ปิศาจขวางโลก ( อามาโนะจากุ )คนนิสัยดีอ่อนหวานแล้วจุ่ๆเปลี่ยนไปยังกะหน่ามือเป็นหลังตี..โดยไม่มีสาเหตุ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า..คนคนนั้นถูกอามาโนะจากุเข้าสิง ปิศาจตัวเล้กๆตัวนี้มีนิสัยขวางโลกอย่างรุนแรง ใครว่าซ้าย ข้าจาไปขวา ใครว่าขวา ข้าจาไปซ้าย-*- น่าโมโห กวนตี... ใครว่าสีขาวข้าจาว่าสีดำ ใครจาทำไม ปิศาจตนนี้มีแต่จาเปลี่ยนคนดีให้เป็นคนเลว แต่ที่เปลี่ยนคนเลวให้เป็นคนดีขึ้นมานั้นยังไม่ปรากฏ
หัวที่ลอยละล่อง ( ไมคุบิ ) เป็นตำนานเก่าแก่ที่ปรากฏในนิทานของชาวโมโมยามะเมื่อราวปี คศ.1200 เล่ากันว่าคืนหนึ่งมีซามูไร 3 ตนที่นิสัยไม่ดีนักได้แก่ โคซันตะ มาตะชิเงะ และอากุโกโร ทะเลาะกันอย่างดุเดือดอยุ่ริมทะเล และลงท้ายด้วยการบั่นคอของแต่ละคนจนตายกันถ้วนหน้า(บ้าดีเดือดแท้ๆลย)ตั้งแต่นั้นมาในคืนเดือนเพ็ญจะปรากฏศีรษะลุ่นๆสามหัวหรือเห็นเป็นแค่ดวงไฟ 3 ดวง ลอยหมุนติ้วเป็นวงกลม ร้องตะโกนว่า ? เป็นความผิดของเจ้านั่นแหละ ?{เชื่อกันว่าถ้าเกิดไปล้อเลียนมันเข้า มันจะตรงดื่งเข้ามาเล่นงานทันที
ปิศาจกลับหมอน ( มากุระ งาเอชิ ) ถ้าเช้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วรุ้สึกมึนงงว่าที่นี่มันที่ไหน หรือว่าทำไมบ้านเราถึงมีบรรยากาศเปลี่ยนไป (อันนี้ไม่เกี่ยวกะการเมาแล้วเข้าผิดบ้านน่ะค่ะ ) หรือสงสัยว่าทำไมชีวิตประจำวันมันถึงช่างแปลกออกไป นั่นเป็นฝีมือของปิศาจกลับหมอน ปิศาจตนนี้จะแอบมากลับหมอนของผู้คนยามนอนหลับ เมื่อคนคนนั้นตื่นขึ้นมาจะพบว่าตนเองอยุ่ในโลกที่ตรงข้ามกะความเป็นจริง ในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความโหดร้าย ผิดหวัง ขมขื่น(เกลียดจิง ชอบแกล้งคนตอนนอน กำลังเคลิ้มเลย)-*- เพราะปีศาจตัวนี้ชอบเห็นผู้อื่นเดิอดร้อน คนที่โชคดีหน่อยอาจจะฝ่าฝันร้ายๆนั้นออกมาได้และตื่นขึ้นมาในมิติเดิม แต่มีหลายคนที่ถูกชักนำไปสู่มิติแห่งความตาย
ผีว้าก ( อุว้ง ) เป็นปิศาจที่มีรูปร่างใหญ่โตราวกับยักษ์ หูแหลม ศีรษะล้าน และมีกรงเล็บแหลมคม มักจะปรากฏตัวตามกำแพงวัดร้างหรือป่าช้า เมื่อปรากฏตัวมันจะร้องว่า \" อุว้ง อุว้ง!!!! หรือ \"ว้ากกกก ว้ากกกก\"นั่นเป็นที่มาของชื่อ มันจาร้องเช่นนี้ก็ต่อเมื่อมีคนผ่านมา คนที่ได้ยินเสียงนี้จะต้องร้องตอบไปว่า \"อุว้ง\"เช่นเดียวกันและต้องตอบให้ทัน แต่แน่นอนว่ามันจะเพิ่มสปีดในการร้องเร็วขึ้นเรื่อยๆจนคนร้องตามไม่ทัน และเมื่อถึงคราวนั้นมันจะใช้กรงเล็บตะปปคนคนนั้นจนตาย
ปิศาจสาวฟันดำ ( โอฮาคุโรเบซึตะริ ) ญ ญีปุ่นโบราณนั้นจะต้องย้อมฟันให้เป็นสีดำด้วยนำยาชนิดหนึ่งในวันพิธีแต่งงาน ปิศาจฟันดำนี้จะไม่มีคิ้ว ตา หรือ จมูก จะมีก็แต่..ปากที่แสยะยิ้มอวดฟันดำๆอยู่ตลอดเวลา เชื่อกันส่าเธอเป็นวิณณาญ ญ สาวคนหนึ่งที่ผิดหวังในเรื่องความรัก เนื่องจากเธอถูกเจ้าบ่าวทิ้งทุ่นในวันแต่งงาน เธอจึงฆ่าตัวตายไปด้วยความแค้นสุมเต็มอก เหยื่อของเธอเป็น ช ซะส่วนใหญ่ ( หล่อหรือไม่ ไม่ระบุ ) ถ้าพบเธอให้บอกเธอว่า \" จะไปขอมาเป็นเมีย \" เธอก็จะหายไป ระวัง!!!!หนุ่มที่หล่อมากๆเธออาจจะติดใจไม่ปล่อยไปง่ายๆก็ได้
ปิศาจหัวเราะ (เคระเคระอนนะ ) เรื่องเล่าที่มาของสาวหัวเราะ มีตำนานมาจากสมัยเอโดะ มีหญิงงามคนหนึ่งที่มักจะคอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง ทำให้ผู้คนมีความสุขด้วยเสียงหัวเราะ และมุขตลกที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอที่ยากจะมีใครเลียนแบบได้ สาวหัวเราะเมื่อเป็นผี มักจะปปรากฏตัวเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในที่ใดก็ได้ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนที่ได้พบเธอ บางครั้งเธอจะปรากฏตัวในลักษณะที่มีหัวที่โตผิดปกติ แต่ตัวลีบนิดเดียว ซึ่งสาวหัวเราะสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง ให้มีรูปร่างและขนาดแปลกๆ ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งสาวหัวเราะจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้คนที่พบเห็นเธอหัวเราะออกมาให้ได้ สาวหัวเราะมักจะเลือกปรากฏตัวให้คนที่มักไม่มีความสุข หรือไม่เคยเผยรอยยิ้มให้ใครเห็น เพื่อให้กำลังใจคนเหล่านั้น ซึ่งคนที่ได้พบกับสาวหัวเราะ จะจดจำเธอได้ไม่ลืม และทุกครั้งที่เจอเธอ จะไม่มีมุขซ้ำ
เรื่องเล่าอีกเรื่องของสาวหัวเราะ คือ ในยามค่ำคืนผู้คนที่เดินทางในที่เปลี่ยว จะเห็นสาวร่างมหึมา ที่มีเสียงหัวเราะดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งแผ่นฟ้า คนที่ตกใจแม้ว่าจะพยายามหนีไปทางไหน เสียงนั้นก็จะตามเข้ามาใกล้ทุกทีๆ
ผีสาวคอยาว ( โรคุโรคุบิ ) ผีสาวคอยาวมีความสามารถพิเศษคือ ทำคอให้ยาวออกไปเหมือนยางงงยืดตามคำสั่งของเจ้าตัวได้ ในตอนกลางวันนางก็เป็นเหมือนหญิงสาวทั่วๆไป แต่เมื่อตกกลางคืนนางก็จะยืดคออกไปหาเหยื่อ ส่วนมากจะเป็น ช หนุ่ม เชื่อกันว่านางดูดชีวิตของหนุ่มๆเหล่านั้นเพื่อมาเป็นพลังชีวิต
ยักษ์ร้อยตา ( โทะโดะเมกิ )เป็นยักษ์เพศ ญ ที่มีตาอยู่ใบหน้าและร่างกายเต็มไปหมด เชื่อกันว่าตาเหล่านี้จะมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปหมด ดังนั้นเมื่อถูกยักษ์ตนนี้ไล่ตามไม่ว่าแอบซ่อนอยู่ที่ไหนหล่อกก็หาเจอแต่ไม่เคยมีปรากฏว่ายักษ์ตนนี้ทำร้ายใคร มีเรื่องเล่า ว่าถ้าใครทำผิดและแอบซ่อนความผิดนั้นไว้ จะมีตาขึ้นบนร่างกายทีละตา และจะมีมาเรื่อยๆถ้าคนคนนั้นยังไม่ยอมหยุดทำและสารภาพออกมา
ไดดาระโทบ๊ทจิเดดาระโบ๊ทจิ ก็เรียก เชื่อกันว่าเป็นยักษ์ผู้สร้างโลก ยักษ์ไดดาระมีรุปร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ทั่วไปทุกประการ แต่อาศัยอยุ่โลกมานุดโดยไม่ทำลายสิ่งปลุกสร้างของมานุดและตัวมานุดเลย ยักษ์ตนนี้ได้รับคำสั่งจากเทพให้มาช่วยสร้างโลก หน้าที่หลักๆก็คือช่วยสร่างหรือเคลื่อนย้ายแม่นำและภูเขาให้ถูกที่ถูกทาง แต่ว่าทุกวันนี้พลังทำลายล้างของมานุดช่างมหาศาล ถ้าไดดาระมีจิงๆก็คงเอาไม่อยุ่เหมือนกัน
ปิศาจถุง (จาบุคุโร)เพราะว่ามีรุปร่างเป็นถุงผ้าเล้กๆจึงได้ชื่อนี้ จาบุคุโรจาปรากฏตัวโดยการโรยตัวลงมาจากท้องฟ้า เชื่อกันว่าถ้าเป็นคนที่มีจิตใจดีงามเมื่อจับตัวมัน มันจาพาย้อมเวลากลับไปในอดีตเพื่อให้เราแก้ไขเรื่องที่เราคิดว่าทำผิดพลาดได้ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นคนที่มีจิตใตตำช้าแล้วละก็ มันจะดูดเอาวิญญาณของคนคนนั้นไปเสีย
ปิศาจทารก (โคะนะกิจิจี้)เรื่องเล่ามีว่า ผีตนนี้จะแปลงเป็นเด็กทารกที่ถูกทิ้งร้องไห้อยู่ที่ข้างทาง เมื่อคนที่เดินผ่านมาเข้ามาอุ้ม จะตกใจเมื่อเห็นใบหน้าเป็นตาแก่ ทั้งยังน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนยากที่จะถือไว้ได้ อีกทั้งโดยปกติคนจะตกใจเมื่อเห็นหน้าตา และจะทิ้งลงทันที เมื่อปีศาจทารกเฒ่าตกลงพื้น ก็จะหายไป ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะ และผู้ที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่ได้เจอกับผีตนนี้ บางเรื่องเล่าก็กล่าวว่า หากผู้ใดไม่ตกใจกับใบหน้าของปีศาจทารกเฒ่า และพยายามอุ้มไว้ให้ได้โดยไม่ปล่อยทิ้งลงพื้นสำเร็จ จะได้รับพรพิเศษจากปีศาจทารกเฒ่า
ฟุทาคุชิอนนะสาวสองปาก เป็นผู้หญิงที่ต้องคำสาป ทำให้กลายเป็นครึ่งคนครึ่งผี เช่นเดียวกับสาวคอยาว ลักษณะเด่นคือ จะมีปากอยู่ที่ด้านหลังของคออีกหนึ่งปาก กะโหลกจะเปิดออก กลายเป็นปากมีฟันและลิ้น ซึ่งไม่สามารถควบคุมปากด้านหลังนี้ได้ มันจะหาอาหารที่ใกล้ตัวกินเอง โดยใช้เส้นผมที่ยาวของผู้หญิงคนที่ต้องคำสาปนั้นแทนมือ ซึ่งหากมันไม่ได้รับอาการที่เพียงพอ จะสร้างความเจ็บปวดออย่างมาก ให้กับหญิงที่ต้องคำสาปเรื่องเล่าของสาวสองปาก มักจะเล่าว่า เกิดกับแม่เลี้ยงที่ทอดทิ้งลูกเลี้ยง ให้อดตาย ในขณะที่ตัวเองกินดีอยู่ดี วิญญาณของเด็กที่ตายไป จึงกลับมาล้างแค้นแม่เลี้ยงของตน
เรื่องเล่าอีกอย่างที่แตกต่างกัน เล่าว่า คำสาปนี้จะเกิดกับผู้หญิง ที่เปลี่ยนวิธีการกินของตนเองอย่างเฉียบพลัน โดยลดปริมาณอาหารลงอย่างมาก เพราะอยากลดน้ำหนัก พยายามอดสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ว่าร่างกายกลับต้องการมาก จนกลายเป็นว่าตัวเองต้องคำสาป มีปากที่สองที่ควบคุมไม่ได้มาแทน
อิทซึมาเด็น ตำนานมีอยู่ว่า ฤดูใบไม้ร่วงปี 1334 นกประหลาดนี้ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน หายใจเป็นไฟและส่งเสียงร่ำไห้อย่างน่าเวทนาว่า kItsumademo! Itsumademo! อีกนานเท่าไหร่ อีกนานเท่าไหร่ ซึ่งสร้างความรำคาญใจ ให้กับผู้ที่ได้ยินเสียงคร่ำครวญนี้ เจ้าเมืองจึงได้สั่งให้นั้กธนูที่แม่นยำ สอยนกประหลาดนี่ลงมาซะ เมื่อนกนี่ถูกยิงตก ปรากฏว่ามันมีลักษณะคล้ายกับคิเมร่า ตัวเป็นงู หน้าเหมือนคน มีเล็บที่แหลมคม มีปีกกว้างประมาณ 5 เมตร ซึ่งช่วงเวลาที่พยนกประหลาดยี้ เป็นช่วงที่กาฬโรคระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ศพของผู้ที่ป่วยตายจำนวนมาก ถูกฝังทิ้งไว้ที่กำแพงเมืองรวมๆ กัน ราวกับว่าเป็นขยะ และไม่ได้ทำพิธีกรรมส่งวิญญาณ อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ว่า เหล่าผู้ที่อดอยากจนกระทั่งตายไป จะกลายเป็นนกปีศาจคร่ำครวญ ตามล่าผู้ที่ทอดทิ้งตน และร่ำไห้ตลอดเวลาว่า อีกนานเท่าใด อีกนานเท่าใด จะทอดทิ้งเราอีกนานเท่าใด
โดโรทาโบะมีเรื่องเล่ามาว่า เดิมทีวิญญาณตนนี้เคยเป็นชาวนาที่ยากจน แต่ว่าขยันขันแข็ง เกิดอยู่ในยุคข้างยากหมากแพง และมีการเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าเมือง ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ มักต้องแบกภาระทั้งหมด ชาวนาคนนี้พยายามเตรียมดินเพื่อทำการเพาะปลูก เขาไม่สนใจอะไรมากไปกว่าไร่นาของเขา ที่จะเจริญงอกงามได้ดีเพียงใด แต่ว่ายังไม่ทันได้ปลูกเขาก็ล้มป่วย และเสียชีวิตลง ลูกชายของเขาเป้นคนเกียจคร้าน เอาแต่ดื่มเหล้า ไม่ยอมสานต่อการทำไร่นาที่พ่อรักมาก จึงได้ปล่อยทิ้งร้าง จนกระทั่งต้องขายที่ดินไป วิญญาณพ่อที่ตายไปจึงไม่สงบ กลายเป็นโดโรทาโบะ ซึ่งมีร่างกายเป็นโคลน ในวันที่มีแแสงจันทร์ส่อง พวกชาวนาเสียงคร่ำครวญมากจากไร่นาไกลๆ มันเป็นเสียงของโดโรทาโบะต้องการที่ดินอันเป็นที่นักยิ่งของเขาคืน