Celtic Gods and Goddesses : N-O-Pcredit :: BeelzeBufo@dek-d
Nantosuelta (Continental)นันโตซูเอลต้า หรือ นันท์โซเวลต้า (Nantsovelta) ชื่อภาษาเบรอตงของเธอคือ นาตาซูเวลต้า (Nataseuelta)
เธอเป็นเทพีแห่งแม่น้ำจากเคลติกกอล ชื่อของเธอมีความหมายว่า
"of the meandering stream" หรือ
"แห่งลำธารอันคดเคี้ยว" ชื่อของเธอมีรากศัพท์มาจากคำว่า
"nant" ซึ่งแปลว่า
"ลำธาร" ในภาษาเวลส์สมัยใหม่
บางที่มาระบุว่า เธอเป็นภรรยาของ ซุเซลลอส (Sucellos) เทพแห่งแม่น้ำและอื่นๆ
นันโตซูเอลต้า มักจะถูกกล่าวถึงใรรูปสตรีอุ้มแพะซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เธอจึงเป็นดั่งเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์
ความรุ่งเรือง และตัวตนของเธอก็เปรียบดั่งน้ำจากหม้อแห่งจิตวิญญาณ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Nechtan (Scottish)เนคทัน กษัตริย์พิคทิช*ผู้ต้องการตัวเทพีทรีดูอาน่า (Goddess Triduana) ด้วยเพราะเธอเป็นสาวงามและกษัตริย์เนคทัน
ก็ต้องการปกครองประเทศเพื่อนบ้านเคลติกผ่านตัวเธอ
เนคทัน เป็นเทพแห่งสายน้ำ ในบางตำนานกล่าวว่าเขาเป็นสามีของเทพีโบอาน (Goddess Boann) เทพีแห่งสายน้ำในไอร์แลนด์
*พิคทิช (Pictish) เป็นภาษาและชนชาติพิคส์ (Picts) ซึ่งปัจจุบันนี้สาบสูญไปแล้ว พบในช่วงหลังๆของยุคโลหะ
และช่วงแรกๆของยุคกลาง อยู่ในแถบเหนือและส่วนกลางของประเทศสก็อตแลนด์++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Nehalennia (Breton, Anglo-Celtic) เนฮาเลนเนีย เทพีผู้ปกป้องนักเดินทางบนท้องทะเล ศาลของเธอจะสร้างไว้บนชายฝั่งเสมอและผู้คนมักจารึกถ้อยคำ
วิงวอนต่อเนฮาเลนเนีย เช่น
"ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย" เธอมักจะมีสุนัขตัวยักษ์เป็นสหายคู่กายเสมอ หลายคนสับสนว่าเธออาจเป็นเทพีตนเดียวกับฟอร์จูนา (Goddess Fortuna)
เทพีของโรมัน++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Nemetona (Anglo-Celtic, Continental)เนเมโตน่า เทพีของยุโรปที่นับถือกันในยุคโรมัน จากชื่อของเธอเป็นไปได้ว่าเธออาจมีเชื่อสายมาจากเนเมน (Valkyrie Nemain)
หนึ่งในวัลคีรี และชาวโรมันดูเหมือนจะยกย่องเธอในฐานะที่มีเกี่ยวข้องกับเทพมาร์ส ( Mars)
ชื่อของเธอมาจากคำว่า
"nemeton" ในภาษากอลิช หมายถึง
"พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์" เธอเป็นเทพีผู้พิทักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
อย่างสวนแห่งเวทมนตร์ (circles or magickal groves)
ศาลของเธอตั้งอยู่ที่เมืองแบธ (Bath) ประเทศอังกฤษ เป็นรูปสลักที่เธอนั่งอยู่บนแท่นล้อมรอบไปด้วยหน้ากาก 3 อัน
หรือของสามอย่างที่ถูกคลุมไว้และแกะอีกตัว รูปสลัก 3 อันหมายถึงความเป็นไตรเทพี และแกะเปรียบเหมือนความอุดมสมบูรณ์
ของเพศชายซึ่งเชื่อมโยงกับเทพเคอนูนอส (Cernunnos)
เรียกเทพีเนเมโตน่าเมื่อต้องการให้เธอคุ้มครองในพื่นที่ศักดิ์สิทธิ์หรือในวงกลมของคุณ
(คือเหมือนให้วาดวงกลมก่อนประมาณนี้ละมั้งครับ) ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Nicevenish(Scottish)ไนซเวน "เทพีศักดิ์สิทธิ์" "ผู้ปราดเปรื่อง" เป็นคำนิยามของเทพีตนนี้ เธอเป็นแม่มดแห่งวันซัมเฮน ตรงกับเทพีไดอาน่า
ของโรมัน ในสก็อตแลนด์เล่าว่าเธอจะวิ่งผ่านท้องฟ้ายามราตรีพร้อมกับผู้ติดตามในวันซัมเฮน ในช่วงยุคกลางเธอได้รับ
การขนานนามไว้หลายชื่อด้วยกัน คือ Dame Habonde, Abundia, Satia, Bensozie, Zobiana, และ Herodiana
ชื่ออื่นๆ : Nicneven
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Nimue (Welsh, Cornish)เทพีนิมีแอ ตนเดียวกับเทพีแห่งดวงจันทร์ "วิเวียน (Vivienne)" หรืออีกชื่อว่า "มอร์แกน (Morgan)" เธอเป็นหนึ่งใน
Lady of the Lake (ดูตอนเทพ L)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Nudons (Welsh, Anglo-Celtic)นิดองซ์ (ชื่ออื่นๆ : Nodens, Nodonti, Nodente) เทพแห่งท้องทะเล ใกล้เคียงกับเทพโพไซดอนมากกว่าเทพมานันนาน
หรือเนปจูน นอกจากนี้ยังมีความคิดที่ว่านิดองซ์เป็นตนเดียวกับเทพซิด (God Llud) เทพแห่งความตายและแม่น้ำ
ทั้งชาวพื้นเมืองและชาวโรมันที่อพยพเข้ามาต่างก็บูชาเครื่องดื่มให้นิดองซ์เป็นขอสักการะ ชาวโรมันสร้างศาลให้นิดองซ์
ริมฝั่งแม่น้ำซีเวิร์น (Severn)เป็นรูปบุรุษเยาว์วัยมีแสงส่องออกมารอบหัว มีเหล่าแฟรี่บินอยู่รอบๆ ส่วนชาวอังกฤษ (ชาวพื้นเมือง)
ตั้งศาลของนิดองซ์ให้หันไปหน้าไปทางแม่น้ำเทมส์ เป็นรุปบุรุษไร้หนวดเครา (ได้รับอิทธิพลจากโรมัน) ขี่รถม้าหรือม้า
ในมือถือบังเหียนและคทา ข้างๆมีชาวประมงกำลังตกแซลมอนและสัตว์น้ำอื่นๆ ทรัมเปรตรูปหอยถูกเป่าเพื่อเป็นเกียรติแก่นิดองซ์
"ผู้มอบความมั่งคั่ง - He who bestows wealth" "มือเงิน - Silver Hand" "ผู้สร้างเมฆ - The Cloud Maker"
และเผ่าเทพเป็นคำที่ถูกคนเรียกนิดองซ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้ครองหนึ่งในอาวุธสมบัติของเหล่าทูเอธา
(อาวุธทั้ง 4 ดูได้ในตอนหนังสือแห่งการรุกรานนะครับ ) ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Nwyvreเนวิดเร สามีของอาเรียนรอด (Arianrhod) ไม่มีข้อมูลของเขามากนัก ชื่อ "เนวิดเร" แปลตามตัวได้ว่า "ท้องนภา"
ดังนั้นจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นบิดาแห่งท้องนภา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Oanuava (Breton, Continental)โอเอนูอาวา เธอเป็นเทพีโบราณแห่งผืนดินจากเคลติกกอล ข้อมูลมีแค่นี้ครับ อาจเป็นเพราะเธอเคยเป็นของโรมันดั้งเดิมก็เป็นได้
*ไม่มีภาพครับ*
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Oghma (Scottish, Irish)ออคมา หรือ ออมา เทพแห่งการสื่อสารและลายลักษณ์อักษร ผู้คิดค้นตัวหนังสือซิริ (Ogham Alphabet) ให้พวกดรูอิดใช้
บ้างว่าเขาเป็นเทพแห่งกวี การเขียนถือเป็นการกระทำที่ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับคนสมัยก่อนหลายคนรวมถึงชาวเคลท์ด้วย
ด้วยเหตุนี้ชาวเคลท์จึงสืบทอดเรื่องราว ธรรมเนียม และเรื่องลี้ลับพื้นบ้านกันปากต่อปากมากกว่าใช้การจดบันทึก
แต่ก็มีบางคนที่คิดว่าจดลงกระดาษจะปลอดภัยกว่าเล่าปากต่อปาก
นอกจากเรื่องวรรณกรรมแล้วเทพออคมายังเป็นนักรบแห่งทาร่า (warrior of Tara) ผู้ต่อสู้กับเผ่าฟอมาเรี่ยน
เคียงข้างซิค (Llugh) ในตำนานเขาเป็นผู้คุ้มครองผู้ตายไปยังโลกต่าง
เทพออคมามีชื่อเล่นสองชื่อซึ่งระบุความเป็นตัวตนของเขามากขึ้น ชื่อเล่นแรกคือ แคไมท์ (Cermait) มีความหมายว่า
"ปากน้ำผึ้ง" ซึ่งความหมายโดยนัยคือการประจบประแจง ส่วนอีกชื่อคือ กริอันไอแนช (Grianainech) มีความหมายว่า
"หน้าแสงอาทิตย์" เชื่อว่ามาจากความชาญฉลาดของเทพออคมา ออคมียอส (Ogmios) เป็นชื่อสถานที่ซึ่งออคมาต่อสู้อย่างห้าวหาญกับเผ่าฟอมาเรียน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Olwen (Welsh)โอลูน หรือ โอลูอิน (สะกดได้อีกแบบ คือ Olwyn ถ้าสะกดว่า 'olwen' ภาษาเวลส์ก็อ่านว่าโอเวนเหมือนกันครับ)
บุตรสาวของราชันย์แห่งยักษ์นาม เอิสบาธาเดน (Ysbadadden) ชื่อของเธอมีความหมายว่า "กงล้อสีทอง"
จึงทำให้หลายคนมองเธอว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเทพีอาเรียนรอด (Arianrhod) ผู้มีฉายาว่า "กงล้อสีเงิน"
เทพีโอลูนมีฉายาว่า
"Lady of the White Tracks" หรือ
"เลดี้แห่งเส้นทางสีขาว" เนื่องจากทุกที่ที่เธอก้าวผ่าน
จะมีต้นแทรฟอย (trefoil plants) หรือที่ปกติเรียกกันว่าแชมร็อก (shamrocks) ผุดขึ้นตลอดทาง
[แชมร็อกเป็นใบโคลเวอร์ชนิดหนึ่ง เป็นต้นไม้ประจำชาติของไอร์แลนด์] ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเธออาจ
เคยเป็นไตรเทพีแต่หลักฐานพวกนั้นก็ได้หายไปจากเรานานแล้ว
วีรบุรุษเคลฮูฟ (Culhwch) ผู้เป็นคนรักของเทพีโอลูนเดินทางออกตามหาเทพีโอลูนหลังจากที่บิดาของเธอตาย
บิดาของเธอรู้ว่าตัวเองจะต้องตายหากการแต่งงานเกิดขึ้นจึงซ่อนเธอไว้ ในส่วนนี้ของตำนานเธอเป็น
ราชินีเดือนพฤภา (May Queen) คู่หูของเทพผู้เสียสละซึ่งขึ้นตำแหน่งแทนที่ตนเก่า
โอลูนยังมีการผจญภัยในแดนแฟรี่หรือแดนภูติอีกด้วย เธอถูกจับโดยภูติขี่ม้า และบิดาของเธอก็มาช่วยเธอออกมา 1 ปี
กับ 1 วันหลังจากนั้น (May Queen ส่วนใหญ่จะมีความเกี่ยวข้องกับ 'faery kingdom' หรือ 'อาณาจักรภูติ')
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Goddess Ostara (Pan-Celtic)ตนเดียวกับเทพีอีสเตอร์ (Eostre)++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Pryderi (Welsh)เพรอ-แด-รี บุตรชายของพูอิช (Pwyll) กับริอันนอน (Rhiannon) เพรอแดรีถูกอสูรนิรนามผู้อยู่ในการรีบเร่งขโมยม้า
ลักพาตัวไปตั้งแต่แรกเกิด เขาถูกปล่อยอีกครั้งบนโลกเมื่ออสูรโดนโจมตีโดยผู้พิทักษ์แห่งม้า ซึ่งม้าตัวนั้นมีความเชื่อโยง
กับริอันนอนแม่ของเขา
เพรอแดรีอยู่ในสงครามของเทพบรานกับกษัตริย์มัธธอยูฟ เขาเป็นหนึ่งในเจ็ดผู้รอดชีวิตจากสงครามครั้งนั้น
(ชื่อสงครามคือ; สงครามแห่งทรีส์ หรือ แคด กอดเดยู (Cad Goddeu))เพรอแดรีแต่งงานกับขิกฟา ( Kicva)
และกลายเป็นเพื่อนกับมานันนานหลังจากที่เขาแต่งงานกับริอันนอนแม่ของตน [เริ่มงงในความสัมพันธ์ มานันนาน
อาจจะแต่งงานใหม่เมื่อฟานภรรยาเก่าไปมีชู้เป็นมนุษย์] เพรอแดรีเสนอส่วนหนึ่งของอาณาจักรเดอเฟ็ด (Dyfed)
[หรือปัจจุบันคือ Pembrokeshire ชนบทหนึ่งทางใต้ของเวลส์] ให้กับมานันนานที่ถูกขับไล่จากอาณาจักรใต้ทะเล
ของเขา
ขณะที่ทั้งสี่อยู่ในสถานจัดเลี้ยง การกวาดล้างแผ่นดินก็เกิดขึ้น พวกเขาจึงทำเควสท์ (แสวงหาทางเพื่อให้คำสาปย้อนกลับ)
ผู้ที่สาปเมืองของพวกเขาคือซิว (LLew) และเมื่อทั้งสี่ทำเควสท์สำเร็จ ซิวก็ให้สัญญาว่าเขาจะไม่ทำลายเมืองเดอเฟ็ดอีก
(ซึ่งเรื่องนี้อาจตรงกับตำนานน้ำท่วมโลกก็เป็นได้)
เทพเพรอแดรีเป็นตัวแทนแห่งพลังความมืดตรงข้ามกับแสงสว่าง เขาพ่ายแพ้ในสงครามแห่งทรีส์ซึ่งเทียบเท่ากับ
กษัตริย์เพเซส (Pelles)ผู้พ่ายแพ้ให้กับเกรล (Grail) เทพแห่งแสงหรือผู้มีพลังแห่งแสง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
God Pwyll (Welsh)พูอิช ผู้ปกครองโลกต่าง(หลายครั้ง), ลอร์ดแห่งอาเบธ (Arberth), บิดาแห่งเพรอแดรี (Pryderi), สามีของริอันนอน
(Rhiannon), เชื่อว่ามีความเกี่ยวของกับเทพอาราเวน (Arawn) ตามหนังสือเล่มแรกของมาบิโนเจียน
พูอิชอ้างว่าสุนัขล่าเนื้อของตนไม่ได้ฆ่ากวางพวกนั้น แต่สุดท้านก็ถูกจับได้โดยอาราเวน, ราชาแห่งโลกต่าง พูอิชสำนึก
ผิดและอยากไถ่โทษ อาราเวนจึงขอให้พูอิชไปโลกต่างไปต่อสู้กับฮาวากัน (Havagan) คู่อริแทนตัวเอง และเพื่อให้
ภารกิจง่ายขึ้น อาราเวนก็เสกให้พูอิชมีรูปร่างเหมือนตัวเองทุกกระเบียดนื้ว
ไม่เพียงแต่รับภารกิจนี้ พูอิชยังทำงานของตนได้ดีอีกด้วย เขาไม่เคยล่วงละเมิดภรรยาของอาราเวนตลอด 1 ปี กับอีก 1 วัน
ที่อยู่ที่นั่น และเขายังรักษากฏอย่างดีและเป็นธรรม อาราเวนประหลาดใจกับมิตรภาพนี้จนทั้งสองสนิทสนมดั่งพี่น้อง
อาราเวนมอบชื่อ 'เพน แอนนิว' (Pen Annwyn) หรือ 'หัวหน้าแห่งแดนนรก' ให้พูอิชhttp://www.dana-mad.ru/gal/images/Alan%20Lee/The%20Mabinogion/alan%20lee_the%20mabinogion_pwyll%20-%20prince%20of%20dyfed_04_med.jpg
พูอิชในมาบิโนเจียน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
CREDIT :
http://www.joellessacredgrove.com/Celtic/deitiesn-o-p.html http://www.pantheon.org/areas/mythology/europe/celtic/articles.html