-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Chicago Tylenol murders เมื่อไทลีนอลกลายเป็นยาพิษ  (อ่าน 1472 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18221
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

Chicago Tylenol murders เมื่อไทลีนอลกลายเป็นยาพิษ



มันเป็นฆาตกรที่ไม่ระบุเจาะจง
 
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นบริษัทระดับโลก ที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตการผลิตยา อุปกรณ์การแพทย์ และสินค้า
เกี่ยวกับสุขอนามัยต่างๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 1885  โดยโรเบิรต์ วูด จอห์นสัน ที่ชักชวนเหล่าน้องชายตระกูลจอห์นสัน
มาตั้งบริษัททำอุปกรณ์การแพทย์ที่ปราศจากเชื้อ หลังจากนั้นก็มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับทางการแพทย์ขึ้นมาเรื่อยๆ
พร้อมกับชื่อเสียงบริษัทที่เริ่มมีมากเป็นทวีคูณ

ต่อมาจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันก็ได้เข็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ไทลีนอล ซึ่งเป็นแบรนด์ยาที่มีคุณสมบัติ ลด ไข้ บรรเทาปวด
แก้โรคภูมิแพ้ หวัดไอ โดยทางบริษัทได้ปรับปรุงตัวยาจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในรักษาที่มีความสามารถในการแตกตัว
ดูดซึมได้เร็วกว่ายายี่ห้ออื่นๆ  นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทำให้คนที่แพ้แอสไพรินกินแล้วไม่เกิดอาการแพ้อีก 
คุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าว บวกกับคุณภาพกับความน่าเชื่อถือ ส่งผลทำให้ไทลีนอลกลายเป็นยี่ห้อครองใจของชาวอเมริกัน
ในหลายๆคนอย่างยาวนาน ด้วยส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 37% ในตลาดของยาแก้ปวด และไทลินอลถือถูกขนามนามว่า
เป็นยาแก้ปวดยี่ห้อที่ดีสุดในเวลานั้น

หลังจากยอดขายยาแก้ปวดยี่ห้อไทลีนอลขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเจ้าของยี่ห้อไทลีนอล
ก็ได้เข็นสินค้าใหม่ ชื่อ Extra Strength Tylenol เป็นยาแก้ปวดชนิดแคปซูลสีแดงขาว ใส่ในขวด บรรจุในกล่องสีแดง
ที่เบาะบางง่ายต่อการแกะ มันก็ถูกนำมาวางตลาดขายทั่วประเทศ ด้วยรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่ดูทันสมัยและสวยงาม
ส่งผลทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ชนิดทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น
 
   
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน


 
ในช่วงฤดูใบไม่ร่วงของปี 1982 มีเหตุการณ์ที่สั่นคลอนต่อประชาชนทั้งประเทศ เมื่อมีการพบคนตายทั้งหมด 7 คน
ทางฝั่งตะวันตกของชิคาโก โดยสาเหตุการตายของแต่ละคนระบุว่าเกิดจากการทานยาแก้ปวดประเภทแคปซูลของ
ไทลีนอลที่มีส่วนผสมเจือโพแทสเซียมไซยาไนด์ยาพิษชนิดร้ายแรงที่กินแล้วตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อมาจึงสืบรู้ได้ว่า
เกิดจากการกลั่นแกล้งของผู้ประสงค์ร้าย มันเป็นการฆ่าแบบสุ่ม มันไม่มีเป้าหมาย สิ่งที่มันทำทั้งหมดก็เพื่อที่จะนั่งลง
ดูโทรทัศน์และรอดูข่าวที่เป็นผลงานตนจะออกเป็นข่าว จากมันก็หัวเราะชอบใจในผลงานที่ทำ

นอกจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบไทลีนอลเจือยาพิษแล้ว อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบดหตุการณ์นี้นี้ไม่แพ้กัน
ก็คือบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันที่สูญเสียเงินไปอย่างมหาศาล พวกเขาต้องสั่งเก็บขวดยาเม็ดไทลีนอลออกจาก
ท้องตลาดถึง 31,000,000 ขวด และต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่จะสามารถกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาเหมือนเดิม

ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ฝ่ายก็ไม่ได้อยู่เฉย พวกเขาพยายามสืบสวนว่าใครเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง
แต่คดีนี้แทบไม่มีเบาะแสตามรอยคนร้ายเลย และไม่รู้ว่าคนร้ายทำไปเพื่ออะไร และปัจจุบันคดีนี้ยังคงเป็นคดีปริศนา
ที่ยังไขไม่ออกอีกคดีหนึ่งในแฟ้มอาชญากรรมของประเทศสหรัฐอเมริกา
 
   
ไทลีนอล  (Tylenol)
 
การสังหารหมู่ในชิคาโกด้วยไทลีนอล นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกตามมาอีกมากมาย เช่น นักวางยาพิษไทลีนอล
ฆาตกรต่อเนื่องไทลีนอล  เป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เกิดขึ้นใน มลรัฐอิลลินอยส์ นครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์เริ่มช่วงฤดูใบไม้ร่วง 29 กันยายน ถึง เดือนตุลาคม ค.ศ. 1982  เมื่อมีผู้เจือสารพิษโพแทสเซียมไซยาไนด์
ลงในแคปซูสแก้ปวดระดับทำให้คนกินได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 7 รายในพื้นที่เดียวกัน
ในแถบทางเหนือของชิคาโก หลังจากรับประทานยาไทลีนอลดังกล่าวไป


ในเวลาต่อมาสำนักงานเอฟบีไอได้เข้าร่วมในการสืบสวนในคดีนี้และขนานนามคดีนี้ว่า การวางยาไทลีนอล โดยมีชื่อรหัส
คดีว่า TYMURS ยังมีการสืบสวนสอบสวนจนถึงปัจจุบันแต่คดีก็ยังไม่ได้ข้อสรุปจนบัดนี้ แม้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
จะเสนอเงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์ให้กับใครก็ตามที่แจ้งเบาะแสในการจับฆาตกรในคดีนี้ก็ตาม แต่กระนั้นเหตุการณ์
นี้ได้ส่งผลให้มีการปฏิรูปขนานใหญ่ในการบรรจุเภสัชภัณฑ์และกฎหมายป้องกันการยืมมือฆ่าคน
 
   
แมรี่ เคลเบอร์แมนเหยือรายแรกของคดีไทลีนอล


 
เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อ วันพุธ วันที่ 29 กันยายน ปี 1982 เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อแมรี่ เคลเบอร์แมน อายุ 12 ปี
จากเอลโกรฟวิลเลจ ตื่นขึ้นมาตอนเช้า แล้วพบว่าตัวเองกำลังไม่สบาย เจ็บคอและมีน้ำมูก เลยไปหาพ่อแม่ที่ห้อง
พ่อแม่ของเธอเลยจัดยาไทลินอลแคปซูลให้เธอกิน 1 เม็ด จากนั้น 7:00 น. พ่อแม่ของแมรี่ก็เดินมาหาและพบว่า
ลูกตัวเองหมดสติอยู่บนพื้นกลางห้องน้ำ พวกเขารีบส่งเธอไปโรงพยาบาล และเธอก็ตายในเวลาต่อมา ตอนแรก
แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โดยหารู้ไม่ว่าเธอคือเหยื่อรายแรกของฆาตกรที่หลายคนให้ฉายาว่า
ไทลีนอล คิลเลอร์


   ในวันเดียวกันนายอาดัม จานิส คนงานไปรษณีย์ ในเมืองอาร์ลิงตันไฮทส์   กินยาแก้ปวดระดับแรงพิเศษไทลีนอล
จนเป็นลมหมดสติล้มนอนลงกับพื้น หายใจลำบาก ตอนแรกคิดว่าเขาคงเป็นความดันโลหิตต่ำ พวกเพื่อนๆ
รีบส่งตัวเขาเขาไปรักษาตัวในโรงพยาบาลท้องถิ่นทันที แต่ก็สายเกินแก้ เขาตายหลังจากนั้น ซึ่งตอนแรก
หมอวินิจฉัยว่าเขาน่าจะตายตามธรรมชาติ
 
   
งานศพของอาดัม จานิส


 
ในทันทีที่อาดัมตาย ครอบครัวของอดัมเกือบทั้งหมดได้มาร่วมงานศพไว้ทุกข์แก่อดัม การไว้ทุกข์ผ่านไปด้วยดี
หากแต่น้องชายของอาดัมที่ชื่อสแตนลีย์ จานิส อายุ 24 ปี ที่มาจากไลล์ ดู และแฟนสแตนลีย์ จานิส  อายุ 19 ปี
เกิดปวดศีรษะเพราะความตึงเครียดที่สูญเสียสมาชิกครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทา สแตนลีย์จึงใช้ยาไทลีนอล
จากขวดเดียวกับที่อาดัมใช้ทานก่อนตาย  เขาทานหนึ่งเม็ดและส่งต่อให้แฟนของเขาทาน ในเวลาไม่น่านสแตนลีย์
และแฟนของเขาก็พับลงไปกับพื้น คนร่วมงานตกใจกับภาพที่เห็นและเรียกรถพยาบาลในทันที หากสายไปแล้ว
ในการช่วยสองหนุ่มสาวคู่นี้ สแตนลีย์ตายในทันที ส่วนแฟนของสแตนลีย์ เธอยังไม่ตายทันที แต่ก็ต้องทนทุกข์ทรมาน
และตายในอีกสองวันต่อมา ทำให้หลายฝ่ายเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการตายของบุคคลในครอบครัวจานิสในเวลาไล่เลี่ยงกัน
จึงนำเอาตัวอย่างเลือดเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบก็พบว่าทั้งสามล้วนเสียชีวิตเพราะฤทธิ์ไซยาไนด์

และต่อมาในวันเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ติดกันถึง 3 ราย  แมรี่  ฟาแลนคุณแม่อายุ 27 ปี จากเมืองเอ็มเฮิร์สท์ เขตดูเพจ 
รัฐอิลลินอยส์ เกิดล้มลงเสียชีวิตหลังจากกินยาไทลีนอลในคืนหลังคลอดลูกของเธอ พอลล่า พรินซ์  พนักงานต้อนรับ
สายการบินอายุ 35 ปีพบนอนตายเสียชีวิตอพาร์ทเม้นท์เมืองชิคาโก และแมรี่ เรนเนอร์ อายุ 35 ปีจากวินฟีลด์ อิลลินอยส์
ทั้งหมดตายในลักษณะคล้ายคลึงกันคือกินยาแก้ปวดแคปซูสและตายอย่างฉับพลัน

จากการสอบสวนพบว่าสาเหตุจากการตายทั้งหมด 7 รายล้วนเชื่อมโยงมาจากยาพิษไซยาไนด์ที่เจือปนอยู่ในไทลีนอล
เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของผู้ประสงค์ร้าย โดยเอากล่องไทลีนอลมาแกะแคปซูสผสมไซยาไนด์ลงไปก่อนที่จะปิดแคปซูล 
ปิดกล่องแล้ววางกลับไปใหม่ในชั้นวางสินค้า โดยมันเลือกวางที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งและร้านขายยาชื่อดัง


ข่าวของเหตุการณ์ไทลีนอล คิลเลอร์ นี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และก่อให้เกิดความตื่นตระหนกทั่วประเทศ
รัฐบาลออกมาประกาศเตือนทางวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์กระจายภาพเพื่อให้ประชาชนนำยาแก้ปวดไทลีนอล
ที่มีอยู่ทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถตระเวณไปตามบ้านเรือนทุกหลังเพื่อแจ้งเตือน
บางคนทำการแจ้งไปโรงพยาบาลเนื่องจากเกิดอาการตื่นตะหนกหวาดกลัวว่าตนจะได้รับยาพิษหลังจากกินยาแก้ปวดไทลีนอล
ส่งผลให้โรงพยาบาลทั่วประเทศต้องทำการตรวจและรักษาผู้ป่วยจำนวนมากที่คิดสงสัยว่าอาการป่วยของตนเกิดจากพิษ
ไซยาไนด์ที่เจือในไทลีนอล

แม้จะไม่มีรายงานเหยื่อรายใหม่ที่ตายจากการรับพิษไซยาไนด์ที่เจือปนในไทลีนอลแล้วก็ตาม แต่จำเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องใช้มาตรการรุนแรงเพื่อให้มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะสามารถควบคุมได้

 
   
สถานที่พบไทลีนอลเจือสารพิษ


 
แต่คนที่ได้รับผลจากเหตุการณ์นี้ร้ายแรงที่สุดก็คือบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันโดยเฉพาะผู้อำนวยการและผู้บริหาร
ต้องทำงานอย่างหนักโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อแก้วิกฤติในครั้งนี้ ซึ่งนอกเหนือจากการรับมือยอดขายไทลีนอลที่ตกต่ำ
แล้วยังต้องรับมือกับหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับการไม่ให้บริโภคสินค้าไทลีนอล ในขณะที่บริษัทคู่แข็งเริ่มเติบโต
รวดเร็วจากการที่ผลิตภัณฑ์ของตนขายมากขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว และหลายบริษัทพยายามโจมตีบริษัท
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเพื่อหวังจะให้ไทลีนอลหายสาปสูญไปจากตลาดยาแก้ปวด

วันที่ 5 ตุลาคม ปี 1982 บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทำการประกาศเตือนการแจกจ่ายยาไทลีนอลแก่ผู้ป่วย
ในทุกโรงพยาบาล และผู้แทนจำหน่ายให้หยุดจำหน่าย ต้องหยุดกระบวนการผลิต และการโฆษณาสินค้าทุกชนิด
พร้อมกับเรียกเก็บสินค้าไทลีนอลประเภทแคปซูลออกจากชั้นวางในชิคาโกและทั่วประเทศจำนวนมากกว่า 3000000 กล่อง
คิดเป็นเงินกว่าหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้โอกาสที่จะพบไซยาไนด์ในยาจะมีเพียงน้อยนิด แต่บริษัทต้องการแสดง
ให้เห็นว่าไม่อยากเสี่ยงต่อความปลอดภัยของสาธารณะชน ถึงแม้ว่าจะสร้างความเสียหายให้กับบริษัทหลายล้านดอลลาร์ก็ตาม

กลับมาที่การสอบสวนสืบสวนคดีสังหารหมู่ไทลีนอลต่อ จากการตรวจสอบพบว่ายาไทลีนอลที่เป็นปัญหานั้นถูกส่งมาจาก
โรงงานคนละที่กันจึงไม่น่าจะเกิดกระบวนผลิตปกติจาการผลิตยา นอกเหนือยาแก้ปวดไทลีนอล 5 กระปุกที่คร่าชีวิตคนตาย
ไป 7 รายแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบยาแก้ปวดอีก 3 กระปุกปลอมปนก่อนที่จะถูกเปิดตามห้างร้านต่างๆ ด้วย

จากการตรวจสอบรายละเอียดยาแก้ปวดที่มีปัญหาเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด ไม่มีแม้
กระทั่งรอยนิ้วมือหรือหลักฐานที่เชื่อมโยงตัวคนร้าย ติดในขวดที่คนร้ายเจือปนไซยาไนด์ อีกทั้งตำรวจไม่ทราบมูลเหตุที่ทำให้
คนร้ายก่อคดีนี้ เพียงแต่สันนิษฐานว่านี้เป็นเพียงแค่การกระทำของคนโรคจิตหรือไม่ก็คนที่มีความแค้นต่อบริษัท
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันที่อยากให้บริษัทเสียชื่อเท่านั้น

 
 

เจมส์  ดับเบิลยู. เลวิสผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งของคดีไทลีนอล


 
คดีนี้ถูกโอนไปเอฟบีไอในเวลาต่อมา มีการสอบสวนกันมาอย่างยาวนาน และมีการจับผู้ต้องสงสัยในคดีนี้หลายคน ที่เด่นๆก็เช่น
ชายที่ชื่อเจมส์  ดับเบิลยู. เลวิส นักธุรกิจล้มละลายในรัฐอลลินอยส์ ซึ่งเขาเป็นคนเขียนจดหมายถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
เพื่อรีดไถเงินโดยอ้างว่าเขาเป็นไทลีนอล คิลเลอร์ และเขาจะไม่หยุดสังหารหากไม่ได้เงินจากบริษัทจำนวน 1 ล้านเหรียญ

แต่กระนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามรอยจับกุมตัวเขาในฐานะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ผลสอบสวนไม่พบว่าเขาเกี่ยวกับ
อะไรกับไทลีนอล คิลเลอร์ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอเพราะตอนที่เกิดเหตุนั้นเขาอยู่ที่นครนิวยอร์กกับภรรยา
แต่เจมส์ก็ถูกพิพากษาลงโทษฐานกรรโชกทรัพย์ โกงบัตรเครดิต และก่อคดีจนต้องถูกจำคุก 13 ปี จากอัตราโทษสูงสุด
จำคุกยี่สิบปี เขาติดคุกระยะหนึ่งก่อนที่จะถูกปล่อยออกมาในปี 1995  โดยมีทัณฑ์บนติดตัว

ยังมีผู้ต้องสงสัยรายที่สองที่จับได้ คือนาย โรเจอร์ อาร์โนลด์ มีการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด แต่ผลสุดท้ายก็ปล่อยตัว
เพราะไม่มีหลักฐาน แต่กระนั้นเขาตกเป็นเป้าความสนใจของสื่อมวลชน ทำให้โรเจอร์เกิดความกดดันและเครียดอย่างหนัก
จนเป็นเหตุให้เขาเกิดอาการโรคประสาทอย่างรุนแรงและโทษมาร์ที ซินแคลร์เจ้าของร้านอาหารที่เป็นต้นเหตุที่ชักพา
เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวเขา ในฤดูร้อน ปี 1983 เขาพยายามจะใช้ปืนฆ่ามาร์ที แต่กลายเป็นว่าเขายิงผิดตัว กระสุนดันไป
ถูกนายจอห์น สเตนิชาคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องอะไรตายแทน ปี 1984 ศาลพิพากษาให้โรเจอร์จำคุกสิบห้าปี จากอัตราโทษ
สูงสุดจำคุกสามสิบปี หากแต่เขาตายในขณะรับโทษเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2008
 
   
ไทลีนอลในแผงขายยา


 
   ผู้ต้องสงสัยรายที่สามรายต่อมาที่ถูกจับมีชื่อ นางลอร่า  แดนน์ ชาวเมืองทิศเหนือของชิคาโก เคยมีประวัติความเจ็บป่วย
ทางจิตประสาทเป็นเวลานาน และเคยพยายามก่อคดีลอบวางยาพิษโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น และเคยกระทำอัตวินิบาตกรรม
หลายครั้ง แต่ผลสุดท้ายก็เหมือนกับผู้ต้องสงสัยสองรายก่อนหน้าตำรวจล้มเหลวเพราะเธอไม่เกี่ยวข้องกับไทลีนอล คิลเลอร์เลย
แม้แต่น้อย หากแต่เรื่องราวของลอร่า แดนน์ยังไม่จบ เพราะต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1988 เธอได้ก่อเหตุยิงเด็กกับผู้หญิง
สองคนและผู้ชายสามคนในโรงเรียนประถมก่อนที่จะเอาปืนยิงฆ่าตัวตายเวลาต่อมา

   ผลสุดท้าย สิ่งที่ตำรวจพึ่งคือข้อมูลจากนักจิตวิทยาในการสันนิษฐานบุคลิก พฤติกรรม และการดำเนินชีวิตของตัวฆาตกรเท่านั้น
นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่าฆาตกรในคดีไทลีนอล คิลเลอร์จะต้องเป็นคนใจเย็นพิถีพิถัน มีความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ ชำนาญ
พื้นที่เกิดเหตุเป็นอย่างดี มีรถยนต์ หรือรถบรรทุก ทำอาชีพเกี่ยวกับการใช้สารไซยาไนด์ ซึ่งสามารถเอาไปใช้ได้โดยไม่มีใครสงสัย
เขาอาจทำอาชีพเกี่ยวกับทอง อุตสาหกรรมการทำเงิน หรือที่โรงงานผลิตสารเคมี อาจมีประวัติอาชญากรรมและมีค่าจ้างต่ำ

นอกจากนี้ฆาตกรอาจจงใจหรือไม่จงใจเลือกสถานที่ในการวางยาแก้ปวดไททลีนอนที่เจือปนไซยาไนด์ในชั้นวางยาโดยเฉพาะ
และที่อยู่อาศัยของฆาตกรอาจจะอยู่ใกล้กับสถานที่ขายยาแก้ปวดไทลีนอลที่มีปัญหาก็ได้

นอกจากนั้น ในกรณีของยาแก้ปวดไทลีนอล ทำให้มีผู้เลียนแบบหรือทำการเจือปนสารพิษในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั่วทั้งประเทศ
ลักษณะนี้หลายราย ไม่ว่าจะเป็นยาที่นอกเหนือจากไทลีนอลคือยาเบื่อนำมาเจือปนใน ขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั้งยาสีฟัน
ทำให้หลายคดีถูกเชื่อมโยงไปเหตุการณ์ในชิคาโกด้วย

 

นางสเตลล่า  นิเกิลผู้อาศัยกระแสไทลีนอลวางแผนก่อคดีฆ่าสามีเอาเงินประกัน
 
ในปี 1986 มีคดีเลียนแบบไทลีนอล คิลเลอร์เกิดขึ้นในวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อนางสเตลล่า  นิเกิล วางแผนฆ่าสามีของเธอ
เพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิต โดยใส่ยาพิษลงในขวดยาแก้ปวดหัวไมเกรนชื่อดังเอกซ์ซีดีน สองขวด(แต่จากการตรวจสอบพบว่า
มีสารพิษเจือปนในขวดอื่นๆ ถึงห้าขวด) และเธอก็นำขวดที่เจือปนสารพิษเหล่านั้นวางกลับไปบนชั้นเพื่อเป็นการอำพราง
เหมือนเป็นฝีมือฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่ไม่มีเป้าหมาย ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์ที่ซื้อขวดที่มีพิษเจือปนแล้วนำไปกินจนตายไปหลายราย
สุดท้ายเธอถูกจับกุมและถูกพิพากษาจำคุก 90 ปี  ปัจจุบันเธอยังคงเป็นนักโทษอยู่ในทัณฑสถานในดับลิน รัฐแคลิฟอร์เนีย

ทางด้านบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังคงดำเนินการกู้ชื่อเสียงบริษัทเป็นระยะ โดยใช้สื่อ การประชาสัมพันธ์และโฆษณา
เพื่อแก้ปัญหาในช่วงวิกฤต และจัดตั้งสายด่วนผู้บริโภค ในช่วงสัปดาห์แรกของวิกฤต เพื่อสามารถตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความ
ปลอดภัยของไทลีนอลให้กับผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการเปิดสายฟรี โดยเป็นเทปบันทึกเสียงการอัพเดตกระบวนการ
แก้ไขปัญหาที่บริษัทได้ทำในแต่ละวัน

บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต้องแถลงข่าวสำคัญเป็นระยะ พวกเขาเลือกจัดงานที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท โดยใช้ทีมงาน
ภายในเตรียมอุปกรณ์สำหรับถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมไปยังนิวยอร์ก ซึ่งเท่ากับว่าการแถลงข่าวไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างบริษัท
กับสื่อมวลชนเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนด้วย

ถึงแม้จะได้ใจสื่อมวลชนด้วยการรายงานข่าวในทางที่ดี แต่สำหรับประชาชนนั้น การกระทำแค่นี้ดูไม่เพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่น
ของผู้บริโภคให้กลับคืนมาเหมือนตอนก่อนเกิดวิกฤตได้ บริษัทจึงตัดสินใจเล่นเกมจิตวิทยากับผู้บริโภคด้วยการออกบรรจุภัณฑ์ใหม่
ที่มีการปิดผนึกอย่างแน่นหนาถึง 3 ชั้นและโป๊ะทับอีกสองชั้นด้วยป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาสินค้า พร้อมการส่งเสริมการ
ขายอย่างหนักทั้งลด แลก แจก แถมสารพัด ซึ่งไทลีนอลต้องใช้เวลามากถึง 7 ปี ในการกู้ชื่อเสียงแบรนด์คืนมาอีกครั้งก่อนกลายเป็น
ยาแก้ปวดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกาอีกครั้ง

นอกจากนี้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตั้งเงินรางวัล 100000 ดอลลาร์สำหรับ ใครก็ตามที่ชี้เบาะแสที่มีประโยชน์ในการจับ
ตัวคนร้ายในคดีไทลีนอล คิลเลอร์มาลงโทษได้ ผลที่ตามแน่นอนคนอยากดังกับคนให้ข้อมูล(ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก)แห่กันมาจนหู
โทรศัพท์แทบไหม้

 

   
ไทลีนอลใช้เวลาหลายปีเพื่อเรียกศรัทธากลับคืนมาอีกครั้ง


 
อย่างไรก็ตามบทเรียนจากไทลีนอล คิลเลอร์ครั้งนี้กลายเป็นกรณีตัวอย่างในหลายๆ กรณี ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ต้องพร้อมใจกันในการเปลี่ยนวิธีการบรรจุภัณฑ์เพื่อป้องกันการลักลอบเจือปนสิ่งไม่พึงประสงค์ลงในสินค้า หลายผลิตภัณฑ์หลีกเลี่ยง
ในการทำรูปแบบแคปซูสเพราะมันง่ายต่อการเจือปนสิ่งแปลกปลอม นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการเจือปนสารพิษ
ในเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นอาชญากรรมระดับชาติ องค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกามีการตั้งระเบียบใหม่เพื่อป้องกันเหตุการณ์
เหล่านี้เกิดขึ้นในอนาคต ส่งผลให้ยาเม็ดชนิดแข็งที่ทำในรูปแคปซูลเข้ามาแทนที่ยาแคปซูสลอกพลาสติกบรรจุแป้งภายใน
ยาบางชนิดต้องซื้อจากมือคนขายที่เป็นเภสัชกรเท่านั้น ห้ามวางจำหน่ายตาร้านค้าซุปเปอร์มาร์เกตเด็ดขาด รวมไปถึงการปรับกฎหมาย
การใช้ไซยาไนด์อีกด้วย ฯลฯ

ในปี 2008 บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเรียกคืนยาไทลีนอลเกือบทุกชนิด รวมไปถึง โมทรินและแอสไพรินออกจากตลาดอีกครั้ง
หลังพบว่ามีกลิ่นหื่นออกจากตัวยา มีรายงานว่ามีประชาชนราว 70 คน ล้มป่วยเพราะกลิ่นยา รวมทั้งอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง
แต่จากการตรวจสอบไม่เกี่ยวของไทลีนอล คิลเลอร์ แต่มาจากความผิดพลาดในกระบวนการผลิต บริษัทต้องออกมาชี้แจง
และต้องสูญเสียเงินหลายร้อยล้านจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ในช่วงต้นเดือนมกราคม ปี 2009 คดีไทลีนอล คิลเลอร์ก็ยังมีการสืบสวนสอบสวนอยู่ โดยมีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำยุคกว่าเดิมมา
ช่วยไขคดีนี้ให้เป็นที่กระจ่างว่าใครกันที่สมควรรับผิดชอบในคดี ไทลีนอล คิลเลอร์ นายเจมส์ ดับเบิลยู. เลวิสอดีตผู้ต้องสงสัย
อันดับต้นๆ ในคดีนี้ถูกจับตัวอีกครั้งพร้อมภรรยา เพื่อรอการสอบสวน มีการตรวจดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือส่งไปยังเจ้าหน้าที่ 
นอกจากนี้ยังมีมีการตรวจค้นบ้านพักเขาในเมืองเคมบริดจ์ มิดเดิลเซ็กซ์เคาน์ตี รัฐแมสซาซูเซ็ตส์

เอฟบีไอได้ออกแถลงการณ์ในชิคาโกใจความบ่บอกว่าคดีนี้จะสามารถไขได้ในเร็ววัน เนื่องจากมีพวกเขาได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ต่อรูปคดีบวกกับวิทยาการสมัยใหม่ ส่งผลให้พวกเขาสามารถรื้อฟื้นคดีไทลีนอล คิลเลอร์ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด
มาลงโทษให้จงได้

ทางด้านนายเจมส์ ดับเบิลยู เลวิสที่ถูกจับอีกครั้งได้กล่าวว่า หากเอฟบีไอเล่นเกมส์อย่างยุติธรรม ผมก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกครับ
และในเวลาต่อมา เจมส์ ดับเบิลยู. เลวิสก็ถูกปล่อยตัวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันนายลูอิสยังคงอาศัยที่เมืองเคมบริดจ์ตามเดิม
โดยปราศจากความผิดใดๆ

 

   
การ์ตูนเรื่อง The Punisher ฉบับ 15-16 ปี 1993 ดัดแปลงเรื่องของไทลีนอล


 
เรื่องของไทลีนอล คิลเลอร์ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และนิยายจำนวนมากมาย โดยนำโครงเรื่องพื้นฐานมาดัดแปลง
เช่นในการ์ตูนเรื่อง The Punisher ฉบับ 15-16 ปี 1993 ที่มีฉากคนร้ายที่ปลอมตัวเป็นคนขายยาหลอกให้ลูกค้า
หญิงชราซื้อยาแก้ปวดที่เจือปนสารพิษของตน และเมื่อหญิงชรากลับถึงบ้านก็กินยาแก้ปวดเม็ดนี้ลงไปในกระเพาะ
และแล้วพิษก็กำเริบ หญิงชราทุกข์ทรมานตายลงอย่างช้าๆ ในห้องน้ำ

ในขณะที่ฆาตกรคนนั้นก็หัวเราะชอบใจเมื่อลูกค้าหญิงชราคนนั้นออกข่าวอาชญากรรมในทีวี หรือการ์ตูนบางเรื่องเปลี่ยน
จากยาแก้ปวดไทลีนอลมาเป็นยาพิษในเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่ผู้ดื่มนำมาดื่มกินแล้วกลายเป็นสัตว์ประหลาดอาละวาดทำร้ายผู้คน
หรือยาพิษในลูกกวาดของเด็กในวันฮาโลวีน

ในปี 1999 เรื่องราวของไทลีนอล คิลเลอร์ถูกนำไปดัดแปลงลงตอนหนึ่งในละครโทรทัศน์ชุด CSI: Crime Scene Investigation
และนิยายเรื่อง Hannibal ของโธมัส แฮร์ริส ได้กล่าวถึงคดีนี้ในประโยคของแจ๊ค ครอว์ฟอร์ดหัวหน้าหน่วยสอบสวนเอฟบีไอ
ตอนหนึ่งว่า ฉันจะเกษียณอายุในสองปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าผมจะไขคดีจิมมี ฮอฟฟา1 และไทลีนอล คิลเลอร์ได้แล้วก็ตาม

ปัจจุบันฆาตกรในคดีไทลีนอล คิลเลอร์ก็ไม่ถูกจับ แต่เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่
และประวัติศาสตร์อาชญากรรมครั้งใหญ่ของอเมริกา และบัดนี้ยังคดียังไม่ปิดยังคงมีการสืบสวนและยังคงมีรางวัล
ก็ผู้แจ้งเบาะแสใหม่ๆ เกี่ยวกับคดีต่อไป

 
 
 

เชิงอรรภ 1. จิมมี ฮอฟฟา (Jimmy Hoffa) ตัวแทนของสหภาพแรงงานที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อ วันที่ 30 กรกฏาคม ปี1975 สันนิษฐานว่าถูกเก็บโดยมาเฟีย
 
เนื้อหาบางส่วนแปลมาจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Chicago_Tylenol_murders


credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ตุลาคม 2014, 13:12:33 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่