-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เง็กเซียนฮ่องเต้ (玉皇大帝) จักรพรรดิหยกครองฟ้า  (อ่าน 732 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18154
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เง็กเซียนฮ่องเต้ (玉皇大帝) จักรพรรดิหยกครองฟ้า



ตามคติความเชื่อของลัทธิเต๋าของจีน เชื่อว่ามีประมุขที่ใหญ่สูงสุดในสวรรค์ คือ ประมุขฟ้า ซึ่งมักรู้จักกันว่าเป็น "เง็กเซียนฮ่องเต้"
ยังมีการขนานนามอีกหลาย ชื่อไม่ว่าจะ เง็กอ๋องไต่เต่ ,หยกอ๋องฮ่องเต้ ,หยกอ๋องส่องเต่ ,เหล่าโจ้วกง ,สมเด็จพระจักรพรรดิหยก
,เหวินเทียนจิ่วไจ้อิ้ว ,หวงเทียนจุน หรือ อิ้วหวงซังตี้ หรือ อิ้วหวงต้าตี่


หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทีกง หรือ เทียนกง 天公 แปลว่า ปู่สวรรค์ หรือปู่ฟ้า เป็นเทพเจ้าสูงสุดของจีน ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวฮกเกี้ยน
และชาวไต้หวันเรียกขานนามของพระองค์ท่านแบบใกล้ชิดเสมอญาตินั่นเอง


คำว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ คนคนไทยเรียกกันเกิดจากการผสมภาษาจีนระหว่าง 2 สำเนียง ฮกเกี้ยน กับ แต่จิ๋ว คือ เง็ก(แต้จิ๋ว)
เซียน (ฮกเกี้ยน) ฮ่องเต้ (ฮกเกี้ยน)

องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ มีมเหสี คือ พระนางซิหวังหมู่ (Hsi Wang-mu) พระนางทรงเป็นเจ้าเเม่เเห่งสวรรค์ตะวันตก เป็นเทวราชินีผู้ควบคุมกาลเวลา
เเละมิติรวมทั้งความตายอีกด้วย เจ้าเเม่มีที่ประทับอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน อีดทั้งยังมีสวนท้อทิพย์ที่ใช้จัดเลี้ยงบรรดาเซียนทุกๆ 3000 ปี
ดังนั้นรูปของเจ้าเเม่จึงมักถือท้อเป็นสัญลักษณ์ เจ้าเเม่ซิหวังหมู่ยังเป็นเทพีเเห่งการร่วมสังวาสอีกด้วย




เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเป็นเทพเจ้าสูงสุดในด้านการปกครองตามลัทธิเต๋า แต่พระองค์จะต้องทรงรับพระบัญชาหรือคำแนะนำจาก
เอวียนซื่อเทียนจุน ทรงเป็นองค์พระมหาจักรพรรดิที่ทรงปกครองเทวดาทั้งเก้าชั้นซึ่งประกอบด้วยเทวดาเป็นหมื่นๆองค์ ทรงเป็น
ใหญ่เหนือ ฟ้า ดิน และมนุษย์ ทรงเป็นผู้สร้างสวรรค์ ทรงมีพระราชอำนาจที่จะสั่งเทวดาได้ทุกชั้นฟ้า ทรงควบคุมการสงคราม
หยินและหยาง ทรงควบคุมการกำเนิด ทรงควบคุมองค์จักรพรรดิที่เป็นมนุษย์ ทรงควบคุมดูแลพื้นดิน แม่น้ำ ทรงควบคุมดูแล
เทพารักษ์ที่สถิตอยู่ ณ มหาสมุทรทั้งหมดและภูเขาทั้งห้า

สรุปได้ว่า ภาระหน้าที่ของพระองค์ก็คือ การบริหารจัดการ สวรรค์ พื้นดิน และมนุษย์  พระองค์ทรงผ่านอุปสรรคต่างๆนานา
นับประการ ความเป็นมาแห่งเง็กเซียนฮ่องเต้ตามเทวตำนานมีดังนี้




พระองค์เป็นพระโอรสแห่งกษัตริย์ประเทศกวงเหยียนเมี่ยวเล่อ คือ จักรพรรดิจิ้งเต๋อ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว
แต่ยังไม่มีพระโอรส พระธิดาที่จะสืบพระราชสมบัติเสียที พระองค์ทรงให้ราชครูและนักพรตมากมายทำการขอพระโอรส
จากสวรรค์นานเป็นครึ่งปี   
 

จนพระนางเป่าเย่ว์กวงซึ่งเป็นพระมเหสีทรงพระสุบินว่า มี นักพรตก็คือ ไท่เสียงเล่ากุน นั่งรถเทียมมังกร 5 สี มาพร้อมกับเซียนหลายพระองค์
ไท่เสียงเหล่ากุนเดินเข้ามาพระนางโดยอุ้มเด็กทารกที่มีแสงสว่างรอบตัวทำให้พระราชวังสว่างไสว พระนางปิติปรารถนาเด็กทารกนั้นมาเป็น
พระโอรส จึงวินวอนขอจากไท่เสียงเล่ากุน



ไท่เสียงเล่ากุน มอบเด็กน้อยนั้นให้แก่พระนาง หลังจากนั้นพระนางก็ทรงพระครรภ์เป็นเวลา 1 ปี และให้กำเนิดพระโอรส พระโอรสมีความ
เมตตากรุณา ชอบประกอบทำทาน ช่วยเหลือพสกนิกร และต่อมาพระราชบิดาก็สวรรคต ซึ่งต่อมาพระองค์ก็ขึ้นปกครองแทนพระราชบิดา
แต่ว่าพระองค์กลับเบื่อในการปกครองและราชสมบัติ พระองค์จึงทรงมอบพระราชบัลลังก์และราชสมบัติให้แก่พระญาติ

แล้วพระองค์เองทรงได้เสด็จไปทรงบำเพ็ญเพียรที่ภูเขาหยก แห่งเทือกเขาคุนลุ้น ซึ่งมีทะเลสาบหยก และต้นไม้หยกสูงกว่าสามร้อยวา
ต้นไม้หยกต้นนี้มีลูกเป็นสีแดง หากใครได้รับประทาน จะได้เป็นคนอมตะ คือไม่ตาย ในที่สุด หลังจากพระองค์ต้องผ่าฟันอุปสรรค
ถึง 3,200 ครั้ง จึงจะบรรลุเป็นเทพ  สำเร็จญาณชั้นสูง และทรงได้รับให้เป็นองค์จักรพรรดิหยกในที่สุด


แต่ตอนนี้มีความเชื่อว่า ประมุขจะมีการเปลี่ยนเหล่าเทพจะผลัดกันขึ้นเป็น แต่ประมุของค์ปัจจุบันคือ เทพเจ้ากวนอู นั่นเอง....



วันสำคัญขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ ที่ชาวจีนบวงสรวงเซ่นไหว้ก็คือ วันที่ 9 ค่ำ เดือน 1 ตามจันทรคติจีน
และวันที่สำคัญอีกวันหนึ่งคือวันที่ 6 ค่ำ เดือน 11 พวกนักพรตลัทธิเต๋าและผู้ที่นับถือพระองค์ ต่างก็ประกอบพิธีเซ่นไหว้ ด้วยธูปหอม
สุรา หมู ไก่ เป็ด และแพะ กล่าวกันว่าพระองค์เสวยพระกระยาหารเจ ส่วนอาหารคาวที่คนนำไปเซ่นไหว้นั้น พระองค์พระราชทาน
เลี้ยงแก่พระสหาย

นอกจากนั้น ทุกปีหลังวันตรุษจีนไปแล้ว 8 วัน ชาวจีนฮกเกี้ยนทั่วโลกจะมีพิธี ทีกง เรียกกันว่า ป่ายเทียนกง (拜天公) เพื่อเป็นการระลึก
ถึงพระคุณของเง็กเซียนฮ่องเต้และเป็นวันประสูติของพระองค์ และมีความเชื่อว่าเมื่อสมัยราชวงค์หมิงชาวจีนฮกเกี้ยนทุกรุกรานจากญี่ปุ่น
จึงพากันหนีไปหลบกันในดงอ้อย



เมื่อญี่ปุ่นยกทัพกลับไป จึงได้พากันออกมา วันนั้นเป็นวันขึ้น 9 คำ เดือน 1 (จีน) พอดีซึ่งตรงกับวัน ป่ายทีกง ชาวจีนฮกเกี้ยน
จึงเชื่อว่าที่พวกตนรอดจากการรุกรานของญี่ปุ่น เป็นเพราะทีกงช่วยเอาไว้ จึงได้จัดการป่ายทีกงในวันประสูติของเง็กเซียนฮ่องเต้
ในทุกๆปี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณ และ ได้นำต้นอ้อยมาร่วมในบูชาด้วย และอ้อยในภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า ก้ามเจี่ย (甘蔗)
ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า กัมเสี่ย (感謝)ซึ่งแปลว่า ขอบคุณ


พระรูปปั้นและรูปวาดขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้



จะทรงฉลองพระองค์เช่นเดียวกับฮ่องเต้ คือ มีพระมาลา ด้านหน้ามีเส้นร้อยไข่มุกเป็นแถวห้อยลงมาหน้าพระพักตร์ พระหัตถ์ทรงถือ
พระป้ายซือฮุดหน้าพระอุระ ด้านหลังมีพนักงานสองคนคอยโบกพัด ด้านหน้ามีองครักษ์สององค์ทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น พระองค์ทรง
ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๔ เป็นต้นมา

เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเป็นเทพเจ้าที่มีสีสัน และถูกนักกวีนักประพันธ์นั้นพระองค์ไปเป็นตัวละครในนิทาน และวรรณกรรมหลายเรื่อง
เช่น ไซอิ๋ว เป็นต้น



ชาวจีนยังเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้กุมสมุดแห่งชะตากรรม อันบันทึกดวงชะตาของมนุษย์ทุกคนไว้ แต่อีกเล่มพระองค์มอบให้พระยายม
เป็นผู้ดูแล หรือ ที่รู้จักกันว่า บัญชีเกิด-ตาย นั้นเอง ชาวจีนยังเชื่ออีกว่าในช่วง วันที่ 25 เดือน 12 พระองค์จะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์
เพื่อตรวจตราว่า ใครทำดี ทำชั่ว หากผู้ใดทำความดีพระองค์จะประทานรางวัลให้แก่คนผู้นั้น หากผู้ใดทำความชั่วพระองค์ก็จะลงทัณฑ์
แก่คนผู้นั้น
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2018, 16:04:07 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่