-->

ผู้เขียน หัวข้อ: วิญญาณของคนตาย  (อ่าน 524 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป
วิญญาณของคนตาย
« เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 01:34:37 »

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกตอนนั้ข้าพเจ้าเรียนจบ ปวช.แล้วมาสมัครเรียนต่อที่กรุงเทพฯหลังจากสมัครเสร็จแล้วก็เลยไปเดินเที่ยวห้างย่านลาดพร้าว ซึ่งสมัยนั้นใครมากรุงเทพฯต้องเดินที่ห้างนี้ตลอด ประกอบกับได้เจอเพื่อนที่มาจากจังหวัดเดียวกันเลยนั่งคุยกันจนเพลินเลยกับบ้านด้วยรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายซึ่งเพื่อนก็ชวนให้นอนด้วยกัน แต่ข้าพเจ้าเป็นห่วงเรื่องที่จะต้องเล่นฟุตบอลในวันรุ่งขึ้นเลยตอบปฏิเสธเพื่อนไป รถออกจากหมอชิตประมาณ 17.20น.และมาจอดเสียกลางทางเพราะแอร์เสียอีกเกือบ3ชั่วโมงกว่าจะซ่อมเสร็จ ไปถึงทางเข้าบ้านประมาณเกือบเที่ยงคืนซึ่งบ้านข้าพเจ้าแยกจากถนนใหญ่เข้าไปอีก 3 กม.ปกติทุกวันเสาร์ปากทางเข้าบ้านข้าพเจ้ามักจะมีหนังมาฉายปิดวิกเป็นประจำและเพื่อนข้าพเจ้าก็จะออกมาเที่ยว แต่วันนี้ฝนตกแม้ไม่แรงแต่ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องเดินเข้าบ้าน ซึ่งทั้งสองข้างทางจะมีบ้านคนตลอดแต่ห่างกันมากๆข้าพเจ้าเดินไปเรื่อยๆพร้อมฟังหมาหอนทำเอาขนลุกไปด้วยจนดกระทั่งถึงป่าช้าก่อนถึงวัดข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะมองไปที่บริเวณที่ฝังศพก็เห็นไฟแดงๆเข้าใจว่าคงเป็นพระเผาหญ้าแน่ๆซึ่งข้าพเจ้าก็เคยมาช่วยอยู่บ่อยๆผ่านป่าช้าจนถึงหน้าวัดหมายิ่งหอนแรงขึ้นฝนยังคงตกอยู่มองไปบนศาลาเห็นเทียนสว่างอยู่เล็กน้อยนอกจากเสียงหมาหอนแล้วได้ยินเสียงคนสวดมนต์ดังมาจากศาลาคงเป็นคนแก่คนเฒ่าที่มาถือศีลนั่นแปลว่าวันนี้วันพระน่ะสิ ข้าพเจ้าใจหายวูบความกลัวแล่นมาจับใจทันที เลยเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะให้ถึงบ้านไวๆเพียงแค่อีกประมาณ 700 เมตรเอง ท้องฟ้ามืดมิดไฟฟ้าตามบ้านคนมืดสนิทไฟฟ้าคงดับช่วงที่ฟ้าแลบข้าพเจ้ามองไปที่ใต้ต้นจันทร์ที่เลยวัดมาเล็กน้อยต้นจันทร์ต้นนี้ข้าเจ้าเห็นมาแต่เด็กๆแล้วทางวัดได้ทำเป็นที่นั่งเล่นไว้ ตาข้าพเจ้าไม่ฝาดข้าพเจ้าเห็นคนนั่งอยู่ใส่เสื้อคอกลมสีขาวนุ่งโสร่งลาย ฟ้าแลบอีกครั้งในขณะที่ข้าพเจ้าเดินเข้าไปใกล้ต้นจันทร์มากขึ้นข้าพเจ้าเห็นแล้วไม่ใช่ใครที่ไหน ตาเอียดคนบ้านเดียวกันนี่เองแกคงมาถือศีลที่วัดเหมือนทุกครั้ง ข้าพเจ้าคลายความกลัวลงมากเมื่อเจอคนรู้จักแกส่งเสียงทัก
          "ไปไหนมาว่ะ กลับเสียดึกเลย"
      "ไปสมัครเรียนมาจ๊ะตา ทำไมตามานั่งอยู่นี่ล่ะ"
          "นอนไม่หลับโว้ย"
ฟ้าแลบอีกครั้ง ข้าพเจ้าเห็นหน้าตาเอียดค่อนข้างซีดและไม่มีเลือดฝาดเลย หมาหอนอย่างโหยหวนชวนขนลุกยิ่งนัก และที่สำคัญข้าพเจ้าได้กลิ่นเหมือนหมาเน่าตายลอยมากระทบจมูกยามลมโชยมาจนต้องเอามือปิดจมูก ตาเอียดเอ่ยขึ้น
           "เอ็งมาก็ดีแล้ว ว่างๆเองไปเอาระนาดด้วยน่ะ ข้ายกให้เอ็ง"
      "ขอบคุณตา ทำไมยกให้ไวจัง ยังตีไม่เก่งเลย"
      "เถอะน่า ว่างๆก็ไปเอามาหัดให้เก่งล่ะ เดี๋ยวข้าเดินไปส่งที่บ้าน"
      "ดีเหมือนกันตา วันนี้มันวังเวงและน่ากลัวไงไม่รู้"
      "เออ งั้นเอ็งนำหน้าเลย"
ข้าพเจ้าเดินนำหน้าตาเอียดไปคุยกันไปหมายังคงหอนไม่หยุดยิ่งเข้าเขตหมู่บ้านยิ่งหอนดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้าพเจ้าแปลกใจอยู่อย่างว่าทำไมไม่ได้ยินเสียงรองเท้าของตาเอียดเลยทั้งที่แกใส่ฟองน้ำแท้ๆได้ยินแต่เสียงรองเท้าข้าพเจ้าแม้จะเป็นผ้าใบก็เถอะ ข้าพเจ้าลองหยุดเพื่อให้แกเดินนำหน้าแกก็ไม่ยอม ข้าพเจ้าสังเกตุเหมือนแกลอยไปมากกว่าเดินด้วยซ้ำแต่คิดว่าตัวเองตาฝาดมากกว่าจนถึงเขตบ้านข้าพเจ้า ไฟยังมืดแสดงว่าไฟฟ้ายังดับอยู่ หมายิ่งหอนหนักกว่าเดิมอีกข้าพเจ้าเลยบอกตาเอียดว่าให้เดี๋ยวจะขับรถเครื่องไปส่งแกบอกว่า
         "ไม่เป็นไร ข้ากลับเองดีกว่า เอ็งเรียกยายเอ็งเถอะ ข้าจะกลับแล้ว"
     "ขอบใจน่ะตาที่มาส่ง พรุ่งนี้จะไปเรียนตีระนาดด้วยตอนเย็น"
     "เออ เอ็งไปเอาระนาดมาด้วยล่ะ ถ้าข้าไม่อยู่ บอกยายก็ได้"
     "จ๊ะ"
ช่วงที่ข้าพเจ้าหันหน้าตะโกนเรียกยายเพื่อให้เปิดประตูรั้วเรียกอยู่แป็บ ก็เห็นแสงตะเกียงจากในบ้านแสดงว่ายายข้าพเจ้าตื่นแล้ว เสียงนาฬิกาที่บ้าตี1ครั้งแสดงว่าคงตีหนึ่งแล้ว พอหันมาตาเอียดหายไปไหนแล้ว แก่ขนาดนี้ไม่น่าไปไว แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คิดอะไร ยายเดินมาเปิดประตูรั้วพร้อมบ่นว่าข้าพเจ้ากลับทำไมดึกๆแทนที่จะนอนกลับน้าที่กรุงเทพฯ แล้วยายก็ถามข้าพเจ้า
         "เอ็งคุยกับใครว่ะ หรือใครมาส่ง"
     "ตาเอียดยาย เจอันที่หน้าวัด แกเลยเดินมาส่ง"
     "ตาเอียด"
ยายร้องเสียงหลงจนข้าพเจ้าสะดุ้ง ยายรีบชวนข้าพเจ้าขึ้นบ้าน ฉับพลันไฟฟ้าที่ดับกลับติดขึ้นมาทันทียายดับตะเกียงแล้วไปปลุกน้าข้าพเจ้าและซุบซิบอะไรกันไม่รู้น้าข้าพเจ้ามองมาที่ข้าพเจ้าแล้วเดินไปตามคนแก่ๆที่แถวบ้านมา4-5คน และไม่นานที่บ้านข้าพเจ้าก็เต็มไปด้วยเพื่อนบ้านเยอะแยะไปหมดข้าพเจ้าว่าจะถามยายว่ามาทำไมกันแต่อยากอาบน้ำเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำอย่างสบายใจ กลับขึ้นบ้านมีพระจากวัดมาด้วยสงสัยน้าไปรับมาเพราะตอนอาบน้ำได้ยินเสียงรถยนต์ข้าพเจ้าว่าจะนอนแต่ยายเรียกว่าให้มาไหว้พระก่อนเพื่อนบ้านเริ่มมองข้าพเจ้า หลังจากนั่งตรงหน้าพระแล้วยายก็บอกว่าตาเอียดที่มาส่งน่ะตายได้3วันแล้วที่ข้าพเจ้ามองเห็นไฟแดงๆในป่าช้านั่นแหละเพิ่งเผาเมื่อตอนบ่าย4โมงเย็นนี่เอง ก่อนตายแกยกระนาดที่ข้าพเจ้าไปเรียนกับแกให้ด้วย ข้าพเจ้าแทบช็อคนี่ข้าพเจ้าเดินคุยกับคนตายรึนี่ ขนลุกแบบทันทีทันใด พระเริ่มทำน้ำมนต์ให้อาบ และเพื่อนบ้านอยู่นอนเป็นเพื่อนกันหลายคน จนเช้าเลยไปทำบุญให้แก และเลยไปที่บ้านแกลูกสาวแกบอกว่าแกสั่งไว้ว่าต้องให้ระนาดข้าพเจ้าๆเลยรับมาแล้วนำไปถวายวัดเลย ข้าพเจ้าเลยเลิกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนนานมาก ทุกวันนี้ข้าพเจ้ามาอยู่กรุงเทพฯกว่า20ปีแล้วแม้จะมีรถขับแล้ว แต่เวลาจะไปเยี่ยมยายที่ต่างจังหวัดก็ต้องโทรเช็คกันก่อนว่ามีใครเป็นไรบ้างหรือเปล่า บอกตรงๆว่าข้าพเจ้ายังกลัวอยู่

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิญญาณของคนตาย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 09:12:34 »

หง่ะ มีคุยกับคนตายได้ด้วย บรื้อๆๆ