ผังเมืองลพ.ทำ นิคมใหม่ชะงักผังเมืองใหม่ลำพูนพ่นพิษ 2 นิคมใหม่ 1,500 ไร่ มูลค่าลงทุน 1,950 ล้าน ชะงัก เช็กผู้ประกอบการไม่ย้าย รอรีวิวอีก 5 ปี
พยุงศักดิ์ เร่งทำหนังสือถึงอุตฯจังหวัดทั่วประเทศ เสนอปัญหาส่งให้รัฐบาลหวังทบทวนใหม่ทั้งยวงนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงกรณีผลกระทบจากการประกาศผังเมืองใหม่
ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ว่า ทราบว่ากรมโยธาธิการฯได้ประกาศผังเมืองใหม่ใน 9 จังหวัด
และเตรียมออกประกาศในจังหวัดที่เหลือ จากการตรวจสอบผลกระทบต่อการตั้งนิคมอุตสาหกรรมพบว่าได้รับผลกระทบโดยตรงใน
จ.ลำพูน ที่มีการประกาศผังเมืองใหม่แล้ว เพราะในจังหวัดดังกล่าว เดิม กนอ.มีแผนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมพัฒนา
กับผู้ประกอบการ 2 ราย ใน 2 โครงการ โครงการแรกใช้พื้นที่ราว 1,000 ไร่ มูลค่าลงทุนเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ 1,300 ล้านบาท
อีกโครงการใช้พื้นที่ราว 500 ไร่ มูลค่าลงทุนเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ 650 ล้านบาท แต่พบว่าอยู่ในพื้นที่สีเขียว คือพื้นที่เกษตรกรรม
ทำให้ทั้ง 2 โครงการต้องหยุดพัฒนาทันที“ก่อนที่ จ.ลำพูนจะประกาศผังเมืองใหม่ โครงการลงทุนนิคม 2 โครงการ อยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายงานรับฟังความเห็น
ด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่สีเขียวโครงการต้องหยุดชะงักและรอจนกว่าผังเมืองจะปรับปรุงใหม่
ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรืออย่างเร็วคือเริ่มทบทวนช่วง 3 ปีแรก” นายวีรพงศ์กล่าว
นายวีรพงศ์กล่าวว่า จากการสอบถามนักลงทุนระบุว่าจะรอให้มีการทบทวนผังเมืองในอีก 5 ปี ไม่คิดจะย้ายพื้นที่ลงทุน
“ยอมรับว่าผังเมืองใหม่ของ จ.ลำพูน กำหนดให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 92% ทำให้พื้นที่อุตสาหกรรมหรือพื้นที่สีม่วงมีเพียง 2 แห่ง
ที่ตั้งอยู่ก่อนแล้ว คือนิคมอุตสาหกรรมลำพูน และสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ดำเนินการได้ ส่วนนิคมแห่งอื่นไม่สามารถตั้งได้
เพราะไม่มีพื้นที่อนุญาตแล้ว” นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เตรียมส่งหนังสือถึงสภาอุตสาหกรรม
จังหวัดทั่วประเทศภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ส่งรายละเอียดผลกระทบจากการประกาศผังเมืองใหม่ของรัฐบาล เพื่อนำมาประมวลผล
หากพบว่าพื้นที่จังหวัดใดได้รับผลกระทบจะเร่งหารือกับภาครัฐให้พิจารณาช่วยเหลือ เพราะเชื่อว่าบางจังหวัดแม้จะประกาศ
ผังเมืองใหม่แล้วแต่หากเกิดปัญหาควรแก้ไขใหม่ได้
“จังหวัดใดพบว่าผังเมืองใหม่ไม่สอดคล้อง และอาจเป็นปัญหาต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมหรือโครงสร้างพื้นฐาน ก็เป็นหน้าที่
ของภาครัฐที่จะพิจารณา เพราะเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศระยะยาว” นายพยุงศักดิ์กล่าว และยอมรับว่า
กรณีผังเมืองใหม่เป็นเรื่องที่ภาคเอกชนติดตามช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เคยเตือนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศให้ติดตาม
ผลการจัดทำผังเมืองดังกล่าวว่าจะกระทบพื้นที่อุตสาหกรรมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทราบว่าหลายจังหวัดรัฐบาลเปิดโอกาส
ให้มีการทบทวน ถือเป็นเรื่องดี ส.อ.ท.จะเร่งประสานข้อมูล ดำเนินการผ่านคณะกรรมการดูแลผังเมืองและนิคมอุตสาหกรรม
เพื่อเสนอความเห็นเชิงลึกต่อรัฐบาลพิจารณาอีกทางหนึ่ง”credit :: chiangmainews
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก