ลงทุนไม่หยุด!! 'นิมมานเหมินท์' ถนนสุดฮอตเชียงใหม่ ร้านกินดื่ม-ช็อป-ที่พัก ผุดพรึ่บเป็นถนนสายเศรษฐกิจสุดฮอตของเชียงใหม่ในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับถนนนิมมานเหมินท์ ที่สองฝั่งถนน
และทุกตรอกซอยบนถนนสายนี้มีการใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์และการบริการอย่างอัดแน่นแทบทุกตารางเมตร
ตามตรอกซอกซอยเนืองแน่นไปด้วยโรงแรม คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผับ-บาร์ ฯลฯ
นี่ยังไม่รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน งานศิลปะ ที่หลากหลายประเภท และ โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์และราคา
มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท ว่ากันว่าในแต่ละปีจะมีเม็ดเงินสะพัดนับ 100 ล้านบาทวันนี้ ถนนนิมานเหมินท์ถือเป็นย่านช็อปปิ้ง กิน ดื่ม เที่ยว และพักอาศัย ที่ทุกคนกล่าวถึงและต้องไปสัมผัส
จากเดิมที่เป็นที่อยู่อาศัยอันแสนสงบ ทว่าในช่วงระยะ 10 ปี กระแสการลงทุนได้พาเหรดปักฐานบนถนนสายนี้
อย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลานี้ก็ยังคงไหลบ่าไม่หยุด ส่งผลให้ราคาที่ดินดีดขึ้นไปถึงตารางวาละเหยียบ 200,000 บาท
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถนนสายนี้คือถนนสายเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่นอกจากการเป็นแหล่งรวมของธุรกิจที่หลากหลายแล้ว ถนนสายนี้ยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของการประลองแนวคิด
การออกแบบ งานสถาปัตย์ที่โดดเด่น ผนวกกับปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งที่มีนักศึกษา
และประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก และอยู่ในจุดใจกลางที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสาย เช่น
ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ถนนห้วยแก้ว ถนนศิริมังคลาจารย์ ถนนสุเทพ รวมทั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง
และสนามบิน เป็นต้นนี่คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดการลงทุน"ไกรสิทธิ ฟูสุวรรณ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟวาวี จำกัด ทุนท้องถิ่นผู้บุกเบิกร้านกาแฟ "กาแฟวาวี" ร้านกาแฟ
รายแรกบนถนนสายนี้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี บนถนนเส้นนี้ก็มีการลงทุนมาโดยตลอด
ปัจจุบันการลงทุนใหม่ ๆ ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารทั่วไป ร้านกาแฟ
และผับ ซึ่งมีสัดส่วนราว ๆ 70% รองลงไปคือ โรงแรม และคอนโดฯ ในสัดส่วน 20% และ 10% ตามลำดับที่น่าสนใจคือ ธุรกิจที่เข้ามาลงทุนบนถนนเส้นนี้มีถึง 70% ที่ต้องม้วนเสื่อกลับไป และมีเพียง 30% เท่านั้นที่อยู่รอด
ธุรกิจที่ไปไม่ไหวก็จะขายหรือเซ้งกิจการต่อ การลงทุนที่เกิดขึ้นจึงเป็นไปในลักษณะหมุนเวียนเปลี่ยนมือมาโดยตลอด
"ไกรสิทธิ" ให้ข้อมูลว่า เฉพาะธุรกิจร้านกาแฟ ถึงวันนี้คาดว่าจะมีอยู่ 70-80 ร้าน ด้วยจำนวนร้านที่มากดังกล่าวจึงทำให้
ส่วนแบ่งทางการตลาดถูกแย่งไป และจากปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอจึงทำให้ลูกค้าลดลงไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมองว่า แนวโน้มการลงทุนบนถนนสายเศรษฐกิจสายนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี
และในระยะ 3-5 ปี ก็ยังเติบโตได้อีก กระแสการลงทุนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณ
ติดถนนสายหลักพุ่งขึ้นตารางวาละประมาณ 200,000 บาท ขณะที่ในถนนซอยตารางวาละ
ประมาณ 100,000 บาทขณะที่ "ราเชน อินทวงศ์" ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมแอท นิมาน บนถนนนิมมานเหมินท์ แสดงทรรศนะว่า
แม้ว่าการลงทุนบนถนนเส้นนี้จะมีเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก แต่ก็ปิดตัวไปมากเช่นกัน ธุรกิจไหนที่ดำเนินกิจการไป
ไม่รอดก็จะเช่า-เซ้ง-ขายกิจการต่อให้กลุ่มทุนใหม่
ธุรกิจที่มีการลงทุนมากในขณะนี้คือ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านกาแฟ ส่วนโรงแรมและคอนโดฯที่เป็นการ
ลงทุนใหม่ ๆ จากนี้อาจมีไม่มากนัก เนื่องจากที่ดินเริ่มมีจำกัด เพราะมีการซื้อขาย-เช่ากันไปเกือบหมด ที่สำคัญคือ
ราคาที่ค่อนข้างสูง เฉลี่ย 80,000-200,000 บาท/ตร.ว. การลงทุนอาจไม่คุ้มค่าสอดคล้องกับ "ทัศนัย บูรณุปกรณ์" นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่กล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงทุนโรงแรมและคอนโดฯ
ที่เกิดขึ้นมากบนถนนเส้นนี้ เหตุผลหนึ่งคือ การเร่งสร้างก่อนที่กฎหมายผังเมืองจะประกาศใช้ ประกอบกับถนนสายนี้
มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะเติบโตได้ เนื่องจากถนนนิมมานเหมินท์เป็นถนนสายเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมา แต่การลงทุนใหม่ ๆ จากนี้ไป เนื่องจากราคาที่ดินค่อนข้างสูงมาก การลงทุนอาจเป็นลักษณะ
ของการเปลี่ยนมือ หรือต่อเติมสิ่งก่อสร้างเดิมเป็นหลัก
จากการสำรวจของ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่า ขณะนี้นอกจากถนนสายนี้จะยังมีการก่อสร้างโรงแรมและคอนโดฯอยู่บ้าง
แต่ก็มีผู้ประกอบการที่พักอาศัยจำนวนหนึ่งได้ปรับรูปแบบที่พัก เช่น หอพักปรับเป็นโรงแรม เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว
เพิ่มมากขึ้นนี่คือสีสันของถนนสายเศรษฐกิจสำคัญของเชียงใหม่ที่ยังมีมนต์ขลัง
และจูงใจนักลงทุนรายใหม่ ๆ มิคลาย credit :: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์