เอาที่คิดง่ายๆพื้นๆเลย ร้านที่ปิดไปเพราะเจ้าของทำไปแล้วไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
การที่ไม่คุ้มค่าใช้จ่ายเกิดจาก รายรับที่ได้จากค่าคอร์สมันไม่พอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน
หลายๆอย่าง ตั้งแต่ค่าเช่าสถานที่ เงินเดือนแม่บ้าน พีอาร์ ค่าซักรีด ค่าน้ำค่าไฟ แล้ว
ยังมีค่า....พิเศษที่รู้กัน คิดดูแล้วเดือนไม่ใช่น้อย
รายรับที่ได้มันก็ไม่แน่นอน มาคิดเรื่องจุดคุ้มทุนในแต่ละวันของแต่ละร้านที่อยู่
ราวๆ 3,000-5,000 ถ้าร้านได้ค่าคอร์สๆละ 500 บาท วันหนึ่งต้องมีคนมานวดต้อง
6-10 คน แต่ถ้าจะให้เจ้าของมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น คนมานวดต้องมากกว่านั้น ร้านที่
อยู่ไม่ได้ก็ดังเหตุผลที่บอกมา สาเหตุก็ง่ายๆคนมาเที่ยวน้อยลง ทั้งนี้เกิดจากการบริหาร
จัดการของเจ้าของร้าน ว่าหาน้องๆเข้ามาบริการถูกใจไหม พีอาร์เก่งไหม ตั้งค่าคอร์ส
เหมาะสมไหม รวมทั้งใช้กลยุทธ์หลายๆอย่างที่จะดึงดูดคนมาเที่ยวร้านให้มาก บางครั้ง
ต้องมีคอร์สที่เปิดเผยไม่ได้ แต่เป็นที่รู้กันเข้ามาเสริมด้วย ซึ่งวงการนี้จะมีนักเที่ยวขา
ประจำจริงๆซักกี่คน คนใหม่ๆที่ไปลองก็อยากรู้่ว่าเป็นอย่างไร ถ้าไปแล้วมันไม่ใช่แนว
ของตนเองก็ถอยไปแนวอื่น
อีกอย่างคนที่ไปเที่ยวเขาเริ่มรู้จักการเปรียบเทียบแล้ว จะเปรียบเทียบกับความ
คุ้มค่าหรือความพึงพอใจที่ตนเองได้รับ จะเปรียบเทียบแนวอื่นกับสายนกป. แล้วยังมี
การเปรียบเทียบระหว่างร้าน นกป.ด้วยกันอีก ยกตัวอย่าง มีเงิน 1,800 ไปเที่ยว ออน.
จ่ายค่าคอร์สไป 1,300 ชั่วโมงครึ่ง ได้อะไรบ้าง หน้าตาเทียบกับน้องนกป. การบริการ
เป็นอย่างไร มีอาบน้ำ นวด นัว แล้วมีอย่างที่รู้ๆกันอีก เทียบกันแล้วบางทีได้มากกว่า นกป.อีก
แล้วเทียบ กับ นผบ. ค่าคอร์ส 400 สองชั่วโมง ได้นวด ได้จีบ ได้ลุ้น แล้วอาจ
ได้อย่างอื่นอีก คนเหล่าผู้ชายเค้าชอบ หลายคนคิดว่าถูกใจกว่าไป นกป.อีก
เทียบกับเส้นข้าง หน้าตาอาจจะโอเคหรือไม่กว่า นกป. ไม่อาบน้ำให้ อย่างอื่นได้
ไม่หนีแนวนกป.เท่าไหร่ เว้นแต่นวดและบอดี้ เรื่องหวงตัวบางทีไม่มีด้วย แต่ระดับ วันทูทรี
ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม สินสอดเพียงหนึ่งเทาหนึ่งม่วง จ่ายค่าห้องทิปนิดหน่อย ซึ่งคนก็ชอบแนวนี้
ที่การเข้าถึงได้ยาก และน้องก็ไม่เปิดเผยตัวเองด้วย บางคนคิดว่ามันมีเสน่ห์กว่า นกป. อีก
แล้วยังมีการเปรียบเทียบระหว่างกันอีก ว่าราคาคอร์สของร้านนี้ได้อะไรมั่ง รวมหนึ่งสอง
ไปเลยไหม ร้านนี้ได้แค่หนึ่ง ถ้าจะสองต้องจ่ายเพิ่ม ร้านนี้มีโอกาสได้นอกรูปแบบไหมถ้ามี
ต้องทิปเพิ่มอีกเท่าไร ซึ่งนักเที่ยวที่จะไปเที่ยวแต่ละแห่งต้องเก็บข้อมูลกันเป็นอย่างดีก่อน
เว้นแต่นักเที่ยวกระเป๋าหนัก ไม่ต้องหาข้อมูลอะไรมาก และก็ไปลุ้นเอา แต่พวกกระเป๋า
ไม่หนัก และไม่ชอบลุ้นก็จะไปสายอื่น ซึ่งแต่ละร้านต้องแข่งขันกันสูง งัดกลยุทธ์ทั้งหลาย
มาใช้เพื่อจะดึงดูดให้ลูกค้ามาเที่ยวที่ร้านให้ได้มาก พอที่จะอยู่ได้และมีผลตอบแทนที่น่าพอใจด้วย