คิดว่าทุกท่านน่าจะรู้ดีอยู่แล้วครับ แต่ก็อยาก remind อีกครั้งครับ ปลอดภัยไว้ก่อน โดยเฉพาะพวกชอบนวดน้ำมันอย่างผม
สารหล่อลื่นกับถุงยางอนามัย
ที่มา : สุภาวรรณ จงธรรมวัฒน์ กองพิษวิทยา
จากหนังสือ ความรู้เกี่ยวกับสิ่งเป็นพิษ ตอนที่ 11, กลุ่มงานพิษวิทยาและสิ่งแวดล้อม
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2539
ถุงยางอนามัยมีประโยชน์ใช้คุมกำเนิดเพื่อการวางแผนครอบครัว และใช้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะโรคเอดส์ มาตรฐานถุงยางอนามัยกำหนดให้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2535) และ มอก.625-2534 ทั้ง สองมาตรฐานกำหนดคุณสมบัติทางกายภาพทั่ว ๆ ไปของถุงยางอนามัยเกี่ยวกับขนาด มิติ ความคงทนของสี การรั่วซึม ความทนความดันและปริมาตรขณะแตก ความต้านแรงดึงและความยืดเมื่อขาด การบรรจุซองและฉลาก แต่มาตรฐานทั้งสองไม่ได้กำหนดปริมาณสารหล่อลื่น (lubricant) ที่ใช้เติมในถุงยางอนามัย
คุณสมบัติของสารหล่อลื่นใช้ทางวัตถุสิ่งของเพื่อช่วยให้ลื่น ไม่ฝืด สะดวกในการใช้ เช่น การทาน้ำมันจักรเพื่อให้จักรทำงานได้คล่อง เช่นเดียวกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ผู้ใช้ย่อมต้องการถุงยางอนามัยที่มีคุณภาพและมีการหล่อลื่นที่เพียงพอ การผลิตถุงยางอนามัยในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะบรรจุซองจะมีการเติมสารหล่อลื่น ๆ ที่นิยมใช้คือซิลิโคนออยล์ (silicone oil) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กำหนดปริมาณซิลิโคนออยล์ที่ใส่ควรอยู่ระหว่าง 150-500 มิลลิกรัมต่อถุงยางอนามัย 1 ชิ้น และควรมีความหนืดไม่น้อยกว่า 100 เซนติสโตคส์ (centistokes) หาก ผู้ผลิตเติมสารหล่อลื่นในปริมาณที่ต่ำ ๆ หรือสารหล่อลื่นอาจรั่วซึมออกจากซองบรรจุจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถุง ยางอนามัยนั้นมีสารหล่อลื่นไม่เพียงพอจึงต้องการหาสารหล่อลื่นมาทาเพิ่ม
สารหล่อลื่นมีหลายชนิดทั้งในรูปน้ำมัน เจลลี่ ครีม โลชั่น ขี้ผึ้ง สารเหล่านี้แบ่งประเภทตามชนิดตัวละลายเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทละลายในน้ำมัน (oil based lubricant) และประเภทละลายในน้ำ (water-based lubricant) ไม่ควรใช้สารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำมันกับถุงยางอนามัย เพราะจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ถ้าจะใช้สารหล่อลื่นกับถุงยางอนามัยควรเลือกใช้แต่สารหล่อลื่นชนิดละลายน้ำ ทั้งนี้จากการศึกษาของ Voller B. และคณะได้ศึกษาผลของสารหล่อลื่นกับถุงยางอนามัยพบว่าสารหล่อลื่น เช่น วาสลีนอินเทนซีพ แคร์ (Vaseline intensive care), นีเวียแฮนด์โลชั่น (Nevea hand lotion), จอห์นสัน เบบี้ ออยล์ (Johnson baby oil) ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันแร่ (mineral oil) เมื่อใช้ทาถุงยางอนามัยแล้วทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพเร็วขึ้นขณะใช้ประมาณ 90% ภายในเวลา 60 วินาที สำหรับสารหล่อลื่นที่ละลายน้ำซึ่งรวมถึงสารฆ่าเชื้ออสุจิ (spermicidal gel) มีความปลอดภัยที่จะใช้กับถุงยางอนามัย
White N. และคณะ รายงานว่าสารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำมัน (petroleum หรือ oil-based lubricants) เช่น เบบี้ ออยล์, ปิโตรเลียม เจลลี่ หรือน้ำมันพืช เช่น น้ำมันข้าวโพด (corn oil) ไม่ควรใช้กับถุงยางอนามัยเพราะจะทำให้คุณสมบัติเปลี่ยน แต่สารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำ เช่น Duragel, Diracreme, Senselle ไม่มีผลต่อถุงยางอนามัย
เนื่องจากคุณสมบัติของวาสลีน (veseline) หรือ petrolatum, petroleum jelly เป็นสารกึ่งแข็ง ไม่ละลายน้ำ ละลายได้ดีในน้ำมัน (oil-based lubricants) ซึ่งเป็นชนิด petrolatum-based jelly หรือ mineral oil-based เป็นสารผสมที่มีไฮโดรคาร์บอนหลายชนิด มีสูตรโครงสร้างใกล้เคียงกับสูตรโครงสร้างของยางธรรมชาติ จึงสามารถทำลายบอนด์ (bond) ของยางธรรมชาติได้ สารอื่น เช่น เบบี้ ออยล์ หรือโลชั่นบำรุงผิว หรือครีมบำรุงผิว หรือ น้ำมันพืช ซึ่งมีสารผสมพวก mineral oil หรือ fat หรือ grease ก็ทำลายบอนด์ของยางธรรมชาติได้ ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยกับสารหล่อลื่นดังกล่าวจึงทให้ถุงยางอนามัยขาดได้ง่าย ยกเว้นซิลิโคน ออยล์ ซึ่งเป็นสารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำมันระเหยยาก ไม่มีปฏิกิริยากับสารอื่น ๆ ไม่ทำให้ระคายเคืองจึงไม่ทำลายบอนด์ของยาง ใช้กับถุงยางอนามัยได้ดี
ตัวอย่างสารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งไม่ควรใช้กับถุงยางอนามัย เช่น วาสลีนครีม (vaseline Cream), ขี้ผึ้งทาปาก (Wax), น้ำมันทาผิว (Baby oil), วาสลีน ปิโตรเลียมเจลลี่ (Vaseline petroleum jelly), โลชั่นทาผิว (Skin lotion), วาสลีน อินเทนซีพแคร์โลชั่น (Vaseline intensive care lotion), ครีมทามือ (Hand cream), เนย (Butter/margarine), น้ำมันพืช (Palm oil/vegetable oil), น้ำมันข้าวโพด (Corn oil), รวมทั้งพวก oil-based antiseptic, phenols and their derivatives petroleum-based brease, petroleum spirit, kerosine and other relative organic products
สรุปแล้วหากต้องการใช้สารหล่อลื่นอื่น ๆ มาทาเพิ่มบนถุงยางอนามัยควรเลือกใช้แต่สารหล่อลื่นที่ละลายน้ำเท่านั้น ตัวอย่างสารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำ เช่น K-Y jelly, Q-C jelly, Duragel, Duracream, Generic contraceptive gel, Senselle และ polyethylene glycol ทั้ง นี้ที่กล่องบรรจุถุงยางอนามัยหรือฉลากกำกับจะมีคำเตือนเกี่ยวกับการใช้สาร หล่อลื่นเพิ่มเติมอยู่แล้วว่าควรใช้สารใดและไม่ควรใช้สารใด
เอกสารอ้างอิง
1.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2535) เรื่องถุงยางอนามัยออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531
2.
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.625. 2534. เรื่องถุงยางอนามัย
3.
คู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับถุงยางอนามัย, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. พ.ศ.2536, หน้า 14
4.
Voeller B., et.al. Mineral oil lubricants cause rapid deterioration of latex condoms. Contraception. 39(1) : 95-102.
5.
White N.,et.al. Dangers of lubricants used with condoms, (letter) Nature, 335, (6185) : 19.
6.
Merck Index 11th ed., 1989. P.705, 1139, 1247, 1316
7.
ISO 4074-1. 1990. Requirements-Condoms in consumer packages.