-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Fahrenheit 451 อยากอ่านต้องเผา  (อ่าน 564 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Fahrenheit 451 อยากอ่านต้องเผา
« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2017, 14:23:42 »



Super Terrain กลุ่มนักออกแบบกราฟิกชาวฝรั่งเศสได้ผลิตหนังสือ "Fahrenheit 451" ของ
Ray Bradbury ฉบับพิเศษโดยหนังสือแต่ละหน้าจะถูกเคลือบด้วยฟิลม์ดำ ที่ต้องผ่านความร้อนก่อนเท่านั้น
ถึงจะอ่านจบ...กว่าจะจบเกรียมกันทีเดียว


หลายคนคงสงสัยสินะว่าทำไมต้องทำให้มันถึงได้ยุ่งยากขนาด นั้นเพราะเนื้อหาของมันนั้นเอง..!!!
ว่าแล้วก็ขอทำเป็นกระทู้ให้อ่านเลยละดันว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไง..?



Fahrenheit 451 | ในเมื่อหนังสือทำให้คนคิดมาก ก็เผาทิ้งเลยดีกว่า!




จะทำยังไง ถ้าเราต้องอยู่ในโลกที่หนังสือทุกเล่มต้องถูกเผาทิ้ง เพราะมันทำให้คน

"คิดมาก" เกินไป จนไม่มีความสุข?!

"Fahrenheit 451" โดย Ray Bradbury เป็นนิยายคลาสสิกตั้งแต่ปี 1953  ที่ถูกตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ด้วยเนื้อหาที่ชวนคิดและสะท้อนสังคมได้ดีมากๆ ..... แถมยังมีปกที่หน้าตาหลากหลาย (สวยๆทั้งนั้นด้วย)
แน่นอนว่าหนังสืออมตะแบบนี้ มีแปลไทยแล้วในชื่อเดียวกันเลย - "ฟาเรนไฮต์ 451"

แล้วทำไมหนังสือต้องชื่อนี้????
เพราะ 451 องศาฟาเรนไฮต์ คืออุณภูมิที่ Ray Bradbury บอกว่าหนังสือจะลุกติดไฟได้เอง
โดยไม่ต้องพึ่งเชื้อเพลิง! โหยย เขาคิดมาแล้ววว


เรื่องย่อ



Guy Montag เป็นนักผจญเพลิง ในโลกของเขา ที่ซึ่งโทรทัศน์เป็นใหญ่และวรรณกรรมใกล้จะสูญพันธุ์
นักผจญเพลิงมีหน้าที่จุดไฟแทนที่จะดับไฟ ...หน้าที่ของ Montag คือทำลายโภคภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายที่สุด
นั่นคือหนังสือรวมถึงบ้านที่หนังสือเหล่านั้นถูกซุกซ่อนไว้

Montag ไม่เคยตั้งคำถามถึงการทำลายล้างและความพินาศที่เป็นผลจากการกระทำของเขา แต่แล้วเมื่อเขา
ได้พบกับ Clarisse สาวน้อยเพื่อนบ้านผู้แปลกประหลาดที่แนะนำให้เขาได้รู้จักกับอดีตที่ผู้คนมิได้มีชีวิต
อยู่ด้วยความหวาดกลัว และปัจจุบันที่ผู้คนเห็นโลกผ่านทางความคิดในหนังสือ แทนที่จะเป็นการพูดคุย
ไร้สาระในโทรทัศน์ Montag ก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยรู้จักมา เขาเริ่มเก็บซ่อนหนังสือ
ไว้ที่บ้าน และเมื่อการกระทำอันลักลอบของเขาถูกค้นพบ Montag ก็ต้องหนีเอาชีวิตรอด...



Fahrenheit 451 เป็นหนังสือขึ้นหิ้งคลาสสิกอีกเล่มนึง ที่อ่านง่ายมากๆ และเต็มไปด้วยข้อคิดให้ตกตะกอน
โดยที่คนรักการอ่านน่าจะอินมากเป็นพิเศษ​

คอนเซ็ปและข้อคิดในเรื่องนี้ สะท้อนสังคมได้ดีเลย มันเป็นเรื่องของการที่กลุ่มคนที่มีอำนาจ (อย่างรัฐบาล)
ตัดสินใจแทนประชาชน ด้วยการจำกัดขอบเขตของสื่อที่ทุกคนเข้าถึงได้ อะไรที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ 'อาจนำภัย'
มาสู่สังคม ซึ่งในกรณีนี้ คือหนังสือ...ก็จะถูกตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ด้วยการโดน ban ทิ้งทันที

เป็นการปิดหูปิดตาประชาชนไม่ให้รับข้อมูลหรือความรู้ใดๆมาประกอบการตัดสินใจ และป้อนแต่ข้อมูล
ที่คัดกรองมาแล้ว (ซึ่งอาจจะบิดเบือนจากความเป็นจริง) เพียงอย่างเดียว



....นี่เป็นระบบ censorship ที่หลายๆประเทศ รวมถึงไทยด้วยแหละ ยังต้องเจออยู่ทุกวัน มันเลยทำให้เรา
ชื่นชมหนังสือเล่มนี้มาก เพราะถึงแม้จะถูกเขียนมานานแล้ว แต่ก็ยังเข้ากับสังคมในยุคปัจจุบันอยู่เลย

(หรือคิดอีกแง่นึงคือ ปัญหานี้มีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไขสักที....)

หนังสือให้ทางออกไว้ในระดับหนึ่ง เป็นทางออกที่ให้การประนีประนอมในระดับหนึ่ง นั่นคือถ้าคุณอยู่ในระบบไม่ได้
ก็มีสองทางคือออกไปเสีย หรือไม่ก็กำจัดระบบมันเสียเลย แต่ถ้าระบบมันเก่าแก่คร่ำครึมากจนแทบจะพังทลายอยู่แล้ว
ก็รอสักนิดก็แล้วกัน

คอนเซ็ปอาจจะฟังดูหนัก แต่เชื่อเราเถอะ ว่าวิธีการเล่าของผู้เขียน ทำให้เราไหลไปกับเรื่องได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่า
กำลังอ่านอะไรที่ซีเรียสหรือมีน้ำหนักเยอะมากๆอยู่เลย



สำหรับแฟนหนัง หนังสือเรื่องนี้มีสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1966 Fahrenheit 451
ภาพยนตร์เมื่อไม่กี่ปีมานี้ที่มีการดำเนินเรื่องทำนองเดียวกันคือ Equilibrium ปี ค.ศ. 2002


นอกจากนี้แล้ว Fahrenheit 451 ยังเป็นหนังสือที่ แทบทุกปกมีคอนเซ็ปและการออกแบบที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลย



อ่านจบแล้วใครสนใจฉบับธรรมดายังไปหาซื้อได้ที่ ราคาไม่แพงด้วยนะ
https://www.se-ed.com/product/ฟาห์เรนไฮต์-451.aspx?no=9786161806149


cr. https://minimore.com/b/Vr2P0/19
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พฤศจิกายน 2017, 00:14:28 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่