-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก  (อ่าน 842 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก

มีคนเล่าไว้ว่าเมื่อเราอยู่ตัวคนเดียวในที่แคบๆ โดยไม่ทำอะไรเลยหลายๆ วันจะเกิดความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ มากมาย
เช่นสุนทรภู่แม้ถูกขังในคุกก็สามารถแต่งพระอภัยมณีจนเป็นมรดกของประเทศ  ใครว่าเข้าคุกนั้นหมดสิ้นอนาคตนั้น
ขอเถียงคอเป็นเอ็นเลย และวันนี้เราจะมี 5 บุคคลที่ทำให้โลกเปลี่ยนไปทั้งๆ ที่ตัวเขานั้นอยู่ในเรือนจำ

 
อันดับ 5 David Marshall Williams
 


เดวิด มาร์แชลล์ วิลเลียมส์  เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1900 บิดาเป็นผู้มีอาชีพทำฟาร์ม เป็นผู้มีฐานะดีผู้หนึ่ง
ในแคโรไรน่า พ่อเขาเป็นคนดี แต่เขาไม่ทำถ่านเลยสักนิด เขาไม่ชอบโรงเรียน ชอบหนีเรียน แถมชอบเที่ยวเตร่
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาชำนาญคือเขาประกอบปืนเป็น!! แถมยังประดิษฐ์ปืนด้วยตนเองเสียด้วย


พอเดวิดโตหน่อยเขาก็ทำธุรกิจผลิตสุราเถื่อน(โดนแรกมันถูกกฎหมายแต่พอรัฐบาลห้ามเขาก็เลิกไม่ได้) จนกระทั้งวันหนึ่ง
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1920 นายอำเภอท้องถิ่น พร้อมทั้งข้าราชการพากันไปล้อมโรงต้มกลั่นของเดวิดเพื่อจะจับตัวเขา
และพรรคพวกในฐานฝ่าฝืนกฎหมาย ทำให้เดวิดและพรรคพวกต้องต่อสู้กันอย่างชุลมุนวุ่นวาย ผลคือเขาทำให้เจ้าหน้าที่
คนหนึ่งตาย เขาเลยหลบหนี แต่ในที่สุดเขาก็มอบตัวและสู้คดีผลคือเขาต้องใช้ชีวิตในเรือนจำ 30 ปี

และนี้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลก...



เพราะในคุกนั้นเขาได้สิทธิพิเศษบางอย่างที่ไม่ใช้ขอกินพุดดิ้งหรือขอดูแมนยูแตะกับเซสซี หากแต่เขามีสิทธิพิเศษ
ในการประกอบปืนและออกแบบปืนได้ตามใจปรารถนา โดยเขาได้คิดค้นปืนระบบแก๊ส-ลูกสูบเนื่องจากเขาเห็นว่าปืน
ของเจ้าหน้าที่ที่ใช้อยู่นั้นไม่เหมาะในการยิงนักโทษ(ในกรณีที่นักโทษก่อความรุนแรง) เขาเป็นคนออกแบบปืนทั้งๆ
ที่อยู่ในคุก โดยปืนที่เขาคิดค้นนั้นเป็นประโยชน์ต่อวงการหลายๆอย่าง เช่นทำให้ปืนยิงเร็ว มีอนุภาพร้ายแรงขึ้น
เป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักของปืน

จนทุกวันนี้ปืนระบบแก๊ส 99.9% ใช้หลักการของ วิลเลียมส์ทั้งสิ้น
อีกทั้งทำให้สงครามปืนทันสมัยขึ้นมาก


 



อันดับ 4 William Addis
 


คุณคงไม่เชื่อว่าเรือนจำที่แสนสกปรกที่เต็มไปด้วยคราบอสุจิ เลือด และนักโทษกลิ่นตัวเหม็นนั้น จะเป็นที่กำเนิดอุปกรณ์
ทำความสะอาดอย่าง “แปรงสีฟัน” ได้ และเจ้าสิ่งนี้เองที่ทำให้มันติดในอันดับของใช้ที่โลกขาดไม่ได้ในบัดดล


ที่จริงสมัยก่อนก็มีหลายคนใช้ยาสีฟัน เช่น กิ่งไม้, ขนนก, กระดูกสัตว์, ขนเม่น แต่มันไม่จ๊าบเท่าไหร่เนอะ จนกระทั้ง
มีนักประดิษฐ์คิดค้นแปรงสีฟันคนแรกก็คือ วิลเลียม แอดดิส ชาวเมืองเคิร์กเคนวอลล์ ซึ่งเกิดทำผิดมีอันต้องเข้าไปนอนในคุก
ข้อหาใช้ความรุนแรง

ในปี 1770 ตอนนั้นผู้คนทั้งในและนอกคุกใช้วิธีแปรงฟันโดยใช้เกลือหรือเขม่ามาใส่ในเศษผ้า นำมาถู ๆ ที่ฟัน รวมถึง
นายแอดดิสด้วย เขาทำแบบนี้หลายปีจนเขามีความคิดว่าน่าจะเป็นการดีถ้ามีอุปกรณ์ที่ช่วยในการทำความสะอาดฟันดีกว่านี้
โดยเขาได้ใช้ กระดูก จากนั้นก็นำมาเจาะเป็นรูเล็ก ๆ แล้วก็ขอขนแปรงจากผู้คุมมายัดลงไปในรูแล้วติดกาว แล้วตัดขนแปรง
ให้พอเหมาะ ได้แล้วแปรงสีฟันอันแรกของโลก

และเมื่อแอดดิสออกจากคุก เขาก็เริ่มกิจการประดิษฐ์แปรงสีฟันเพื่อจำหน่ายอย่างที่หวังไว้ และก็มีขายมาจนทุกวันนี้
(เขาตายในปี 1840) ซึ่งรูปแบบและสีสันก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงและคิดค้นอีกภายหลัง 

 



อันดับ 3 Jesse Hawley


 
เจสซี่ ฮอว์ลี่ย์ เป็นพ่อค้าแป้งในกรุงเจนีวา นิวยอร์ค ถูกขังคุก แต่หารู้ไม่ว่าเขาเป็นคนต้นคิดในการสร้างคลองอีรีทั้งๆ ที่อยู่ในคุก
แล้วคลองอีรีห์นั้นมันเปลี่ยนโลกยังไง หลายคนอาจไม่รู้ว่าคลองอีรีนั้นทำให้อเมริกาเจริญจนถึงทุกวันนี้  เพราะคลองอีรีห์เป็นคลอง
ที่ถูกขุดในนิวยอร์คยาว 363 ไมล์(584 กม.) จากอัลบานี  นิวยอร์ค ในแมนฮัดสัน ไปยัง บัฟฟาโล นิวยอร์ค เริ่มขุด1817-1825
(เปิดอย่างเป็นทางการ 26 ตุลาคม 1825) มีส่วนความสำคัญมากต่อศูนย์กลางการค้าขายในทวีปอเมริกาเหนือ


สมัยก่อนนั้นอเมริกาต้องใช้การขนส่งโดยใช้เกวียนเป็นหลัก หากแต่หลังจากมีการสร้างคลองทำให้มีการขนส่งด้วยเรือเพิ่มขึ้นมา
และคลองนี้ เป็นท่าเรือเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ที่สามารถขนส่งสินค้าออกไปยังแอตแลนติกได้ ซึ่งมีผลทำให้รัฐนิวยอร์ค
และเมืองนิวยอร์คกลายเป็นเมืองที่และศูนย์กลางค้าขายของอเมริกาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังตัวจุดชนวนกระแสการลงทุน
ในเรื่องการขนส่งและการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ของสหรัฐอเมริกา



กลับมาที่เจสซี่ ฮอว์ลี่ย์ต่อ เขาถูกจำคุกในปี 1807 เนื่องจากเขามีปัญหาการขนส่งจนเป็นหนี้ ต้องติดคุก 20 เดือน ในระหว่าง
อยู่ในคุกเขาได้เขียนเรียงความเรื่องหนึ่งชื่อ “Hercules” ออกเผยแพร่ว่าน่าจะขุดคลองอีรีห์จากแม่น้ำฮัดสันเพื่อแก้ปัญหาขนส่ง
ผลงานของเขานั้นกลายเป็นผลงานที่โดดเด่นจนทำให้ผู้เกี่ยวข้องมีความคิดจะขุดคลองให้มันเป็นจริง และเรียงความของเขา
ได้รับการพิสูจน์ว่ามีอิทธิพลในการพัฒนาคลองอย่างแท้จริง 


 


อันดับ 2 Franklin Robert Stroud
 


โรเบิร์ต แฟรงคลิน(28 มกราคม 1890-21 พฤศจิกายน 1963) ก่อนที่จะนักโทษนั้น เขายังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนแถววอชิงตัน
อเมริกาที่หลงรักหญิงคาบาเร่ต์คนหนึ่ง ที่จริงทั้งสองน่าจะมีชีวิตมีความสุขตลอดกาล หากแต่น่าเศร้า เมื่อต่อมาแฟนของถูกตี
อย่างรุนแรงโดยเขา และเขาถูกพิพากษาจำคุก 12 ปี ฐานฆาตกรรม  และถูกขังในคุกอัลคาทราซด้วย


ดูๆ ไปชีวิตของเขาก็เหมือนนักโทษธรรมดาเนอะ หากแต่แปลกหน่อยตรงที่ ระหว่างที่เขาถูกจำคุกอยู่เขาได้พบรักใหม่ นั้นก็คือ “นก”



เขาเริ่มรักนก รักถึงขนาดนำเลี้ยงนกในห้องขัง ซึ่งตามกฎเรือนจำไม่ให้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์(จนเป็นเหตุย้ายไปขังในคุกอัลคาทราซ)
แต่กระนั้นเขาก็ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนกโดยบริยาย และได้เขียนหนังสือ iseases of Canaries และ Stroud's
Digest on the Diseases of Birds เกี่ยวกับพยาธิและโรคในนก ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการพัฒนาวงการสัตวแพทย์
เกี่ยวกับพยาธิวิทยา ทั้งๆ ที่แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นคนบ้า แต่กระนั้นเขามีไอคิวถึง 134

และนอกจากนี้เรื่องราวของเขายังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Birdman of Alcatraz ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจ
ภาพยนตร์แนวคนคุกจนถึงปัจจุบัน


(ไม่มีปกแต่ดูได้อยู่นะครับคลิปตัวอย่าง)

 



อันดับ 1 Miguel de Cervantes Saavedra


 
มีเกล เด เซร์บันเตสเป็นในตระกูลชนชั้นกลางในปี ค.ศ. 1547-1616ที่เมืองอัลกาลาเดเอนาเรส ประเทศสเปน เขาไม่เคย
เรียนระดับมหาวิทยาลัย เขาเป็นทหารและบาดเจ็บจนมือซ้ายของเขาพิการ แถมยังถูกเคยโจรสลัดจับในประเทศแอลจีเรียอีก 
เขาถูกขังตั้งแต่ปี 1575 จนกระทั่งกองโจรได้รับค่าไถ่ตัวและปล่อยเขาเป็นอิสระในปี ค.ศ. 1580 แต่ชีวิตของเขาก็ติดคุกอีก
เมื่อปี 1597 ในข้อหาปัญหาหนี้สิน ระหว่างที่เขาถูกขังในคุกเขาได้แต่งนิยายเรื่องดอนกิโฆเต้ขึ้น (และตีพิมพ์ส่วนแรกของเรื่อง
เมื่อปี ค.ศ. 1605)


ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la Mancha) เป็นนิยาย
ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นนิยายเสียดสีล้อเลียนนิยายอัศวิน



เนื้อเรื่องของนวนิยายเรื่องนี้ กล่าวถึงขุนนางต่ำศักดิ์ผู้สูงอายุ และไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่งแห่งแคว้นลามันช่า
ซึ่งคลั่งไคล้นิยายอัศวินมาก ถึงกับขายที่ดินจำนวนมากเพื่อหาซื้อนิยายอัศวิน ในที่สุดก็คิดไปว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
ในนิยายเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง จึงปรารถนาที่จะเป็นยอดอัศวินดังที่ปรากฏในหนังสือเหล่านั้น เขาสร้างเกราะ
และหมวกจากกระดาษแข็ง นำม้าผอมโซตัวหนึ่งมาตั้งชื่อว่าโรสินันเต้ หรือ “ม้าที่เคยทุรลักษณ์” จากนั้นจึงตั้งชื่อ
ของตนใหม่ว่า ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า และแต่งตั้งชาวนาเป็นอัศวินสำรอง "ซานโช่ ปันซ่า" ทั้งสองคน
ร่วมผจญภัยโดยต่อสู้กับศัตรูร้ายในความคิดของดอนกิโฆเต้ เช่น กังหันลมซึ่งดอนกิโฆเต้เข้าใจว่าเป็นยักษ์

แม้นิยายเรื่องนี้จะมีอายุ 400 ปีแล้วก็ตาม หากแต่หนังสือนี้ได้รับยกย่องว่าเป็นนิยายดีที่สุดที่โลกนี้เคยมีมา บ้างกล่าวว่า
ดอนกิโฆเต้ คือนิยายเรื่องแรกของโลก เป็นหนังสือที่แปลเป็นภาษาอื่น มากที่สุดในโลก รองจากไบเบิ้ล ดอนกิโฆเต้ฯ
ได้ชื่อว่าเป็นไบเบิ้ลแห่งมนุษยชาติ และเนื้อหาคงอ่านง่ายไม่ซับซ้อนเหมือนหนังสือโบราณเรื่องอื่นๆ

 
http://th.wikipedia.org/
http://www.cracked.com/article_18422_5-people-who-changed-world-from-inside-prison.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พฤษภาคม 2017, 10:14:47 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

pockyframe

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 104
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2017, 22:34:34 »

ขอบคุณมากครับ

nawin

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 98
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2017, 03:56:07 »

nawin

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 98
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2017, 03:59:01 »

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 บุคคลเปลี่ยนโลกทั้งที่พวกเขาอยู่ในคุก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2017, 22:14:43 »

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็สามารถเปลี่ยนโลกได้