-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ  (อ่าน 3163 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« เมื่อ: 27 ธันวาคม 2013, 13:38:27 »

วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ

ความเป็นอมตะ เป็นความปรารถนาของมนุษย์ ที่ต้องการหลีกเลี่ยมความตาย และนั้นเองทำให้มนุษย์คิดค้นหาวิธีการเพื่อเป็นอมตะ จากวิทยาศาสตร์
ศาสตร์ต่างๆ ไปจนถึงนิทานปรัมปราตำนานโบราณ ที่มีการจารึกไว้ถึงวิธีที่มนุษย์เป็นอมตะ หากแต่สิ่งที่พวกเขาได้นั้นมันเป็นความปรารถนา
หรือคำสาปกันแน่



10. Eat A Mermaid



ตามตำนานของญี่ปุ่น มีความเชื่อเรื่องเงือกแตกต่างจากที่อื่น โดยเงือกนั้นถูกเรียกว่า "นินเงียว (Ningyo)" เป็นเงือกที่มีลักษณะท่อนบ่นเป็นลิง
และท่อนล่างปลาคาร์พอาศัยอยู่ในทะเล และปกติจะไม่มีใครพบเห็นนอกเสียจากวันไหนมีพายุรุนแรงก็จะถูกชาวประมงจับ หรือว่าถูกนำพัดเกยฝั่งมาเอง
(แต่เป็นลางบอกเหตุว่าเกิดสงคราม) ตามตำนานเชื่อว่าหากมนุษย์คนใดกินเนื้อเงือกจะได้ความเป็นอมตะ


หากแต่สิ่งที่ได้มานั้นจะได้รับคำสาป เหมือนดั่งเช่น แม่ชีเบคุนิ แม่ชี 800 ปี ซึ่งได้กินเนื้อเงือกที่พ่อนำกลับมาให้ ผลคือทำให้เธอเป็นอมตะไม่มีวันแก่ตาย
แต่สิ่งได้คือเธอต้องทนเห็นคนรอบๆ ตัวเธอตายไปทีละคน ทีละคน ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือลูก ผลสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจบวชเป็นชีและธุดงค์ภายในถ้ำ
และด้วยความเคร่งปฏิบัติธรรมทำให้เธอได้รับความตายสมใจในขณะอายุได้ 800 ปี



9. Taunt Jesus: Christian Mythology



ในศาสนาคริสต์มีเรื่องราวของชาวยิวคนหนึ่ง ที่ล้อเลียนพระเยซูในระหว่างการเดินทางเพื่อไปตรึงกางเขนโดนเขาพูดว่า “ไปเร็วๆ สิ ทำไมเจ้าถึงอู้”
ซึ่งพระเยซูได้พูดตอบกลับยิวผู้นั้นว่า “ข้าไปแน่นอน แต่เจ้าจะต้องอยู่ที่นี้ตลอดไป จนกว่าข้าจะกลับมา”

ความตะหนักในเรื่องนั้น ชาวยิวผู้นั้นได้หันมานับถือคริสต์และรับพิธีจุ่มศีลเรียกชื่อใหม่ว่า “โจเซฟ” แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ก็ได้รับคำสาปแช่ง
เขากลายเป็นอมตะไม่มีวันตาย หากแต่สิ่งที่ได้มาคือเขาจะต้องท่องรอบโลกด้วยการเดินโดยไม่รับอนุญาตให้นั่งหรือนอนพัก ยกเว้นวันคริสต์มาส
และทุกๆ 100 ปีเขาจะล้มป่วย หลังจากนั้นเขาจะกลับไปเป็นอายุ 30 ปี



8. Anger A God: Greek Mythology



เป็นตำนานที่พบบ่อยในตำนานกรีก ที่เป็นเรื่องราวของมนุษย์หลายคนได้รับโทษหรือกลายร่างเพราะความอวดดี ลบหลู่ หรือพยายามหลอกลวง
หรือท้าทายเหล่าทวยเทพ ซึ่งโทษของพวกเขาได้รับนั้นคือการเป็นอมตะ หากแต่สิ่งที่ได้ก็คือการได้ทรมานไปตลอดกาล เป็นต้นว่าซิซีฟัส
ที่พยายามหลวงลวงซุสและเฮดิส ผลคือถูกลงโทษด้วยการให้เขากลิ้งก้อนหินก้อนใหญ่ขึ้นไปบนเขาสูงชัน

และเมื่อทุกครั้งที่ถึง ยอดหินนั้นจะหลุดมือกลิ้งตกลงไป ทำแบบนี้ไม่มีสิ้นสุด และอีกเรื่องหนึ่งกษัตริย์อิกซ์เซียนที่ฆ่าพ่อแท้ๆ ของเขา แต่ซุสให้อภัย
แต่ในขณะที่เขาอยู่ภูเขาโอลิมปัสเขาพยายามข่มขืนเฮร่า ผลก็คือเขาถูกลงโทษด้วยการถูกจับมัดติดกับล้อไฟที่หมุนแผดเผาไปตลอดกาล



7. Cinnabar: Taoism



แร่ชาด เป็นแร่ที่พบบ่อยของปรอท มีสีแดง และเป็นส่วนผสมของยาอายุวัฒนะของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าทำให้เป็นอมตะเรียกว่า “Huandan”
หรือ “ยาอายุวัฒนะหวนกลับ” ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการบริโภควัสดุบางอย่างเช่นชาดหรือทองจะสามารถทำให้สภาพร่างกายสมบัติและกำจัด
ขับสิ่งสกปรกในร่างกายออกมาทำให้เป็นอมตะ

แต่อย่างไรก็ตาม การนำแร่ชาดเป็นยานั้นถือว่านี้นกลับกลายเป็นว่าทำให้คนจำนวนมากต้องตาย เพราะพิษปรอท รวมไปถึงจักรพรรดิราชวงศ์ถัง
หลายพระองค์ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ต่อมาก็มีการเปลี่ยนความคิด “การแปรธาตุภายนอก” เปลี่ยนเป็น “การแปรธาตุภายใน”
ซึ่งเป็นที่จะต้องควบคุมพลังงานธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะต้องผ่านการเล่นโยคะหรือการปฏิบัติอื่นๆ เพื่อหวังความเป็นอมตะ



6. An Unknown Plant: Sumerian Mythology



ในมหากาพย์กิลกาเมช หนึ่งในงานวรรณกรรมประเภทนิยายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ได้เล่าว่ากิลกาเมช กษัตริย์ในตำนาน แห่งนครอุรุค
ในอาณาจักรบาบิโลนโบราณ ที่ค้นหาวิธีการเป็นอมตะเนื่องจากเขากลัวความตาย (เริ่มกลัวหลังจากสูญเสียเพื่อนรักของเขา) โดยออกเดินทาง
ไปยังต้นน้ำแห่งแม่น้ำทั้งมวลของโลก เพื่อค้นหา อุชนาปิชติม มนุษย์ผู้รอดตายจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกและได้รับพรจากเทพเจ้าให้เป็นอมตะ
กิลกาเมชออกเดินทางเพียงลำพังและเผชิญหน้ากับอันตรายมากมาย จนกระทั่งมาพบอุชนาปิชติม และบอกให้เขาไปหาต้นไม้ที่กินแล้ว
จะสามารถมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ (หรือต้นไม้แห่งการกลับคืนสู่ความหนุ่มสาว) ซึ่งต่อมากิลกาเมชก็พบต้นไม้ที่ว่านั้นในจุดสิ้นสุดของโลก

ทว่าระหว่างเดินทางกลับก็มีงูตัวหนึ่งได้มากินต้นนั้นทั้งต้นไป ทำให้เหล่างูทั้งหลายสามารถลอกคราบเพื่อกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้อีกครั้ง
แม้กิลกาเมชจะผิดหวังกับความพยายามที่สุดท้ายก็สูญเปล่า แต่ในที่สุด เขาทำใจได้ ก็ จากนั้นกิลกาเมชก็สั่งให้ขุนนางจารึกเรื่องราวการเดินทาง
ของพระองค์ไว้ที่ฐานของประตูเมืองและกลายเป็นตำนานที่เล่าขานมานานนับพันปี



5. Peaches Of Immortality: Chinese Mythology



ในตำนานไซอิ๋วได้กล่าวถึงความถึงบทบาทของตัวละครตัวหนึ่ง เชื่อ เห้งเจีย (ลิง) พญาลิงผู้เป็นอมตะ กล่าวกันว่าสมัยก่อนมันเป็นลิงธรรมดา
(แม้ชาติกำเนิดมันจะเหนือธรรมชาติก็เถอะ) หากแต่วันหนึ่งมันได้เห็นลิงในฝูงตายเพราะความแก่ มันเลยออกเดินทางหาวิชาเพื่อไม่ให้เกิดแก่เจ็บตาย
จนในที่สุดก็พบเซียนและเล่าเรียนจนมีวิชาอาคมเก่งกล้าสามารถและได้รับชื่อว่า “ซุนหงอคง” ต่อมาหงอคงก็ลำพองใจจึงใช้วิชาที่ได้มาอาละวาด
ตามที่ต่างๆ จนสะเทือนถึงสวรรค์ ทำให้เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องเสนองานมาให้หงอคงเพื่อความก้าวร้าวลง

ตอนแรกเป็นคนเลี้ยงม้า แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นผู้พิทักษ์สวนพีชหรือสวนท้อบนสวรรค์ และมันก็ได้แอบกินลูกพีชของสวรรค์ จนมันมีอายุ 1000 ปี
(ว่ากันว่าแต่ละผลมันจะสุกทุก 3,000 ปี ซึ่งมีไว้เพื่อมอบให้แก่เทพองค์อื่นเพื่อมีอายุมากขึ้นต่อไป) และขโมยยาอายุวัฒนะของเทพเจ้าดาวพระศุกร์
กินจนหมดห้อง ในที่สุดหงอคงก็ทำสงครามกับทวยเทพ ซึ่งในที่สุดก็ถูกองค์ยูไล(พระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวจีน) ปราบ โดยให้หงอคงถูกทับ
ด้วยภูเขาหินนาน 500 ปี และผู้ที่จะช่วยออกมาได้ คือ พระถังซัม และเห้งเจียต้องบวชเป็นลูกศิษย์รับใช้พระถังซัมจั๋งไปชมพูทวีป
และมีหน้าที่คุ้มครองพระถังซัมจั๋งไปตลอดทาง



4. Amrita



อมฤตา หรือ อมฤต เป็นคำภาษาสันสกฤต นั้นคือน้ำทิพย์ใน ศาสนาฮินดู หยาดน้ำหวานนี้แม้เทพเจ้าก็ยังปรารถนา ตามตำนานกวนเกษียรสมุทรนั้นเล่าว่า
สมัยโบราณเทพกับอสูรเป็นศัตรูกัน รบราฆ่าฟันกันมาตลอด หากแต่ฝ่ายเทพมักรบแพ้บ่อยครั้ง จนกระทั่งเหล่าเทพได้ทำพิธีกวนเกษียรสมุทรในทะเล
เพื่อให้ได้น้ำอมฤตที่ดื่มแล้วไม่มีวันตาย แต่การกวนนั้นต้องใช้พละกำลังเยอะและใช้กวนนานนับพันปี ทำให้ต้องมีการออกอุบายหลอกให้พวกอสุรา
มาช่วยเหลือด้วย

จนกระทั่งพันปีต่อมาก็ได้น้ำอมฤต ระหว่างนั้นก็มีสิ่งวิเศษต่างๆ ที่ออกมาก่อนน้ำอมฤตมากมาย รวมไปถึงนางอัปสร ทำให้พวกยักษ์เอาแต่ไล่จับพวกนาง
จนลืมดื่มน้ำอมฤตไป ยกเว้นยักษ์ราหูที่ไม่ได้ลืมจุดประสงค์ มันได้ดื่มน้ำอมฤตพร้อมกับเทพองค์อื่นๆ ด้วย ผลก็คือเทพก็กลายเป็นอมตะไม่วันตาย
และขับไล่พวกยักษ์ออกไปในที่สุด



3. The Golden Apples: Norse Mythology



แอปเปิ้ลทองคำของตำนานนอร์สนั้น มีความแตกต่างจากแอปเปิ้ลทองคำของกรีก ตรงที่เทพนอร์สให้ความสำคัญกับมันมาก เพราะพวกเขาจำเป็นต้อง
กินแอปเปิ้ลทองคำนี้เพื่อรักษาความเป็นอมตะนิรันดร์ (เป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง) โดยให้อีดูน(Idun) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิเป็นผู้เก็บรักษาสวนผลไม้ของพวกเขา

ตามตำนานเล่าว่าอีดูนถูกโลกิหลอกล่อ และส่งมอบเธอให้กับยักษ์ธีอาสซีพร้อมตะกร้าใส่ผลแอปเปิ้ลทองคำ เมื่อขาดเทพธิดาอีดูนและผลแอบเปิ้ลวิเศษ
เหล่าเทพเจ้านอร์สก็เริ่มแก่เฒ่า และอำนาจเริ่มเสื่อมถอยลง แต่ผลสุดท้าย โลกิจึงได้แปลงร่างเป็นนกเหยี่ยว พาเทพธิดาอีดูน (ที่แปลงร่างเป็นเมล็ดถั่ว)
และผลแอปเปิ้ลทองคำหนีจากดินแดนของยักษ์ธีอาซี่ ทำให้เทพเจ้านอร์สกลับมาหนุ่มสาวอีกครั้ง



2. Ambrosia: Greek Mythology



Ambrosia เป็นเครื่องดื่มของเทพเจ้ากรีก ซึ่งถูกพรรณนาว่ารถชาติเหมือนน้ำผึ้งทิพย์ ที่ถูกส่งยังโอลิมปัสโดยนกพิราบ และเป็นแหล่งที่มาของความเป็น
อมตะของเทพเจ้า สามารถเอาชนะความตายได้ (ปัจจุบันคำนี้ใช้แทนความหมายว่าอาหารอร่อย หรืออร่อยขั้นเทพ) แม้เป็นเครื่องดื่มของเทพเจ้า
แต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาก็ได้ลิ้นลอง เช่นเฮอร์คิวลีส

ในขณะที่บางคนถูกให้ดื่มเพื่อถูกลงโทษตลอดกาล เช่น แทนทาลัสที่ได้ลิ้มลองเครื่องดื่มชนิดนี้และแอบเอาอาหารทิพย์กลับไปบนโลก ภายหลังถูกลงโทษ
จากการจากการเอาลูกของตนเองมาทำสตูให้เทพเจ้ากิน เขาล่ามโซ่ตรึงให้ยืนแช่น้ำทะเลสาบและไม่สามารถดื่มน้ำหรือกินผลไม้ที่อยู่เหนือหัวได้
เพราะหากกินจะพบกันความสิ้นหวังในนาทีสุดท้าย จนกลายมาเป็นคำกริยาในภาษาอังกฤษว่า Tantalize แปลว่า ความทรมานด้วยความผิดหวัง



1. The Holy Grail: Christian Mythology



เป็นตำนานศาสนาคริสต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จอกศักดิ์สิทธิ์ เป็นจาน ชาม หรือถ้วย ซึ่งพระเยซูทรงใช้ในพระกระยาหารมื้อสุดท้าย และเชื่อว่า
เป็นภาชนะที่โจเซฟใช้จอกรองรับพระโลหิตของพระเยซูเอาไว้ขณะถูกตรึงบนไม้กางเขน ตำนานจอกศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏในงานเขียนของโรเบิร์ต เดอ โบรอน
เรื่อง Joseph d'Arimathie (ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12)

โดยโจเซฟได้รับจอกมาจากพระเยซูหลังฟื้นคืนพระชนม์ และได้เดินทางพร้อมผู้ติดตามไปยังเกาะบริเตนใหญ่ และเป็นหัวใจสำคัญส่วนหนึ่ง
ในตำนานกษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งเชื่อกันว่าใครได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธ์แล้วนั้นจะมีอำนาจมากและเมื่อใครได้ดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธ์แล้วจะเป็นอมตะ
หรือ ถ้าได้ดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธ์แล้วเมื่อมีโรคภัยไข้เจ็บหรือเป็นอะไรทางร่างกาย เช่น โดนธนูยิงใส่เมื่อดื่มน้ำผ่านจอกนี้แล้วแล้วเอาน้ำนั้น
มาราดลงบนแผลที่เป็นแล้วแผลนั้นจะหายเป็นปลิดทิ้ง


เครดิต : dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธันวาคม 2013, 14:17:06 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Obko

  • V.I.P.
  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 628
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013, 02:16:20 »

ขอบคุณมากครับ ชอบมาก hgjhg

pheebar

  • X5 Club
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1435
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2013, 01:05:24 »

มีอีกวิธีครัช กินเด็ก  kjhg kjhg

Daran

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 109
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 13:59:23 »

ขอบคุณครับ

Zeroza

  • แตกหนุ่ม
  • ***
  • กระทู้: 527
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 11 มีนาคม 2014, 20:28:52 »

ขอบคุณครับ

GunSS

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 41
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 20 มีนาคม 2014, 01:08:32 »

โดนแวมไพร์ดูดเลือดก็เป็นอมตะได้เหมือนกัน โดยเฉพาะแวมไพร์สาวๆ jljhl

eXzyte

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 53
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 08 เมษายน 2014, 20:07:10 »

ต้องกินเด็กครับ อิอิอิ

wanchalearm147

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 18
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2014, 16:06:34 »

มันต้องแวมไพร์สาวๆ สิน่ะ
 eta04

nawin

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 98
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 01:41:01 »

ขอบคุณครับ

gamesun

  • V.I.P.
  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 100
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2014, 23:30:20 »

เกิดแก่เจ็บตาย  คงไม่มีใครฝื่นได้ครับ แต่การใช้ชีวิตให้ทุกวันมีความสุข   ยากกว่าการเป็นอมตะอีกนะครับ

jita

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 18
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2014, 11:19:40 »

ake2600

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 83
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2014, 02:41:21 »

ถ้าได้กินเด็กบ่อยๆไม่ยอมตายแน่ คิคิ

muscle2

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 73
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2014, 11:40:42 »

กินเด็กครับ เป็นอีกวิธี 555