Frog Boys การผจญภัยที่ไม่มีวันกลับวันนั้นเป็นอากาศค่อนข้างร้อน แต่มันเหมาะมากสำหรับเด็กชายทั้ง 5 คน ซึ่งประกอบไปด้วย
- อู ชอล-วอน (Woo Cheol-won) อายุ 13 ปี
- โช โฮ-ยอน (Cho Ho-yeon) อายุ 12 ปี
- คิม ฮยอง-กุน (Kim Yeong-gyu) อายุ 11 ปี
- ปาร์ค จัน-อิน (Park Chan-in) อายุ 10 ปี
- และ คิม จอง-ซิก (Kim Jong-sik) อายุ 9 ปี ได้ตัดสินใจที่จะใช้วันหยุดนี้ไปจับกบที่ภูเขาวอร์ยอง ซึ่งอยู่ไม่กี่กิโลหลังโรงเรียนมัธยมซง-ซาน มันเป็นเส้นทางคดเคี้ยวเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้มีอันตรายมากนัก ก่อนที่จะขึ้นไปภูเขา แน่นอนว่าเวลานั้นพวกเขาคงคิดว่ามันเป็นการผจญภัยเล็กๆ ของพวกเขา
ซึ่งเต็มไปด้วยความสนุกสนาน พวกเขาหวังว่าจะสนุกทั้งวัน ก่อนที่จะกลับบ้าน
หากแต่หลังจากเด็ก 5 คนขึ้นภูเขา พวกเขาก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย เพราะพวกเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับ!??ประธานาธิบดีโรห์แตวู (Roh Tae Woo) ได้ออกคำสั่งให้ตำรวจและกองกำลังค้นหากว่า 300,000 คน พยายามค้นหาตัวเด็ก
ตามภูเขา แม่น้ำ ไปจนถึงอ่างเก็บน้ำ พูดง่ายๆ เกือบทุกจุดของภูเขาถูกค้นค้นทุกตารางนิ้ว และมากกว่าร้อยึครั้ง จากนั้นเริ่มกระจาย
สถานีรถบัส และรถไฟ เกือบทั้งประเทศ บริษัทและกลุ่มคนเริ่มลงขันระดมเงินกว่า 42,000,000 วอน (ประมาณ 35,000 ดอลลาร์ในเวลานั้น)
ภาพของเด็ก 5 คน ปรากฏตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศเกาหลีได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโทรทัศน์ บัตร์โทรศัพท์ ส่วนพ่อแม่ของเด็กนั้น
ยอมทิ้งงานของตนเองออกเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อหาลูกของพวกเขา แม้ว่าจะมีเบาะแสมากมายแจ้งเข้ามา แต่ส่วนมากจะเป็นเท็จอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพบเห็นเด็กชายทั้ง 5 เลย แม้แต่ร่องรอยก็ไม่มีใครพบ ราวกับว่าพวกเขาหายไปจากโลกยังไงอย่างงั้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เรื่องราวของเด็ก 5 คน หายตัวไป ได้ถูกขนามนามว่า “เด็กกบ” (Frog Boys) และได้กลายเป็นความลึกลับ
ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา เด็กนักเรียนทั่วประเทศต่างร้องเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อหวังให้เด็ก 5 คนที่หายไปกลับบ้านเสียที
ในปี 1992 มีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ ภายใต้ชื่อ Frog Boys โดยภาพยนตร์ดังกล่าว พยายามมองในแง่ดี ว่าพวกเด็ก
เพียงแค่ออกผจญภัย และในตอนจบพวกเขาก็ได้กลับบ้าน แม้ว่าเรื่องจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แม้ว่าหลายฝ่ายพยายามที่ค้นหา
ตัวเด็กจนถึงปี 2001 แต่ก็คว้าล้มเหลว หลายคนพยายามหาทฤษฏีมากมายเกี่ยวกับพวกเด็กหายตัวไป เป็นต้นว่า พวกเขาถูกลักพาตัว
โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ, หรืออาจโดนมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว ไปจนถึงความสงสัยว่าพ่อแม่ผู้ปกครองพวกเด็กนั้นแหละที่ฆ่าลูกหลาน
ของตนและนำศพไปซ่อนเพื่อไม่ให้มีใครพบ กันยายน 2002 ร่างกายของพวกเขาก็ถูกค้นพบ และแล้วความจริงที่แสนโหดร้ายก็ได้รับการเปิดเผย ถึงชะตากรรมของเด็กทั้ง 5 นั้นเป็นอย่างไร หลายปีต่อมา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2002
คนเก็บผลโอ๊กบนภูเขาได้ค้นพบชิ้นส่วนเสื้อผ้าและกระดุม และนั้นเองทำให้พวกเขาได้พบซากร่างของเด็กทั้ง 5 ที่ฝังอยู่ในดิน ไม่ไกลนัก
จากจุดที่พวกเขาหายไป ซึ่งไม่ไกลจากบ้านพวกเขาไม่เกินสองกิโลเมตรด้วยซ้ำ
สภาพของเด็กทั้ง 5 เบียดเสียด ถูกฝังอยู่ด้วยกัน ทำให้ตอนแรกตำรวจเชื่อว่าเด็กทั้งหมดเสียชีวิตเพราะความหนาวเย็น แต่นั้นมันก็เพียงแค่
ข้อสันนิษฐาน เพราะจากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์มันโหดร้ายกว่านั้น
เด็กทั้งหมดถูกฆาตกรรม!!เห็นชัดว่าพวกเด็กถูกฆาตกรฆ่า ตรงหัวกะโหลกศีรษะแตกเสียหาย แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากกะโหลกศีรษะแตก
อาจเกิดจากการตีด้วยวัตถุต่างๆ รวมไปถึงไขควง เมื่อเด็กตายก็ถ๔กนำไปฝังอย่างรีบเร่ง และถูกปล่อยไว้หลายปี โดยที่ไม่มีใครมาพบเห็น
หลังการพบศพเด็กชายทั้ง 5 ข่าวก็โด่งดังอีกครั้ง พร้อมทั้งข่าวลือมากมายที่เชื่อว่าเด็กทั้ง 5 อาจถูกนักล่าสัตว์ยิงเพราะคิดว่าเป็นสัตว์
และพวกเขาก็ฆ่าเด็กที่เหลือเพราะกลัวโดนรับผิด ในขณะที่บางคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกรเพราะสภาพศพบ่บอกว่าฆาตกรใช้เครื่องมือ
สำหรับโรงฆ่าสัตว์
แน่นอนว่าเมื่อผู้ปกครองได้ทราบเรื่องของเด็กชายทั้ง 5 ถูกพบเป็นศพ พวกเขาแทบหัวใจสลาย ซึ่งหลังเกิดคดีเด็กหาย พวกเขายังคง
ทำใจไม่ได้ พยายามหวังมาตลอดว่าพวกเขาจะกลับบ้าน ถึงขั้นดูแลห้องนอนของพวกเขาให้คงมีสภาพเดิมเหมือนวันที่พวกเขาหายไป
เพื่อหวังว่าเด็กที่กลับมาได้ให้มันอีกครั้ง
แต่ข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด เชื่อว่าฆาตกรน่าจะเป็นชายโรคจิต หรือชายที่สภาพจิตใจที่ประวัติชีวิตย่ำแย่โดนกลั่งแกล้งจากโรงเรียน
และระบายความเลวร้ายนี้กับตัวเด็กทั้ง 5 จากสภาพศพ การฝัง แสดงให้เห็นว่าฆาตกรมีการวางแผน และมีเวลาพอที่จะออกจากภูเขาเพื่อกลับ
ไปเอาเครื่องไม้เครื่องมืดที่จำเป็นสำหรับการฆ่า แม้ว่าจะมีความเชื่อว่าพวกเขาอาจถูกทำร้ายทางเพศ แต่สภาพศพนั้นไม่สามารถบ่งบอกอะไร
ละเอียดได้เลย แต่สิ่งที่บ่บอกได้คือฆาตกรคนนี้โรคจิต เพราะเด็กแต่ละคนถูกฆ่าอย่างโหดร้าย เด็กชายคนหนึ่งถูกตีซ้ำที่ศีรษะ คนหนึ่งโดนยิงที่ศีรษะด้วยปืนลูกซอง
สมาชิกครอบครัวของเด็กที่มีชีวิตจนถึงทุกวันนี้ต่างใจสลายเมื่อพวกเขาพบศพ แม่ของเด็กคนหนึ่งกรีดร้อง ขณะที่ทีมนิติเวชชี้ให้เห็นว่าหัวกะโหลก
บ่งบอกว่าเขาถูกแทงซ้ำด้วยไขควงมีคม
แม้ว่าตำรวจจะประกาศว่าจะนำฆาตกรที่เลวร้ายคนนี้มาลงโทษต่อหน้าประชาชนให้ได้ แต่จนบัดนี้ก็ไม่มีใครทราบว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใคร
ทำไมเด็กทั้ง 5 ถึงต้องถูกฆ่า ในปี 2006 คดีฆาตกรรเด็กชายทั้ง 5 ก็หมออายุความ โดยที่ไม่มีผู้ต้องสงสัยแม้แต่รายเดียว กลายเป็นคดี
เป็นปริศนาที่ไม่คลี่คลายในประวัติศาสตร์เกาหลีไป
25 มีนาคม 2004 ในที่สุด เด็กชายทั้งห้าก็ได้กลับบ้าน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม มีการทำพิธีกรรมในสถานที่พวกเขาตาย
และกะโหลกของพวกเด็กถูกบริจาคให้กับห้องปฏิบัติการวิจัยทางกฎหมายของมหาวิทยาลัย
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ได้มีการฉายภาพยนตร์ Children (2011) ครบรอบ 30 ปีการเกิดคดีฆาตกรรม ภาพยนตร์แสดงนำโดย
ปาร์ค ยังวู (Park Yong-woo) รับบทเป็นโปรดิวเซอร์สารคดีในเรื่องที่สนใจในคดีเด็กหาย ..และได้พบกับ รยู ซังยอง ผู้รับบทนักวิชาการ
ด้านจิตวิทยา ที่เค้าเชื่อว่าคนในครอบครัวของเด็ก (คนใดคนหนึ่ง) เป็นคนฆ่าเด็ก ๆ เหล่านั้นแม้ว่าภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จ
แต่ในด้านข้อเท็จจริง ข้อสันนิษฐานนั้นจะไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงก็ตามทุกวันนี้ภูเขาวอร์ยองยังคงมีทัศนียภาพธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม พร้อมกับมีความลึกลับและน่ากลัวแอบแฝงอยู่ไม่มีเสื่อมคลาย อ้างอิง
http://elwood5566.net/2011/05/16/five-boys-meet-death-where-the-dragon-dwells/