cmxseed สังคมราตรี
หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 09 สิงหาคม 2017, 15:50:20
5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต cr.mthai.comคำว่า “สงคราม” เมื่อฟังดูแล้วทุกคนก็คงจะนึกถึงแต่ความสูญเสีย เลือดเนื้อ ความแตกแยก เพื่อที่จะได้มาของชัยชนะหรือความถูกต้อง แต่รู้ไหมว่า ในช่วงสงครามนั้นก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดเรื่องราวน่าประทับใจขึ้น ถึงแม้จะเลวร้ายแต่ก็ยังมีความดีอยู่ในนั้นเหมือนกันนะ 1. เครื่องบินปล่อยขนม (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438427-851.jpeg)ในช่วงปี ค.ศ.1948 เป็นช่วงที่ใครอยู่ในประเทศเยอรมันออกจะโชคร้ายกว่าใคร หลังจากที่ประเทศ ถูกแบ่งแยกท่ามกลางผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศรัสเซียเองก็ตัดสินใจที่จะตัดช่องทางการ คมนาคมทางรถไฟที่ตรงไปยังกรุงเบอร์ลินทั้งหมด ด้วยความหวังว่าจะเกิดการขาดแคลนอาหาร ในเบอร์ลิน ในตอนนั้นเอง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรอื่นๆ ก็พบว่า พวกเขาสามารถใช้เครื่องบิน ช่วยขนส่งอาหารได้ จึงได้มีการเริ่มปฎิบัติการที่เรียกว่า The Berlin Airlift ซึ่งเครื่องบินรบแทนที่จะ ปล่อยลูกระเบิด ก็ทำการปล่อยอาหารลงไปยังกรุงเบอร์ลินแทน ถึงตอนนี้ คนในเบอร์ลินก็รอดจากการ อดตายแล้ว แต่ยังมีของเล็กๆ น้อยๆ ที่ขาดไป นั่นคือ ขนมหวานสำหรับเด็กๆ (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438427-8084.jpeg) Gail Halvorsen นักบินจากรัฐยูทาห์ รู้สึกสะเทือนใจกับภาพของเด็กๆ ในเหล่ากรุงเบอร์ลินที่ไม่มี ขนมหวานไว้กิน เขาจึงยกหมากฝรั่งให้เด็กเหล่านั้นพร้อมกันสัญญาว่า เขาจะกลับมาวันพรุ่งนี้พร้อมกับ ขนมอีกจำนวนมากมาย หลังจากนั้น Halvorsen ได้ทำการปล่อยช็อคโกแล็ตลงมากับร่มชูชีพอันเล็กๆ ลงมาให้เด็กๆ นอกจากนั้น เขายังขยับปีกเครื่องบินไปมาเพื่อเป็นสัญญาณให้เด็กๆ จำเครื่องบินของเขา ได้และเตรียมพร้อมรับฝนช็อคโกแล็ต ทำให้เขาได้รับฉายา คุณลุงขยับปืก (Uncle Wiggly Wings) ไปด้วยVIDEO อย่างไรก็ตาม การกระทำแบบนี้ของ Halvorsen ถือว่าผิดกฎ และเขาก็ถูกบังคับให้เลิกทำเสีย จนกระทั่งเจ้านายของเขาได้รู้ว่าชาวเยอรมันชอบพวกอเมริกามากขึ้นแค่ไหนจากเหตุการณ์นี้ จึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มกองกำลังเครื่องบินที่มีหน้าที่ส่งของหวานจำนวนมากไปให้แก่ชาวเมือง ถึงแม้ว่าปฎิบัติการนี้จะจบลงในปี ค.ศ.1949 หลังจากที่สหภาพโซเวียตยอมแพ้ เด็กๆ ชาวกรุงเบอร์ลิน ก็ไม่เคยลืมเรื่องของคุณลุงขยับปีก และชื่อของ Gail Halvorsen ก็ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเยอรมัน ในฐานะชายที่ให้ขนมแก่เด็กๆ ถึงขนาดมีโรงเรียนบางแห่งถูกตั้งชื่อขึ้นตามเขาด้วยซ้ำ2. George Washington คืนสุนัขให้นายพลแห่งกองทัพอังกฤษ ถ้า George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐจะมีศัตรูคู่แค้นสักคน คนๆ นั้นก็คือ William Howe นายพลแห่งกองทัพอังกฤษ ในช่วงสงครามปฎิวัติ กองทัพของ Howe ชนะกองทัพของ Washington หลายครั้งหลายหน จนทำให้ท่านประธานาธิบดีต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438463-6966.jpeg) ในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.1777 Washington และ Howe พบกันอีกครั้งที่ Germantown รัฐ Pennsylvania ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่ก็เป็นฝ่ายของ Howe ที่เอาชนะไปได้ โดยฆ่าทหารของฝ่ายอเมริกา ไปกว่า 100 คนและจับเป็นนักโทษไว้อีกกว่า 400 คน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสูญเสียไปมาก ฝ่ายอเมริกา ก็จับตัวประกันไว้ได้ นั่นคือ สุนัขพันธุ์เทอร์เรียของนายพล Howe ซึ่งหนีออกมาระหว่างการต่อสู้แล้วมา ลงเอยอยู่ที่อีกฝั่ง เป็นเวลา 2 วันที่นายพลเฝ้าเป็นห่วงว่า พวกอเมริกันที่โหดร้ายจะทำอะไรกับสุนัขของเขาบ้าง แต่หลังจากนั้น 2 วัน เจ้าสุนัขก็วิ่งออกมาจากป่าแล้วกลับไปหา Howe โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับข้อความผูกติดมาด้วยว่า ของขวัญ จากนายพล Washington ให้นายพล Howe เขาขอคืนสุนัขตัวนี้ ที่บังเอิญมาอยู่ในมือเขาให้ด้วยความยินดี ตามที่ปลอกคอของมันระบุไว้ว่ามันเป็นสุนัขขอองนายพล HoweVIDEO เรื่องของเรื่องก็คือ Washington เป็นคนที่รักสุนัขมาก และถึงแม้ Howe จะฆ่านายทหารของเขาไปหลายร้อยคน เขาก็ไม่สามารถทำใจร้ายเอาเปรียบในสถานะการณ์แบบนี้ได้ เขาถึงกับสั่งให้หยุดยิงเพื่อให้สุนัขวิ่งผ่านไปได้ และนี่คือช่วงเวลาน่าประทับใจระหว่างคนและเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่หลังจากนั้นนายพลทั้งสองก็กลับไปสู้รบกับต่ออยู่ดี3.สุนัขอังกฤษได้รับยศเป็นนาวิกโยธิน (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438493-9499.jpeg)Just Nuisance (แปลว่าเจ้าตัวน่ารำคาญ) เป็นสุนัขพันธุ์เกรทเดนอาศัยอยู่ที่ฐานทัพกองทัพเรือที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันได้ชื่อแบบนี้มาเพราะมันมีนิสัยชอบนอนขวางทางเดินแคบๆ บนสะพานที่เชื่อมจากท่าเรือ ไปยังบนเรือ และด้วยตัวขนาดสูงใหญ่ถึง 6 ฟุต 6 นิ้ว ทำให้ไม่ง่ายเลยที่จะทำเป็นมองไม่เห็นมัน อย่างไรก็ตาม เหล่าทหารเรือก็รักเจ้า Nuisance และยอมให้มันตามจากฐานทัพไปยังสถานีรถไฟแถวในท้องที่ บางครั้งเจ้า Nuisance ก็จะนำทางทหารเรือกลับไปยังฐานทัพ เมื่อพวกเขาออกไปดื่มกันหนักเกินไปหน่อย หรือเข้าไปช่วยห้ามเมื่อทหารเรือมีเรื่องชกต่อยกันเอง ปัญหาก็คือ พนักงานรถไฟที่ทำงานอยู่ในท้องที่ไม่ค่อยชอบ เจ้า Nuisance มากเท่าไหร่นัก และทหารเรือก็มักชอบแอบเอามันขึ้นรถไฟด้วยเสมอๆ แทนที่จะให้จ่ายค่าเดินทางสำหรับสุนัข เพื่อที่มันจะได้เดินทางอย่างถูกต้อง พนักงานรถไฟตัดสินใจว่า เจ้าสุนัข ตัวเกือบเท่าลูกม้านี้จะต้องห้ามขึ้นรถไฟโดยเด็ดขาด ถึงกับตั้งกฏว่าถ้าเห็นเจ้า Nuisance บนรถไฟ จะต้องพา มันลงโดยทันที (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438493-9488.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438493-9745.jpeg) แต่ทางกองทัพเรือก็มีทางแก้ โดยการลงทะเบียนเจ้า Nuisance เป็นสมาชิกกองทัพเรือเหมือนกับเป็นคนๆ หนึ่งเสียเลย ซึ่งหมายความว่า ไม่ใช่แค่พนักงานรถไฟจะทำอะไรสุนัขตัวนี้ไม่ได้ แต่เจ้าหมา(ไม่)น้อยตัวนี้ จะได้รับสิทธิ์ให้นั่งรถไฟ ได้ฟรีอีกด้วย มีกระทั่งลายเซ็นของเจ้า Nuisance ยืนยันด้วยตัวตน (ลายฝ่าเท้า) มันต้องผ่านการตรวจร่างกายตามขั้นตอน และได้ที่นอนใหม่เป็นเตียงสำหรับทหารเรือ ต่อมามันก็ได้ทำหน้าที่เป็นนาวิกโยธินเต็มตัว และได้รับการฝังศพแบบทหาร คนหนึ่งอีกด้วย4. กองทัพเรือแต่งตั้งกองทัพไอศกรีม (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438551-2296.jpeg)ในปี ค.ศ.1945 กองทัพเรืองของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ประจำการอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิกใต้พบกับปัญหา 3 อย่าง อากาศร้อน กำลังใจหดหาย และกองทัพญี่ปุ่นที่ตามจ้องฆ่าอยู่ทั้งวี่วัน นั่นเองเป็นตอนที่ James Forrestal เลขานุการแห่งกองทัพเรือได้คิดทางแก้ขึ้นมา นั่นคือ แจกไอศกรีมฟรี Forrestal รู้ดีว่าของหวานนี้สำคัญขนาดไหน เขาจริงจังกับเรื่องนี้มากขนาดถึงพูดไว้ว่า ในความคิดของผมแล้ว ไอศกรีมเป็นสิ่งให้ขวัญกำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ถูกละเลยไป (รวมถึงปัจจัยอื่นๆ นั่นคือเหล้าและหนังสือโป๊ แต่เขาไม่ได้พูดถึง) และเมื่อไอศกรีมนี้สำคัญมากขนาดนี้ Forrestal สามารถโน้มน้าวใจให้รัฐบาลให้งบถึง 1 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไอศกรีมอย่างเดียว (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438551-2744.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438551-2441.jpeg) กองทัพเรือได้ออกแบบเรือบรรทุกให้เป็นเหมือนกับร้านไอศกรีมลอยน้ำ พร้อมกับตู้แช่เย็นขนาดยักษ์ที่พร้อมเดินทาง ไปทุกที่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เรือลำนี้สามารถผลิตไอศกรีมได้ 10 แกลลอนในทุกๆ 7 วินาที ซึ่งต่อมาก็พิศูจน์ได้ว่า เรือบรรทุกไอศกรีมนี้ประสบความสำเร็จในการรับใช้เหล่าหทารเรือ5.แมวได้รับเหรียญจากการจับหนูคอมมิวนิสต์ (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438588-3526.jpeg)และอีกครั้งกับกองทัพเรือที่นอกจากจะรักสุนัขแล้วยังรักแมวอีกด้วย ขอแนะนำให้รู้จัก Simon แมวที่อาศัยอยู่บนเรือ HMS Amethys เรือของกองทัพนาวิกโยธินแห่งประเทศอังกฤษ หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Simon ก็ได้รับเลี้ยงดูโดยกัปตันเรือ แต่เรื่องของเราจริงๆ เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1949 เมื่อเรือกำลังเดินทางไปยังแม่น้ำแยงซีเกียง และเกิดติดอยู่กลางสงคราม ในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนฆ่าลูกเรือ 22 คน รวมถึงกัปตัน ส่วนพวกที่เหลือถูกล้อมไว้แล้วจับเป็นตัวประกัน นอกจากนั้น เรือ Amethyst ได้กลายเป็นแหล่งเพาะหนู เมื่อมันติดอยู่ที่ท่าเรือไปไหนไม่ได้ หนูพวกนี้เข้ายึดครองเรือ และกัดกินเสบียงอาหารที่เหลืออยู่ ซึ่งนี่กลายเป็นปัญหาใหญ่เพราะทหารที่เจ็บและเหนื่อยล้าที่เหลือไม่สามารถ ขอให้จีนปล่อยตัวพวกเขากลับไปยังประเทศอังกฤษโดยเร็วได้VIDEO นี้คือตอนที่ Simon เข้ามามีบทบาท ทั้งๆ ที่มันได้รับบาดเจ็บหนักจากสะเก็ดระเบิด มันก็เริ่มภารกิจจับหนูที่อยู่บนเรือ ทีละตัวๆ ในขณะที่กัปตันเรือคนใหม่กำลังป่วย นี่เป็นการช่วยลูกเรือจากการขาดเแคลนเสบียง นอกจากนั้น ยังเป็นทำให้ กัปตับคนใหม่ซาบซึ้งใจอีกด้วย เขาได้เขียนเอาไว้ว่า Simon ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีและเป็นขวัญกำลังใจอย่างมาก และด้วยการเสนอของกัปตัน Simon ก็ได้รับเหรียญตรา Dickin Medal ซึ่งเป็นเหรียญเกียรติยศสำหรับสัตว์ และกลายเป็นแมวดังไปทันที (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1502438588-3547.jpeg) ที่มา everyday-readers.com,Cracked
hgjhg hgjhg hgjhg
dsgjsd dsgjsd
น่ารักดีค่ะ