-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมเซ้งเซ็งแฟน แต่ดึ๋งดั๋งกับคนอื่น  (อ่าน 592 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

mammos69

  • บุคคลทั่วไป



น่าสงสัยอย่างยิ่งว่าทำไมคู่รักที่อยู่ด้วยกันมาสักระยะนึง (อาจพักใหญ่ๆ หรือพักเล็กๆ) ถึงได้เกิดความรู้สึกไม่อยากสัมผัส, ไม่อยากแตะต้อง, ไม่อยากยุ่งเกี่ยวพูดคุยหรือเจ๊าะแจ๊ะกับแฟนซะแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ล่ะแหม...แต่ละวั้นงี้ถ้าไม่ได้เห็นหน้าค่าตาแล้วจะเป็นจะตายซะให้ได้ บางรายทำเอาหอบหืดกำเริบเพราะต้องวิ่งไปยืนมองหน้าบ้านเค้าก็ยังดี

เข้าตำราหากอีกฝ่ายไม่ยอมเข้าใกล้ งั้นไปใกล้ชิดเค้าเองก็ได้ เผื่อได้นาบและแนบด้วยยิ่งแจ๋วไปเลย แต่พออยู่ๆกันไปสักพักนึงสิ โอ้โหแข่งกันร้องเพลง ?ใจจะขาดแล้วเอ๋ย? โหยหวนเชียวนะมึง เอ้ย...เชียวนะท่าน

ซึ่งบางคู่อาการเซ็งกำเริบเร็วมาก เพียงอยู่ด้วยกันไม่กี่เดือนก็ออกลายแล้ว (อย่าให้ยกตัวอย่างนะ) แต่บางรายกลับใช้เวลาน้าน นานกว่าความเฉยชาจะเข้ามาเสียบแทนที่ และถ้าคู่ไหนโชคดี ไม่เบื่อไม่เซ็งกันเลย เพราะ ?รักเธอทุกวัน? นี่สิควรยกนิ้วให้ ที่เขียนเพราะอยากให้เลิฟกัน 24 ชม. ไม่ใช่รักวันเว้นวัน หรือรักเฉพาะเวลาราชการ แต่พอวันหยุดนักขัตฤกษ์ขอเหยียบเบรกเพื่อไปสีกิ๊กซี้ซั้วก็แย่สิ


ทำไมคนเราถึงได้เบื่อกันเร้ว เร็ว?
ไม่มีคู่รักรายไหนมีชีวิตราบรื่นร้อก ต้องมีเรื่องขรุขระให้เผชิญมั่ง แต่ว่ากันตามตรง ผู้หญิงน่ะอยากให้ชีวิตคู่ราบเรียบชนิดถ้าเปรียบเป็นผ้าก็ขอให้เป็นผ้าที่ผ่านการรีดเรียบตลอดศก ไม่ใช่ผ้ายับยู่ยี่ ไม่เหมือนกับผู้ชาย ขืนชีวิตคู่ ราบรื่นไป หนุ่มจะคิดแล้วว่า เฮ้ย! ทำไมไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลยวะ แล้วตัวเองก็จะไปรู้สึกคึกคัก, ครึกครื้นกับคนอื่น แต่กับแฟนของตัวล่ะ เซ้ง เซ็ง

ดังนั้น หากยังรักกันอยู่ก็ขอให้อดทนไว้ และอยากให้ถามตัวเองชัดๆ สิว่า เบื่อแฟนเพราะเค้าไม่ดี ไม่ถูกใจเรา หรือว่า ตัวคุณเองแหละที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังทีนเอง เพราะถ้าใจตัวนั่นแหละที่สะออน แล้วจะโบ้ยไปโทษอีกฝ่ายก็ไม่ยุติธรรม
เหตุนี้ มาหาวิธีทำให้เราทั้งสองกลับมาเลิฟ สวีต เลิฟ รักหวานชื่นกันอีกซี ด้วยการ......

1. หวนกลับมาพูดคุยกันซะนะ
อย่าอมพะนำทำปากหนัก หรือเผลอๆปากจัดเพราะมัวแต่ด่ากันอยู่เลย ไอ้คู่ที่ไม่ค่อยมองหน้ากันและไม่ คุยกันนี่แหละ เข้าข่าย ?รักหมดสภาพ? แล้วทั้งน้าน โอ้ยงี้ ต้องสปาร์กให้รักกลับมาบานฉ่ำกันเถอะ ด้วยการทักกันนิดทักกันหน่อย อย่าเงียบไปเลย และอย่าเก๊กแอ๊กท่ามาก โถ...จะเลิกวางมาดลดทิฐิแล้ว ?จับมือคุย? ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับ ?สองเรา? เมื่อไหร่ยะ


2. กอดรัดฟัดเหวี่ยงคนรักด้วยความมันเขี้ยวสุดขั้วหัวใจสิ
นึกซะว่า แฟนเป็นหมอนข้างละกัน ถ้าเหนื่อยล้าจากการทำงาน เมื่อกลับถึงบ้าน (คิดดูนะว่า โชคดีแค่ไหนที่มีคนรักรออยู่ที่บ้าน ไม่ใช่มีเจ้าหนี้รออยู่ก็ดีถมไปแล้ว) พอเจอกันก็ผวาคว้าเค้ามากอดเหมือนสมัยเมื่อตอนรักกันดูดดื่มเลยสิ กอดเค้าไว้ให้แน่นด้วยความดีใจคล้ายไม่ได้เจอกันมาสัก 5 ชาติยิ่งดี


3. สร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนประหลาดใจบ่อยๆ ดีนะ
ไม่ใช่เอาแต่บ่นกับตัวเองว่าเบื่อแสนเบื่อ บ่นกระปอดกระแปดไปก็เท่านั้น ไม่ทำให้ หายเบื่อหรอก แต่แทนที่จะทำหน้าเซ็ง หันมาทำให้ แฟนประหลาดใจด้วยการ ?ปิดโทรทัศน์? อย่างน้อยสักสัปดาห์ละครั้ง เลือกวันที่มั่นใจว่า ไม่มีรายการโปรดของฝ่ายใดฝ่ายนึง เพื่อทั้งคู่จะได้สวมบทหวานใส่กันอีกที ถึงแม้จำใจก็ควรลอง จะได้ตัดสินใจไปเลยว่า จะอยู่หรือจะไปจากกัน? ไม่ต้องมัวทำหน้าเซ็งให้อีกฝ่ายเห็น เพราะอย่าลืมว่าฝ่ายโน้นก็มีตานะยะ แถมมีสิทธิ์เลือกไปสนใจคนอื่นได้เหมือนกัน อย่าเห็นแก่ตัว กักกันไว้ให้เสียเวลา


4. รักษาจุดซ่อนเร้นของตัวเองให้สะอาดเสมอ
นอกจากหมั่นดูแลหัวใจของสวีตฮาร์ทไม่ให้ น้อยอกน้อยใจกันแล้ว บริเวณจุดยุทธศาสตร์ของเรือนร่างตัวเองก็ควรบำรุงรักษาให้คู่รักปรารถนาอยาก ?หม่ำ? ท่านด้วย เพราะการรักความสะอาดน่ะ น่าหลงใหลออก แถมโรคภัยที่เป็น ?ผลพลอยลบ? ด้านเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่โรคเอดส์ เช่น กามโรค หรือซิฟิลิสก็ไม่ได้หายไปไหน เหตุนี้ความสะอาดเท่านั้นที่จะช่วยให้ปลอดภัยไร้กังวล หนำซ้ำยังน่าเข้าใกล้อีกด้วย กรุณาอย่าได้เป็น ?คุณโส? (โครก) เชียว

อยากบอกว่า ในความรักย่อมมีความห่วงหาอาทรและมีความเป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาต ซึ่ง มิตรภาพมีไว้เพื่อหวังให้คู่ของเรามีประสบการณ์ ที่ดีร่วมกัน แต่ความรักนั้นยิ่งใหญ่พอที่จะผลักดันให้ทั้งคู่ทำทุกอย่างเพื่อผลลัพธ์ที่ด ีและลงตัวจนได้สิน่ะ

และเพื่อป้องกันไม่ให้ ?รักแท้แพ้รักกิ๊ก? ดังนั้น ก่อนหน้ามืดตาถั่วหอบผ้าหอบผ่อน ไปอยู่กะใคร ลองเปิดใจถามแฟนแค่ประโยคเดียวพอว่า เชื่อเรื่องผัวเดียวเมียเดียวไหม?

ถ้าตอบว่าเชื่อ ก็น่าลองใช้ชีวิตด้วยกันสักตั้ง แต่ถ้าเค้าไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในสมองเลยล่ะก็ ยอมปวดใจแค่ตรงนั้น (ถ้าคุณก็ไม่ได้ชอบสวิงกิ้ง) แล้วกลับหลังหันก็ยังทันนะฮ้า