antalya escort bayan escort antalya antalya bayan escort
free hd porn
freier porno porno gratis
mengen escort bartin escort erzincan escort erzincan escort esenler masaj salonu erzincan masaj salonu goksun masaj salonu esenler masaj salonu biga masaj salonu erzincan masaj salonu ezine masaj salonu can escort
แสดงกระทู้ - don
-->

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - don

หน้า: [1]
1
 เขินนนนนน เขินนนนนน เขินนนนนน  รบกวนเทพทั้งหลายคายข้อมูลเพื่อน้องๆรุ่งใหม่ที่จะเดินตามด้วยนะครับ ;khhg ;khhg ;khhg

3
กลุ่มผู้เสียหายพื้นที่ภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์ และนักธุรกิจกว่า 8 ราย รวมตัวกันร้องต่อสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกหลอกซื้อ รวี วารี เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง

นางขวัญปวีกรณ์ วงศ์ศรี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทางโครงการรวี ลงโฆษณาในหนังสือ และนิตยสารทั้งกรุงเทพ และเชียงใหม่ ซึ่งได้รับแจ้งว่าคอนโด มีห้องทั้งหมด 109 ห้อง แต่ขายไปแล้ว 40 ห้อง เหลือ 69 ห้อง แต่ต้องติดต่อซื้อขายกับ บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนขาย โดยมีการโฆษณาว่า หากวางเงินมัดจำจำนวน 1 ล้านบาท จะได้สิทธิพิเศษหลายอย่าง

แต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมามีการขึ้นป้ายข้อความว่า บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด มีปัญหากับโครงการ หากมีการกระทำใดทางโครงการไม่รับผิดชอบ จึงรีบติดต่อสภาทนายความ และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. เชียงใหม่ และได้ทราบว่ามีการร้องเรียนก่อนหน้านั้นเช่นกันจึงติดต่อ และรวมกลุ่มกันขึ้น เพื่อฟ้องร้องคดีในทางแพ่งว่าทั้งสองบริษัทฉ้อโกง

ทางโครงการรรวี วารี เรสซิเดนซ์ ลงโฆษณาในหนังสือ และนิตยสารทั้งกรุงเทพ และเชียงใหม่ ว่ามอบหมายให้ บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นตัวแทนขาย คงไม่สามารถผลักความรับผิดชอบได้ ตอนนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพราะพวกเรามีหลักฐานเอกสารการซื้อขาย วางมัดจำ และการโอนเงินชัดเจน แต่อยากแจ้งให้สาธารณะได้ทราบว่า โครงการนี้มีการฉ้อโกงเพราะเชื่อว่ายังมีลูกค้าอีกมากที่ยังไม่ทราบข่าว

นางขวัญปวีกรณ์ กล่าวเสริมว่าในจำนวนผู้เสียหายมี บุ๋ม หรือ น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อดีตนางงาม และนักแสดงสาวร่วมอยู่ด้วย เพราะเรามีการติดต่อกันจึงทราบว่าบุ๋มตัดสินใจซื้อคอนโด 5 ห้อง เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท หลังได้รับเชิญให้มาเป็นพิธีกรเปิดตัวรีสอร์ทและคอนโด ที่เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องที่กรุงเทพ เช่นกัน กลุ่มเราส่วนใหญ่จะเริ่มซื้อคอนโด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา หากรวม บุ๋ม สูญเงินรวมกันไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

ทางด้านนายพฤกษพงศ์ รัตนสังวาลย์ ทนายความของกลุ่ม กล่าวว่า ทราบว่าระหว่างบริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด กับ รวี วารี เรสซิเดนซ์ มีปัญหาขัดแย้งกันในภายหลังเรื่องขายคอนโดในราคาที่ต่างกัน แต่ก่อนหน้าเรามีหลักฐานชัดเจนว่ามีการมอบหมายให้เป็นตัวแทนดำเนินการซื้อขาย ในทางคดีจึงฟ้องทั้งคู่เป็นจำเลย เพื่อให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งล่าสุดศาลมีคำสั่งให้ระงับการจำหน่ายจ่ายโอนห้องที่มีปัญหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีแพ่ง ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนเงินสดที่สูญไป

4
ถนน เชียงใหม่ - แม่ริม

Green Valley Condo
http://www.greenvalleycondominium.com

คาซ่า คอนโด ช้างเผือก-เชียงใหม่ (ตรงข้ามสนามกอล์ฟ ลานนา)
http://www.casaville.co.th/project.aspx?pid=44

ฮิมมา การ์เดนท์คอนโดมิเนียม
http://www.himmaliving.com


ถนน เชียงใหม่ - แม่โจ้

S-CAPE
https://www.facebook.com/pages/JSW-PROPERTY-AND-DEVELOPMENT-COLTD/121936431164572

Fifth Avenue
https://www.facebook.com/neuscape

The Unique คอนโด กาดรวมโชค
http://www.thelagunahome.com

The Next Condominium 1,3
http://www.ornsirin.com


ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง)

Punna oasis
http://www.punnagroups.com/main.html

Star Avenue
http://www.star-avenue.com

Supalai Monte @ Viang Chiangmai
http://www.supalai.com/monte/detail

วันพลัส เจ็ดยอด / วันพลัส บิซิเนสพาร์ค
http://www.kkn.co.th

โบ๊ทคอนโด
http://www.boat-condo.com/

Jigsaw Condominium
http://www.jigsawcondominium.com/index2.php

My Hip Condo
http://www.myhipcondo.com/#/Home

เชียงใหม่วิวเพลส
http://www.chiangmaiviewplace.com/


ถนนห้วยแก้ว

วันพลัส มช. / The Trio Condominium
http://www.kkn.co.th

ปันสุข ควอลิตี้ คอนโด
www.punsook.com

Punna residence 5
http://www.punnagroups.com/main.html


ถนนสุเทพ

วันพลัส สวนดอก
http://www.kkn.co.th

Punna residence 3
http://www.punnagroups.com/main.html

ถนนนิมมานเหมินท์

The Unique คอนโด
http://www.thelagunahome.com

Punna residence @ Nimman
http://www.punnagroups.com/main.html

ถนนช้างคลาน

The Shine Condominium เชียงใหม่
http://www.theshinecondominium.com/TH/home_th.html

The Astra Condominium
http://www.ornsirin.com

Tree Boutique Condo
http://www.treeboutiquecondo.com

ถนนมหิดล

วันพลัส คอนโด
http://www.kkn.co.th

Econic Condo Condominium
http://www.econiccondo.com

สตาร์ เอวีนิว 3 วีว่าเทอเรส
http://star-avenue.com/star3

ถนนเลียบคันคลอง

วันพลัส คันคลอง
http://www.kkn.co.th

ชญยล บูเลอวาร์ด
http://www.chayayonboulevard.com/index.php

Mountain front condo
http://www.mountainfrontcondo.com

Mountain View condo
http://www.qualitycondo.co.th/mountainview

Resort condo
http://www.qualitycondo.co.th/resortcondo

The West Wind Village
http://www.westwindtown.com

The Chic View Condominium
http://www.thechicviewcondominium.com

Trams condominium
http://www.tramscondo.com

The Scene Condo
http://www.thescene-chiangmai.com/home.php


ถนนวงแหวนรอบกลาง

The Benefits Condo
http://www.thebenefitscondo.com

The Unique คอนโด
http://www.thelagunahome.com

The Grace Condominium
https://www.facebook.com/pages/The-Grace-condominium/463666616989163

V COMMUNITY
http://www.vcommunitychiangmai.com

Grand Siritara Condo
http://www.condochiangmai-siritara.com

Econic Condo Condominium
http://www.econiccondo.com

ถนน เชียงใหม่ - สันกำแพง (สายวัฒนธรรม)

The Next Condominium 2
http://www.ornsirin.com

ถนน เชียงใหม่ - หางดง

The Alps condominiums
http://www.millioncondo.com/thealps/index.ph


-------------------------------------------------------------

เดอะ คอนเวนชั่น คอนโดมิเนียม เชียงใหม่
http://www.conventioncondo.com/

ธัชฮิลล์เพลส คอนโดมิเนียม
http://www.touchhillplace.com/

The New Concept Boutique Condo
http://www.condoboutique.net/

hillsidecondo4
http://www.hillsidecondo4.com/

คอนโดโครงการNorth 8
http://www.lh.co.th/condo/projects/202

คอนโด โครงการจูบิลี่ หนองหอย
http://jubileechiangmai.com/
https://www.facebook.com/condojubilee

the world avenuec
http://clhc.co.th

5
ถนน แม่ริม - แม่แตง

สมหวัง เม้าน์เท็นวิว
http://www.somwanggroup.com

โครงการธรินภรณ์วิลล่า
http://www.tharinpornvilla.com


ถนนเชียงใหม่ - แม่ริม

ดอนแก้ว วิลเลจ
http://www.banbhalabhume.com

จีรัง เรสซิเดนท์
http://www.jirunggroup.com

ศุภาลัยปาร์ควิลล์
http://www.supalai.com

บ้านพอใจ2
http://www.samuidevelop.com/phojai.html


ถนนแม่โจ้ - แม่ริม

แม่ริมแกรนด์วิว
http://www.maerimgrandview.com



ถนนเชียงใหม่ - แม่โจ้

หมู่บ้าน นนนิภา เชียงใหม่
http://www.baannonnipa.com

ธนาพรปาร์คโฮม
http://www.thanapornparkhome.com/index.php?lang=en

วิลล่า มีสุข
http://www.villameesukresidences.com

บ้าน วิวดอย
http://banviewdoichiangmai.com/wordpress

บ้านอรสิริน 1,2,4,11,14  / อรสิริน ทาวน์โฮม 1
http://www.ornsirin.com

บ้าน คัทลียา เชียงใหม่
http://www.cataleeyahome.com/

โชควารีโฮม
https://www.facebook.com/chokvareehome168

สมหวัง คันทรีโฮม
http://www.somwanggroup.com

สหพนาวัลย์
http://www.sahapanawon.com

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ พาร์ค
http://www.lh.co.th

พฤกษ์สิริ
http://www.prueksirichiangmai.com

เดอะ กรีนเนอรี่ วิลล่า (แม่โจ้)
http://www.baangreenery.com

บ้านพรสวรรค์ แม่โจ้
http://www.pornsawan.com

กรีนวิวโฮม
http://www.greenviewhome.co.th

ดอยคำฮิลล์ไซด์ 5
http://www.doikhamhillside2.com

pillow 36
http://www.pillow36.com


ถนน สันทราย - แม่โจ้

บ้าน อยู่ สราญ
http://www.yoosaran.com

รีเจ้นท์ 2
http://www.regent-cm.com/index.php

บี.เจ.ฮิลล์ รีสอร์ท
http://www.sansaisiri.com

เชียงใหม่พฤกษาโฮม
http://www.pruksahome.com

บ้านปวริศา
http://www.pawarisa.com

ถนนซูเปอร์ไฮเวย์

บ้านอรสิริน 5
http://www.ornsirin.com

ลานนาซิตี้ ปาร์ค
http://www.lannacitypark.com

บ้านพรสวรรค์
http://www.pornsawan.com

ดิ เออบาน่า เชียงใหม่
http://www.urbanachiangmai.com

ถนนนันทาราม

THE PRIME HORIZON
http://www.theprime-home.com

ถนนมหิดล

มหิดล ทาวน์โฮม
http://www.mahidol-townhome.com

สมหวัง การ์เด้นโฮม
http://www.somwanggroup.com


ถนนคันคลองชลประทาน
บ้านธาราคีรี
htpp://www.saritaparkhome.com

ดอยคำฮิลไซด์
http://www.doikhamhillside2.com

แสนสราญ
http://www.sansaranhome.com

มาลาดาโฮมแอนด์รีสอรท์
http://www.maladahome.com

เดอะมาสเตอร์พีซ ซีนเนอรี่ฮิลล์
http://www.mp-scenery.com


ถนนวงแหวนรอบกลาง

ศุภาลัย วิลล์
http://www.supalia.com

เดอะโฟล
http://www.theflowcm.com

บ้านพิมุกต์
http://www.pimuk.co.th

ภูฟ้าการ์เดนโฮม
http://www.phufahhome.com

ถนนวงแหวนรอบนอก

เดอะลากูนาโฮม
http://www.thelagunahome.com

รุ่งเรืองควอลิตี้เฮาส์
http://www.rq-house.com

บ้านกาญจ์กนก2
http://www.kkn.co.th

ธนกฤษณ์ เชียงใหม่
http://www.tnk-home.com

บ้านรุ่งธนา
http://www.baanrungtana.com

สันทายสิริ
http://www.sansaisiri.com

วรารมณ์แก้วนวรัฐ
http://www.qh.co.th

วรารมณ์เจริญเมือง
http://www.qh.co.th

เดอะลัคชัวรีโฮม
http://www.luxury-home.com

ริชชี่ริชแลนด์
http://www.richyrichland.com


ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด

รีเจนท์
http://www.regent-cm.com

เดอะแกรนด์วิลเลจ
http://www.thegrandvillagechiangmai.com


ถนนเชียงใหม่-สันกำแพง

โฮมอินทาวน์2
http://www.homeintownchiangmai.net

พิมพิชฎา
http://www.pimpichada.com


ถนนบ่อสร้าง-สันกำแพง
ศิวาลัย วิลเลจ
http://www.sivaliavillage.com


ถนนดอนจั่น-สันกำแพง
บ้าน ณ ชื่น
http://www.facebook.com/baan.na.chuen

มโน มยา ปาร์ค
http://www.manomayapark.net

ล้านนา เฮอริเทจ
http://www.lannaheritage.org

บ้านนราสิริ
http://www.narasirichiangmai.com

เฮาส์แอนด์วิวว
http://www.houseandviews.com

มอนทาน่าวิลล
http://www.montanaproperty.co.th

เพลินจิต คอลลิน่า
http://www.ploenchitproperty.com


ถนนเชียงใหม่-หางดง
บ้านปราถนาพลัส
http://www.pdl.co.th

รุ่งอรุณวิลล์
http://www.baanrungarroon.com

ศุภาลัยโกลเด้นวิลล์
http://www.supalai.com

ดิเออบาน่า2
http://www.urbanachiangmai.com


ถนนราชพฤกษ์-หางดง
ราชพฤกษ์กรีนวิลล์
http://www.rgv.in.th


ถนนหางดง - บ้านถวาย
บ้านคหบดี
http://www.kahabordee.com

บ้านพิมุกต์-หางดง
http://www.pimuk.co.th

6
กลุ่มวิชาชีพวิศวกรฯ-รับเหมาก่อสร้าง มองโอกาสเออีซี ธุรกิจไทยพร้อมมีศักยภาพอยู่แถวหน้า เผยส.อุตสาหกรรมก่อสร้างฯ ร้องรัฐตั้งสภาวิชาชีพก่อสร้า


นายไกร ตั้งสง่า อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) กล่าวถึงความพร้อมกลุ่มวิชาชีพในวงการก่อสร้างไทยว่า มีความพร้อมในระดับหนึ่ง เนื่องจากหากมีการแบ่งประเภทวิชาชีพทางช่างทั้งหมด สถาปนิก, วิศวกร, ผู้รับเหมาก่อสร้าง แบ่งเป็นเกรดตามฝีมือแรงงาน ซึ่งเกรดพรีเมี่ยมประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย อินโดฯ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งมีฝีมือและศักยภาพพอใช้ได้เวทีโลก  ส่วนอีกกลุ่ม พม่า ลาว เขมร เวียดนาม อีกประเภทกำลังจะตามขึ้นมา ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง มองวิชาชีพตั้งแต่ 2548 ที่มาเลเซีย ตอนนั้นวิศวกรเรานำร่องไปก่อน เราประกาศวิชาชีพเราจะเคลื่อนย้ายได้

ปี 2550 ที่สิงคโปร์ของเพิ่มสถาปนิก ช่างสำรวจเพิ่มเข้ามา สรุปปัจจุบันมี 7 สาขา แพทย์ สถาปนิก ทันตแพทย์ พยาบาล วิศวกร ช่างสำรวจ และนักบัญชี เป็นกลุ่มวิชาชีพจะเคลื่อนย้ายไปไหนก็ได้ในปี 2558 เหลือเวลาอีกไม่กี่ปี สิ่งที่เราต้องเตรียมคือผู้รับเหมาก่อสร้างไทย ยังไม่มีสภาวิชาชีพ เหมือนวิศวกร ซึ่งมีสภาพวิศวกร หรือสถาปนิก มีสภาพสถาปนิก ซึ่งเป็นสิ่งน่าห่วงสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเราควรจะมีการเตรียมความพร้อมรับมือ การแข่งขัง ภาครัฐเอง ก็ต้องช่วยผลักดันกฎระเบียบต่างๆ ช่วยผู้ประกอบการให้มากกว่านี้ เช่น เรื่องการเงิน การค้ำประกันต่างๆ เรื่องการประมูลงานออนไลน์ อีอ๊อคชั่น ที่ควรยกเลิก เปลี่ยนมาเป็นอีบิดดิ้งแทน และควรหันมาเตรียมความพร้อมบุคคลากร วิศวกร สถาปนิก ช่างเทคนิคต่างๆ รวมทั้งผู้สนับสนุนด้านการเงิน ต้องเตรียมทักษะให้มากกว่านี้

ด้านนายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์‏ กล่าวว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเราต้องปรับตัวขนานใหญ่ เนื่องจากไทยมีผู้รับเหมาทั้งรายใหญ่รายย่อย ซึ่งในส่วนเอกชนไม่มีปัญหามาก แต่ภาครัฐจะมีปัญหามาก การเตรียมความพร้อมที่รัฐต้องให้การสนับสนุน  ตั้งแต่เริ่มต้นการปรับกฎระเบียบ ในเรื่องมาตรฐานการก่อสร้างควรเกิดขึ้นได้ภายใต้สถาบัน และควรมีการกำกับดูแลโดยเฉพาะจากสภา ควรมีแหล่งเงินทุน ธนาคารเพื่อการก่อสร้าง อย่างประเทศจีน มี ไชน่าคอนสตรัคชั่นแบงก์

"2 ปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญมาก ถ้ารัฐบาลทำให้ภาคก่อสร้างไทยเป็นธุรกิจที่แข็งแรง บริษัททั้งหลายแข็งแรง เราจะมีความพร้อมออกไปต่างประเทศ ทำให้บริษัทเล็ก เป็นบริษัทกลาง กลางไปใหญ่ ใหญ่ไปต่างประเทศ ฉะนั้นจะเป็นเชนธุรกิจ ที่นำพารายได้ให้ประเทศได้มาก" นายอังสุรัสมิ์ กล่าว

7
นักลงทุนเชียงใหม่ ทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาท ผุดโครงการบ้านจัดสรร-คอนโดมิเนียม เจาะตลาดลองสเตย์ญี่ปุ่น ยึดทำเลกว่า 24 ไร่ ใกล้ดอยสุเทพฯ
นายชวการ อัศวมหาศักดิ์ดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงกุฎล้านนา จำกัด  เปิดเผยว่า  บริษัทฯเตรียมลงทุนก่อสร้างโครงการมงกุฎล้านนา  ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุวัยเกษียณชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาพักระยะยาวในจ.เชียงใหม่  โครงการฯตั้งอยู่บนพื้นที่ 24 ไร่  ใกล้วัดอุโมงค์ ในต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่  ซึ่งมีทำเลและภูมิทัศน์ติดดอยสุเทพจึงมองเห็นวิวดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน

ส่วนภายในโครงการประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาด 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. ราคาขายตั้งแต่ 5.5 - 6 ล้านบาท จำนวน 41 ยูนิต   ทาว์นเฮ้าส์ 69 ยูนิต และทวินทาวน์เฮ้าส์ ขนาด 20 ตร.ว. ราคา 3.5 ล้านบาท จำนวน 28 ยูนิต และคอนโดมิเนียม 2 อาคารๆ ละ 64 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยยูนิตละ 40 ตร.ม. ราคาขาย 1.5 ล้านบาท ทุกยูนิตพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด

นายชวการ กล่าวว่า  โครงการมีมูลค่ารวมมากกว่า 800 - 900 ล้านบาท  ซึ่งที่ดินดังกล่าวบริษัทฯถือครองมานานกว่า 20 ปีมีโฉนดถูกต้องคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จราวกลางปี 2556  ล่าสุดมีชาวญี่ปุ่นสนใจและจองเข้ามาแล้วจำนวนหนึ่ง

8
นายล้วนชาย ว่องวานิช (ซ้ายมือ) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กู๊ด โฟร์ยู จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวคิดใหม่ เจ้าของโครงการ “จีรัง เรสซิเดนซ์” เชียงใหม่ หมู่บ้านสุขภาพองค์รวมแห่งแรกของไทย เข้ารับรางวัล โครงการที่อยู่อาศัยยอดเยี่ยม (เชียงใหม่) หรือ “Best Residential Development (Chiangmai)” จากงานประกวดสุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์ “ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ 2012 (Thailand Property Awards 2012) ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

9
 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ — 6 กุมภาพันธ์ 255

           ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กำหนดจัดสัมมนา “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2555 ” ณ โรงแรมแชงกรีลาเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 โดยนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้นำเสนอข้อมูลผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยล่าสุดในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในท้องถิ่นมาร่วมเสวนาอีกหลายท่าน

          ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 241 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 22,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 208 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 19,150 หน่วย และอาคารชุด 33 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 3,500 หน่วย

          โดยบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายทั้ง 19,150 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 56,800 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมทั้งสิ้นประมาณ 11,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 32,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอดอยสะเก็ด ประเภทบ้านที่นิยมสูงสุดอยู่ในระดับช่วงราคา 1 – 1.99 ล้านบาท ตามด้วยช่วงราคา 2-2.99 ล้านบาท ภาพรวมบ้านจัดสรรทุกประเภททุกระดับราคามีอัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5.5

          สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 7,000 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 3,650 หน่วย และสร้างแล้วเสร็จประมาณ 8,500 หน่วย โดยหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขาย (บ้านว่าง) มีจำนวนน้อยเพียงประมาณ 500 หน่วย

          ในส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 3,500 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองมากถึงเกือบ 3,300 หน่วยสำหรับประเภทห้องชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31-35 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ในช่วง 1 – 2 ล้านบาท

          จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด มีหน่วยที่ขายได้สะสมประมาณ 2,000 หน่วย ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2554 จำนวน 680 หน่วย มีอัตราการดูดซับเฉลี่ยในทุกประเภทและทุกระดับราคาประมาณร้อยละ 10.6 ส่วนในด้านสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 850 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,750 หน่วย และสร้างเสร็จแล้วประมาณ 900 หน่วย โดยมีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขาย (ห้องชุดว่าง) ประมาณ 150 หน่วย

10
ตลาดวัสดุภาคเหนือโตล้ำอสังหาฯ บิ๊กแบรนด์แห่ยึดฮับ"เชียงใหม่"ถมลงทุน6.5พันล้าน

Prev
1 of 1
Next

updated: 17 ต.ค. 2555 เวลา 07:30:52 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุ-เฟอร์นิเจอร์ภาคเหนือซัดกันมันหยด ผู้ประกอบการ 6 แบรนด์บุกขยายสาขาใหม่อุตลุดกว่า 26 สาขา มูลค่าลงทุนกว่า 6,500 ล้านบาท ค่าย "โฮมโปร" ครองแชมป์ 4 สาขา มูลค่าลงทุน 2,000 ล้านบาท "ไทวัสดุ" 3 สาขา 2,700 ล้านบาท เสือซุ่มค่ายโกลบอลเฮ้าส์ผุด 2 สาขา 800 ล้านบาท จับตาทำเลฮอตบิ๊กเพลเยอร์แห่ยึดหัวหาดเชียงใหม่ลงทุนรวมกันกว่า 7 สาขา ค่ายอินเด็กซ์อัด 10 ล้านบาทรีโนเวตสาขาเดิมรับดีมานด์พุ่ง

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ประกอบการวงการศูนย์ค้าวัสดุและเฟอร์นิเจอร์แบบโมเดิร์นเทรดในพื้นที่ภาคเหนือพบว่า ภาพรวมการแข่งขันยังมาจากผู้เล่นหน้าเดิม ๆ ที่เป็นบิ๊กแบรนด์จากส่วนกลางจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย โฮมโปร, ไทวัสดุ, สยามโกลบอลเฮ้าส์, บุญถาวร, เฟอร์นิเจอร์อินเด็กซ์, เอสบี กระจายตัวอยู่ใน 9 จังหวัด เริ่มตั้งแต่ประตูสู่ภาคเหนือ "นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เพชรบูรณ์-เชียงใหม่-ลำปาง-พิษณุโลก-น่าน-เชียงราย" รวมเบ็ดเสร็จ 26 สาขา มีเม็ดเงินลงทุนสะพัดกว่า 6,500 ล้านบาท



บิ๊กแบรนด์รายงสนตัวครบ

จังหวัดที่มีผู้ประกอบการขยายเครือข่ายการลงทุนด้วยการเปิดสาขาให้บริการมากที่สุด3 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 โฮมโปร ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีจำนวนรวม 4 สาขา มูลค่าลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท อันดับ 2 ไทวัสดุ ของกลุ่มเซ็นทรัล ตระกูลจิราธิวัฒน์ มี 3 สาขา มูลค่าลงทุนประมาณ 2,700 ล้านบาท

อันดับ 3 ม้ามืดมาแรงค่ายสยามโกลบอลเฮ้าส์ 2 สาขา เม็ดเงินลงทุนประมาณสาขาละ 400 ล้านบาท ค่ายอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีจำนวน 1 สาขา ส่วนน้องใหม่ที่มีแพลนจะเปิดสาขาในปี 2556 คือค่ายบุญถาวร มูลค่าลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าจังหวัดที่มีการลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคเหนือหนีไม่พ้น จ.เชียงใหม่ พบว่าทุกค่ายลงทุนรวมกันมีสาขากว่า 7 แห่ง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในทุก ๆ ด้าน ทั้งความสมบูรณ์ของโครงข่ายคมนาคม และกำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่ที่มีค่อนข้างสูง

ที่สำคัญ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการแห่เข้าไปลงทุนของดีเวลอปเปอร์จากกรุงเทพมหานคร อาทิ บมจ.แสนสิริ บมจ.ศุภาลัย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ เป็นต้น ทำให้มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงเกิดขึ้นจำนวนมาก ผลที่ตามมาคือความต้องการสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งเติบโตตามไปด้วย

โฮมโปรชูสินค้า-บริการ

นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การขยายสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัดของบริษัทในช่วงที่ผ่านมามีการเปิดสาขาครอบคลุมจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และมีนโยบายขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องในหัวเมืองรองที่ยังไม่มีสาขาให้บริการ โดยพื้นที่ภาคเหนือเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ 2 สาขา, นครสวรรค์และพิษณุโลกจังหวัดละ 1 สาขา

"ตอนนี้สาขาในพื้นที่ภาคเหนือเราเปิดให้บริการมากที่สุดอยู่ที่เชียงใหม่ มีโฮมโปร-หางดง และโฮมโปร-ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ทั้ง 2 สาขาให้บริการรองรับการได้ครอบคลุมทั้งจังหวัด แผนธุรกิจต่อไปที่เราจะทำต่อเนื่องจากนี้คือพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น" นายณัฏฐ์กล่าว

อินเด็กซ์ทุ่ม 10 ล้านลุย

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดเฟอร์นิเจอร์ในภาคเหนือถือว่ามีการขยายตัวต่อเนื่อง ได้รับอานิสงส์จากภาคอสังหาฯ ที่มีภาวะบูมจากจำนวนผู้ประกอบการส่วนกลางและท้องถิ่น โดยเฉพาะในเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีการเติบโตในทุก ๆ ด้าน ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดให้บริการอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ บริเวณใกล้แยกศาลเด็ก 1 สาขา ลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท

"ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างรีโนเวตสาขาเชียงใหม่ ดำเนินการไปได้ประมาณ 70-80% แล้ว ใช้งบฯกว่า 10 ล้านบาท ตามแผนตั้งใจจะให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ 100% เพื่อรองรับกำลังซื้อในช่วงไฮซีซั่น" นางสาวกฤษชนกกล่าว

เอสบีเน้นขายผ่านดีลเลอร์

นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์เฮ้าส์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทมีจำนวนสาขาที่ให้บริการในภาคเหนือผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายแบรนด์

"คอนเซ็ปต์ เฟอร์นิเจอร์" 15 ร้านค้า ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร 1 ร้าน, เชียงใหม่ 4 ร้าน, เชียงราย 3 ร้าน, ตาก 2 ร้าน ที่เหลือมีร้านค้าจังหวัดละ 1 แห่งคือ นครสวรรค์ น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และลำปาง

สำหรับภาพรวมตลาดเฟอร์ฯภาคเหนือ เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดี แม้ตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาชะลอตัวเล็กน้อยเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ คาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งถือเป็นฤดูการขายกำลังซื้อน่าจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม

"ภาคเหนือนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพดี โดยเฉพาะตอนนี้เราได้เห็นความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ อย่างกลุ่มดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ อาทิ แสนสิริ ศุภาลัยเข้าไปเปิดตลาดคอนโดฯที่ จ.เชียงใหม่ ส่งผลบวกให้ความต้องการซื้อเฟอร์ฯจะเกิดขึ้นตามมา" นางธัญญรักข์กล่าว

ตบท้ายด้วยเมกะดีลเลอร์ค้าวัสดุก่อสร้างอย่างค่ายบุญถาวร เซรามิค ในปี 2556 มีแผนลงทุนเปิดสาขาในเชียงใหม่เช่นกัน ทำเลถนนเชียงใหม่-ลำปาง (ซุปเปอร์ไฮเวย์) บนที่ดินประมาณ 40 ไร่ มูลค่าลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟส ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ

11
 กลุ่มว่องวานิชปลื้มคอนเซ็ปต์หมู่บ้านสุขภาพแบบองค์รวมแห่งแรกในไทย "จีรัง เรสซิเดนซ์" ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชู 5 จุดแข็งสร้าง Holistic Health Community บ้านที่คืนความสมดุลให้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ในทำเลที่มีความปลอดภัย สูง เหมาะเป็นบ้านหลังที่ 2 ของคนเมือง และบ้านหลังแรกของผู้ที่ต้องการความสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายด้วยกลยุทธ์บลูโอเชียน เจาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 250 ล้านบาท และ ปิดโครงการอย่างสมบูรณ์พร้อมโอนทั้งหมดภายในปี 2557

 

นายล้วนชาย ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหารบริษัท กู๊ด โฟร์ยู จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ "จีรัง เรสซิเดนซ์" (Jirung Residences) เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ปีนี้ เรามองว่าตลาดอสังหาฯ ยังคงมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเภทบ้านเดี่ยว และกลุ่มทาวน์เฮ้าส์

 

จากความต้องการบ้านของผู้บริโภคทั้งในเชียงใหม่และจังหวัดอื่นที่มีสูง โดยเฉพาะคนกรุงเทพที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ AREA (เอเจนซี่ ฟอร์เรียล เอสเตท แอฟแฟร์ส) ระบุว่าที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ปัจจุบันมีจำนวน 223 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 41 โครงการ หรือกว่า 23%

 

มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 29,063 หน่วย เพิ่มขึ้น 3,116 หน่วย คิดเป็น 12%  จำนวนหน่วยที่ขายได้ 20,558 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,959 หน่วย คิดเป็น 18% โดยประเมินว่า ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นเพราะกลัวปัญหาอุทกภัยจะกลับมาอีก ทั้งนี้เมื่อแยกประเภทที่อยู่อาศัยพบว่า กว่า 79% เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมา 10% เป็นอาคารชุด และ 7% เป็นบ้านแฝด

 

จากการศึกษาของบริษัทฯ พบว่าแนวโน้มของประชากรไทยที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณในสัดส่วนที่สูงมาก สังคมผู้สูงอายุจะใกล้เข้ามา ซึ่งคนกลุ่มนี้ผ่านช่วงเวลาของการทำงานที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และมีความปรารถนาที่จะมีสุขภาพดีตลอดไป รักที่จะดูแลสุขภาพของตัวเอง รวมถึงการป้องกันตัวเองก่อนที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ (เน้น Prevention) ซึ่งแนวโน้มแบบนี้เป็นกระแสที่ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกันมาก (World Trend)

 

ดังนั้นในส่วนของกลุ่มธุรกิจว่องวานิช ซึ่งดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมากว่า 120 ปี และอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้ริเริ่มธุรกิจรีสอร์ทเพื่อสุขภาพภายใต้ชื่อ จีรัง เฮทธ์ วิลเลจ ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวมภายใต้ชื่อ จีรัง คลินิก ที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มองเห็นโอกาสทางการตลาดและศักยภาพของบริษัทฯ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ที่ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก

 

จึงได้พัฒนาโครงการ "จีรัง เรสซิเดนซ์" ขึ้นเป็นการต่อยอดจากธุรกิจรีสอร์ทสุขภาพที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว จึงได้ทำการเปิดการขายไปเมื่อเดือนธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากตลาดกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 20% ของมูลค่าโครงการรวมที่ 400 ล้านบาท ตั้งเป้าปิดการขายทั้งหมดภายในปี 2556 และปิดโครงการอย่างสมบูรณ์พร้อมโอนทั้งหมดภายในปี 2557

 

นายล้วนชายกล่าวอีกว่า โครงการ จีรัง เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการที่เน้นที่ความพรีเมี่ยมเป็นเอกลักษณ์สไตล์โคโลเนียลล้านนาที่ได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์จากพระตำหนัก "พระราชชายาเจ้าดารารัศมี" ในรัชกาลที่ 5 ที่หรูหรา โปร่งสบาย เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพ แวดล้อม

 

ในพื้นที่ 4 แบบ 4 สไตล์ ได้แก่ บ้านมณีนาคา บ้านดาราลัย บ้านหทัยรัศมี และแบบใหม่ล่าสุด นาคาคีรี โดย จีรัง เรสซิเดนซ์ จะตั้งอยู่บนพื้นที่ผืนเดียวกับ จีรัง เฮลธ์วิลเลจ อาณาจักรแห่งสุขภาพองค์รวมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

 

แบ่งเป็นส่วนที่อยู่อาศัยเพียง 53 ยูนิต สร้างบนที่ดินตั้งแต่ 70 ตารางวาขึ้นไป ตัวบ้านเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อให้มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความอุ่นใจของผู้อยู่อาศัย ราคาขายเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท

 

บนพื้นที่แห่งมังกรเชียงใหม่ที่มีสภาพ "ฮวงจุ้ย" ที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย บนพื้นดินที่มีลักษณะเป็นถุงโอบล้อมเพื่อเก็บทรัพย์ แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่ปกคลุมทั่วโครงการ อากาศที่ดีของเมืองเชียงใหม่ จึงเป็นจุดแข็งของโครงการจีรัง เรสซิเดนซ์ ที่จะเป็นอาณาจักรเล็กๆ ของผู้ที่ต้องการสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม "กาย ใจ จิต" แบบยั่งยืน

 

"นอกจากนี้พื้นที่ของโครงการยังมีครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ สถานที่ออกกำลังกายทั้งในโรงยิม และในแบบเอาท์ดอร์ให้เลือกสรร ตามความพอใจของผู้อยู่อาศัย ท่านสามารถใช้เวลาว่าง เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ วิ่งจ๊อกกิ้ง ขี่จักรยาน รอบๆ สถานที่  หรือทำกิจกรรมกับครอบครัว ปลูกผักตามวิถีธรรมชาติแบบพืชผักออร์แกนิคไว้ทานเอง รวมทั้งทำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไว้ใช้เอง

 

เหล่านี้นับเป็นกิจกรมที่เอื้อต่อสุขภาพกายที่ดีทั้งสิ้น แวดล้อมไปด้วยสังคมคุณภาพ และเพื่อนบ้านที่ดี (Social Health) การที่คนมีรสนิยมเดียวกันได้มาอยู่รวมกันในที่เดียวกัน ถือว่าเป็นการสร้างสรรค์ Community แห่งใหม่ ของคนที่รักและดูแลตัวเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ทั้งเพื่อนบ้าน พนักงาน บุคคลากรที่อยู่ใน จีรัง เรสซิเดนซ์ ล้วนมีความเป็นมิตร เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

 

ทำให้จีรัง เรสซิเดนซ์ เป็นสังคมที่น่าอยู่มากที่สุดในปัจจุบัน เหมาะกับคนเมืองที่กำลัง มองหาบ้านหลังที่ 2 ที่ปลอดภัย และเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาบ้านหลังแรกที่เสมือนของขวัญที่ดีของชีวิต หรือผู้ที่ต้องการความสงบความสมดุลหลังชีวิตเกษียณ  ณ ที่นี่รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการดูแลที่ระดับพรีเมี่ยมและสมบูรณ์แบบ"

 

นายล้วนชายกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ จีรัง เรสซิเดนซ์  พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด  "บ้านสุขภาพดี"  เพื่อการดูแลและส่งเสริมสุขภาวะให้กับผู้อยู่อาศัย บนพื้นที่ที่พลังบำบัดสูงผสานกับพลังพีระมิด ก่อให้เกิดพลังธรรมชาติเพื่อสุขภาพอย่างสูงสุด

 

นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว ครบครัน อาทิ คลินิก สปา ร้านอาหารสุขภาพ ห้องออกกำลังกาย และลานออกกำลังกายกลางแจ้ง สระว่ายน้ำ สวนผักสมุนไพร และโรงแปรรูปสมุนไพร ศูนย์ปฏิบัติธรรม ฯลฯ

 

ทั้งนี้ ผู้ซื้อบ้านทุกหลังจะได้เป็นสมาชิกของ Jirung Health Village Member Club (JHV Member Club) ฟรี 10 ปี ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการของรีสอร์ทสุขภาพมากมาย นับเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพแบบครบวงจรที่สุด แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยขณะนี้
 
โครงการ จีรัง เรสซิเดนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ จีรัง เรสซิเดนซ์ ณ จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ รีสอร์ท สุขภาพองค์รวมที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความอุ่นใจของผู้อยู่อาศัย

 

โดยโครงการอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ 20 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ  30 นาที  ห่างจากเมืองเชียงใหม่  20  กม.  และใกล้กับศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่เพียง 10 นาที

 

"จีรัง เรสซิเดนซ์" เชียงใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุดตลอดเดือนเมษายนนี้  บินชมโครงการถึงเชียงใหม่ ฟรี!!! รวมถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายไว้รองรับ หากผู้ที่สนใจในโครงการและตัดสินใจซื้ออีกครั้งหลังชมบ้านตัวอย่างที่เชียงใหม่ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขายเชียงใหม่ หรือสำนักงานกรุงเทพมหานคร หรือคลิกเข้าไปชมรายละเอียดโครงการได้ที่ เว็บไซต์www.jirunggroup.com/residences

12

         อสังหาฯตีปี๊บ1ปีหลังน้ำท่วม3นายกการันตีขาขึ้นชัวร์/แห่เปิดโครงการใหม่    ( 13 ตุลาคม 2555 )
     

3นายกฟันธง ตลาดอสังหาฯ 1 ปีหลังน้ำท่วม ส่งสัญญาณบวก ระบุคอนโดฯ ครองแชมป์ยอดนิยม เผยยอดเปิดตัวใหม่ 9 เดือนร่วม 5 หมื่นยูนิต คาดทั้งปี 55 เฉียด 5.8 หมื่นยูนิต ด้านที่อยู่อาศัยแนวราบต้องรอดูผลไตรมาส 4

 

แต่ขาขึ้นชัวร์ นายกสมาคมอสังหาฯ การันตีเขตพื้นที่น้ำท่วมยอดไม่ตก แม้จะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อ ด้านบ้านจัดสรรโตแบบไม่หวือหวา

 

นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงที่ผ่านมาว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงไปได้ดี แม้จะไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ก็ไม่รุนแรงอย่างที่หลายๆคนคิด เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากรัฐบาล ได้แก่ การลงทุนด้านต่างๆที่เกี่ยวกับน้ำ , ระบบรางที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเม็ดเงินของภาครัฐที่ทุ่มให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในด้านต่างๆ รวมถึงนโยบายคงที่ด้านอัตราดอกเบี้ย

 

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคอสังหาฯ ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากในช่วงไตรมาส 4 ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น คาดการณ์ว่าที่อยู่อาศัยแนวราบจะมีการปรับตัวอย่างชัดเจน

 

"ในครึ่งปีแรกมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงเปิดตัวราว 3.5 หมื่นยูนิต ในขณะที่มีการเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบเพียงกว่า 1 หมื่นยูนิต เปรียบเทียบสัดส่วนได้ 40:60 แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้นราว 2 หมื่นยูนิต เทียบสัดส่วนได้ 70:30 กล่าวคือ มีโครงการแนวราบเปิดตัวใหม่ถึง 70%" นายอิสระ กล่าวและว่า

 

ในขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงจะเปิดตัวเพียง 30% เท่านั้น โดยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่ยังคงนิยมเปิดในโซนปริมณฑลอย่าง บางบัวทอง ปากเกร็ด ลำลูกกา สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฯลฯ การที่โครงการแนวราบเปิดตัวมากขึ้นเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นภาคประชาชนในการบริหารจัดการเรื่องน้ำของรัฐบาล"

 

ขณะที่ นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงตลาดคอนโดมิเนียมว่า ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ได้รับผลกระทบด้านบวกมากกว่า เนื่องจากคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพฯ แม้ในบางพื้นที่จะได้รับผลกระทบบ้างก็ตามแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดยภาพรวมถือว่า คอนโดมิเนียมได้รับอานิสงส์ด้านบวกจากเหตุการณ์น้ำท่วม

 

ทั้งนี้ ตัวเลขการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.2555) ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่จำนวน 48,000 ยูนิต มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 ถึง 42% และคาดว่าในช่วงเวลาที่เหลือ 3 เดือนสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค. 2555) จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ราว 58,000 ยูนิต สูงกว่าปี 2554 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีเพียง 42,000 ยูนิต

 

"เหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่เอื้อต่อการเติบโตของคอนโดมิเนียม ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของคอนโดฯรองจากปี 2553 ที่มีการเปิดตัวทั้งปีถึง 65,000 ยูนิต และปี 2554 อยู่ที่ 42,000 ยูนิต ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากน้ำท่วมช่วงปลายปี กระทั่งมาในปีนี้ความต้องการที่ตกค้างจากปีที่แล้วประกอบกับไลฟ์สไตล์คนที่เปลี่ยนไป จึงส่งผลให้คอนโดฯมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แต่เพียงปีนี้ ยังหมายรวมถึงปีต่อๆปีอีกด้วย" นายธำรงค์ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี การเปิดตัวโครงการใหม่ๆอย่างต่อเนื่องในปี 2555 อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะโอเวอร์ ซัพพลายในบางพื้นที่ อาทิ พื้นที่พระโขนง ลาซาล ดินแดง ห้วยขวาง จตุจักร ฯลฯ แต่ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกกังวล ว่าจะเข้าสู่ภาวะฟองสบู่เหมือนดังเช่นที่ผ่านมา เพราะการที่จะเกิดภาวะเช่นนั้นได้จะต้องเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อคอนโดฯ มิได้ซื้อเพื่อการลงทุนอย่างในอดีต และ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในปัจจุบันมีความเคร่งครัดและรัดกุมมากขึ้น อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีการจับตาอย่างใกล้ชิด

 

สำหรับในปี 2556 คาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ประมาณ 40,000-50,000 ยูนิต ในรูปแบบของคอนโดฯโลว์ไรส์ ขนาด 8 ชั้น ในซอย เนื่องจากราคาที่ดินตามแนวถนนถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับถนนสายเมนไม่สามารถขึ้นตึกสูง ทำให้ราคาคอนโดฯมีราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งยากต่อการขาย รวมถึงในเรื่องของราคาค่าแรง และราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นแรงผลักให้ดีเวลอปเปอร์ต้องหนีไปผุดโครงการใหม่ตามซอยต่างๆ

 

ด้าน นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ช่วง 1 ปีหลังน้ำท่วมว่า คอนโดมิเนียมได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างเห็นได้ชัด สำหรับที่อยู่อาศัยในแนวราบต้องรอดูในไตรมาส 4 เพราะจะเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจนที่สุด

 

"ต่อความกังวลในยอดขายและการเปิดตัวโครงการใหม่เขตพื้นที่น้ำท่วมปี 2554 ถือว่ายังไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็คงมีการชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าง เนื่องจากรอดูสถานการณ์ในช่วงปลายปี แต่เท่าที่ดูไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเปิดน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีโครงการคอมมิวนิตีมอลล์เกิดใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค อีกทั้งระบบการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอื้อให้ที่อยู่อาศัยแนวราบกลับมามีอัตราการเติบโตมากขึ้น

 

ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าในไตรมาส 4 จะเห็นตัวเลขที่อยู่อาศัยแนวราบชัดเจนขึ้น สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่บรรดาดีเวลอปเปอร์ทั้งหลายนำมาใช้สร้างยอดขายในปีนี้ไม่ว่าจะเป็น ซื้อบ้านแถมรถ แจกส่วนลด ฯลฯ ถือเป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดที่นำมาใช้เป็นปกติสำหรับช่วงปลายปี เนื่องจากต้องการขายสินค้าในสต๊อกให้หมด เพื่อให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้" นายกิตติพล กล่าว

 

สำหรับมาตรการภาครัฐที่ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนอย่าง โครงการบ้านหลังแรก อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี เพื่ออยู่อาศัย โดยกำหนดวงเงินให้กู้ค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวงเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท , ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ (หลังแรก) ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่ออยู่อาศัยได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีได้ 10% นาน 5 ปี ไม่สร้างแรงจูงใจต่อการบริโภคมากนัก แต่สำหรับมาตรการในเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลน ดอกเบี้ยคงที่ 3% 5 ปี สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่ประสบอุทกภัยดูจะได้รับการตอบรับมากที่สุด

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,782 วันที่ 11-13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

13
    คนซื้ออ่วม! สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรส่งสัญญาณปีหน้าบ้านระดับล่างพุ่งแตะ1.5ล้าน    ( 21 ตุลาคม 2555 )
     

ต้นทุนที่ดิน-ค่าก่อสร้างพุ่งไม่หยุด "สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร" ออกโรงส่งสัญญาณปีหน้า "บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ" จับตลาดล่างจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในกลุ่มบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์จ่อขยับราคาแน่จากยูนิตละ 1 ล้าน เป็น 1.5 ล้าน ส่วนคอนโดฯขยายตัวจากเขตกรุงเทพฯไปจังหวัดปริมณฑลแทน เพราะสะดุดราคาที่ดินแพงบวกข้อจำกัดผังเมืองรวม กทม. จับตา "พัทยา-ภูเก็ต-เขาใหญ่" ทำเลฮอตในต่างจังหวัด

 

นายอิสระ บุญยัง ฐานะ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2556 เป็นปีที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายส่วน โดยผู้ประกอบการยังเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการควบคุมต้นทุน สิ่งที่อยากส่งสัญญาณคือ แนวโน้มการปรับฐานราคาของ "บ้านระดับล่าง" ทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จากปีนี้ยังมีทาวน์เฮาส์ขายในราคาประมาณ 1 ล้านบาทหรือต่ำล้านก็ยังมี แต่ปีหน้าจะเห็นการขยับฐานราคาขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาทบวกลบ แม้แต่ผู้ประกอบการที่สามารถควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างได้ดี ก็จะต้องขึ้นราคาบ้านเช่นกัน

 

ถนน-รถไฟฟ้าดันที่ดินแพง

 

ปัจจัยลบมาจากแรงกดดันต้นทุนพัฒนาโครงการในด้านต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นเร็วมาก ได้แก่ 1) ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในแนวทำเลที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้า ถนน และทางด่วนตัดผ่าน เท่ากับเพิ่มศักยภาพให้กับที่ดินบางทำเล อย่างน้อยที่สุด ต้นทุนราคาที่ดินสูงเกินกว่าตารางวาละ 4-5 หมื่นบาท สำหรับผู้ประกอบการแทบจะพัฒนาทาวน์เฮาส์ไม่ได้แล้ว

 

2) ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็นวันละ 300 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยเฉพาะการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างทั้งทางตรงและตรงอ้อม เนื่องจากในทุกอุตสาหกรรมมีต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ เมื่อแบ่งแยกต้นทุนค่าก่อสร้างบ้าน 1 หลัง พบว่าต้นทุน 100% แบ่งได้เป็นต้นทุนที่ดิน ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และต้นทุนค่าแรงอย่างละประมาณ 1 ใน 3 จะเห็นว่าต้นทุนทุกส่วนปรับขึ้นหมด กดดันให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาบ้าน

 

"ตัวอย่างการปรับราคาเห็นชัดเจนในทำเลลำลูกกาคลอง 2-3 จาก 2 ปีก่อน บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้นำบ้านตลาดล่าง เคยขายทาวน์เฮาส์ราคาเริ่มต้นหลังละ 8-9 แสนบาท แต่ปีนี้ทำไม่ได้แล้ว ต้องขายในราคา 1 ล้านกว่าบาท เพราะต้นทุนขึ้นหมดทุกอย่าง เพราะฉะนั้นผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในปีนี้จะซื้อก็รีบซื้อเถอะครับ"

 

คอนโดฯปริมณฑลแซง กทม.

 

นายอิสระกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน โครงการคอนโดมิเนียมระดับราคา 1 ล้านจะมีปรากฏการณ์ไปโตในจังหวัดปริมณฑลแทนกรุงเทพฯ ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี และนครปฐม เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องผังเมืองมากดดัน จากปัจจุบันผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครมีข้อกำหนดเรื่อง "FAR-อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน" เช่น ที่ดิน 1 ไร่ มี 1,600 ตร.ม. FAR สูงสุดคือ 10 เท่า หรือเท่ากับพัฒนาได้ 16,000 ตร.ม. แต่ทำเลในเมือง FAR จะลดเหลือเพียง 4-5 เท่า สวนทางกับราคาที่ดินแพงตก ตร.ว.ละ 4-5 แสนบาท ดังนั้นจะพัฒนาคอนโดฯได้ต้องเป็นตลาดบนเท่านั้น

 

ประเมินจากสถิติของ REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารสงเคราะห์) เห็นชัดเจนว่า จำนวนที่อยู่อาศัยแนวสูงสร้างเสร็จจดทะเบียนช่วง 7 เดือนแรก ปี 2554-2555 เป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัดปริมณฑล 30,610 ยูนิต แซงหน้าโครงการแนวสูงในกรุงเทพฯที่มีสถิติสร้างเสร็จจดทะเบียนเพียง 28,273 ยูนิต

 

ในแง่อัตราการเติบโตพบด้วยว่า สถิติกรุงเทพฯลดลง 7% โดยปี 2554 มีตัวเลข 30,344 หน่วย ลดเหลือ 28,273 หน่วยในปี 2555 ขณะที่จังหวัดปริมณฑลเพิ่มถึง 58% โดยปี 2554 มีสถิติ 19,308 หน่วย ขณะที่ปี 2555 เพิ่มเป็น 30,610 หน่วย ในจำนวนนี้อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 3,861 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 126% สมุทรปราการ 9,295 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 115% นนทบุรี 10,360 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 71% และปทุมธานี 5,279 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2% ขณะที่นครปฐมลดลงเล็กน้อย

 

อสังหฯต่างจังหวัดคึก

 

สำหรับแนวโน้มการลงทุนพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดของผู้ประกอบการอสังหาฯ นายอิสระกล่าวว่า ปี 2556 ภาคอสังหาฯจะโตในตลาดต่างจังหวัดอย่างชัดเจน ทั้งในทำเลหัวเมืองหลักแต่ละภูมิภาคและจังหวัดชายแดน จากปีนี้ที่มีดีเวลอปเปอร์หลายรายทยอยขยายการลงทุนสู่ต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ทำให้อสังหาฯในต่างจังหวัดร้อนแรง ราคาที่ดินในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อาทิ ภูเก็ต นครราชสีมา หาดใหญ่ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น ฯลฯ จะขยับขึ้นเร็วเท่าที่ประเมิน 3 จังหวัดที่น่าจับตามอง อันดับ 1 ก็ยังเป็นเมืองพัทยาและชลบุรี เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ทั้งจากภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และภาคการท่องเที่ยว มีท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ อันดับ 2 ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของชาวต่างชาติ แม้ว่ายุโรปกำลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ก็มีชาวต่างชาติจากรัสเซีย เกาหลี และจีน เข้ามาทดแทน อันดับ 3 น่าจะเป็นเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่มีการลงทุนบ้านพัก-คอนโดฯตากอากาศเป็นจำนวนมาก

 

"นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี สกลนคร มุกดาหาร ก็น่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้ม 2-3 ปีหน้า พื้นที่ต่างจังหวัดจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากเดิมเป็นสังคมเกษตรกรรมมาสู่การเป็นสังคมเมืองมากขึ้น แรงงานไทยจะหันมาทำงานภาคบริการในเมืองมากขึ้น" นายอิสระกล่าว

 

ที่มา: http://www.prachachat.net

14
     


นาย ต.

 

จากข้อมูลการสำรวจอย่างเป็นทางการของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชี้ให้เห็นแนวโน้มว่า การพัฒนาที่ดินโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมในจังหวัดสำคัญๆ ในส่วนภูมิภาค เติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมีสัดส่วนในตลาดที่อยู่อาศัยของประเทศที่พัฒนาโดยภาคเอกชนมากขึ้น

 

จากการลงสำรวจภาคสนามด้วยตัวเอง ทั้งภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา ขอนแก่น  อุดรธานี ภาคใต้ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ก็พบข้อมูลในเชิงประจักษ์ว่า การทำโครงการบ้านจัดสรรในส่วนภูมิภาคนั้น มาเริ่มต้นกันอย่างจริงจังประมาณ 5-10 ปี และมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็ในห้วงเวลา 3-5 ปีนี้เอง

 

ผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น เป็นผู้นำตลาดในท้องถิ่นที่มียอดขาย 500-1,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่ก็เพิ่งเริ่มทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 10 ปีมานี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีการศึกษาดีไม่แตกต่างจากผู้ประกอบการส่วนกลางในกรุงเทพฯ

 

ผลงานคือโครงการบ้านจัดสรรที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็จะพบว่าทั้งการวางผังโครงการ การออกแบบบ้าน และการก่อสร้าง ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากโครงการบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เลยแม้แต่น้อย

 

ปัจจุบันคงไม่สามารถใช้คำว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ กับ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภูธร ได้อีกแล้ว เพราะไม่มีความแตกต่างทั้งความรู้ความสามารถและผลงาน จะต่างกันตรงที่ทำกันคนละตลาดเท่านั้น

 

แนวโน้มอัตราการเติบโตที่ดีของอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค ไม่เพียงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาคเติบโตได้รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังดึงดูดให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลาง ซึ่งมีแรงกดดันต้องรักษาระดับอัตราการเติบโตของบริษัทเนื่องจากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กระโดดลงมาทำโครงการในส่วนภูมิภาคมากขึ้นอย่างเป็นระบบ

 

บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายได้กำหนดเป้าหมายสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทอย่างเป็นรูปธรรม ว่าจะต้องมีสัดส่วนรายได้จากโครงการในส่วนภูมิภาคเท่าไหร่ในแต่ละปีข้างหน้า แสดงถึงการเอาจริงของยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่จะบุกต่างต่างจังหวัด

 

ส่งผลให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นกังวลกันพอสมควรว่าในจังหวัดที่มียอดซื้อที่อยู่อาศัยปีละ 1-2 พันยูนิต อยู่ๆ มียักษ์ใหญ่มาเปิดโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่จำนวนนับพันยูนิตในโครงการเดียว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเอาถังใบใหญ่ตักน้ำมาใส่หม้อใบเล็ก น้ำก็ต้องล้นแน่นอน โครงการแรกกำลังซื้อที่แย่งมาจากตลาดที่อยู่อาศัยให้เช่าอาจมากพอ

 

แต่โครงการที่สอง ระลอกที่สอง กำลังซื้อโตไม่ทัน อาจเป็นปัญหา

 

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการจากส่วนกลางที่ไปเปิดโครงการภูมิภาค แม้จะมีข้อได้เปรียบเรื่องเงินทุน เรื่องเทคโนโลยี แต่ก็มีข้อเสียเปรียบเรื่องต้นทุนที่ดิน เรื่องการเลือกทำเล เพราะมีความชำนาญน้อยกว่า ยักษ์ใหญ่บางรายจากกรุงเทพฯ ไปรีบร้อนซื้อที่ดินใจกลางเมืองใหญ่ แต่สุดท้ายยังเปิดโครงการไม่ได้เพราะไปติดอยู่กับศาลหลักเมืองบ้าง หรือเป็นพื้นที่ชุมชนอนุรักษ์บ้าง หรือเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมถึงในหน้าน้ำหลาก เป็นต้น

 

วันนี้ยังไม่สรุปว่า อสังหาริมทรัพย์ส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น ฝ่ายใดจะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน

 

สรุปได้แค่ว่า  อสังหาริมทรัพย์ส่วนภูมิภาคเป็นดาวรุ่งจริงๆ

 

ที่มา: มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 ต.ค. - 1 พ.ย. 2555

15
ผู้บริหาร ERA ประเทศไทยชี้การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แนะให้วางแผนและเตรียมบุคลากรให้พร้อม เชื่อก่อให้เกิดผลดีทั้งในและออกนอกประเทศ นายวรเดช ศิวเดชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร ERA Franchine (Thailand) กล่าวว่า ในปี 2558 หรืออีก 3 ปีข้างหน้าที่ไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC นั้น หลายภาคส่วนก็มีความตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของภาคบริการด้วย แต่ในส่วนของ ERA เราเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ในเครือ Realogy Corp. ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ใหญ่สุดในโลก ERA เริ่มดำเนินการในประเทศตั้งแต่ปี 2536 ปัจจุบัน ERA Franchise (Thailand) เป็นเจ้าของสิทธิ์ Master Franchise ในประเทศไทย มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศและมีตัวแทนขายกว่าเราเป็นเฟรนไชส์ที่ใหญ่มีตลาดที่ครอบคลุมถึง 40 ประเทศ ในส่วนของ ERA ประเทศไทยเองปีนี้ก็เป็นปีที่ 20 “สำหรับธุรกิจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ติดตามมาโดยตลอดก็ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเป็นวิกฤตแต่โดยส่วนตัวกลับมองว่ามันจะเป็นโอกาส สำหรับ ERA ประเทศไทยเราขณะนี้มีนักขายมืออาชีพแล้วกว่า 1,500 คนและเราก็พร้อมที่จะสร้างนักการตลาดที่มีอนาคต”ประธานกรรมการบริหาร ERA Franchine (Thailand) กล่าวและว่า ที่เรามองว่าการเป็นประชาคมอาเซียนจะเป็นโอกาสนั้น หากดูในประเทศเองเมื่อเป็นประชาคมอาเซียนก็จะย่อมจะมีนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย หรือเข้ามาในไทยมากขึ้นซึ่งก็จะเป็นผลบวกกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพราะแสดงให้เห็นว่าจะต้องมีการตั้งสำนักงาน ต้องมีการก่อสร้าง ต้องการมีจัดสร้างโรงงานอุตสาหกรรม มีการจ้างงาน ทั้งหมดก็ต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งนั้น อย่างเช่นในช่วงที่มีน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา แม้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างฝืด แต่ปรากฏว่าในเขตพัทยา ชลบุรีมีชาวต่างประเทศมาเช่าสำนักงานและให้ทางบริษัทจัดหาบ้านเช่าให้กว่า 20 หลังเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานอาศัย ในกรณีเดียวกันหากมองไปนอกประเทศ ถามว่าแล้ว ERA  มองเห็นโอกาสอย่างไร จุดนี้ก็ต้องมาดูถึงเบื้องหลังของนักลงทุน ซึ่งก็คล้ายกับการขายอสังหาฯมือสองซึ่งเป็นการลงทุนที่น้อย แต่เอามารีโนเวท ตกแต่งใหม่ให้ดูมีสไตล์ก็ทำให้มีกำไรอย่างน้อย 20% ที่สำคัญอย่าลืมว่าการถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นยังมีมูลค่าดีกว่าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะแม้บางทีซื้อมาแล้วยังขายไม่ได้แต่หากทรัพย์ยังอยู่ไม่แน่ในอนาคตราคาประเมินอาจจะเพิ่มขึ้นก็ทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงยังน้อยกว่าตลาดหลักทรัพย์ด้วยซ้ำ “สิ่งสำคัญเราต้องสร้างองค์กรของเราให้พร้อม เช่นเดียวกับ ERA เราต้องมองทุกอย่างเป็นโอกาส อย่ากลัวและขอให้พร้อมในการวางแผนและเปิดวิชั่นให้กว้าง อย่าลืมว่าตลาดต่อไปไม่ใช่แค่ 60 ล้านคนแล้ว แต่เป็นอาเซียนรวมกันเป็น 600 ล้านคน และถ้ารวมจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็มากกว่า 600 ล้านคน สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ถ้าวางแผนดี วางแผนด้านบุคลากรให้พร้อมและสร้างให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับชาวต่างประเทศที่จะเข้ามาจะดีกว่า”นายวรเดช กล่าวและว่า ในการทำการตลาดสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นที่ผ่านมามักจะต่างคนต่างขาย โดยทุกโครงการจะออกจุดเด่นของตนเอง แต่เมื่อตลาดเปิดกว้างและหากเจ้าของโครงการมีการรวมตัวกันแล้วนำเสนอขายพร้อมกันจะทำให้ขายได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือโครงการใหญ่อย่าคิดขายโดยลำพัง เนื่องจากความต้องการของคนซื้อจะมีอยู่ 3 อย่างเท่านั้นคือ อยากซื้อ กู้ได้และโครงการนั้นพร้อมเข้าอยู่ได้ ที่สำคัญการทำโครงการจะต้องให้ตรงกับความต้องการของตลาด จากการสำรวจข้อมูลของผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์พบว่า 40% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย 30% ซื้อเพื่อเก็งกำไร และอีก 30% ซื้อเพื่อลงทุนคือให้เช่าต่อ ดังนั้นในการลงทุนของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ก็จะใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน แต่อย่าลืมดูสภาวะเศรษฐกิจ ดูกำลังซื้อของตลาดเป็นองค์ประกอบด้วย.

16

ธนารักษ์ เชียงใหม่ ประกาศราคาประเมินที่ดินรอบใหม่มีผลใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.2555-2558 โดยที่ดินบริเวณถนนท่าแพแพงสุดตารางวาละ 84,000-250,000 บาท ขณะที่ราคาที่ดินบริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ในรอบใหม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่ม/ลดจากรอบเดิม 173-88% ส่วนดอยหล่อ แม่แจ่มและกัลป์ยาณิวัฒนาในจุดที่ไม่มีทางเข้าออกราคาประเมินตารางวาละ 10 บาทเหมือนเดิม ว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้ประกาศราคาประเมินที่ดินในรอบบัญชีปี พ.ศ.2555-2558 หลังจากที่มีการชะลอมาตั้งแต่ช่วงต้นปี เนื่องจากขณะนั้นประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วม ทางรัฐบาลได้ให้ชะลอระยะเวลาในการประกาศออกไปก่อนอีก 6 เดือน โดยราคาประเมินที่ดินใหม่นี้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา  สำหรับการพิจารณาราคาประเมินที่ดินนั้น ทางกรมธนารักษ์จะพิจารณาจากราคาจดทะเบียนที่เอามาจากกรมที่ดินย้อนหลัง 3 ปี โดยเอาราคามาเป็นฐานส่วนหนึ่งในการพิจารณาราคาประเมิน และจัดส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจเพื่อทำการประเมินราคาซื้อ ขายจากพื้นที่จริงว่ามีราคาที่ซื้อขายจริงเท่าไหร่ ทั้งจากราคาประกาศขายและการต่อรองราคาเพื่อที่จะให้ได้ราคาที่ดินที่ใกล้เคียงการซื้อขายจริงให้มากที่สุด “หลังจากได้ราคาซื้อขายที่ใกล้เคียงการซื้อขายจริงมาแล้ว ก็จะนำราคาแต่ละพื้นที่เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการประเมินราคาที่ดินของจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานอนุกรรมการ และมีตัวแทนจากภาคเอกชนที่เป็นกรรมการด้วย 3 คน มีปลัดจังหวัด สรรพากรจังหวัด ธนารักษ์จังหวัดร่วมเป็นกรรมการด้วย เมื่อที่ประชุมอนุกรรมการประเมินราคาที่ดินระดับจังหวัดได้ข้อสรุปและมีมติที่ประชุมออกมาก็จะส่งราคาประเมินที่ได้ไปยังคณะกรรมการประเมินราคาที่ดิน ที่กรมธนารักษ์ส่วนกลาง ซึ่งก็มีนักวิชาการหลายท่านร่วมเป็นกรรมการด้วย และหากคณะกรรมการชุดใหญ่เห็นชอบก็จะประกาศตามราคาประเมินที่อนุกรรมการฯเสนอ แต่ถ้าคณะกรรมการประเมินราคาที่ดินกลางเห็นควรให้แก้ไขก็ส่งกลับมาให้ทบทวน”ว่าที่ร.ต.ยงยุทธ กล่าวและว่า ในส่วนของราคาประเมินใหม่ที่ออกมาในรอบบัญชีนี้จะมีผลบังคับใช้ 4 ปี และราคาประเมินในแต่ละถนนอาจจะแตกต่างกันระหว่างหัวถนน กลางถนนและท้ายถนน ส่วนเรื่องของผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่หลายคนสงสัยว่าจะมีส่วนกับราคาประเมินที่ดินใหม่หรือไม่นั้น จริงๆ ผังเมืองก็เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะอย่างไรแล้วก็ต้องยึดเอาราคาซื้อขายที่ดินจริงในตลาดเป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคาประเมิน ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับราประเมินที่ดินถนนสายสำคัญ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ในรอบปี 2555-2558  อาทิ ถนนช้างคลาน ตารางวาละ 45,000-250,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งเพิ่มจากราคาประเมินที่ดินในรอบปี พ.ศ.2551-2554 ขณะนั้นตารางวาละ 30,000-250,000 บาท ถนนท่าแพ ตารางวาละ 84,000-250,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 5-25% ถนนเจริญเมืองตารางวาละ 40,000-150,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 0-25% ถนนวิชยานนท์ ตารางวาละ 50,000-250,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 43-0% ถนนนิมมานเหมินทร์ ตารางวาละ 82,000-150,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 173-88% ซึ่งราคาประเมินเดิมเมื่อปีพ.ศ.2551-2554 อยู่ที่ตารางวาละ 30,000-80,000 บาท ถนนช้างเผือก ตารางวาละ 55,000-150,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 57-25% ซึ่งราคาประเมินเดิมตารางวาละ 35,000-120,000 บาท  ถนนห้วยแก้ว ราคาประเมินใหม่ตารางวาละ 30,000-150,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 50-50% จากราคาประเมินเดิมตารางวาละ 20,000-100,000 บาท ถนนสุเทพ ราคาประเมินใหม่ตารางวาละ  40,000-175,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 100-75% โดยราคาประเมินเดิมเท่ากับถนนห้วยแก้ว ส่วนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (เชียงใหม่-ลำปาง)ราคาประเมินเดิมตารางวาละ 9,150-80,000 บาท ราคาประเมินใหม่ ตารางวาละ 10,000-120,000 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 9-50% และถนนวงแหวนรอบกลางเมืองเชียงใหม่ (ฌ3) ราคาประเมินเก่าตารางวาละ 6,400-20,000 บาท ราคาประเมินใหม่ตารางวาละ 7,800-24,500 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม/ลดจากเดิม 22-23% สำหรับราคาประเมินที่ดินสูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปี 2551-2554 อยู่ที่กาดวโรรสและถนนช้างคลาน ตารางวาละ 250,000 บาท แต่ราคาประเมินที่ดินใหม่ราคาที่ดินบริเวณถนนวิชยานนท์ ช้างม่อย ตลาดต้นลำไย ตลาดวโรรสและถนนช้างคลานเท่ากันหมดคือตารางวาละ 250,000 บาท โดยย่านถนนช้างคลานและตลาดวโรรสไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ย่านถนนวิชยานนท์และถนนช้างม่อยมีการเปลี่ยนแปลงร้อยละ 25 และย่านตลาดต้นลำไยมีการเปลี่ยนแปลงร้อยละ 14 ส่วนราคาประเมินที่ดินต่ำสุดของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่อำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นที่ดินบริเวณของสหกรณ์เกษตรกรรมจอมทอง กรป.กลางจำกัด และที่อำเภอแม่แจ่มกับอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งราคาประเมินทั้งรอบเก่าและใหม่เท่ากันตารางวาละ 10 บาท เนื่องจากเป็นที่ดินที่ไม่มีทางเข้า-ออก.

17
เปิดตัว “ทองเจริญ พลาซา” ศูนย์กลางช็อปปิ้งและแหล่งพักผ่อนใหม่ของชาวเชียงใหม่   ชูจุดเด่น One stop services มาที่แห่งนี้ที่เดียวสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทุกรูปแบบครบวงจร  ขณะที่ใช้โปรโมชั่นล่อใจ พ่อค้า แม่ค้าที่สนใจขายสินค้า ฟรีค่าเช่า 3 เดือน ธุรกิจตลาดนัด อาคารพาณิชย์ในเชียงใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการลงทุนทั้งจากกลุ่มทุนต่างถิ่นและกลุ่มทุนท้องถิ่น โดยธุรกิจพลาซา ตลาดนัดหลายแห่งมีผู้คนไปช็อปปิ้งมากมาย สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ อย่างมีโชค พลาซา และกรีน มาร์เก็ต เป็นต้น และที่เกิดใหม่อีกแห่งบนทำเลทองย่าน ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ทำเลบ้านจัดสรรหลายโครงการใหญ่ อย่างบ้าน กาญจน์กนก 2  , บ้านอรสิริน 3  หรือแม้กระทั่งร้านอาหารจีนชื่อดัง อย่าง ฮิมบ้านสวน ด้วย โดย นายยุทธเดชา สายสุด ผู้บริหาร ตลาดทองเจริญ หรือ”ทองเจริญ พลาซา” เปิดเผยว่า ทางกลุ่มทุนที่ร่วมกันทำธุรกิจได้ทุ่มเงินกว่า 50  ล้านบาทพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่า ในย่านต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 4 ไร่ 3 งานให้เป็นตลาดและพลาซาที่ทันสมัย สู่รูปแบบ One stop services พร้อมกิจกรรมตลาดนัดวันพุธ ส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ชุมชน มุ่งเน้นสโลแกน สินค้าถูก สะดวกซื้อ ที่จอดรถกว้างขวาง ทำเลใกล้บ้าน พร้อมให้บริการสร้างความประทับใจสำหรับทุกท่านแล้ว โดยตลาดทองเจริญ ได้มีการเปิดตัวเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีแนวคิดมาจากการที่พื้นที่ในบริเวณนี้มีหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากกว่า 10 โครงการและในระยะทาง 5 กม.นี้ยังไม่มีตลาดที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนเกิดขึ้น ทางเราจึงเห็นช่องทางในการดำเนินธุรกิจด้านนี้  จึงได้เปิดตลาดทองเจริญขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าบริเวณนี้ ตลอดจนลูกค้าขาจรเพราะในจุดนี้เองเป็นทางผ่านไปยังที่ต่างๆ รวมถึงผู้ที่ต้องการมาจับจ่ายใช้สอยทั่วไป บนพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน ประกอบด้วยอาคารห้องแถว จำนวน 32 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว รวมถึง พื้นที่ที่จะดำเนินการในส่วนของตลาดนัด ตลาดสด  ตลาดทองเจริญได้วางแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อดึงดูดให้คนมาลงทุนและ มาใช้บริการโดยจะดำเนินธุรกิจแบบ  One stop services คือมาที่แห่งนี้ที่เดียวสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทุกรูปแบบครบวงจรและในอนาคตอันใกล้จะมีการ ตั้ง 7-11 ขึ้นและยังจะมีธนาคารที่จะมาจัดตั้งภายในพื้นที่ใช้สอยของตลาด เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ที่จะมาลงทุน ตลอดจนความสะดวกสบายที่จะได้รับ ซึ่งหากการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายทางตลาดเองคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 500,000 บาท/เดือน หรือปีละประมาณ 5-6 ล้านบาทโดยจะใช้เวลาประมาณ 6 ปี ในการคืนทุน  ด้านการโปรโมทตลาดทองเจริญ มีแผนการคือ ฟรีค่าเช่า 3 เดือน สำหรับพ่อค้า แม่ค้าที่สนใจขายของและเปิดท้ายขายของ ทุกวัน เช้า-เย็น โดยในเดือนแรกของการดำเนินการทางตลาดเองจะไม่คิดค่าบริการในส่วนของ ค่าเช่าแผง – ค่าน้ำ – ค่าไฟ และหากผู้ใดที่เข้ามาขายสินค้าในตลาดในส่วนของตลาดนัดวันพุธ ครบ 4 ครั้งภายในเดือนแรกนี้ทางตลาดเองยัง มีค่าน้ำมันให้โดยจะแยกประเภทรถยนต์ จะให้อาทิตย์ละ 100 บาท รถพ่วงให้อาทิตย์ละ 50 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่เข้ามาขายสินค้าและบริการ จะต้องมาให้ครบทุกอาทิตย์ ในเดือนแรกด้วย ซึ่งจะเป็นการดึงดูดให้มีการเข้ามาลงทุนค้าขายมากขึ้น  ในส่วนของอาคารห้องแถวซึ่งมีทั้งหมด 32 ห้องขณะนี้มีผู้เข้ามาดำเนินการแล้วกว่า 10 ห้องและคาดว่าไม่เกิน 3-6 เดือนในส่วนของอาคารห้องแถวจะเต็ม โดยจะแบ่งเป็นโซนแยกตามชนิดการค้าขาย ซึ่งใน 3 เดือนแรกจะให้ผู้เช่าเช่าฟรี และในช่วงโปรโมทจะลดค่าเช่าจากเดือนละ 8,000 บาทเหลือเดือนละ 6,000 บาทและมีค่าประกัน 1 เดือน 10,000 บาท ทั้งหมดนี้คือการจัดการโปรโมทตลาดทองเจริญซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างหนักในช่วงแรก “ตลาดทองเจริญ มีแนวความคิดที่จะส่งเสริมการเพิ่มรายได้ของประชากร กระตุ้น GDP ของจังหวัดด้วยการจัดเปิด ตลาดนัด-ตลาดสด ทุกวันพุธขึ้นโดยจะเชิญให้พ่อค้า – แม่ค้ามาตั้งแผงในพื้นที่ของตลาดรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่เพื่อที่ตลาดจะได้มีสินค้าที่มีความหลากหลาย พืชผักตามธรรมชาติที่ชาวบ้านเก็บมาขาย ปลาสดจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ โดยจะมีการแสดงดนตรี มีการละเล่น ปาลูกโป่ง ชิงช้าสวรรค์ เพื่อเพิ่มสีสันให้มีผู้เข้ามาใช้บริการในตลาดมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดมาได้ที่ 089-8511183 หรือ 081-9989180 ” นายยุทธเดชา กล่าวในที่สุด.

18
ค.เคหะภัณฑ์ รีเทิร์นจัดโปรโมชั่นสุดบิ๊กอีกครั้งกับ”เทศกาลกระเบื้องทุบราคา”ขนกระเบื้องหลากหลายแบบจากหลายโรงงานทั้งในและต่างประเทศมาลดราคาสุดถูก หวังกระตุ้นตลาดปลายปีฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ค.เคหะภัณฑ์ แจ้งว่า กลับมาแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการกับโปรโมชั่นสุดบิ๊กหนึ่งปีมีหนเดียวกับ ค.เคหภัณฑ์ “เทศกาลกระเบื้องทุบราคา”  ที่ ค.เคหภัณฑ์  คลังกระเบื้องและสุขภัณฑ์  ถนนวงแหวนรอบกลาง  สารภี  (ห่างจากบิ๊กซีหางดงมาทางรางรถไฟ 6 กม.)  ที่เดียวในภาคเหนือที่คุณจะพบกับกระเบื้องหลากหลายแบบจากหลายโรงงานทั้งในและต่างประเทศในราคาสุดถูก  เริ่มต้นแค่เพียงตารางเมตรละ 109 บาท !!

ในเทศกาลกระเบื้องทุบราคานี้ ค.เคหภัณฑ์ คัดสรรกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนังมาให้ชาวเชียงใหม่เลือกอย่างจุใจ  เริ่มด้วยกระเบื้องพื้นแฟชั่น 12 นิ้วทุบราคาถูกสุดๆ ตารางเมตรละ 109 บาท  นอกจากนี้ยังมีกระเบื้องพื้นห้องน้ำขนาด 8 นิ้ว ทุบราคาเหลือตารางเมตรละ 109 บาท  และพลาดไม่ได้กระเบื้องผนังสวยๆ ทุบราคาสุดๆ ตารางเมตรละ 109 บาทเช่นกัน  ไม่ว่าท่านจะเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของหอพัก  ผู้รับเหมา  ร้านค้าช่วง  หรือเจ้าของคอนโดก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง  โดยเฉพาะท่านที่ซื้อจำนวนมากค.เคหภัณฑ์จะมีส่วนลดพิเศษเพิ่มให้อีกพร้อมคูปองซื้อฟรีและของสมนาคุณน่ารักน่าใช้หลากหลายแบบ

นอกจากนี้ค.เคหภัณฑ์  คลังกระเบื้องและสุขภัณฑ์ยังมีสุขภัณฑ์แบรนด์ดังลดกว่า 50 %  โดยเราเป็นตัวแทนจำหน่ายยอดเยี่ยมของสุขภัณฑ์อเมริกันสแตนดาร์ดมาหลายปีซ้อน  สามารถเลือกซื้อสดหรือผ่อนผ่านอิออน  และบริการส่งสินค้าฟรีทั้งกระเบื้องและสุขภัณฑ์
ค.เคหภัณฑ์ ศูนย์รวมกระเบื้องและสุขภัณฑ์แห่งแรกของภาคเหนือ   เปิดบริการทุกวัน  จันทร์-เสาร์เปิด 8.00-18.00 น.  วันอาทิตย์เปิด 9.00-17.00 น.  โทร. 053-424930-3

19
อุปนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูนเชื่อเปิด AEC ไม่กระทบธุรกิจอสังหาฯ แม้จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเพื่ม แต่ยังมีกฎหมายที่ดินคุมอยู่และให้คนไทยมีอำนาจเหนือกว่าต่างชาติ ชี้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการศึกษาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯเฟื่อง นายไพศาล ภู่เจริญ รองประธานกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนจะรวมกันเป็นประชาคมเพื่อส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม แต่หากพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีตามข้อตกลงในการรวมเป็นประชาคมอาเซียนครั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นธุรกิจที่อยู่ในภาคบริการตามคำจำกัดความของ WTO และก่อนที่จะมี AEC ก่อนหน้ามี WTO,NAFTA และ AFTA มาแล้วและมีผลคล้ายกับ AEC ปัจจุบัน นายไพศาล กล่าวว่า จริงๆ การรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC นี้ เป็นเพียงการรวมตัวการผลิตในพื้นที่เพื่อให้ได้ประโยชน์หรือมีพลังในการต่อรองกับประชาคมอื่นๆ โดยพยายามปรับเอาภาษีขาเข้า ขาออกให้หายไปหมด และหากพิจารณาถึงผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทบไม่มีเลย หากดูถึงบลูพริ้นท์ที่ให้บริษัทสาขาบริการเพิ่มสัดส่วนให้ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ถึง 70% และยังให้ทำธุรกิจในประเทศไทยได้ จากเดิมในประเทศไทยมีข้อกำหนดว่าต่างชาติจะถือหุ้นเกิน 50% จะมีแบริเออร์หลายตัวที่ทำและให้ถือว่าไม่ใช่บริษัทของคนไทย ถ้าจะเป็นบริษัทของคนไทยต่างชาติจะต้องถือหุ้นต่ำกว่า 50% “ในข้อกำหนดของ AEC นี้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 70% และยังถือว่าเป็นบริษัทของคนไทยและทำธุรกรรมแบบคนไทยปัจจุบันได้ แต่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมีประมวลกฎหมายที่ดิน ที่กำหนดไว้ว่าบริษัทต้องมีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 49% ซึ่งหมายความว่าสุดท้ายคนที่ออกเสียงได้ใหญ่สุดก็คือคนไทยแม้คนถือเงินมาจะเป็นต่างด้าวก็ตาม และในบลูปริ้นส์จะเพิ่มสัดส่วนให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากถึง 70% ก็ตามแต่เชื่อว่าคนไทยจะยังมีอำนาจในบริษัทนั้นมากกว่า”รองประธานกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯและอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน กล่าวและว่า ยกตัวอย่างธุรกิจโรงพยาบาล สมมุติชาวสิงค์โปร์หอบเงินมาซื้อโรงพยาบาลในเชียงใหม่ และถือหุ้น 70% แต่ปัญหาคือที่ดินที่ตั้งโรงพยาบาลนั้นกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ต่างชาติถือหุ้นได้เกิน 49% และตามกฎหมายคือต้องขายออกภายใน 180 วันหากบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของที่ดินและมีชาวต่างชาติถือหุ้นมากกว่าตามคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน หรือต้องไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ว่าบริษัทสิงค์โปร์มาตั้งบริษัทร่วมกับคนไทยโดยสิงค์โปร์ถือหุ้นมากกว่าและเช่าที่ดินที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ เพราะบริษัทจะเป็นเจ้าของที่ดินไม่ได้ และจะทำให้มีปัญหามากมาย ยกเว้นบลูปริ้นส์จะกำหนดไว้ว่าประเทศไทยต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติด้วย ซึ่งก็ยังไม่ทราบอนาคตเพราะยังมีอีกหลายปี อย่างไรก็ตามรองประธานกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯและอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน ยอมรับว่า AEC ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่น่ากลัวเหมือนกัน เพราะหากเทียบกำลังทรัพย์หรือกำลังเงินของนักลงทุนไทยกับต่างชาติจะเห็นว่าคนไทยจะสู้ไม่ได้ เหมือนกับอดีตที่เคยมีข่าวว่ามีชาวต่างชาติมากว้านซื้อที่นาในภาคกลางซึ่งจริงๆ ทำไม่ได้ ทำได้แค่เช่าสูงสุด 30 ปีและต่ออีก 30 ปีหรือเช่าเพื่ออุตสาหกรรมก็เช่าได้ไม่เกิน 80 ปี ซึ่งมีคนขายคอนโดมิเนียมก็ใช้วิธีการแบบนี้ให้ชาวต่างชาติจดสิทธิเช่า 30 ปีทั้งๆ ที่ต่างชาติเป็นคนลงทุนและเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย นายไพศาล ยังมั่นใจว่า นักลงทุนในประเทศจะยังได้เปรียบชาวต่างชาติแม้จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพราะไม่สามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ โดยใช้วิธีลงทุนทางอ้อม แต่มีอีกกรณีที่บริษัทที่ลงทุนไปจดทะเบียนรับรู้รายได้ในต่างประเทศ หากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีข้อกำหนดให้เสียภาษีรายได้เพียง 23% ซึ่งต่างกับบริษัทในไทยที่ต้องเสียภาษีถึง 30% ซึ่งรัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขอยู่ “อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีภาษีธุรกิจเฉพาะต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VATของไทย 7% แต่ต่างประเทศ 10% เมื่อขายในไทยเสียภาษีแค่ 7% แต่พอกลับไปประเทศเขากลายเป็นภาษีเงินได้ เสียภาษีแค่ 5% กำไรของบริษัทก็ขึ้นมาอีกหลายเปอร์เซ็นต์และมีโอกาสที่จะเกิดรูปแบบการจัดการแบบนี้ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ อย่างกฎหมายผังเมือง จะเห็นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ในภูมิภาค หากเทียบกับเนปิดอร์ที่เป็นเมืองหลวงของพม่า ต้องเดินทางผ่านไทยเข้าพม่ายังเร็วกว่า” ถ้าเปิด AEC ขณะที่ภาคเหนือมีโลเกชั่นแหย่เข้าไปในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าตัวที่จะเกิดได้เร็วคือการขนส่งจะเร็วขึ้น เพราะภาษีไม่มี และสิ่งที่จะตามมาคือถ้าการเมืองนิ่ง กฎหมายของประเทศอื่นนิ่ง โรงงานที่ไปตั้งชายแดนจะมีมากขึ้นเพื่อให้คนงานราคาถูกของเพื่อนบ้านจะเข้ามาทำงานแบบเช้ามาเย็นกลับซึ่งบางบริษัทฯที่ไม่กล้าไปลงทุนในเพื่อนบ้านที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รองประธานกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯและอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน กล่าวด้วยว่า กฎหมายผังเมืองถ้าพูดถึงอิทธิพลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือว่าแรงมาก อย่างข้อกำหนดของ WTO กำหนดสาขาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาคบริการ ซึ่งเป็นการนำเอาวัฒนธรรมมาเข้ากับกฎหมาย การลงทุนอสังหาริมทรัพย์มาเกี่ยวกับที่ดินและการใช้ประโยชน์ ซึ่งการรักษาที่ดินให้มีมูลค่าคงที่ ก็มีกฎหมายผังเมืองมาเกี่ยวข้อง อย่างที่ดินบริษัทถนนนิมมานเหมินทร์ราคาซื้อขายปัจจุบันตารางวาเป็นแสน แต่ในกฎหมายผังเมืองใหม่มีข้อกำหนดในการก่อสร้างและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่ำลง ซึ่งจะมีการบังคับความสูงไว้ไม่เกิน 12 เมตร ที่สำคัญพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ไม่ว่าจะมีที่ดินขนาดไหนก็ตามจะสร้างอาคารใหญ่ไม่ได้ และทำให้ราคาที่ดินลดลง เชียงใหม่ในอนาคตถ้าจะให้เป็นศูนย์กลาง มีลักษณะพิเศษของเมืองที่น่าอยู่ ไม่แออัดก็จะมีผลระยะยาว แต่คนที่จะเจ็บตัวคือนักลงทุนที่ถือครองที่ดินไว้ ดังนั้นต้องรู้ทันกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะกฎหมายผังเมืองมีอายุใช้งาน 5 ปีและต่อได้อีก 2 ครั้งๆ และปีรวมเป็น 7 ปี และกฎหมายผังเมืองใหม่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก “ผมว่าในแง่การใช้อสังหาริมทรัพย์อยู่ เรายังโตได้อยู่ในพื้นที่ แม้กำไรจะลดลง แต่ขนาดธุรกิจอาจจะลดลง และกำไรแต่ละโครงการอาจจะลดลง แต่วอรูมรวมจะเพิ่มขึ้นอยู่ และยังมั่นใจว่าการลงทุนในประเทศจะมีแนวโน้มที่ดีอยู่ และการเปิดประชาคมอาเซียนจะทำให้คนเข้ามาทำธุรกรรมซื้อขายอสังหาฯในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายแดนจะชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯในไทย”นายไพศาล กล่าวและว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือการย้ายที่อยู่อาศัย และที่ธุรกิจอสังหาฯทำให้เชียงใหม่เจริญคือ การศึกษา ซึ่งทำให้เกิดหอพักเกิดขึ้นมากมาย และมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่มาลงทุนและจะเปิดบริการอย่างเช่น เซ็นทรัลเฟสติวัลกับพรอมเมนนาดาจะทำให้ตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 10,000 ตำแหน่ง และเชื่อว่าแรงงานเหล่านี้จะหาหอพักอยู่ซึ่งก็จะทำให้ธุรกิจหอพักเฟื่องฟู.

20
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - มาแล้ว! “แสนสิริ” เปิดตัว “ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ต” ประเดิมโครงการแรกรุกตลาดคอนโดมิเนียมเชียงใหม่ ชูจุดขายพื้นที่ใกล้ธรรมชาติเชิงดอยสุเทพ ระบุศึกษาเชียงใหม่จนมั่นใจว่าสร้างความแตกต่างได้ เชื่อทำเลบวกแบรนด์แสนสิริช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า เผยตั้งเป้าปิดโครงการได้ใน 3 เดือน ประกาศพร้อมลุยธุรกิจอสังหาฯ อื่นๆ ที่เชียงใหม่ต่อแน่นอน
       
       วันนี้ (10 ก.ย.) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จัดการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกใน จ.เชียงใหม่ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และนายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมในการแถลงข่าว
       
       โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 8 ไร่ บริเวณหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ.สุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มูลค่าโครงการประมาณ 960 ล้านบาท ดำเนินการภายใต้คอนเซ็ปต์ “ม่วนม่วนใจ๋กลางเวียง” เป็นอาคารคอนโดมิเนียมความสูง 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ประกอบด้วยห้องชุดแบบ Studio ขนาดประมาณ 29 ตร.ม. รวมทั้งสิ้น 546 ยูนิต พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางรวมเกือบ 2 ไร่ สระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ ฟิตเนส และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ โดยจะเริ่มเปิดให้ลูกค้าที่สนใจจองห้องชั้น 1 และ ชั้น 2 ในวันที่ 11 ก.ย. ก่อนจะเปิดขายโครงการ (Pre-Sale) อย่างเป็นทางการในวันที่ 21-23 ก.ย. นี้ ณ Sales Gallery ถ.สุเทพ
       
       นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเปิดตัวโครงการดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ที่ จ.เชียงใหม่ว่า โครงการดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ รวมทั้งผู้ที่ชื่นชอบ จ.เชียงใหม่ ที่ต้องการที่พักอาศัยที่เดินทางสะดวกสบาย เหมาะแก่การใช้ชีวิตในเขตตัวเมืองเชียงใหม่และสามารถอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติไปได้พร้อมๆ กัน
       
       โครงการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ผืนสุดท้ายเชิงดอยสุเทพบน ถ.สุเทพ ซึ่งจากทำเลที่ตั้งและแบรนด์ของแสนสิริที่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เชื่อว่าจะทำให้โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งใน จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง
       
       นายอภิชาติกล่าวต่อไปว่า การเข้ามาดำเนินธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.เชียงใหม่ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเห็นว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพ เนื่องจากการจะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ใดก็ตามจำเป็นที่แสนสิริจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในแต่ละพื้นที่อย่างถ่องแท้ รวมทั้งมั่นใจว่าสามารถนำเสนอที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นให้พื้นที่นั้นๆ ได้ ซึ่งในตอนนี้บริษัทเชื่อมั่นว่ามีความพร้อมและศักยภาพที่จะสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของ จ.เชียงใหม่
       
       ประธานอำนวยการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า แสนสิริไม่ได้ขายเพียงแค่บ้านหรือคอนโดมิเนียม แต่นำเสนอทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสนสิริ ให้ได้รับความพอใจจากที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ รวมทั้งมีความสุขกับการใช้ชีวิตในโครงการของแสนสิริ ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลให้ลูกค้าให้การสนับสนุนโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคตด้วย
       
       ด้านนายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารโครงการและการตลาดบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ และใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การออกแบบมีการนำผังอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง University of Oxford และ University of Cambridge ที่มีอาคารเรียนล้อมรอบด้วยสนามหญ้าใหญ่ มาเป็นแนวคิดในการออกแบบโครงการ โดยสนามหญ้าใหญ่ภายในโครงการจะเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
       
       ขณะที่รูปแบบอาคารมีการนำสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมทั้งสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ เช่น กำแพงคูเมือง กาแล เป็นต้น มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบอาคาร แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นคอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นล้านนาของเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งแต่ละยูนิตมีการออกแบบพื้นที่ห้อง โดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานที่ลงตัว ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยด้วยการแบ่งพื้นที่พักผ่อน ห้องน้ำ และห้องครัวอย่างเป็นสัดส่วน
       
       ทั้งนี้ นายสุริยะกล่าวว่า โครงการดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท จะเริ่มทำการก่อสร้างในช่วงปลายปี 2555 นี้ และคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้ผู้ซื้อเข้าอยู่อาศัยได้ในช่วงต้นปี 2557 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงานที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรกที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้เมืองและที่ทำงาน เบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าหลังจากที่เปิดจองแล้วน่าจะสามารถขายได้หมดในเวลาประมาณ 3 เดือน
       
       นอกจากนี้ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า นอกจากโครงการดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท แล้ว ในอนาคตทางบริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่อย่างแน่นอน ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งเวลานี้มีทำเลที่ตั้งที่ทางบริษัทให้ความสนใจอยู่ 2-3 แห่ง แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้
       
       อย่างไรก็ตาม แนวความคิดของโครงการในอนาคตจะยังคงให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักเช่นเดิม

21
โลกวันนี้ : กรมที่ดินเผยตัวเลขขออนุญาตจัดสรร 9 เดือน 67,781 ยูนิต ตลาดทาวน์เฮาส์ครองแชมป์ 42.33% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 31.08% และบ้านแฝด 12.28%

แหล่งข่าวจากสำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดิน เปิดเผยกับ “โลกวันนี้” ถึงตัวเลขขออนุญาตจัดสรรในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2555 ว่าผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตจากกรมที่ดินให้ทำการจัดสรรทั้งสิ้น 568 โครงการ จำนวน 67,781 ยูนิต แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯ 96 โครงการ จำนวน 12,686 ยูนิต ต่างจังหวัดอีก 472 โครงการ จำนวน 55,095 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่เติบโตกว่าตลาดคอนโดฯที่มียอดจดทะเบียนเพียง 48,489 ยูนิต สำหรับรายละเอียดของประเภทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตแบ่งเป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุด 28,695 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 42.33% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 20,389 ยูนิต คิดเป็น 31.08% บ้านแฝด 8,324 ยูนิต คิดเป็น 12.28% ที่ดินเปล่า 5,404 ยูนิต คิดเป็น 7.97% และอาคารพาณิชย์ 4,969 ยูนิต คิดเป็น 7.33%

ส่วนตัวเลขขอออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ (ทั้งโครงการ) ณ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีโครงการที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมที่ดินทั้งสิ้น 67 โครงการ แบ่งเขตกรุงเทพฯ 13 โครงการ ที่เหลือเป็นเขตต่างจังหวัด (ภูมิภาค) จำนวน 54 โครงการ โดยจังหวัดที่ได้รับใบอนุญาตมากที่สุดคือ นนทบุรี จำนวน 16 โครงการ รองลงมาเป็นระยอง 13 โครงการ ชลบุรี 5 โครงการ นครศรีธรรมราช 4 โครงการ มหาสารคาม ขอนแก่น และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 2 โครงการ อุบลราชธานี สระบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ยะลา พิษณุโลก อุทัยธานี นครสวรรค์ และแม่ฮ่องสอน จังหวัดละ 1 โครงการ

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคมที่มีโครงการได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรจากกรมที่ดินทั้งสิ้น 49 โครงการ (กรุงเทพฯ 8 โครงการ และต่างจังหวัด 41 โครงการ) แสดงให้เห็นว่าตัวเลขได้รับใบอนุญาตในเดือนกันยายนเติบโตกว่าเดือนสิงหาคมทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

22
    1
    2
    3
    4

    [photo]

จับทิศอสังหาฯเชียงใหม่-ในอัตราเร่งของการเติบโต
จับทิศอสังหาฯเชียงใหม่ ในอัตราเร่งของการเติบโต : รายงานพิเศษ : โดย ... สกาวรัตน์ ศิริมา

          ด้วยข้อจำกัดที่ผังเมืองรวมเชียงใหม่ไม่มีการบังคับใช้ในการควบคุมการก่อสร้าง นับตั้งแต่ปี 2549 ภายหลังจากผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ฉบับเดิมหมดอายุในปี 2547 กล่าวได้ว่า นี่คือตัวเร่งด้านหนึ่งที่ทำให้เกิดการขยายตัวในการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ น่าสนใจว่าการขยายตัวที่เกิดขึ้นดังกล่าว เป็นการรุกไปในพื้นที่รอบนอก ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพื้นที่ในโซนของเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่ ที่เป็นศูนย์กลางการลงทุนเท่านั้น ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในรายของกลุ่มทุนต่างชาติก็คือ การลงทุนสร้างศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ ของนักลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ ในนามของอีซีซี กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นรีสอร์ทมอลล์แห่งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันเฉียงใต้ โครงการนี้ตั้งอยู่ที่ถนนเชียงใหม่-แม่ออน อ.เมือง มูลค่าการลงทุน 2.9 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ปลายปี 2555

          ด้านธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่เกิดการลงทุน ทั้งโครงการ มีโชคพลาซ่า ของตระกูลตนานุวัฒน์ และโครงการ แอ็ดเคิฟว์ คอมมูนิตี้ แอนด์ เอ็นดูเคชั่น มอล์ (@Curce Community & Education Mall) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบนที่ดิน 5 ไร่ ย่าน ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง ส่วนที่กำลังมีแผนจะก่อสร้างอีกรายก็คือ โครงการลงทุนคอมมูนิตี้ มอลล์ ของกลุ่มจิตรสกุล เจ้าของกิจการโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์ วิว ใช้เนื้อที่รวม  20 ไร่ บนถนนซูปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง, โครงของกลุ่มวนัสนันท์ ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหาร และของที่ระลึกรายใหญ่ ที่มีเป้าหมายพัฒนาที่ดินย่านถนนวงแหวนรอบกลางเชียงใหม่ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ มูลค่าการลงทุน 300 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มนิ่มซีเส็ง ซึ่งได้พัฒนาโครงการทำคอมมูนิตี้มอลล์ไปแล้ว ภายใต้ชื่อ นิ่มเดลี่ซิตี้ บนถนนมหิดล อ.เมือง ได้มีการพัฒนาที่ดินบริเวณใกล้เคียงเตรียมสร้างช็อปปิ้งมอลล์ "OLD CHIANGMAI" ภายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท

          ส่วนกลุ่มไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล เตรียมเข้ามาลงทุน และเปิดอีก 2 สาขา ด้านที่อยู่อาศัยแนวดิ่ง กลุ่มตนานุวัฒน์ ยังได้เตรียมทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ทำคอนโดมิเนียม 100 ยูนิต บนที่ดิน 4 ไร่ ย่านถ.ซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง โดยเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเริ่มก่อสร้างได้กลางปีนี้ บริษัท มงกุฎล้านนา จำกัด ของนักลงทุนจังหวัดเชียงใหม่ มีโครงการลงทุนก่อสร้างโครงการมงกุฎล้านนา ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัย รูปแบบบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม บนพื้นที่ 24 ไร่  ในต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เม็ดเงินลงทุนในโครงการนี้เฉลี่ยที่ 800  ล้านบาท ถือเป็นที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติหรือลองสเตย์แบบครบวงจรโครงการแรกที่เกิดขึ้นในจังหวัด

          ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กลุ่มเอสเอ็ฟ ซีนีม่า กำลังพัฒนาพื้นที่บริเวณถ.ห้วยแก้ว เยื้องกับสี่แยกรินคำ อ.เมือง สร้างคอมเพล็กซ์ มีโรงภาพยนตร์ และช็อปปิ้งรวมอยู่ด้วยกัน ขณะที่กลุ่มทุนรายใหญ่อย่างเซ็นทรัลพัฒนา ได้ซื้อที่ดินกว่า 70 ไร่ บริเวณสี่แยกศาลเด็ก ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง เพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ กำหนดเปิดตัวเดือนธันวาคม 2556 นี้

          "การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นการรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้น เชียงใหม่มีศักยภาพนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภาคเหนือ ขณะที่ในสาขาของที่อยู่อาศัย ผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ทำให้เกิดความต้องการที่จะหาซื้อบ้านหลังที่ 2 นี่จึงเป็นการเปิดโอกาสทางการลงทุนให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อม ผมมองว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ทำลายสถิติการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ จากโครงการลงทุนด้านต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น" ไพศาล ภู่เจริญ รองประธานกรรมการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สะท้อนความเห็นถึงการลงทุนด้านอสังหาฯ ที่มีจำนวนมาก

          ส่วน นนท์ หิรัญเชรษฐ์ เลขาธิการ สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน คาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะขยายตัวจากปี 2554 ไม่ต่ำกว่า 25-30% เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าจากต่างถิ่นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเข้ามาหาซื้อที่อยู่อาศัย ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น จึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการลงทุน โดยในปีนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มทุนจากส่วนกลางได้ขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์, กลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์ และกลุ่มศุภาลัย ส่วนกลุ่มทุนท้องถิ่นก็มีการขยายการลงทุนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม อรสิริน หรือกลุ่มลากูน่า ประเมินว่ามูลค่าการลงทุนในสาขาของที่พักอาศัยไม่น่าจะต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท แต่มีความเป็นไปได้ที่ราคาบ้านอาจจะปรับสูงขึ้น ตามต้นทุนของวัสดุก่อสร้างที่มีราคาสูงขึ้นด้วย

          วัชระ ตันตรานนท์ ประธานกลุ่มวีกรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาพการลงทุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่คึกคักต่อเนื่องมาจากปี 2554 จนถึงปี 2555 ดูได้จากการลงทุนก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ตลอดจนการลงทุนของภาคธุรกิจต่างๆ ที่เข้ามาปักหลักในพื้นที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ และต่างถิ่นเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นช่วงสุญญากาศไม่มีกฎหมายผังเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 หลังจากผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ฉบับเดิมหมดอายุไปตั้งแต่ปี 2547 ทำให้มีการเดินหน้างานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีมากกว่า 30 โครงการ

          "ด้านราคาที่ดินก็น่าสนใจ ย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง มีการซื้อขายตารางวาละ  80,000-100,000 บาท ถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งการค้า และการทำธุรกิจ มีการซื้อขายที่ดินตารางวาละ 100,000-200,000 บาท ส่วนบริเวณย่านวัดอุโมงค์ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการซื้อขายที่ดินตารางวาละ 40,000-50,000 บาท  นี่คือความเคลื่อนไหวของราคาที่ดินในขณะนี้" วัชระ กล่าว

          ทั้งหมดนี้ คือทิศทางของการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเกิดขึ้นกับศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ

 

 

----------

(หมายเหตุ : จับทิศอสังหาฯเชียงใหม่ ในอัตราเร่งของการเติบโต : รายงานพิเศษ : โดย ... สกาวรัตน์ ศิริมา)

----------


23
ผู้ประกอบการใหม่เชียงใหม่เพิ่มพุ่ง เอกชนชี้ตลาดซื้อเพื่อลงทุน-ต่างชาติคึกคัก สัดส่วนแต่ละกลุ่มกว่า 30% "เอ็ม.โอ.ยู.ฯ" ผุดคอนโดเฟสใหม่ 3.5ลบ

นายมนตรี บุรีทาน ประธานกรรมการบริษัท เอ็ม.โอ.ยู. เพอร์เฟค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ขณะนี้ ถือว่ามีการแข่งขันสูงกว่าเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามาก จากเดิมที่มีผู้ประกอบการในพื้นที่พัฒนาคอนโดมิเนียมเพียง 2-3 ราย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในพื้นที่และผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากกรุงเทพฯ เข้ามา จนทำให้มีผู้ประกอบการแล้ว 14-15 ราย

"ปัจจุบันซัพพลายในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่แข่งขันกันสูงมาก ซึ่งการแข่งขันในปีนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ศักยภาพสินค้าว่า เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเพียงใด" นายมนตรี กล่าว

สำหรับระดับราคาคอนโดมิเนียมที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นิยมพัฒนากัน อยู่ราคา 4-5 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เล็งตลาดบ้านหลังที่สองของคนกรุงเทพฯ และตลาดต่างประเทศ ขณะที่ราคาเช่าอพาร์ตเมนต์ในปัจจุบันอยู่ที่ 4,500-7,000 บาทต่อเดือน

สำหรับเอ็ม.โอ.ยู.เริ่มต้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันพัฒนามาแล้ว 6 โครงการ โครงการแรกใช้ "เชียงใหม่ วิว เพลส" หรือ VP เน้นเจาะตลาดผู้บริโภคในพื้นที่ ขายที่ราคา 2.9 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. หรือต่อยูนิตไม่เกิน 9 แสนบาท เน้นเจาะตลาดผู้ที่เคยเช่าอพาร์ตเมนต์ ปัจจุบันขายหมดแล้วทั้งโครงการ

"เราพัฒนาคอนโดราคาถูกมีผู้สนใจเข้าซื้อเพื่อลงทุนจำนวนมาก โครงการแรกมีผู้ที่ซื้อเพื่อลงทุนถึง 30% ตลาดต่างชาติก็น่าสนใจ โครงการแรกมีต่างชาติเข้ามาซื้อ 10% ส่วนโครงการใหม่มีชาวต่างชาติที่แต่งงานกับคนไทยมาซื้อกว่า 30% ส่วนหนึ่งใช้ชื่อแฟนชาวไทยเป็นเจ้าของ จึงทำให้มียอดผู้ซื้อชาวต่างชาติมี 15%"

ล่าสุด หลังจากที่โครงการคอนโดมิเนียม "เชียงใหม่ วิว เพลส 2" หรือ VP2 อาคาร A และอาคาร B ขายไปได้แล้วกว่า 90% บริษัทจะเปิดให้จองอาคาร C ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยอาคารดังกล่าวจะปรับระดับราคาขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ในพื้นที่ เปิดขายที่ราคา 39,000 บาทต่อ ตร.ม. ขนาดห้องตั้งแต่ 90-390 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท จะโอนได้ทั้งหมดภายในปี 2556 และบริษัทได้เตรียมที่ดินเปล่าอีก 3-4 แปลงไว้รอพัฒนาในอนาคต

บริษัท เอ็ม.โอ.ยู. เพอร์เฟค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบริษัท เอกค้าไทย จำกัด ในอนาคตจะขยายสู่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อให้ครบวงจรด้วย

24

เราจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารของฝากทุกชนิดของภาคเหนือ อาทิเช่น แหนม หมูยอ แคบหมู น้ําพริกหนุ่ม น้ําพริกน้ําเงี้ยว ไส้อั่ว ลําไยอบแห้ง ใบชาสมุนไพร สินค้าอาหารแปรรูป OTOP ที่มีคุณภาพ ความสะอาด รวมถึง รสชาติดี เป็นของฝากให้กับญาติสนิทมิตรสหายได้ ซึ่งได้รับการยอมรับและตอบรับจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา อีกทั้งทางร้านยังจัดจําหน่ายทั้งปลีกและส่ง
lumjao.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
053-251822 / 081-6712940 คุณเอก / 088-4302398 คุณมน
Email phatcharashop@gmail.com
ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

25
โปรโมชั่นสำหรับนักดืมชามือใหม่
กาน้ำชาสุดเทห์ กับ ชาอูหลงคัดพิเศษ เพี่ยง 199 บาท
คุ้มมากกว่าคุ้ม วันนี้ ถึง 30 พย 55 นี้เท่านั้น

lumjao.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
053-251822 / 081-6712940 คุณเอก / 088-4302398 คุณมน
Email phatcharashop@gmail.com
ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

26
ถ้าให้คุณเลือกปริ้นคำสามคำลงไปในเสื้อน้องคุณจะเลือกปริ้นคำว่าอะไร เพราะว่าอะไร

ตัดสินจาก ข้อความไหนคนถูกใจมากที่สุด รับเสื้อพร้อมคำที่คุณเลือกไปใส่เลย ตัดสินวันที่ 18 /11/2011

ไปตอบกันได้นะครับที่นี้เลย  https://www.facebook.com/DonausClub

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=219751244764909&set=a.208174292589271.53731.208104259262941&type=3&theater

27
 เขิน เขิน เขิน  เรากำลังจะทำโครงการ เพื่อเด็กตาบอดครับ ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ   ;khhg ;khhg ;khhg ;khhg

29
 vbnn vbnn vbnn

เครื่องเสียงติดรถเสีย ว่าจะเอาไปซ่อม แต่กลัวร้านทำไม่ดี  ouiy  รถรุ่นนี้อะไหล่กรอบด้วย แตกแล้วแตกเลยหาไม่ได้ด้วย
ใครมีร้านที่ ฝีมือดีแนะนำด้วยครับ 

ขอบคุณครับ  ;khhg ;khhg ;khhg

30
 เขิน เขิน เขิน  เหมื่อนชีวิตจริง เลยว่าไหม ฮ่าๆๆๆ

31
 zad   ตกข่าวอะ   zad

32
ผม เฝ้าสำนักงาน   zad zad zad  น้ำไม่โดนสักหยด  piuyty  ท่านละครับ

33
 uiuo uiuo uiuo  ตามนั้น เสนอมาเดียวเจอกัน   ;khhg ;khhg ;khhg

หน้า: [1]