เรื่องที่ 8ค่ำคืนวันแต่งงาน หลังจากส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอไม่นาน ก็มีเสียงสนทนาเล็ดลอดออกมาจากห้องหอเบา ๆ
"ที่รักจ๊ะทำไมมันหลวมจังเลยล่ะ ?"
อีกเสียงตอบกลับ
"เอ มันไม่น่าจะหลวมนะ ของเธอเล็กเองหรือเปล่า ? มาว่าของเค้าหลวมน่ะ ?"
"เป็นไปไม่ได้ ของฉันมันก็เท่านี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ มันหลวมจริง ๆ"
"ช่างเถอะ ๆ ดึกแล้ว นอนเถอะที่รัก
แหวนมันหลวมเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปเปลี่ยนใหม่
แปลกจริง ๆ ก่อนหมั้นก็พาไปเลือกลองใส่ดูแล้ว ไม่น่าจะหลวมนะ " เรื่องที่ 9สองสามีภรรยาเกี่ยวข้าวอยู่กลางทุ่งนาท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดแดดแผดจ้า
ในขณะนั้น ตำรวจวิ่งไล่จับคนลักลอบเล่นการพนันลงมากลางทุ่งนาเห็นแต่ไกล
ฝ่ายสามีให้สงสัย จึงเอ่ยปากถามภรรยา
สามี : "เอ๊ะ! นั่นตำรวจมาจับอะไรน่ะเธอ ?"
ฝ่ายภรรยา ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย จึงเอ่ยตอบตัดรำคาญว่า
ภรรยา "จะไปรู้แม่งเรอะ .... สงสัยตำรวจเค้าจะมาจับคนแอบล่อ X ควายมั้ง ? "
จบคำสามีทิ้งเคียวลงกับพื้นโกยแน่บปล่อยให้เมียยืนงุนงงอยู่
ภรรยา
"อ้าว....ไอ้นี่.....แอบล่อ X ควายเรอะ? " เรื่องที่ 10หนุ่มคนหนึ่งพาสาวสวยมาที่บ้าน พัก
ซึ่งแวดล้อมไปด้วยเสียงของนกไนติงเกลสม่ำเสมอ
ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเข้าห้องน้ำอยู่
ดังนั้นจึงผายลม(ตด)ออกมาเสียงแหลมปี๊ด
พอดีกับที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ
ด้วยความอายสาวเจ้าจึงพูดกลบเกลื่อน
หญิงสาว : "อุ๊ย! คุณได้ยินเสียงนกไนติงเกลไหมคะ ?"
ชายหนุ่ม : "ไม่ได้ยินนะ...
ว่าแต่ว่า...
มันร้อง ก่อน หรือ หลัง เธอตดล่ะ ? ".... เขินเรื่องที่ 11หลังจากโรงเรียนเลิก ครูปราณีเดินผ่านมา
เห็น ด.ช.พลับ นั่งซึมอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้จึงเดินเข้าไปถาม
ครูปราณี : "อ้าวพลับทำไมยังไม่กลับ บ้านอีก มานั่งซึมทำไม ? "
ด.ช.พลับ : "ผมไม่อยากกลับบ้านครับ ครู ผมอับอายจนทนไม่ได้"
ครูปราณี : "มีเรื่องอะไรล่ะ ไหนเล่าให้ครูฟังซิ ?"
ด.ช.พลับ : "ก็ที่บ้านผม ญาติพี่น้องผม พากันทำเรื่องน่าอับอาย ได้เสียกันหมดแล้ว"
ครูปราณี : "ไหนเธอลองอธิบายให้ครู ฟังซิ ?"
ด.ช.พลับ : "ที่บ้านผม ปู่ก็ได้กับย่า ตาก็ได้กับยาย ลุงก็ได้กับป้า
และที่ผมทนไม่ได้ที่สุดก็คือ เมื่อคืนนี้ ผมพบว่า
พ่อกับแม่ ได้เสียกันแล้ว"
ครูปราณี........... เรื่องที่ 12สามีภรรยาคู่หนึ่ง ตกลงกันไว้ว่า หากต้องการมีอะไรกุ๊กกิ๊กกัน ให้ส่งรหัสว่า"พิมพ์ดีด"
วันหนึ่งหลังรับประทานอาหารเย็น สามีก็เกิดความต้องการ จึงให้ลูกไปบอกแม่ที่กำลังล้างจานว่า
"ให้รีบล้างจานเร็วหน่อย พ่อจะให้ช่วยพิมพ์ดีด"
แม่กำลังเหนื่อยล้างจานก็ไม่เสร็จจึงให้ลูกไปตอบพ่อว่า
"เครื่องพิมพ์เสีย ซ่อมยังไม่เสร็จ"
จนแม่ล้างจานเสร็จแล้ว หายเหนื่อยแล้ว ก็เกิดสงสารพ่อขึ้นมา จึงให้ลูกไปบอกพ่อว่า ซ่อมเครื่องพิมพ์เสร็จแล้ว
ให้พ่อเตรียมงานไว้ เดี๋ยวจะไปช่วยพิมพ์ให้พ่อตอบมาว่า
"บอกแม่ด้วยนะลูก ไม่ทันแล้วหละ พ่อเขียนด้วยมือเสร็จแล้ว" เรื่องที่ 13....มีค้างคาวดูดเลือดสาม ตัวเป็นเพื่อนกันมานาน พากันอาศัยอยู่ในถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่ง ในละแวกนั้นมีการแย่งที่อยู่กันมากเนื่องจากปัญหาประชากร
ที่ไม่ได้มีการวางแผนครอบครัว ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจที่จะละทิ้งถ้ำไว้แล้วออกไปหากินพร้อมกันทั้งสามตัว ได้ พวกมันจึงตกลงกันว่าจะผลัดกัน
ออกหากินทีละตัว ตัวละสามชั่วโมง เมื่อทุกตัวยอมรับมติที่ประชุมแล้ว พอตกเย็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ตัวที่หนึ่งจึงออกไปหากินก่อน
แต่มันไปเกินเวลาที่กำหนดไว้ร่วมชั่วโมงทีเดียวเพื่อนที่รอก็พากันหิว จนเวลาห้าทุ่มเศษตัวที่หนึ่งจึงกลับมา มันได้กินแค่นิดเดียว ดูที่ปากแล้ว
ไม่มีรอยเลือดติดอยู่เลย คาดว่าคงกินผลไม้มา พอตัวที่หนึ่งมาถึงตัวที่สองก็ออกไป คราวนี้ มันก็เลยกินเวลาของตัวที่สามบ้าง โดยมันไม่คิดเลย
ว่าตัวที่สามรอจนไส้กิ่วแล้วเวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ตัวที่สองจึงกลับมา แต่มันก็ไม่ได้กินมากไปกว่าตัวแรกเท่าใดนัก
ตัวที่สามพอเห็นตัวที่สองเข้ามาก็เลยต่อว่า
“ไปยังไงวะ ข้ารอตั้งนาน ได้กินแค่นี้เอง”พูดจบมันก็รีบรุดออกไป ผ่านไปห้านาที มันก็กลับเข้ามาแถมเอามือเช็ดเลือดที่ติดอยู่ที่ปากท่าทางจะอร่อยน่าดู
สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนค้างคาวทั้งสองยิ่งนัก เพราะพวกมันได้กินแต่ผลไม้ จึงพากันถาม
ตัวที่ 1 “แกไปหากินยังไงวะถึงได้เร็วขนาดนั้น แถมได้เลือดมาด้วย”
ตัวที่ 3 ย้อนถาม “พวกแกเห็นต้นไม้ใหญ่หน้าถ้ำไหม วะ?”
ตัวที่ 1 “เห็น”
ตัวที่ 2 “ข้าก็เห็น”
ตัวที่ 3
“ เออ!นั่นแหละ ข้าไม่เห็น “เพื่อนๆ !!!!!!!!!!
เรื่องที่ 14มาเล่าเรื่อง ขำ ๆ ในวันสุข ก่อนจะถึงวันหยุดดีกว่าครับ
หนุ่มน้อยชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งได้หมั้นหมายกับสาวน้อยแรกรุ่นต่างเผ่า
ด้วยความคิดถึงทรวดทรงอันอวบอิ่ม สมวัยแรกสาวบานสะพรุ่งของคู่หมั้นหมาย....
หนุ่มชาวเขาตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้น จะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนคู่หมั้นสาวให้หายคิดถึง
เย็นวันนั้นหนุ่มบอกกับแม่ของเขาว่า กางเกงในที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้ว ใส่มา 3 เดือน
ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย แม่ช่วยไปซื้อผ้ามาตัดให้ใหม่ที
แม่ของหนุ่มรีบรุดออกไปตลาดซื้อผ้าใหม่มา 5 เมตร และ ตัดเย็บกางเกงในอย่างประณีตสุดฝีมือ
ให้ไอ้หนุ่มของเรา โดยใช้ผ้าหมดไป 2 เมตร ยังเหลือเก็บไว้อีก 3 เมตร
รุ่งเช้าหนุ่มชาวเขาของเราก็รีบใส่กางเกงในตัวใหม่เอี่ยมแล้วสวมผ้าเตี่ยว ทับ และออกเดินทางไปหาคู่หมั้นสาวทันทีมิรีรอ
ระหว่างทางเกิดปวดท้องหนักกะทันหัน ต้องแวะป่าข้างทางเพื่อปลดทุกข์ ไอ้หนุ่มกลัวกางเกงในใหม่จะเปื้อนจึงถอดแขวนไว้กับกิ่งไม้
แต่ด้วยอารามรีบร้อนอยากพบหน้าคู่หมั้นสาว เมื่อเสร็จภารกิจก็รีบออกเดินทางในทันที
.....อนิจจา ไอ้หนุ่มของเราลืมใส่กางเกงในที่แขวนไว้กับกิ่งไม้ไปด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคู่หมั้นสาวในตอนเย็น ว่าที่พ่อตาได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน โดยทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น
ไอ้หนุ่มของเราเลือกนั่งตรงข้ามกับคู่หมั้นสาวเพื่อจะโชว์กางเกงในตัวใหม่ ของเขาให้คู่หมั้นสาวดู
ไอ้หนุ่มพยายามนั่งกางขาอย่างเต็มที่เพื่อให้คู่หมั้นสาวได้เห็นกางเกงในตัว ใหม่ของเขาได้ชัดๆเต็มตา
เมื่อคู่หมั้นสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผ้าเตี่ยว.....ก็เกิดอาการช็อคอ้า ปากค้าง.....
....ไอ้หนุ่มกระหยิ่มในใจคิดว่าคู่หมั้นสาวประทับใจในกางเกงในตัวใหม่ของเขา จึงลองถามออกไปว่า..
“ชอบไหมจ๊ะที่รัก...ผมยังเหลืออีกตั้งสามเมตร เก็บไว้ที่บ้านนะ”
คู่หมั้นสาวเป็นลมหงายหลัง ตึงในทันที.......เรื่องที่ 15เคยมีเพื่อนซี้แหงย่ำปึ้กอยู่คนนึง เป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วย เรียกว่าเป็นบัดดี้กันเลย
แต่ตอนนี้แยกย้ายกันไปตามภาระหน้าที่เพื่อนคนนี้มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ตอนนั้น ก็อายุประมาณหกขวบ
วันหนึ่ง เพื่อนก็มาบ่นให้ฟัง
เพื่อน : “ไม่ไหวว่ะ เราสงสัยลูกชายเราท่าทางจะขี้แย... แม่งใจเสาะอิ๊บอ๋ายเลยว่ะ”
เราก็ปลอบใจไปตามประสา : “ยังเด็กอยู่มั้งเพื่อน... แล้วมีไรล่ะ ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น”
เพื่อน : “ก็เมื่อวานดิ่.. แม่งไปเล่นซนในครัว ทำสากกระเบือครกหิน ตกใส่หัวแม่ตีนหน่อยเดียว
ร้องไห้ซะลั่นบ้านเลย”