-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Daniel Camargo ปีศาจแห่งป่าโกงกาง  (อ่าน 550 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18159
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Daniel Camargo ปีศาจแห่งป่าโกงกาง
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2016, 13:28:38 »

Daniel Camargo ปีศาจแห่งป่าโกงกาง

ระหว่างเดือนธันวาคม ปี 1984 และกุมภาพันธ์ 1986 ได้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วประเทศเอกวาดอร์ เมื่อมีการพบศพ
รายแล้วรายเล่าในสถานที่โดดเดี่ยวห่างไกลจากบ้านคนและในป่ารกร้าง สภาพศพนั้นเปลือยกายและบางศพถูกหั่นด้วยมีดพร้า
ศพที่ว่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกัน เหยื่อเป็นหญิงสาวหลายช่วงอายุ หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 8-9 ขวบรวมอยู่ด้วย
พวกเธอทั้งหมดถูกข่มขืน ย่ำยีพรหมจรรย์จนเละชนิดสะใจฆา
ตกร

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสังหารโหดนั้นมีเป็นชายคนหนึ่งชื่อ แดเนียล กามาร์โก้ ชายผอม ผิวคล้ำ
เหมือนขี้โรค แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยโรคจิตชอบผู้หญิง หมกหมุ่นอยู่กับความบริสุทธิ์ของผู้หญิง เขาคนเดียวสามารถ
ข่มขืนและบีบคอฆ่าผู้หญิงมากกว่า 71 คนซึ่งเป็นคนจำนวนคร่าวๆ ขณะที่เขาอยู่เอกวาดอร์ และสันนิษฐานว่าจำนวนเหยื่อ
ที่แท้จริงอายุมีมากถึง 150 คน .... เหยื่อของเขาส่วนใหญ่มักอยู่ในเขตปริมณฑลและโนโบล ซึ่งทั้งสองสถานที่รายล้อม
ไปด้วยป่าโกงกาง และนั้นเองทำให้เขามีฉายาว่า

“สัตว์ป่าแห่งป่าโกงกาง”
 
 
แดเนียล กามาร์โก้ (Daniel Camargo)



แดเนียล กามาร์โก้ เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1930 ที่ไหนสักแห่งในแอนดีส โคลัมเบีย (ไม่แน่ชัด)
ชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างเลวร้าย แม่ของเขาต้องเสียชีวิตในปีแรกที่เขาเกิด และพ่อของเขาแต่งงาน
กับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก ทำให้พ่อของแดเนียลมีปัญหาทางจิต อยากได้ลูกผู้หญิง

ดังนั้นภาระอันหนักนี้จึงตกไปหาแดเนียลอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อพ่อจับตัวเขาแต่งเป็นผู้หญิงและบังคับให้เขาไปโรงเรียน
แน่นอนว่าแดเนียลต้องทนความอัปยศอดสู ต่อการล้อเลียนและหัวเราะเยาะเย้ยของเพื่อนร่วมห้อง หากไม่ทำ
พ่อจะลงโทษด้วยการเอาหมุดแทง

พ่อของแดเนียลเป็นคนที่ชอบความรุนแรงเผด็จการ หากแดเนียลทำอะไรผิด จะถูกเฆี่ยนดีอย่างโหดร้ายแบบไม่ปรานี ซึ่งกว่า
จะหยุดลงโทษต้องรอให้ลุงของแดเนียลมาช่วยเหลือ แดเนียลไม่เคยได้ความรักของพ่อ แม้ว่าเขาหัวดีและมีความปรารถนา
ที่จะศึกษาต่อ แต่เขากลับถูกพ่อบังคับให้ออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยครอบครัวทำงานยิ่งทำให้เขาข่มขืนและไม่พอใจ
พ่อของตนมากขึ้นไปอีก

จิตใจของแดเนียลในวัยเด็กนั้นมีความชอบผู้หญิง และความเกลียดชังความแค้นผู้หญิงผสมคละเคล้าปนเปชนิดแยกกันไม่ออก
เขาเกลียดแม่เลี้ยงของตนเองที่เป็นคนไม่ชอบเด็ก โดยเฉพาะตัวของเขา เธอให้ท้ายพ่อให้เขาแต่งเป็นผู้หญิง เป็นเหตุให้เขาเก็บกด
สะสมพัฒนามาเป็นความเกลียดชังผู้หญิง

ในปี 1960 เมื่อแดเนียลเติบโตป็นผู้ใหญ่ เขาก็พบผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Alzira เขารักเธอมาก และจากครอบครัวเพื่อแต่งงานกับครอบครัว
ซึ่งเขาหวังว่าจะมีความสุขหลังจากที่มีแต่ทุกข์ตั้งแต่วัยเด็ก หากแต่ปี 1967 ความสัมพันธ์ระหว่างเขาก็ขาดสะบั้นลง เมื่อเขาจับได้ว่า
เธอนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอมีชู้โดยที่เขาไม่รู้

ด้วยความผิดหวังและเจ็บแค้น เขาได้เกลียดชังผู้หญิงที่ตลบตะแลงเขา ผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์ ความผิดหวังความอดสู่ทำให้เขา
วางแผนการที่ชั่วร้ายการในการแก้แค้นพวกเธอเหล่านั้น ด้วยการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเวลาต่อมา
 
ในตอนแรกแดเนียลพยายามตามหาสาวบริสุทธิ์เพื่อข่มขืน โดยมีแฟนใหม่ร่วมมือกันช่วยเหลือหาสาวบริสุทธิ์มาให้ ด้วยล่อหญิงสาว
ไปที่อาร์ตเมนต์แล้วมอมยาสลับและข่มขืน ซึ่งแดเนียลก่อคดีในลักษณะดังกล่าว 5 รายซ้อน แต่ยังไม่ได้ฆ่าเหยื่อแต่อย่างใด
ส่วนมากเป็นเด็กถูกข่มขืนในขณะนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา ก่อนที่ในปี 1964 เขาและแฟนใหม่ถูกตำรวจจับและถูกจับแยกห้องขัง
และถูกจำคุกในโคลัมเบีย

แดเนียลถูกตัดสินจำคุกเพียง 3 ปี ตอนแรกเขามีความคิดจะกลับตัวกลับใจ หากแต่ผู้พิพากษาได้ตตัดสินจำคุกใหม่เพิ่มอีก 8 ปีในคุก
เป็นเหตุทำให้เขาโกรธแค้นต่อสังคมและความยุติธรรมมากขึ้น เขาสาบานว่าหากออกจากกรงขังไปได้เขาจะก่อคดีใหม่อีก
คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เหยื่อหนีรอดสักราย เพื่อไม่ให้เป็นพยานเอาผิดเขา

ในปี 1973 แดเนียลถูกจับกุมในประเทศบราซิลเพราะไม่มีเอกสาร แต่เนื่องจากความล่าช้าในการส่งประวัติอาชญากร
ทำให้เขาเพียงแค่ถูกเนรเทศกลับโคลัมเบียเท่านั้น จากนั้นเขาก็ใช้ชื่อปลอมทำงานขายจอโทรทัศน์


และในช่วงนี้เองเขาก็พบเหยื่อรายแรกเขา เมื่อวันหนึ่งขณะที่เขาผ่านโรงเรียน เขาเกิดเห็นเด็กผู้หญิงอายุ 9 ขวบคนหนึ่ง
และเขาก็ต้องใจเธอ “ตกหลุมรัก”  จึงได้ลักพาตัว เด็กหญิงถูกข่มขืนอย่างไร้ความปราณี โดยไม่สนน้ำตาของเธอแม้แต่น้อย
ก่อนที่เขาจะบีบคอเพื่อฆ่าปิดปาก

อย่างไรก็ตามไม่นาน เขาก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แดเนียลถูกจับขังในคุกบนเกาะกอร์กอน ในโคลอมเบีย
ซึ่งถือว่าเป็นคุกที่แทบไม่มมีทางหลบหนี มันเป็นเกาะภูเขาไฟ ห่างกว่า 28 กิโลเมตรที่ห่างจากชายฝั่ง ตั้งอยู่ในมหาสมุทร
แปซิฟิกของโคลัมเบีย อีกทั้งรอบๆ เต็มไปด้วยกระแสน้ำเชี่ยวกราด

แต่สำหรับแดเนียลหาไม่สิ้นหวังไม่ เขาไม่ความคิดที่จะติดคุกจนก่อในสถานที่นี้แน่นอน เขาพยายามหาทางแหกคุก
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะหนาแน่น แต่ความจริงมันเป็นเพียงเกาะแห้งแล้งเล็กๆ ที่การคุมของเหล่าผุ้คุมไม่เข้มงวดมากนัก
ขอเพียงแค่มีโอกาสเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย

ในบ่ายวันที่ 23 พฤศจิกายน 1984 แดเนียลได้สบโอกาสที่ผู้คุมไม่เห็น ใช้เรือเล็กโบราณที่ทิ้งร้างพายออกจากเกาะไป
เพื่อหนีไปหาอิสรภาพ แต่แดเนียลไม่ได้คิดเลยว่าในเรือนั้นไม่มีอาหารหรือน้ำสำหรับดื่มกินเลย เรียกง่ายๆ ว่าแดเนียลพายเรือ
โดยไม่มีคิดเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ จนหลายคนคิดว่าเขาจะตายกลางทาง แต่อย่างไรก็ตามหลังพายเรือมาได้สามวันเขาก็พบ
แนวชายฝั่งของทวีป เขาสามารถขึ้นฝั่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อทางเจ้าหน้าที่โคลอมเบียทราบข่าวการหลบหนีของแดเนียล ก็ไม่ได้ออกตามหาเพราะเชื่อว่าเรือนจำกอร์กอนเป็นเรือนจำ
ที่มีความปลอดภัยสูงาสุด แม้นักโทษจะหลบหนีด้วยเรือพาย แต่กระแสน้ำที่แรงและเต็มไปด้วยปลาฉลามไม่น่าจะทำให้เขา
รอดไปได้

และด้วยความเชื่อว่าแดเนียลตายแล้ว ทำให้ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกตามหา แดเนียลจึงสามารถหลบหนีออกนอกประเทศ
ได้อย่างสบาย การเดินทางของแดเนียลใช้วิธีการโบกรถ และค่ำไหนก็นอนกลางทาง ทำแบบนี้ตลอดทาง จากโคลัมเบีย
ข้ามแดนมาบราซิล แล้วลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนมาถึงเอกวาเดอร์โดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้นคลื่นแห่งความหวาดกลัวก็ได้เกิดขึ้นในเอกวาเดอร์ ....!!!




โดยเริ่มต้นในวันที่ 18 ธันวาคม 1984 หญิงสาวอายุ 9 ปีคนหนึ่ง ในเมือง Quevedo (เป็นเมืองในภูมิภาคชายฝั่งของเอกวาดอร์)
หลังจากนั้นก็มีการหายตัวของหญิงสาวอายุต่ำกว่า 10 ปีอย่างต่อเนื่อง และที่น่าขนหัวลุกคือหลังการหายตัวของพวกเธอ
ไประยะหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏร่างของสาวพรหมจารีเหล่านั้นด้วยร่องรอยที่แสนโหดร้าย พวกเธอถูกบีบคอและถูกข่มขืนอย่างทารุณ
ศพเปลือยเหล่านั้นอยู่ในสถานที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ มักจะอยู่บนริมถนนโนโบล

แม้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถระบุสาเหตุที่จริงการเสียชีวิตของสาวพรหมจารีเหล่านั้น ตอนแรกตำรวจไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกร
ต่อเนื่องคนเดียวกัน เพราะในประเทศมีแก๊งต่างๆ มากมาย น่าจะเป็นฝีมือของพวกนั้นมากกว่า แต่ความจริงแล้วทั้งหมดเป็นฝีมือ
ของชายที่เพียงเดียว

อย่างไรก็ตาม ชายเมืองคิดผิด เพราะว่าแดเนียลเป็นพวกไม่มีที่อยู่หลักแหล่ง อยู่ไหนนอนนั้น ไม่มีเงินก็ขอทานในท้องถนน
เงินส่วนมากมาจากเงินเล็กๆ น้อยที่ติดตัวเหยื่อเท่านั้น หรือไม่ก็ขายของประดับและเสื้อผ้าของเหยื่ออื่นๆ แม้ว่าจะน้อยแต่เขา
ก็สามารถอยู่ได้สบายๆ เพราะอาหารทั่วไปราคาถูกมาก ทำให้เขาเดินทางไปหลายเมืองและไปก่อคดีขึ้นที่นั้น

เมื่อที่เดเนียลก่อคดีประกอบไปด้วย Guayaquil, Quito, Ambato, Machala, Nobol, Quevedo  ทำให้หลายฝ่าย
ยากที่จะป้องกันและรับมือการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นได้

แดเนียลก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1984-1986 สังหารผู้หญิงอย่างน้อย 54 ราย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กสาว
ที่กำลังอยู่วัยเรียนหรือแม่บ้านที่อยู่คนเดียว เหยื่อเหล่านี้อ่อนแอไม่สามารถใช้กำลังขัดขืนเขาได้




วิธีการลอกหล่อเหยื่อของแดเนียลคือ เขาจะทำการหาเด็กสาวที่เป็นเหยื่อ ส่วนมากจะเป็นชนชั้นล่าง
และเมื่อเลือกเหยื่อได้เขาจะเดินเข้าไปใกล้และทำเป็นคนต่างด้าวตีสนิท พร้อมบอกว่าเขาจะไปหาบาทหลวงนิกายโปรเตสแตนท์
ที่อยู่ชายเมือง โดยอยากให้ไปส่งโดยแลกกับเงินตอบแทน ที่พอทำให้เด็กไม่สามารถปฏิเสธได้ และเมื่อแดเนียลพาเหยื่อ
เข้าไปในป่าที่ไร้ผู้คน เขาก็จัดการพวกเธอด้วยการจับข่มขืน และบีบคอ บางครั้งก็ใช้มีดแทงหากเหยื่อต่อด้าน
และเมื่อเหยื่อเสียชีวิต เขาก็ซ่อนเธอในป่าเพื่อให้ศพพบเห็นยากเท่าที่จะทำได้
 
การฆ่าและข่มขืนไม่เลือกหน้าทำให้แดเนียลย่ามใจ และทวีความโหดเหี้ยมมากขึ้น ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามที่จะ
เก็บรายละเอียดทั้งหมดของผู้ตกเป็นเหยื่อของเขาทั้งหมดเอาไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด เห็นได้จากหลังจากถูกจับกุม
เขายังให้การการก่อคดีฆาตกรรมอย่างละเอียดแม้จะฆ่าเหยื่อเป็นหลักร้อยก็ตาม

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แดเนียลถูกตำรวจจับกุมตัวในกีโต ไม่กี่นาทีหลักงจากเขาฆ่าเด็กผู้หกญิงอายุ 9ปีชื่อลิซาเบธ
ตำรวจที่กำลังลาดตะเวนได้เป็นที่เขาซึ่งมีพฤติกรรมพิรุธเข้าพอดี ในเวลานั้นเขาอยู่ในสภาพเหมือนขอทาน ใส่เสื้อผ้า
ขาดกะรุ่งกะริ่ง กระเป๋าเดินทางมีเสื้อผ้าเปื้อนเลือกจำนวนมาก รวมไปถึงเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของเหยื่อล่าสุด
ซึ่งหลักฐานที่มีเพียงพอที่เขาจะเป็นฆาตกรเด็กน้อยไร้เดียงดังกล่าวแล้ว

แดนียลถูกนำตัวเข้าห้องขัง และถูกสอบสวน เขาสารภาพอย่างใจเย็นว่าทำการข่มขืนและฆาตกรรมเด็กสาว
หากแต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่เขาสังหารเหยื่อเป็นร้อยนับตั้งแต่หนีออกจากคุก 

แดเนียลได้พาเจ้าหน้าไปยังบริเวณที่ทิ้งขยะซึ่งที่นั้นเขาได้ทิ้งร่างของเหยื่อเอาไว้ ซากศพส่วนใหญ่ยังไม่มีใครพบเห็น
ร่างกายเน่าไปบางส่วน เจ้าหน้าที่ได้ให้การว่าแดเนียลนั้นเป็นฆาตกรซาดิสต์เลือดเย็นอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่มี
ความรู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย แดเนียลยังเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหยื่อของเขาต้องบริสุทธิ์ พรหมจารี หากเหยื่อ
มีความบริสุทธิ์เขายิ่งมีความพึ่งพอใจมากขึ้น เขาฆ่าพวกเธอตายเพราะต้องการแก้แค้นความไม่ซื่อสัตย์ของผู้หญิง

จากการสอบสวนพบว่าฆ่าไปประมาณ 71 ราย หลังจากพิจารณีคดีแดเนียลถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และเขาคุก
อยู่ร่วมกับเปโดร อลองโซ โลเปซฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นที่รู้จักกันในฉายาสัตว์ประหลาดแห่งแอนดีสที่ถูกฆ่าไป 300 ราย



ในเดือนมิถุนายน 1983 ฟรานซิส คอร์เดโร นักข่าวหนังสือพิมพ์ในประเทศได้มาขอสัมภาษณ์แดเนียลในคุก
ซึ่งเป็นเรื่องยากมากเพราะว่าเป็นนักโทษอันตราย ดังนั้นนักข่าวจึงแกล้งปลอมตัวเป็นนักจิตวิทยาทำให้ได้รับ
อนุญาตได้ง่ายขึ้น


ฟรานซิสได้ห้าสัมภาษณ์ภายหลังว่าแดเนียลเป็นคนผอม ตัวเล็ก (1.65 เมตร) มีผมบางและหน้าผากกว้างโค้งอย่างชัดเจน
มือมีขนาดใหญ่ เพราะสูบบุหรี่จัดทำให้ปากของเขาคล้ำ จนดูเหมือนคนขี้โรค มากกว่าฆาตกรต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแดเนียลคนฉลาด (จากการทดสอบเชาว์ปัญญาพบว่าเขามีไอคิว 116 ซึ่งเกินค่าเฉลี่ย 100) เขาตอบ
คำถามทุกอย่าง ความรู้ของเขาเกิดกว่าคำธรรมดาเพราะอ้างว่าในเวลาว่างๆ ในขณะจำคุกก่อนหน้าเขาได้ศึกษา
วรรณกรรมในห้องสมุดคุกหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (และอีกหลายคน) รวมไปถึงศาสนา

แดเนียลถูกขังคุกในเรือนจำสูงสุดในเอกวาดอร์ และเขาได้อ้างว่าได้เปลี่ยนนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาในเดือน
พฤศจิกายน 1994 เขาถูกฆ่าตายโดยนักโทษที่ญาติเป็นหนึ่งในเหยื่อของเขา จากพยานเล่าว่าในขณะที่แดเนียล
คิดว่าเป็นวันที่เงียบสงบอยู่นั้น จู่ๆ นักโทษที่เป็นคู่กรณีก็คว้าเขาและให้นั่งคุกเข่า และนักโทษคนนั้นก็พูดว่า

“มันเป็นเวลาสำหรับการแก้แค้น”

เขาเขาก็ถูกแทงไปแปดแผล จากนั้นก็นักโทษคนนั้นก็ดื่มเลือดเขาเท่าที่จะทำได้ (ก่อนที่พวกผู้คุมจะมาจับตัว)
และนั้นเป็นจุดจบของชายที่ชื่อแดเนียล กามาร์โก้ ศพของเขาถูกนำไปเผาและฝังในสุสาน 798 El Batan

 
อ้างอิง
http://www.asesinos-en-serie.com/daniel-camargo-barbosa-la-bestia-de-los-manglares/
http://es.wikipedia.org/wiki/Daniel_Camargo
http://murderpedia.org/male.C/c/camargo-barbosa.htm
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ตุลาคม 2016, 12:20:01 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่