1.ทรงร่างโดยซึมผ่านกลางกระหม่อม
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นวิญญานที่มาดี ด้วยการค่อยๆซึมผ่านกลางกระหม่อมมีอาการคล้ายเกิดความชาเสียวหนืดๆ เหมือนสว่านค่อยๆเจาะลึกเข้าไปในสมอง และจะซึมซ่านไปทั้งตัว การทรงแบบนี้เป็นวิธีนิ่มนวลสุขุมไม่เสียสุขภาพกายเนื้อและกายทิพย์
2.บีบประสาทให้ปวดศรีษะ
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นอาการที่วิญญานมาบังคับให้ร่างจำนนยอมเป็นร่างทรงชั่วคราว หรือเป็นการเตือนให้รู้ว่าทำผิดจากคำมั่นสัณยา เมื่อบีบจนร่างปวดศรีษะทนไม่ไหวหน้ามืด หมดความรู้สึกไปชั่ววูบหนึ่ง วิญญานก็จะแทรกผ่านช่วงนั้น
3.ทรงโดยซึมผ่านท้ายทอย(ขี่คอ)
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นวิญญานที่ไม่ดีมาเกาะที่ตำแหน่งท้ายทอยตอนท้ายสมอง ที่เรียกว่าต่อมเมดุลล่า (medulla) ทำหน้าที่เหมือนกาฝากค่อยๆซึมและงอกฝังรากเข้าไปในกายเนื้อเรา โดยเราจะมีอาการหนักท้ายทอยก่อน เมื่อซึมจนได้ที่ก็จะกำเริบขึ้นมา อาละวาด เช่น ลมพัดเย็นๆ ตามมาปะทะหลัง เราจะรู้สึกขนลุกเกรียว สักครู่จะรู้สึกหนาวๆร้อน หนักท้ายทอย
4.ดวงไฟกระแทกหน้าผาก
----วิธีนี้ส่วนมากเป็นการเชิญวิญญานมาประทับร่างทรงซึ่งใช้วิธีหลับตาแล้วภาวนาคาถาระลึกถึงครูบาอาจารย์ จนจิตสงบก็เห็นเป็นดวงไฟวิ่งเข้ามากระแทกผ่านหน้าผาก จากนั้นจะหมดความรู้สึกไปวิญญานก็จะทำงานผ่านร่างต่อไป
5.วิญญานกระแทกบีบหัวใจ
---วิธีนี้ส่วนมากวิญญานจะกระแทกเข้าบีบหัวใจให้หยุดเต้นไปชั่วแวบนึง ช่วงแวบเดียวนั้น วิณยานจะแทรกผ่านทันที หัวใจจะเสียวปวด ถ้าทรงบ่อยๆเข้าจะทำให้เป็นโรคหัวใจได้ง่าย
6.ซึมขึ้นมาทางมือ
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นวิญญานไม่ดีมาเองโดยซึมผ่านขึ้นมาทางมือมีอาการคล้ายชาแบบเหน็บกินมือเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆแล้วจะพาให้ชาไปทั้งตัว สุดท้ายก็เข้าควบคุมจนร่างหมดสติ วิณยานก็จะทำงานตามใจชอบได้
7.ซึมขึ้นมาทางเท้า
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นวิญญานชั้นต่ำจึงใช้วิธีซึมผ่านเท้าขึ้นมาแล้วค่อยชาเหมือนเหน็บกินเลื่อนไปเรื่อยๆจนชาหมดทั้งตัวและดับความรู้สึกลง
8.แฝงมาเป็นเงาตามตัว
---วิธีนี้วิญญานจะอยู่ในลักษณะร่างไปไหนก็ตามติดไปด้วย วิญญานเกาะหลังตามไปตลอดเหมือนเงาตามตัว โดยส่วนมากจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาตามทวงหนี้ รอคอยจังหวะที่ดวงตกบารมีเสื่อมจะได้กระทืบให้หกล้มใจแตก เพราะช่วงที่ตกใจแวบหนึ่งวิณยานก็จะแทรกผ่านได้ แม้วิญญานนี้จะยังไม่เข้าสิง แต่ก็คอยจะทำลายความสำเร็จของเรา ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแต่ความฉิบหาย
9.กระแสพลังส่งมาจากแดนไกล
---วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นภาวะวิญญานที่ดีส่งอำนาจจิตฉายส่องมาเป็นลำแสง กระแสพลังดังแสงไฟพวยพุ่งส่องมาจากแดนไกลวิ่งมาเป็นทางยาวเข้าคลุมร่างนั้น คล้ายโทรจิต แต่วิธีนี้เรียกว่า
พลังทิพย์ โดยวิญญานปล่อยพลังจิตเป็นพลังงานสร้างกระแสคลื่นมาบังคับบัญชาให้เราทำตามคำสั่ง จะมีอาการคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น ร่างกายไม่สามารถกระดุกกระดิกได้ ไม่สามารถสั่งการตนเองได้ในขณะนั้นเนื่องจากถูกบัญชาจากกระแสนั้น จะพูดตามสิ่งที่ส่งมาได้โดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องคิด
10.วิญญานใหม่เบียดเบียนวิญญานร่างเดิม
----วิธีนี้ วิญญานที่จะมาเข้า จะใช้พลังอำนาจอันแข็งแกร่ง แผ่คลุมกระแทกวิญญานเก่าให้ไปอยู่ข้างๆกายเนื้อทันที แล้ววิญญานใหม่นั้นก็จะทำการอาศัยร่างพูดหรือทำงานต่อไป เมื่อหมดธุระแล้วก็จะถอยออกจากร่าง วิญญานเดิมก็จะคืนสู่ร่างอีกครั้ง