-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตอมตะของนิโคลัส เฟลมเมล ตำนานเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์  (อ่าน 2218 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18202
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

ชีวิตอมตะของนิโคลัส เฟลมเมล ตำนานเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์



นิโคลัส เฟลมเมล ชื่อนี้เพื่อนๆ พอจะคุ้นกันบ้างรึเปล่า? ใช่แล้วคะ นิโคลัส เฟลมเมล ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง
ฟังดูแล้วเขาเป็นคนสำคัญในประวัติศาสตร์ไม่น้อยทีเดียว วันนี้ทีนเอ็มไทยจึงนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับชายผู้นี้ว่า เขาคือใคร ตำนาน
เรื่องราวของเขาที่เล่าขานต่อกันมาจะเป็นยังไง มาฝากเพื่อนๆ กันคะ ตามมาดูกันเลย ^^ ชีวิตอมตะของนิโคลัส เฟลมเมล
ตำนานเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์


นิโคลัส เฟลมเมล ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Sorcerer’s Stone)
ศิลาอาถรรพ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชายที่ชื่อนิโคลัส เฟลมเมล,  Davinci Code ก็มีการเอ่ยถึงนิโคลัส เฟลมเมลว่าเป็น
Grand Master of the Priory of Sion (ประมุขของไพรเออรี่ออฟไซออน), เรื่อง Indiana Jone’s ก็มีเรื่องของนิโคลัส เฟลมเมล
ด้วยเช่นกัน ในตอน Indiana Jones and the Philosopher’s Stone อีกทั้งล่าสุดในภาพยนตร์  “As above, So below”
ที่เข้าฉายในบ้านเรา เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งต้องการสืบหาความจริงในประวัติศาสตร์มีเรื่องของ นิโคลัส เฟลมเมล กับชีวิตอมตะ



ว่ากันว่า นิโคลัส เฟลมเมล (Nicolas Flamel) ชาวฝรั่งเศสมีชื่อเสียงในฐานะเป็น “นักเล่นแร่แปรธาตุ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด”
จากผลงานของเขา “ศิลานักปราชญ์” หรือที่หลายคนๆ เรียกกันในชื่อ หินอาถรรพ์ ที่ทำให้เป็นอมตะ ซึ่งเรื่องราวของเขาปรากฏ
ในศตวรรษที่ 16

นิโคลัส เฟลมเมล (Nicolas Flamel; 28 กันยายน ค.ศ. 1330 – ค.ศ. 1418)



ตามตำนานเรื่องเล่ากว่าสองร้อยปี เกี่ยวกับ นิโคลัส เฟลมเมล เขาเป็นอาลักษณ์และผู้ขายเอกสารตัวเขียนชาวฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จ
มีชื่อเสียงหลังเสียชีวิตแล้วว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ จากงานอันมีชื่อเสียงของเขาในศิลานักปราชญ์ เซึ่งขาได้เรียนรู้ เคล็ดลับ เล่นแร่แปรธาตุ
จากชาวยิวคนหนึ่งชื่อ converso


– นิโคลัส เฟลมเมล อาศัยอยู่ในกรุงปารีสในศตวรรษที่ 14-15

– เขาขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ เกี่ยยวกับการเล่นแร่แปรธาตุในยุคกลาง

– นิโคลัส เฟลมเมล แต่งงานกับ เพอรีเนล (Perenelle) ในปี 1368 ทั้งคู่ร่ำรวย เป็นเจ้าของอสังหาฯ มีทรัพย์สินมากมาย
และนำเงินบางส่วนไปสร้างโบสถ์ สร้างงานประติมากรรมต่างๆ ขึ้นด้วย ทำให้หลายคนสงสัยถึงความร่ำรวยและความใจบุญของทั้งคู่

– เขาเคยทำงานอาชีพต่าง ๆ มาก่อน เช่น กวี จิตรกร นักเขียน ก่อนที่จะมาศึกษาดาราศาสตร์อย่างจริงจัง

– มีหลักฐานว่าแฟลมเมล อาศัยอยู่ในช่วงยุค 80 ในปี 1410 แฟลมเมลได้ออกแบบหลุมฝังศพของเขาเอง ซึ่งได้รับการแกะสลัก
โดยพระคริสต์ เซนต์ปีเตอร์และเซนต์พอล หลุมฝังศพเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส มีบันทึกแสดงให้เห็นว่าแฟลมเมล
เสียชีวิตในปี 1418 หลังจากเพอรีเนลภรรยาของเขาเสียชีวิตไม่นานนัก



เขาได้สร้างบ้านหลายหลังให้กับผู้ที่ยากจน หนึ่งในนั้นยังคงอยู่ และกลายมาเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส ถูกใช้เป็นสถานที่ที่ผู้คน
สามารถรับประทานอาหารฟรีได้ และสามารถอยู่ค้างคืนได้หนึ่งคืน โดยที่พวกเขาต้องแลกเปลี่ยนกับการสวดมนต์ เพื่อดวงวิญญาณ
ของนิโคลัส แฟลมเมล

มันเด็ดตรงนี้! ในคืนหนึ่ง เฟลมเมลได้ฝันว่าเขาจะได้รับหนังสือเล่มหนึ่งเป็นหนังสือที่เขาสามารถเข้าใจมันได้มากที่สุด ในขณะที่
คนอื่นไม่สามารถเข้าใจมันได้ เขาจะได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น วันรุ่งขึ้น เฟลมเมลได้กับพบหนังสือเล่มนั้น และเขาได้ซื้อมันมา
เฟลมเมลได้เดินทางไปหาผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้ออก เฟลมเมลได้พบกับนักปราชญ์คนหนึ่งที่สามารถอ่านออกข้อความในหนังสือ
เป็นภาษา ฮิบรู ความลับของการเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองนั้นจำเป็นต้องใช้ส่วนผสมของ ศิลาอาถรรพ์ และในที่สุดเขาก็ค้นพบ
สสารลึกลับนี้




เฟลมเมลได้บันทึกไว้ และบอกว่า ศิลาอาถรรพ์มีกลิ่นรุนแรงมาก นักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นๆ เชื่อว่ามันคือ กำมะถัน แต่ไม่มีใครรู้วิธี
แปรธาตุของมัน ต่อมาหลังจากที่เฟลมเมลเสียชีวิตในปี 1410  บรรดาลูกศิษย์ของเฟลมเมลเชื่อว่า เขาไม่เพียงแต่จะสามารถแปรธาตุ
อื่นให้กลายเป็นทองคำได้เพียงอย่างเดียวแต่เขายัง สามารถปรุงน้ำที่เป็นอมฤตได้ ด้วยซึ่งสามารถเป็นยาชุบชีวิตให้เป็นอมตะได้

หลายร้อยปีต่อมาเรื่องของ แฟลมเมล และหนังสือของเขาได้ถูกผู้คนพูดถึงกัน และได้มีผู้คนไปขุดหลุมศพของแฟลมเมล ที่น่าแปลกใจ
ก็คือพวกเขาพบแต่ความว่างเปล่าหรือว่า นิโคลัส แฟลมเมล จะสามารถที่จะสร้างหินแปรธาตุได้จริงหรือ เขาค้นพบความเป็นอมตะ
ได้จริงหรือเปล่า


ชองค์ดูเบียส เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุยุคใหม่ ที่ศึกษาเรื่องราวของนิโคลัส แฟลมแมล มาเป็นเวลา 50 ปี หลังจากหลายปีที่ลอง
ทดลอง ดูเบียส ก็เชื่อว่า นิโคลัส แฟลมเมล สามารถค้นพบความลับที่แท้จริงของก้อนหิน การเล่นแร่แปรธาตุนี้ถูกเข้าใจผิดมันไม่ใช่
การเปลี่ยนโลหะให้กลายเป็นทอง แต่ที่จริงแล้ว การเล่นแร่แปรธาตุคือการหาตัวตนที่แท้จริง ของตัวเองตั้งหาก

ตามการนำสู่ผลงานของเขาและรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพิ่มขึ้นนับแต่การตีพิมพ์ เฟลมเมลเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุชาวยุโรปที่ประสบ
ความสำเรจที่สุด การกล่าวยืนยันสมัยใหม่ว่า การอ้างถึงเขาและงานเขียนของเขาปรากฏในตำราเล่นแร่แปรธาตุในคริสต์ศตวรรษที่ 16
อย่างไรก็ดี ไม่ได้เชื่อมโยงกับแหล่งไหนเป็นพิเศษ แก่นชื่อเสียงของเขาคือ เขาประสบความสำเร็จในเป้าหมายเวทมนตร์สองประการ
ของการเล่นแร่แปรธาตุ คือ เขาสามารถประดิษฐ์ศิลานักปราชญ์ ซึ่งเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทอง และว่าเขากับภรรยา เพอรีแนล บรรลุ
ความเป็นอมตะโดยการดื่มยาอายุวัฒนะ


ชีวิตอมตะของนิโคลัส เฟลมเมล ตำนานเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์

เป็นปฐมบทของวิชาเคมีในปัจจุบันทีเดียว เรียกว่ากำเนิดจากไสยศาสตร์มาเป็นรากฐานวิทยาศาสตร์(ชั้นสูง) ในยุคสมัยเก่า การเล่นแร่
แปรธาตุหรือ รสายนเวท เป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ ที่จะมีเรื่องของศาสนาและจิตวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  ศาสตร์นี้ได้รับการ
กล่าวถึงตั้งแต่สมัยกรีกโบราณโดยอริสโตเติล ซึ่งวางรากฐานจำนวนมากของศาสตร์นี้


นักเล่นแร่แปรธาตุเชื่อว่า ทุกอย่างในโลกประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ หากเปลี่ยนแปลงปริมาณของสี่ธาตุในวัตถุหนึ่งได้แล้ว
ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงวัตถุนั้นได้ (เช่น เปลี่ยนตะกั่วเป็นทองคำ)

สิ่งที่นักเล่นแร่แปรธาตุต้องการค้นพบ คือ อลิเซีย วิตา หรือยาอายุวัฒนะที่จะช่วยให้มีอายุยืนนาน และ ศิลานักปราชญ์ ซึ่งจะเปลี่ยน
สสารใดๆให้กลายเป็นทองคำได้ รวมถึงการสร้างมนุษย์เทียมในหลอดแก้ว การเล่นแร่แปรธาตุแม้จะล้มเหลวแต่ก็เป็นรากฐานสำคัญ
ให้วิทยาศาตร์หลายสาขาในกาลปัจจุบัน


ธาตุที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ

1.ศิลานักปราชญ์



เป็นสสารทางการเล่นแร่แปรธาตุอันเป็นตำนานซึ่งกล่าวกันว่าสามารถเปลี่ยนโลหะฐาน (เช่น ตะกั่ว) ให้เป็นทองคำหรือเงินได้ นอกจากนี้
บางครั้งยังเชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะด้วย มีประโยชน์ทำให้กลับเป็นวัยหนุ่มสาว (rejuvenation) และอาจถึงขั้นบรรลุความเป็นอมตะ
เป็นเวลาหลายศตวรรษ ที่มันเป็นเป้าหมายการแสวงหามากที่สุดในการเล่นแร่แปรธาตุตะวันตก ศิลานักปราชญ์เป็นสัญลักษณ์ใจกลาง
ของการเล่นแร่แปรธาตุ โดยเป็นสัญลักษณ์แสดงความสมบูรณ์แบบที่ความดีเลิศที่สุด การเห็นแจ้งและความสุขสำราญปานสวรรค์
(ในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู จินดามณีเป็นวัตถุที่เทียบเท่ากับศิลานักปราชญ์)

เชื่อกันว่าศิลานักปราชญ์มีคุณสมบัติทางเวทมนตร์หลายอย่าง คุณสมบัติที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวางที่สุด คือ ความสามารถในการเปลี่ยน
โลหะฐานให้เป็นทองคำหรือเงิน และความสามารถในการรักษาความเจ็บป่วยทุกประเภท และการต่อชีวิตให้ยืนยาวของผู้ใดที่บริโภค
ศิลานักปราชญ์ส่วนหนึ่ง คุณสมบัติอื่นที่กล่าวถึงได้แก่ การสร้างตะเกียงที่ลุกไหม้ชั่วกัลปาวสาน การเปลี่ยนผลึกธรรมดาให้เป็นอัญมณี
มีค่าและเพชร ชุบชีวิตพืชที่ตายแล้ว การสร้างแก้วที่ยืดหยุ่นหรือนำมาตีเป็นแผ่นได้ หรือการสร้างโคลนหรือโกเลม




คำบรรยายลักษณะของศิลานักปราชญ์นั้นมีมากหลากหลาย ตามตำราเล่นแร่แปรธาตุ ศิลานักปราชญ์มีสองประเภท ซึ่งเตรียมได้โดยวิธีการ
เกือบเหมือนกัน คือ สีขาว (สำหรับทำเงิน) และสีแดง (สำหรับทำทอง) ศิลาสีขาวเป็นรุ่นที่เสร็จสมบูรณ์น้อยกว่าศิลาสีแดง ตำราเล่นแร่แปรธาตุ
โบราณและสมัยกลางบางเล่มทิ้งคำใบ้ถึงรูปลักษณ์ทางการภาพที่ควรเป็นของศิลานักปราชญ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลาสีแดง ศิลานักปราชญ์
มักกล่าวขานกันบ่อยครั้งว่า จะมีสีส้ม (สีหญ้าฝรั่น) หรือแดงเมื่อบดให้เป็นผง หรือในรูปของแข็ง สีกลางระหว่างแดงกับม่วงแดง โปร่งใส
คล้ายแก้ว เชื่อกันว่าศิลานักปราชญ์นั้นหนักกว่าทอง และเชื่อกันว่าละลายได้ในของเหลวทุกชนิด แต่ไม่เผาไหม้กับไฟ นักประพันธ์เล่นแร่
แปรธาตุบางครั้งเสนอว่า การบ่งชี้ของศิลานั้นเป็นการอุปมา แม้ถูกเรียกว่าศิลา แต่มิใช่เพราะมันดูเหมือนศิลา



2.ยาแก้สรรพโรค หรือ panchrest



เป็นยาที่เชื่อกันว่าจะสามารถรักษาโรคภัยทั้งปวงได้ และยืดอายุของผู้รับประทานออกไปอย่างไม่รู้จบ ชื่อในภาษาอังกฤษ “panacea”
มาจากชื่อของเทพีแพเนเซีย เจ้าแห่งการบำบัดรักษาในเทพปรกณัมกรีก ยาแก้สรรพโรคนี้เคยเป็นที่ต้องการและควานค้นหาอย่างบ้าคลั่ง
ของลัทธิรสายนเวทอยู่พักใหญ่ และมีความเกี่ยวโยงกับความเชื่อเรื่องน้ำอมฤต และศิลาอาถรรพณ์อันเป็นวัตถุที่เชื่อกันว่าสามารถ
ใช้แปรธาตุสามัญให้กลายเป็นทองคำได้

ในบางแขนงของแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เช่น เคมี ชีวโมเลกุล ชีวเคมี ชีวฟิสิกส์ พันธุศาสตร์ และวิทยาภูมิคุ้มกัน ยังมีการค้นหา
อย่างต่อเนื่องซึ่งยาแก้สรรพโรคและน้ำอมฤต ปัจจุบันดูเหมือนว่ากำลังเพ่งเล็งไปยังเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน บทบาทของยีนส์ กับทั้งความสัมพันธ์
กันระหว่างกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม โดยมีความต้องการของมนุษย์ที่จะสามารถ “แก้สรรพโรค” และหยุดกระบวนการแก่เจ็บตายเป็น
แรงขับเคลื่อนอันแรงกล้า




คำว่า “ยาแก้สรรพโรค” เป็นศัพท์ทางวิชาการ แต่ในภาษาไทยก็มีคำพ้องความหมายอยู่หลายคำ เช่น ยาระงับสรรพโรค, ยาอายุวัฒนะ,
ยาครอบจักรวาล ฯลฯ

บ้านถิ่นเก่าของ นิโคลัส เฟลมเมล มีการสลักคำไว้ที่ฝาผนัง
อีกทั้งบ้านในแทบนี้ยังเป้นที่พักของผู้ยากจนที่เฟลมเมล ช่วยเหลือ


เขาได้สร้างบ้านหลายหลังให้กับผู้ที่ยากจน หนึ่งในนั้นยังคงอยู่ และกลายมาเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส ถูกใช้เป็นสถานที่ที่ผู้คน
สามารถรับประทานอาหารฟรีได้ และสามารถอยู่ค้างคืนได้หนึ่งคืน โดยที่พวกเขาต้องแลกเปลี่ยนกับการสวดมนต์ เพื่อดวงวิญญาณ
ของนิโคลัส แฟลมเมล


credit :: teen.mthai.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ตุลาคม 2015, 15:33:58 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่