-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ  (อ่าน 572 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป
เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ
« เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 01:11:09 »

เรื่องที่จะ อ่านต่อไปนี้ เป็นเรื่องเล่า จาก Mail Forward
================================

ลุงและพ่อหันมองหน้ากัน ด้วยสีหน้าและแววตาที่มีค่อยจะสู้ดีนัก

ผมจะพวกบรรดาหลานๆของปู่ต่างไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา

บรรยากาศเงียบวังเวงจนน่าสะพรึงกลัว

ศพของปู่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าผวยผืนใหม่ตั้งแต่คอจรดเท้า เหลือไว้เพียงส่วนศีรษะ สามารถมองใบหน้าของปู่ได้ชัด หน้าของปู่ซีดคล้ำอมเขียวผิวหนังเหอย!!!่ยวยับย่น เปลือกปากเผยอจนเห็นฟันดำเป็นรางๆ เปลือกตาปิดสนิท นอนเหยียดยาวอยู่เหนือเสื่อจูดกลางบ้านไม้โบราณซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยทวด มันเก่าแก่พอที่จะทำให้พวกเราบรรดาหลานๆของปู่ ไม่กล้าที่จะขึ้นมาเดินหรือวิ่งเล่นคนเดียว แม้ในเวลากลางวันก็ตาม โดยเฉพาะฉากรูปถ่ายของทวด ซึ่งเก่าคร่ำคร่าน่ากลัวมาก เวลาเดินผ่านเหมือนกำลังถูกสายตาของทวดจดจ้องอยู่ตลอดเวลา

บ้านไม้ของปู่หลังนี้เป็นบ้านไม้โบราณทรงปั้นหยามุงกระเบื้องดินเผายกพื้นสูงปล่อยใต้ถุนโล่ง ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ในไร่นาต่างๆ รวมถึงเป็นที่นั่งเย็บจาก สานอะไรต่อมิอะไรมากมายตอนที่ปู่มีชีวิตอยู่ ปู่มีลูกสองคน เป็นชายทั้งหมด คือพ่อกับลุง หลังจากย่าตายปู่ก็อยู่คนเดียว โดยพ่อกับลุงพอแต่งงานมีครอบครัวต่างแยกตัวออกไปสร้างบ้านใหม่ แต่ก็ไม่ไกลออกไปนัก

ขณะนี้เหนือศพของปู่ซึ่งถูกคลุมด้วยผ้าผวยบริเวณอก ไอ้นิล แมวขนสีดำสนิทขึ้นไปนอนคู้กายเอาหัวแนบลำตัวอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาหลายสิบคู่ที่กำลังจ้องมองมันอย่างตระหนกตื่นหวาดผวา ซึ่งก่อนหน้าที่มันจะขึ้นไปนอนบนอกมันได้เดินวนเวียนปีนข้ามร่างปู่ไปมา เอาหัวไถถูตามศีรษะและร่างของปู่คล้ายไม่รับรู้ว่าปู่ได้จากโลกไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงร่างกายที่ปราศจากวิญญาณเท่านั้น มันปฏิบัติเหมือนตอนปู่มีชีวิตทุกประการ ชอบเคลียคลอประจบประแจง ขึ้นไปนอนบนอกเวลาปู่นอน

ตอนที่ปู่มีชีวิตอยู่ ไอ้นิลเป็นเหมือนลูกคนที่สามของแกในยามบั้นปลายชีวิตที่ใกล้ชิดและรักแกมาก ถ้าหากวัดความรักโดยการคอยเคลียคลอเอาใจใส่ไม่หลบหนีห่างหายไปไหน และทำให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุข ไอ้นิลเข้าข่ายทุกประการ และเช่นกัน ปู่ก็รักไอ้นิลมาก สังเกตจากการที่ทุกวันตลาดนัด สิ่งที่ปู่จะลืมไม่ได้ในการไปจับจ่ายซื้อของมากักตุนเอาไว้ นอกเหนือจาก ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา เครื่องแกง น้ำมันพืช หรืออะไรต่างๆแล้ว ปลาทูนึ่งซึ่งสำหรับซาวข้าวให้ไอ้นิลกิน คือสิ่งที่ปู่ต้องซื้อทุกครั้ง ปู่จะกะประมาณซื้อปลาทูนึ่งเอาไว้พอเพียงกับชั่วระยะเวลากว่าจะถึงวันตลาดนัดอีก

การปฏิบัติของปู่ที่มีต่อไอ้นิล บางครั้วพวกเราหลานๆพากันคิดว่าท่านรักไอ้นิลมากกว่าพวกเราซึ่งเป็นหลานแท้ๆของแกเสียอีก

แต่ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะพวกเราถึงจะเป็นหลาน ก็น้อยครั้งเหลือเกินที่จะคอยมาเอาใจใส่ปู่ เรามักจะคิดว่าท่านคนแก่ก็อยู่ส่วนท่าน เราเด็กๆก็อยู่ส่วนเรา ต่างมีโลกส่วนตัวคนละโลก โลกของคนแก่เป็นโลกที่เฉื่อยๆเนือยๆ ตื่นนอนล้างหน้าพูดจากับสัตว์เลี้ยงหุงหาข้าวปลาให้ต้นและสัตว์เลี้ยงกิน จากนั้นก็ละลายเวลาให้หมดไปกับการนั่งเหม่อลอยหรือทำงานจุกจิกอะไรสักอย่าง จนกว่าจะค่ำ กินข้าวเข้านอน วนเวียนอยู่อย่างนี้...น่าเบื่อ ไม่เหมือนโลกของเราเด็กๆที่เต็มไปด้วยความสดใสสนุกสนานร่าเริงโลดโผน ตื่นเต้นอยู่ตลอด

ในที่สุด ลุงเป็นคนทำลายบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวนั้นด้วยการลุกขึ้นไปหาเรียวไม้มาตีไล่พร้อมทั้งตวาดด้วยเสียงอันดัง ไอ้นิลกระโดดหนี ร้องด้วยความตื่นกลัว มิวายลุงก็ยังใช้ให้ผมและพวกหลานๆของปู่ช่วยกันไล่ตีไอ้นิลให้ไปให้พ้นจากบริเวณบ้าน

ได้ผล ไอ้นิลกระโดดหนีหายเข้าไปในป่าหลังบ้านอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหวนกลับมาอีก มันคงจะมีสำเหนียกแล้วว่า เวลานี้ไม่มีที่พึ่งให้มันพึ่งพาประจบประแจงอีกแล้ว

งานศพของปู่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต ด้วยการร่วมกันดำเนินงานระหว่างพ่อกับลุง โดยตกลงกันว่าจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล ๗ คืน ทุกคนจะมีพระมาสวดอภิธรรม ๓ เตียง ผมและหลานๆของปู่ถูกมอบหน้าที่ให้ค่อยต้อนรับจัดเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาในงาน พ่อและลุงสั่งให้ล้มวัวสองตัวที่ปู่เคยเลี้ยงไว้ในขณะมีชีวิตอยู่เพื่อเลี้ยงแขก แต่กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนคนที่มาในงานที่นับวันจะเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดจึงต้องสั่งซื้อมาอีก ๓ ตัว

สิ่งที่ผมสังเกตได้คือ ตอนหัวค่ำช่วงพิธีกรรมทางศาสนาคนจะไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ที่มานั่งฟังพระสวดอภิธรรมส่วนมากจะเป็นคนเฒ่าคนแก่ในละแวกบ้านใกล้ๆเคียงที่รู้จักมักคุ้นกัน แต่พอหลังจากพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จแล้วลับหลังพระกลับวัด บริเวณลานพิธีจะถูกแปรสภาพเป็นบ่อนขนาดย่อมทันที มีผู้คนมากมาย ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้นหน้าว่าเป็นญาติฝ่ายไหนของปู่กันแน่แห่กันมาล้อมวงเล่นการพนันจำพวกไพ่ ปอ ไฮไล จนแน่นขนัด ตั้งแต่ค่ำยันเกือบสว่าง บางวันพระออกบิณฑบาตแล้วยังไม่เลิกก็มี ยิ่งนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนวงการเล่นออกไป จากหนึ่งวงเป็นสอง เป็นสามเป็นสี่ และพอถึงวันงานคืนสุดท้าย รอบบริเวณบ้านเต็มไปด้วยวงการพนัน ภาระการเลี้ยงดูอาหารซึ่งผมและบรรดาหลานๆของปู่ต้องคอยดูแลพวกที่มาในงานจึงค่อนข้างหนักหนาสาหัสเอาพอสมควร บางคนมาทั้งครอบครัว กินกันคนละหลายๆรอบ มิหนำซ้ำยังตักใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมไว้เอากลับไปกินที่บ้านก็มี

พ่อกับลุงมักจะขลุกอยู่ที่โต๊ะรับซองทำบุญจากแขกที่มาในงาน ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันจนผมอดสงสัยมิได้ว่าท่านทั้งสองมีเรื่องอะไรผิดใจกันหรือเปล่า เพราะช่วงตลอดวันงานที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าทั้งสองมีเรื่องที่ถกเถียงจนขึ้นเสียงกันถึงสามครั้ง

วันเผาศพของปู่ผู้คนมากันจนเต็มศาลาคู่เมรุเผาศพที่วัด แต่ถ้าหากเทียบจำนวนคนในคืนสุดท้ายที่บ้าน นับว่าคนที่มาในวันเผาน้อยกว่ามาก พ่อกับลุงจากตอนแรกก่อนจะเข้างานตกลงกันว่าจะนิมนต์พระสวดมาติกาบังสุกุลวันเผาให้เท่ากับจำนวนอายุของปู่ คือ ๘๕ ปี จะนิมนต์พระให้ได้ ๘๕ รูป ถวายปัจจัยรูปละ ๑๐๐ บาท แต่เอาเข้าจริงๆ ได้เพยง ๑๕ รูป เท่านั้น ซึ่งเหตุผลในเรื่องนี้ผมมารู้เอาก็หลังจากเสร็จงานศพปู่เรียบร้อยแล้ว

?...มึกยักยอกเงินทำบุญไปใช่มั้ย...!

?xxxพูดอะไรวะ...! ก็เห็นอยู่แล้วรายจ่ายในงานมากขนาดไหน เงินทำบุญนิดเดียวจะไปพออะไร?

?แต่กูเห็นxxxอุ้มขวดโหลใส่เงินเข้าไปนับในบ้านคืนแรกๆตั้งหลายหน มันน่าจะได้มากกว่านี้ ดีนะที่คืนหลังๆกูไหวตัวทัน ไม่นึกว่าน้องในไส้แท้ๆอย่างxxxจะอุบาทว์ถึงเพียงนี้+W

?ก็กูบอกแล้ว...กูไม่ได้ยักยอก?

?xxxยังจะปากแข็งอีก กูไม่ขอมีน้องอย่างxxx!?

?ไอ้สัตว์!...กูก็ไม่ขอมีพี่อย่างxxxเช่นกัน?

?ดี!...นับแต่วันนี้เราขาดกัน?

หลังจากเผาศพปู่เสร็จกลับถึงบ้านพ่อกับลุงงก็มีปากเสียงกันถึงขั้นตัดพี่ตัดน้อง งานศพของปู่ถึงแม้คนภายนอกจะมองว่าผ่านไปได้ด้วยดีและอย่างยิ่งใหญ่ แต่หารู้ไม่ว่ามันได้สร้างหนี้สินที่ติดค้างค่าเครื่องไฟ ค่าวัว ค่าหมู ค่าวงดนตรี ค่าภาพยนตร์ ค่าอาหารจำพวกอื่นๆ ค่าเตนท์ โดยเฉพาะค่าเหล้าค่าเบียร์ที่ลุงและพ่อไปเซ็นยกมาเป็นลังๆ เลี้ยงแขกที่มาในงาน ไม่รวมถึงค่าไฟฟ้าที่จะต้องจ่ายอีกไม่รู้เท่าไหร่ในปลายเดือน รวมเบ็ดเสร็จเป็นเงินกว่าหนึ่งแสนบาท

สุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างปัดความรับผิดชอบภาระหนี้สิน จึงหาทางออกโดยการขายมรดกสุดท้ายของปู่ นั้นก็คือบ้านโบราณพร้อมกับที่ดิน เพื่อชำระหนี้

วันที่เจ้าของที่ใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านผู้มีอันจะกินรายหนึ่ง สั่งให้รื้อบ้านโบราณทิ้งเพื่อปรับให้เป็นสวนปลูกมะนาว ผมนืนมองภาพบ้านโบราณของปู่ด้วยความรู้สึกรันทดหดหู่และเสียดายจับใจ ฉากรูปของทวดถูกปลดโยนทิ้งแตกกระจายอย่างไม่มีใครไยดี แผ่นกระดานแผ่นแล้วแผ่นเล่าถูกงัดออกมาทิ้งกอง กระเบื้องดินเผาร่วงตกหล่นแตกเกลื่อนกลาด

?เหม็นอะไรวะ...?? คนงานคนหนึ่งบ่นออกมา

ตอนช่วงแรกที่ยืนมองการรื้อบ้านผมก็สัมผัสถึงกลิ่นมาก่อนแล้ว แต่เพิ่งมาเหม็นฉุนแรงขึ้นเมื่อคนงานดังกล่าวพูดบ่นให้ได้ยิน กลิ่นเหม็นคล้ายหนูตาย จากนั้นพวกคนงานก็ช่วยกันเลื่อนตู้ไม้โบราณเก่าจนเกือบใช้การไม่ได้ออกจากมุมฝาบ้าน เสียงหนึ่งในจำนวนคนงานร่วม ๑๐ คนก็เล็ดลอดเหมือนอุทานออกมา

?แมวตาย?

ผมพรวดไปยังสถานที่นั้น ภาพที่เห็น จำได้ในทันทีเลยว่าคือ ไอ้นิล แมวสุดที่รักของปู่ที่ถูกผมและพวกหลานๆคนอื่นไล่ตีในวันที่ปู่หมดลม มันคงหนีตายจากนั้นด้วยความที่ไม่มีที่ไปหรือด้วยความรัก อะไรสักอย่างจึงแอบย่องกลับมายังที่เดิม แต่ด้วยพิษความบอบช้ำจากการถูกทุบตี และความอดหิว คงทำให้มันต้องสิ้นใจตายอย่างทุกข์ทรมานในที่สุด ผมมองร่างไอ้นิลที่ผอมฟุบนอนตายซาก แววตาแห้งกรังมีร่องรอยการกัดแทะกินของมดให้เห็น เนื้อตรงบริเวณท้องเริ่มเละเน่า เพราะถูกตัวหนอนชอนไช ส่งกลิ่นเหม็นจนหลายคนในที่นั้นต้องเบือนหน้าหนี

?โบราณบอกว่า แมวดำอย่างนี้ถ้ามันข้ามศพใคร ศพนั้นจะเฮี้ยนนัก?

คนงานหนึ่งในนั้นเอ่ยออกมา ขณะที่คนงานเหล่านั้นกำลังคุยกันอย่างครึกครื้นอยู่นั้น ผมขออาสานำซากของไอ้นิลไปทิ้ง โดยจับหางหิ้วเดินไปอย่างเงียบๆ แล้วจัดการเอาไปฝังไว้ที่ใต้ต้นมังคุดใกล้ๆบ้านของพ่อ

มาถึงตรงนี้ผมรู้แล้วว่า การที่ไอ้นิลข้ามศพปู่ในวันแรกมันบ่งบอกอะไรแก่พวกเราลูกๆหลานๆปู่บ้าง ถึงแม้ปู่จะไม่ลุกขึ้นมาหลอกหลอนใครต่อใครให้ต้องหวาดสะพรึงกลัว แต่สภาพความเป็นไปปัจจุบันระหว่างเหล่าลูกๆหลานๆของปู่ ที่ล้วนมีรอยร้าวฉานระหว่างใจคอยหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา มันน่าสะพรึงกลัวกว่าเป็นร้อยเท่านัก

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 09:40:12 »

หง่ะ นึกงัยไปข้ามศพเล่นละนั้น

pulohid

  • บุคคลทั่วไป
Re: เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2008, 13:05:12 »

แถววัดก็ชอบมีนะแมวดำนี่

Tor

  • บุคคลทั่วไป
Re: เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2008, 09:45:35 »

สรุปว่าคนน่ากัวกว่าผีอีกซิเนี่ย

mint555

  • บุคคลทั่วไป
Re: เฮี้ยน !!! ระวัง แมวดำ ข้ามศพ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2008, 10:05:47 »

บางที่ไม่มีแมวให้โดดเพราะโดนจับกินหมด