ไซเรน เสียงขับขานเเห่งความตายเหล่านางไซเรน (Sirens) เป็นที่รู้จักกันในลักษณะของสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งนก บ้างก็ว่าเป็นสตรีมีปีกและเท้าอย่างนก
บ้างก็ว่าเป็นนกแต่ส่วนศีรษะเป็นสตรี จุดเด่นที่เป็นที่เลื่องลือของเหล่านางไซเรนก็คือเสียงขับขานอันหวานไพเราะ
จนสามารถสะกดให้คนโดดลงจากเรือเพื่อว่ายน้ำไปหานางว่ากันว่า เหล่านางไซเรนนี้เป็นธิดาของเทพประจำแม่น้ำอะเคอะโลอัสกับเทพธิดามิวส์องค์ใดองค์หนึ่งระหว่างเมลพอมินี
กับเทอร์ปซิคะเรนางจึงเป็นนางอัปสรประจำแม่น้ำ มีจำนวนไม่แน่นอน โฮเมอร์ว่ามีเพียงสอง แต่นักเขียนหลังๆว่า
มีสามบ้าง สี่บ้าง หรือถึงแปดบ้าง
ส่วนสาเหตุที่เหล่าไซเรนต้องมีรูปร่างเป็นครึ่งคนครึ่งนกนี้ เล่ากันว่า แต่เดิม นางเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ติดตามเทวีเพอร์เซโฟนี
และอยู่ในเหตุการณ์ที่ยมเทพฮาเดสลักพาตัวเทวีไป พวกนางจึงอ้อนวอนต่อเทพบดีให้ประทานปีกให้ เพื่อที่จะได้ไล่ตามไป
แต่บางตำนานก็ว่าพวกนางถูกเทวีดิมีเทอร์สาปให้มีรูปลักษณ์เช่นนั้นเป็นการลงโทษที่ไม่ดูแลเทวีเพอร์เซโฟนี
ปล่อยให้เทพฮาเดสมาฉุดคร่าไปโดยไม่เข้าช่วยเหลือเหล่านางไซเรนนี้มีเสียงขับร้องที่ไพเราะยิ่ง จนถึงกับบังอาจท้าทายเหล่าเทพธิดามิวส์ให้ประชันขันแข่งกับตน
ด้วยได้รับการยุยงจากเทวีฮีรา แต่เหล่าไซเรนก็ยังพ่ายแพ้ และถูกเทพธิดามิวส์ลงโทษถอนขนปีกมาทำมงกุฎ
ด้วยความอับอายนางไซเรนจึงหลบเร้นไปอยู่ตามหินโสโครกแถบชายฝั่งอิตาลีตอนใต้ ใครเดินเรือผ่านก็จะขับร้อง
บทเพลงด้วยน้ำเสียงที่หวานไพเราะจับใจ จนผู้ได้ฟังจะลืมสิ้นทุกสิ่ง ลืมตัว ลืมบ้านเกิดเมืองนอน ลืมภาระหน้าที่
(คงลืมตาด้วยมั้ง) รู้อย่างเดียวว่าจะต้องไปหาผู้ที่ขับขานนั้นให้ได้ แล้วก็จะโดดลงจากเรือ ว่ายน้ำไปหานางไซเรน
แล้วก็ถูกจับกิน หรือไม่ก็ว่ายน้ำไปแล้วก็หลงใหลได้ปลื้มกับเสียงนั้น ไม่เป็นอันกินอันนอนจนขาดใจตาย
แต่ผู้ที่รอดจากนางไซเรนได้ก็มี คือเมื่อครั้งที่เรืออาร์โก (Argo เรือที่เจสันกับพรรคพวกใช้เดินทางไปเสาะหา
ขนแกะทองคำ แล่นผ่านดงไซเรน ออร์ฟิอุสก็ขับพิณกลบเสียงนางเสียหมด มีเพียงบูเทสที่แว่วเสียงของนางไซเรน
และโดดลงจากเรือไป แต่เทวีอโฟรไดทีคว้าตัวไว้ทัน แล้วพาไปไว้ที่เกาลิลิเบอุมในซิซิลี และว่ากันว่าบูเทส
ได้สมสู่กับเทวีจนเทวีให้กำเนิดบุตร ๑ คน คือ เอริกซ์ (Eryx)ต่อมา เมื่อโอดิสซีอุสแล่นเรือผ่านมา ก็รอดไปได้อีก เพราะนางเซอร์เซให้คำแนะนำไว้แล้ว คือให้เอาขี้ผึ้งอุดหูไว้
ไม่ให้ได้ยินเสียงของนางไซเรนก็จะปลอดภัย แต่ด้วยความที่อยากฟังเสียงอันเป็นที่เลื่องลือของเหล่านางไซเรน
โอดิสซีอุสจึงสั่งให้ทหารและลูกเรือทุกคนเอาขี้ผุ้งอุดหูให้สนิท แล้วมัดโอดิสซีอุสไว้กับเสากระโดงเรือให้แน่นหนา
และสั่งเด็ดขาดว่าไม่ว่าตนจะดิ้นรนอ้อนวอนหรือขู่เข็ญสาปแช่งด่าพ่อล่อแม่อย่างไรก็ห้ามแก้มัดให้เด็ดขาดจนกว่า
จะพ้นรัศมีเสียงของนางไซเรน (สงสัยจริ๊งว่าถ้าคนอื่นๆมันเอาขี้ผึ้งยัดหูจนไม่ได้ยินเสียงไซเรน
แล้วมันจะไปได้ยินเสียงโอดิสซีอุสได้ไงหว่า) แต่ก็เอาเป็นว่า ทั้งโอดิสซีอุสและคนอื่นๆบนเรือก็ล้วนรอด
ผ่านเกาะของเหล่าไซเรนไปได้อย่างปลอดภัย
เหล่านางไซเรนนั้น จะต้องถึงแก่ชีวิตหากมีผู้ใดรอดชีวิตมาได้หลังฟังบทเพลงของนาง เมื่อโอดิสซีอุสสามารถรอด
ไปได้หลังจากนั้น เหล่านางไซเรนจึงกลายเป็นหินไป นอกจากนางพาร์เธโนเพ ซึ่งโดดลงทะเลด้วยความโกรธ
ศพของนางถูกคลื่นซัดมาเกยหาด และมีการก่อสุสานให้นางตรงบริเวณที่ต่อมากลายเป็นเมืองเนเปิลส์
ชื่อของเหล่านางไซเรนนั้น เป็นที่มาของคำศัพท์หลายคำ เช่น ไซเรนหรือหวอของรถพยาบาล รถตำรวจ รถดับเพลิง
และยังหมายถึงหญิงที่มีเสน่ห์ตรึงใจชายเป็นพิเศษ หรือนักร้องหญิงที่มีเสียงไพเราะมาก หรือเป็นคุณศัพท์ หมายถึง
มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ทำให้หลงใหล เป็นคำกริยา แปลว่าล่อให้หลง ยั่วยวน และเป็นชื่อปลาชนิดหนึ่งด้วย*************************
แถมท้ายให้นิดนึง เล่าเรื่องของไซเรนไปแล้ว เลยจะเล่าเรื่องไซเลนท์บ้าง ไซเลนท์ (Silent) ชื่อก็บอกอยู่แล้ว
ว่าเป็นตัวเงียบ เป็นตำนานสัญชาติเคียวเล่าว่า ไซเลนท์เป็นตัวเงียบ เวลาชาวเรือออกเรือก็จะมายืนทำตาโปนๆ
อยู่เงียบๆ ที่หัวเรือ จนลูกเรือช็อคตายไปเอง วิธีป้องกันให้เซ่นเจ้าแม่เคียวด้วยซาชิมิแซลมอนก่อนออกเรือ
จะปลอดภัยแคล้วคลาด มิฉะนั้น พึงระวัง!!!!!