-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 7 สุดยอดการ์ตูนที่ถูกแบน  (อ่าน 1071 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18235
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
7 สุดยอดการ์ตูนที่ถูกแบน
« เมื่อ: 22 ธันวาคม 2016, 15:51:53 »

7 สุดยอดการ์ตูนที่ถูกแบน

การ์ตูนอนิเมชั่นบางครั้งก็ไม่ใช่สื่ออิสรเสรีอย่างที่คิด เพราะว่าบางครั้งผู้ทำต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะใส่ไปว่ามันมีผลกระทบต่อผู้ชมหรือไม่
แม้ภาพออกมานั้นไม่โหดร้ายทารุณเลือดสาด แต่สิ่งที่นำเสนอนั้นบางครั้งอาจส่งผลจิตใจต่อเด็กและสตรีมีครรภ์ได้(ในบางครั้ง)
และวันนี้เราขอนำเสนอการ์ตูนต้องห้ามที่ถูกแบน มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไร

 
อันดับ 7 Popeye The Sailorman – Spinach Fer’ Britain



จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อยอดกะลาสีเรือ ป๊อปอาย ระหว่างเดินทางนั้นเขาเกิดไปพบทหารนาซีเข้า....
และพบกับเพลงประจำตัวของป๊อปอายที่ยังคงคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน ...ป๊อปอายเป็นตัวละครการ์ตูนวีรบุรุษสมมุติ
ปรากฏในสื่อต่างๆ มาช้านานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 1919  วาดโดย EC Segar(แน่นอนภายหลังเปลี่ยนคนวาด)
เรื่องราวแรกๆ ของป๊อปอายคือเป็นกะลาสีเรือที่ต้องท่องไปรอบโลกและหลายสถานที่ และเขามักพบเจอศัตรูต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ทะเล โจรสลัด หรือแม้แต่ทหารนาซี ในช่วงสงครามโลกป๊อปอายก็เคยเป็นทหารเรือในการต่อสู้
กับจักรวรรดิญี่ปุ่นด้วย

ส่วนคลิปที่เอามาให้ดูนั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นของปีใด(แต่ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นช่วงสงครามโลก
เนื่องจากช่วงเวลานั้นการ์ตูนอเมริกาส่วนใหญ่มักมีเนื้อหาแนวต่อสู้นาซี, จักรวรรดิญี่ปุ่นเพื่อปลุกใจเด็กอเมริกัน)


 




อันดับ 6 Donald Duck – The Spirit Of ‘43



โรนัลด์ ดั๊กได้ตระหนักถึงสงครามที่มีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าของตน......
“The Spirit Of ‘43”นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ฉายในสงครามโลก ที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อ สร้างโดยวอลท์ดีสนีย์
สตูดิโอปี 1943 ยาวประมาณ 5:48 นาที ที่ตัวเอกเป็นโรนัลด์ ดั๊ก โดยวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ชาวอเมริกัน
รักชาติและจ่ายภาษีให้รัฐทุก 3 เดือนเพื่อช่วยสนับสนุนสงคราม และโรนัลด์ ดั๊ก เป็นไม่กี่ตัวละครในกลุ่ม
เพื่อนมิกกี้เมาส์ที่อยู่ในเหตุการณ์สงครามโลก และมีหลายตอนที่มีเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อในสงครามโลก

หากแต่ถูกแบนออกเนื่องด้วยไม่ใช้ของดิสนีย์ ส่วนเนื้อหาอมิเนชั่นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ตรงตัวอยู่แล้วเมื่อโรนัลด์ ดั๊ก
ได้รับเงินรายสัปดาห์ของเขาเป็นจำนวนมาก และแล้วเขากะพบอาการทางจิตใจของตน เมื่อมีเป็ด
(คาดว่าจะเป็นลุงของเขา)ที่สำเนียงสก็อตและแต่งชุดชาวสก็อตประจำชาติ มาเรียกร้องให้เขาประหยัดเงิน
ไม่ให้สุรุ่ยสุร่าย และให้จ่ายภาษีเพื่อช่วยเหลืออเมริกันในช่วงสงครามโลก

 



 
อันดับ 5 The Flintstones - Smoke Winstons



ยัปปาดั่บป่ะดู้ .... เมื่อมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนสองคนที่เราคุ้นเคยกันดี
นั่งพักจากการหายเหนื่อยด้วยการสูบบุหรี่ยี่ห้อสายฝน…..เอ้ย Winstonต่างหาก ....โดนเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแฝง,
ตัวละครสูบบุหรี่ และมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนก็เป็นอีกหนึ่งในการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกาอีกเรื่องหนึ่งซะด้วยสิ……

บุหรี่ที่มนุษย์หินทั้งสองกำลังสูบนั้นมีชื่อว่า Winston เปิดตัวในปี 2497 และเป็นหนึ่งในบุหรี่ชนิดก้นกรองแรกๆ ของโลก
ปัจจุบันเป็นบุหรี่ที่ขายดีเป็นอันดับ 2 ของโลก Winston มีจำหน่ายในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ในสมัยก่อนนั้นการโฆษณา
บุหรี่มีความเข้มข้นมาก โดยบริษัทบุหรี่ถึงขั้นให้บุหรี่ยี่ห้อของตนปรากฏหนังในฮอลลีวู้ดเลยทีเดียวโดยมีสัญญาลับว่า

“ให้ภาพยนตร์บางเรื่องมีการใช้บุหรี่ของตนประกอบฉาก และเจาะจงให้นักแสดงบางคนสูบบุหรี่ในฉาก”

และยี่ห้อ Winston ก็มีดาราชูโรงอย่าง จอห์น เลนนอนเป็นตัวเรียกคะแนนความนิยม ปัจจุบันมีการร้องให้อุตสาหกรรม
ภาพยนตร์ยุติการส่งเสริมให้มีภาพการสูบบุหรี่ของตัวแสดงรวมถึงภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายยี่ห้อบุหรี่ในภาพยนตร์

     






อันดับ 4 Donald Duck – Der Fuehrer’s Face



เมื่อโรนัลด์ดั๊กต้องฝันร้ายจากการไปสมัครเป็นทหารนาซี แถมยังบูชาฮิตเลอร์, เบนิโต มุสโสลินี และสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตด้วย
(..... Der Fuehrer’s Face เป็นอนิเมชั่นที่สร้างในปี 1943 ยาวประมาณ 7 :56 นาทีจากวอลท์ดีสนีย์สตูดิโอ กำกับโดย
Jack Kinney ฉายในวันที่ 1 มกราคม เป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อแสดงให้เห็นว่านาซีเป็นพวกล้างสมองและงี่เง่า

การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับรางวัล Academy Award for Animated Short Film และได้รางวัลออสการ์ในปี 1994 และถูกรับเลือก
เป็น 50 การ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด(อันดับ 22 )จากภาพเราได้เห็นทหารของพวกอักษะที่รูปร่างไม่สมส่วนเสียเลย บางคนตูดใหญ่,
บางคนผอมอย่างกับก้างเสียบผี, บางคนฟันเหยิน, บางคนอ้วนลงพุง ที่เป็นขบวนดนตรีดุริยางค์ที่ร้องเพลง จากนั้นเขาก็ไปทำงาน
ในโรงงานผลิตอาวุธในนาซีปรากฏว่างานที่นั้นหนักมาก(และบางฉากมีการโฆษณาชวนเชื้อเกี่ยวกับเชื้อชาติอารยันด้วย)
การ์ตูนนี้จบลงด้วยโรนัลด์ ดั๊กตื่นขึ้นและพบว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันร้าย เขาเป็นชาวอเมริกันต่างหาก “ผมรักอเมริกันครับ”
และฉากสุดท้ายคือฉากฮิตเลอร์เปื้อนหน้ามะเขือเทศ

 





อันดับ 3 Bugs Bunny – Herr Meets Hare



เมื่อบักส์ บันนีปลอมตัวเป็นฮิตเลอร์ด่านายพรานเยอรมันที่ตามล่าเขา.........โครตฮาเลย

จำได้สมัยก่อนผมได้ดูอนิเมชั่นตอนนี้พอดี ตอนบักส์ บันนีปลอมเป็นฮิตเลอร์ฮ่ามาก Herr Meets Hare เป็นอนิเมชั่น
ใน 13 มกราคม ปี 1945 ที่ฉายไม่กี่เดือนก่อนการล่มสลายนาซี เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่มีเนื้อหาสงครามที่ยิ่งใหญ่ของ
Warner Brothers ยาว 7 นาที 15 วินาที ตัวการ์ตูนเปิดตัวด้วยเสียงปลายสายของเยอรมันและนายพรานที่อ้วนฉุ
พร้อมสุนัขพันธุ์ไส้กรอกกำลังล่ากระต่ายที่ป่า และแล้วเขาก็ได้เจอบักส์ บันนีที่โผล่จากหลุม ก่อนที่จะมหกรรมแมวจับหนู
จะเริ่มขึ้น

แต่ฉากที่หลายคนติดใจมากที่สุดคือบักส์ บันนีแต่งตัวเป็นผู้นำเยอรมัน “ฮิตเลอร์” และแสดงท่าทางล้อเลียน ตลก
เมื่อนายพรานเห็นเขาก็กลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เป็นทหารที่เต็มไปด้วยเหรียญตาและยศทหารนาซีสูง แต่ฮิตเลอร์
(ในคราบบักส์ บันนี)ด่าเขาและนายพรานก็กอดเขาแบบรักใคร่ก่อนที่นายพรานคนนั้นจะหายโง่ในที่สุด  ซึ่งส่วนใหญ่
เวลามีเรื่องมีราวบักส์ บันนีจะกลายผู้ชนะเสมอ (โดยปกติ ผู้ชนะมักจะเป็นฝ่ายที่ก้าวร้าวกว่า)  และบักส์ บันนีถือว่า
เป็นการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกาในเวลานั้นยิ่งในช่วงสงครามโลกบักส์ บันนีออกมาเยอะมาก อนิเมชั่นตอนนี้
ถูกเซ็นเซอร์ออก ในปี 2001 ก่อนที่จะปรากฏอีกครั้งในปี 2007

 



 
อันดับ 2 Bugs Bunny – Tokyo Jokio



การ์ตูนลูนี่ตูนส์ที่นำเสนอความติ๊งต๊องของจักรวรรดิญี่ปุ่นอีกหนึ่งในอนิเมชั่นโฆษณาชวนเชื่อที่ฉายในปี 1943
โฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) มีความหมายว่า เผยแพร่อุดมการณ์หรือความคิดเห็น ด้วยกลอุบายต่าง ๆ เช่นนำเสนอ
ฝ่ายเราให้ดูดี ส่วนฝ่ายศัตรูภาพลักษ์แย่ เพื่อโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นให้เห็นคล้อยตาม ในสงครามโลกครั้งที่ 2 การโฆษณาชวนเชื่อ
ถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในการควบคุมจิตของผู้ฟัง,ผู้ดูในการสร้างความรู้สึกซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินเกิด

จวบจนกระทั่งใช้ในผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ต้องโน้มน้าวประชาชนพลเรือนนอกเหนือจากทหารให้เข้ามามีส่วนร่วม
และสนับสนุนการเข้าทำสงครามของประเทศตน อย่างที่เห็นในภาพภาพลักษณ์ของทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นออกมาดูแย่มากๆ
ตาตี๋ ใส่แว่นหนา ฟันเหยิน หน้าตาอัปลักษณ์ โง่อย่างรุนแรง และทำสงครามได้ห่วยแตกมาก
 
 




อันดับ 1 Walt Disney – Hitler’s Children

เด็กของฮิตเลอร์หรือมีชี่ออีกอย่างว่า Education for Death  เป็นอนิเมชั่นสั้นผลิตโดยดีสนีย์ออกฉายในปี 1943
กำกับโดย Clyde Geronimi  ยาว 10 นาทีไม่ขาดไม่เกิน เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กที่เติบโตมาเพื่อเป็นทหารนาซีเยอรมัน 
ซึ่งใช้หลักสายเลือดอารยันในการคัดเลือกเด็กแต่ภาพปรากฏออกมานั้นค่องข้างขบขันมากกว่าจะจริงๆ จัง ไม่ว่าจะเป็น
ฉากการสอนในห้องเรียน ที่เด็กไม่มีตอบคำถามอาจารย์ไม่ได้ผลคืออาจารย์(ที่คาดสายนาซี)โกรธมากและลงโทษให้
สวมหมวกคนโง่ ส่วนเด็กที่พูดสนุบสนุนแนวคิดฮิตเลอร์นั้นได้คำชมแทน

ฮิตเลอร์ปรากฏตัวเป็นอัศวินผู้กล้าที่งี่เง่าและขี้บ่น ที่น่าสังเกตคือเสียงพากษ์ในอนิเมชั่นเบามาก ส่วนเสียงประกอบนั้นดัง 
ก่อนที่ฉากสุดท้ายจะเป็นฉากหลุมฝังศพของเหล่าทหารนาซี

 



 
เนื้อหาจากเว็บ
http://engforum.pravda.ru/showthread.php?283186-Top-8-Banned-Classic-Cartoons
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มกราคม 2017, 14:51:18 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่