-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ  (อ่าน 5742 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« เมื่อ: 29 ธันวาคม 2012, 15:47:30 »

10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ 

ในอดีตกาลมี ความรู้เทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์และกรรมวิธีการผลิตของสมัยโบราณมากมายหลายอย่างได้สูญหายไปตามกาลเวลา
โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นหายไปเพราะอะไร ทำไมถึงได้หาย และสิ่งที่สร้างเหล่านั้นเต็มไปด้วยความพิศวง แปลกประหลาด
ลึกลับจนกลายเป็นตำนาน ที่แม้แต่ปัจจุบันยากที่จะทำความเข้าใจและลอกเลียนแบบมัน และทั้งหมดนี้คือสิ่งประดิษฐ์ลึกลับ
ดังกล่าว


10. Stradivarius Violins



เริ่มต้นที่ “ไวโอลีนสตาดิวาเรียส”  เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่หายไปในช่วงปี 1700 โดยชื่อไวโอลีนนี้มาจากผู้สร้าง
คือ อันโตนิโอ สตาดิวารี ช่างไวโอลีนในเมืองเครโมน่า ประเทศอิตาลี โดยเขามีชื่อเสียงจากดนตรีเครื่องสายชนิดอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น วีโอล่า, เชลโล่ และกีตาร์ ด้วยความสวยงาม เสียงและคุณภาพทำให้เครื่องดนตรีของเขาทุกชิ้นล้วนมีคุณค่า
ระดับโลกชนิดไร้ คู่แข่ง ซึ่งทุกวันนี้มีเครื่องดนตรีของเขาหลงเหลือเพียง 600 ชนิดเท่านั้น และส่วนใหญ่ล้วนมีมูลค่า
หลายแสนดอลลาร์




แต่น่าเสียดายที่เทคนิคกระบวนการผลิตไวโอลีนสตาดิวาเรียสนั้นได้หายสาบสูญไป เนื่องจากเทคนิคนี้มีเพียงแต่ครอบครัว
ของเขาเท่านั้นที่รู้ความลับอันนี้ โดยมีพระสังฆราช,ลูกหลานของเขา คือ ฟรานซิสโก้ (1671-1743) ,
อโมโบโน (1679-1742) และตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเมื่อพวกเขาตายกระบวนการผลิตนี้ก็ยุติไปด้วย


แต่กระนั้นปัจจุบันก็ยังมีหลายฝ่ายที่พยายามจะไขความลับไวโอลีนสตาดิวาเรียส ว่าเหตุใดมันถึงได้กลายเป็นเครื่องดนตรี
ที่ยังคงมีคุณภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์วิจัยพบว่าไม้เมเปิ้ลที่ใช้สร้างเครื่องดนตรีนี้มีการปรับ สภาพโดยเชื้อรา
ทำให้เนื้อไม้มีเอกลักษณ์และทำให้เกิดเสียงสะท้อน หากแต่กระนั้นในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่ไม่เห็นความแตกต่างกัน
ของคุณภาพ เสียงของไวโอลีนสตาดิวาเรียสและไวโอลีนธรรมดาสักเท่าไหร่

 
 
 
9. Nepenthe



สิ่งที่เราได้รู้สึกทึ่งทุกครั้งที่พูดถึงความซับซ้อมภูมิปัญญา  ของชาวกรีกโบราณและโรมันก็คือ Nepenthe คือยาตามตำนานวรรณคดี
มหากาพย์โอดิสซีของโฮเมอร์ และในตำนานเทพเจ้ากรีก เล่าว่าชาวกรีกสามารถทำยาเสพติดได้โดยใช้ส่วนผสมอย่างหนึ่ง
ทำให้เป็นยาที่ สามารถไล่ความเศร้าโศกหรือหลายคนเรียกว่า "ยาแห่งการความหลงลืม" และชื่อตัวยาดังกล่าวได้ถูกนำมา
ตั้งเป็นชื่อของหม้อข้าวหม้อแดงลิง(ตามภาษา กรีกที่ Nepenthes แปลว่า เหยือกเหล้าที่ใช้เพื่อลืมความเศร้าเสียใจ)


นอกจากนี้มันยังมีฤทธิ์พอๆ กับฝิ่นและมีมากกว่าด้วยซ้ำ โดยกล่าวแต่อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันไม่รู้ว่ายาเสพย์ติดที่ว่ามีอยู่จริง
หรือไม่ และส่วนผสมของมันยังคงลึกลับ รู้แต่ว่าตัวยาดังกล่าวถูกใช้แพร่หลายในกรีกโบราณ โดยผ่านทางอียิปต์ สันนิษฐานว่า
น่าจะมีส่วนผสมของไม้วอร์ทวูดซึ่งเป็นยารักษาทุกโรคในเวลาสั้น และจากการดูตามอาการที่ปรากฏในวรรณคดีหลังทานยานี้เข้าไป
น่าจะเป็นพวกพืชจำพวกมะเขือพวงซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ความทรงจำเสื่อมและอดีตนั้น มีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าฝิ่นถูกนำมาใช้แพร่หลาย
ทางการแพทย์และทันตกรรม

 
 
 
8. The Antikythera Mechanism



หนึ่งในที่สุดของความลึกลับของสิ่งประดิษฐ์ทางโบราณทั้งหมดที่เป็นรู้จักกันดี “เครื่องจักรแอนติไกเธอร่า" วัตถุประหลาด
เครื่องทองเหลืองที่ค้นพบโดยนักดำน้ำนอกชายฝั่งของประเทศกรีกใน เกาะแอนติไกเธอร่า ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900
กลไกของมันซับซ้อนจนไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนโบราณ ประกอบไปด้วยชุดฟันเฟืองมากกว่า 30 ชิ้น มีข้อหมุนเหวี่ยง
และการหมุนที่สามารถคำนวณหาตำแหน่งทางดาราศาสตร์ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดาวเคราะห์ต่างๆได้


โดยอุปกรณ์ดังกล่าวพบอยู่ในซากเรือแตกโดยวิทยาศาสตร์คำนวณแล้วพบว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้มีอายุถึง 1 หรือ 2 พันปี
ก่อนคริสตกาล จุดประสงค์ที่แท้จริงของมันยังคงเป็นความลับและเบื้องหลังเทคนิคการสร้างและ การใช้งาน และที่น่าสนใจ
คือเครื่องจักรนี้ไม่ปรากฏในบันทึกทางประวัติศาสตร์จนถึง ศตวรรษที่ 14 แสดงให้ว่าเทคโนโลยีนี้หายสาปสูญ
ไปถึง 1,400 ปี ทำให้ปริศนาดังกล่าวได้สร้างความงงงวยแก่นักวิทยาศาสตร์มานานหลายศตวรรษ


แต่กระนั้นข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ที่สุดก็คือเครื่องจักรแอนติไกเธอร่า น่าจะเป็นกลไกของนาฬิกาโบราณที่สามารถ
คำนวนระยะทางจันทรคติและปีแสงอาทิตย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ “คอมพิวเตอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก”

 
 
 
7. The Telharmonium



เป็นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแรกของโลก  โดยเป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย Thaddeus Cahill
ในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเครื่องดนตรีเครื่องนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา โดยใช้สัญญาไฟฟ้าส่งมายังสาย
แล้วสังเคราะห์เสียงจนเป็นเสียงดนตรีผ่านยัง ลำโพง มันถูกสร้างมาสามรุ่น หนึ่งในนั้นมีน้ำหนักกว่า 200 ตันและใช้พื้นที่
มากประมาณหนึ่งห้องถึงจะเก็บมันอยู่


โดยส่วนประกอบคือแป้มพิมพ์และแป้นเหยียบซึ่งผู้ใช้สามารถกดเพื่อให้เกิด เสียง เครื่องดนตรีนี้ถูกนำแสดงในที่
สาธารณะครั้งแรกแล้วพบว่ามีหลายคนชอบมันเพราะ ได้ยินชัดเจนและแปลกใหม่ในเวลานั้นเพราะเครื่องดนตรี
สามารถทำเสียงได้ หลายอย่าง ใช่เครื่องดนตรีประเภทเป่าอย่าง ขลุ่ย บาสซูน คลาริเน็ต และยังมีเชลโล่
หากแต่เครื่องดนตรีนี้ก็ไม่ได้ถูกพัฒนาหรือสารต่อจนถึงการแก่อนิจกรรมในที่สุด


สาเหตุเนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้ามากและน้ำหนักมหาศาล อีกทั้งมันยังรบกวนสัญญาโทรศัพท์ ทำให้เครื่องดังกล่าว
ยุติลงในปี 1914 และผู้สร้างก็ตาย(ในปี 1934) เครื่องดนตรีที่เหลือถูกเก็บนานกว่าหลายทศวรรษและปัจจุบัน
มันยังคงอยู่เพียง แต่ไม่สามารถนำมาเล่นได้เหมือนก่อน

 
 
 
6. The Library of Alexandria



หอสมุดอเล็กซานเดรีย เป็นหอสมุดที่ขนานนามว่า  เป็นหอสมุดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกโบราณ สร้างเมื่อ 300 ปี
ก่อนคริสตกาล ในเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองภายใต้การอุปถัมภ์ของราชวงค์พโทเลมี
และอนุญาตให้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ขุนนาง และชนชั้นที่ร่ำรวยมาใช้บริการเท่านั้น




โดยหอสมุดดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก(จนไม่สามารถคาดคะเนได้) และยังเป็นสถานที่รวบรวมศูนย์กลางสำคัญของ
การศึกษาในยุคนั้น เพราะภายในได้รวบรวมความรู้จากภายนอกจากที่ต่างๆ ทั่วทั้งกรีซ อียิปต์ เอเชียไมเนอร์
และยุโรปมาไว้ในที่เดียวกัน


ในตำนานกล่าวว่านักท่องเที่ยวที่จะเข้าอเล็กซานเดรียทุกคนจะถูกริบหนังสือ โดยหนังสือนั้นจะถูกนำไปคัดลอกด้วยมือ
และต้นฉบับจะถูกเก็บไว้ที่หอสมุด หอสมุดอเล็กซานเดรียและหนังสือจำนวนมากถูกเผาทำลายหลายครั้งตั้งแต่ 47 ปี
ก่อนคริสตกาล โดยจากเอกสารประวัติศาสตร์ระบุว่า หอสมุดดั่งกล่าวถูกทำลายโดย จูเลียส ซีซาร์ จักรพรรดิโรมัน
โดยได้เผาทำลายบางส่วนของหอสมุดเพื่อปิดกั้นเส้นทางของกองทัพเรือศัตรูเมื่อ ครั้งเข้ายึดเมืองในยุคของพระนางคลีโอพัตรา

ในขณะที่ทฤษฏีอื่นๆ ก็ระบุว่า หอสมุดและหนังสือเกือบทั้งหมดถูกทำลายโดยจักรพรรดิธีออโดเชียส ผู้ปกครองชาวคริสต์
ที่สั่งให้ทำลายเอกสารทุกอย่างที่ถือว่าเป็นของพวกนอกรีต หรือไม่ก็มาร์ก แอนโทนี่ได้ขนหนังสือทั้งหมดในหอสมุดแห่งนี้
ไปอียิปต์ ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดดังกล่าวได้ส่งผลทำให้ความรู้อดีตกาลที่มีค่ามากมายหาย สาบสูญพร้อมกับหอสมุดไปด้วย

 
 
 
5. Damascus Steel



เหล็กดามัสคัส เป็นวัตถุที่แข็งแรงจนเป็นไปไม่ได้ว่า  มันจะทำขึ้นจากโลหะที่ถูกใช้กันอย่าง แพร่หลายในสมัยกลาง
ทางตะวันออกกลาง ประมาณ 1100-1700 ปีก่อนคริสตกาล โดยเหล็กเหล่านี้มีลักษณะเด่นคือมันมีความคม ความเหนียว
ทนทาน แต่ใบมีดกลับคมและยืดหยุ่น นอกจากนี้ตัวมีดยังมีลวดลายพิศวงมีทั้งลายน้ำไหลหรือลายตัวอักษร


นอกจากนี้มันยังเป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของคาร์บอนสูงเป็นพิเศษ ซึ่งโดยปกติแล้วเหล็กที่มีคาร์บอนสูงจะเปราะง่าย
แต่เหล็กดามัสคัสกลับยืดหยุ่น ทำให้กระบวนการผลิตนั้นยากที่จะรู้ว่ามันได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือวัตถุดิบที่ใช้ทำเหล็กนั่น
เอามาจากอินเดียและศรีลังกาในชื่อ “Wootz Steel” รวมไปถึงแม่พิมพ์และส่วนผสมต่างๆ เพื่อสร้างใบมีดมีลวดลาย
สวยงามมีเอกลักษณ์ แต่กระนั้นกระบวนการผลิตเหล็กดามัสกัสนั้นก็ได้หายไปประมาณ 750 ปีก่อนคริสตกาลอย่างลึกลับ


แต่มีหลายทฤษฏี และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เส้นทางการค้าถูกตัดขาดทำให้แร่พิเศษที่ใช้ผลิตเหล็กดังกล่าวนั้นมีน้อย
อีกทั้งการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ในการทำเหล็กนั้นค่อนข้างยากทำให้ช่วงหลังๆ ลวดลายใบมีดเริ่มลดลง ปัจจุบันมีหลายเจ้า
ที่อ้างว่ามีดของตนคือเหล็กดามัสกัสซึ่งความจริงแล้วสิ่ง เหล่านั้นเป็นเพียงการประมาณวิธีการทำเหล็กดามัสกัสส่วนหนึ่งเท่านั้น
ส่วนของแท้ของจริงนั้นยังไม่มีใครทำได้แต่อย่างใด

 
 
 
4. Apollo/Gemini Space Program Technology



ไม่เพียงแค่เทคโนโลยีจากสมัยโบราณเท่านี้ที่หายไป  เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็เช่นกัน โครงการอพอลโล่และการส่งคนไปดวงจันทร์เอง
ก็กำลังถูกยกเลิกเพราะการเข้ามาแทนที่ของหุ่นยนต์ โดยโครงการอพอลโล่เป็นโครงการต่อเนื่องเมอร์คิวรี่ และ เจมิไน
มีเป้าหมายสำคัญคือ จะนำมนุษย์ลงไปสำรวจดวงจันทร์ ใช้มนุษย์อวกาศขึ้นไปครั้งละ 3 คน ตัวยานอวกาศประกอบด้วย
ส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ ยานบังคับการ ยานบริการ ยานลงดวงจันทร์




โดยโครงการอพอลโล่ เริ่มส่งมนุษย์ขึ้นโคจรในอพอลโล่ โดยขึ้นไปโคจรรอบโลก 163 รอบ ในปี 1968 โดยมนุษย์อวกาศชุดแรก
ลงไปเหยียบดวงจันทร์คือนักบินของยานอพอลโล่ 11 จำนวน 3 คน คือ นีล อาร์มสตรอง , เอ็ดวิน อี-แอลดริน และไมเคิล คอลลินส์
ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาซ่าทำให้มนุษย์เหยียบดวง จันทร์ครั้งแรกของโลก แม้โครงการเหล่านี้จะทำให้โลกเปลี่ยนไป
แต่กระนั้นโครงการนั้นก็ถูกยกเลิกหลังจากส่งยานอพอลโล่ 17 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1972 ส่วนสาเหตุที่ถูกยกเลิกก็คือโครงการนี้
ใช้เงินเกินงบประมาณและล่าช้า ทำให้โครงการเจมิไนเข้ามาแทนที่ โดยวัตถุประสงค์โครงการคือการส่งมนุษย์ไปลงดวงจันทร์
พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการดำรงชีวิตขึ้นไปโคจรในอวกาศให้นานที่สุด


แต่โครงการเจมิไนก็กำลังถูกยกเลิกโดยเหตุผลเดียวกัน และปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนเป็นใช้หุ่นยนตร์ขึ้นไปสำรวจแทน
 
 
 
3. Silphium



Silphium เป็นพืชในสกุลเฟอรูล่า ยี่หร่า เป็นพืชที่ เคยได้รับความนิยมในสมัยกรีก นำเข้าจากเมืองการค้าซาร์มอัลชีค ประเทศลิเบีย
โดยต้นดังกล่าวผลเป็นรูปหัวใจ โดยชาวโรมันนิยมใช้มันปรุงอาหาร แก้อาการเจ็บคอ ไข้ อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง และนอกจากนี้
มันยังมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ด้วย โดยผู้หญิงจะดื่มน้ำผลไม้ของพืชชนิดนี้ทุกครั้งเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สามารถ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ซึ่งถือได้ว่าการใช้พืช Silphium ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่เก่าแก่ที่สุดในการทำแท้ง ก่อนที่มันจะสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล


เนื่องจากมันเป็นที่นิยมมาก แต่พืชชนิดนี้ขึ้นแต่เพียงเมดิเตอร์เรเนียนในแอฟริกาเท่านั้น การขาดแคลนดังกล่าวทำให้มันสูญพันธุ์
ปัจจุบันเราจึงเห็นต้นดังกล่าวได้จากในเหรียญโบราณของชาวโรมันที่เคยแกะสลักบันทึกไว้เท่านั้น

 
 
 
2. Roman Cement



สูตรปูนซีเมนต์สมัยใหม่ได้รับการพัฒนาในปี 1700  โดยส่วนผสมของมันอย่างง่ายคือน้ำ ทราย และหิน ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้
นิยมแพร่หลายไปทั่วโลกในศตวรรษที่ 8 แต่ในความจริงแล้วสูตรปูนซีเมนต์นั้นแพร่หลายมาช้านานในสมัยโบราณโดย
เปอร์เซีย อัสซีเรีย อียิปต์และชาวโรมัน ชาวโรมมีสูตรปูนซีเมนต์ที่คงทนโดยผสมกับปูนขาวกับหินบดและน้ำ
และด้วยสูตรนี้เองทำให้พวกเขาสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายที่มีชื่อเสียง และยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน


อย่าง วิหารพาร์เธนอน โคลอสเซียม ผันน้ำระบบท่อโรมัน โรมันบาส ซึ่งเห็นได้ชัดว่าปูนซีเมนต์สมัยโบราณดีกว่าปูนสมัยปัจจุบัน
ที่มันสามารถทน ต่อสภาพอากาศเป็นพันๆ ปี แต่แล้วสูตรปูนซีเมนต์ก็ได้หายสาบสูญในยุคมืดอย่างลึกลับ ทฤษฏีที่นิยมมากที่สุด
คือความลับทางการค้าระหว่างช่างก่อตึกหินด้วยกัน และวิธีการทำซีเมนต์และคอนกรีตก็หายไปพร้อมกับคนที่รู้วิธีทำไปด้วย


แต่กระนั้นก็มีข้อสันนิษฐานว่าปูนซีเมนต์ของพวกเขาได้ใส่ส่วนผสมพิเศษลงไป ด้วย โดยสารนี้จะทำให้สร้างฟองอากาศคอนกรีต
ช่วยให้วัสดุในการขยายทำให้ทนความร้อน และความเย็น ซึ่งสารเคมีนี้ยังคงความลับอยู่

 
 
 
1. Greek Fire



และนี่คือเทคโนโลยีที่หายสาบสูญที่มีชื่อเสียงมากที่สุด "ไฟกรีก" เป็นชื่อของอาวุธที่พัฒนาโดยกองทัพเรือไบแซนไทน์
ในสมัยยุคกลาง ประมาณศตวรรษที่ 11 โดยปกติแล้วจะใช้มันต่อสู้กับกองทัพเรือ โดยเปลี่ยนสูตรน้ำมันเผาไหม้และ
หลักกาลักน้ำมาใช้ พุ่งผ่านท่อทองเหลืองขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบนเรือรบ ไปตกบนเรือของข้าศึก โดยมีการเก็บของเหลว
ไว้ในถังร้อนอัดที่ถูกอัด และพ้นผ่านท่อดังกล่าวโดยมีอุปกรณ์บางอย่างช่วยสูบ ส่วนผู้ควบคุมเครื่องนั้นจะซ่อนหลังโล่
โลหะขนาดใหญ่ โดยไฟดังกล่าวนั้นไม่สามารถดับได้โดยน้ำธรรมดา


มีการบันทึกไว้ว่าอาวุธนี้ถูกใช้ในการจับไล่ผู้รุกรานอาหรับ โดยไฟกรีกสามารถนำมาใช้ในหลายรูปแบบ เช่น
ใช้มันถูกเทลงในขวดและโยนระเบิดใส่ศัตรู หรือกาน้ำแบบพกพา แต่แล้วเทคโนโลยีนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลังจากการล่มสลายของไบแซนไทน์ และแม้ว่ามีบันทึกหลายฉบับเขียนกล่าวว่ามันมีการใช้จริง แต่ไม่ค่อยมีใครรู้
การทำงานของมัน ในขณะที่องค์ประกอบทางเคมีของไฟกรีกยังคงมีการศึกษาและได้รับความสนใจจากนักประวัติศาสตร์
และนักวิทยาศาสตร์


โดยทฤษฏีแรกคือการผสมของดินประสิวคล้ายกับการทำดินปืน แต่ความคิดนี้ปฏิเสธเพราะว่าดินประสิวไม่ไหม้ในน้ำ
และทฤษฏีใหม่เชื่อว่าจะเป็นไฟกรีกคือส่วนผสมต่างๆ ของสารเคมีปิโตรเลียม รวมถึงปูนขาว กำมะถัน


credit :: Toptenthailand
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Obko

  • V.I.P.
  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 628
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 17:51:54 »

สุดยอดสิ่งประดิษ pongz

DelEro

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 102
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 18:22:40 »

สาระมีอยู่จริง อิอิ แต่บางอย่างที่ไม่มีให้เห็นแล้ว มีแต่บันทึก มันอาจจะทำให้เชื่อยากนิดนึงนะครับ  dsgjsd dsgjsd dsgjsd

Ixaaa02

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 83
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 18:31:07 »

ลำดับหนึ่งอย่างกะในเกมเลย

pheebar

  • X5 Club
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1435
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 22:21:45 »

บางอันก็เป็นตำนานครับ แต่หลายๆอันมีเค้าว่าจะจริง

poojung3

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 288
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 06 มกราคม 2013, 03:07:15 »

มีดดามัสคัส เหมือนเป็นตำนานที่มีชีวิตอยู่เลย

sabaho168

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 100
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 06 มกราคม 2013, 11:06:14 »

บางอย่าง ยังไม่เคยได้ ยิน นะ

luciana

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 70
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 09 มกราคม 2013, 00:47:45 »

แปลกดี

unless

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 101
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 29 มกราคม 2013, 16:48:47 »

เจ๋งๆ ;khhg

del38196

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 43
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2013, 11:10:26 »

ชอบมากๆครับ
Post By Soccer Box Office SBO

ACT_7i

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 108
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2013, 23:08:02 »

สาระๆๆ .,mn

OsamaB

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 143
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2013, 23:30:35 »

อารยธรรมโบราณก่อนคริสตกาลดูมีอะไรเจ๋ง ๆ เยอะมากเลย พอช่วง ค.ศ. 500 -1000 ต้น ๆ นี่เงียบไปเลยอะ มีใครรู้ไหมครับทำไม

Daran

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 109
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 สิ่งประดิษฐ์ลึกลับที่หายสาบสูญ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 16:19:55 »

ชอบมีดดามัสคัส ลายสวยดี