-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานเงือก (Mermaid)  (อ่าน 20221 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18237
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
ตำนานเงือก (Mermaid)
« เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2013, 14:56:16 »



เงือก หรือ นางเงือก (Mermaid) เป็นอมนุษย์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อนิยายปรัมปราเกี่ยวกับน้ำ โดยเป็นจินตนาการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ
โดยมากจะเล่ากันว่าเงือกนั้นเป็นสัตว์ครึ่งมนุษย์ มี ส่วนครึ่งท่อนบนเป็นคน ส่วนครึ่งท่อนล่างเป็นปลา นางเงือก (mermaid)
เป็นสัตว์โลกอยู่ในทะเลในจินตนาการ  มีลำตัวท่อนบนเป็นผู้หญิงสวย ท่อนล่างเป็นปลา ภาษาเยอรมันเรียกนางเงือกว่า
meerfrau และเดนมาร์กคือ maremind


โจนส์ระบุว่า นางเงือกคือเทพธิดาแห่งทะเล มักปรากฏตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ มือหนึ่งถือหวีสางผม มือหนึ่งถือกระจก มีลักษณะคล้าย
ไซเรน (siren - ปีศาจทะเล ครึ่งมนุษย์ผู้หญิง ครึ่งนก มีเสียงไพเราะมาก ล่อลวงคนไปสู่ความตาย ในนิทานปรัมปราของกรีก)
ในหลายประเทศทั่วโลก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเงือกมากมาย



แต่เดิมนางเงือกอาจจะเป็นธิดาของพวกเคลต์ (ชาวไอริชโบราณ) นอกจากนี้ตำนานเกี่ยวกับนางเงือกมาจากเรื่องเล่าของพวกกะลาสีด้วย
ซึ่งเกี่ยวข้องกับความหายนะของมนุษย์ (Jobes 1961: 1093) แต่โรสกล่าวว่า บางครั้งนางเงือกก็ให้คุณต่อมนุษย์ มนุษย์
ที่ช่วยเหลือนางเงือกมักได้รับความรู้เรื่องสมุนไพรรักษาโรคซึ่งเยียวยาไม่ ได้แล้ว ได้ของกำนัล หรือนางเงือกช่วยเตือน
ให้ระวังพายุ (Rose 1998: 218)

บางครั้งนางเงือกก็ได้รับสมญานามว่าพรหมจารีแห่งทะเล มีลักษณะสวยงาม กระจกของนางเงือกคือสิ่งที่แทนวงพระจันทร์
และผมที่สยายยาวคือสาหร่ายทะเล หรือรังสีบนผิวน้ำ (Jobes 1961: 1093) แต่บางครั้งก็กล่าวว่ากะลาสีเรือเดินทาง
ไปในเรือนานๆเข้า ไม่ได้เห็นผู้หญิงเลยก็เกิดภาพหลอนขึ้นมา นั่นคือนางเงือกไร้ตัวตนอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเดินทางทางเรือ
เกิดจินตนาการเพราะว้าเหว่คิดถึงครอบครัว



ตามตำนานเกี่ยวกับเงือกนั้นกล่าวไว้ว่าเทพโอนเนสเทพเจ้าแห่งท้องน้ำเทพเจ้าแห่งแสงสว่างและสติปัญญามีบุตรสาว และบุตรชาย
ที่มีรูปร่างคล้ายปลา ให้ดูแลท้องน้ำในมหาสมุทรและปกครองทะเลทั้งหมด เรื่องหนึ่งที่น่าประหลาดเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1608
มีคนพบคนครึ่งปลากลุ่มใหญ่ออกมาปิดปากถ้ำที่เซ็นไอเว่ส์แถบชายฝั่ง เบ็นโอเวอร์เนื่องจากเรือหลายลำได้รับคำสั่ง
ให้ไปจับคนนอกศาสนาหรือเหล่าเพ แกนมาทำโทษและจัดการฆ่าทิ้งศพลงทะเล เหตุการณ์นี้ยังเป็นที่งุนงงมาถึงปัจจุบัน
ว่าจริงหรือไม่



ตำนานเงือก



เงือกเป็นเผ่าพันธุ์ของอมนุษย์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกอีกชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าเงือกพวกนี้อาจมีถิ่นกำเนิดบนฝั่ง บริตานี และว่ายข้ามช่องแคบ
อังกฤษไปยังคอร์วอลล์ จึงทำให้ผู้คนที่นั่นขนานนามว่า เมอร์เมด-เมอร์แมน(เงือกตัวเมีย-ตัวผู้) อันเป็นคำผสมของแองโกล-ฝรั่งเศส
และจากคอร์นวอลล์นี่เอง เงือกก็แพร่พันธุ์ไปจนถึงฝั่งตะวันตกของเกาะอังกฤษ ไปถึงรอบๆสกอตแลนด์ตอนเหนือสู่สแกนดิเนเวีย
มีบางครั้งที่เราอาจเห็นเงือกในจุดต่างๆตลอดแนวฝั่งยุโรปด้วย อาจเป็นเพราะเงือกชอบอากาศเย็นและแนวฝั่งแอตแลนติก
ของอังกฤษกับไอร์แลนด์ (อันหลังนี่เรียกเงือกว่าเมอร์โรว์และเมอรูชา)


ในต่างถิ่นมีตำนานเล่าถึงกำเนิดของเงือกต่างๆกัน นิทานพื้นบ้านของโรมันบอกว่า ในสงครามกรุงทรอย เศษไม้จากซากเรือรบ
ที่ถูกเผาวอดกลายสภาพเป็นเลือดเนื้อและเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตคือ เงือก ชาวไอริชเล่าว่านางเงือกคือผู้หญิงนอกศาสนาที่ถูกเนรเทศ
ออกไปจากแผ่นดิน บางท้องถิ่นมีเรื่องเล่าว่า ชาวเงือกคือ ลูกๆของฟาโรห์ที่จมน้ำในทะเลแดง

ในตำนานเทพของกรีก ต้นตระกูลเงือกคือ ไตรตอน ซึ่งเป็นลูกของ โพเซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล กับพรายน้ำสาวตนหนึ่ง
ผู้คนมักจินตนาการว่าไตรตอนมีหางเป็นปลา ไว้หนวดเครายาว ทรงอำนาจในท้องทะเลเหมือนพ่อ ไตรตอนอาศัยอยู่ในปราสาททองคำ
ที่ซ่อนตัวอยู่ก้นทะเล มีตรีศูล(ฉมวกสามง่าม)เป็นอาวุธ คอยเป่าแตรหอยสังข์เพื่อควบคุมทะเลให้สงบหรือบ้าคลั่ง
ไตรตอนจึงมีสมญาว่า นักเป่าแตรแห่งท้องทะเล



แต่ตำนานที่เก่าแก่กว่าเล่าว่า ชาวเงือกยุคบุกเบิกคือ โอนเนส (Oannes) เทพแห่งทะเลของชาวบาบิโลน (อาณาจักรโบราณ
ในแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้) ซึ่งมีพลังอำนาจต่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โอนเนสเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ มีร่างกาย
เป็นมนุษย์และมีศีรษะเป็นปลา (บ้างก็ว่าสวมเสื้อคลุมปลา)

โอนเนสจะปรากฏกายขึ้นมาจากทะเลในยามเช้าและกลับลงไปในทะเลตอนพลบค่ำทุกวัน ต่อมา เทพอียา(Ea) ซึ่งมีลักษณะครึ่งคนครึ่งปลา
เช่นกันก็ได้ค่อยๆเข้ามามีบทบาทแทนที่โอนเนส ซึ่งถือกันว่า เทพเจ้าอียา เป็นบรรพบุรุษของเงือก ส่วนเทพเจ้า อาทาร์การ์ติส (Atargartis)
เป็นตัวแทนของดวงจันทร์ มีลักษณะครึ่งคนครึ่งปลาเช่นเดียวกัน สาเหตุที่เทพเจ้าต่างๆของชาวบาบิโลนมีลักษณะดังกล่าวนี้
เพราะพวกเขาเชื่อว่า เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็จะจมหายลงไปในทะเล
ดังนั้นเทพเจ้าของเขาจึงควรมีรูปร่างลักษณะที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก

เรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นปริศนาลี้ลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความลึกลับนี้สืบทอดต่อเนื่องกันมาโดยผ่านทางเรื่องเล่าเกี่ยวกับเงือก
กระจกที่นางเงือกใช้ส่องนั้นเป็นตัวแทนของดวงจันทร์ ซึ่งการโคจรของดวงจันทร์นั้นมีอิทธิพลต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง และความเชื่อมโยง
กันระหว่างดวงจันทร์และนางเงือกนี้ได้ช่วยให้ตำนานของนางเงือกมีความแปลกประหลาดพิศดารมากยิ่งขึ้น




ชาวประมงมักจะเห็นเงือกอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในเวลาที่คลื่นลมแรงจัด พวกนี้กล่าวว่าไม่มีอะไรจะงามเตะตาเท่ากับที่ได้เห็นกลุ่มเงือก
ทุกวัยโลดแล่นอยู่ในทะเลที่กำลังมีคลื่นลม ร่างกายสีเงินยวงของพวกนี้ดูระยิบระยับเหนือคลื่น ดวงตาสีเขียวเป็นประกายสนุกสนาน
ยามเมื่อไถลตัวลงตามคลื่น

แม้ว่าเงือกจะอาศัยอยู่ใต้ทะเล แต่ก็สามารถทำตัวสบายๆเมื่ออยู่แผ่นดินได้เหมือนกัน พวกนี้มีภาษาและวัฒนธรรมของตนเอง แต่ก็สามารถ
พูดภาษาคนของแผ่นดินที่มันอาศัยอยู่ใกล้ที่สุดได้เช่นกัน ว่ากันตามอุปนิสัยแล้ว นางเงือกที่มักจะชอบขึ้นมาเที่ยวชายฝั่ง ก็แค่มานั่งหวีผม
ที่ยาวสลวย ฟังเสียงทะเลและนกร้องเท่านั้น เงือกเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ฉลาดที่สุดและว่องไวเกินกว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยุ่งยากใดๆ
เงือกกินปลาและอาหารทะเลอื่นๆแต่ก็ไม่เคยเข่าไปข้องแวะในกิจกรรมของชาวประมง ยกเว้นแต่ว่ามนุษย์ไปรุกรานเงือกเข้าเรื่องใด
เรื่องหนึ่งเท่านั้น




นางเงือกเป็นสิ่งมีชีวิตเพศเมียที่น่าสนใจ เพราะมีความสวยสะดุดตาและมีความลึกลับที่น่าค้นหา พวกนี้มีผมสีบลอนด์แก่อ่อนต่างระดับ
เรียกว่า "สตรอเบอรีบลอนด์" มีดวงตากลมโตสีเขียว หรือเขียวอมฟ้าเหมือนน้ำทะเล ผิวเนื้อส่วนที่เป็นคน ขาวบริสุทธ์ผุดผ่องเหมือนไข่มุก
เมื่อลงไปอยู่ในทะเลก็จะเหลือบเป็นสีเงิน ยิ่งกว่านั้น ทรวงอก ช่วงไหล่ แขน เอว และสะโพกยังอยู่ในส่วนที่พอเหมาะสวยงาม
ชาวเงือกมีพัฒนาการช้ามาก จึงไม่อาจเดาอายุที่แท้จริงได้ เงือกที่อ่อนเยาว์ใช้เวลานานมาก กว่าจะถึงวัยรุ่น แล้วยังได้ใช้ชีวิตตอนนี้
อย่างมีความสุขอีกนาน กว่าจะถึงวัยสาวเต็มที่ และยังคงอยู่ในสภาพความเป็นสาวเช่นนี้ไปนานนับปีๆทีเดียว ส่วนพวกนายเงือก
ก็หล่อเหลาเอาการ พวกนี้ดูบึกบึน ร่างกายเต็มไปด้วยขนและแลดูคล้ำกว่าพวกที่เป็นเพศเมีย การปรากฏตัวของมันก็ดูอ่อนโยน
กว่าบุคลิกมากทีเดียว

เงือกเป็นสิ่งที่ไม่มีวิญญาณ แต่มีอำนาจเหนือธรรมชาติอันอาจทำให้เป็นอมตะ และสามารถทำนายอนาคตได้ นอกจากนี้แล้ว
มันจะเห็นแก่ตัว ไร้สาระ และขี้อิจฉาริษยา



ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับเงือกเป็นเรื่องซับซ้อนเกินเข้าใจในเมื่อสายพันธุ์ทั้งสอง ต่างก็ประทับใจในความงามของร่างกายของแต่ละฝ่าย
เรื่องราวความรักระหว่างเงือกกับมนุษย์มักจะมีให้ฟังเสมอ แต่ความที่บุคลิกและการดำรงชีวิตกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ความสัมพันธ์
แต่ละครั้งมักจะจบลงด้วยความเศร้า นางเงือกไม่สามารถทนอยู่กับมนุษย์ผู้ชายได้นาน ด้วยความที่รักอิสระเสรี เธอจะเริ่มรู้สึกว่าชีวิต
ที่แห้งแล้งและเต็มไปด้วยฝุ่นบนบกเป็นสิ่งที่น่ายุ่งยาก นางเงือกจะไม่ทำงานบ้าน สิ่งเดียวที่เธอทำก็คือ นั่งส่องกระจก หวีผม
และลองทำผมทรงใหม่ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้รักจืดจาง (ก็มนุษย์ผู้ชายยกงานบ้านให้ผู้หญิงหมดนิ) เธอจะเริ่มรู้สึกชิงชังการพูดซุบซิบ
นินทาของมนุษย์จนต้องหนีลงทะเลและเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนเก่า หวีผมและร้องเพลงกันที่ริมหาดเหมือนเดิม


เชื้อสายของนางเงือกและมนุษย์จะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง แต่จะมีพังผืดที่มือและเท้าแถมมาด้วยทำให้ว่ายน้ำได้คล่องแคล่ว
แต่ก็เล่นเกมอื่นไม่เก่ง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นางเงือกและลูกๆละทิ้งฝั่งไปรวมกับสังคมเดิมในเวลาต่อมา




เป็นที่ทราบกันดีว่านางเงือกนั้นจะทำการแก้แค้นอย่างโหดร้ายทารุณ หากถูกขัดขวางหรือดูถูก ชาวประมงที่เคยมีเมียเป็นเงือกไม่ควร
ออกทะเลอีกต่อไปหลังจากที่หล่อนจากไปแล้ว เพราะเขาจะไม่มีวันจับปลาได้อีกเลย ยิ่งกว่านั้นทั้งเรือและตัวเขาเองอาจถูกทำลาย
ทิ้งกลางทะเลด้วยหากยังดื้อดึงที่จะออกทะเลต่อไป (เพราะพวกเธอถือว่าที่ชีวิตคู่ไปกันไม่รอด เป็นความผิดของอีกฝ่าย)


ชุมชนประมงชายฝั่งมักจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนางเงือก เพราะรู้ว่านางเงือกมีอำนาจการหยั่งรู้ พวกนี้เลยต้องการให้เธอช่วย
ทำนายอนาคตให้ ไม่วาจะเป็นเรื่องของอากาศ หรือแหล่งที่มีปลาชุกชุม ส่วนค่าจ้างของนางเงือกไม่ได้ว่ากันเป็นเงิน
แต่เธอจะทำงานแลกกับหวีทองและกระจกทองเท่านั้น

ในบางกรณีพวกเงือกแสดงตนเชื่อมโยงกับลูกมนุษย์โดยสำแดงตนเป็นผู้พิทักษ์เด็กก็มี พวกนี้พร้อมที่จะลงโทษใครก็ตาม
ที่รบกวนเด็กให้ได้รับความเจ็บไข้ทุกรูปแบบ

แต่บางตำนานก็เล่ากันว่านางเงือกคือนางฟ้าฝ่ายอธรรม ที่ใช่เสียงอันไพเราะหลอกล่อให้ชายหลงใหล เมื่อกล่อมจนหลับแล้ว
เธอก็จะฉีกเนื้อของพวกเขาออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฟันอันแหลมคม กินเนื้อของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น




creadit by Chanintorn
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กุมภาพันธ์ 2013, 16:33:05 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18237
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: ตำนานเงือก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2013, 15:31:24 »

นางเงือกและคำสาปสยอง



ในนิทานก่อนนอนที่คุ้นเคยกันอย่างเรื่อง เจ้าหญิงเงือกน้อยของฮานคริสเตียนแอนเดอร์สันนางเงือก
คือ สาวน้อยน่ารักที่มีท่อนล่างเป็นปลาแหวกว่ายในท้องทะเล ทว่าในอีกหลายตำนานโดยเฉพาะในแถบเอเชีย
เรื่องราวของนางเงือกกลับถูกกล่าวขานในรูปแบบที่ดูจะน่าหวาดกลัวกว่าซึ่งเราจะนำมา
เล่าให้ฟังกันสักนิด


เงือกแถบอินโดจีน



เริ่มจากตำนานของแถบอินโดจีนซึ่งรวมทั้งไทยเราด้วยนางเงือกคือสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับและน่าหวาดกลัว
โดยเงือกในแถบนี้จะปรากฏกายในรูปของหญิงสาวที่มีใบหน้าเล็กเท่างบน้ำอ้อย (เป็นอาหารอย่างหนึ่ง
ทำจากน้ำอ้อยที่แข็งเป็นแผ่นขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย) ซึ่งเงือกเหล่านี้จะขึ้นมาอาบแสงจันทร์
ในยามค่ำคืนโดยนางเงือกจะมีกระจกที่ทำด้วยทองคำสำหรับส่องดูหน้าของนาง

และในเวลาที่นางเงือกเหล่านี้ขึ้นมาส่งกระจกอาบแสงจันทร์อยู่นั้นหากมีมนุษย์มาแอบเฝ้าดู
และส่งเสียงดังพวกเงือกจะตกใจกระโดดลงน้ำและมักจะทิ้งกระจกเอาไว้ทว่าหากมนุษย์ผู้ใด
นำกระจกทองคำของนางเงือกไปเขาผู้นั้นจะถูกนางติดตามล่าและสุดท้ายเงือกจะฉุดมนุษย์
ผู้นั้นลงไปสู่ความตายใต้ผืนน้ำ


เงือกเขมร



ในนิทานเขมรเล่าถึงเงือกไว้ว่า ตากับยายให้หลานสาวแต่งงานกับงูโดยเชื่อตามที่ฝันว่าถ้าหลานสาวมีสามีเป็นงู
จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี เมื่อส่งตัวหลานสาวเข้าห้องหอให้งูแล้วได้ยินหลานสาวร้องให้ช่วยว่าถูกงูรัด ก็ตะโกนตอบไปว่า
ผัวเขากอดรัดนิดหน่อยก็ต้องร้องด้วย หลานสาวก็ร้องอีกว่างูกินเข้ามาครึ่งตัวแล้ว แต่ตากับบายก็เฉยเสีย
เพราะคิดว่าหลานสาวร้องไปตามมารยาหญิง

รุ่งเช้าตายายไม่เห็นหลานสาวออกมาจากห้องนานผิดสังเกตจึงเข้าไปดู พบแต่งูชดตัวพองอยู่ จึงรู้ว่างูกินหลานเสียแล้ว
จึงช่วยกันฆ่างูผ่าเอาตัวหลานสาวออกมา หลานยังไม่ตายแต่มีกลิ่นงูติดกายอยู่ ชำระล้างอย่างไรก็ไม่หมดกลิ่น
จึงไปล้างด้วยน้ำทะเละ แต่ปรากฏว่าหลานสาวกระโจนลงน้ำกลายเป็นร่างนางเงือกดำหายไป


ตามตำนานของไทยเล่ากันว่าเงือกนั้นมีหน้าเล็กกลมเท่างบน้ำอ้อย(ประมาณหน้าชะนี)ผมยาว วันดีคืนดี
กลางคืนเดือนหงายจะขึ้นบกมาหวีผมด้วยหวีทอง บางทีก็ใช้กระจกทองส่องหน้าด้วย ถ้ารู้สึกว่ามีใครเข้ามาใกล้ตัว
จะโจนลงน้ำดำหนีไป ทิ้งหวีและกระจกทองไว้ ถ้ามีผู้พบเห็นกระจกทองแต่เก็บไว้ไม่ทิ้งลงน้ำคืนเงือก
เงือกจะมาเข้าฝันทวงของคืน ถ้าไม่ให้ก็จะถูกปลิดดวงวิญญาณไปหรืออาจถูกฉุดตัวจมน้ำไปขณะที่ลงไปอาบน้ำใน
ที่แห่งนั้น ความเชื่อเรื่องเงือกนี้มิได้มีแต่เฉพาะในไทย แต่ยังมีกล่าวถึงในนิทานท้องถิ่นหลายประเทศ
เช่น เขมร ลาว ญี่ปุ่น และทางยุโรป


 
เงือกไทย



ในวรรณคดีไทยมีกล่าวถึงเงือกไว้หลายเรื่อง แต่เรื่องที่รู้จักกันแพร่หลายคือเงือกในเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ได้
กล่าวถึงลักษณะของเงือกว่ามีท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นปลา เป็นผู้พาพระอภัยมณีหนีจากนางผีเสื้อสมุทร
มาที่เกาะแก้วพิสดาร เรื่องอุณรุท พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็กล่างถึงเงือก
ไว้ตอนหนึ่งว่า

"เสด็จนั่งยังท้ายเภตรา
ชมหมู่มัจฉาน้อยใหญ่
ว่ายคล่ำดำดั้นอยู่ไวไว
ที่ใน มหาชลธาร
เงือกงามหน้ากายคล้ายมนุษย์
เคล้าคู่พู่ผุดในชลฉาน"




ในเรื่องรามเกียรติ์ก็มีนางสุพรรณมัจฉาธิดาของทศกัณฐ์กับนางปลา มีรูปร่างท่อนบนเป็นหญิง แต่มีท่อนล่างเป็นปลา
นางได้นำสัตว์น้ำบริวารไปขนย้ายหินที่กองทัพพระรามถมลงทะเลเพื่อทำถนนไปทิ้ง ตามคำสั่งของทศกัณฐ์
แต่ถูกหนุมานจับได้และตกเป็นภริยาของหนุมาน มีบุตรด้วยกันคือ มัจฉานุเป็นลิงเผือกแบบหนุมานแต่มีหาง
เป็นปลาแบบมารดา



เงือกญี่ปุ่น



ตำนานเรื่องนางเงือกเรื่องต่อมาเล่าขานกันในญี่ปุ่นโดยเล่ามาว่าในสมัยโบราณมีชาวประมงผู้หนึ่งอาศัย
อยู่กับลูกๆชายหญิงสามคนที่ริมทะเลสาปบิวะส่วนภรรยาของเขานั้นได้สิ้นชีวิตไปนานแล้ววันหนึ่งขณะที่เขา
ออกไปทอดแหในทะเลสาปเขาจับนางเงือกได้ตนหนึ่งเงือกตนนั้นได้ร้องขอให้เขาปล่อยนางลงน้ำ
ก่อนที่นางจะแห้งตายเพราะขาดน้ำทว่าชายผู้นั้นกลับไม่ไยดีต่อคำขอร้องของเงือกจนทำให้นางเงือก
ตนนั้นขาดใจตายหลังจากนางเงือกตายแล้วชาวประมงได้แล่เนื้อของนางหมักเกลือไว้เพื่อใช้เป็นเหยื่อปลา



ทว่าวันหนึ่งขณะที่เขาไม่อยู่บ้านลูกๆทั้งสามซึ่งยังเด็กอยู่ได้มาเจอถังหมักเนื้อเงือกเข้าพวกเด็กๆ
ได้กินเนื้อในถังจนหมดและจากนั้นก็เกิดเกล็ดปลาขึ้นตามตัวอย่างรวดเร็วขณะที่ขาทั้งสองก็กลายสภาพ
เป็นครีบพวกเด็กๆเจ็บปวดและกระหายน้ำอย่างรุนแรงไม่ผิดกับเงือกที่พ่อของพวกเขาจับมา
จนกระทั่งเมื่อชาวประมงผู้เป็นพ่อกลับมาในตอนเย็นก็พบว่าลูกๆทั้งสามได้แห้งตายแล้วชาวประมง
เศร้าเสียใจที่ความโง่และความโลภของตนได้ทำให้ลูก ๆ ต้องพบจุดจบจากนั้นด้วยความสำนึกในบาป
ที่ก่อเขาจึงออกบวชเพื่ออุทิศบุญให้ลูกๆทั้งสามและนางเงือกที่ตายเพราะเขา



เงือกในศาสนาคริสต์



เมื่อศาสนาคริสต์เริ่มก่อตั้งขึ้น ตำนานนางเงือกได้เปลี่ยนแง่มุมไปจากเดิม ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์นั้น
นางเงือกสามารถที่จะมีชีวิตจิตใจ และวิญญาณได้ แต่จะต้องสัญญาว่าจะอาศัยอยู่บนบกตลอดไป ไม่คิดจะกลับคืน
สู่ท้องทะเลอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงถือเป็นการสร้างความทุกข์ทรมานใจให้แก่ตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง



มีเรื่องราวอันน่าเศร้าใจเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับนางเงือก ซึ่งไปเยี่ยมเยียนนักบวชรูปหนึ่งอยู่เป็นประจำ ณ สถานที่
อันเป็นที่เคารพสักการะในเกาะไอโอนา (Iona) เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งห่างออกไปจากประเทศสกอตแลนด์
เธอได้ขอชีวิต จิตใจ และวิญญาณจากนักบวชรูปนั้น และนักบวชก็สวดมนต์ขอพรให้แก่เธอ แต่เธอจะต้อง
ละทิ้งท้องทะเลของเธอตลอดไป แม้ว่าเธอจะปรารถนาชีวิตและจิตใจมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถละทิ้งทะเลไปได้
ตอนจบค่อนข้างเศร้าเล็กน้อย เธอได้ไปจากเกาะนั้น และน้ำตาของเธอได้กลายมาเป็นก้อนกรวดสีเขียวเทา
หากมีใครพบก้อนกรวดดังกล่าวบนเกาะไอโอนา ก็จะเป็นที่ทราบกันดีว่า คือน้ำตาของนางเงือกนั่นเอง


เงือกจีน



เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องเล่าของจีนโดยเล่ากันว่าในสมัยโบราณมีแม่ทัพผู้หนึ่งชื่อซ่งหยูเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในการใช้ทวนอย่างหาผู้เทียบไม่ได้คืนหนึ่งขณะที่นอนหลับซ่งหยูฝันว่ามีนางเงือกตนหนึ่งมาขอร้องว่า
เมื่อเขาออกไปตกปลาในวันรุ่งขึ้นลูกของนางจะว่ายน้ำผ่านเรือไปนางเงือกบอกกับแม่ทัพว่าขอให้เขา
อย่าได้ทำร้ายลูกของนาง วันรุ่งขึ้นเมื่อแม่ทัพซ่งไปตกปลาก็ได้พบกับลูกเงือกตนหนึ่งว่ายน้ำผ่านเรือ
ไปทว่าเขากลับลืมคำขอร้องของแม่เงือกในฝันเนื่องจากเกิดความโลภที่จะจับลูกเงือกนั้นซ่งหยู
จึงใช้ทวนพุ่งใส่เงือกจนจมหายไปแม่ทัพซ่งสั่งให้คนออกงมหาร่างของลูกเงือกแต่ไม่พบจากนั้น
ไม่นานเขาก็ลืมเรื่องนี้ไป

วันหนี่งมีน้ำท่วมสูงจนปริ่มริมท่าน้ำหน้าบ้านแม่ทัพซ่งได้พาบุตรชายวัยห้าขวบไปยืนดูกระแสน้ำที่ริมท่า
หน้าบ้านขณะที่เขาและลูกกำลังดูสายน้ำที่ไหลผ่านไปอยู่นั้นเองทวนเล่มหนึ่งก็พุ่งมาเสียบร่างเด็กชาย
ล้มลงสิ้นใจต่อหน้าผู้เป็นพ่อทันทีแม่ทัพซ่งทรุดลงพลางคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
และเมื่อเขาได้เห็นทวนลึกลับที่สังหารบุตรชายของเขาอย่างชัดเจนแล้วแม่ทัพซ่งก็ถึงกับตกตะลึง
เพราะทวนเล่มนั้นก็คือทวนเล่มเดียวกันกับที่ปลิดชีวิตลูกเงือกนั่นเอง



credit :: learners / t-pageant

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กุมภาพันธ์ 2013, 16:41:59 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

unless

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 101
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 22:33:19 »

 pongz มาครบเลย

piryat

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 149
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-8
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 21:44:00 »

ชอบมากครับ

uouso

  • แตกหนุ่ม
  • ***
  • กระทู้: 530
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2013, 12:32:33 »

 pongz ติดตามตลอดเลยครับ ได้ความรู้ดีมาก

ผู้ชายเต็ม0

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 297
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2013, 13:11:10 »

ดีมากครับ  hgjhg hgjhg hgjhg

Souldark

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 136
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 13 มีนาคม 2013, 14:30:02 »

แจ่มครับ มีจริงน่าจะดี หุุหุ

chili

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 114
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 03 เมษายน 2013, 13:40:25 »

ขอบคุณครับ

OsamaB

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 143
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2013, 22:52:05 »

เสริมว่ามีมนุษย์ที่มีลักษณะเหมือนนางเงือกด้วยนะครับ เรียกว่า mermaid disease เกิดจากการพัฒนาสมัยทารกผิดปกติทำให้ขาสองข้างไม่แยกออกจากกัน แค่โอกาสเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็น้อยมาก ๆ แล้วนะครับ (หนึ่งในล้าน) และหากเกิดแล้ว มีเพียง หนึ่งในร้อย ที่จะมีชีวิตรอด สรุปคือ 1 ในร้อยล้าน ในโลกนี้มีคนเป็นไม่ถึง 100 คนนะครับ (คิดว่าสมัยอดีตการณ์คงเคยมีเด็กแบบนี้เกิดมา แล้วก็เป็นตำนาน ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้มั้ย)

yahoo594

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 146
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2013, 00:56:53 »

สาระดีดี มาแล้ววว  pongz

oomaim

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 22
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2013, 11:51:02 »

 Godx2 Godx2 ยอดเยี่ยมที่สุด 
Post by Speed Boom Origin SBO

Daran

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 109
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานเงือก (Mermaid)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 13:36:17 »

เงือกไทยชนะเลิศ