-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เตรียมตัวเรียนต่อ USA  (อ่าน 810 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

akessquare

  • ว๊องแมน
  • *
  • กระทู้: 6
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
    • เรียนต่อต่างประเทศ
เตรียมตัวเรียนต่อ USA
« เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2013, 14:19:49 »

ข้อคิดเรียนต่อต่างประเทศ
การเรียนต่อต่างประเทศหลาย ๆ คนอาจกลัว วีซ่าไม่ผ่าน โดยเฉพาะประเทศใหญ่เช่น ประเทศอังกฤษ  ประเทศออสเตรเลีย และ สหรัฐอเมริกา
กลัวความเหงา กลัวต่าง ๆ นานา ความเป็นจริงการ ศึกษาต่อต่างประเทศเพื่อเดินทางไปต่างประเทศไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ขอให้หาข้อมูลล่วงหน้า เตรียมความพร้อม ถามตัวเองว่าพร้อมหรือยังที่จะ เรียนต่อ   ในการเรียนต่างประเทศ คุณพร้อมหรือยังที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ  เมื่อรู้ล่วงหน้าก็จะทำให้ความกลัวในการเรียนต่อนอก ลดลง พร้อมที่จะตั้งรับปัญหาในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งทำให้เราประสบความสำเร็จในการ เรียนต่อ ต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง

เรียนต่ออเมริกา
การเลือกเรียนต่ออเมริกาเป็นจุดหมายปลายทางการเรียนภาษาที่อเมริกาถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่และมีหลายสิ่งที่คุณจะต้อง พิจารณาก่อนจะตัดสินใจไปเรียนภาษาที่อเมริกา แน่นอนเพราะมันไม่ได้มีแค่เรื่องของการเรียน usaเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการเดินทางและเรื่องของการเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ในการstudy usa และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากเดิมในการไปเรียนภาษาที่อเมริกา
ในวันนี้จะมาอธิบายถึงสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจเรียนภาษาอังกฤษ อเมริกา
เตรียมเก็บกระเป๋าและเดินทางไปstudy in usได้เลย

หลังจากที่คุณเลือกว่าจะไปเรียนที่เรียนอเมริกา
 สิ่งถัดมาที่คุณต้องเตรียมคือการเตรียมตัวในการยื่นใบสมัครไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆใน usa study เลือกหลักสูตรและสาขาในมหาวิทยาลัยที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การเลือกสถานที่เรียนก็จำเป็นต้องพิจารณาให้ลึกลงไปอีก โดยมีหลายสิ่งที่คุณจำเป็นต้องนำมาพิจารณาเพิ่ม เพื่อทำให้คุณได้รับประสบการณ์และชีวิตที่มีค่าที่สุดในการศึกษาต่ออเมริกา
สถานที่ตั้ง
สถานที่ตั้งไม่ว่าจะเป็นรัฐและเมืองล้วนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเรียนเรียนต่อประเทศอเมริกามีรัฐมากถึง 50 รัฐ และแต่ละรัฐก็มีความแตกต่างกันออกไป ความกว้างใหญ่ของอเมริกาทำให้ประเทศนี้มีความแตกต่างกันสูงในแต่ละที่ และส่งผลให้มีจำนวนมหาวิทยาลัยมากมาย จึงเป็นการยากที่จะทำให้ตัวเลือกของคุณแคบลง ดังนั้น ลองใช้วิธีแยกแยะด้วยการกำหนดลักษณะของที่ตั้งหอพักหรือมหาวิทยาลัยในการเรียนต่อต่างประเทศ อเมริกา
ตามที่คุณต้องการ เช่น คุณต้องการที่จะอยู่ในเมืองใหญ่ๆหรือเมืองเล็กๆที่เงียบสงบ  คุณต้องการจะเดินทางไปมาอย่างไร คุณต้องการจะเดินหรือจะใช้บริการระบบขนส่งของเมือง เพราะการเรียนในอเมริกาไม่เหมือนกับการเรียนที่บ้านเกิดของคุณ ดังนั้นพยายามมองโลกตามความเป็นจริงเข้าไว้ และดูว่าประสบการณ์แบบไหนคือสิ่งที่คุณต้องการ
สภาพอากาศ
แต่ละรัฐในการไปเรียนต่ออเมริกามีลักษณะของสภาพอากาศที่เป็นลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น เช่น Seattle ที่มีฝนตกอยู่สม่ำเสมอ, California ที่มีแสงแดดสาดส่องไม่เว้นวัน หรือ รัฐแห่งพระอาทิตย์ไม่เคยตกในฤดูร้อนและไม่เคยขึ้นในฤดูหนาวอย่าง Alaska เป็นต้น ดังนั้นต้องทราบถึงข้อจำกัดของตัวคุณเอง ว่าคุณสามารถรับได้กับสภาพอากาศแบบไหน นอกจากนี้การซื้อเสื้อผ้าใหม่เป็นเรื่องสิ้นเปลืองถ้าคุณอาศัยในรัฐที่มีอากาศค่อนข้างร้อน แต่ถ้าคุณอยู่ในรัฐที่หนาวขึ้นก็จะมีราคาถูกลง
จำนวนนักเรียน
จำนวนนักเรียนหรือขนาดของมหาวิทยาลัยที่คุณไปเรียนต่อที่อเมริกาก็เป็นเรื่องที่คุณควรพิจารณา เพราะการที่มีนักเรียนจำนวนมากอาจจะมีผลต่อขนาดของห้องเรียน รวมถึงการแข่งขันในการเรียนและการสอบ การเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีปริมาณนักเรียนที่มาก อาจจะทำให้คุณต้องเรียนร่วมกับนักเรียนอีกเป็นร้อยในวิชาแรกของการเรียนของคุณ ในขณะที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาที่เล็กกว่าก็จะมีนักเรียนเพียงแค่ 20-40 คนต่อวิชา แต่ถึงอย่างนั้น มหาวิทยาลัยใหญ่ๆก็จะมีตัวเลือกของหลักสูตรและสาขาที่มากกว่าในมหาวิทยาลัยเล็กๆ
วัฒนธรรมและศาสนา
แน่นอนว่าในเรื่องของหลักสูตรที่สหรัฐอเมริกาของแต่ละโรงเรียนจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการพิจารณา แต่ถ้าคุณเลือกมหาวิทยาลัยที่เน้นศาสนามากๆ คุณก็อาจจำเป็นต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆที่ถูกกำหนดไว้ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้ศรัทธาหรือไม่ได้ชื่นชอบในเรื่องเหล่านี้ มันก็อาจจะเกิดปัญหาได้
อัตราค่าเล่าเรียน
ค่าเล่าเรียนในแต่ละมหาวิทยาลัยของ สหรัฐจะแตกต่างกันไปตามแต่ละแห่ง เนื่องจากค่าครองชีพที่แตกต่างกัน เช่น การเรียนมหาวิทยาลัยในนิวยอร์ก จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามหาวิทยาลัยในโอไฮโอ เป็นต้น แต่เรื่องของค่าเล่าเรียนจะกลายเป็นข้อจำกัดทางเลือกของหลักสูตรที่คุณต้องการหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เพราะมันเป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น
กิจกรรม
เป็นที่รู้กันว่าคนอเมริกันชื่นชอบการเล่นกีฬา โดยเฉพาะอเมริกาฟุตบอล แต่ชมรมหรือกีฬาที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องสนใจด้วยหรือ คำตอบคือ ใช่ เพราะถึงแม้การเรียนจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อคุณทำการบ้านเสร็จแล้ว คุณจะทำอะไรในเวลาว่างของคุณกันละ แต่ถ้าคุณเป็นคนไม่ชื่นชอบกีฬาเลย ก็จะเป็นประโยชน์กว่าถ้าคุณเลือกมหาวิทยาลัยที่เน้นหนักไปที่เรื่องของวิชาการ และคุณก็เข้าร่วมชมรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสนใจแทน
ทางเลือกสำหรับนักเรียนต่างชาติ
ในฐานะนักเรียนต่างชาติที่ไปเรียนที่ประเทศสหรัฐ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเช็คว่ามหาวิทยาลัยมีตัวเลือก, ตัวช่วย หรือข้อกำหนดอะไรสำหรับคุณบ้าง เช่น การทำงานในระหว่างเรียน หรือ ระดับของผลการเรียนที่คุณจำเป็นจะต้องรักษาไว้ เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวสำหรับหลักสูตรนั้นๆได้ถูกต้องและเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจำเป็นต้อง
วีซ่าอเมริกา
ข้อมูลวีซ่าอเมริกา
และขั้นตอนการนัดวันสัมภาษณ์
นับตั้งแต่ 19 มกราคม 2549 ผู้มีความประสงค์ที่จะขอวีซ่า usaเข้า ประเทศสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถโทรศัพท์เพื่อขอข้อมูล หรือสอบถามเกี่ยวกับการขอvisa usaจาก หมายเลขโทรศัพท์ ของสถานทูตอเมริกาได้อีกต่อไป หากต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับvisa อเมริกาหรือยื่นคำร้องขอวีซ่า ต้องปฏิบัติตามระบบข้อมูลวีซ่า และขั้นตอนการนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ ที่เพิ่งนำมาใช้ทั่วประเทศ โดยผู้ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าอเมริกา หรือผู้ประสงค์จะยื่นขอวีซ่า สหรัฐอเมริกา ต้องซื้อรหัสประจำตัว (PIN) เมื่อมีรหัสประจำตัว (PIN) แล้วจึงจะสามารถเข้าสู่ระบบข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่า และจองวันสัมภาษณ์ เพื่อขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับตนเอง และสมาชิกในครอบครัว ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันไม่เกิน 5 คน ซึ่งการขอข้อมูลและการจองวันสัมภาษณ์วีซ่าดังกล่าว สามารถทำได้ 2 ทางคือ โดยผ่านทางเว็บไซต์ หรือทางโทรศัพท์ไปยัง Call Center สำหรับการซื้อรหัสประจำตัว (PIN) สามารถใช้บัตรเครดิตซื้อ (เฉพาะบัตรวีซ่า หรือมาสเตอร์เท่านั้น) ผ่านทางเว็บไซต์ http://thailand.us-visaservices.com หรือซื้อจากที่ทำการไปรษณีย์ทั่วไป ในส่วนของค่าธรรมเนียมการซื้อรหัสประจำตัว (PIN) มี 2 อัตรา ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ขอวีซ่าจะเลือกใช้บริการในการขอข้อมูลและจองสัมภาษณ์โดยวิธีใด ค่าธรรมเนียมการซื้อรหัสประจำตัว (PIN) เพื่อใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์เพียง 400 บาท แต่หากเลือกใช้การบริการทางโทรศัพท์ โดยโทรไปยัง Call Center หมายเลขโทรศัพท์: 001-800-13-202-2457 รหัสประจำตัว (PIN) ที่ใช้กับระบบ call center มีค่าธรรมเนียมสูงกว่าคือ 720 บาท ดังนั้น นักเรียนนักศึกษาจึงต้องพิจารณาและตัดสินใจก่อนว่า ตนเองต้องการใช้บริการข้อมูลวีซ่า และจองวันสัมภาษณ์ด้วยวิธีใด เพื่อจะได้จ่ายค่าธรรมเนียมในการซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ให้ถูกต้องกับวิธีที่จะใช้การบริการ เพื่อขอข้อมูลและจองสัมภาษณ์ต่อไป

เที่ยวอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีอากาศที่หนาวเย็น จนทำให้บุคคลภายนอกประเทศนิยมไปเที่ยวกัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีมากมาย เราก็จะมายกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไปกันเช่น

1นครนิวยอร์ก
 หรือที่นิยมเรียกกันว่า นิวยอร์คซิตี (อังกฤษ: new yorkCity; NYC) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นเมืองที่มี ตึกระฟ้า ตึกสูงมากที่สุดในโลก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ อีกด้วย
newyorkตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 5 เขตปกครองที่เรียกว่า โบโรฮ์ (Borough) คือ เดอะบรองซ์ บรูคลิน แมนแฮตตัน ควีนส์ และสแตตัน ไอส์แลนด์ ประชากรรวมทั้งหมดประมาณ 8,274,527 คน ภายในพื้นที่ 790 ตร.กม. (305 ตร.ไมล์) นอกจากจะเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแล้ว สัดส่วนประชากรต่อพื้นที่ยังถือว่าหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
2บอสตันเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของของรัฐCommonwealth of Massachusettsและเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาชื่อbostonได้รับมาโดย การเดินทางเข้ามาตั้งถิ่นฐานจาก เมืองบอสตัน, Lincolnshireในประเทศอังกฤษการที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในนิวอิงแลนด์บอสตันถือได้ว่าเป็น “เมืองหลักใหญ่ที่สุดของนิวอิงแลนด์” เป็นเมืองหลักทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่มีต่อทั้งภูมิภาคในนิวอิงแลนด์ ตัวเมืองมีขนาดรอบคลุม 48.43 ตารางไมล์ (125.43 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรประมาณ 625,087 คนในปี 2011 ตามสำมะโนประชากรสหรัฐ เป็นเมืองที่ใหญ่ลำดับที่21 ในสหรัฐ

3 วอชิงตันดี.ซี.(อังกฤษ:Washington, D.C. โดยตัวย่อ D.C. ย่อมาจาก District of Columbiaเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย) เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาติดต่อกับรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์โดยวอชิงตัน ดี.ซี. อยู่ในเขตฝั่งซ้ายของแม่น้ำพอตอแมก (Potomac River)
4 ซานฟรานซิสโกเป็นศูนย์กลางทางการเงินและวัฒนธรรมชั้นนำ โดยตั้งอยู่ที ใจกลางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และ อ่าวซานพรานซิสโก
ชาวสเปน นำโดย “นักบุญฟรานซิส” ได้ก่อตั้งเมืองขึ้นเมื่อ 29 มิถุนายน 1776 เมื่ออาณานิคมจากสเปนจัดตั้งป้อมที่โกลเดนเกต โดยตั้งชื่อเมืองตามนักบุญฟรานซิส ต่อมาหลังจากที่เจอแหล่งทองคำแคลิฟอร์เนีย ในปี1849  ทำให้เมืองมีการการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การเพิ่มจำนวนประชากรในหนึ่งปี 1,000 ถึง 25,000 และทำให้เปลี่ยนมันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมื่อฝั่งตะวันตกในเวลาต่อมา
5ชิคาโก(Chicago) เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์รู้จักกันในชื่อ “เมืองแห่งลม” (Windy City) ชื่อเล่นนี้ มีที่มาจากการที่นักข่าวเขียนล้อเลียนนักการเมืองของ ชิคาโกใน ศตวรรตที่ 19 เกี่ยวกับการพูดจากลับกลอกไปมา บางคนเชื่อว่ามีที่มาจากการที่เป็นเมืองที่มีลมพัดแรงตลอดเวลาแต่ไม่ได้มีหลักฐานใดๆเขียนสนับสนุนทฤษฎีนี้ ชิคาโกเป็นเมืองใหญ่อันดับสามในประเทศอเมริกาเทียบตามจำนวนประชากร รองจากเมืองนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสเมืองชิคาโกตั้งอยู่ในเคาน์ตีคุก รัฐอิลลินอยส์เขตมิดเวสต์ของประเทศสหรัฐ เมื่อรวมเคาน์ตีรอบ ๆ ชิคาโกทั้ง 8 เคาน์ตีจะเรียกเขตว่าชิคาโกแลนด์ซึ่งมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน
6 รัฐฮาวายประกอบไปด้วยเกาะ 137 เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค มีเนื้อที่ 6,423 ตารางไมล์ใหญ่เป็นอันดับที่ 43 ของสหรัฐฯ ผืนแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดคือรัฐแคลิฟอร์เนียที่อยู่ห่าง ออกไป 2,390 ไมล์เวลาบนหมู่เกาะฮาวายหรือ Hawaiian Standard Time ช้ากว่าเวลา Pacific Standard Time 2 ชั่วโมงและช้ากว่า Eastern Standard Time 5 ชั่วโมง
 mbvc mbvc mbvc mbvc mbvc