-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าเหล่าฆาตกรแวมไพร์กระหายเลือดสุดสยองในประวัติศาสตร์  (อ่าน 571 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18154
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เรื่องเล่าเหล่าฆาตกรแวมไพร์กระหายเลือดสุดสยองในประวัติศาสตร์
cr. cammy@dek-d


หากพูดถึง "แวมไพร์" เราก็ต้องนึกถึงปีศาจกระหายเลือด ที่ชอบดูดเลือดมนุษย์ตามเมืองหรือหมู่บ้าน
และมันจะไม่หยุดจนกว่าจะมีใครมากำจัดมัน จริงอยู่ที่แวมไพร์กระหายเลือดนั้นมีแต่ในนิยาย


แต่กระนั้นคุณเชื่อหรือไม่ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีฆาตกรต่อเนื่องหลายคนได้รับฉายาว่า “แวมไพร์”
แม้พวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวได้ แต่กระนั้นพวกเขาก็สามารถก่อกรรมทำเข็ญต่อเหยื่อ
อย่างน่าสยดสยอง และบางที่แวมไพร์นั้นยังกระจอกด้วยซ้ำหากเทียบกับ 10 อันดับรายการต่อไปนี้
 

10. Haarmann Fritz


                   
ฟริตส์  ฮาร์มานน์ เขาได้รับฉายาว่า “คนขายเนื้อแห่งฮันเวอร์” ฟริตส์ ฮาร์มานน์ เป็นชายชาวเยอรมันเกิด
วันที่ 25 ตุลาคม 1879 ที่ฮันโนเวอร์ ในครอบครัวยากจนและมีลูกหลายคน พ่อเขาเป็นคนโหดร้าย ถูก
ข่มขืนตั้งแต่ในวัยเด็ก ทำให้กลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรง ถึงขนาดจับไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้า แต่ไม่นาน
ก็ถูกปล่อยตัวออกมา เนื่องจากไม่พบอาการผิดปกติทางจิต


เมื่อออกมาเขาก็กลายเป็นพ่อค้าตลาดมืด จนกระทั้งพัฒนามาเป็นฆาตกรต่อเนื่องในที่สุด เชื่อว่าเขาเป็นผู้ต้องหา
ฆาตกรรมเหยื่ออย่างน้อย 27 คน และถูกลงโทษจากคดีที่ว่านั้น (คาดว่ามีเหยื่อมากกว่านั้น)

โดยจากเดือนกันยายน 1898 ถึงเดือนมิถุนายน 1924 เขาได้ฆ่าเหยื่อที่ส่วนมากเป็นวัยรุ่นชายหนุ่ม อายุราวๆ
12-16 ปี ที่หนีออกจากบ้าน หรือหางานทำ โดยเขาจะล่าเด็กหนุ่มเหล่านี้โดยจะเข้าไปตีสนิท รับฟังความทุกข์
และให้คำแนะนำแก่พวกเขา และเมื่อพวกเขาเผลอก็พาไปหลับนอนกับเขาที่อพาร์ตเมนท์จากนั้นก็ฆ่าโดยการบีบคอ
กัดคอ จากนั้นนำร่างของเหยื่อไปชำแหละเป็นอาหารส่งไปขายในตลาดมืด โดยอ้างว่าเป็นเนื้อหมู
 
ฟริตส์  ฮาร์มานน์ ถูกประหารในวันที่ 15 เมษายน 1925 ก่อนประหาร เขา ขอสั่งเสียครั้งสุดท้ายว่า

“ผมเสียใจ แต่ผมไม่กลัวตาย ผมอยากจะให้มีการประหารชีวิตในตลาดในเมือง มีหินป้ายชื่อติดบนหลุมศพ
ของผมจารึกไว้ว่า “นี้คือศพของฮาร์มันน์ ฆาตกรที่สังหารคนจำนวนมหาศาล”




หลังจากเสร็จสิ้นการประหาร ฮาร์มันน์ ถูกเก็บรักษาอย่างดีโดยนักวิทยาศาสตร์ที่จะตรวจสอบดูโครงสร้างของสมอง
ของเขา ปัจจุบัน หัวของ ฮาร์มันน์ ถูกเก็บที่ โรงเรียนแพทย์ Gottingen และเรื่องราวของเขาก็ยังถูกถ่ายทอด
เป็นภาพยนตร์,นวนิยายมากมายตามมา เช่นเรื่อง
The Bloody Red Baron (1995)
 



9. Tsutomu Miyazaki


   
มิยาซากิ ทสึโตมุ (21 สิงหาคม 1962 -17 มิถุนายน2008 ) เขาได้รับฉายาว่า “นักสังหารเด็กเล็ก” โอตากุนักฆ่า
และแดร็กคูล่า เป็นฆาตกรต่อเนื่องเด็กผู้หญิง 4 ราย ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น เขาเกิดในโตเกียว ในครอบครัวผู้มีฐานะ
ปานกลาง นิสัยเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยออกมาข้างนอก เนื่องจากเขามีปมด้อยเพราะแขนซ้ายของเขาผิดรูป


จนกระทั้งในปี 1988-1989 เขาก็ได้ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฆ่าเด็กสี่คนในไซตามะ ได้แก่ มาริ คงโนะ(อายุ 4 ปี),
มาซามิ โยชิซาว่า (อายุ 7 ปี), เอริกะ  นันบะ (อายุ 4 ปี), อายาโกะ โนะโมโตะ (อายุ 5 ปี)
โดยเหยื่อส่วนใหญ่
เขาจะฆ่าโดยบีบคอ และการอนาจารกับศพของเด็กหญิง (ไม่มีการข่มขืน) ก่อนที่จะนำไปทิ้งที่รกร้าง

ในขณะที่เหยื่อบางรายเขาจะติดชิ้นส่วนบางส่วนเอาไปย่างกินกับโชยุและดื่มเลือด  eta06



นอกจากนี้ เขายังอุตส่าห์ส่งชิ้นส่วนศพไปให้ครอบครัวของเหยื่อตนฆ่าด้วย หลังจากที่ตำรวจจับตัวมิยาซากิก็พบว่า
เขามีรูปแบบการดำรงชีวิต 2 แบบ โดยตอนกลางวันจะเป็นเด็กฝึกงานของโรงพิมพ์ในละแวกนั้น แต่ตอนกลางคืน
จะเพลิดเพลินอยู่กับการ์ตูนและวีดิโอกว่า 6000 ม้วน ซึ่งส่วนหนึ่งมีเนื้อหาแนวสยองขวัญและลามกอนาจาร
การที่ทนายของเขาพยายามแก้ต่างว่า มิยาซากิไม่สามารถแยกแยะระหว่างความเป็นกับความตาย หรือ โลก
แห่งความจริงกับโลกในจินตนาการได้นั้น ทำให้สื่อมวลชนพากันประนามการกระทำของเขาว่ามีสาเหตุมาจาก
การ์ตูนและอนิเมชั่น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ บรรดาสื่อมวลชนได้ใช้คำว่า “โอตาคุ” เรียกแทนตัวมิยาซากิในการ
ประโคมข่าว ซึ่งก็ได้ก่อให้เกิดภาพพจน์ในแง่ลบต่อคำว่า “โอตาคุ” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วันที่ 17 มิถุนายน 2008 มิยาซากิ ทสึโตมุ ถูกประหารด้วยการแขวนคอตายในเรือนจำโตเกียว ไม่มีคำพูดขอขมา
หรือแสดงความสำนึกผิดออกมาจากปากของเขาจนวาระสุดท้าย และชื่อของเขาก็ได้เป็นที่รังเกียจของชาวญี่ปุ่น
จนบัดนี้

 



8. Philip Onyancha


 
แอฟริกาก็ยังมีแวมไพร์กระหายเลือด เมื่อปี 2010 มีการจับกุมชายคนหนึ่งชื่อ ฟิลิป ออนเหยียนซ่า อายุ 32 ปี
ผู้ต้องหาฆ่าคนไป 17 ราย(อาจเป็น 19) เขาได้สารภาพว่าเขาได้ลักพาตัวและฆ่าผู้หญิงและเด็กอายุระหว่าง 22 – 23 ปี
นำมาฆ่าแล้วดื่มเลือดเหยื่อเสมือนเป็นพิธีกรรมทางศาสนา ก่อนที่จะทิ้งชิ้นส่วนศพของเหยื่อบางส่วนที่ชายฝั่งทะเลสาบ
ไนท์วาชา โดยเขาได้อ้างสาเหตุการก่ออาชญากรรมนี้ว่าเขาตกอยู่ในอำนาจของ “ผี” ที่ชั่วร้ายที่ทำให้เขากระหายเลือด


นอกจากนี้เขายังบอกว่าที่เขาทำร้ายผู้หญิงก็เพราะว่าเป็นเหยื่อที่ล่าง่ายและอ่อนแอที่สุด และที่น่าตกตะลึงเมื่อเขาได้บอก
เป้าหมายของเขาว่า “เป้าหมายของผมคือการฆ่าผู้หญิงให้ได้จำนวนร้อยคน แต่ตอนนี้ผมฆ่าแค่ 17 ยังเหลือ 83”

ทั้งนี้ทั้งนั้นฟิลิปนั้นฆ่าคนอย่างลอยนวลถึง 5 ปี ก่อนที่จะถูกจับกุมเมื่อมีรายงานครูในโรงเรียนมัธยมในซึ่งได้หายตัวไป
จากรุยราและสามารถตามจับเขาได้ดังกล่าว

 



7. Nico Claux


   
เมื่อปี 1994 ตำรวจที่เมืองปารีสได้จับผู้ชายรายหนึ่งชื่อ นิโคลาส กล็อกซ์ (เกิด 22 มีนาคม 1972) ฐานตกเป็นผู้ต้องสงสัย
กระทำการฆาตกรรม เธี่ยรี่ บิสซองนิเยร์ วัย 32 ปี ในวันที่ 4 ตุลาคม เมื่อทำการค้นห้องที่พาร์ทเมนท์ของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ก็พบโครงกระดูก และซากมนุษย์จำนวนมากมาย ที่ไม่สามารถระบุว่าเป็นใครห้อยโตงเตงลงมาจากเพดานห้อง และยังมีเลือด
ที่ขโมยมาจากธนาคารเลือดท้องถิ่น


หลังจากถูกจับกุมนิโคสารภาพว่าเขากินเนื้อแผ่นจากศพ และเขาดื่มเลือดศพดังกล่าว สาเหตุเพราะเขาหลงใหลในผีดูดเลือด
ส่งผลทำให้นิโคถูกจำคุก 12 ปีในคุกฐานฆ่าคนหนึ่งคน แต่กระนั้นเขาจองจำเพียง 7 ปี กับอีก 4 เดือนก็ถูกออกจากเรือนจำ

ในวันที่ 22 มีนาคม ปีค.ศ. 2002 หลังจากพ้นโทษนิโคใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ที่เรียนมากจากเรือนจำ
สร้างเว็บของตัวเองประกาศขายภาพสีของอดีตฆาตกรโหดมืออาชีพ และเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์กินเนื้อคน
(และเว็บดังกล่าวฮิตมากของผู้ชื่นชอบเรื่องฆาตกรโหด จนปัจจุบันออกมาเป็นการ์ดด้วย!!)

โดยเขาได้กล่าวว่า
“เว็บไซต์นี้เป็นเว็บอย่างเป็นทางการของผม ตอนนี้ผมได้ทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงตัวเองผ่านการพัฒนา
ความสามารถทางศิลปะ ผมไม่สามารรถลบอดีต แต่เป้าหมายของผมคือการสร้างสรรค์ ผมไม่ต้องการให้ผู้ใด
ได้ทำความชั่วช้าแบบเดียวกับที่ผมทำในอดีต  ผมสาบานว่าจะไม่กลับไปเป็นมนุษย์กินคนโดยเด็ดขาด”





 
6. Marcelo de Andrade


   
มาร์เซโล เดอ อันดราเด้ เป็นบุตรชายในครอบครัวที่ยากจน ในสลัมของริโอเดอจาเนโร ปะเทศบราซิล ตอนเป็นเด็ก
เขาตกเป็นเหยื่อการละเมิดทางเพศโดยชายที่อายุมากกว่า เขามีสติปัญญาแย่ทำให้ไม่สามารถเรียนจบได้
เขาประกอบอาชีพเป็นโสเภณี


ก่อนที่พัฒนากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องในที่สุด ประเดือนเดือนเมษายน ปี 1991 เขาเริ่มสนุกสนานในการฆ่าคน
ในช่วงเก้าเดือนในเมืองนีเตรอย มีเหยื่อ 14 รายที่ถูกฆ่า โดยเขาจะข่มขืนและมีการดื่มเลือดเหยื่อ เมื่อเขาถูกจับ
เขาได้สารภาพทั้งหมดพร้อมบอกว่า

“ผมชอบฆ่าชายหนุ่มเพราะเขาดูดีและผิวอ่อนนุ่ม เมื่อผมไม่แน่ใจว่าเหยื่อของผมมีชีวิตหรือตาย เมื่อข่มขืนผมจะ
บีบคอพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าดวงวิญญาณของเขาขึ้นสู่สวรรค์”


ที่น่าสนคือเขาเป็นสมาชิกในนิกายคริสจักรสากลของอาณาจักรพระเจ้า(Igreja Universal do Reino de Deus)
ที่บูชาแม่ของเขาราวกับนักบุญ ปัจจุบันเขาถูกส่งไปยังจิตเวชหลังจากเคยหลบหนีไปครั้งหนึ่งเมื่อปี 1997


 


5. Andrei Chikatilo


   
อันเดร ชิกาทิโล(1936 - 1994)เป็นฆาตกรที่มีชื่อเสียงของโซเวียตมีฉายาว่า “นักชำแหละรอสทอฟ” เขามีรูปร่าง
พิกลพิการตั้งแต่เด็ก ทำให้เกิดปมด้อยจนนำไปสู่ฆาตกรต่อเนื่องที่น่ากลัวในประวัติศาสตร์ของโซเวียต เชื่อว่าเขา
ฆ่าเหยื่อไป 53 ศพ เหยื่อมีทั้งผู้หญิงและเด็ก(เขาอ้างว่าเหยื่อรายแรกของเขาเป็นผู้หญิงอายุเก้าขวบ)


โดยเริ่มไล่ล่าฆ่าคนตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1992 โดยปกติเหยื่อของเขาจะเป็นผู้คนไม่มีบ้าน หรือผู้ซึ่งพักรอบๆทาง
ซึ่งบางรายถูกข่มขืนและกินเนื้อคน ควักตาในขณะที่ยังมีชีวิต ถูกกัดหัวนม บางรายถูกผ่า ท้องในขณะที่เป็นๆ
และมีอวัยวะบางส่วนถูกกินอย่างสยดสยอง ก่อนจะถูกจับได้ในปี 1992 ต่อมาหลังจากลอยนวลถึง 15 ปี

ในระหว่างพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องควบคุมเขาโดยกรงขังเหมือนสัตว์ป่า โดยระหว่างนั้นเขากรีดร้องร้อง
เหมือนสัตว์ป่าทำร้ายตัวเอง ในระหว่างพิจารณาคดีเขาได้อ้างว่า “ผมคือสัตว์เดรัจฉานที่บ้าคลั่ง”
สุดท้ายเขาก็ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า เมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1994

 



4. James P. Riva


   
เมื่อเดือนกันยายน 1980 เจมส์ ริเว อายุได้ 23 ปี เขาได้ยิง และฆ่าคุณยายพิการของเขา สี่นัดด้วยปืนของเขา
ที่ทาสีทอง ในขณะที่เธอกำลังนั่งเก้าอี้เข็นของเธอ จากนั้นเขาก็แทงเธอหลายครั้งที่หัวใจ แค่นี้ยังไม่พอ เขายัง
ดื่มเลือดที่ทะลักจากบาดแผล เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในขณะที่กำลังทำลายหลักฐานที่เกิดเหตุ ด้วยการ
วางเพลิงพอดี


เขาได้อ้างว่าเขาได้ยินเสียงแวมไพร์อายุ 700 ปีที่บอกให้เขาต้องดื่มเลือดเธอเพื่อชีวิตนิรันดร์ เขาถูกตัดสิน
ให้รับโทษเรื่องฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยโทษคือ จำคุก 10-20 ปี จากการสอบสวนพบว่าเขาหลงเสน่ห์
แวมไพร์ตั้งแต่อายุ 13 เขาชอบวาดภาพที่ดูแล้วรุนแรงและเริ่มฆ่าและดื่มเลือดของสัตว์รวมทั้งม้า

ครั้งหนึ่งเขาเกือบฆ่าพ่อของเขาเองด้วยขวาน หากแต่เปลี่ยนใจซะก่อน
scary


 
3. Mauricio Lopez


   
เมื่อปี 2010 ที่สหรัฐอเมริกาในขณะที่ เมาริซิโอ โลเปซ อายุ 42 ปี กลับมาบ้านในคืนวันอาทิตย์
เขากลับพบหลานสาวของเขาเมนเดซ (Mariella Mendez) ได้เล่นชู้กับสามีของน้องสาวของเธอที่ชื่อครูซ
(Macario Cruz) เขาเลยตัดสินเรื่องนี้ด้วยเลือด


เขาแทงครูซที่หัวใจ และต่อหน้าและลูกทั้งสี่ของเธอ ซ้ำกันนี้ยังไม่พอ เขาได้เอาดื่มเลือดของเหยื่อที่ใส่
แก้วพลาสติกจนเต็ม ก่อนที่จะหลบหนีตอนกลางคืน เมนเดซได้ให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
“เขาหัวเราะ ในมือถือถ้วยใส่เลือดของครูซในมือเขาของเขา เขาบอกว่าปีศาจได้บอกกับฉันว่าให้ดื่มมัน”

เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมาเขาบอกว่ามันเป็นพิธีกรรมทางศาสนาของเม็กซิโกโดยบอกว่า
หากดื่มเลือดของผู้ตายจะสามารถหลบหนีกฎหมายได้ ตอนนี้เขากำลังถูกพิจารณาฆาตกรรมในชั้นศาลอยู่

 



2. Daniel and Manuela Ruda


   
เมื่อปี 2001 คู่หูชาวเยอรมันคู่หนึ่งนาม แดเนียล อายุ 26 ปี และสกา อายุ 23 ปี ได้สังหารเพื่อนร่วมงาน
ของพวกเขาชื่อ แฟรงค์ (Frank Hackert) อายุ 33 ปี โดยหลอกให้มาพาร์ทเมนต์ที่ตั้งอยู่ใกล้โบคุม
เขาถูกแทง 66 ครั้ง และตีเขาด้วนค้อน สลักสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกที่อก และ ดื่มเลือดของเขา


หลังจากนั้นพวกเขาก็ร่วมเพศในโลงศพของสกา  หลังจากพวกเขาถูกตำรวจจับพวกเขาก็อ้างถึงซาตาน
และเพราะว่า “เขาตลกมากเลยอยากให้เป็นตัวโจ๊กแสดงตลกให้ซาตานดู”

สุดท้ายทั้งคู่ถูกพิพากษา ฝ่ายชายติดคุก 15 ปี และฝ่ายหญิง 13 ปี ปัจจุบันทั้งคู่ถูกขังในหอผู้ป่วยจิตเวช
ที่รักษาความปลอดภัยสูง




 
1. Richard Chase
                 


ริชาร์ด เชส ถือกำเนิดในซันตา คลาร่า แคลิฟอร์เนีย เมื่อ วันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1950 เขามีฉายาว่า
“ผีดูดเลือดแห่งซาคราเมนโต” เขาฆ่าคนหกคนเพียงระยะเวลาแค่หนึ่งเดือน อีกทั้งยังดื่มเหลือและกินเนื้อ
ของเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม


สมัยเด็กนั้น เขามีปัญหาทางจิตบวกกับใช้ยาเสพติดติดแอลกอฮอล์เรื้อรัง เขามีความเชื่อว่าของเหลวหรือ
เลือดร่างกายของเขามีแต่พิษ เขาเลยหาวิธีมากมายในการรักษาแต่ส่วนใหญ่ล้วนหลุดโลกทั้งสิ้น เช่น
การฉีดเลือดของกระต่ายเขาร่างกาย เขาเคยถูกส่งตัวเข้ารักษาโรงพยาบาลหากแต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมา
อย่างรวดเร็ว

ริชาร์ดทำการฆาตกรรมครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 1977 ในตอนนั้นเขาอาศัยอยู่คนเดียวด้อมๆ มองๆ
ประมาณว่าเห็นใครถูกใจก็จะฆ่า หวยเลยออกมาที่  แอมโบรส กรีฟฟิน วิศวกรวัย 51 ปี คุณพ่อลูกสอง
กำลังเดินอยู่ๆ ดี ริชก็โผล่พรวดมาใช้ปืนยิงแบบไม่นับ กระสุนเจาะร่างแอมโบรสถึงแก่ความตายคาที่
ส่วนมือปืนริสหลังยิงเสร็จก็หนีลอยนวล

ส่วนรายที่สองเทเรซ่า วิลลิน สาวสวยที่พึ่งต้องท้อง 3 เดือน ถูกฆ่าและข่มขืนยับ ศพถูกชำแหละ เขานำเนื้อ
มากินและเอาเลือดมาดื่มอย่างกระหายเลือด

แต่ครั้งที่โหดที่สุดคือการฆ่าครั้งสุดท้ายของเขาคือ วันที่ 27 มกราคม เขาฆ่า27 มกราคม 1978 ริชทำการ
ฆ่ายกครัว ซึ่งประกอบไปด้วยเอเวอร์ลีน มิรอธ สาวใหญ่วัย 38 ลูกชายหกเดือนของเธอ เจสันและหลานชาย
อายุ 22 เดือน เมื่อทุกคนในบ้านตายเรียบ เขาย่ำยีศพเอเวอร์ลีนท่ามกลางกองเลือด หนุ่มโหดจอมเพี้ยน
ร่วมเพศพร้อมกับกินเลือดกินเนื้อศพไปด้วยเหมือนแวมไพร์ กลับชาติมาเกิดไม่ปาน

ริชาร์ด เชส ไปไหนไม่รอด ริชโดนตำรวจรวบตัวเขาตอนออกจากหอพักพร้อมของกลาง เขาถูกพิพากษา
ให้ประหารชีวิตด้วยการรมแก๊ส หากแต่เขามาชิงฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาดก่อน เมื่อ
วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1980

แม้ ริชาร์ด เทรนตัน เชส จะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่เรื่องราวพฤติกรรมที่ทั้งแปลก โหดเหี้ยมห่ามๆ
ของฆาตกรคนนี้ ยังอยู่ในใจของคนอเมริกาจนถึงทุกวันนี้

 
เนื้อหาแปลบางส่วนจาก
http://listverse.com/2011/01/19/top-10-vampire-serial-killers/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 มีนาคม 2018, 13:23:17 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่