อ๊ะ! เอาแบบมีสาระ หน่อยหล่ะกัน
ผู้ชาย จะยึดถือ เหตุผลเป็นหลัก ส่วนเหตุผลนั้น จะผิด-ถูก ไม่มีใครตอบได้ แต่ผู้ชายมักจะพูดว่า มีเหตุที่ต้องเปงแบบนี้ ผลก็เลยออกมาแบบนี้ จะใช่หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ เช่น เลือกของชิ้นนี้เพราะสีดำ สกปรกก็ไม่มีใครเหน เพราะสีดำมันกลบหมด ใช้แล้วไม่ต้องทำความสะอาดก็ได้
ผู้หญิง จะยึดถือ อารมณ์และความรู้สึกเป็นหลัก ส่วนที่ว่า ทำไมต้องเปนแบบนี้ หรือ ทำไมต้องทำอย่างนี้ ไม่มีเหตุและผลประกอบ เช่น เราชอบสีชมพู ไม่ว่าอย่างไรเราก็ชอบสีชมพู ไม่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมถึงชอบสีชมพูแต่รู้ว่า นี่คือ สีที่เราชอบ
ฉะนั้น ความแตกต่างอันนี้เองที่ทำให้โลกเราอยู่ได้ ทุกสิ่งย่อมมีของที่คู่กันเสมอ ส่วนของที่คู่กันนั้นจะเข้ากันได้ 100% หรือ เข้ากันได้เพียงบางส่วนก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะปรับจูนกันอย่างไร
คนสองคน เข้าคู่กันได้มันก็ไม่แปลก เข้ากันไม่ได้ต้องมีปรับจูนกันไม่แปลก หรือเข้ากันไม่ได้เลยก็ไม่แปลก เหมือนเวลาเราไปกินก๋วยเตี๋ยวตะเกียบที่ใช้ บางครั้งก็สั้นยาวไม่เท่ากัน ถ้ามันไม่เท่ากัน บางทีเราก็อยากจะเลือกใหม่ให้เท่ากัน แต่เราก็ลืมนึกไปว่า ถึงแม้จะไม่เท่ากันแต่ก็ใช้กินก๋วยเตี๋ยวได้ แต่ถ้า มันห่างกันเกินครึ่งก็คงจะใช้ไม่สะดวกหรืออาจไม่ใช้ตะเกียบจะดีกว่า........