-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต  (อ่าน 504 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต
cr.mthai.com

คำว่า “สงคราม” เมื่อฟังดูแล้วทุกคนก็คงจะนึกถึงแต่ความสูญเสีย เลือดเนื้อ ความแตกแยก
เพื่อที่จะได้มาของชัยชนะหรือความถูกต้อง แต่รู้ไหมว่า ในช่วงสงครามนั้นก็มีเรื่องราวดีๆ
เกิดเรื่องราวน่าประทับใจขึ้น ถึงแม้จะเลวร้ายแต่ก็ยังมีความดีอยู่ในนั้นเหมือนกันนะ


1. เครื่องบินปล่อยขนม



ในช่วงปี ค.ศ.1948 เป็นช่วงที่ใครอยู่ในประเทศเยอรมันออกจะโชคร้ายกว่าใคร หลังจากที่ประเทศ
ถูกแบ่งแยกท่ามกลางผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศรัสเซียเองก็ตัดสินใจที่จะตัดช่องทางการ
คมนาคมทางรถไฟที่ตรงไปยังกรุงเบอร์ลินทั้งหมด ด้วยความหวังว่าจะเกิดการขาดแคลนอาหาร
ในเบอร์ลิน


ในตอนนั้นเอง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรอื่นๆ ก็พบว่า พวกเขาสามารถใช้เครื่องบิน
ช่วยขนส่งอาหารได้ จึงได้มีการเริ่มปฎิบัติการที่เรียกว่า The Berlin Airlift ซึ่งเครื่องบินรบแทนที่จะ
ปล่อยลูกระเบิด ก็ทำการปล่อยอาหารลงไปยังกรุงเบอร์ลินแทน ถึงตอนนี้ คนในเบอร์ลินก็รอดจากการ
อดตายแล้ว แต่ยังมีของเล็กๆ น้อยๆ ที่ขาดไป นั่นคือ ขนมหวานสำหรับเด็กๆ



Gail Halvorsen นักบินจากรัฐยูทาห์ รู้สึกสะเทือนใจกับภาพของเด็กๆ ในเหล่ากรุงเบอร์ลินที่ไม่มี
ขนมหวานไว้กิน เขาจึงยกหมากฝรั่งให้เด็กเหล่านั้นพร้อมกันสัญญาว่า เขาจะกลับมาวันพรุ่งนี้พร้อมกับ
ขนมอีกจำนวนมากมาย หลังจากนั้น Halvorsen ได้ทำการปล่อยช็อคโกแล็ตลงมากับร่มชูชีพอันเล็กๆ
ลงมาให้เด็กๆ นอกจากนั้น เขายังขยับปีกเครื่องบินไปมาเพื่อเป็นสัญญาณให้เด็กๆ จำเครื่องบินของเขา
ได้และเตรียมพร้อมรับฝนช็อคโกแล็ต ทำให้เขาได้รับฉายา คุณลุงขยับปืก (Uncle Wiggly Wings)
ไปด้วย



อย่างไรก็ตาม การกระทำแบบนี้ของ Halvorsen ถือว่าผิดกฎ และเขาก็ถูกบังคับให้เลิกทำเสีย
จนกระทั่งเจ้านายของเขาได้รู้ว่าชาวเยอรมันชอบพวกอเมริกามากขึ้นแค่ไหนจากเหตุการณ์นี้
จึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มกองกำลังเครื่องบินที่มีหน้าที่ส่งของหวานจำนวนมากไปให้แก่ชาวเมือง

ถึงแม้ว่าปฎิบัติการนี้จะจบลงในปี ค.ศ.1949 หลังจากที่สหภาพโซเวียตยอมแพ้ เด็กๆ ชาวกรุงเบอร์ลิน
ก็ไม่เคยลืมเรื่องของคุณลุงขยับปีก และชื่อของ Gail Halvorsen ก็ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเยอรมัน
ในฐานะชายที่ให้ขนมแก่เด็กๆ ถึงขนาดมีโรงเรียนบางแห่งถูกตั้งชื่อขึ้นตามเขาด้วยซ้ำ





2. George Washington คืนสุนัขให้นายพลแห่งกองทัพอังกฤษ

ถ้า George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐจะมีศัตรูคู่แค้นสักคน คนๆ นั้นก็คือ William Howe
นายพลแห่งกองทัพอังกฤษ ในช่วงสงครามปฎิวัติ กองทัพของ Howe ชนะกองทัพของ Washington
หลายครั้งหลายหน จนทำให้ท่านประธานาธิบดีต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ




ในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.1777 Washington และ Howe พบกันอีกครั้งที่ Germantown รัฐ Pennsylvania
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่ก็เป็นฝ่ายของ Howe ที่เอาชนะไปได้ โดยฆ่าทหารของฝ่ายอเมริกา
ไปกว่า 100 คนและจับเป็นนักโทษไว้อีกกว่า 400 คน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสูญเสียไปมาก ฝ่ายอเมริกา
ก็จับตัวประกันไว้ได้ นั่นคือ สุนัขพันธุ์เทอร์เรียของนายพล Howe ซึ่งหนีออกมาระหว่างการต่อสู้แล้วมา
ลงเอยอยู่ที่อีกฝั่ง

เป็นเวลา 2 วันที่นายพลเฝ้าเป็นห่วงว่า พวกอเมริกันที่โหดร้ายจะทำอะไรกับสุนัขของเขาบ้าง แต่หลังจากนั้น 2 วัน
เจ้าสุนัขก็วิ่งออกมาจากป่าแล้วกลับไปหา Howe โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับข้อความผูกติดมาด้วยว่า ของขวัญ
จากนายพล Washington ให้นายพล Howe เขาขอคืนสุนัขตัวนี้ ที่บังเอิญมาอยู่ในมือเขาให้ด้วยความยินดี
ตามที่ปลอกคอของมันระบุไว้ว่ามันเป็นสุนัขขอองนายพล Howe



เรื่องของเรื่องก็คือ Washington เป็นคนที่รักสุนัขมาก และถึงแม้ Howe จะฆ่านายทหารของเขาไปหลายร้อยคน
เขาก็ไม่สามารถทำใจร้ายเอาเปรียบในสถานะการณ์แบบนี้ได้ เขาถึงกับสั่งให้หยุดยิงเพื่อให้สุนัขวิ่งผ่านไปได้
และนี่คือช่วงเวลาน่าประทับใจระหว่างคนและเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์

แต่หลังจากนั้นนายพลทั้งสองก็กลับไปสู้รบกับต่ออยู่ดี





3.สุนัขอังกฤษได้รับยศเป็นนาวิกโยธิน



Just Nuisance (แปลว่าเจ้าตัวน่ารำคาญ) เป็นสุนัขพันธุ์เกรทเดนอาศัยอยู่ที่ฐานทัพกองทัพเรือที่ประเทศแอฟริกาใต้
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันได้ชื่อแบบนี้มาเพราะมันมีนิสัยชอบนอนขวางทางเดินแคบๆ บนสะพานที่เชื่อมจากท่าเรือ
ไปยังบนเรือ และด้วยตัวขนาดสูงใหญ่ถึง 6 ฟุต 6 นิ้ว ทำให้ไม่ง่ายเลยที่จะทำเป็นมองไม่เห็นมัน


อย่างไรก็ตาม เหล่าทหารเรือก็รักเจ้า Nuisance และยอมให้มันตามจากฐานทัพไปยังสถานีรถไฟแถวในท้องที่
บางครั้งเจ้า Nuisance ก็จะนำทางทหารเรือกลับไปยังฐานทัพ เมื่อพวกเขาออกไปดื่มกันหนักเกินไปหน่อย
หรือเข้าไปช่วยห้ามเมื่อทหารเรือมีเรื่องชกต่อยกันเอง ปัญหาก็คือ พนักงานรถไฟที่ทำงานอยู่ในท้องที่ไม่ค่อยชอบ
เจ้า Nuisance มากเท่าไหร่นัก และทหารเรือก็มักชอบแอบเอามันขึ้นรถไฟด้วยเสมอๆ

แทนที่จะให้จ่ายค่าเดินทางสำหรับสุนัข เพื่อที่มันจะได้เดินทางอย่างถูกต้อง พนักงานรถไฟตัดสินใจว่า เจ้าสุนัข
ตัวเกือบเท่าลูกม้านี้จะต้องห้ามขึ้นรถไฟโดยเด็ดขาด ถึงกับตั้งกฏว่าถ้าเห็นเจ้า Nuisance บนรถไฟ จะต้องพา
มันลงโดยทันที




แต่ทางกองทัพเรือก็มีทางแก้ โดยการลงทะเบียนเจ้า Nuisance เป็นสมาชิกกองทัพเรือเหมือนกับเป็นคนๆ หนึ่งเสียเลย
ซึ่งหมายความว่า ไม่ใช่แค่พนักงานรถไฟจะทำอะไรสุนัขตัวนี้ไม่ได้ แต่เจ้าหมา(ไม่)น้อยตัวนี้ จะได้รับสิทธิ์ให้นั่งรถไฟ
ได้ฟรีอีกด้วย มีกระทั่งลายเซ็นของเจ้า Nuisance ยืนยันด้วยตัวตน (ลายฝ่าเท้า) มันต้องผ่านการตรวจร่างกายตามขั้นตอน
และได้ที่นอนใหม่เป็นเตียงสำหรับทหารเรือ ต่อมามันก็ได้ทำหน้าที่เป็นนาวิกโยธินเต็มตัว และได้รับการฝังศพแบบทหาร
คนหนึ่งอีกด้วย





4. กองทัพเรือแต่งตั้งกองทัพไอศกรีม



ในปี ค.ศ.1945 กองทัพเรืองของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ประจำการอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิกใต้พบกับปัญหา 3 อย่าง
อากาศร้อน กำลังใจหดหาย และกองทัพญี่ปุ่นที่ตามจ้องฆ่าอยู่ทั้งวี่วัน นั่นเองเป็นตอนที่ James Forrestal
เลขานุการแห่งกองทัพเรือได้คิดทางแก้ขึ้นมา นั่นคือ แจกไอศกรีมฟรี


Forrestal รู้ดีว่าของหวานนี้สำคัญขนาดไหน เขาจริงจังกับเรื่องนี้มากขนาดถึงพูดไว้ว่า ในความคิดของผมแล้ว
ไอศกรีมเป็นสิ่งให้ขวัญกำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ถูกละเลยไป (รวมถึงปัจจัยอื่นๆ นั่นคือเหล้าและหนังสือโป๊ แต่เขาไม่ได้พูดถึง)
และเมื่อไอศกรีมนี้สำคัญมากขนาดนี้ Forrestal สามารถโน้มน้าวใจให้รัฐบาลให้งบถึง 1 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
สำหรับไอศกรีมอย่างเดียว




กองทัพเรือได้ออกแบบเรือบรรทุกให้เป็นเหมือนกับร้านไอศกรีมลอยน้ำ พร้อมกับตู้แช่เย็นขนาดยักษ์ที่พร้อมเดินทาง
ไปทุกที่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เรือลำนี้สามารถผลิตไอศกรีมได้ 10 แกลลอนในทุกๆ 7 วินาที ซึ่งต่อมาก็พิศูจน์ได้ว่า
เรือบรรทุกไอศกรีมนี้ประสบความสำเร็จในการรับใช้เหล่าหทารเรือ






5.แมวได้รับเหรียญจากการจับหนูคอมมิวนิสต์



และอีกครั้งกับกองทัพเรือที่นอกจากจะรักสุนัขแล้วยังรักแมวอีกด้วย ขอแนะนำให้รู้จัก Simon แมวที่อาศัยอยู่บนเรือ
HMS Amethys เรือของกองทัพนาวิกโยธินแห่งประเทศอังกฤษ


หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Simon ก็ได้รับเลี้ยงดูโดยกัปตันเรือ แต่เรื่องของเราจริงๆ เกิดขึ้นเมื่อ
วันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1949 เมื่อเรือกำลังเดินทางไปยังแม่น้ำแยงซีเกียง และเกิดติดอยู่กลางสงคราม
ในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนฆ่าลูกเรือ 22 คน รวมถึงกัปตัน ส่วนพวกที่เหลือถูกล้อมไว้แล้วจับเป็นตัวประกัน

นอกจากนั้น เรือ Amethyst ได้กลายเป็นแหล่งเพาะหนู เมื่อมันติดอยู่ที่ท่าเรือไปไหนไม่ได้ หนูพวกนี้เข้ายึดครองเรือ
และกัดกินเสบียงอาหารที่เหลืออยู่ ซึ่งนี่กลายเป็นปัญหาใหญ่เพราะทหารที่เจ็บและเหนื่อยล้าที่เหลือไม่สามารถ
ขอให้จีนปล่อยตัวพวกเขากลับไปยังประเทศอังกฤษโดยเร็วได้



นี้คือตอนที่ Simon เข้ามามีบทบาท ทั้งๆ ที่มันได้รับบาดเจ็บหนักจากสะเก็ดระเบิด มันก็เริ่มภารกิจจับหนูที่อยู่บนเรือ
ทีละตัวๆ ในขณะที่กัปตันเรือคนใหม่กำลังป่วย นี่เป็นการช่วยลูกเรือจากการขาดเแคลนเสบียง นอกจากนั้น ยังเป็นทำให้
กัปตับคนใหม่ซาบซึ้งใจอีกด้วย เขาได้เขียนเอาไว้ว่า Simon ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีและเป็นขวัญกำลังใจอย่างมาก
และด้วยการเสนอของกัปตัน Simon ก็ได้รับเหรียญตรา Dickin Medal ซึ่งเป็นเหรียญเกียรติยศสำหรับสัตว์
และกลายเป็นแมวดังไปทันที




ที่มา everyday-readers.com,Cracked
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 สิงหาคม 2017, 15:03:42 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

nawin

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 98
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2017, 03:55:41 »

nawin

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 98
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2017, 03:59:09 »

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 เรื่องราวน่าประทับใจในช่วงสงครามในอดีต
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2017, 22:12:32 »

น่ารักดีค่ะ