-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เทพในตำนานเคลติก : C  (อ่าน 901 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18154
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
เทพในตำนานเคลติก : C
« เมื่อ: 10 มีนาคม 2017, 10:49:33 »

Celtic Gods and Goddesses : C
credit :: BeelzeBufo@dek-d


 
Goddess Caileach Bheur (Scottish, Irish, Manx)



คอย-ลิค เบอร์ หรือ คอล-ยาช เบอร์ (อ่านได้สองแบบ ในที่นี้ขอใช้คำว่าคอยลิดเป็นหลักนะครับ ในภาษาไอริช
คำว่า "Cailleach" หมายถึงแม่มด ดังนั้น "Cailleach Bheur" จึงอาจแปลได้ว่า "แม่มดเบอร์") คอยลิคเบอร์
ยังมีชื่อเรียกอีกว่า Caillech Beine Bric (คอยเลค เบน บริค) และ Crone of Beare (ยายเฒ่าแห่งเบอร์)

เธอเป็นเทพีผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ทำลายล้าง มีชื่อเรียกเล่นๆว่า  "Veiled One" หรือ "ผู้สวมหน้ากาก" และอีกชื่อ
คือ "Scota" ซึ่งตั้งมาจากสก็อตแลนด์ประเทศกำเนิดของเธอ แต่เดิมประเทศสก็อตแลนด์ไม่ได้ใช้คำๆนี้เป็นชื่อ
ประเทศแต่ใช้คำว่า "Caledonia" (แคลิโดเนีย) ที่มีความหมายว่า land given by Caillech หรือดินแดน
ที่ได้รับจากคอยลิค
 
ในส่วนของสหราชอณาจักรหรือบริเทน เธอเป็นเทพีแห่งฤดูหนาว ปรากฎตัวให้เห็นในรูปแม่มดที่มีใบหน้าสีฟ้า
เธอเกิดใหม่ในวันซัมเฮน (31 ตุลาคม) พร้อมกับนำหิมะมาสู่แดนมนุษย์ และในวันเบลเทน (30 เมษายน)
หิมะจะหยุดลงเพราะเธอถูกเทพีบริจิต (Goddess Brigit) ขับไล่และกลายร่างเป็นก้อนหิน ในเวลาต่อมา
ตำนานของแม่มดเช่น Black Annis ก็มีความเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากเทพีแแห่งฤดูหนาว หรือคอย
ลิคเบอร์นั่นเอง



คอยลิคเบอร์ เชื่อกันว่าเป็นเทพีโบราณ ในยุคก่อนชนชาติเคลติกของไอร์แลนด์ เธอเป็นผู้ควบคุมฤดูกาล
และสภาพอากาศ เธอเป็นเทพีแห่งผืนดิน ท้องฟ้า ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
 
เธอเป็นผู้ปกครองอสุรร้ายในทิศใต้ (a Tutelary Goddess to southwest Munster) และเธอก็ปรากฎ
อยู่ในนิทานโบราณ เป็นเรื่องของแม่มดเฒ่าผู้ขอความรักจากอัศวินหนุ่มรูปงาม และทันทีที่อัศวินยอมรับรักนั้น
แม่มดเฒ่าก็กลายเป็นหญิงสาวรูปงาม และครองรักกัน... ( เรื่องแนวโฉมงามกับเจ้าชายอสูรรึเปล่าเนี่ย )
 



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Camulos (British)



คามูลัส เทพสงคราม ชื่อมาจากคามูโลดูนัม (Camulodunum) ชื่อเก่าของเมืองโคลเชสเตอร์ (Colchester)
ประเทศอังกฤษ ซึ่ง คามูโลดูนัม มีความหมายว่า "place of Camulos" หรือ "สถานที่แห่งคามูลัส"
เป็นที่รู้จักจากจารึกและเหรียญที่สลักสัญลักษณ์ของหมูป่า



 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Carlin (Scotland)



คาร์ลิน เธอเป็นวิญญาณแห่งวัน "eve of Samhain" หรือคืนก่อนวันฮาโลวีนนั่นเอง
ซึ่งตรงกับคำคืนแห่งปีที่เริ่มเปลี่ยนเป็นฤดูหนาว และเหล่าภูตผีวิญญาณออกมาเดินเตร็ดเตร่บนโลกมนุษย์
 
   


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Cathubodua (Breton)



เทพีคาธูโบดัว ในตำนานแบบเบรอตง (Breton) ของชาวไอริชจะตรงกับเทพีบันบา (Goddess Banbha) เทพีแห่งผืนดิน
มีแนวโน้มว่าจะมีต้นกำเนิดจากกอล (Gaul = แถบฝรั่งเศสในปัจจุบัน) บ้างคิดว่าเธอเป็นเทพีแห่งสงครามผู้ใช้พลัง
ร่วมกับเทพีแบด์บ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Cernunnos (Pan-Celtic)



เคอนูนอส (สะกด Cernunnos แต่อ่านว่า Ker-noo-nos /เคอ-นู-นอส/) เป็นเทพที่ชาวเคลท์รู้จักกันดีว่า
เป็นเทพแห่งเขา (Horned God) เทพแห่งธรรมชาติ เทพแห่งนรกและดาว บิดาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีเขา ดรูอิด
รู้จักเคอนูนอสในชื่อ ฮู กาดาน (Hu Gadarn) มีความหมายว่าเทพเขาแห่งความอุดมสมบูรณ์
 
ผู้คนมักจะเขียนภาพของเคอนูนอสให้เป็นเทพเขากวาง ผมหยิก ไว้เครา เปลือยท่อนบน นั่งบนดอกบัว บางครั้ง
ก็ถือหอกกับโล่ สัญลักษณ์ของเคอนูนอสคือกวาง แกะ กระทิง และงูมีเขา บางครั้งก็ถูกเรียกว่า เบลาทูคาดรอส
และวิทิริส (Belatucadros (ดูเพิ่มเติมเทพ : B) and Vitiris) เคอนูนอสมีพลังหลายอย่าง ทั้งความแข็งแกร่ง
ความอุดมสมบูรณ์ ความรักทางกาย ธรรมชาติ สัตว์ ป่า วิญญาณ ทางแพร่ง ความมั่งคั่ง ค้าขาย การรบ
 
เคอนูนอสเป็นชื่อภาษากรีกส่วนชื่อภาษาเคลติกได้หายสาบสูญไปแล้ว ในยุโรปจะเรียกว่า
เทพแห่งเขา (Great Horned God)



ชาวเคลท์แถบกอล (Gaul) หรือฝรั่งเศสในปัจจุบัน รู้จักเคอนูนอสในชื่อเทพดิสปาเตอร์ (God Dispater)
เคอนูนอสมักจะถูกวาดเป็นรูปคนแบกเขากวาง คือไม่จำเป็นต้องใช้กวางเป็นตัวแทน เพราะเทพจะสามารถ
เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์หรืออะไรก็ตามที่ใกล้ชิดได้อยู่แล้ว
 
ในโลกเคลติก เขาสัตว์ เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความอุดมสมบูรณ์ เคอนูนอสมีรูปวาดของเขา
อยู่บนชามกุนสตรัปในเดนมาร์ค (Gundestrup Bowl) เป็นลายหมูป่ากำลังดูแลเคอนูนอส [หมูป่า ชาวเคลท์เ
ชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว ความรุนแรง และมีนัยของเวทมนต์] และมีรูปกระทิงอยู่ด้วย ภายหลัง
พบรูปปั้นหินเป็นรูปเกี่ยวกับงู  (ขาของเขาถูกแทนที่ด้วยงู) และบางรูปคนแบกเขาแกะที่ไซเรนเซสเตอร์
(Cirencester) ประเทศอังกฤษ และที่ Sommerecourt (Haute Marne) เป็นรูปปั้นรูปเคอนูนอส
กับเทพอะไรซักตนถือตะกร้ากำลังให้อาหารงู (งูเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืน) รูปปั้นอื่นๆเป็นรูปเคอนูนอส
ถือกระเป๋าเงิน (ห้ะ!!)
 
เทพเคอนูนอสเทียบได้กับเทพแพนของกรีก (Greek God Pan ชื่อมีความหมายว่า "ทั้งหมด") เทพทั้งสองนี้
เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับชาวคริสเตียนที่ต่อต้านซาตาน นี่ไม่ได้ตัดสินที่ความสามารถของเทพทั้งสองแต่แค่ใช้เป็น
เครื่องมือให้ชาวบยุโรปหวาดกลัวและตีห่างจากศาสนาเก่า 

ชื่ออื่นๆ Cernawain; Cernenus; Herne the Hunter; Kernunos

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cerridwen (Scottish, Welsh)



แค-รีด-เวน เทพีแห่งดวงจันทร์ (The white-corpse eating sow representing the Moon
ศพสีขาวกินหมู เป็นตัวแทนของดวงจันทร์) มารดา ธัญญาหาร และธรรมชาติ เธอเป็นภรรยาของยักษ์เทกิด (Tegid)
และเป็นแม่ของสาวน้อยน่ารักเครรูว (Creirwy) และเด็กชายน่าเกลียดอาแฟกดู กับ โมฟรอน (Avagdu and Movran)
 
นักกวีชาวเวลส์จะเรียกตัวเองว่าแคดดอยอง (Cerddorion) มีความหมายว่าบุตรชายแห่งแครีดเวน หรืออีกความหมาย
คือนักดนตรี มีเรื่องเล่าว่า กวีทาลีเอซิน (Bard Taliesin) ผู้สร้างผลงานฝีมือบอกว่าเขาเกิดจากแครีดเวนและได้ลิ้มลอง
ยาที่ปรุงจากหม้อวิเศษแห่งแรงบันดาลใจของเธอ (magic cauldron of inspiration) ยาตัวนี้มีชื่อว่าเกรล 'greal'
(น่าจะมาจากคำว่า "Grail" ที่แปลว่า "จอก")  ทำมาจากพืชแห่งแรงบันดาลใจและปํญญา 6 ชนิด ทาลิเอซินหรือชื่อเดิม
กวียอน บาช (Gwion Bach) ได้ดื่มยานี้ไปสามหยด ทำให้เขามีความสามารถอย่างที่เห็น
 
สัญลักษณ์ของเธอคือ หมูสีขาว ความตาย ความอุดมสมบูรณ์ การฟื้นฟู แรงบันดาลใจ เวทมนตร์ โหราศาสตร์
สมุรไพร วิทยาศาสตร์ บทกวี ปัญญา
 
แครีดเวน เป็นเทพีพลังทำนายแห่งความมืด เธอเป็นผู้เก็บรักษาหม้อที่ใช้ปรุงแรงบันดาลใจและปัญญาในโลกต่าง
เธอมักถูกนำไปเปรียบกับ แม่มดเฮเคท (crone Hecate) ของกรีก และเทพแบด์บ (Badb) ของไอร์แลนด์
และบางทีก็นำเธอไปเปรียบเทียบเทพมิวส์ของกรีก (Greek Muses) เฉพาะในด้านความรุนแรงและความมืด   
 
ชื่ออื่นๆ  Caridwen; Ceridwen; Cereduin     
 


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cliodna (Irish, Scottish)



คลีนา (สะกด Cliodna แต่อ่านว่า klee-nah /คลี-น่า/) เทพีแห่งความงาม ทะเล และโลกต่าง เธอชอบอยู่ในรูป
ของนกทะเลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโลกหลังความตายในเคลติก ในฐานะที่เธอเป็นผู้ควบคุมคลื่น ชาวเคลท์เชื่อว่า 1/9 
ส่วนของร่างเธอจะแตกสลายอยู่บนฝั่งทุกครั้งที่เธอสร้างคลื่น และคลื่นของเธอจะสูงและแรงกว่าคลื่นอื่นๆ

นิทานหลายพื้นบ้านหลายเรื่องเขียนถึงการมีอยู่ของเธอ เรื่องเกือบทั้งหมดเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติ ในเรื่องพื้นเมือง
เธอเป็นเทพีแห่งความงามและถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ยั่วยวนสุดๆและชอบพาคู่รักของเธอไปโลกต่างกับเธอ เธอชอบหนี
ออกจากโลกต่างมาพบคนรักของเธอเคียบาน (Ciabhan of the Curling Locks) และก็มักจะถูกคอยลิค (Cailleach)
ส่งกลับโลกต่างอยู่เสมอ จนสุดท้ายคอยลิดก็ใช้แฟรี่ของเธอกล่อมให้เธอหลับบนชายหาดของไอร์แลนด์และเรียกคลื่นขนาดใหญ่
พาตัวเธอกลับไป (บ้างตำนานเล่าว่าคนเรียกคลื่นมาคือมานันนาน Manannan) ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ปรากฏอยู่ในตำนานไอริช
ในฐานะเทพีแห่งทะเล และถูกคอยลิคทำโทษไม่ให้ใช้ร่างมนุษย์กลับมาที่ไอแลนด์ได้อีก

ทุกวันนี้ ชาวไอริชคิดว่าเธอเป็นราชินีแห่งแฟรี่ใน County Cork  พร้อมกับชายหาดที่พักของเธอ
"The rocky coastal landmark Tonn Cliodna " หรือ "The Wave of Clena" หรือ "คลื่นแห่งคลีน่า"
คือชื่อของเธอ
 
เชื่อกันว่าเธอเป็นลูกสาวของดรูอิดสุดหล่อเกบาน (Druid Gebann) และเธอมีสิทธิ์ในการเป็นเทพีแห่งความงาม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Clota (Scottish)



เทพีโกลตาร์ (เขียน Clota แต่อ่านว่า Glo-tar /โกล-ตาร์/ ) เทพีผู้มีชื่อเสียงแห่งแม่น้ำไคลด์ (River Clyde)
ในประเทศอังกฤษเรียกเธอว่า คลัด (Clud) หรือ คลูดอยต้า (Cludoita) ในเวลส์เรียกเธอว่า คลูวิด (Clwyd /อ่านคำว่า
คลู-วิด เร็วๆอ่ะครับ จะได้คำที่ใกล้เคียงกับ คลูด ครับ ปล.ภาษาเวลส์ ฟังยากโคตร )
 
เชื่อกันว่าแหล่งน้ำที่เธอดูแลมีประโยชน์เฉพาะ คือสามารถใช้ควบคุมหรือครอบงำสิ่งต่างๆได้
 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Cocidius (Britain, Continental)



คอคิเดียส เทพผู้มีความสัมพันธ์กับป่าและการล่าสัตว์ (เกี่ยวพันธ์กับเทพซิลวานัส (Silvanus)ของโรมัน) 
บางครั้งมีความสัมพันธ์กับสงคราม (ตรงกับเทพมารส์ Mars)

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Condwiramur (Welsh, Cornish)



คอน-ดวิ-อา-มูร ผู้พิทักษ์ความลับแห่งสตรีและเทพีแห่งกษัตริย์ ผู้ปรากฎอย่างองอาจในตำนานของเกรล
(Grail legends) ในฐานะภรรยาของเซอร์เพคิฟาล (Sir Percival)
 
หลังจากที่ทั้งสองอยู่กินด้วยกัน ก็ออกเดินทางไปปราสาทเกรลซึ่งในท้ายที่สุดก็ยอมรับทั้งคู่เข้าปราสาท หลังจาก
ที่จัดงานแต่งงานกับคอนดวิอามูร เซอร์เพคิฟาลก็กลายเป็นผู้ปกครองแห่งอาณาจักรเกรล เขาจึงยอมรับในอำนาจ
แห่งกษัตริย์ของเธอ (คอนดวิอามูรทำให้เซอร์เพคิฟาลได้เป็นกษัตริย์)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

God Condatis (Britain)




เทพคอนดาทิส เทพที่ถูกยกให้เป็นเทพแห่งน้ำ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะอยู่ ณ ที่ที่แม่น้ำ 2 สายบรรจบกัน
ซึ่งเป็นจุดของพลังอันยิ่งใหญ่ที่ชาวเคลท์รู้จักกันดี
 

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 
Goddess Corchen (Irish, Manx)



คอร์เชน (ไม่แน่ใจการออกเสียงนะครับผม) เทพีแห่งงูอันเก่าแก่ผู้มีข้อมูลเพียงน้อยนิด เนื่องจากรูปลักของเธอ
ส่วนใหญ่จะเป็นงูจึงไม่มีบทบาทที่แน่ชัด ว่ากันว่าเธออาจเป็นพระแม่ธรณี หรือเทพีที่เกี่ยวพันกับการเกิดใหม๋ คาดว่า
ตำนานของเธอที่หายไปปรากฎอยู่ในสัตว์ในตำนานที่ถูกลืม
 

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 
Goddess Corra (Scottish)



คอรา เทพีแห่งการพยากรณ์ มักจะปรากฎในร่างนกกระเรียน คล้ายกับเทพีของไอร์แลนด์ คือ ไอฟ์ (Aife) และ
คัลลี่ แบรี่ (Cally Berry) เธอเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้ที่เหนือกฎธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงโลกต่าง
(โลกของเทพทั้งหลาย)
 

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Coventina (Anglo-Celtic, Scottish, British)



โคเวนตินา เทพีแห่งน้ำและเทพีแห่งผู้ปกครองจากความพอใจที่ไม่แน่นอน ไม่ค่อยมีใครรู้จักเธอนัก รู้แต่ว่าเธอเป็น
เทพีที่มีความสำคัญในท้องถิ่นของอังกฤษ ที่เห็นพลังของเธอได้ชัดคือในช่วงที่อณาจักรโรมันล่าอาณานิคมและ
พลังของเธอก็เป็นที่แน่ชัดว่ามาจากเคลติก
 
รูปปั้นในวิหารแครอวเบิร์ก (Carrawburgh) ซึ่งเป็นรูปนิมป์สามตนพยุงเรือออกจากลำธาร และรูปภาพอีกรูปที่เป็น
นิมป์น้ำนั่งบนใบไม้กำลังเทน้ำออกจากเรือ คาดว่าน่าจะเป็นโคเวนตินา ดังนั้นวิหารนี้ก็คือวิหารของเธอ วิหารแครอวเบิร์ก
สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีหลังคา รูปแบบคล้ายวิหารโรมันเคลติก (Romano-Celtic temple) มีความสัมพันธ์
กับป้อมปราการโบรโคลิเทียของโรมัน (Brocolitia)

นักพิสูจน์ลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรมและน้ำได้สำรวจบ่อน้ำ และระบุว่ามีเหรียญโรมันกว่า 13,000 เหรียญถูกโยน
ในน้ำระหว่างราชวงศ์เกรเชียน คศ.407 (reign of Gratian (407 AD)) แสดงให้เห็นว่ามีคนเคารพเธอมาอย่างยาวนาน
ช่วงปลายสมัยได้ขุดค้นพบเตาเผาธูปที่สลักคำว่า "Coventina Augusta"


 
นอกจากเงินแล้ว ยังพบไข่มุกและเข็มหมุด(ขอพรเกี่ยวกับการคลอดบุตร)ที่ถูกโยนลงบ่อน้ำเพื่อเป็นคำมั่นแด่โคเวนตินา
ในวิหารของเธอมีทั้งรูปปั้นสุนัข (เชื่อมโยงกับแพทย์สมัยกรีก-โรมัน Aesculapius) และม้า (สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์)
แต่ทำหมดถูกแทนที่ด้วยกะโหลกศีรษะ แท่นบูชา และหินแกะสลักของชาวคริสเตียน
 
แม้ตำนานดั้งเดิมของเธอจะหายสาบสูญไปนาน แต่หลายคนยังเชื่ออยู่ว่าเธอเป็นราชินีแห่งแม่น้ำ ที่ที่จะพบเธอได้คือแถวต้นน้ำ
เนื่องจากชาวเคลท์เชื่อว่าที่ที่จะสัมผัสพลังของเทพเจ้าได้มากที่สุดก็คือต้นน้ำที่ใสสะอาด เธอมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
กับแม่น้ำ Caldew ของอังกฤษ

เหมือนเทพแห่งแม่น้ำตนอื่นๆ โคเวนตินาเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ แรงบันดาลใจ และคำทำนาย เหรียญที่สักการะ
แด่เธอเหมือนเป็นการขอความเห็นใจ ความเมตตาจากเธอ ให้เธอดูแลพวกเขา ในสก็อตแลนด์เธอเป็นเทพีแห่งสัตว์ไม่มีขน
ที่บินได้ ซึ่งมีความหมายถึงการขัดขวางสิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่ให้ข้ามผ่านไปโลกต่างได้ มีหลักฐานว่ามีการบูชาเธอในแถบ
ฝรั่งเศส (Celtic Gaul ) พบภาพวาดของเธอที่กำลังนอนอยู่บนใบไม้ลอยไปตามน้ำ
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cred (Irish, Scottish)



เครด สะกดได้อีกแบบคือ Creide เทพีตนนี้คือราชินีของเหล่าแฟรี่เกี่ยวพันกับภูเขาแห่งดาน่า (Dana's mountains)
เธอสัญญาว่าเธอจะไม่หลับใหลเป็นอันขาดจนกระทั่งชายคนหนึ่งได้เขียนบทกลอนที่สวยงามที่สุดเคยเจอขึ้นมา มันไม่ได้
ถูกเขียนขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้นแต่ได้บรรยายบ้านของเธอไว้อย่างชัดเจนทุกรายละเอียด ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้เพราะ
ภายในกำแพงที่ปกป้องที่อยู่ของเธอไม่ได้รับอนุญาตให้บุรุษย่างกรายเข้ามา
(เครดอยู่ในอาณาจักรแห่งสตรี  land of women ประมาณแดนลับแลของเราละมั้งครับ)

คอล (Coll) หนึ่งในนักรบฟิอาน (Fianna warriors) เป็นผู้ที่เอาชนะอุปสรรคและข้ามกำแพงเพื่อนำบทกลอนที่ตนแต่ง
มอบให้เครด เครดประทับใจสุดๆจึงได้แต่งงานกับคอลและสร้างบ้านอยู่ด้วยกันในโลกต่าง  (Otherworld)

ในตำนานอีกเรื่องเล่าว่า เครดได้รับแหวนวงหนึ่งจากคาโน่ (Cano) บุรุษผู้ถูกเนรเทศจากสก็อตแลนด์ ทั้งสองรักกัน
และวันหนึ่งคาโน่ก็บอกเครดว่าเขาจำเป็นต้องกลับสก็อตแลนด์ และขอให้เธอช่วยรักษาแหวนวงนี้ไว้เพราะแหวนนี้เปรียบ
ได้กับชีวิตของคาโน่ คาโน่จากไป ปล่อยให้เครดอยู่เพียงลำพังอย่างทุกข์ทรมาณ ด้วยความไม่ตั้งใจเครดทำแหวนของ
คาโน่หล่นและแตกออก คาโน่จึงตาย 3 วันหลังจากนั้น
 
*เพิ่มเติมเรื่องนักรบฟิอานนิดนึงครับ* (Fianna Warriors)
นักรบฟิอาน เป็นนักรบที่ต่อสู้เพื่อไอร์แลนด์จนวาระสุดท้ายของชีวิตครับ จุดเด่นคือจะใช้แค่ม้าในการเคลื่อนพล
อาวุธที่ใช้ก็ตามรูปครับ
 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Creddylad (Welsh)



เครดเดอลาด ลูกสาวของเทพแห่งทะเลเซอร์ (Llyr /LL ออกเสียงคล้ายซอโซ่ครับ งงสุดๆ ) เธอเกี่ยวโยงกับ
วันเบลเทนและมักจะเรียกเธอว่า "May Queen" หรือ "ราชินีเดือนพฤษภาคม"
 
ในตำนานของเธอมีการแข่งขันที่มีชื่อเสียงมากๆ ระหว่างเทพกวุนและกวุรเธอร์ (Gwyn and Gwyrthur)
กับตัวเธอในวันซัมเฮนและเบลเทน ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นต้นกำเนิดของการดวลกันระหว่างกษัตริย์โฮลี่กับกษัตริย์โอ๊ค
(Holly King and Oak King ดูรายละเอียดในตอน เทพเคลติก : G-H-I) ซึ่งตั้งเป็นอนุสรณ์ในเทศกาลคริสต์มาส
และกลางฤดูร้อน
 
เธอขัดขืนคำของบิดา (เทพเซอร์) เพื่อแต่งงานกับบุรุษที่เธอเลือกเอง  เรื่องของเธอเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคอร์เดเลีย
ในเรื่องกษัตริย์เลียร์ของเช็คสเปียร์ (Cordelia in Shakespeare's King Lear) ในมอนเมาธ์แห่งเจฟฟรี่ย์
(Geoffrey of Monmouth) ได้บรรยายเกี่ยวกับเธอว่าเธอกลับมาอาศัยอยู่บนบกหลังจากที่บิดาของเธอตาย
เธอถูกพิจารณาให้เป็นเทพีแห่งดอกไม้ฤดูร้อน
 
ชื่ออื่นๆ : ไครเดอลาด (Creudylad) คอร์เดเลีย (Cordelia) ไครเดอลาด (Creiddylad)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Crone (Pan-Celtic)



โครน ไตรเทพี ผู้แสดงให้เห็นถึงความชราภาพหรือความตาย ฤดูหนาว จุดจบของทุกสิ่ง พระจันทร์ข้างแรม
ระดูของชีวิตผู้หญิง และการทำลายทั้งหมดที่นำไปสู่การฟื้นฟูผ่านหม้อแห่งการเกิดใหม่ของเธอ
 
อีกาและสัตว์สีดำทั้งหลายถูกสักการะแด่เธอ เหล่าสุนัขมักจะติดตามเธอและปกป้องประตูหลังโลกแห่งความตาย
พร้อมกับช่วยเธอรับคนตายผ่านประตู
 
ในตำนานเคลติก สุนัขผู้เฝ้าประตูมีชื่อว่าดอร์มาร์ธ (Dormarth หมายถึง ประตูแห่งความตาย Death's Door)
ชาวเคลท์ในไอร์แลนด์ยืนยันว่าคำสาปที่แท้จริงอาจถูกสาปโดยความช่วยเหลือของสุนัข ดังนั้นพวกเขาจึงใช้คำว่า
cainte (dog) ในกวีเสียดสีแทนคำสาปที่เป็นจริง
 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cauth Bodva

ตนเดียวกับเทพีแบด์บ (Badb)
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Cunedda (Welsh)

คูนเนดอา (ความจริงแล้วนะจะออกเสียงว่า /คูน-เหนด-อะ/ มากกว่าครับ ประหลาดมาก)
สะกดได้อีกแบบ คือ Kwnedda
 
คูนเนดอา มาจากตำนานเก่าแก่ของเวลส์ที่เล่าว่าเขาเดินทางมาถึงเวลส์พร้อมกับบุตรชาย 8 คน
ซึ่งทั้งเก้าคนก็เปรียบได้กับอาณาจักรทั้งเก้าของเวลส์ เรื่องราวของเขาตรงกับเรื่องราวของมิลลาเซี่ยน
ที่เข้ามาพิชิตไอร์แลนด์ แต่ก็ยังบอกแน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
 
เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพลังแห่ง ธาตุทั้งสาม ( triple triplicity / แต่ไม่ได้บอกครับว่าธาตุไหนบ้าง
 triplicity มีทั้งหมด 4 ธาตุพื้นฐานครับ ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือจะแบ่งเป็นทิศก็ได้นะครับ เหนือ ใต้ ออก ตก
ส่วนใหญ่ใช้ในทางดาราศาสตร์ครับ)
 

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cyhiraeth (Welsh)



เคอฮีไอห์ (Cyhiraeth เวลาอ่านจะเว้นพยางค์แบบนี้ครับ Cy-hir-aeth อ่านว่า เคอ-ฮี-ไอ๊) เดิมเป็นเทพีแห่งลำธาร
ภายหลังกลายมาเป็นแฟรี่ ผู้เป็นสัญลักษณ์ของลางบอกเหตุแห่งความตาย
 
คล้ายกับ Beansidhe ในไอร์แลนด์ และ Washer at the Ford ในคอร์นวอลล์ จะเห็นพวกเขาเหล่านี้
เมื่อใกล้จะตายแล้วเท่านั้น


 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Cymidei Cymeinfoll (Welsh)



เคอมิดไอห์ เคอไมน์วอลช์ (เวลาอ่านจริงๆนะครับ ker-mid-ai ker-mine-volch /เคอ-หมิด-ไอ๊ เคอ-ไมน์-วอลช์/)
ชื่อของเธอมีความหมายว่า 'big belly of battle' หรือ "พุงขนาดใหญ่ของการรบ"
 
เธอเป็นเทพีแห่งสงคราม เธอจะออกมาเป็นคู่กับสามีของเธอ Llasar Llaesyfnewid /ซอซาร์ ซอยเซิฟเนวิด/ เสมอ
ทั้งคู่จะจับนักรบที่ถูกฆ่าตายในสงครามโยนลงหม้อวิเศษ ซึ่งนักรบเหล่านั้นจะสามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่จะถูกลบ
ความสามารถในการพูดคุยสนทนาแบบปกติ ในภายหลังหม้อนี้ได้กลายเป็นลูกพีชและใช้เป็นข้อเสนอในการยุติสงคราม
กับไอร์แลนด์

ในเวลส์เปรียบเธอเป็น "เทพีแห่งสงครามผู้เป็นที่สุด ผู้ให้กำเนิดนักรบหนึ่งคนในทุกหกสัปดาห์"
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

God Cythrawl (Welsh)



เคอ-เธรา ในจักรวาลวิทยาของเวลส์ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ตรงข้ามกับพลังสร้างสรรค์แห่งบุรุษ ซึ่งแสดงด้านทำลายล้าง
มากกว่าสรรค์สร้าง ขณะที่สิ่งนี้เป็นผลลบอย่างมากต่อพวกไม่นับถือเพเกน (Pagan) เหล่าเพเกนได้ยอมรับพลังนี้เป็นผู้นำ
ในความว่างเปล่าและเป็นสิ่งจำเป็นที่จะดำรงอยู่ในฐานะผู้นำแห่งการสรรค์สร้าง

พลังแห่งเคอเธราถูกอุปมาว่าเป็นพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ในโลกต่าง (Otherworld) ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พลังองเขา
เป็นที่ประจักษ์ก่อนจะมาปรากฎในอาณาจักรแห่งความตาย (mortal realm)
 
(Cythrawl /เคอ-เธรา/ ในภาษาเวลส์แปลว่า ปิศาจ)
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Credit : http://www.joellessacredgrove.com/Celtic/deitiesc.html      http://www.pantheon.org/areas/mythology/europe/celtic/articles.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มีนาคม 2017, 16:11:52 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เทพในตำนานเคลติก : C
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2017, 23:00:49 »

มีความรู้เกี่ยวกับเทพเยอะมาก lowwww