-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าสุดประหลาด แห่งดินแดนหลังม่านเหล็ก Part2  (อ่าน 667 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เรื่องเล่าสุดประหลาด แห่งดินแดนหลังม่านเหล็ก
cr. พี่น้ำผึ้ง@dek-d

การตายปริศนาของนักสกีบนเทือกเขาดยัตลอฟ



ถ้าให้พูดถึงคดีปริศนาที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก ก็คงต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1959 บนเทือกเขาโคแลต สแยก
ซึ่งเป็นวันที่นักสกีหิมะจำนวน 9 คนได้ชักชวนกันไปปีนเขาก่อนจะหายไปพร้อมพายุหิมะ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “หุบเขามรณะ”


เมื่อวันที่ 26 มกราคม ซึ่งเป็นช่วง 3 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการออกค้นหานักสกีหิมะอย่างเป็นทางการได้เกิดเรื่องราวประหลาดขึ้น
เพราะเต็นท์ของบรรดานักสกีหิมะถูกทำลายจากด้านใน มีรอยเท้าออกมาจากนอกเต็นท์ก่อนจะหายไปกะทันหัน โดยที่ตรงนั้น
ไม่มีอะไรเลยนอกจากหิมะ หลังจากนั้นมีการพบศพนักสกีหิมะกลุ่มแรกอยู่ไม่ไกลจากรองเท้าเท่าไรนัก แต่ว่าอยู่ในสภาพที่
ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเหมาะแก่การปีนเขาเลยค่ะ แถมบางคนก็กึ่งเปลือยเปล่าด้วย!

หลังจากนั้น ในวันที่ 4 พฤษภาคม ก็มีการพบศพอีก 4 คนที่เหลืออยู่ในหุบเขา โดยอวัยวะภายในของทั้งหมดได้รับความเสียหาย
เหมือนเกิดอุบัติเหตุบนพาหนะความเร็วสูง มีทฤษฎีมากมายที่พยายามอธิบายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ต่างดาว การทดสอบอาวุธ
ของทหารโซเวียต ซึ่งค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะมีคนพบเห็นแสงไฟประหลาดเมื่อวันที่ 1 เมษายน

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้เราก็ยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาตาย!!






The UVB-76



ในปี 1982 กรุงมอสโก การสื่อสารแบบ UVB-76 หรืออีกชื่อว่า Buzzer เป็นรหัสลับทางการทหารของรัสเซีย
ซึ่งมันได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วยุโรป โดยรหัสลับนี้ประกอบไปด้วยตัวเลขและภาษารัสเซีย


จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน 2010 จู่ๆ Buzzer ก็ระงับการออกอากาศซะอย่างนั้น ก่อนมันจะกลับมาอีกครั้งในวันถัดมา ท
ว่าที่น่าแปลกคือมันกลับมาพร้อมเสียงประหลาดซึ่งเป็นเสียงดังและฟังดูหยุกหยิกเหมือนมีคนเดินไปรอบๆ ห้อง!!
และชายคนนั้นก็พูดรหัสตัวอักษร ชื่อรัสเซีย และตัวเลขออกมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ มีคนมากมายพยายามค้นหาว่าเสียงปริศนานี้
มีที่มาจากที่ใด และหลายๆ คนก็เชื่อว่ามาจากหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัสเซียชื่อว่า Pavarovo ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการค้นพบ
บังเกอร์ทหารเก่าด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สุดท้ายแล้วมันก็ยังคงเป็นปริศนามาถึงทุกวันนี้อยู่ดี




 
 
ผู้บุกรุกแห่งโวโรเนส



เมื่อวันที่ 27 กันยายน 1989 สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่า มีผู้คนนับพับคนรวมถึงเด็กวัยรุ่นจำนวนหนึ่งที่กำลัง
เล่นฟุตบอลอยู่พบเห็นวัตถุประหลาดรูปร่างคล้ายจานบินลอยอยู่บนท้องฟ้าแถวๆ สวนสาธารณะในเมืองโวโรเนซ จากนั้น
สิ่งมีชีวิตรูปร่างสูงก็เดินออกมาจากยานแล้วตรงเข้าหาเด็กๆ ที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนถัดมาก็มีรายงานว่าเสื้อผ้า
ของพวกเอเลี่ยนนั้นอาจทำมาจากเงินหรือหินไม่ทราบชนิด


Howard G. Chua-Eoan นักเขียนคนนึงได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า บางทีนี่อาจเป็นแค่กลยุทธ์เพื่อทดสอบนโยบายประหลาดๆ
ของรัสเซีย หรืออาจจะเป็นแค่ข่าวที่สร้างขึ้นมาเพื่อกลบข่าวว่ากิจการของรัสเซียกำลังย่ำแย่ก็ได้

นามแฝง Soviet source กล่าวกับนิตยสารไทม์ว่า
“รัสเซียมอบความฝันขยะๆ ให้กับเราเรื่องคอมมิวนิสต์มานานหลายปีกว่าเราจะรู้ว่าพวกเขาโกหก
และเรื่องนี้ (เรื่อง UFO) ก็ทำให้เราเพ้อฝันอีกครั้ง”


ตกลงว่าโอละพ่อหรือไม่ รัสเซียก็ยังไม่มีคำตอบเลย

 


ตำนานลี้ลับแห่งโรงพยาบาล Khovrino



ตำนานลี้ลับหลายเรื่องมักจะมีโลเคชั่นเป็นโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาล Khovrino แห่งรัสเซียก็เป็น 1 ในนั้น
โดยได้รับการการันตีคุณภาพจากทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ว่าเป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จที่น่ากลัวที่สุดในโลก
เนื่องมาจากเรื่องราวมากมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้กำแพงนั้น ทั้งซาตาน ความตาย รวมไปถึงตำนานเมือง


โรงพยาบาลแห่งนี้เริ่มสร้างในปี 1980 และถูกระงับการก่อสร้างในอีก 5 ปีถัดมา จากนั้นอีก 30 กว่าปี ที่ดินก็ถูกขายและตึกถูกทำลาย
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งรวมตัวของพวกซาตาน การฆ่าสัตว์บูชายัญ พวกไร้บ้านในมอสโก
อีกทั้งละแวกนั้นก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจนเป็นต้นเหตุให้เกิดตำนานเมืองอันโด่งดัง

และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Khovrino ที่สร้างมาจากเรื่องจริงนั่นเอง

 

     
ซากปรักหักพังบนอวกาศ Bosich



ในเดือนสิงหาคมปี 1979 หนังสือพิมพ์สัญชาติอังกฤษได้ตีพิมพ์เรื่องยานอวกาศจากต่างดาวที่พังลงหลังจากโคจรรอบโลก
โดยคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คือนักดาราศาสตร์ชาวโซเวียตชื่อ Sergei Boshich ที่ระบุว่า ยานนี้ได้เกิดการระเบิดเป็นส่วนๆ
และอาจจะมีซากสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวอยู่ก็ได้


โดย Boshich กล่าวว่ายานได้ระเบิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1955 แต่นักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นได้ออกมาบอกว่าเป็นเพียง
ชิ้นส่วนสะเก็ดดาว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วสะเก็ดดาวไม่มีวงโคจรหรอกค่ะ แถมการตกของชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ผิดธรรมชาติ
ดังนั้นจากการรวบรวมหลักฐานกว่า 10 ปี เขาจึงตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันคือชิ้นส่วนของยานอวกาศจากต่างดาวที่ถูกสร้างมา
ไม่สมบูรณ์นั่นเอง

เห็นได้ชัดว่ารัสเซียต้องการเปิดตัวภารกิจกู้ภัยและนำยานลงจอดเพื่อศึกษา รัฐบาลอังกฤษและอเมริกาต่างแสดงความสนใจ
ในโครงการนี้ แต่ว่ารัสเซียก็ไม่เปิดตัวซักที หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้


ข้อมูลจาก
http://uvb-76.net/
http://www.ufocasebook.com/Voronezh.html
http://www.metimeforthemind.com/the-boshich-space-wreckage-ndash-a-floating-alien-tomb-or-purposeful-disinformation.html
https://www.rt.com/news/316548-drones-videos-soviet-abandoned/
https://amnationalistcouncil.wordpress.com/2011/11/21/the-dyatlov-pass-mystery-solved/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 กันยายน 2017, 11:39:27 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่