-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Brandon Teena ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้  (อ่าน 733 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18221
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Brandon Teena ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้
« เมื่อ: 19 สิงหาคม 2016, 12:14:43 »

Brandon Teena ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้



Boys Don't Cry หรือ “ผู้ชายต้องไม่ร้องไห้” เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกที่กำกับการแสดงโดย
คิมเบอร์ลี เพียร์ซ และเขียนบทโดยแอนดี้ เบียเนน ฉายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 1999  แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ทุนสร้างต่ำ
แต่ก็ประสบผลสำเร็จอย่างสูง


Boys Don't Cry มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ทีน่า แบรนดอน (นำแสดงโดยฮิลารี สแวง) ภายนอกเหมือนเด็กหนุ่มผู้ชาย
แต่ความจริงแล้วเขาเป็นมนุษย์ที่มีสองเพศในร่างเดียว (intersexed) แม้ทางกายภาพบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง
หากแต่มีจิตใจเป็นผู้ชาย ซึ่งชีวิตของเธอนั้นเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรมและความโหดร้าย และที่น่าเหลือเชื่อก็คือ
เนื้อหาของภาพยนตร์นั้นสร้างจากเรื่องจริง เกิดขึ้นจริง ราวกับเรื่องเหล่านี้เป็นนิยายไม่มีผิดเพี้ยน

และนี่คือเรื่องราวของเธอ
 

 
ทีน่า แบรนดอน (Brandon Teena)


 
ทีน่า แบรนดอน เป็นชาวอเมริกันและเป็นทรานส์แมน (คนที่เป็นเพศหญิงโดยกำเนิด มีร่างกายเป็นหญิง กฎหมายจึงระบุ
ให้เป็นเพศหญิง แต่เนื่องจากเขารับรู้ว่าตนเป็นชาย จึงมีความต้องการที่จะเปลี่ยนเพศในฐานะผู้ชายเพื่อให้สอดคล้อง
กับจิตใจที่เป็นชาย) และถูกข่มขืนและฆ่าตายในฮัมเนบราสต้า ชีวิตและความตายของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ
ต่อภาพยนตร์สารคดี “Brandon Teena Story (1998)” และภาพยนตร์ “Boys Don't Cry (1999)”
ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในเวลาต่อมา


ทีน่า แบรนดอนเกิดในลิงคอล์น เนบาสก้า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 1972  ชีวิตของแบรดอนนั้นพูดง่ายๆ คือมีเต็มไปด้วย
ความโหดร้ายและความกดดันล้วนๆ เริ่มจากพ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติทางรถยนต์แปดเดือนก่อนที่เขาจะเกิด ทำให้เขา
ถูกเลี้ยงดูโดยโจแอน แม่ของเขาตามลำพัง และนอกจากนี้เขาก็มีน้องสาวชื่อแทมมี่อีกคนหนึ่ง

ต่อมาครอบครัวของแบรนดอนก็ย้ายไปอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือในลิงคอล์น โจแอนทำงานเป็นเสมียนในร้านค้าปลีก
ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยเหลือครอบครัวของเธอ หากแต่ในเวลานั้นทั้งแบรนดอนและแทมมี่ถูกทารุณกรรมทางเพศ
โดยลุงของพวกเขาตั้งแต่เด็กหลายปี

โจแอนแต่งงานอีกครั้งในปี 1975 -1980 ชีวิตการแต่งงานล้มเหลวเพราะสามีใหม่ของเธอคิดสุราเรื้อรัง ทางด้านเพศ
ของแบรนดอนนั้น ครอบครัวของโจแอนบอกกับคนรอบข้างว่าเขาเป็นทอมบอยตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งโจแอนปฏิเสธตัวตน
ทางเพศของแบรนดอนมาโดยตลอดและยังพูดแบรนดอนว่าเขาเป็นลูกสาวของเธอหลายต่อหลายครั้ง

แบรนดอนและน้องสาวของเขาก็เข้าไปเรียนในโรงเรียนประถมและมัธยม แน่นอนว่าเรื่องเพศของแบรนดอนนั้นได้สร้าง
ปัญหาอยู่ร่วมกับในสังคมกับคนอื่นๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว  ตลอดปีที่เรียนแบรนดอนปฏิเสธศาสนาคริสต์ หลังจากเขา
ประท้วงนักบวชเกี่ยวกับห้ามรักร่วมเพศ และเริ่มต่อต้านโรงเรียนเรื่องการแต่งกาย นอกจากนี้เขายังล้มเหลวในการสมัคร
เข้ากองทัพสหรัฐเพราะอ้างว่าเป็นผู้ชาย

ในฤดูร้อนของปี 1991 แบรนดอนเริ่มแต่งกายและมีความสัมพันธ์ออกเดทกับผู้หญิงมากมายหลายตา หากแต่แม่ไม่เห็นด้วย
เพราะว่ายังคิดว่าแบรนดอนนั้นสมควรเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมากกว่า ต่อมาในเดือนมกราคม 1992 ผลจากการประเมิน
สุขภาพจิตก็พบว่าแบรดอนนั้นมีความเครียดจากความทุกข์ทรมานเรื่องเพศเข้าขั้นวิกฤต มีความพยายามที่จะฆ่าตัวตาย
ทำให้ต้องถูกบำบัดทางจิตชั่วคราว


หลังจากแบรนดอนสารภาพกับแม่ของเขาว่าเขาถูกข่มขืนโดยญาติพี่น้องที่เป็นเด็กหนุ่ม เขาถูกปล่อยตัวออกจากศูนย์
ในสามวันต่อมาและเริ่มบำบัดกับแม่ของเขาสี่ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดลงสองสัปดาห์ต่อมา

ด้วยชีวิตที่ข่มขืนและมีปัญหาทางกฎหมายบางอย่าง (แบรนดอนปลอมแปลงเอกสารและขโมยเงิน)  แบรนดอนตัวคนเดียว
ก็ย้ายไปอยู่เมืองใหม่ ที่เมืองฟอลส์ ภาคเหนือของริชาร์ดสัน เคาน์ตี้ ซึ่งที่นั้นไม่มีใครรู้จักเขา เขาจึงจัดการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่
เขาเปลี่ยนชื่อโดยใช้นามสกุลสลับชื่อจริง คือ ทีน่า แบรนดอน เปลี่ยนเป็นแบรนดอน ทีน่า เขาแต่งตัวเหมือนผู้ชาย
โดยเอารัดหน้าอก ซึ่งทำให้หลายคนเชื่อว่าแบรนดอนเป็นผู้ชาย
 

 

แบรนดอนกับลาน่า ทิสเดล


 
เมืองฟอลส์นั้นเป็นเมืองเล็กๆ ในเนบราสก้า เต็มไปด้วยฝุ่น ส่วนใหญ่คนที่อาศัยอยู่จะเป็นชนชั้นกลางและเป็นพื้นที่สีขาว
ที่เกิดอาชญากรรมค่อนข้างต่ำ แต่ในขณะเดียวกันชาวเมืองก็ไม่ค่อยต้อนรับคนแปลกหน้ามากนัก อีกทั้งยังค่อนข้างเกลียด
รักร่วมเพศด้วย


อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกแบรนดอนนั้น เขาได้ใช้ชีวิตใหม่ด้วยการรักษาความลับว่าเป็นเพศหญิงเอาไว้ และทำตัวเหมือนผู้ชาย
ด้วยนิสัยที่ที่น่าคบ มีเสน่ห์ ภายนอกเหมือนเด็นหนุ่มขี้เล่น สนุกสนาน และมีความเป็นโรแมนติก ทำให้แบรนดอนนั้นเข้าหา
กับคนในท้องที่ง่าย และมีเพื่อนหลายคน และเริ่มออกเดทกับผู้หญิงอายุ 19 ปีชื่อลาน่า ทิสเดล และเริ่มคบหากับอดีตนักโทษ
สองคนจอห์น ล็อตเตอร์ (เกิดวันที่ 31 พฤษภาคม 1971) และทอม นิสเสน (เกิด 22 ตุลาคม 1971)  ซึ่งจอห์นนั้น
เป็นอดีตคู่ควงของลาน่า ทิสเดล) และได้เพื่อนใหม่เป็นชายผิวดำชื่อฟิลลิป ดีไวน์ อายุ 22 ปีที่ตามจีบน้องสาวของลาน่า

ปัญหาแรกก็คือแบรนดอนไม่มีเงิน ในไม่ช้าเขาก็หันไปใช้นิสัยเก่าของเขาโดยการปลอมเช็คและเอกสาร


ไม่กี่สัปดาห์ เขาก็ถูกตำรวจจับ เมื่อลาน่าทราบข่าวจึงเดินทางไปเยี่ยม แต่ต้องประหลาดใจที่พบว่าแบรนดอน
ถูกคุมขังในห้องขังนักโทษหญิง เมื่อถามแบรนดอน เขาก็ตอบว่าเขาเป็นกระเทยและผ่าตัดแปลงเพศ  แม้จะสับสน
แต่เธอก็ขอร้องให้ทอมช่วยประกันตัวแบรนดอนออกมา

 

 
ลาน่ายังไม่หายตกใจความจริงเรื่องที่แบรนดอนเป็นผู้หญิง (ทางทะเบียนรายชื่อ)  ที่แล้วมาความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปด้วยดีตลอด
อาจจะมีเรื่องแปลกไปบ้างที่แบรนดอนมักหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับเธอมาโดยตลอด แต่เธอก็เข้าใจว่าแบรนดอน 
เธอเลยไม่ใส่ใจมากนัก และเมื่อรู้ว่าเขามี 2 เพศในร่างเดียว เธอก็ตันสินใจยุติความสัมพันธ์แบบคู่รักกับแบรนดอนทันที

ในขณะเดียวกันการจับกุมแบรนดอนได้ถูกลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่งเนื้อหาในหนังสือพิมพ์มีการเปิดเผยชื่อจริง รวมไปถึงเพศของเธอ
ทำให้คนรู้จักรู้เลยว่าเขาคือผู้หญิงทางภายภาพ และนอกจากนี้ข่าวยังรู้ถึงจอห์น ล็อตเตอร์ และทอม นิสเสนสองคู่หูขี้คุกเข้าและนั่น
เป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของแบรนดอนในเวลาต่อมา


ช่วงวันคริสต์มาสอีฟทอมและจอห์นได้ชวนแบรนดอนมากินเหล้าที่บ้านของเขา (ซึ่งมีลาน่าอยู่ด้วย) ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เหล้าหรือสันดานผู้ชาย
(บางทีอาจจะเพราะจอห์นหลงรักลาน่าอยู่ก็เป็นไปได้)  ทั้งสองได้พูดคุยประเด็นว่าแบรนดอนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย


แบรนดอนได้สารภาพว่าตนเป็นผู้หญิง (ทางกายภาพ) อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าจะเก็บเงินเพื่อนำไปผ่าตัดแปลงเพศเป็นชาย
อย่างไรก็ตามจอห์นดูเหมือนไม่พอใจและมองแบรนดอนเป็นตัวประหลาด จึงคว้าแบรนดอนแก้ผ้าให้คนอื่นได้เห็นว่าเธอ
เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

จอห์นไล่ลาน่าให้กลับบ้าน ส่วนแบรนดอนให้อยู่ต่อ เพราะจอห์นและทอมได้วางแผนสั่งสอนไม่ให้แบรนดอนไปคบกับลาน่าอีก 
พวกเขาจะให้บทเรียนกับแบรนดอนให้หลาบจำ ในสภาพที่มึนเมาทอมและจอห์นลากแบรนดอนเข้าไปในห้องน้ำและชกเขา
อย่างหนักตรงกระเพาะอาหาร ซ้ำยังแตะเขาหลายต่อหลายครั้ง จนแบรนดอนล้มลงสะบักสะบอม
 


คืนนั้นอากาศค่อนข้างหนาว ทอมและจอห์นก็ช่วยกันลากตัวแบรนดอนบังคับเขาให้เข้าไปในรถ จากนั้นก็ขับรถไปยังสถานทีเปลี่ยว
ใกล้โรงเรียน เมื่อถึงสถานที่เหมาะพวกเขาก็จัดการปลดรองเท้าและกางเกงของแบรนดอนออกและจัดการข่มขื่นเขา
หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมาย ทอมยังคงแตะต่อยและสั่งสอนแบรนดอนหลายครั้ง พร้อมขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจโดยเด็ดขาด
จากนั้นก็พวกเขาก็กลับมาบ้านของจอห์น ซึ่งแบรนดอนอาศัยจังหวะนั้นหนีทางหน้าต่างห้องน้ำออกมาข้างนอกได้

แบรนดอนลากสังขารตนเองไปยังบ้านของลาน่า ลาน่าตกใจสภาพของแบรนดอนที่เต็มไปปด้วยเลือดและรอยฟกซ้ำ
แม้ว่าทอมและจอห์นจะเตือนแบรนดอนห้ามบอกกับใคร แต่ลาน่าคะยั้นคะยอให้เขาแจ้งตำรวจว่าเขาถูกทำร้ายร่างกาย
และถูกข่มขืน

นายอำเภอซาเกร็บ ชาร์ลเป็นคนสอบปากคำแบรนดอน หลังจับแจ้งว่าเขาถูกข่มขืน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาก่อน
เพราะเพศของแบรนดอนเป็นเรื่องแปลกประหลาด  อีกทั้งสังคมชนบทไม่คุ้นเคยเรื่องเบี่ยงเบน ทำให้การสอบปากคำ
เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน และเน้นเรื่องส่วนตัวของแบรนดอนมากกว่าเรื่องแบรนดอนโดนข่มขืนและทำร้ายร่างกาย
เป็นต้นว่าสอบปากคำอยู่ดีๆ เขาก็ถามคำถามว่า “ทำไมคุณทำให้สาวๆ คิดว่าคุณเป็นผู้ชาย?” และ “คุณจูบพวกเขาเหรอ?”

สุดท้ายแบรนดอนก็รู้สึกอึดอัดทนไม่ได้เลยไม่ตอบคำถาม นายอำเภอจึงบันทึกการสอบปากคำว่าเจ้าทุกข์ไม่ให้ความร่วมมือ
อีกทั้งยังขาดหลักฐานที่จะเอาผิด




หลังจากการแจ้งความถูกข่มขืนของแบรนดอน ทอมและจอห์นยังคงคุกรุ่น พวกเขาโกรธแค้น
ที่แบรนดอนที่ไปแจ้งความกับตำรวจ จึงอยากสั่นสอนให้หลาบจำ เขาเตรียมเชือก ขวาน และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อ ออกตามล่า
หาตัวแบรนดอน ตอนแรกพวกเขาไปจนถึงบ้านเดิมในเมืองลินคอล์น แต่ก็ไม่พบแบรนดอน ทั้งคู่ย้อนกลับมาที่บ้านลาน่า
ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม


มารดาของลาน่าบอกว่าแบรนดอนน่าจะกลับไปอยู่บ้านลิซ่า แลมเบิร์ต แฟนเก่า เมื่อทอมและจอห์นตามไปที่บ้านลิซ่าในตอนกลางคืน
ก็พบว่าบ้านปิดไฟเงียบเหมือนไมมีใครอยู่บ้าน  แต่ทอมก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ใช้เท้าถีบประตูบ้านจนเปิดออกและบุกรุกเข้าไป
ที่ห้องนอนของบ้าน พวกเขาถือมีดเดินเข้าไปพบลิซ่าบนเตียง ใกล้กันนั้นมีลูกชายวัย 8 เดือนของเธออยู่ เขาถามเธอว่า
แบรนดอนอยู่ที่ไหน แต่เธอปฏิเสธที่จะตอบ พวกเขาเลยมองไปรอบๆ ก็พบว่าแบรนดอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนพื้นที่ปลายเตียง

ทอมคว้าตัวแบรนดอนและดึงเขาขึ้นมา จากนั้นทุกคนเริ่มตะโกนร้องจนทารกตื่นมาร้องไห้ จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น แบรนดอน
นอนอยู่บนเตียงโดยเอามืดกุมท้องตัวงอเป็นกุ้งเนื่องจากถูกยิงที่หน้าท้อง จากนั้นทอมก็สั่งให้จอห์นเอามีดแทงที่กระเพาะอาหา
จนแบรนดอนตายคาที่




ลิซ่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทอมไม่สนใจเธอ จากนั้นก็เดินไปยังเปลเด็ก อุ้มเด็กส่งให้กับเธอ

เมื่ออยู่ในอ้อมกอดมารดา ทารกน้อยก็เงียบเสียงลง ลิซ่าวางทารกลงข้างๆกาย จอห์นหันปากกระบอกปืนมาที่ลิซ่าแล้วลั่นกระสุน
เข้าใส่บริเวณกระเพาะอาหาร เธอกระโดดขึ้นและกรีดร้อง ทอมมารับเด็กและส่งเด็กกลับเข้าเปล จากนั้นทั้งสองก็ถามลิซ่าว่า
ยังมีคนอื่นอยู่ในบ้านอีกไหม


ด้วยความตกใจ ลิซ่ารีบตอบไปทันทีว่า ในบ้านยังมีฟิลลิปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งเขามาพักค้างคืนเพราะทะเลาะกับแฟนมา
จอห์นเดินไปหาตัวฟิลลิป และกลับมาโดยลากตัวฟิลลิปออกมาจากห้องนอน แล้วจอห์นลั่นกระสุนใส่ลิซ่าอีกนัด

ฟิลลิปร้องขอชีวิต เขายืนยันว่าเขาจะไม่บอกใครในเรื่องที่เกิดขึ้น จอห์นและทอมพาเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่น และสั่งให้เขา
นั่งลงบนโซฟา  แล้วลั่นกระสุนใส่เขา 2 นัด หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องพักของลิซ่าและยิงลิซ่าซ้ำอีกหลายครั้ง

สองนักฆ่าออกจากบ้าน จัดการโยนถุงมือและอาวุธลงแม่น้ำเพื่อทำลายหลักฐาน และกลับไปที่ฟอลส์ซิตี้

ศพของแบรนดอนและเพื่อนถูกทิ้งเอาไว้ จนกระทั่งถึงตอนเช้าของวันที่ 31 ธันวาคม 1993 แม่ของลิซ่าได้มาหาลูกสาว
และหลานชายของเธอ หากแต่เมื่อเข้ามาบ้านพบศพสามศพ เธอจึงก็รีบโทรศัพท์บอกตำรวจเพื่อมาที่เกิดเหตุ


เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุสิ่งแรกที่ตำรวจพบคือคนผิวดำเชื้อชาติแอฟริกันอเมริกันที่ทรุดนอนจมกองเลือดที่พื้น
บาดแผลถูกยิงจากแก้มด้านซ้ายทะลุออกศีรษะด้านขวาทำให้เขาเสียชีวิตทันที และรอบๆ ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน

ที่ห้องครัวตำรวจพบแม่ของลิซ่ารออยู่ เธอกำลังป้อนนมให้เด็กทารก แม้ว่าทารกจะอยู่ที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับอันตราย
แต่อย่างใด จากนั้นแม่ของลิซ่าก็พาตำรวจเข้าห้องนอนเพื่อดูศพลูกสาวของเธอกับแบรนดอน ลิซ่าถูกยิงที่เป้าตาขวา
และช่องท้องเสียชีวิตบนเตียงนอน แผลเหวอะหวะตาขวาของเธอเลือดยังไหลไม่หยุด และบาดแผลอื่นที่พบในท้อง
ของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอนั่งอยู่บนเตียงก่อนถูกยิง ปลายเตียงมีศพของแบรนดอนถูกยิงระยะเผาขนและถูกแทงหลายครั้
งตามลำตัว แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นเป้าหมายหลักฆาตกร และฆาตกรคงเจ็บแค้นแบรนดอนมากถึงสังหารโหดขนาดนี้

แน่นอนว่าเมื่อสืบทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตำรวจก็รู้ทันทีว่าใครก่อเหตุ ทอมและจอห์นบ่ายในวันนั้น  ส่วนอาวุธปืนที่ลงแม่น้ำ
พอดีวันที่ทิ้งแม่น้ำยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย ทำให้ตำรวจงมหลักฐานขึ้นมาอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นปืนหรือมีดและถุงมือสีทอง
ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งมีดยังพิมพ์ชื่อเจ้าของจอห์นเอาไว้

ทางด้านทอมที่ถูกจับกุมเขาก็รีบเอาตัวรอดด้วยการบอกว่าเขาอยู่ที่เกิดเหตุก็จริง แต่คนยิงและฆ่าสามคนนั้นคือจอห์น




ที่ชั้นศาลทอมได้กล่าวหาจอห์นว่าเป็นฆาตกรฆ่าคนทั้งสาม โดยแลกเปลี่ยนเพื่อขอลดโทษ ซึ่งจอห์นปฏิเสธที่จะสารภาพว่า
ตนลงมือสังหารคนทั้งสาม ผลปรากฏว่าศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ทอม นิสเสน ในข้อหาข่มขืนและมีส่วนร่วมการฆาตกรรม
และประหารชีวิต จอห์น ล็อตเตอร์ จากการร่วมมือกันสังหารแบรนดอน ทีน่า เพียงเพราะรับไม่ได้ที่เป็นผู้หญิงแต่มีจิตใจเป็นผู้ชาย
ซึ่งทุกวันนี้จอห์น ล็อตเตอร์ก็ยังคงอุทธรณ์เพื่อให้ศาลให้เห็นว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าคนทั้งสาม หากแต่เป็นทอมต่างหากที่เป็นคนลงมือ
แต่สุดท้ายศาลปฏิเสธอุทธรณ์ของจอห์นหมด



ต่อมาโจแอน แบรนดอนทำการยื่นฟ้องนายอำเภอซาเกร็บ ชาร์ลที่ไม่ปกป้องชีวิตของทีน่า แบรนดอน พร้อมทั้งเหยียดเพศเธอด้วย 
ส่งทำให้เธอถูกฆ่า เธอชนะคดีได้เงิน 80,000 เหรียญสหรัฐ และชาร์ลก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอันมากต่อทัศนคติในเชิงลบ
ที่เขามีต่อ ทีน่า แบรนดอน ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเผลอหลุดปากใช้สรรพนามแทนแบรนดอนว่า "มัน"


ทีน่า แบรนดอนถูกฝังลงในสุสานลินคอล์น เนบราสก้า คำจารึกบนสุสานชาลึกผู้ให้กำเนิด พี่น้อง และเพื่อนของเขาเท่านั้น
 
 
Boys Don't Cry



เรื่องราวของแบรนดอนถูกรนำไปสภาพภาพยนตร์เรื่อง Boys Don't Cry หรือ “ผู้ชายต้องไม่ร้องไห้” เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก
ที่กำกับการแสดงคิมเบอร์ลี เพียร์ซ และเขียนบทโดยแอนดี้ เบียเนน ฉายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 1999  แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ทุนสร้างต่ำ
แต่ก็ประสบผลสำเร็จอย่างสูง


Boys Don't Cry มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ทีน่า แบรนดอน (นำแสดงโดยฮิลารี สแวง) ภายนอกเหมือนเด็กหนุ่มผู้ชาย แต่ความจริงแล้ว
เขาเป็นมนุษย์ที่มีสองเพศในร่างเดียว (intersexed) แม้ทางกายภาพบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง หากแต่มีจิตใจเป็นผู้ชาย ซึ่งชีวิตของเธอ
นั้นเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรมและความโหดร้าย

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำแต่ก็ประสบความสำเร็จในด้านรายได้และวิจารณ์ด้านบวก นักวิจารณ์หลายคนยกย่องว่า
เป็นภาพยนตร์ที่ดีแห่งปีนั้นเลยทีเดีย ส่วนฮิลารี สแวง ที่รับบทเป็นแบรดอนได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม
และรางวัลในประเทศอีกมากมายตามมา



เพราะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง หากแต่ชื่อตัวละครในเรื่องเป็นชื่อจริงด้วย ทำให้มีบางคนโดยเฉพาะผู้เกี่ยวข้องออกมาโต้แย้ง
เนื้อหาภาพยนตร์ที่มีหลายช่วงที่ไม่ใช่เรื่องจริง รวมไปถึงฉากข่มขืนที่เหมาะสมต่อความรู้สึกของคนทั่วไป  อย่างไรก็ตามภาพยนตร์
เรื่องดังกล่าวได้กระตุ้นให้สังคมเข้าใจเรื่องเพศมากขึ้นในเวลาต่อมา
 

อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Brandon_Teena
http://www.trutv.com/library/crime/notorious_murders/not_guilty/brandon/1.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 สิงหาคม 2016, 16:42:07 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่