ผู้เขียน หัวข้อ: 8 การแข่งฟุตบอลที่ผลแพ้ชนะต่างกันจนไม่อยากจะเชื่อ! (อ่าน 563 ครั้ง)

etatae333

8 การแข่งฟุตบอลที่ผลแพ้ชนะต่างกันจนไม่อยากจะเชื่อ! (149–0 ก็มีมาแล้ว)
credit พี่พิซซ่า @pizzapeach

Kuwait 20-0 Bhutan

ในการแข่งขันรอบคัดเลือก AFC Asian Cup ปี 2000 ของกรุ๊ป 5 ทีมชาติคูเวตเอาชนะทีมชาติภูฏานไป 20-0 ประตู
Bashir Abdullah เป็นผู้ยิงได้ถึง 8 ประตู แม้แต่ผู้รักษาประตูของคูเวตเองยังยิงลูกโทษทำให้ได้มาอีก 1 ประตู
ส่วนทีมภูฏานในนัดนั้นมีนักเตะได้รับใบแดงไปถึง 2 คน ทำให้เหลือผู้เล่นเพียง 9 คน นอกจากนี้ในรอบคัดเลือกของกรุ๊ปนี้
ภูฏานยังแพ้เยเมนไป 11-2 แพ้เติร์กเมนิสถานไป 8-0 และแพ้เนปาลไปอีก 3-0 ย่อยยับไปแบบที่สุดของที่สุดในปีนั้นเลย

Tahiti 30–0 Micronesia

2015 Pacific Games คือการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกของทีมนักเตะรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 23 ปีของไมโครนีเซีย
ทางสมาคมหวังว่าการเข้าร่วมการแข่งนานาชาติในครั้งนี้จะเป็นใบเบิกทางให้ทีมชาติรุ่นใหม่ของไมโครนีเซียได้ก้าวไป
มีชื่อเสียงมากขึ้น และจะทำให้ทีมชาติตัวเองได้เป็นสมาชิกของ FIFA ทว่าในนัดแรกเลยที่ต้องพบกับตาฮิติ ไมโครนีเซีย
แพ้ไป 30-0 แค่เริ่มเกมมา 2 นาทีตาฮิติก็ทำประตูแรกได้แล้ว หลังจบเกมทีมตาฮิติยังโชว์เต้นแสดงชัยชนะอีกด้วย

Australia 31–0 American Samoa

ในการแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World Cup ปี 2002 ทีมชาติออสเตรเลียทำสถิติชนะ
สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของตัวเองด้วยการเอาชนะทีมชาติอเมริกันซาเมาไป 31-0 ซึ่ง 2 วันก่อนหน้านั้นออสเตรเลีย
ก็เพิ่งเอาชนะตองก้าไป 22-0 ส่วนอเมริกันซาเมาเองก็เพิ่งแพ้ฟิจิไป 13-0 ในตอนนั้นอเมริกันซาเมาอยู่ในอันดับที่ 203
ซึ่งถือว่าเป็นอันดับต่ำสุดในบรรดาสมาชิกของ FIFA เลยในปีนั้น

ผลของการแข่งขันนัดนี้ทำให้มีการถกกันเรื่องเกณฑ์ต่างๆ ในรอบคัดเลือก ทำให้ในการแข่งฟุตบอลโลกครั้งถัดมาในปี 2006
FIFA จัดการแข่งรอบคัดเลือกโซนโอเชียเนียให้ประเทศหมู่เกาะต่างๆ 10 ประเทศต้องแข่งกันในรอบแรก เพื่อหาทีม
ที่ได้คะแนนสูงสุด 4 ทีมเข้าไปแข่งกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ลอยลำเข้าไปรอในรอบที่ 2 อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังทำให้
ทีมชาติออสเตรเลียได้ไปขึ้นกับสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา

Arbroath 36–0 Bon Accord

ในการแข่งขันรอบแรกเพื่อชิงถ้วย Scottish Cup ปี 1885-86 ของประเทศสก็อตแลนด์ Arbroath F.C. สโมสรฟุตบอล
ที่แม้จะเปิดมาเพียง 7 ปีต้องเจอกับ Bon Accord F.C. สโมสรที่เพิ่งเปิดมาได้แค่ปีเดียว ช่วงครึ่งแรกทีม Arbroath
ทำไป 15 ประตู และทำได้อีก 21 ประตูในครึ่งหลัง และผลการแข่งขันครั้งนี้ก็ถือเป็นผลชนะที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ของการแข่งขันฟุตบอลอาชีพรุ่นใหญ่มาอีกหลายปี จนถูกทำลายสถิติลงในปี 2002

Fiji 38-0 Micronesia

ย้อนไปที่การแข่งขัน 2015 Pacific Games ที่ไมโครนีเซียแพ้ตาฮิติไป 30-0 ผลการแข่งขันครั้งนี้ ก็มาจากการแข่งขัน
รายการนั้นเช่นกัน ในนัดที่ 2 ของไมโครนีเซีย พวกเขาต้องเจอกับฟิจิ และแพ้ไป 38 ประตู เจ็บปวดยิ่งกว่านัดแรกอีก
หลังทีมฟิจิทำได้ 21 ประตูรัวๆ ในครึ่งแรก ไมโครนีเซียก็เปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูให้ผู้เล่นตำแหน่งมิดฟีลด์คนหนึ่งมาเป็นโกลแทน
ในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นค่ะเพราะฟิจิก็ทำได้อีก 17 ประตูในครึ่งหลังอยู่ดี

Vanuatu 46–0 Micronesia

เรายังคงอยู่กับทีมชาติหน้าใหม่ของไมโครนีเซีย ในการแข่งขัน 2015 Pacific Games นัดนี้ถือเป็นนัดสุดท้ายของไมโครนีเซีย
ในการแข่งขันนี้ และเป็นนัดที่เจ็บปวดที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะแพ้ประเทศวานูอาตูไปถึง 46 ประตู ทั้งๆ ที่ตอนนั้นวานูอาตูเองก็
ไม่ใช่ทีมฝีมือเยี่ยมเลย อยู่อันดับ 200 ของโลกเลยก็ว่าได้ แต่แค่ครึ่งแรกวานูอาตูก็ทำไปได้ถึง 24 ประตูแบบชิลๆ เท่ากับว่า
ไมโครนีเซียเสียประตูไปรวม 114 ประตูในการแข่งขัน แต่ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างเมื่อทางผู้จัด Pacific Games ยังให้เกียรติเชิญ
ทีมไมโครนีเซียเข้าแข่งครั้งหน้าในปี 2019 อยู่ แต่ถึงตอนนี้ทีมไมโครนีเซียยังไม่ได้รับการรับรองจาก FIFA อยู่ดีนั้นแหละ

การแข่งขันของ 4 สโมสรในไนจีเรียที่ทำได้ 79-0 และ 67-0

ข้อนี้ต้องถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่ไม่เป็นที่น่ายอมรับซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นคะแนนที่มาจากการทำผิดกฎในการแข่งขัน
ภายในประเทศปี 2013 สโมสร Plateau United Feeders เอาชนะสโมสร Akurba FC ไป 79-0 โดยยิงเข้ารัวๆ
ถึง 72 ประตูในครึ่งหลัง หลังจากทำได้เพียง 7 ประตูในครึ่งแรก ส่วนอีกคู่หนึ่ง สโมสร Police Machine เอาชนะสโมสร
Babayaro FC ไป 67-0 โดยยิงรัวๆ ไป 61 ประตูในครึ่งหลังเช่นเดียวกัน เหมือนทีมที่แพ้ทั้ง 2 ทีมจงใจปล่อยให้
ลูกเข้าประตูไปในช่วงครึ่งหลัง

สมาคมฟุตบอลของไนจีเรียเห็นความน่าสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีการฮั้วกันใน 4 สโมสรนี้เพื่อส่งให้ 2 สโมสร
ที่ชนะได้มีชื่อเสียงและมีอันดับที่ดีขึ้น จึงสั่งแบนทั้ง 4 สโมสรจากการลงแข่งขัน 10 ปี และแบนผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันทั้ง 2 นัดนี้แบบตลอดชีวิต

AS Adema 149–0 SO l'Emyrne

แหละนี่คือ...!!! การแข่งขันฟุตบอลอาชีพที่มีผลต่างของคะแนนชนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์

การแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลแห่งชาติของประเทศมาดากัสการ์ในปี 2002 ในรอบเพลย์ออฟแบบเจอกันหมดทุกทีม
ของ 4 ทีม เมื่อถึงนัดที่สโมสร AS Adema ต้องเจอกับสโมสร SO l'Emyrne ที่ถือว่าเป็นทีมคู่ปรับสำคัญของกันและกัน
มานานแรมปี ทีม SO l'Emyrne กลับจงใจยิงเข้าประตูฝ่ายตัวเองรัวๆ ไป 149 ลูก เรียกว่าทีม AS Adema ชนะ
ถล่มทลายแบบที่ แทบไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอลเลยด้วยซ้ำ ได้แต่ยืนมองแบบงงๆ ขำๆ ที่ SO l'Emyrne ยิงเข้าประตูฝ่ายตัวเอง
คนดูเองก็โวยวายขอค่าตั๋วคืนแทบทั้งสนามเช่นกัน

ส่วนสาเหตุที่ SO l'Emyrne ทำแบบนี้ก็เพราะต้องการประท้วงกรรมการจากนัดก่อนๆ ที่เจอกับ 2 ทีมอื่น แล้วเหมือ
นกรรมการไม่แฟร์กับ SO l'Emyrne แถมยังเหมือนตั้งใจวางตัวผู้ชนะให้เป็น AS Adema อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนแข่งกับ
SO l'Emyrne โค้ชของ SO l'Emyrne จึงบอกให้ผู้เล่นยิงเข้าประตูตัวเองแบบเอาที่สบายใจไปเลย

หลังจบการแข่งขันสมาพันธ์ฟุตบอลมาดากัสการ์สั่งแบนโค้ชของ SO l'Emyrne เป็นเวลา 3 ปี และแบนผู้เล่นในทีม 4 คน
(ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกัปตันทีมชาติมาดากัสการ์ด้วย) จนกว่าจะจบฤดูกาล และห้ามเข้ามาเหยียบในสนามกีฬาทั่วประเทศ
จนกว่าจะจบฤดูกาลเช่นเดียวกัน ส่วนผู้เล่นที่เหลือของทั้งทีม SO l'Emyrne และ AS Adema ได้รับใบเตือนว่า
ถ้าทำอะไรมากกว่านี้อีกจะโดนไม่ใช่น้อย (ส่วนผู้ตัดสินในเกมไม่โดนลงโทษใดๆ)

ถ้าไม่พูดถึงผลการแข่งขันที่โกงกันหรือจงใจแพ้เพื่อประชด ก็รู้สึกสงสารทีมที่เล่นเต็มที่แล้วแต่แพ้ไปอย่างยับเยินจริง
แต่ก็ไม่แน่ บางทีในการแข่ง Pacific Games ปี 2019 ทีมไมโครนีเซียอาจจะทำประตูได้บ้างก็ได้นะ รอเอาใจช่วยกัน