-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 15 เรื่องจริงของเหล่าตัวการ์ตูนจากดิสนีย์  (อ่าน 334 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

15 เรื่องจริงของเหล่าตัวการ์ตูนจากดิสนีย์
cr. พี่นัทตี้@dek-d

1. มิกกี้เม้าส์เกือบจะได้ชื่อว่า Mortimer แล้ว!



คุณจะรู้สึกยังไงถ้าหากตัวละครมิกกี้เม้าส์ แท้จริงแล้วไม่ได้ชื่อมิกกี้ แต่เป็น Mortimer (มอทิเมอร์)
ย้อนอดีตไปในสมัยก่อนที่มิกกี้เม้าส์จะเป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งที่วอลต์ ดิสนีย์ได้ถกเถียงกับภรรยา
ของเขาอยู่นานถึงเรื่องชื่อของตัวละคร โดยในตอนแรกนั้นเธอไม่คิดว่าชื่อมอทิเมอร์จะใช้ได้เลยด้วยซ้ำ


วอลต์ ดิสนีย์ เลยกลับไปนั่งคิด นอนคิด ก่อนจะกลับมาพร้อมกับชื่อ "มิกกี้เม้าส์" และชื่อนี้ก็ได้ผ่านการพิจารณา
จากภรรยาก่อนจะถูกนำมาใช้อย่างที่เราเห็นๆ กันในทุกวันนี้



ส่วนมอทิเมอร์เม้าส์ก็ได้ถูกนำมาใช้เหมือนกันนะ โดยชื่อนี้ได้ถูกนำมาใช้เรียกแทนตัวละครประเภทเดียวกัน
กับมิกกี้แต่ทว่าสูงกว่า มีอุปนิสัยที่ซุ่มซ่ามกว่า (หรือจะเรียกว่าซวยแทนก็ได้) ซึ่งมอทิเมอร์เม้าส์ ได้ถูกนำ
ออกมาฉายเป็นภาพยนตร์ขนาดสั้นครั้งแรกในปี 1936




 

2. มิกกี้และมินนี่เกิดวันเดียวกัน



ในปี 1933 วอลต์ ดิสนีย์ได้มีการออกมาเกำหนดวันเกิดของมิกกี้เม้าส์เป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นก็คือวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1928
แต่ในปี 1978 เดฟ สมิธ ผู้ก่อตั้งดิสนีย์อีกหนึ่งคน ได้เปลี่ยนจากวันดังกล่าวมาเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 1928 แทน
เพราะเป็นวันที่ "อนิเมชั่นขนาดสั้น" ได้เผยแพร่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก


อีกทั้งยังเป็นวันต้นกำเนิดตัวละครอย่าง มินนี่ และ มิกกี้เม้าส์ สู่สายตาประชาชนทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นถ้าเราจะกำหนดว่า
วันที่ 1 พฤศจิกายนนั้นเป็นวันเกิดของมิกกี้ มันก็ต้องเป็นวันเกิดของตัวละครอย่างมินนี่เช่นกัน!



 

3. ตัวละครจากดิสนีย์หลายตัวมีดาวอยู่ที่ Walk of Fame



ในเดือนพฤศจิกายนปี 1978 มิกกี้เม้าส์ เป็นตัวการ์ตูนตัวแรกของดิสนีย์ที่ได้ดาว แต่ถ้านับตัวการ์ตูนอื่นๆ ที่เคยได้ดาวจากทาง
Walk of Fame นอกจากมิกกี้แล้วได้แก่ สโนไวท์ (ปี 1987) กบเคอร์มิท (ปี 2002) โดนัลด์ ดั๊ก (ปี 2004)
วินนี่เดอะพูห์ (ปี 2006) ทิงเกอร์เบล (ปี 2010) และ The Muppets (ปี 2012)






4. มาเลฟิเซนต์ และ แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลล่านั้นเป็นคนๆ เดียวกัน



ในชีวิตจริงนักแสดงสาวอย่าง เอเลนอร์ ออดลีย์ นั้นเคยให้เสียง เลดี้ เทรเมน แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลล่า และ มาเลฟิเซนต์
ตัวร้ายจากเรื่องเจ้าหญิงนิทรามาแล้ว โดยก่อนหน้านั้นออดลีย์เคยมีผลงานทางโทรทัศน์มาก่อน ยกตัวอย่างผลงานของเธอ เช่น
The Man from U.N.C.L.E. และ The Dick Van Dyke Show





 

5. โพคาฮอนทัส เป็นตัวการ์ตูนจากดิสนีย์เพียงตัวเดียวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคนจริงๆ



แต่ไม่ได้หมายความว่าดิสนีย์ได้เอาชีวิตจริงของคนๆ นั้น มาทำเป็นการ์ตูนนะ สืบเนื่องมาจากข้อมูลในนิตยสาร Smithsonian
ที่ได้มีการพูดถึงชื่อโพคาฮอนทัสเอาไว้อยู่ โดยคำว่าโพคาฮอนทัสมีความหมายว่า “ขี้เล่น” รวมถึง “เด็กผู้มีความประพฤติที่ไม่ดี”
ซึ่งที่มาของชื่อนี้ก็คือ เด็กคนหนึ่งที่เคยพบกับ จอห์น สมิธ มาก่อน 


โดยในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีอายุน้อยเหมือนอย่างที่เราเห็นๆในกาน์ตูน แถมความสัมพันธ์ระหว่างเขา กับโพคาฮอนทัสนั้นไม่ใช่
ความสัมพันธ์ในเชิงโรแมนติกสักทีเดียวด้วย

(10 เรื่องจริงของโพคาฮอนทัส - http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=149007.0)

 

6. มีเจ้าหญิงจากดิสนีย์เพียงแค่ 2 คนที่มีพลังวิเศษ



ในขณะที่เจ้าหญิงจากหนังดิสนีย์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ความมหัศจรรย์ ของเวทมนตร์หรือตัวเนื้อเรื่อง แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวละคร
ที่เป็นคนแทน ทายซิว่าเป็นตัวละครตัวไหน? อะ เฉลยให้ก็ได้ ตัวละครตัวนั้นก็ได้แก่


ราพันเซลกับพลังวิเศษในการเยียวยา กับผมที่ยาวมากๆ ของเธอ และ เอลซ่ากับพลังวิเศษจากน้ำแข็ง
ซึ่งถือว่าเป็นตัวละครของเจ้าหญิงจากดิสนีย์ที่แตกต่างมีแฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว





7. แซลลี่ จาก monster inc เป็นตัวละครที่มีขนเยอะที่สุด!



มอนสเตอร์สีฟ้าตัวใหญ่อย่างแซลลี่จาก บริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด หรือ Monster inc นั้นมีขนที่มากถึง 2.3 ล้านเส้น!
ซึ่งความยากลำบากไม่ได้อยู่ที่ตัวละครแต่อย่างใด แต่มันอยู่ที่การทำอนิเมชั่นต่างหาก


โดยตัวละครของแซลลี่นั้นใช้เวลาในการทำภาพเคลื่อนไหวเป็นเวลาถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว (คงจะหลอนน่าดูเลยนะ)




8. ดัลเมเชียน จาก 101 Dalmatians นั้นมีจุดเยอะมาก!



ใครจะไปรู้ว่าน้องหมาจุดแสนน่ารักนั้นมีจุดในตัวมากกว่า 6 ล้าน 4 แสนจุด ที่ปรากฏอยู่ในตัวเหล่าน้องหมาจากเรื่อง 101 Dalmatians
ลูกหมาแต่ละตัวนั้น มีจุดจำนวน 32 จุด แม่ของพวกมันมี 68 จุดและพ่ออย่างพอนโกมี 72 จุด
(ดูไปคงจะเมาจุดกันไปข้างนะคิดว่า)




9. ปู จากเรื่อง The Little Mermaid นั้นไม่ได้ชื่อเซบาสเตียนธรรมดาๆ



ใครจะไปรู้ว่า ปู ที่ชื่อเซบาสเตียนที่เราคุ้นหูกัน ชื่อเต็มๆ ของมันนั้นมีอยู่ว่า

โฮโรทีโอ ดิโลเนียส อิคนาเซียส ครูสตาอุส เซบาสเตียน (ยาวมาก….)

ซึ่งเราเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงตัดให้มันสั้นลง ไม่งั้นกว่าจะเรียกชื่อจบ หนังคงปาไป 2 ชมกว่าแล้วแหละ (หึหึ)




10. เจ้าชายอสูรนั้นเป็นการผสมผสานเอาสัตว์หลากชนิดไว้ด้วยกัน



เจ้าชายอสูรนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างสัตว์ชนิดใดกับชนิดใดบ้างเนี่ย คุณลองมองภาพ แล้วลองทายกันดู
ว่าในมุมมองของคุณ นั้นคิดว่าเจ้าชายอสูรมีส่วนผสมของสัตว์ชนิดใดอยู่บ้าง ติ๊กต๊อกๆ...!!


เอ้าได้เวลาเฉลย เดี๋ยวจะไล่ให้อ่านกันทีละส่วนเลยนะ เริ่มตั้งแต่...

ขา ซึ่งเป็นขาของหมาป่า
หาง ซึ่งเป็นหางของสุนัข
ตัว ซึ่งเป็นตัวของหมี
ส่วนหัว ซึ่งเป็นหัวของควาย
คิ้ว (แม้แต่คิ้วก็ยังเอา) นั้นเป็นคิ้วของกอลิล่า
ปาก ของหมูป่า
และแผงคอที่เป็นของสิงโต

ถือว่าเป็นการผสมผสานเอาหลายอย่างมาไว้รวมกัน จนทำให้ตัวละครอสูรตัวนี้น่าเกลียดน่ากลัวจนทำให้
คนดูขนหัวลุกไปตามๆ กัน




11. เฉินหลงเคยเล่นเป็น 2 ตัวละครจากดิสนีย์



แม่นแล้ว...พวกคุณ อ่านกันไม่ผิดหรอก เพราะในเวอร์ชัน "ภาษาจีน" นั้น เฉินหลงเคยให้เสียงเป็นเจ้าชายอสูร
จากเรื่อง Beauty and the Beast มาแล้ว รวมถึงเรื่องมู่หลานที่เขาเคยให้เสียงเป็น แม่ทัพชาง


นอกจากพากย์แล้วเขายังควบตำแหน่งร้องเพลงประกอบในอนิเมชั่นอีกด้วยนะ เก่งเว่อร์!!


 

12. ผู้ให้เสียง โดนัลด์ ดั๊ก ความจริงแล้วเขาให้เสียงมากกว่า 1 เสียง



คลาเรนซ์ แนช เป็นที่รู้จักจากการพากย์เสียงเป็นตัวละครอย่าง โดนัลด์ ดั๊ก (แถมเขายังให้เสียงมาแล้วกว่า 50 ปี!) รวมถึงหลานๆ
ของเขา 3 ตัว และ เดซี่ ดั๊ก เองก็เป็นการให้เสียงโดยเขาอีกเช่นกัน นอกจากนั้นแนซยังเคยพากย์เสียงให้กับตัวละครที่เป็นสัตว์
อีกมากมาย อาทิ ม้า, หมี, สุนัข, นก และแน่นอนว่าต้องมีเป็ดด้วย!






13. ดัมโบ้ เกือบได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์แล้ว



หลังจากอนิเมชั่นลำดับที่ 5 ของดิสนีย์ได้ถูกปล่อยมาในฤดูร้อนปี 1941 ก็ได้รับการยกย่องชื่นชมจากบรรดานักวิจารณ์รวมถึง
คนดูมากมาย จนทำเงินได้กว่า 2.5 ดอลลาร์สหรัฐ! นิตยสารไทม์เลยมีแพลนว่าจะนำตัวละครที่เป็นกระแสอยู่อย่างดัมโบ้
มาขึ้นปกในวันที่ 29 ธันวาคมปีเดียวกัน โดยตั้งใจจะพาดหัวว่า “Mammal of the Year”


แต่น่าเสียดายเพราะได้เกิดเหตุการณ์การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ขึ้นมาเสียก่อน เลยทำให้ดัมโบ้พลาดในการขึ้นปกไป แต่อย่างไร
ก็ตามตัวละครอย่างดัมโบ้ก็ได้ปรากฏบนหน้านิตยสารชื่อดังมากมาย แต่อย่างไรก็หากเจ้าช้างน้อยได้ขึ้นปกนิตยสารอย่างไทม์
ก็ถือว่าเป็นที่สุดยอดเลยจริงๆ ยังไงก็แล้วแต่เวอร์ชั่นใหม่ ที่เป็นฉบับคนแสดง กำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้ ใครเป็นแฟนเจ้าช้างดับโบ้
รอชมกันได้เลย



14. เลดี้ จาก Lady and the Tramp นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากสุนัขจริงๆ



เชื่อว่าหลายๆคน คงจะตกหลุมรักเจ้า เลดี้  จาก ทรามวัยกับไอ้ตูบ (Lady and the Tramp) โดยเลดี้ตัวนี้ได้แรงบันดาลใจ
มาจาก สุนัขสายพันธุ์อิงลิช สปริงเกอร์ สเปเนียล ของนักเขียนคนหนึ่งของทางดิสนีย์ หลังจากดิสนีย์ได้เห็นภาพของสุนัขแล้ว
เขาเลยบอกให้โจ (นักเขียนเจ้าของสุนัขตัวนั้น) ไปร่างสตอรี่บอร์ดดู แต่ตอนนั้นพวกเขาก็ยังไม่ได้มีการนำมันมาต่อยอดต่อใดๆ


จนกระทั่งดิสนีย์ได้อ่านบทเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า “Happy Dan, the Whistling Dog” จึงทำให้เขาเปลี่ยนความคิด
ก่อนจะนำร่างของโจมาทบทวนดูใหม่อีกครั้ง



 

15. วอลต์ ดิสนีย์ ไม่ชอบฉากสปาเก็ตตี้ใน Lady and the Tramp



หลังจากที่ ดิสนีย์ ได้ไอเดียเกี่ยวกับฉากสปาเก็ตตี้แล้ว เขากลับคิดว่า มันดูเป็น "ฉากที่ไม่มีอะไร" ในทางเดียวกันก็ได้มีผู้ให้ความเห็นว่า
ถ้าคุณลองจินตนาการ ภาพของสัตว์เลี้ยงสองตัวที่กำลังนั่งกินสปาเก็ตตี้ที่อยู่ในจานกันอยู่ มันดูยากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะมองว่าสวย


ยังไงเสียต้องขอบคุณที่ว่าทางผู้สร้างอนิเมชั่นถ่ายทอดฉากนั้นออกมาดีมากๆ จนทำให้ทางดิสนีย์ไฟเขียวขึ้นมาได้
ไม่อย่างนั้นเราคงพลาดฉากฟินๆ จิ้นๆ ที่ปัจจุบันทุกคนยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฉากที่ดีที่สุดของการ์ตูน Disney แน่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ตุลาคม 2018, 14:00:27 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่