-->

ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"  (อ่าน 24494 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2010, 16:21:01 »

 zad

มาได้ไง  บรรทัดนั้น    หึหึ   

xtiger

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2010, 16:28:05 »

น้องมี่ คุณเจม มีสูตรอาหารที่ทำให้เราไม่เฉือย มั้ยครับ

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 08:33:04 »

น้องมี่ คุณเจม มีสูตรอาหารที่ทำให้เราไม่เฉือย มั้ยครับ



มื้อเช้าพยามอย่าทานแป้งมาก  เพราะ มันจะทำให้สมองหลั่งสารซีโรโทนิน  ทำให้เราง่วง  ทั้งที่เพิ่งตื่นนอน

ทานให้ครบ 5 หมู่อ่ะดี   

ระหว่างวัน  ถ้าไม่ทาน ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง   ก้อ ดื่มน้ำเปล่าแก้วโตๆ  ออกซิเจนจาได้ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น  ได้สดชื่น 

รู้สึกเฉื่อยๆ ก้อ เล่นกีฬามั่งจิ  ร่างกายได้หลั่งเอนโดรฟินออกมา  ไม่รู้นะ  มี่อ่ะช่วงไหน เต้นบ่อย มี่จะรู้สึกว่าสดชื่น กระปรี้กระเปร่า  มีชีวิตชีวา กินอร่อย นอนหลับสบาย

ฟังเพลงมันส์ๆ ก้อ ช่วยได้นะ ตอนขับรถไรงี้

  gsdgdgs

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 11:22:49 »

ไม่ อยาก เฉื่อย ก็ ลดอาหารจำพวกแป้ง แร้ว ทานอาหาร ที่มี กรดอะมิโน พวก เน้ งับ

แอลไลซีน
    * แอลไลซีน ( L-Licin ) คือเป็นอะมิโนแอซิดจำเป็น ( Essential Amino Acid ) ที่สำคัญตัวหนึ่งที่ใช้สำหรับการเจริญเติบโต และ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเนื้อเยื่อในร่างกาย
    * แอลไลซีน เป็นสารต้นตอในการสร้างโปรตีนคอลลาเจน ( Collagen ) ซึ่งเป็นส่วนประกอบในเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณและเส้นผมมีสุขภาพดี
    * แอลไลซิน ลดอัตราการเกิดเริม ( Herpes Simplex ) ได้อีก
    * ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย จึงนิยมรับประทานควบคู่กับการทานแคลเซียมเพื่อแก้ปัญหาเรื่องกระดูก ฟัน และตะคริวได้
    * ช่วยรักษาระดับไนโตรเจนในร่างกายให้เป็นปกติ ไม่มากหรือน้อยเกินไป
    * ลดการดูดซึมไขมันและการสร้างไขมันใหม่ เร่งการเผาพลาญไขมัน
    * ขับไขมันส่วนเกิน (น้ำหนักลดลง) เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงร่างกาย
    * ร่างกายแข็งแรง สดชื่น ชลอความแก่ เพิ่มสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ แร่ธาตุ
พบมากใน น้ำนม , wheat germ ,เนื้อสัตว์

โคลีน

   โคลีน(Choline)เป็นสารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี พบได้ในอาหาร
 โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปของฟอสฟา-ติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) หรือโคลีนอิสระ (free choline)
 หากโคลีนรวมตัวกับไขมันที่เรียกว่าฟอสโฟลิปิด (phospholipid) จะได้เป็นฟอสฟาติดิลโคลีน (PC)
 ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่พบมากที่สุดในเลซิทิน (Lecithin)   ดังนั้นโคลีนจึงมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับเลซิทิน

โคลีนมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร

โคลีนมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายอย่างคือ

1.        เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์  เยื่อหุ้มสมอง  กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท รวมทั้งไลโปโปรตีน (Lipoprotein)

2.        เป็น สารตั้งต้นในการสร้างอะเซททิลโคลีน(Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ใช้ในการส่งกระแสประสาท (Cholinergic neurotransmission) ของสมอง

3.        เป็นสารที่ให้กลุ่มเมทิล แก่สารอื่น (methyl donor)

โคลีนพบได้ในอาหารประเภทใด

อาหาร ที่มีโคลีนมากพบได้ทั้งผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ ได้แก่
ไข่แดง เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ สมอง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง จมูกข้าว ข้าวโอ๊ต
 กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เนื้อสัตว์ ปลา ฯลฯ
ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของโคลีนที่ปราศจากโคเลสเตอรอลและมีไขมันต่ำ

 

โคลีนมีบทบาทต่อสุขภาพอย่างไร

 1. ความจำและการเรียนรู้ของสมอง

     โคลีนเป็นสารที่ใช้ในการสร้างอะเซททิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญของระบบประสาท
 เชื่อว่าการมีอะเซททิลโคลีนที่เพียงพอในสมองจะช่วยป้องกันภาวะความจำเสื่อม ได้

                      การศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์) ระยะเริ่มแรก
พบว่าการให้โคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือนจะช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา
 (cholinesterase inhibitors) ก็ทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย

            2. การทำงานของตับ

                         ถ้าขาดโคลีน จะทำให้ตับไม่สามารถเคลื่อนย้ายไขมันออกได้
ผลคือเกิดภาวะไขมันสะสมในตับ ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะเซลล์ตับเสื่อม ตับแข็ง และมะเร็งตับได้

            3. ลดโคเลสเตอรอล และป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

                          โคลีนจะช่วยเพิ่มระดับของ HDL (ไขมันดี)  และลดระดับของ LDL (ไขมันเลว)
 และโคเลสเตอรอลรวม  จึงมีผลป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจ
 (Atherosclerosis and Cardiovascular disease)

รับประทานโคลีนเท่าไรดี

ปริมาณโคลีนที่ควรได้รับประจำวัน  (Dietary Reference Intake ; DRI)  มีดังนี้
ชาย                 550   มก. / วัน
หญิง             425   มก. / วัน
หญิงตั้งครรภ์       450   มก. / วัน
หญิงให้นมบุตร     550   มก. / วัน

ปริมาณสูงสุดที่บริโภคได้คือไม่เกิน 3.5 กรัม / วัน

ปัจจุบัน นมผงดัดแปลงสำหรับทารกก็ได้มีการเติมโคลีน เช่นเดียวกับสารอาหารชนิดอื่นคือ
 EPA, DHA และ เลซิทิน เป็นต้น เพื่อให้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของเด็ก


ทอรีน
1.     ช่วยในการทำงานของเรตินาในการรับแสง
2.    ช่วยคอนจูเกทกรดน้ำดี
3.    เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ในเม็ดเลือดขาด
4.    เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ในปอดช่วยป้องกันเนื้อปอดไม่ให้ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ
5.    ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท( depressant )
6.    ควบคุมน้ำในเซลล์ของสมองเช่นในภาวะ hyoernatemia dehydration และuremia
7.    ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
8.    ควบคุมการทำงานของ Cyclic AMP
9.    เพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ
10.    ส่งเสริมการเจริญเติบโต
11.    ส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน
12.    ช่วยในการแบ่งเซลล์ ของลิมโฟซัยท์
13.    มีผลหลายอย่างต่อการทำงานของหัวใจ เช่น antiarrhythmic inotropic effect โดยเกี่ยวข้องกับแคลเซียม ช่วยเสริม การทำงานของ digitalis ช่วยการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เป็น osmotic agent และช่วยลดความดันโลหิตเป็นต้น

    ในมนุษย์การขาดทอรีนเกิดขึ้นได้ยากเนื่องจากสามารถสังเคราะห์ทอรีน ได้จากกรดอะมิโนบางตัว แต่มีบุคลลบางจำพวกที่เสียงต่อการขาดทอรีนคือ

1.    เด็กและผู้ใหญ่ที่ได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำที่ไม่มีทอรีนเป็นเวลานาน  ๆ
2.    ทารกที่รับประทานนมผงดัดแปลงสำหรับทารกที่ไม่ได้เติมทอรีน
3.    ทารกคลอดก่อนกำหนดและตับยังทำงานได้ไม่ดี
4.    คนที่ขาดเมทไทโอนีนและหรือซีสเตอีน
5.    คนที่บริโภคมังสวิรัติโดยไม่กินไข่ น้ำนมของแม่ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติ
6.    คนที่ขาด cystathionase และ /หรือ cysteine sulfinic acid decarboxylase และวิตามินบี 6
7.    คนที่เป็นการดูดซึมบกพร่องเรื้อรัง ( Chronic mala bsorption )จะมีการสูญเสียทอรีน
8.    คนที่เป็นโรคตับเรื้อรังที่ไม่สามารถสร้างทอรีน
9.    ในภาวะผู้ใหญ่หรือเด็กที่อยู่ในภาวการณ์เจ็บป่วยเช่น แผลไฟไหม้ และน้ำร้อนลวกการติดเชื่ออย่างรุนแรง ภาวะเจ็บป่วยหนัก ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง   

เทารีนมีมากใน Shellfish  หอย Clam สด หอยนารม ปลาทูน่า

ที่กล่าวมา ข้างต้น สามตัว เปน กรดอะมิโน ที่ช่วยทำให้ ไม่เฉื่อย นะงับ

บริษัท ผู้ผลิต เครื่องดื่ม จึงบรรจุ กรดอะมิโนเหล่า เน้ ลงไปในเครื่องดื่มบำรุง กำลัง อ่ะ งับ

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 13:49:09 »

^
^


จดๆๆๆๆ    ;khhg

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2010, 11:22:33 »

ทอรีน นี่เท่าที่เคยรู้มามีอยู่ในพวกสัตว์เท่านั้นใช่รึเปล่าครับ ?

หรือว่ามีในพวกพืชด้วย ถ้าไม่มีในพืช แล้วคนกินเจนี่จะมีอะไรทดแทน ทอรีน ได้บ้างครับ ?  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2010, 13:11:30 »

ทอรีน นี่เท่าที่เคยรู้มามีอยู่ในพวกสัตว์เท่านั้นใช่รึเปล่าครับ ?

หรือว่ามีในพวกพืชด้วย ถ้าไม่มีในพืช แล้วคนกินเจนี่จะมีอะไรทดแทน ทอรีน ได้บ้างครับ ?  ;khhg

ทอรีน ร่างกาย ผลิตขึ้น ได้เอง งับ

สำหรับ คนกิน เจ ก็ ต้อง เสริม สาหร่าย Kelp นะงับ khjhgg

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2010, 09:44:47 »


ทอรีน ร่างกาย ผลิตขึ้น ได้เอง งับ

สำหรับ คนกิน เจ ก็ ต้อง เสริม สาหร่าย Kelp นะงับ khjhgg


ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ  ;khhg



กินอาหารดีละก็อย่าลืมออกกำลังกายด้วย
ว่าแต่อยากรู้วิธีออกกำลังกายกับลูกบอลแบบนี้จัง  เขิน



vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2010, 15:56:59 »

ท่าน Jame_Bond_007 ครับ Kelp ยี่ห้อนี้ดีไหมครับ ? ทานเยอะเป็นอันตรายไหม ?  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2010, 17:08:47 »

ตัว เน้ ก็ ใช้ ด้าย งับ ท่าน

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 00:25:49 »

พักนี้   มี่นอนดึก  มาก 

พี่เจมส์คะ  ทานไรดี

ไม่อยากโทรม   zad

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 02:15:59 »

พักนี้   มี่นอนดึก  มาก 

พี่เจมส์คะ  ทานไรดี

ไม่อยากโทรม   zad

ก็ กิน พี่เจมส์ งับ .... อูยส์


ม่าย อยากโทรม เนื่องจากนอนดึก ก็ VitB รวม นะงับ พวก Exect-B ของ แบ๊ะมอ ก็ใช้ด้าย นะงับ

หรือ ถ้าต้อง การแบบ ธรรมชาติ จิงๆ

ก็ มื้อเช้า มูสลี่ย์+โยเกิร์ต+ผลไม้

กลางวัน แป้ง+เนื้อปลา+ผัก

เย็น ผัก+ธัญพืช+โปนตีนจากเนื้อสัตว์

ดึกๆ ก็ นมถั่วเหลือ+งาดำ หรือ น้ำขิง ก็ ดีนะงับ

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 10:49:30 »

พักนี้   มี่นอนดึก  มาก 

พี่เจมส์คะ  ทานไรดี

ไม่อยากโทรม   zad

ก็ กิน พี่เจมส์ งับ .... อูยส์


ม่าย อยากโทรม เนื่องจากนอนดึก ก็ VitB รวม นะงับ พวก Exect-B ของ แบ๊ะมอ ก็ใช้ด้าย นะงับ

หรือ ถ้าต้อง การแบบ ธรรมชาติ จิงๆ

ก็ มื้อเช้า มูสลี่ย์+โยเกิร์ต+ผลไม้

กลางวัน แป้ง+เนื้อปลา+ผัก

เย็น ผัก+ธัญพืช+โปนตีนจากเนื้อสัตว์

ดึกๆ ก็ นมถั่วเหลือ+งาดำ หรือ น้ำขิง ก็ ดีนะงับ


กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! 

ที่พี่พูดมา  มี่ทานแบบนั้นเกือบทุกวันเชื่อป่ะ   แต่สลับกันระหว่าง มื้อเช้ากับมื้อเย็น  555+   

เช้าๆ   ตื่นมาทีแรก น้ำแอปเปิ้ลโซเดอร์ก่อน  2 แก้วใหญ่ๆ   น้ำเปล่า   

สักแป๊บ  ทำโน่นนี่เส็ดค่อยทาน  พวกน้ำเต้าหู้   น้ำฟักทอง  น้ำธัญพืช  มีหมดเลย  มีทุกวันด้วย  บางวันทำแล้ว รีบๆก้อไม่ได้ทาน    จาทานซุปไก่สกัดแทน (เหมือนกันตรงไหน  --*)

ตามด้วย มื้อสายๆ ข้าวต้มกล้อง ข้าวสวยกล้อง  ทานปลา ทานผัก  + น้ำขิง

มื้อกลางวันนี่สารพัด   ทานอย่างละนิดๆ แต่ทานได้เรื่อยๆ เจออะไรก้อทาาน   แล้วแต่สถานที่+ เวลา


มื้อเย็น  ผลไม้ นมเปรี้ยว โยเกริ์ต   นมถั่วเหลืง+น้ำผึ้ง อุ่นๆก่อนเข้านอน+ Vit B  (กะให้หลับสบาย)

อะไรมันจาบังเอิญ  ขนาดนั้น 

ก้อ ทาน VitB รวม  ของแบคมอร์ อย่างที่ว่า  แต่ทานมั่งไม่ทานมั่ง   เม็ดสีดำ น่ากลัว เม็ดใหญ่ด้วย  --"   ต่อไปจาทานทุกวันค่ะ   zad


dvd6699

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 11:20:34 »

^
^
^
^
^
^
ทานอย่างนี้มิน่าล่ะถึงได้สวย ดูดี และน่ารัก  เขิน

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 12:27:29 »

พักนี้   มี่นอนดึก  มาก 

พี่เจมส์คะ  ทานไรดี

ไม่อยากโทรม   zad

ก็ กิน พี่เจมส์ งับ .... อูยส์


ม่าย อยากโทรม เนื่องจากนอนดึก ก็ VitB รวม นะงับ พวก Exect-B ของ แบ๊ะมอ ก็ใช้ด้าย นะงับ

หรือ ถ้าต้อง การแบบ ธรรมชาติ จิงๆ

ก็ มื้อเช้า มูสลี่ย์+โยเกิร์ต+ผลไม้

กลางวัน แป้ง+เนื้อปลา+ผัก

เย็น ผัก+ธัญพืช+โปนตีนจากเนื้อสัตว์

ดึกๆ ก็ นมถั่วเหลือ+งาดำ หรือ น้ำขิง ก็ ดีนะงับ


กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! 

ที่พี่พูดมา  มี่ทานแบบนั้นเกือบทุกวันเชื่อป่ะ   แต่สลับกันระหว่าง มื้อเช้ากับมื้อเย็น  555+   

เช้าๆ   ตื่นมาทีแรก น้ำแอปเปิ้ลโซเดอร์ก่อน  2 แก้วใหญ่ๆ   น้ำเปล่า   

สักแป๊บ  ทำโน่นนี่เส็ดค่อยทาน  พวกน้ำเต้าหู้   น้ำฟักทอง  น้ำธัญพืช  มีหมดเลย  มีทุกวันด้วย  บางวันทำแล้ว รีบๆก้อไม่ได้ทาน    จาทานซุปไก่สกัดแทน (เหมือนกันตรงไหน  --*)

ตามด้วย มื้อสายๆ ข้าวต้มกล้อง ข้าวสวยกล้อง  ทานปลา ทานผัก  + น้ำขิง

มื้อกลางวันนี่สารพัด   ทานอย่างละนิดๆ แต่ทานได้เรื่อยๆ เจออะไรก้อทาาน   แล้วแต่สถานที่+ เวลา


มื้อเย็น  ผลไม้ นมเปรี้ยว โยเกริ์ต   นมถั่วเหลืง+น้ำผึ้ง อุ่นๆก่อนเข้านอน+ Vit B  (กะให้หลับสบาย)

อะไรมันจาบังเอิญ  ขนาดนั้น 

ก้อ ทาน VitB รวม  ของแบคมอร์ อย่างที่ว่า  แต่ทานมั่งไม่ทานมั่ง   เม็ดสีดำ น่ากลัว เม็ดใหญ่ด้วย  --"   ต่อไปจาทานทุกวันค่ะ   zad



นู๋มี่ ก็ ดูแล สุขภาพได้ ดี นะงับ

แต่ ขอ แนะนำ ให้ โยเกิร์ต เปง มื้อเช้า นะงับ

 เพราะ ใน โยเกิร์ต มี จุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ ต่อ ระบบ ย่อย อาหาร ของ เรา นะงับ
 (จุลินทรีย์ เหล่า เน้ จา ฝังตัวอยู่ที่บริเวณ ผนังลำไส้เล็ก) ช่วยย่อยอาหารบางชนิด เพิ่มการดูดซึมให้ร่างกาย

และ ถ้า เปง ไป ด้าย มี ไดอารี่ หรือ ตาราง บันทึก เรื่อง การขับถ่าย จา ดี มาก เรยนะงับ

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2010, 19:54:11 »

^
^
^

ตารางบันทึก การขับถ่าย     อ่ะ  ณ     - -"

ต่อไปต้องทานโยเกริ์ตเป็นมื้อเช้า      พรุ่งนี้เป็นต้นไปเลย     ขอบคุณค่ะ   ;khhg


paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2010, 13:34:11 »

^
^
^
ยินดี รับใช้ งับ






ปล. หุหุ ตอน แรก นึก ว่า จา ทาน พี่เจมส์ เปง มื้อดึก ซะอีก อิอิ แอบหลงตัวเอง อยู่ ตั้งนาน

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2010, 13:49:39 »

^
^
^
ยินดี รับใช้ งับ






ปล. หุหุ ตอน แรก นึก ว่า จา ทาน พี่เจมส์ เปง มื้อดึก ซะอีก อิอิ แอบหลงตัวเอง อยู่ ตั้งนาน


มะเอา  ท่าจาเคี้ยวยาก

แบร่ๆ

dvd6699

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2010, 15:52:40 »

อมไว้ก่อนแล้วค่อยบ้วนทิ้งก็ได้ครับ  jljhl

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2010, 20:31:55 »

^
^
^
ยินดี รับใช้ งับ






ปล. หุหุ ตอน แรก นึก ว่า จา ทาน พี่เจมส์ เปง มื้อดึก ซะอีก อิอิ แอบหลงตัวเอง อยู่ ตั้งนาน


มะเอา  ท่าจาเคี้ยวยาก

แบร่ๆ

ง้าน เด๋ว ตุ๋น ให้ เปื่อย ก่อง จา ด้าย เคี้ยว ง่ายๆ กิกิ jljhl

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 11:00:11 »

ท่าน Jame_Bond_007 รบกวนถามอีกนิดครับ
ไวน์ขาว กับ ไวน์แดง นี่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไหมครับ  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 13:14:52 »

ท่าน Jame_Bond_007 รบกวนถามอีกนิดครับ
ไวน์ขาว กับ ไวน์แดง นี่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไหมครับ  ;khhg

มี ประโยชน์นิดหน่อย นะงับ วันละไม่เกิน 100 cc.

แต่ถ้าเปนไวน์ องุ่น จากตะวันออกกลาง จะมีประโยชน์ มากกว่า นะงับ

(ชาวยิวโบราณ ใช้ไวน์ ในการรักษาโรคกระพาะ และ Reflux)

racegal

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 02:48:41 »

วันๆ กิน แต่ มาม่า

ไม่ได้ดูแลตัวเองเลย ..

ฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี  ต้องการคนดูแล บ้างจัง .. ..
  dgd

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด      fdgdfdf

phayao

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 11:57:45 »

ผมว่าไปร้านยาซื้อ วิตามินที่มี ธาตุเหล็ก รับลองได้ทุกวัน

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 18:33:08 »

ผมว่าไปร้านยาซื้อ วิตามินที่มี ธาตุเหล็ก รับลองได้ทุกวัน

ได้อะไรทุกวันเหรอครับ  ttu

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: 13 กันยายน 2010, 10:31:54 »

ท่าน Jame_Bond_007 ครับ เคยได้ยินว่าควรเลือกกินอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด  (A B AB O)
ทฤษฎีนี้เป็นที่ยอมรับกันกว้างขว้างไหมครับ ?   ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: 13 กันยายน 2010, 13:51:15 »

ท่าน Jame_Bond_007 ครับ เคยได้ยินว่าควรเลือกกินอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด  (A B AB O)
ทฤษฎีนี้เป็นที่ยอมรับกันกว้างขว้างไหมครับ ?   ;khhg

ขอบคุง ที่ ถาม นะงับ คำถาม ของท่าน ดีมาก เรยงับ

การทานอาหาร ตามกรุ๊ปเลือด นั้น เปนที่ยอมรับ กัน เฉพาะกลุ่ม อายุรเวช(Ayuraveda Therapy)

ซึ่ง ปัจจุบัน การกินอาหาร ก็มีหลายแนว นะงับ เช่น

Holistic = เน้น พืช ผัก ผลไม้ ธัญพืช ข้าวไม่ขัด แป้งไม่ฟอกสี น้ำตาลไม่ผ่านการตกผลึก หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์

ส่วนใหญ่ การบำบัดเน้นไปทาง ดื่มเอนไซม์ จาก ผักผลไม้สด


Macrobiotic = มี พืช ผัก ข้าวกล้อง คล้ายๆ Holistic แต่ อาหารที่เน้น จิงๆ ในกลุ่มนี้คือ อาหารที่ใส่จุลินทรีย์

ซึ่ง ก็ คือ อาหารที่ผ่านการถนอมอาหาร ด้วยการหมักดอง เช่น มิโซะ(เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) กิมจิ(ผักดอง เกาหลี) โชยุ ฯลฯ

เพราะ จุลินทรีย์ หรือ EM เหล่า เน้ เปนประโยชน์ ต่อร่างกายเรา เปน อย่างมาก เช่น ช่วยย่อย ช่วยการดูดซึม

สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างTransferFactor จากแม่สู่ลูก ฯลฯ จิง แร้ว เมืองไทยเราก็มีนะงับ แต่จะอยู่ทางอีสาน

เพราะ คน อีสาน กินปลาร้า ซึ่งในปลาร้า นั้น มี EM ที่เปนประโยชน์ ไม่แพ้ มิโซะ เรยทีเดียว

เหตุเน้ เอง คนอีสาน จึงแข็งแรง

Ayuraveda = เน้น พืช ผัก เนื้อสัตว์ บางชนิด ถั่วต่างๆ ธัญพืช เครื่องเทศสมุนไพร น้ำมันหอมระเหยจาก พืช

โดย จัดกลุ่ม อาหาร ตาม กรุ๊ป เลือด

ami_amilie

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: 13 กันยายน 2010, 23:40:46 »

^
^

งั้นมี่ก้อเป็น  Holistic

 uiuo

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: 15 กันยายน 2010, 13:00:04 »

^
^
^
พี่ ก็ เปง ทั้ง Holi+Macro นะคะ เขิน

AZURA3232

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: 15 กันยายน 2010, 13:09:22 »

^
^
^
พี่ ก็ เปง ทั้ง Holi+Macro นะคะ เขิน


แหม  นึกว่า เป็น Loli  อย่างเดียว  เขิน  kjhg

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 10:18:08 »

^
^
^
พี่ ก็ เปง ทั้ง Holi+Macro นะคะ เขิน


แหม  นึกว่า เป็น Loli  อย่างเดียว  เขิน  kjhg

Loli นี่ยิ่งกินยิ่งแข็งแรง  kjhg

kalamung

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: 21 กันยายน 2010, 14:03:05 »

อยากอายุยืนต้องเน้นผัก กับปลา mbvc

Yasito

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: 21 กันยายน 2010, 14:20:14 »

ใช่ ต้อง กิน ปลา


แต่ไม่รู้ว่าจะอายุยืนรึป่าวเนาะ อิอิ ttu ttu

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: 21 กันยายน 2010, 14:56:48 »

^
^
^
อ๊าาาากกกกก ..... ก้างติดคอ piuyty

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: 27 กันยายน 2010, 11:48:12 »

ท่าน Jame_Bond_007 ครับ รบกวนอีกนิดครับ  ;khhg

อยากสอบถามเรื่อง คาวตอง อ่ะครับ มีประโยชน์ โทษ อย่างไรบ้าง ?
ช่วงนี้รุ่นน้องที่รู้จักมันฮิตกินกันจริง  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: 28 กันยายน 2010, 12:30:37 »

ท่าน Jame_Bond_007 ครับ รบกวนอีกนิดครับ  ;khhg

อยากสอบถามเรื่อง คาวตอง อ่ะครับ มีประโยชน์ โทษ อย่างไรบ้าง ?
ช่วงนี้รุ่นน้องที่รู้จักมันฮิตกินกันจริง  ;khhg


คาวตอง มี สรรพคุณ Antiseptic ฆ่า เชื้อ ได้บางชนิด เมื่อ นำมาหมัก กับ Probiotic ซึ่ง เปน จุลินทรีย์

ที่มีประโยชน์ ก็ จะ เพิ่มขีดความสามารถ ของ คาวตอง ขึ้นไป อีก

อย่างไร ก็ ดี คาวตอง ก้ ยัง เปน สมุนไพรเดี่ยว ซึ่ง ไม่สามารถ กินติดต่อ กันเปน เวลา นานๆ ได้

ผู้บริโภค ควร เลือก กิน สมุนไพรอื่นๆ เพื่อ ปรับสมดุล ด้วย มิฉะนั้น จะเกิน ผลเสียมากกว่าผลดี

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: 28 กันยายน 2010, 12:33:16 »

ถ้าเกิดมีโรคประจำตัวพวกเบาหวานนี้กินได้ไหมครับ






แนว ๆ นี้อ่ะครับ   dsgjsd


ปล. สมุนไพรตัวอื่น ท่าน Jame_Bond_007 มีอะไรแนะนำบ้างครับ  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: 29 กันยายน 2010, 12:46:17 »

^
^
^
จาก รูป ข้างบน เปง สมุนไพรเดี่ยว ห้ามกินติดต่อกันเปง เวลา เกิน สองเดือน นะงับ

ส่วน สมุนไพรที่ผม กิน จะเปน สมุนไพรที่เข้าชุดเปนยา(XXX) กินได้ตลอดปี แรงดีตลอดชาติ คร๊าาาฟฟฟ jljhl

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: 29 กันยายน 2010, 16:53:58 »

^
^
^
จาก รูป ข้างบน เปง สมุนไพรเดี่ยว ห้ามกินติดต่อกันเปง เวลา เกิน สองเดือน นะงับ

ส่วน สมุนไพรที่ผม กิน จะเปน สมุนไพรที่เข้าชุดเปนยา(XXX) กินได้ตลอดปี แรงดีตลอดชาติ คร๊าาาฟฟฟ jljhl


โอ้วววววว...สรรพคุณนี้ นี่แหละใช่เลย  hgjhg

แล้วยังไงจะมาปรึกษาท่าน Jame_Bond_007  อีกนะครับ  ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ  09876

Observer007

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: 29 กันยายน 2010, 23:51:57 »

อ่านแล้วหิวขึ้นมาเลยทีเดียว fdgdfdf

jokerzero

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #90 เมื่อ: 30 กันยายน 2010, 17:14:07 »

นักวิชาการโลกฟันธงอาหารก่อมะเร็ง ไทยพบแกงเลียง-แกงเหลือง ต้านได้


โรคภัยที่คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกมาเป็นอันดับหนึ่งนั้นคือโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งตามมาอยู่อันดับสอง หลายสิบปีมาแล้วที่วงการแพทย์ทั่วโลกพยายามหาสาเหตุของโรคมะเร็งแต่ละอวัยวะ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไข เพื่อสรุปให้ได้ข้อชัดเจนเสียทีว่าการบริโภคหรือระบบโภชนาการของมนุษย์โลก เป็นสาเหตุของมะเร็งแต่ละชนิดได้แค่ไหน

ล่าสุด หน่วยงาน เวิลด์ แคนเซอร์ รีเสิร์ช ฟัน (World Cancer Research Fund) ร่วมกับ อเมริกัน อินสติติว ฟอร์ แคนเซอร์ รีเสิร์ช (American Institue for Cancer Research) ได้ตัดสินและสรุปงานวิจัยกว่า 7,000 เรื่องที่ศึกษาวิจัยความสัมพันธ์ของอาหาร การออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก

ชนิพรรณ บุตรยี่ นักวิชาการจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำงานวิจัยนี้มาบรรยายในงานประชุมเรื่อง ความท้าทายทางพิษวิทยาในศตวรรษที่ 21 ว่า งานวิจัยใช้ระยะเวลาสรุปผล 5 ปี โดยนำงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างมากสุด ถึง 100,000 คน และบางชิ้นมีการเก็บข้อมูลนานนับ 10 ปี ใช้เงินทำวิจัยมหาศาล จึงจัดเป็นงานวิจัยที่น่าเชื่อถือและยึดเป็นข้อมูลทางวิชาการได้ ถือเป็นข้อบ่งชี้ที่แน่ชัดแล้ว โดยเน้นเรื่องการกินและการออกกำลังกายเป็นหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับแรกเป็นข้อบ่งชี้ที่แน่นอน เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอาหาร วิถีชีวิต การออกกำลังกาย สิ่งแวดล้อม โดยพบว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้า นม ทั้งวัยหมดประจำเดือนและก่อน มีประจำเดือน มะเร็งช่อง ปาก คอหอย กล่องเสียง หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (เฉพาะผู้ชาย) มีไขมันในร่างกายเกินจากค่าดัชนีมวลกายหลังจากอายุ 21 ปีไปแล้ว เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมหลังหมดประจำเดือน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งไต และเนื้อเยื่อบุมดลูก นอกจากระดับไขมันที่เป็นส่วนเกินแล้วยังแยกย่อยออกมาอีกว่า คนที่อ้วนลงพุง มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งลำไส้และทวารหนัก

สำหรับ อาหารที่คลางแคลงใจกันมานานพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ในงานวิจัยนี้ฟันธงออกมาอย่างแน่ชัดแล้วว่าการบริโภคเนื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว แกะ แพะ ในปริมาณที่สูงเกินจะก่อมะเร็งลำ ไส้ มีคำแนะนำให้บริโภคเพียงสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม ควรหันมาบริโภคเนื้อสีขาว อย่างเนื้อไก่ หมู หรือปลา รวมทั้งเนื้อสัตว์ที่ผ่าน กระบวนการปรุงแต่ง ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารเหล่านี้ต้องรมควัน บางครั้งต้องปรุงรส ใช้เคมีเพื่อให้สีรสชาติและมวลของอาหารอยู่ครบ เป็นอาหารที่กินแล้วก่อมะเร็งเช่นกัน ที่น่าตกใจพบว่า การบริโภคเบต้าแคโรทีนในรูปแบบอาหารเสริม จะเร่งให้เกิดมะเร็ง แต่เบต้าแคโรทีนจะให้ผลต่อร่างกายสูงสุดเมื่อบริโภคผักผลไม้สดๆ ที่มีสารเหล่านี้ ประเภทผลไม้สีเหลือง เช่น มะละกอ มะม่วง แครอท

ขณะ เดียวกันเมื่อมนุษย์ขึ้นสู่วัยหนุ่มสาว การออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดอย่างสม่ำเสมอวันละ 30 นาทีจนเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งเต้านม (โดยเฉพาะหญิงวัยหมดประจำเดือน) และมะเร็งเนื้อเยื่อบุมดลูก นอกจากนี้ผลวิจัยเป็นที่แน่นอนแล้วว่า แม่ควรให้นมลูก และเด็กทารกควรที่จะได้รับน้ำนมแม่ สามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้า นมทั้งก่อนและหลังหมดประจำเดือน ทั้งนี้ ควรให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกคลอดจนถึง 6 เดือนโดยไม่มีการให้อาหาร หรือเครื่องดื่มใดๆ เลย รวมทั้งน้ำด้วย

ต่อมาข้อสรุปลำดับที่ 2 เรียกว่าเป็นที่แน่นอนบ่งชัดเจนหากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ในข้อนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในข้อแรกเชื่อได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ในข้อนี้เน้นหนักด้านอาหารพบว่าการบริโภคผักใบ ลดความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งช่องปากคอหอย กล่องเสียง หลอดอาหาร ผักกลุ่มหอมป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร การบริโภคผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด ช่องปาก คอหอย กล่องเสียง มะเร็งหลอดอาหาร

ลำดับ ที่ 3 ลดหลั่นเป็นเปอร์เซ็นต์ลงมาภายใต้เงื่อนไขเดียวกันคือความสัมพันธ์ของอาหาร วิถีชีวิต ในข้อนี้เรียกว่ามีความเป็นไปได้พบว่าการบริโภคอาหารที่มี ไลโคปีน ซึ่งมีมากในมะเขือเทศ ลดความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก

นักวิชาการคนเดิมจากสถาบันโภชนาการ ม.มหดิล บอกอีกว่า แม้ สารไลโคปีนจะมีมากในมะเขือเทศ แต่ถ้าไม่ทำให้มะเขือป่นละเอียด บริโภคไปร่างกายก็ไม่ได้รับสารไลโคปีนอยู่ดี ดังนั้นการบริโภคมะเขือเทศสดแบบชิ้นๆ กับการบริโภคซอสมะเขือเทศ อย่างหลังได้รับไลโคปีนมากกว่า นอกจากในงานวิจัยเรื่องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อป้องกันมะเร็ง นักวิชาการทั่วโลกแนะนำว่า ไม่ควรบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อป้องกันมะเร็ง เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีภาวะขาดสารอาหารบางอย่าง

ปัจจุบัน พฤติกรรมการกินอาหารของคนไทยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและคนวัยหนุ่มสาวบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น ที่เห็นได้ชัดจากวัฒ ธรรมการกินอาหารบุฟเฟ่ต์ ร้านเนื้อย่างหมูกระทะต่างๆ สอดคล้องกับงานวิจัยนี้ ข้อแนะนำของการกินเพื่อต้านมะเร็งในแบบไทยซึ่งแม้งานวิจัยยังไม่ได้ถูกเลือกจากนักวิชาการ เพราะเป็นงานวิจัยขนาดเล็ก ตามอัตภาพของทุนที่มี แต่น่าชื่อถือและนำไปใช้ได้

ในงานประชุมดังกล่าวข้างต้น ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล นักวิชาการจากสถาบันเดียวกัน ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่อง ศักยภาพต้านมะเร็งของตำรับอาหารไทย

ดร.สม ศรี กล่าวว่า ได้ศึกษาเรื่องนำสมุนไพรต่างชนิดมาทำเป็นน้ำพริกแกงต่างๆ ได้ทดลองสารสกัดของน้ำพริกแกง 4 ชนิด ได้แก่ น้ำพริกแกงป่า แกงเลียง แกงส้ม แกงเหลือง และน้ำต้มยำ นำมาเลี้ยงเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว พบว่า น้ำแกงป่า น้ำแกงเลียง และน้ำแกงส้ม มีศักยภาพให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่นในร่างกายได้มากถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แกงเหลืองทำให้เซลล์มะเร็งตาย แบบธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 15 เท่าเมื่อเทียบกัน ดีกว่าการใช้ยาถึง 2 เท่า สมุนไพรสำคัญในเครื่องแกงน่าจะมาจากกระเทียมและพริกรวมทั้งสมุนไพรอื่นๆ

จาก งานวิจัยนี้สรุปได้ว่า การบริโภคอาหารที่เป็นสำรับแบบไทย อาทิ แกงเลียงกุ้งสด ห่อหมกใบยอ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ข้าวสวย หรือ สำรับข้าวเหนียว ส้มตำใส่แครอท ไก่ทอดสมุนไพร ต้มยำ จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง สอดรับกับงานวิจัยระดับโลกที่ว่าอาหารการกินเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนห่างไกลมะเร็งได้อยู่


สนับสนุนเนื้อหา
 
คำที่เกี่ยวข้อง  :  แกงเลียง     เนื้อสัตว์     แกงส้ม     สารก่อมะเร็ง     ไลโคปิน      มะเร็ง

jokerzero

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #91 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2010, 18:39:04 »

อาหารจำพวกแป้งอันตรายต่อหัวใจผู้หญิง


มีรายงานน่าสนใจจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติในประเทศอิตาลีว่า การบริโภคอาหารประเภทแป้งเป็นตัวการเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจในสตรี โดยความเสี่ยงที่ว่านี้จะไม่เกิดกับเพศชาย
ทีมวิจัยระบุว่า แม้ผู้ชายจะกินแป้งเท่ากับผู้หญิง แต่ไม่มีอันตราย เพราะร่างกายของผู้ชายดูดซึมแป้งได้ช้ากว่า ใน ขณะที่ผู้หญิงกินเท่าไหร่ก็ได้รับไปเท่านั้น เมื่อแป้งเข้าสู่ร่างกายของผู้หญิงและผ่านการย่อยจนเป็นน้ำตาล โมเลกุลของน้ำตาลจะเข้าสู่เส้นเลือดยิ่งกินแป้งมากยิ่งได้รับน้ำตาลเข้าสู่ เส้นเลือดมากไปด้วย นำไปสู่อันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือด

ตามสถิติพบว่า ผู้หญิงที่บริโภคอาหารประเภทแป้งมากกว่าประเภทอื่นๆต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจมากกว่า ปกติถึง 2 เท่า ยิ่งหากชอบกินขนมหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงตามไปด้วย เป็นข้อมูลและคำเตือนที่ดี สำหรับสาวๆ ผู้ชื่นชอบอาหารประเภทแป้งนะคะ
 
คำที่เกี่ยวข้อง : สุขภาพ   โรคภัยไข้เจ็บ   อาหารจำพวกแป้ง   ขนมปัง   แป้ง   อาหารอันตรายต่อสุขภาพ   

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #92 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2010, 15:43:35 »

พวกแป้งนี่ย่อยในลำไส้เล็กใช่บ่ ?

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #93 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2010, 17:53:33 »

พวกแป้งนี่ย่อยในลำไส้เล็กใช่บ่ ?

เศร้า ไม่มีใครตอบเลยอ่ะ  uilo

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #94 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2010, 12:40:20 »

พวกแป้งนี่ย่อยในลำไส้เล็กใช่บ่ ?

เศร้า ไม่มีใครตอบเลยอ่ะ  uilo

เหอๆ

อาหาร จำพวก แป้ง ย่อย ตั้ง แต่ ในปากแร้ว งับ

โดย เอมไซม์ อะไมเลส ในน้ำลายของ เรา นั่น แหละ งับ

แต่ กระบวนการ จะไป สิ้นสุดที่ลำไส้เล็ก นะงับ


ปล. แต่ น้อง แป้ง อ่ะ ย่อยยาก มาก นะงับ zad

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #95 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010, 21:45:51 »

^
^
^
นั่นอะดิครับ น้องแป้งนี่ ท่าจะย่อยยากจริง ๆ

vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #96 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010, 22:41:45 »

เอ่อ...ท่าน Jame_Bond_007 คือ เมื่อก่อนมันมีอยู่ช่วงหนึ่ง
ที่เวลาลดน้ำหนักแล้วเค้ากิน เม็ดแมงลัก หรือ พวกบุก แก้หิว(เห็นบอกว่าไม่เพิ่มแคลลอรี่)
ถ้าลดน้ำหนักแบบนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายไหมครับ (เห็นว่ามันไม่มีสารอาหารอะไรที่เป็นประโยชน์)  ;khhg

ปล.น้องสาวที่รู้จักกันเค้ามาถาม ผมก็งู ๆ ปลา ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะครับ  ;khhg

paholkarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #97 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2010, 13:56:39 »

^
^
^
การใช้ ไฟเบอร์ แบบอิ่มตัว เช่น บุก,แมงลัก ใช้ แทนที่ อาหาร ทำให้ อิ่มเร็ว ทานอาหาร ได้ น้อย

แน่ นอน ถ้า อาหาร ในมื้อ นั้น ไม่มีคุณค่า อาหาร ที่ควรจะเปน ร่างกาย ก็ จะขาดสาร อาหาร ด้าย นะงับ

แต่ ถ้า ได้ รับสารอาหาร เพียงพอ แม้ทาน เพียงเล็ก น้อย ก็ โอเช งับ



vrc

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #98 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2010, 11:11:16 »

^
^
^
ขอบคุณครับ  ;khhg

ท่าน Jame_Bond_007 ขอคำแนะนำอีกนิดครับ
บางครั้งอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องเจอศึกหนักในการดื่ม
โดยเฉพาะกับก๊วนเพื่อนคอทองแดงทั้งหลาย
เหล้าต่อเบียร์ เบียร์ต่อเหล้าปั่น เหล้าปั่นต่อไวน์ ภายใน 1 ราตรี
เช้ามานี่ โอ้ ขำหัวขนาด



ขอคำแนะนำเช้ามากินอะไรดีแก้แฮงค์ครับ
ของผมดื่มกาแฟดำ แต่อยากรู้สูตรของท่าน Jame_Bond_007 บ้างครับ

Makettingmanager

  • บุคคลทั่วไป
Re: อาหารการกิน หน่อยมั้ย "You are what you eat"
« ตอบกลับ #99 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2010, 11:59:09 »

^
^
^
ขอบคุณครับ  ;khhg

ท่าน Jame_Bond_007 ขอคำแนะนำอีกนิดครับ
บางครั้งอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องเจอศึกหนักในการดื่ม
โดยเฉพาะกับก๊วนเพื่อนคอทองแดงทั้งหลาย
เหล้าต่อเบียร์ เบียร์ต่อเหล้าปั่น เหล้าปั่นต่อไวน์ ภายใน 1 ราตรี
เช้ามานี่ โอ้ ขำหัวขนาด























ขอคำแนะนำเช้ามากินอะไรดีแก้แฮงค์ครับ
ของผมดื่มกาแฟดำ แต่อยากรู้สูตรของท่าน Jame_Bond_007 บ้างครับ


ขอออกความเห็นหน่อยนะครับท่านพี่ส่วนตัวผมแล้วทำงานกลางคืนมาก็เยอะ เจอ อย่างที่ท่านเจอมาก็แทบจะทุกวันส่วนตัวแล้วตอนเช้าผมจะทานโจ๊กร้อนๆนั่งจิบน้ำชา ถ้าตื่นมาถ้าแฮ้งค์ก็จะตามด้วยอาหารที่เผ็ดๆร้อน อาทิเช่นส้มตำ แกงอาหารใต้ ต้มยำเผ็ด ส่วนตัวแล้วผมว่าอาหารเผ็ดๆอาหารร้อนๆช่วยเราได้เยอะนะครับ dsgjsd