cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 21 ธันวาคม 2018, 17:24:38

หัวข้อ: 6 บ้านอันตราย เต็มไปด้วยกับดัก
เริ่มหัวข้อโดย: etatae333 ที่ 21 ธันวาคม 2018, 17:24:38
6 บ้านอันตราย เต็มไปด้วยกับดัก
cr. Cammy-เต่านรก

บ้านสมควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเจ้าของบ้าน ที่ชวยปกป้องอันตรายอะไรบางอย่างจากข้างนอก
แต่น่าขันที่ 6 อันดับต่อไปนี้ บ้านได้กลายเป็นสถานที่อันตราย และน่ากลัวไปเสียได้
 


6. บ้านขยะของแลงลีย์    โคลเลอร์ (Langley Collyer's Trash Mansion)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579019-4464.jpeg)
 
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 มีสองพี่น้องชื่อ โฮเมอร์ และแลงลีย์ โคลเลอร์ เป็นที่รู้จักในชื่อพี่น้องโคลล์เยอร์
อดีตเป็นบุตรของแพทย์ที่ร่ำรวยและชื่อเสียงในแมนฮัตตัน หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต โอเมอร์ก็เกิดตาบอด และ
แลงลีย์ผู้เป็นน้องชายได้ทุ่มเทเวลาให้กับการดูแลพี่ชายของตนเอง โดยไม่พาเขาออกไปไหนเลย แม้แต่ไปหาหมอ


ต่อมาพี่น้องทั้งสองถูกธนาคารมาไล่ที่  หากแต่แลงลีย์ได้พยายามโต้ตอบด้วยการเอาขยะกองใหญ่มาทับถม
ในแมนชั่น ชนิดที่ว่าข้างในแมนชั่นที่พี่น้องอาศัยอยู่เต็มไปด้วยขยะมหาศาล ทุกทางเข้าบ้านถูกบล็อกด้วย
กองขยะถึง 140 ตัน มีทั้งหนังสือ เปียโน เรือแคนู และรถยนต์ที่ใช้ไม่ได้ รวมไปถึงหลุมพรางป้องกันผู้บุกรุก

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579040-7049.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579043-4186.jpeg)

อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 มีนาคม 1947 มีการพบศพสองพี่น้องอยู่ในบ้าน ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดที่พบศพยากลำบากมาก
เพราะเต็มไปด้วยภูเขาขยะ ก็พบแลงลีย์โดนกำแพงหนังสือพิมพ์ที่กองไว้เป็นเวลานานปีทับตาย ส่วนโฮเมอร์นั้น
เสียชีวิตเพราะหัวใจวายเพราะขาดอาหารเสียชีวิตไม่เกินสิบชั่วโมง




5. วิลเลียม ฟิลด์ฮอฟ์ (William Feldhoff)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579093-8945.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579097-607.jpeg)
 
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 1978 ไมเคิล เทรย์เนอร์ อายุ 26 ปีได้หายตัวไป จากเมือง บาร์เร รัฐออนแทริโอ แคนาดา
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาก็มีการพบร่างของเขาในคูน้ำตอนเหนือของเมือง ร่องรอยของศพมีพันธนาการ และเสียชีวิตจาก
การบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจไม่สามารถหาตัวทำผิดได้นานกว่า 34 ปี


จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2012 มีชายคนหนึ่งโดนัลด์ ฟิลด์ฮอฟฟ์ ได้สารภาพว่าได้ฆาตกรรมชายคนนั้น
นอกจากนี้เขายังบอกว่าพ่อของเขาก็ช่วยเขาทิ้งศพได้
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579072-044.jpeg)

เมื่อตำรวจจับนายวิลเลียม ฟิลด์ฮอฟ์ที่เป็นพ่อของนายโดนัด์ ตำรวจก็ทำการค้นบ้านก็พบว่าบ้านหลังนี้ถูกดัดแปลง
เพื่อรับมือกับสงครามโลก ที่วิลเลียมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น เขามีบังเกอร์ซีเมนต์ในสนามหลังบ้าน และห้องปฏิบัติการ
สารเคมีที่อยู่ในห้องใต้ดิน นอกจากนี้เขายังมีวัตถุระเบิดที่จะมีแผงควบคุมที่อาจระเบิดเมื่อใดก็ได้ ทำให้ตำรวจ
ต้องเร่งอพยพเพื่อนบ้านกว่า 22 ครัวเรือนที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงออกไป

และมันก็ต้องใช้เวลากว่า 12 วัน กว่าที่เจ้าหน้าที่จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ ทั้งปลดกับดัก หลุมพราง และยึดทรัพย์สิน
ที่เต็มไปด้วยอาวุธปืน กระสุนอีกหมื่น และวัตถุระเบิด ส่วนนายวิลเลียมถูกตั้งข้อหาครอบครัวอาวุธปืนเถื่อนและ
ถูกจำคุก 20 เดือน ส่วนนายโดนัลด์ถูกตัดสินคำคุกในข้อหาฆาตกรรมไมเคิล เทรย์เนอร์
 



4. หลังคาไฟฟ้าของจูเมอร์ เซลีมอวัก (Jumer Selimovski’s Electrified Roof)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579183-2476.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579187-5299.jpeg)
 
ในปี ค.ศ. 2004 ชายชาวออสเตรเลียคนหนึ่งชื่อ จูเมอร์ เซลีมอวัก อาศัยอยู่ในเอบปิ้งได้ก่อความรุนแรงโดยการ
ทำร้ายชายคนหนึ่ง ต่อมาเขาก็ถูกทำร้ายด้วยมีด เป็นเหตุทำให้เขาและครอบครัวต้องย้ายบ้าน หากแต่ปีต่อมา
เขาก็ยังเชื่อว่าครอบครัวของเขาถูกคุกคาม มีใครบางคนปีนหลังคาบ้านของเขา และนั่นเองทำให้เขาต้องปกป้อง
ตนเองและภรรยา และลูกห้าคนของเขา


เขาจึงดัดแปลงบ้านทั้งหลังเป็นกับดัก ด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้า 254 โวลต์ ไปบนหลังคา และท่อระบายน้ำ
และความแรงของไฟฟ้าอาจทำให้คนที่โดนเข้าไปอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็เสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากกับดักขอจูเมอร์  ในเดือนมิถุนายน 2007 ตำรวจได้สังเกตนกตัวหนึ่ง
ที่ไปเกาะหลังคาบ้านเกิดช็อกตาย และนั่นทำให้เขาถูกจับ ต่อมาเขาก็วางแผนที่จะย้ายบ้านพร้อมกับจะติดกับดัก
ที่บ้านอีก แต่แผนดังกล่าวก็ล้มก่อน เพราะในเดือนสิงหาคม 2014 เขาก็ถูกจับหลังจากไปยิงชายคนหนึ่งตาย




3. เอ็ด และเอเลน บราวน์ (Ed and Elaine Brown)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579208-5058.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579211-6989.jpeg)
 
ในปี 1996 เอ็ด และเอเลน บราวน์ คู่สามี-ภรรยา ถูกแจ้งข้อหาหลีกเลี้ยงภาษามากกว่า 625,000 ดอลลาร์
และเจ้าหน้าที่มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินของพวกเขา หากแต่พวกบราวน์มีแผนเหนือกว่านั้น นั่นคือพวกเขาขัง
ตนเองในบ้าน แถมชลบทคองคอร์ด, รัฐนิวแฮมป์เชียร์ พร้อมกับทำให้บ้านเป็นป้อมปราการที่พื้นที่ 100 เอเคอร์
รอบๆ บ้าน เต็มไปด้วยที่เต็มไปด้วยวัตถุอันตราย หลุมพราง ระเบิด กับดักร้ายแรง โดยบอกว่าพวกเขายอมตาย
ดีกว่าที่จะติดคุก


ความขัดแย้งกินเวลานานกว่าหลายปี  ในที่สุดมันก็สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2007 เจ้าหน้าที่ได้ปลอมตัว
เป็นผู้สนับสนุน ทำให้พวกบราวน์เชิญให้เข้ามาในบ้านจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จับทั้งสองได้โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น

ในที่สุด พวกบราวน์ ถูกตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 30 ปีในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ด้วยกับดัก ส่วนบ้าน
ของพวกบราวน์ก็ถูกนำไปประมูล โดยคนขายรับประกันว่าสารประกอบถูกพบและจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว

ตอนแรกๆ ไม่มีใครจะซื้อมัน จนในที่สุดมันก็ถูกขายในราคา 205,000 ดอลลาร์



2. บ้านแห่งความตายของหลุยส์เดธตี้ (Louis Dethy's Death House)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579244-7463.jpeg)
 
ในเดือนพฤศจิกายน 2002 ตำรวจใน Pont-de-Loup เบลเยียมได้ไปบ้านหลังหนึ่ง และได้พบเจ้าของบ้านนาม หลุยส์ เดธตี้
เป็นวิศวกรเกษียณตายจากถูกปืนยิงที่คอ และเมื่อสำรวจไปรอบๆ บ้านพวกเขาก็พบปืนลูกซอง ทำให้ตอนแรกตำรวจเชื่อว่า
เขา ฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาจากภรรยากำลังจะไล่เขาจากบ้าน


อย่างไรก็ตาม หลังจากตำรวจสืบลึกกว่านั้น เขาก็พบว่านายหลุยส์ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตัวตาย แต่ตายเพราะความประมาณตอน
ติดตั้งกับดัก เรื่องของเรื่องคือหลุยส์เกิดความไม่พอใจภรรยาและลูกหลาน แถมเขากำลังถูกไล่ออกจากบ้าน เขาเลยเปลี่ยนบ้าน
ให้เป็นกับดักขนาดใหญ่ โดยตำรวจพบว่าจุดต่างๆ ถึง 19 จุด ของบ้านเต็มไปด้วยกับดัก

ไม่ว่าจะเป็น ผนังเพดาน เรื่องใช้ครัวเรือน จานอาหาร โทรทัศน์ ลังเบียร์ที่ในนั้นมีกับดักปืนลูกซองมันจะทำงานหากมีการ
หยิบขวดเบียร์ออกจากลัง โดยหวังว่าพวกมันจะฆ่าครอบครัวของเขา หากย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ แต่ด้วยความประมาท
ทำให้กับดักมาโดนเขาเสียก่อน




1. เอช เอช โฮล์ม “ปราสาทฆาตกรรม” ( HH Holmes' “Murder Castle”)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579264-9372.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579268-6388.jpeg)
 
หนึ่งในบ้านที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดของฆาตกรต่อเนื่องนาม เอช เอช โฮล์ม ได้ถูกขนานนามว่า “ปราสาทฆาตกรรม”
มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1886  หมอโฮล์มได้ย้ายไปอยู่ชิคาโกเพื่อทำธุรกิจขายยา หลังจากที่เขาโกงผู้รับเหมา เขาก็สร้างบ้าน
ที่ราวกับปราสาทหัวมุมถนนบล๊อกที่ 63  ปราสาทที่ว่ามีห้องพัก 100 ห้อง ไม่มีหน้าต่าง และเขาก็เปิดเป็นโรงแรม


อย่างไรก็ตาม น้อยคนนักที่จะรู้ว่าปราสาทของหมอโฮล์มนั้นมีเบื้องหลัง ภายในปราสาทไม่แตกต่างอะไรไปจากเขาวงกต
ที่ถูกออกแบบซับซ้อน ห้องพักทุกห้องมีทางลับอันวกวนเชื่อมอยู่ แต่ละห้องมีรูแอบมอง ผนังกลไกที่เลื่อนปิดเปิดได้
ท่อแก๊สซึ่งจะปล่อยแก๊สเข้าห้องพักแขกเพียงยื่นนิ้วไปกดปุ่ม หากเหยื่อสลบหรือตาย โฮล์มก็สามารถเคลื่อนย้ายศพมาโดยง่าย
เพราะเขามีลิฟท์สำหรับขนศพลงไปยังห้องใต้ดิน ที่ไม่มีหน้าต่างซึ่งภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือทรมานและชุดเครื่องมือ
ผ่าตัดอย่างครบถ้วน ทำให้ห้องที่ว่าเต็มไปด้วยโครงกระดูก โดยโฮล์มนำไปขายที่โรงเรียนแพทย์ ส่วนที่เหลือนำไปเผา
ไม่ก็ใช้ถุงกรดทำลาย

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1546579288-7488.jpeg)

โฮล์มได้ใช้ปราสาทฆาตกรรมของเขาในฐานะโรงแรมในช่วงในปี 1893 ซึ่งเป็นช่วงที่ชิคาโก้มีการจัดงานมหกรรมโลก
(The Chicaco's World Fair มีแขกมาพักที่โรงแรมของโฮมส์อย่างไม่ขาดสาย และแขกที่ส่วนมากเป็นผู้หญิงไม่เคย
ออกจากปราสาทหลังนี้เลย ไม่มีใครรู้ตัวเลขที่แน่นอนของหญิงสาวที่หายไปในโรมแรมของโฮมส์ เขารับสารภาพในการ
ฆาตกรรม 27 ราย แต่เมื่อมองจากหลักฐานที่พบแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเหยื่อของเขาถึงกว่า 200 ราย

โฮล์มถูกแขวนคอเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1896 ส่วนปราสาทฆาตกรรมของเขาได้ถูกรื้อถอนเพราะสร้างไม่ได้มาตรฐาน

 
อ้างอิง
http://www.toptenz.net/10-insane-stories-of-people-booby-trapping-their-homes.php
http://www.cracked.com/article/175_6-real-people-who-turned-their-homes-into-death-traps/