-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Monster of Florence สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์  (อ่าน 1873 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Monster of Florence สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์
« เมื่อ: 09 มกราคม 2015, 14:14:33 »

Monster of Florence สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์



“ในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังเหยียบย่างเข้าสู่เมืองฟลอเรนซ์อยู่นั้น พวกเขาหารู้ไม่ว่าพวกตน
กำลังถูกจับตาโดยสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดอยู่”

 
ฟิเรนเซ หรือ ฟลอเรนซ์ เป็นเมืองหลวงของแคว้นตอสกานา ในประเทศอิตาลี จัดได้ว่าเป็นเมืองที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
โดยเฉพาะคู่รัก เพราะเมืองแห่งนี้มีอากาศสายลมที่อบอุ่น ประกอบกับทิวทัศน์ชนบทและธรรมชาติที่ที่สวยงามราวกับ
ภาพวาดโรแมนติก นอกจากนี้ฟลอเรนซ์ยังเป็นศูนย์กลางทางศิลปะอีกแห่งหนึ่งของโลก ที่รวบรวมผลงานทางศิลปะของศิลปิน
มีชื่อมากมาย ทั่วภูมิภาคยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างมีความฝันว่าอย่างน้อยพวกเขาจะได้มีโอกาสไปเดินฝ่าสายฝนชม
งานศิลปะและเมืองแห่งนี้สักครั้งในชีวิต

และที่นี้เองคือเวทีฉากการฆาตกรรมที่น่ากลัวและสยดสยอง เมื่อจู่ๆ ในระหว่างปี 1968-1985 นั่นได้มีฆาตกรรายหนึ่ง
ออกอาละวาดไล่ฆ่าคนเป็นจำนวนมาก ราวกับอสูรกายที่หลุดออกมาจากภาพยนตร์จนได้รับฉายาว่า “สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์”

ด้วยพฤติกรรมที่มันมักปรากฏตัวออกมาปฏิบัติในช่วงเย็นของฤดูร้อน มันชอบฆ่าคู่หนุ่มสาว(รวมถึงคู่เกย์)ที่มักแสวงหา
ความเป็นส่วนตัวในขณะจู๋จี่กันในรถที่จอดอยู่ที่เปลี่ยวห่างสายตาจากคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาเริ่มถอดเสื้อ เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้น
จะปรากฏตัวขึ้นมันตรงเข้ามาจากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ทั้งสิ้น มันจ้วงแทง, ยิง บางรายถึงขั้นฆ่าในขณะที่คู่รักมีเพศสัมพันธ์เลยก็มี
ผู้ชายตายคาที่ ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้หญิงจะโดนหนักหน่อยเพราะมันชำแหละตัดหน้าอกซ้ายของเธอและอวัยวะเพศของเธอเป็น
ที่ระลึกฉลองชัยกับผลงานของมันด้วย มันทำการฆาตกรรมอย่างชาญฉลาด หมดจด  ไม่มีพยานรู้เห็น หรือหลักฐานใดๆ
ที่จะตามรอยมันได้ มันก่อกรรมทำเข็นนานถึง 18 ปีก่อนที่จะหยุดลงอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย มันจากไปพร้อมกับปริศนาว่าสัตว์ประหลาด
แห่งฟลอเรนซ์ฆ่าคนเป็นจำนวนมากนี้เพื่ออะไรกันแน่?  ไม่มีใครให้คำตอบได้ นอกจากตัวฆาตกรเท่านั้น
 
   
Monster of Florence


 
สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์ หรือ Il Mostro (มีความหมายว่าสัตว์ประหลาด) เป็นฉายาของฆาตกรปริศนาที่ออกอาละวาด
สังหารคนถึง 16 ราย ในระหว่างปี 1968-1985 ในฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งภายหลังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยสามคนคือ 
เปโตร แพคเซียนี มาริโอ แวนนิก และ จีอันคาโล  ลอตตี้ ได้และถูกตัดสินว่าความผิด ส่วนในกรณีของเปโตร ภายหลังคดีนี้
มีการพิจารณาใหม่อีกครั้งผลปรากฏว่าเขาบริสุทธิ์ ส่งผลให้คดีนี้ยังไม่ได้ไขปริศนาเป็นที่กระจ่างจนถึงปัจจุบัน


 
นาย อันโตนีโอ และ นาง บาร์บารา เหยื่อรายแรกของสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์




คดีลึกลับนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเหยื่อรายแรกของ “สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์” คือคู่รักที่เป็นชู้กัน เมื่อในวันที่ 21 สิงหาคม ปี 1968
นาย อันโตนีโอ โล บิอังโค อายุ 29 ปี อาชีพกรรมกร  และ นาง บาร์บารา ล็อกซี่  อาชีพแม่บ้าน อายุ 32 ปี กำลังจะไปพลอดรักกัน
แม้ว่าบาร์บารา หญิงสาวจากลาสตรา อา ซิญญา ผู้นี้จะแต่งงานกับสามีและมีลูกแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังโหยหาความรัก โดยเป็นชู้
กับชายคนอื่นมากหน้าหลายตาลับหลังสามีอยู่บ่อยๆ จนเธอเป็นที่รู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองในความเป็นหญิงมากรักของเธอ
จนหลายคนตั้งชื่อเล่นเธอว่า “ควีน บีส”

วันนั้นนางบาร์บาราได้ออกเดทกับนายนายอันโตนีโอชู้รัก พร้อมพาลูกชาย นาทาลิโน เมล อายุ 6 ขวบมาด้วย  กับของเธอมาด้วย
หลักจากทั้งสองออกจากโรงภาพยนตร์เวลาเที่ยงคืน ทั้งสามคนพากันขึ้นขับรถ อัลฟ่าโรมิโอ จูเรียสต้า สีขาวของอันโตนิโอ ก่อนที่จะ
ออกรถเพื่อกินลมชมวิวในเซียน่า เมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของฟลอเรนซ์ โดยมีอันโตนีโอเป็นคนขับ ก่อนที่เขาหยุดรถลงป่าช้าแห่งหนึ่ง
ในที่ปลอดสายตาผู้คน โดยอันโตนีโอขอนางบาร์บารามีเพศสัมพันธ์กับเธอกันในรถ ซึ่งเธอตอบตกลงโดยไม่ลังเล

อัตโตนีโอถอดเสื้อผ้านางบาร์บาร่าอย่างรวดเร็ว แต่ความสนุกของคู่รักที่ผิดศีลธรรมนี้หยุดลงในช่วงสั้นๆ เมื่อมีเงามืดลึกลับเงาหนึ่ง
ปรากฏออกมาจากความมืด มันไม่พูดพร่ำทำเพลงมันชักปืน.22 บาร์เร็ตต้า แล้วลั่นไกปืนใส่ทั้งสองอย่างรวดเร็ว กระสุนพุ่งเข้าใส่คู่รัก
ในรถเจาะเข้ากะโหลกตายคาที่ ช่วงเวลาสังหารนั้นบุตรของบาร์บาร่า อายุ 6 ขวบกำลังหลับหลังรถ เมื่อฆาตกรเห็นเด็กแทนที่จะฆ่า
ฐานที่เป็นพยานที่เห็นตัวจริงของเขา แต่ฆาตกรกลับ ก่อนที่ฆาตกรจะคว้าบุตรของนางบาร์บาร่าออกจากรถและนำเขาไป



ในเวลาต่อมา เวลาประมาณตีสอง เกษตรกรท้องถิ่นคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุนั้นก็ได้ยิงเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้านของเขา เมื่อเปิดประตู
ออกมาเขาเห็นเด็กอายุหกขวบหน้าตานองหน้าที่เท้าสวมแค่ถุงเท้ายาวเท่านั้น เด็กน้อยสะอื้นร้องแล้วพูดตระกุกตะกักว่า

“แม่ของผมและลุงของผมตายแล้ว”

จากนั้นเด็กน้อยก็เล่าอีกว่า แม่ของเขาถูกฆาตกรฆ่า และมันก็พาเขาลงมาจากรถ พร้อมบอกเขาว่ามันไม่อยากทำร้ายเด็ก
ก่อนที่จะปล่อยตัวเขาในทางข้างหน้า เกษตรกรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

 
   

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพวกเขาได้พบศพของบาร์บาร่าและชู้รักนอนตายอยู่ข้างหน้าเบาสะรถที่จอดข้างทางใกล้
ป่าช้าเซียน่า โดยมีประตูหน้าด้านคนขับเปิดอ้าอยู่ เมื่อทำการตรวจดูคราวๆ ตำรวจรู้ทันทีว่าทั้งสองถูกยิงระหว่างกำลังเริ่มกอดจูบกัน
หากแต่ระหว่างนั้นทั้งสองกับสะดุ้งมือมีใครบางคนยิงกระสุนปืนนับไม่ถ้วน บาร์บาร่าถูกยิงในขณะถกกระโปรง 4 นัดอย่างต่อเนื่อง
อย่างรวดเร็วจนแถบไม่ได้หนีออกจากรถ กระสุนทะลุไหล่ซ้าย ด้านหลัง ใบหน้า เธอตายคาที่ทันที ส่วนฝ่ายชายถูกยิงในขณะถกกางเกง
จากการสำรวจโดยรอบที่เกิดเหตุตำรวจหลักฐานคือ ปลอกกระสุน 22. บาร์เร็ตต้าจำนวนมากตกอยู่ และจากการสืบคดีอย่างคร่าวๆ


ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคดีนี้คงเป็นเรื่องพิศวาสฆาตกรรม ผู้ต้องสงสัยคือสามีของนางบาร์บาร่าชื่อ นายสเตฟาโน่ Mele
บาร์บาร่า ซึ่งในระหว่างที่ตำรวจไปหาเขานั้นก็พบว่าเขากำลังเตรียมกระเป๋าเดินทางเหมือนกำลังออกจากบ้านท่าทางรีบร้อนพอดี
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนเขาก็พบพิรุธหลายจุด ส่งผลทำให้คดีนี้จบลงต้องสามีของบาร์บาร่าต้องชดใช้กรรมฟรีๆ หกปีในคุก
เนื่องจากเขาสารภาพว่าฆ่าภรรยาและชู้ด้วยตัวเขาเอง โดยหารู้ไม่ว่านี้เป็นเพียงแค่เหยื่อรายแรกของฆาตกรที่มีฉายาสัตว์ประหลาด
แห่งฟลอเรนซ์เท่านั้น เพราะในเวลาต่อมาก็มีเหยื่อจำนวนมากมายที่ตายเพราะปืน.22 บาร์เร็ตต้า ปืนกระบอกเดียวกับอาวุธที่สังหาร
นางบาร์บาร่าและชู้รักของเธอนั่นเอง
 
 
 
หลังจากคดีฆาตกรรมนายอันโตนีโอ และนาง บาร์บาราผ่านไป 6 ปี มอนสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์ก็กลับมาอีกครั้ง



15 กันยายน 1974  สเตฟาเนีย เปตตินี อายุ 18 ปี เลขานุการของบริษัทแห่งหนึ่งในฟลอเรนซ์ และปาลเคล เจนทิวคอร์ อายุ 19 ปี
อาชีพบาร์เทนเดอร์ ทั้งสองคู่รักถูกยิงเสียชีวิตและถูกแทงในขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์กันบนเฟียต 127 สีฟ้า ป้ายทะเบียน FI598299
ในเส้นทางเส้นทางเปลี่ยวแถวไร่องุ่นและทุ่งข้าวสาลีในเมืองบอร์โก ซาน โลเรนโซ


จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและศพ ก็พบเรื่องน่าสยดสยองเพราะเหยื่อสองรายนี้ถูกฆ่าอย่างทารุณ ฝ่ายชายปาลเคลถูกยิงด้วย
กระสุนปืน 22. บาร์เร็ตต้ามากกว่าห้านัด จากปืนกระบอกเดียวกับที่สังหารนายอันโตนีโอ และนาง บาร์บาราเมื่อ 6 ปีก่อน กระสุนถูกยิง
ทะลุกระจกรถข้างคนขับจนกระจกแตก ก่อนที่กระสุนจะทะลุเนื้อสะโพกขวาของฝ่ายชายในสภาพเปลือยครึ่งตัวสวมแค่กางเกงในและถุงเท้า
จนนอนตายคนที่ เลือดอาบบนในที่นั่งคนขับรถเฟียต ที่เขายืมพ่อมาขับ ที่ด้านหลังรถสเตฟาเนียถูกฆ่าโหดยิ่งกว่านั้นหลายเท่า
ศพของเธออยู่ด้านหลังของรถเฟียตร่างกายนอนเปลือยเปล่าราวกับตุ๊กตาชำรุด ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดเพราะถูกแทงอาวุธที่คาดว่า
จะเป็นมีดยับกว่า 97 แผล แผลทั้งลึกและยาวถึง 12 เซนติเมตร และอวัยวะเพศของเธอถูกตัดออก คาดว่าฆาตกรคงลากเธอ
(ซึ่งถูกยิงในสภาพเปลือยกายบนรถก่อนหน้าแล้ว สามนัด) มาฆ่าโหดบนพื้นดินหลังจากฆ่าฝ่ายชายเรียบร้อย

ที่น่าแปลกใจก็คือ สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมนั่นอยู่ไม่ไกลจากดีสโก้ “ทีนคลับ” สถานที่ที่ทั้งสองดื่มกินกับเพื่อนๆ ก่อนไปพลอดรักและถูกฆ่า
ไม่กี่ชั่วโมง โดยชั่วโมงก่อนสังหารนั่นสเตฟาเนียเคยพูดกับเพื่อนสนิทว่ามีชายแปลกน่าท่าทางประหลาดกำลังจ้องมองเธออยู่ ดวงตานั้น
จ้องเขม็งจนเธอรู้สึกกลัวมาก

แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรู้ว่าคดีนี้มีความเหมือนกับคดีสังหารนางบาร์บาร่าและชู้รักเมื่อ 6 ปี ก่อน แต่กระนั้นที่เกิดเหตุไม่มีหลักฐานใดๆ
ที่จะโยงไปถึงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องและยาวไปถึงตัวฆาตกรตัวจริงได้ ทำได้แต่สันนิษฐานว่าฆาตกรต่อเป็นพวกบ้าคลั่งและเบี่ยนเบนทางเพศเท่านั้น
 


คดีที่สาม 6 มิถุนายน 1981 สี่ปีหลังคดีฆาตกรรมครั้งที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปวดหัวอีกครั้ง  เมื่อเวลาเก้าโมงเช้า ตำรวจนายสิบ
ในประเทศและลูกชายอายุ 4 ปี ได้พบศพสองคู่รักคือ จิโอเวนนี่ ฟอกจิ เจ้าของโกดัง ENEL อายุ 30 ปี และ คาร์เมลา ดิ  นัคซิโอ
ผู้ช่วยร้านขายของชำ อายุ 21 ปี ถูกยิงและแทงเสียชีวิตในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุใกล้กับสกันดิกซีที่พวกเขาอาศัยอยู่
การฆาตกรรมมีส่วนคล้ายคดีที่สองเห็นได้ชัดว่าฆาตกรเป็นคนเดียวกัน ผู้ชายและผู้หญิงถูกยิงในขณะพลอดรักบนรถเฟียตสีน้ำตาลแดง
ที่จอดข้างทาง จากนั้นฆาตกรแทงผู้ชายสามแผล สองที่คอและอีกหนึ่งที่หน้าอก ส่วนฝ่ายหญิง ฆาตกรได้ยกเธอจากจุดที่ฝ่ายชายตาย
และออกเดินไกลประมาณ 12 เมตรก่อนที่จะฆ่าโหดบนพื้นในสวนมะกอก มันแทงด้วยมีดหลายครั้งที่หัวหน่าวและรอยบากตามอวัยวะเพศ
และตามร่างกาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการคุมตัว เอ็นโซ่ สปัลเล็ตติ วัยรุ่นผู้ต้องหาที่เป็นพวกถ้ำมองที่ได้พูดถึงคดีฆาตกรรมคดีนี้
ก่อนหน้าอย่างละเอียดราวกับอยู่ในเหตุการณ์ทำให้กับภรรยาของเขา ผลคือเขาต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนานกว่าสามเดือน
ก่อนถูกปล่อยตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อฆาตกรสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์ทนรอข้ามปีไม่ไหว มันจึงก่อคดีทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปไม่กี่เดือน
 

 
ตอนสิบโมงครึ่งตอนเช้า ของวันที่ 23 ตุลาคม 1981 ผ่านไปไม่กี่เดือนในคดีฆ่า สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อมีการ
พบศพสองคู่หนุ่มสาว คือ นาย สเตฟานโน บัลดิ คนงานอายุ 26 ปี และ นาง ซูซานนา แคมบิ พนักงานต่อสายโทรศัพท์อายุ 24 ปี
ทั้งสองถูกยิงและถูกแทงเสียชีวิตคารถขณะพลอดรักกันในรถสีดำทะเบียน A21640 Fi โดยจอดชมวิวแถมทุ่งหญ้าใกล้ฟาร์ม บริเวณเมือง
คาเลนซาโน่ ทางตอนเหนือในฟลอเรนซ์ ลักษณะศพของทั้งสองเหมือนเหยื่อรายก่อนหน้าที่ไม่ผิด คือฆาตกรยิงเหยื่อทั้งสองผ่านกระจก
หน้าต่างด้านหน้าในขณะที่กำลังพลอดรัก ฝ่ายชายอยู่ในสภาพครึ่งเปลือยสวมแต่กางเกงและถุงเท้า ส่วนฝ่ายหญิงยังใส่เสื้อผ้าครบ
ถูกยิงปืน.22บาร์เร็ตต้าเหมือนการฆาตกรรมสองครั้งก่อนหน้า


เมื่อยิงเสร็จฆาตกรก็จัดการแทงฝ่ายชายหลายครั้งด้วยมีดห้าครั้งไม่ว่าจะเป็นด้านล่างหัวนม ใต้รักแร่ หน้าอก หัวใจ และปอด
ส่วนฝ่ายหญิงหลังเธอถูกยิงฆาตกรยกเธอมาฆ่าห่างจากรถที่ฝ่ายชายตายประมาณ 3 เมตรตรงข้ามกับยานพาหนะ หญิงสาว
ถูกแทงหลายครั้งที่หน้าอก ใต้เต้านมซ้าย กระดูกสะบ้า ฯลฯ ช่องคลอดของเธอถูกตัดออกเหมือนกรณีของนาง นัคซิโอ   
หลังจากวันเกิดคดีฆาตกรรม แม่ของเธอได้ให้การกับเจ้าหน้าตำรวจว่าลูกสาวของเธอได้คุยกับเธอก่อนวันที่เธอจะถูกฆ่า
ว่ามีใครบางคนกำลังทำให้เธอทรมาน
 


 
หนึ่งปีต่อมา 19 มิถุนายน 1982 เพาโล มาอินาร์ดิ ช่างเครื่อง  อายุ 22 ปี และ แอนโทเนลล่า มิกลิโอรินิ อายุ 20 ปี อาชีพตัดเสื้อสตรี
ที่ทำงานร่วมกันและกำลังจะถึงกำหนดแต่งงานไม่กี่เดือนข้างหน้า หากแต่ก็ไม่ถึงวันนั้น เมื่อพวกเขาถูกฆาตกรโจมตีในขณะที่ทั้งสอง
อยู่ในรถเฟียตสีขาวป้ายทะเบียน A90112 Fi เมื่อประมาณเวลาห้าทุ่มสิบห้านาที บนถนนแถวชนบทไมนาร์ดดิ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ของฟลอเรนซ์ซึ่งเป็นเมืองประวัติอันเก่าแก่


ที่น่าแปลกคือการฆาตกรรมครั้งนี้ฆาตกรไม่ได้ฆ่าแบบรอให้รถจอดให้คู่รักพลอดรักก่อนค่อยฆ่า หากแต่มันปรากฏตัวกะทันหันที่พุ่มไม้
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะหาที่จอดพลอดรัก จากนั้นมันก็ยิงปืน 22. บาร์เร็ตต้าทั้งสองผ่านกระจกคนขับแตกกระสุนทะลุผ่านสองคู่รัก
จนรถเสียหลักตกลงข้างทางบริเวณคูน้ำจนสภาพด้านหน้ารถยับเยิน  จากนั้นฆาตกรก็ยิงผ่านกระจกด้านฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงตายเกือบทันที
เพราะโดนกระสุนเต็มๆ หากแต่ฆาตกรไม่ได้ลงมือโหดฝ่ายผู้หญิงมากมายนักและไม่ได้ตัดอวัยวะเพศหญิงเหมือนเหยื่อรายก่อนหน้า
อีกทั้งฝ่ายชายยังคงมีชีวิตอยู่จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถพยาบาลมารับตัว

สันนิษฐานว่าฆาตกรคงกลัวจะมีใครมาเห็นเพราะสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่สถานที่เปลียวมีรถผ่านมาเป็นระยะทำให้ฆาตกรไม่มีเวลา
ที่จะลงมือกระทำใดๆ มากมายนัก(ศพถูกพบเวลาประมาณห้าทุ่มครึ่ง) ฝ่ายชายที่ถูกยิงจนบาดเจ็บหายใจรวยรินถูกนำตัวส่งเข้าไป
รักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็สายไปแล้วที่จะช่วยชายคนนี้รอดพ้นจากมือมัจจุราช  ผลสุดท้ายเขาก็สิ้นลม
เมื่อเวลาแปดโมงเช้าวันถัดมา

   เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มตระหนักแล้วว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับฆาตกรต่อเนื่อง คดีต่างๆ ที่เกี่ยวกับฆ่าคู่รักล้วนเชื่อมโยงกับฆาตกรรายนี้ทั้งสิ้น
ด้วยอาวุธสังหารที่ใช้ชนิดเดียวกัน วิธีการฆ่าเหมือนกัน ลักษณะเหยื่อที่เหมือนกัน สื่อมวลชนและประชาชนเริ่มให้ความสนใจคดีนี้และเรียกร้อง
ให้เจ้าหน้าตำรวจและทางการไขคดีนี้ให้ได้ หากแต่ฆาตกรที่ชื่อว่าสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์นั้นฉลาดมาก แม้มันจะฆ่าคนมากมาย
แต่มันก็ไม่ได้ทิ้งหลักฐานที่สามารถสาวถึงตัวมันได้เลย และดูเหมือนมันจะไม่หยุดอยู่ที่เหยื่อตรงนี้แน่ มันจะฆ่าคนต่อไป ตราบเท่าที่มันไม่ถูกจับ

   สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ในตอนนี้ ก็คือการคาดเดาว่าฆาตกรรายนี้น่าจะเป็นคนแบบไหน จากการวิเคราะห์ลักษณะ เชื่อว่า ฆาตกรรายนี้
น่าจะมีความผิดติดตัวหรือเคยถูกจำคุก โดยดูได้จากการหยุดการก่อเหตุฆาตกรรมที่ทิ้งช่วงหลายปี


เริ่มจากคดีแรกทิ้งช่วง 6 ปีก่อนจะเกิดคดีที่สอง และหลังจากคดีที่สองก็ทิ้งช่วง 4 ปี ก่อนจะเกิดคดีที่สาม ฆาตกรน่าจะเป็นพวกสังคมกลางคืน
เพราะว่าเหยื่อทั้งหมดถูกฆ่าตอนช่วงเย็นในขณะที่พวกเขาออกจากดิสโกเทค ซึ่งฆาตกรน่าจะอยู่ที่นั่นเวลานั้น ฆาตกรน่าจะทำงานและสามารถ
หยุดงานโดยไม่มีใครสงสัย และที่สำคัญฆาตกรเกลียดคู่รักชายหญิงอาจเป็นเพราะการนับถือศาสนาหรือนิยายเหนือธรรมชาติที่สอนข้อห้ามดังกล่าว
และมันจะหาโอกาสฆ่าหากเห็นชายหญิงเหล่านี้อยู่ตามลำพังในสถานที่เปลียวลับตาคน

ส่วนสาเหตุที่ฆาตกรตัดอวัยวะเพศหญิงสาวไปก็เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประกาศเตือนชาวเมืองว่าอย่าไปไหน
เป็นคู่ตอนกลางคืน และไม่ควรจอดรถในสถานที่ลับตาคน มิฉะนั้น คุณจะเป็นเหยื่อของฆาตกรรายได้ เพราะมันสามารถปรากฏตัวได้ทุกเวลา
ทุกโอกาส และสามารถฆ่าคุณและคู่รักของคุณได้อย่างรวดเร็วโดยทั้งคู่ไม่ทันหายใจด้วยซ้ำ แม้ทางการจะประกาศเตือนแค่ไหนก็ตาม
ก็มีผู้ตกเป็นเหยื่ออยู่ดี
 
   

วันที่ 9 กันยายน 1983 สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์กลับมาอีกครั้งหากแต่คราวนี้มันได้ก่อคดีที่ทำลายรูปแบบของมันโดยสิ้นเชิง
เพราะมันได้ฆาตกรรมชายสองคน คือ นาย ฮอร์สต์ วิลเฮล์ม เมเยอร์ อายุ 24 ปี และ นาย เยนส์ อูเว่ รัสช์ อายุ 24 ปี
สองนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน และเป็นพวกรักร่วมเพศ(ไม่มีการยืนยัน) ทั้งสองถูกยิงตายในขณะนอนหลับในรถบัสโฟล์คสวาเก้น แซมบ้า
ที่จอดอยู่ข้างสวนของฟาร์มแห่งหนึ่งในแกลลัสโซ่ ทางตอนใต้ของฟลอเรนซ์  โดยฆาตกรได้ยิงกระสุนปืนทะลุกระจกรถและตัวรถ
(นอกจากนี้ฆาตกรยังยิงยางรถเพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อขับรถหนีด้วย)


สองผู้ชายตายคาที่และศพถูกพบเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่งในเย็นวันนั้น ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่คิดว่าคดีนี้จะเกี่ยวข้องกับฝีมือของ
สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์เพราะไม่ใช่รูปแบบการฆ่า หากแต่ผลการพิสูจน์หลักฐานพบว่าปืนที่สังหารคู่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน
เป็นกระสุนจากปืน .22 อาวุธชนิดเดียวกัน ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าความจริงแล้วฆาตกรตั้งใจจะฆ่าคู่รักหนุ่มสาว แต่ฆาตกรดันเข้าใจผิด
เนื่องจากรัสช์นั้นมีผมยาวสีบลอร์ดและรูปร่างบอบบาง ทำให้เขามีลักษณะเหมือนผู้หญิง ทำให้ฆาตกรคิดไปเองว่าเป็นคู่นักหนุ่มสาวมากกว่า
ทำให้เป็นการฆ่าผิดคิวดังกล่าว

 

 
สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์เลิกออกอาละวาดไปเกิบปีก่อนที่จะกลับมาอีกครั้ง ในวันที่ 29 กรกฎาคม 1984 นักศึกษา คลอริโอ สเตฟานาคซิ
อายุ 21 ปี และ สาวบาร์ เปีย กิลดา รอนทินิ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคู่รักกัน ฆาตกรได้ฆ่าคู่รักนี้ตามแบบฉบับฆ่าเหยื่อก่อนหน้า
คือมันยิงปืน .22 บาร์เร็ตต้าผ่านหน้าต่างรถคู่รักเสียชีวิตคารถเฟียต ที่จอดในพุ่มไม้ใกล้ วิคซิโอ ดี มูเกลโล่ ทางตอนเหนือของฟลอเรนซ์
(คาดว่าตอนเกิดเหตุเป็นเที่ยงคืน)ฝ่ายชายถูกยิงและถูกแทงกว่า 10 แผลนอนตายด้านหลังของรถโดยใส่กางเกงในและเสื้อยืดเท่านั้น

ส่วนฝ่ายหญิงสาวถูกฆ่าโหด โดยฆาตกรยกเธอในร่างเปลือยไปหลังพุ่มไม้ไม่ห่างจากรถประมาณ 10 หลา ก่อนที่จะแทงเฉือนเธอกว่า 100 ครั้ง
พร้อมกับตัดเต้านมซ้ายของผู้หญิงเป็นที่ระลึกก่อนจากไป ศพชายหญิงถูกพบในวันรุ่งขึ้นหลังจากคนทางบ้านทั้งสองแจ้งความว่าลูกชาย
และลูกสาวของพวกตนหายไป


 
วันที่ 7-8 กันยายน 1985  ฌ็อง มิแชล คราเวียซ์วิลลิ นักดนตรี อายุ 25 ปี และ  นีดาน มัวโรทแม่ค้าอายุ 36 ปี คนรักจากออแดง-โคต์
ประเทศฝรั่งเศสที่มาพักผ่อนตั้งแคมป์ในประเทศอิตาลี ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกยิงและถูกแทงในขณะนอนหลับในเต็นท์ขนาดเล็กในเขตป่าใกล้ซาน
คาสเซียโน นอกเมืองฟลอเรนซ์ โดยศพฝ่ายชายอยู่ไม่ไกลจากเต็นท์ประมาณ 30 หลา สันนิษฐานว่าเขาพยายามหนีฆาตกรที่ซุ่มอยู่พุ่มไม้
แต่หนีไม่พ้น ส่วนร่างของหญิงสาวถูกยิงสี่นัดแทงไม่ยั้งที่อกและลำคอพร้อมตัดเต้านมซ้ายเก็บเป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเหตุการณ์
ฆาตกรรมนี้เสร็จสิ้นภายในระยะแค่ 10 นาที


และคดีฆาตกรรมคู่ชาวฝรั่งเศสนี้ฆาตกรได้แสดงความท้าทายโดยฆาตกรได้ส่งซองจดหมายไปให้ เดลล่า ซียเวียอัยการรัฐโดยบอกว่าตนได้
ฆ่าชาวต่างชาติสองคนที่ยังไม่มีรายงานว่าสูญหาย พร้อมแนบชิ้นส่วนเต้านมด้วย(โดยศพของคู่รักนี้ถูกพบโดยพรานล่าสัตว์ไม่กี่ชั่วโมงก่อน
ที่จดหมายดังกล่าวมาถึงโต๊ะทำงานของอัยการ) โดยในจดหมายใช้ตัวอักษรที่ตัดจากนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์มาแปะเป็นประโยค
โดยมีสะกดคำผิดเพียงครั้งเดียว ส่วนชิ้นส่วนเต้านมซ้ายบรรจุในถุงพลาสติกขนาดเล็กที่แนบในซอง
   
 
แพคเซียนี เปโตรผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ


 
ในหลายปีที่ผ่านมา คดีของมอนสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์ใช่ว่าจะไม่คืบหน้า หลังจากทีมงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายสืบสวนพยานหลายปาก
จนกระทั้งระหว่างปี 1990 พวกเขาก็ได้พบผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งชื่อ  แพคเซียนี เปโตรเกษตรกรอายุ 68 ปี มีนิสัยชอบล่าสัตว์และสตาฟ์สัตว์
จากการสอบสวนจริงจังก็พบว่าเขาเคยถูกจับกุมในปี 1951 ในข้อหาฆ่าพนักงานขายหญิงโดยการจับมันแล้วแทงพนักงานรวม 19 แผล
ก่อนที่จะเหยียบย่ำด้วยการให้เขาข่มขื่นศพ เขาถูกตัดสินอย่างรวดเร็วและพิพากษาให้จำคุก 13 ปี และเมื่อเขาถูกปล่อยเขาก็ได้แต่งงาน
และมีครอบครัว แต่กระนั้นเขาก็ติดตะรางอีกครั้งระหว่างปี 1987 และ 1997 ในข้อหาตีภรรยาและกระทำชำเราลูกสาวทั้งสองของเขา

นอกจากนี้จากการสอบสวนพบว่า แพคเซียนีมีส่วนรวมในกลุ่มนับถือลัทธิไสยศาสตร์กับชายสามคนคือมาริโอ แวนนิก, จีอันคาโล  ลอตตี้
และ จิโอวานนิ แฟคจิ (ทั้งหมดมีประวัติเป็นนักข่มขืน นักถ้ำมองที่ออกหาเหยื่อตอนกลางคืน)
 
 
แพคเซียนี เปโตรในชั้นศาล

<a href="https://www.youtube.com/v/62ymmEJMpr0" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/62ymmEJMpr0</a>

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่รู้ว่า แพคเซียนี เปโตรเป็นฆาตกรต่อเนื่องสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์จริงหรือเปล่าเพราะพวกเขาไม่มีหลักฐาน
เอาผิดเขาแน่ชัด แต่เนื่องด้วยความกดดันจากหลายฝ่าย ส่งผลทำให้ Pacciani Pietro ถูกจับกุมเมื่อ 17 มกราคม 1993
และเริ่มสู้ทางชั้นศาลเมื่อปี 1994 แน่นอนว่าคดีนี้ได้ที่เป็นสนใจอย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และหลายสื่อได้เปิด
สายด่วนมอนสเตอร์เพื่อให้ผ็สนใจโทรมาสอบถามความคืบหน้าของข่าว


   ในห้องพิจารณาคดีไม่รู้ว่า แพคเซียนีมีความเจนจัดในประสบการณ์ขึ้นศาล หรือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์กันแน่ เขาแสดงท่าทีที่สงบนิ่งเหมือน
เด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรก็ตามวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1996 ศาลได้พิพากษาจำคุกแพคเซียนี เปโตร71 ปี พร้อมด้วยพรรคพวก
ของเขาก็โดนหนักไม่แพ้กัน มาริโอ แวนนิก โดดน 70 ปี, จีอันคาโล  ลอตตี้ โดน 54 ปี และ จิโอวานนิ แฟคจิ โดน 77 ปี ตามลำดับ




หากแต่การตัดสินนี้หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตว่าเขาและพรรคพวกนั้นเป็นสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์ตัวจริงหรือ?? ท่ามกลางปริศนามากมาย
ที่ยังไม่สามารถไขกระจ่างได้ หลายฝ่ายพยายามรื้อคดีนี้ขึ้นมาพิจารณา หากแต่กระนั้นก็สายไปเสียแล้วเมื่อ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1998
แพคเซียนีก็ดันมาตายเสียในขณะคุมขังในลักษณะคว่ำหน้า จากการสันนิษฐานสรุปว่าเขาได้เพราะสภาวะหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากพิษยาเสพย์ติดสะสม
แต่กระนั้นหลายฝ่ายต่างให้ความเห็นว่าเป็นการฆ่าปิดปาก

 
มอนสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์


   ในปี 2001 มีการรื้อคดีมอนสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์อีกครั้ง แม้คดีจะปิดไปนาน แต่กระนั้นทางการเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้หลักฐานและผู้ต้องสงสัยใหม่
ตำรวจเชื่อว่าฆาตกรที่จะจับมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งโดยเชื่อว่าฆาตกรนี้จะเป็นนิยายลัทธินอกรีดที่มีทั้งเงินและอุปกรณ์ฆ่าไม่ว่าจะเป็นปืนหรือมีด
และนิกายดังกล่าวจะทำตัวเหมือนเพชรฆาตหาเหยื่อฆ่ายามค่ำคืน

   ในเดือนกันยายน 2001 เจ้าหน้าที่ตำรวจในฟลอเรนซ์ได้ทำการค้นบ้านและสำนักงานของ นีกจิตวิทยา ฮูรีลิโอ แมททาย ทั้งสองถูกสอบสวน
นานกว่าเก้าชั่วโมงแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตั้งข้อหาคดีฆาตกรรม และปัจจุบันคดีฆาตกรรมมอนสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์ยังคงลึกลับ


 
หนังสือ “The Monster of Florence: A True Story”
 
เรื่องราวของสัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์นั้นถูกทำเป็นหนังสือแนวอิงอาชญากรรมในชื่อ “The Monster of Florence: A True Story(2008)”
โดย  Douglas Prestonและ  Mario Spezi ซึ่งมีกำหนดที่จะสร้างหนังจากหนังสือเล่มนี้ ในขณะที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างเป็นภาพยนตร์อิงเรื่องจริง
ในชื่อ “The Monster of Florence (1986)” มาแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มกราคม 2015, 16:05:27 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

PLAYBOY ขั้นเทพ

  • V.I.P.
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1345
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +6/-2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: Monster of Florence สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 มกราคม 2015, 21:45:12 »

ยังคงลึกลับต่อไป
***** PLAYBOY ขั้นเทพ #  PRESENTS   การบ้านสะท้านปฐพี   ==> ความมันส์!..กำลังจะบังเกิดแล้วครัชพี่น้อง *****

Daddy Cm

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 90
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: Monster of Florence สัตว์ประหลาดแห่งฟลอเรนซ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 25 มกราคม 2015, 22:07:42 »

ลึกลับแท้