-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Anatoly Onoprienko เสียงของพระเจ้า  (อ่าน 1036 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18221
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Anatoly Onoprienko เสียงของพระเจ้า
« เมื่อ: 22 มกราคม 2016, 16:08:39 »

Anatoly Onoprienko เสียงของพระเจ้า

<a href="https://www.youtube.com/v/29jcrf81ZJ0" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/29jcrf81ZJ0</a>

ยูเครนเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป หลังจากที่โซเวียตล้มสลาย ประเทศตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออก
มีอาณาเขตติดอับรัสเซีย, เบลารุส, โปแลนด์, สโลวาเกีย และฮังการี, มอนโดวา และโรมาเนีย
มีประชากรกว่า 50 ล้าน

ดินแดนของยูเครนส่วนใหญ่เป็นดินแดนที่ไม่ค่อยมีต้นไม้ จุดเด่นคือเทือกเขาไครเทียในคาบสมุทรไครเมีย และเทือกเขา
คาร์พาเทียนทางทิศตะวันตก สภาพภูมิอากาศอยู่ในระดับปานกลางและฤดูหนาวค่อนจข้างหนาว พื้นที่ส่วนใหญ่เน้นการเกษตร
ชาวนาปลูกข้าวสาลี ข้าวโพด โซบะ และผักผลไม้หลากหลาย ยูเครนยังเป็นศูนย์ของโลกที่ผลิตน้ำตาล

นอกจากนี้ประเทศยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน แร่โลหะต่างๆ น้ำมัน ก๊าซ ฯลฯ
และมีความหลากหลายของอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่กระจุกตัวมในเมืองใหญ่ เช่น เคียฟ, ดนีโปรเปตรอฟสค์ และซาโปริจเจีย 
พวกเขาผลิตเครื่องบิน เรือ รถยนต์ รถโดยสาร หัวรถจักร เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการวัด
เครื่องจักรการเกษตร และสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ


ณ เมืองแห่งหนึ่ง ชื่อซิตโทเมียในยูเครนตะวันตก เมืองแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ของทหารโซเวียตในช่วงสงครามเย็น
แต่หลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลง เมืองดังกล่าวก็เงียบเหงา ฐานทัพของเมืองมีเพียงตำรวจตรวจการณ์นานๆ ครั้งจะออกมา
ดูความสงบเรียบร้อยเท่านั้นเอง และแล้วในวันที่ 16 เมษายน 1996 ที่เมืองแห่งนี้เองก็ได้ตำรวจธรรมดาสองนายได้
จับกุมชายคนหนึ่ง ที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่า ชายคนนั้นในเวลาต่อมาได้รับการจารึกว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุด
ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของยูเครน

 
 

อนาโตลี อโนพรินโก


 
อนาโตลี อโนพรินโก (เกิด 25 กรกฏาคม 1959) ฆาตกรต่อเนื่องจากยูเครนที่ได้รับฉายาว่า “เดรัจฉานแห่งยูเครน”, “พลเมือง O”,
คนเหล็ก ที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องมีปี 1989-1996 ซึ่งสารภาพว่าฆ่าคนไปถึง 52 คน

อนาโตลี อโนพรินโก เกิด 25 กรกฏาคม 1959 ในเมืองเลสิค ประเทศยูเครน มีพี่คนหนึ่ง(อายุ 13 ปี) พ่อของเขา ยูริ อโนพรินโก
เคยเป็นทหารกล้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กระนั้นก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู อนาโตลี ที่สูญเสียแม่ไป ตั้งแต่ 4 ขวบ เขาเลยถูกส่งให้
ญาติเลี้ยงดู สุดท้ายเขาก็ถูกโยนทิ้งขว้างไปให้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ายูเครนช่วยเลี้ยงดู ซึ่งอนาโตลีได้เล่าภายหลังว่าสถานที่
เลี้ยงเด็กกำพร้านั้นถือว่าเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเขาในอนาคตก็ว่าได้ เพราะมันเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการก่ออาชญากรรม
ในอนาคตของเขา เขาเติบโตด้วยความเกลียดชังเพราะเป็นเขาเป็นเด็กที่ใครๆ ไม่ต้องการ


ในปี  1989 อนาโตลีเกิดปัญหาทางจิตและเครียดจากงาน เขาเริ่มฆ่าเหยื่อครั้งแรกเมื่ออายุ 30 ปีตามมาตราฐานอายุเฉลี่ยฆาตกร
ต่อเนื่องที่ก่อคดีฆ่าครั้งแรก โดยเขายิงคนที่ขับรถยนต์ด้วยความรู้สึกที่ว่า


“ผมเพิ่งยิงพวกเขา มันใช่ว่าผมจะมีความสุข แต่ผมก็รู้สึกว่ากระตุ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ฆ่าคนเหมือนกับเป็นเกม”

ดูเหมือนว่าอนาโตลีจะเป็นคนที่เกลียดครอบครัวที่อบอุ่น เพราะว่ารูปแบบการฆ่าของอนาโตลี เป็นการฆ่าแบบยกครัว โดยเขาจะ
เลือกบ้านที่ห่างไกลจากชุมชน โดดเดี่ยวจากนั้นเขาก็บุกรุกบ้าน จัดการฆ่าผู้อยู่อาศัยในบ้านทั้งหมด เริ่มต้นเพศชาย และคู่สมรส
และสุดท้ายก็ลงมือกับเด็กเล็กในที่สุด จากนั้นก็เก็บหลักฐาน ปกปิดร่องรอย ซ้ำบางครั้งเขายังฆ่าพยานที่โชคร้ายที่เห็นเขาระหว่าง
ทางกลับจากการฆ่า หลายครอบครัวถูกฆ่าติดๆ กันไม่นานในหมู่บ้านเดียวกัน เมื่อตำรวจเข้ามาตรวจและรักษาความปลอดภัย
ทั่วบริเวณ เขาจะหนีไปหมู่บ้านอื่นๆ และก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องต่อไป



อนาโตลีถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1996 ในข้อหามีอาวุธปืนยาวล่าสัตว์ครอบครองแบบผิดกฎหมาย  เมื่อตำรวจทำการตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเพชรพลอย เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็พบว่ามันตรงกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นเวลานี้ อาวุธที่ใช้หลายชนิดมีหมายเลข
ตรงกับรายการที่เป็นของที่หายไปของเหยื่อ

ในขณะที่คุมขังอนาโตลีก็สารภาพว่าเขาได้ฆ่าคนแปดคนระหว่างปี 1989-1995 หากแต่เมื่อเขาถูกรุกหนัก ในที่สุดเขาก็สารภาพว่า
เขาฆ่าผู้บริสุทธิ์ถึง 52 คน ในช่วง 6 ปี โดยสาเหตุที่ฆ่าเขาได้อ้างว่าเขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งเสียงภายในสมองของเขาเพื่อฆ่าคน

อนาโตลีได้เล่าว่าเขาเริ่มฆ่าคนในปี 1989 ซึ่งเขาได้ร่วมมือกับชายคนหนึ่งชื่อ “เซอร์เก โรโกซิน” (Serhiy Rogozin) ปล้นฆ่าคนเก้าคน
ส่วนเสียงเขาได้ยินตั้งแต่อายุ 7 ปี หลังจากพี่สาวของเขาส่งเขาไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังจากแม่ของเขาเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าเขาไม่มีความสุขในการฆ่า “ศพมันน่าเกลียด”

เขากล่าวอย่างไม่พอใจ
“พวกเขาส่งกลิ่นเหม็นร้ายเกินทน ครั้งหนึ่งเมื่อผมฆ่าคนห้าคนจากนั้นก็นั่งอยู่ในรถ ผมก็ไม่พบว่า
ร่างกายของศพเมื่อผ่านไปสองชั่วโมง กลิ่นเหลือทนมาก”


อนาโตลียังคงออกอาละวาดตัวคนเดียวในปลายปี 19925 ซึ่งในหกเดือนถัดไปเขาฆ่าไปอีก 43 คน

ในเดือนมีนาคม 1995 ตำรวจเริ่มหวาดกลัวกับตัวเลขของเหยื่อฆาตกรรต่อเนื่องในยูเครนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฆาตกรเริ่มอย่าเหยื่อไปทั่วทางตะวันตกของยูเครน หลังจากมี 8 ครอบครัวถูกฆ่าตายอย่างทารุณในบ้านของพวกเขา
หลายคนตกเป็นเหยื่อของอนาโตลีอาศัยอยู่ในบ้านห่างไกล ใกล้ชายแดนของโปแลนด์

   

   
เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของอนาโตลีก็หายไป มาโผล่อีกทีก็อยู่ในฐานะฆาตกรต่อเนื่องแล้ว  แต่พออธิบายได้ว่า
ในช่องว่างระหว่าง 5 ปี (1989-1995) เขาได้ออกจากประเทศยูเครนและเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย
และเยอรมัน หากแต่เขาก็ถูกเนรเทศออกจากสองประเทศ แม้ว่าทั้งสองประเทศจะให้การปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็ตาม


อนาโตลีได้เล่าว่าเขาทำงานเป็นกรรกรใช้แรงงานในเวลานั้น แต่หลังจากเขาเป็นฆาตกรรายได้หลักเขามาจากการขโมยทรัพย์สิน
ส่วนใหญ่ของเหยื่อ ย่องเบา หรือว่าปล้น แต่เขาปฏิเสธคำรับสารภาพว่าเคยฆ่าเหยื่อนอกประเทศยุโรป

เขาได้เหยื่อ 52 ตามแบบของเขา เขาเลือกบ้านที่ห่างไกลจากผู้คน ลงมือก่อนฟ้าสาง เดินไปรอบๆ ก่อนบุกเข้าไปในบ้านและยิง
พวกเขาจนหมด (รวมทั้งเด็กๆ) อาวุธส่วนใหญ่เป็นปนลูกซอง 12 บางครั้งก็ใช้ขวานหรือค้อน จากนั้นเขาก็ไฟบ้านและฆ่าพยาน
หรือคนที่เห็นเขาอยู่ในบริเวณนั้น เขามักจะขโมยของมีค่าจากเหยื่อของเขาติดมือไป

มีอยู่ครั้งหนึ่งอนาโตลีฆ่าเหยื่อบนเตียง และเด็กหญิงคนหนึ่งเห็นเขาฆ่าพ่อแม่ของเธอทั้งสอง แต่เขาไม่ได้ใส่ใจซ้ำยังทุบหัวเธอ
อย่างโหดเหี้ยม “เธอจ้องมองผมด้วยความโกรธและพูดท้าทายผม”

อนาโตลีเล่า “นั่นคือความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ผมไม่รู้สึกว่าไม่มีอะไรพิเศษ”



สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความเลือดเย็นของฆาตกรได้เป็นอย่างดี เขาไม่เคยสำนึกผิดในการฆ่ายกครัวอย่างโหดเหี้ยม ซ้ำยังตีเด็ก
และข่มขืนผู้หญิงหลังจากยิงเธอบนใบหน้า  อย่างไรก็ตาม อนาโตลีปฏิเสธว่าเขาไม่ได้บ้า แต่เขายืนยันว่าเขาได้ยินเสียงที่เชื่อว่า
เป็นเสียงจากพระเจ้าที่สั่งให้ฆ่าคน เขาอ้างว่าเขาได้รับเลือก มีอำนาจวิเศษ พลังจิตที่แข็งแกร่ง สามารถควบคุมสัตว์ผ่านกระแสจิต
ทางยูเครนเวลานานนั้นใช่ว่าจะไม่ใส่ใจ รัฐบาลยูเครนส่งกองกำลังป้องกันดินแดนแห่งชาติ ไม่ว่ากำลังชุดเกราะหรือทหารฝีมือดี
มาตามล่าฆาตกรซาดิสต์เพียงคนเดียวมาแล้ว แต่กระนั้นทหารและตำรวจยูเครนท้องถิ่นมีเพียง 2,000 คนเท่านั้น จึงไม่สามารถ
ตามฆาตกรต่อเนื่องผู้นี้ทันเสียที

ตำรวจพยายามใช้ชั้นเชิงจับตัวฆาตกร แต่อนาโตลีสามารถเล็ดรอดผ่านกับดักตำรวจได้อย่างง่ายดาย และย้ายไปหมู่บ้านใกล้เคียง
และทำการฆาตกรรมต่อเนื่องอย่างสนุกสนาน ลายเซ็นฆาตกรของเขาก็คือเขามักเข้าหาบ้านที่เงียบสงบและโดดเดี่ยวมากที่สุดในหมู่บ้าน

อนาโตลีได้อ้างถึงคดีฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของเขาว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1996 เมื่อเขาเดินทางไปหมู่บ้านเล็กๆ
แห่งหนึ่งใน Bratkovichi และได้ทำการฆาตกรรมครอบครัวโนวาสาด (Novosad) ยิงทั้งสี่คนตายหมด และทำลายหลักฐาน 

 


อนาโตลีปรากฏตัวในชั้นศาล เขาอยู่กรงขนาดใหญ่สีน้ำตาล เพื่อป้องกันความปลอดภัยจากประชากรทั่วยูเครนต่างโกลาหลกับ
คดีฆาตกรรมต่างๆ ที่เขาก่อ และเปรียบเทียบเขาว่าเหมือนอันเดร ชิกาโล นักฆ่ารัสเซียจอมโหดที่นั่งอยู่ในศาลและมีกรงเหล็กเล็กๆ
ล้อมรอบเช่นเดียวกับเขา ประชาชนยูเครนหลายคน โดยเพราะครอบครัวของเหยื่อที่ถูกฆ่าฆ่าตาย ล้วนโกรธและสาปแช่งอยากฆ่า
ฉีกเนื้อเขาทั้งสิ้น ในขณะที่พิจารณาคดีในชั้นศาลผู้หญิงจากด้านหลังตะโกนด้วยคำหยาบคานอยากให้ศาลตัดสินให้เขาตายอย่างช้าๆ
และทุกข์ทรมาน ทำให้ศาลต้องมีการตรวจต้องใช้เครื่องจับโลหะแบบสนามบินมาตรวจคนก่อนเข้าศาลเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง
ที่พิจารณาคดี


ในขณะที่อนาโตลียังคงเยือกเย็น ไม่รู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่ตนกระทำ เขายังพูดรายละเอียด คดีที่เขาก่ออย่างไม่สะทกสะท้าน
แม้ว่าเขาจะพูดถึงเสียงพระเจ้าที่เขาได้ยินในหัวเพื่อบงการเขาฆ่าคน แต่จากการตรวจสอบอาการทางจิตก็พบว่า เขาไม่มีอาการ
ของโรคจิตเวช เขายังคงมีสติและอยู่ในการควบคุมการกระทำของเขาและไม่จำเป็นต้องตรวจสอบทางจิตเวชเสริม
 
อนาโตลีได้กล่าวว่าเขารู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนมานานหลายปีโดยอำนาจมืด หลังจากนั้นเขาก็เงียบหลายนาที ศาลถามว่า
เขามีอะไรจะพูดหรือเปล่า เขาตอบว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” เขายังยอมรับว่าเตรียมที่จะฆ่าลูกชายของตนเอง
เมื่อศาลถามเขาเพื่อระบุสัญชาติ เขากล่าวว่า “ไม่มี”

เมื่อผู้พิพากษาตอบว่าเป็นไปไม่ได้ อนาโตลีก็ตอบว่า “ตัดสินผมด้วยกฎหมายยูเครนได้เลย”

อนาโตลีพบว่ามีความผิดจริงทุกข้อกล่าวหาและตัดสินประหารชีวิต แต่เขาสุดท้ายการตัดสินประหารดังกล่าวก็ได้ถูกยกเลิกเนื่องจาก
ยูเครนได้ทำคำมั่นสัญญาในฐานะสมาชิกคณะรัฐมนตรีของยุโรปว่าจะยกเลิกโทษประหารซึ่งจะต้องทำตาม แต่กระนั้นทางภาครัฐ
และการเมืองยังคงมีการถกเถียงมรการยกเลิกโทษประหารชิวิตอนาโตลีในฐานะข้อยกเว้น



หลังจากได้ยินคำตัดสิน อนาโตลียังคงไม่รู้สึกสำนึกเสียใจ ภายหลังเขาได้สัมภาษณ์แก่นักข่าวลอนดอนไทม์กล่าวประโยค
ที่ทำให้หลายฝ่ายเจ็บแค้นอีกครั้งว่า

“ครั้งแรกที่ผมยิงกวางในป่า ผมอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ ฉันจำได้ว่าผมรู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมากเมื่อมันตาย
ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมผมได้ทำผมและผมรู้สึกเสียใจกับมัน และนับจากวันนั้นผมก็ไม่รู้สึกใดๆอีก”

“ผมฆ่าคนเหมือนชำแหละผ้านวม.....ผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ เด็ก ผมไม่เคยเสียใจสำหรับคนที่ผมฆ่าเหล่านี้
ผมไม่มีความรัก มีแต่ความเกลียดชัง ไม่แยแสแม้แต่คนตาบอด ผมไม่เห็นพวกเขาเป็นคน เห็นเป็นฝูงมากกว่า”

“ถ้าผมออกจากคุกผมก็จะเริ่มฆ่าคนอีกครั้ง”


อนาโตลีกล่าวถึงท้าย ปัจจุบันเขายังคงถูกตัดสินตำคุกมากกว่า 13 ปีและชีวิตช่องว่างระหว่างปี 1989 และปี 1995
ยังคงเป็นปริศนาว่าเขาไปพบอะไรถึงได้กลายเป็นฆาตกรหฤโหดถึงเพียงนี้


credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มกราคม 2016, 15:11:44 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่