!!!   ปลาขาดน้ำ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 พฤษภาคม 2010, 10:58:56 โดย Phate »

sodazuza

  • บุคคลทั่วไป

สุดยอดดดด

อิอิ

เหมยลี่ ;kljj

man69

  • บุคคลทั่วไป

 pongz pongz pongz เยี่ยมทั้งลีลาและคารมการเรียบเรียงเรื่องราวสุดยอดมากครับ

1ideal

  • บุคคลทั่วไป

การบ้านท่าน  เยี่ยมเหมือนเดิม ครับ pongz


woon

  • บุคคลทั่วไป

สุดยอดและขอบคุณมาก ท่านเทพโพสต์จัง ;kljj ;kljj ;kljj

Metaligus

  • บุคคลทั่วไป

อ่านแล้วเพลินดีจริงๆครับ

p_nuin

  • บุคคลทั่วไป

รถไฟฟ้ามาหานะเรา

eleanor

  • บุคคลทั่วไป

ปัญหาใหญ่เลยคับ โดนยกเลิกเน็ท คราวนี้การบ้านท่านคงคลอดยากหน่อยสิคับเนี่ย...

 zad zad zad

donsong

  • บุคคลทั่วไป

เป็นการปิดเกมส์ที่สวยงาม และคุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ ครับ  pongz

shava.tommy

  • บุคคลทั่วไป

จบเกม ได้สวยงามครับ
ต้องยอมรับกับคารมของท่านจริงๆ  ;kljj

ReActioNX

  • บุคคลทั่วไป

ขาดใจตายพอดี ของผมนี่ถ้ายกเลิกเน็ต นี่ ตูจะไม่ให้มันเบิกงวด   kjhg kjhg kjhg

shoots

  • บุคคลทั่วไป

ครั้งหนึ่งกับน้องเหมยลี่     jljhl

ReActioNX

  • บุคคลทั่วไป

เด็กไหนไม่กินไม่ใช้แล้ว ส่งมามั่งก็ได้นะตาเฟท เด๋วจับทำปิ่นโตต่อ  kjhg kjhg kjhg

Hymn1919

  • บุคคลทั่วไป

ถึงยาว แต่น่าติดตามครับ  ;kljj

cOmRade_ClubZaa

  • บุคคลทั่วไป

ยาวใช้ได้ อ่านแล้วเพลิน น่าลุ้นด้วย

ฺBomu

  • บุคคลทั่วไป

กว่าจะอ่านจบ

ท่านเทพมากอยากมีบ้างจัง ฮ่าๆ ;kljj

ฺBomu

  • บุคคลทั่วไป

อ้อว่าแต่ท่านphate เป็นวิศวกรใช่ป่าวครับ?

Phate

  • บุคคลทั่วไป

อ้อว่าแต่ท่านphate เป็นวิศวกรใช่ป่าวครับ?
ถูกต้องครับ  เป็นคุณลุง เหมือนเคน   (แต่ความหล่อห่างกันลิบ zad)

กว่าจะอ่านจบ
ความพยายามสูง  นับถือ ๆ อิอิ  jljhl


เด็กไหนไม่กินไม่ใช้แล้ว ส่งมามั่งก็ได้นะตาเฟท เด๋วจับทำปิ่นโตต่อ  kjhg kjhg kjhg
มีแต่เค้าไม่กินไม่ใช้ผมแล้ว เลยไปหากินหาใช้คนอื่นแทนน่ะดิครับ  เขิน

ขาดใจตายพอดี ของผมนี่ถ้ายกเลิกเน็ต นี่ ตูจะไม่ให้มันเบิกงวด   kjhg kjhg kjhg
ผมไม่มีคอนเซ้านี่นา แล้วเน็ต 90% ก็เอาให้ลูกจ้างเล่น chat (ผมเองนี่หว่า)  ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์เท่าไหร่มั้ง เค้าเลยตัดซ้า (ผมเดาว่างั้นนะ)




แล้วก็ขอขอบคุณทุกความเห็นที่ติดตามผลงานครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 พฤษภาคม 2010, 10:34:14 โดย Phate »

noikasu

  • บุคคลทั่วไป

แหะๆๆติดตามตอนต่อไปอีกดีกว่า... fdgdfdf

timmy

  • บุคคลทั่วไป

ทำไมเราไม่มีกะเค้าบ้างน้า zad

niparatpotter

  • บุคคลทั่วไป

คุณลุง+++

เหม่ยลี่!!!!~     


ยังไง  ฮะ     

Lacoste

  • บุคคลทั่วไป

ชื่นชมผมงานคุณลุงมากฮะ รอภาคต่อไปอยู่นะ

KopkE

  • บุคคลทั่วไป

รอชมผลงานชิ้นต่อไปของลุงอยู่ครับ

 ;kljj ;kljj ;kljj ;kljj

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด

ตอนนี้ยังมีอีกไหมค่ะ jljhl