-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เทพเจ้ากวนอู (关羽) เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์  (อ่าน 426 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18212
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เทพเจ้ากวนอู (关羽) เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์
cr.peawyeangtai31



องค์กวนอู เดิมชื่อ 'เผิงเสียน' ชื่อรอง 'โซ่วฉาง' ในสำเนียงจีนกลาง อ่านว่า หยุนฉาง (云长) แต่แต้จิ๋วจะอ่านว่า หุนเตี๋ยง)
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีน ในศักราชเอี่ยงฮี ปีพุทธศักราช 703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นฮวนเต้ และเสียชีวิตลง
เมื่อวันที่ 12 เดือน 7 จีน ในศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พุทธศักราช 762 ในรัชสมัยของ พระเจ้าฮั่น เฮี่ยนเต้

ท่านเป็นชาวอำเภอไก่เหลียง มีรูปร่างสูงใหญ่ ราวๆ 9 ฟุตจีน หรือประมาณ 6 ศอก ใบหน้า แดงเหมือนผลพุทราสุก
นัยน์ตายาวรี คิ้วดั่ง หนอนไหม หนวดเครางามถึงอก และมีง้าวรูป จันทร์เสี้ยว ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง เป็นอาวุธ
ประจำกาย เรียกว่า "ง้าวมังกรเขียว" หรือ "ง้าว มังกรจันทร์ฉาย"



ประวัติ



องค์กวนอู มีกำเนิดในครอบครัวนักปราชญ์ เชี่ยวชาญด้านคัมภีร์พิชัยสงคราม และคัมภีร์หลี่ซื่อชุนชิว ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ท่านได้พลั้งมือ
ฆ่าปลัดอำเภอ และน้าชายตาย จนต้องหลบหนีการจับกุม เร่รอนไปทั่วประเทศจีน เป็นเวลานานถึง 6 ปี จน กระทั่งถึงด่านถงกวน
นายด่านพบพิรุธจึงสอบถามชื่อแซ่ท่าน ด้วยอารามตกใจ ท่านจึงชี้ไปที่ชื่อด่าน "ถงกวน" (ในภาษา จีนกลาง คำว่า "กวน" แปลว่า ด่าน)
ทำให้นายด่านเข้าใจว่าท่านนั้นแซ่กวน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านจึงเปลี่ยนชื่อ จาก เผิงเสียน เป็นกวนอู


ต่อมาองค์กวนอูได้พบกับองค์เล่าปี่ และเตียวหุยที่ตุ้นก้วน และได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกันในสวนดอกท้อ ท่านได้ร่วมรบ กับองค์เล่าปี่
มาโดยตลอด วีรกรรมของท่านนั้นมีมากมาย เริ่มจากการร่วมปราบปรามโจรโพกผ้าเหลืองร่วมกับทหารหลวง ของพระเจ้าเลนเต้ สังหาร
ฮัวหยงแม่ทัพของตั๋งโต๊ะ โดยที่สุราคาราวะจากโจโฉยังอุ่นๆ ปราบงันเหลียง และบุนทิวสองทหาร เอกของอ้วนเสี้ยว บุกเดี่ยวพันลี้หนี
จากโจโฉ เพื่อหวนกลับคืนสู่เล่าปี่ ด้วยคำสัตย์สาบานในสวนท้อ ทั้งที่โจโฉพยายามทุก วิถีทาง เพื่อจะมัดใจองค์กวนอู แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ 
ฝ่า 5 ด่านสังหาร 6 ขุนพลของโจโฉ และในคราวศึกเซ็กเพ็ก โจโฉ แตกทัพ หนีไปตามเส้นทางฮัวหยง ท่านก็ได้รับมอบหมายจากขงเบ้ง
ให้นำกำลังทหารมาดักรอจับกุมโจโฉ แต่ทว่าโจโฉ กลับพูดจาให้องค์กวนอูระลึกถึงบุญคุณครั้งก่อน จนท่านใจอ่อน ยอมปล่อยให้โจโฉ
หลุดรอดไป

ครั้นเมื่อองค์เล่าปี่สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิครองเสฉวน ก็ได้แต่งตั้งให้องค์กวนอูเป็น 1 ใน 5 ทหารเสือแห่งจ๊กก๊กของ องค์เล่าปี่
และไปครองเมืองเกงจิ๋ว ร่วมกับกวนเป๋ง บุตรบุญธรรม และจิวฉอง  ต่อมาซุนกวนได้มอบหมายให้โลซกมาเจรจา ขอเกงจิ๋วคืน ทำทีแสร้ง
เชิญองค์กวนอูมากินเลี้ยงที่กังตั๋ง เพื่อหมายจะซุ่มทำร้ายท่าน ท่านก็ไม่หวั่นเกรงใดๆ บุกเดี่ยวข้าม ฟากไปยังกังตั๋ง เพื่อกินโต๊ะตามคำเชิญ
โดยโลซกและทหารที่แอบซุ่มอยู่รอบ ๆ บริเวณไม่สามารถทำอันตรายใดๆท่านได้



ภายหลังซุนกวนเป็นพันธมิตรกับโจโฉ นำทัพเข้าโจมตีเกงจิ๋ว  องค์กวนอูพลาดท่าเสียทีแก่ลิบอง และลกซุน สองแม่ทัพ แห่งกังตั๋ง
จนเสียเกงจิ๋ว ท่านพยายามตีฝ่ากำลังทหารที่ล้อมเมืองเป๊กเสีย เพื่อชิงเกงจิ๋วกลับคืน แต่โดนกลอุบายจับตัวไป ได้ ซุนกวนพยายาม
เกลี้ยกล่อมให้ท่านยอมจำนนและสวามิภักดิ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ซุนกวนจึงสั่งประหารองค์กวนอู พร้อมกับ กวนเป๋ง บุตรบุญธรรม ในเดือน
สิบสองของปี พ.ศ. 762 ด้วยความจงรักภักดี และซื่อสัตย์ องค์กวนอูจึงถูกยกย่องให้เป็น "เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์" ที่มีผู้คนนับถือ
มากมาย มาจน ถึงปัจจุบัน


ภายหลังจากที่องค์กวนอูตายไปแล้ว  ซุนกวนได้ส่งศีรษะกวนอูไปให้โจโฉที่ฮูโต๋  หมายจะป้ายความผิดไปยังโจโฉ ให้องค์ เล่าปี่เชื่อว่า
โจโฉน้ันเป็นผู้สั่งประหารองค์กวนอู เล่าปี่จะได้ยกทัพไปทำศึกกับโจโฉ  แต่โจโฉรู้เท่าทันกลอุบายของซุนกวน จึงคิดจัดงานศพให้แก่
องค์กวนอูอย่างสมเกียรติ โดยนำไม้หอมมาต่อเป็นหีบใส่ศีรษะองค์กวนอู แต่งเครื่องเซ่นไหว้ตาม บรรดาศักดิ์ขุนนางผู้ใหญ่



ครั้นเมื่อโจโฉเปิดหีบศีรษะขององค์กวนอูดู ก็พูดอย่างเยาะเย้ยว่า
"กวนอู ท่านสบายดีหรือ ตอน ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่เคยมาหาข้าพเจ้า แม้ข้าพเจ้าจะรั้งตัวท่านไว้ ท่านก็ไม่ยอมอยู่
แต่บัดนี้ท่านตายแล้ว กลับมาหา ข้าพเจ้า"

พลันหัวขององค์กวนอูก็ลืมตาขึ้น โจโฉตกใจมาก ระล่ำระลักว่า กวนอูนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก  สั่งการให้ทหารทั้งหมดแต่ง กายขาวไว้ทุกข์ให้แก่กวนอู
ยกย่องให้เป็นอ๋องแห่งเกงจิ๋ว และนำศีรษะขององค์กวนอูฝังไว้ ณ ประตูเมืองลกเอี๋ยง หรือลัวหยางทางด้านทิศใต้  จารึกอักษรที่หลุมฝังศพว่า
"ที่ฝังศพเจ้าเมืองเกงจิ๋ว" ทั้งยังให้ตั้งศาลบูชากวนอู ที่นอกเมือง ลกเอี๋ยงอีกด้วย 

ต่อมาหลังจากนั้นโจโฉก็มักจะปวดศีรษะ และเห็นภาพหลอนอยู่บ่อย ๆ ไม่นานก็เสียชีวิตลง

ส่วนลิบองผู้ที่เคยจับตัวองค์กวนอูได้นั้น  ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่มีต่อกวนอู จู่ ๆ ลิบองก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าซุนกวนด้วย เสียงอันดังที่ผิดแผกออกไป
จากเสียงปกติ แล้วก็ล้มลงสิ้นชีวิตในทันที ซุนกวนนั้นถึงกับกลัวลนลาน ซึ่งหลายคนเชื่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ดวงวิญญาณขององค์กวนอู



อาวุธ



องค์กวนอูมีอาวุธประจำกายคือ “ง้าวรูปจันทร์เสี้ยว” สร้าง ขึ้นเมื่อคราวที่องค์เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยออกเกลี้ยกล่อม ราษฎร และรวบรวมกำลังไพร่พล
เพื่อจัดตั้งกองทัพ ออก ต่อสู้กับโจรโพกผ้าเหลือง โดยมีพ่อค้าม้าชื่อ เตียวสิเผง และเล่าสง ได้ร่วมบริจาคม้าจำนวน 50 ตัว,  เงิน 500 ตำลึง
และเหล็ก 100  หาบ สำหรับสร้างเป็นอาวุธ



องค์เล่าปี่ได้ให้ช่าง ตีเหล็กเป็น “กระบี่คู่แบบโบราณ” ขณะ ที่องค์เตียวหุยให้ช่าง ตีเหล็กเป็น “ทวน” ที่มีรูปร่างลักษณะ คล้ายงู และสำหรับองค์กวนอู
ท่านให้ช่าง ตีเหล็กเป็น “ง้าว” ขนาดใหญ่ รูปจันทร์เสี้ยว ประดับลวดลายมังกร ยาว 11 ศอก หรือประมาณ 3.63 เมตร หนัก 82 ชั่ง หรือประมาณ
65.6 กิโลกรัม มีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ชิงหลงเหยี่ยนเยฺว่เตา” (จีนตัวเต็ม: 青龍偃月刀; พินอิน: qīnglóng yǎnyuèdāo)
หรือ “ง้าวมังกรเขียว”  (บ้างก็เรียก "ง้าวมังกรจันทร์ฉาย")




ตลอดระยะเวลาในการตรากตรำทำศึกสงคราม ร่วมกับองค์ เล่าปี่ และองค์เตียวหุย  องค์กวนอูจะใช้ง้าวมังกรเขียวเป็น อาวุธประจำกายตลอดเวลา
จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อคราวโจโฉทำศึกกับตั๋งโต๊ะ ท่านก็ใช้ง้าวมังกรเขียวตัดคอฮัวหยง มาให้ โจโฉ ที่หน้าค่ายด้วยความรวดเร็ว โดยที่ยังไม่ทัน
จบเพลงรบ และเหล้าที่โจโฉอุ่นมอบให้แก่ท่านยังคงอุ่นๆ  หรือจะเป็น คราวที่ท่านสังหารงันเหลียง และบุนทิว สองทหาร เอกของอ้วนเสี้ยว
ในคราวศึกตำบลแปะแบ๊ ก็ด้วยง้าวมังกรเขียว ใน เพลงเดียวเช่นกัน

ตลอดระยะเวลาการทำศึก องค์กวนอูไม่เคยห่างจากง้าวมังกรเขียว แม้กระทั่งเมื่อองค์เล่าปี่ให้ท่านไปกินตำแหน่งเจ้าเมือง เกงจิ๋ว ร่วมกับกวนเป๋ง
และจิวฉอง ท่านก็มอบหน้าที่ให้จิวฉองดูแลรักษาง้าวมังกรเขียว และถือแทนท่าน จิวฉองก็คอยติด ตาม ถือง้าวมังกรเขียวเคียงข้างท่านตลอด
เมื่อคราวที่ท่านพลาดท่าเสียทีลิบอง และลกซุน จนถูกล้อมอยู่ที่เมืองเป๊กเสีย ก่อนจะนำกำลังทหารจำนวนร้อยคนหักตีฝ่าออกมา จนถูกจับตัวได้
พร้อมกับกวนเป๋ง และถูกประหารชีวิตในภายหลัง ง้าว ของท่านก็ถูกพัวเจี้ยงยึดเอาไปใช้ แต่กวนหินบุตรชายของท่านก็เป็นผู้สังหารพัวเจี้ยง
และนำง้าวขององค์กวนอูกลับคืนมา



ความเคารพนับถือ



แต่เดิมชาวจีนโบราณให้ความเคารพนับถือ งักฮุย เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ในฐานะที่งักฮุย เป็นผู้มีความจงรักภักดี
ต่อชาติ ด้วยคุณธรรมความดีของงักฮุยส่งผลให้ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งความรักชาติ และ ความจงรักภักดี เป็นที่กล่าวขานกันมาเป็นเวลานาน
แต่ปัจจุบันเทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่อ ได้เปลี่ยนมาเป็นองค์กวนอูแทน ในภายหลัง


องค์กวนอูเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีน และคนไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพบูชา และศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก องค์กวนอู เปรียบเสมือนเทพเจ้าที่
ชาวจีนให้ความเคารพ กราบไหว้บูชา ในฐานะที่เป็น "เทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่อ" ไม่เพียงแต่ยกย่อง ให้ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่ออย่างเดียวเท่านั้น
หากแต่กวนอูได้รับสมญานามให้เป็นถึง “จงอี้เสินอู่กวนเสิ้งต้าตี้ “ (จีนตัวเต็ม: 忠義神武關聖大帝; พินอิน: Zhōngyì Shénwǔ Guān Shèngdàdì)
ซึ่งมีความหมายว่า "มหาเทพกวน ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ"



โดยพระเจ้าเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง เป็นผู้แต่งตั้ง เมื่อปีพ.ศ. 2187 เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึก เรื่องความสัตย์ซื่อและจงรักภักดี เพื่อเป็นต้นแบบ
ให้แก่ราษฎร ซึ่งคนจีนถือความสัตย์ เป็นใหญ่ ร่วมกับความกตัญญูรู้คุณคน ทำให้องค์กวนอู กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว และได้รับการยกย่องให้เป็น
"เทพเจ้าแห่ง ความซื่อสัตย์" สืบต่อมาเป็นเวลานาน นอกเหนือจากนี้แล้ว องค์กวนอูยังได้รับการเคารพในฐานะ เทพอุปถัมภ์ และเทพผู้ ปกป้องคุ้มครอง
ของตำรวจ, นักการเมือง และผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ


รูปปั้นขององค์กวนอู ที่พบเห็นกันจะมีอยู่  3 แบบ คือ

1) องค์กวนอู ยืนถือง้าวมังกรเขียวจันทร์เสี้ยว เหมาะสำหรับคนที่ทำงาน กินเงินเดือนบูชา
2) องค์กวนอู นั่งบนหลังม้าเซ็กเทาว์ ในมือถือง้าว เหมาะสำหรับฝ่ายบู๊  คนที่รับบราชการ ทหาร, ตำรวจบูชา
3) องค์กวนอูครองเมือง (ประทับบนบัลลังก์) เหมาะสำหรับฝ่ายบุ๋น คนที่ทำธุรกิจ และชาวบ้านทั่วไปบูชา



คำบูชากวนกง(กวนอู) แบบย่อ
นำ มอ ไต่ ชื้อ ไต่ ปุย ฮก หมอ ไต่ ตี่ เต็ก เต็ก เสี่ย จี๋ เสียง โก้ว ฮุก เง็ก อ้วง ไต่ เทียน จุนฯ ( สวดถวาย 9 จบ )

คำแปล:  ขอนอบน้อมแด่องค์พระจอมฟ้าเง็กเซียนฮ่องเต้† ผู้เป็นมเหศักดิ์เทพ เต็มเปี่ยม
             ด้วยพระมหาเมตตากรุณาธิคุณอันไพศาล สูงส่งด้วยพุทธเดชไพบูลย์ ขอได้
             โปรดเกื้อกูลอนุเคราะห์แก่สรรพสัตว์ด้วยเถิดฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 พฤศจิกายน 2018, 10:47:09 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่