cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 06 พฤษภาคม 2016, 11:30:08

หัวข้อ: แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนีย
เริ่มหัวข้อโดย: etatae333 ที่ 06 พฤษภาคม 2016, 11:30:08
แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนีย

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594827-2147.jpeg)

เรื่องของแดร็กคูล่า ในนิยายของแบรน สโตเกอร์

ในคฤหาสน์เก่าๆแถบทรานซิลวาเนีย มีท่านเคาท์ หรือจะเป็นท่านเอิร์น หรือท่านดยุค ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากผู้ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียโบราณ
เชื่อกันว่าเขามีอายุยืนมากว่าสามศตวรรษแล้ว เรื่องของเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นราวปี 1890 ความอดอยากได้ระบาดไปทั่วโรมาเนีย ชาวนาชาวไร่
ได้อพยพเข้าไปหางานทำในประเทศอื่น เช่น เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศสกันหมด ทำเอาท่านเคาท์เจ้าของปราสาท เริ่มอดอยากปากแห้ง
เพราะไม่มีมนุษย์มาเป็นอาหาร ดังนั้นเคาท์แดร็คคิวลาจึงวางแผน ที่จะอพยพไปหาแหล่งอาหารที่อื่นบ้าง ด้วยอะไรมาดลใจก็ไม่ทราบนะคะ
เป้าหมายของท่านเคาท์คือลอนดอน ท่านเคาท์จึงติดต่อกับนายหน้าค้าที่ดินที่นั่น แจ้งจุดประสงค์ไปว่า เขามีความต้องการที่จะขายปราสาท
หลังงามในราคาถูกเป็นพิเศษ


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594827-1732.jpeg)

นายหน้าขายที่ดิน ได้ส่งเด็กหนุ่มอนาคตไกลของบริษัทชื่อ โจนาธาน ฮาร์เกอร์ มาเป็นตัวแทนเจรจากับท่าเคาท์ สิ่งที่เขาพบในปราสาท
หลังใหญ่แห่งทรานซิลวาเนียก็คือ บรรยากาศอันไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง รวมทั้งเจ้าของปราสาทผู้ลึกลับ ฮาร์เกอร์สรุปว่า เขาไม่ชอบ
บรรยากาศและตัวเจ้าของปราสาทหลังนี้เอาเสีย เลย ท่านเคาท์มีลูกน้องเป็นสาวสวยสามคน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ได้ย่องเข้าห้องของเขา
ตอนกลางคืนในสภาพยั่วยวนสุดฤทธิ์ เคราะห์ยังดีที่ โจนาธาน ฮาร์เกอร์ รอดจากการเป็นเหยื่อคมเขี้ยวของนางมาได้อย่างหวุดหวิด

เรื่องราวชักจะยุ่งเหยิงมากขึ้น(หรือออกทะเล) เมื่อท่านเคาท์เดินทางไปถึงลอนดอน เหยื่อรายแรกของเขาชื่อ ลูซี่ เวสเทนรา และเรื่องราว
ก็เข้าล็อคเป๊ะ เมื่อแดร็คคิวลาพบกับภรรยาสาวสวยของฮาร์เกอร์ ซึ่งเหมือนกับอดีตภรรยาของเขาราวกับแกะ ศรสวาทและพิษรักแผลเก่า
เล่นงานท่านเคาท์แดร็คคิวลาของเราเข้าเสียแล้วค่ะ แต่ศึกรักนี้คงไม่ยุติลงง่ายๆ เมื่อโจนาธาน ฮาร์เกอร์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก
นักล่าแวมไพร์ แวน เฮลซิ่ง ได้เดินทางกลับมาเพื่อปกป้อง มิน่า ภรรยาสุดที่รักของเขา

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594826-6255.jpeg)

จากการต่อสู้อันขนพองสยองเกล้า ระหว่างอมนุษย์และพรรคพวกของฮาร์เกอร์ ท่านเคาท์พ่ายแพ้พาหัวใจอันบอบช้ำกลับไปที่ปราสาท
ในทรานซิลวาเนีย ซึ่งฮาร์เกอร์และพรรคพวก ก็ได้ตามไปกำจัดท่านเคาท์ถึงที่นั่น เพื่อตัดรากถอนโค่นภัยร้าย

เรื่องจบลงตรงที่ว่า แดร็คคูล่าโดนลิ่มตอกอกและตัดหัวจนสูญสลายไป แต่ดูเหมือนว่า วิญญาณแห่งความชั่วร้ายของเขายังคงวนเวียนอยู่
และไม่มีใครรู้แน่ว่า แดร็คคูล่าโดนกำจัดไปอย่างถาวร หรือว่ายังวนเวียนหลบเร้นหาเหยื่ออยู่ในเงามืดของรัตติกาลต่อไป

แดร็คคิวลาอาจมีด้านมืดซึ่งชั่วร้าย แต่เขาก็มีหัวใจรักอันมั่งคงและเป็นอมตะ กาลเวลาไม่สามารถทำให้หัวใจรักของเขาจืดจางลงได้ สิ่งนี้ได้
ที่ทำให้แดร็คคูล่าฉบับ แบรม สโตเกอร์ โด่งดังและตราตรึงอยู่ในหัวใจของผู้คนตราบจนถึงทุกวันนี้
               
ครับนี้คือเนื้อหาย่อๆ ของนิยายของฮับราฮัม สโตเกอร์ โดยใช้นามปากกาว่าแบรม สโตเกอร์ เป็นชาวไอริช เขาแต่งนิยายขึ้น เมื่อปี 1897
คราวนี้มาดูประวัติ วลาด ดารคูลา บุคคลที่หลายคนเชื่อว่าแบรน สโตเกอร์ เอาประวัติของบุคคลนี้มาแต่ง แดร็คคูล่า ดีกว่าน่ะ




วลาด ดารคูลา


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594827-2321.jpeg)

วลาด ดารคูลา เกิดประมาณ ปี 1430 ภายในป้อมอันเกรียงไกรของโรมาเนีย เป็นโอรสของ วลาด ดราคูล ผู้นำสูงสุดของกองทัพ
ทรานซิลวาเนียใยสมัยนั้น วลาด ดราคูล เคยได้รับตรากล้าหาญ the Order of the Dragon จากจักรพรรดิ ซึ่งเทียบได้อย่างดีกับ
เหรียญกล้าหาญสูงสุดในสมัยนี้ เขาเป็นผู้นำที่เหี้ยมโหดที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแคว้นวลาเซีย


น่าสงสารผู้คนของแคว้นนี้มากเพราะนอกจากต้องเผชิญกับ สงครามและการบุกรุกจากศัตรูแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับผู้นำจอมโหด
อย่างวลาด ดราคูล อีก ชาวเมืองต่างเข็ดเขี้ยวแสยงฟันกับการลงโทษที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของเขา และก็ดูเหมือนว่า วลาด วลาด ดราคูล
จะนิยมชมชอบเลือดมนุษย์มากเป็นพิเศษทีเดียว

โบราณว่าเอาไว้ว่า เชื้อไม่ทิ้งแถวแนวไม่ทิ้งตระกูล วลาด ดารคูลา บุตรชายของเขา ก็อำมหิตไม่น้อยหน้าผู้เป็นบิดา ว่ากันว่า ชื่อแดร็คคูล่านี้
แปลเป็นนัยได้สองความหมาย หนึ่งคือ Dragon หรือว่ามังกรนั่นเอง ส่วนนัยที่สองก็น่าจะแปลง่ายๆว่า Son Of Draccul หรือ
บุตรชายของนายมังกร ซึ่งก็คือวลาด ดารคูลา จอมโหดนั่นเอง

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594825-2708.jpeg)

ด้วยอายุเพียง 17 ปี วลาด ดารคูลา ได้สร้างตำนานแห่งความน่าสะพรึงกลัวเอาไว้แทบทั่วทั้ วยุโรป ความเด็ดขาด อำมหิต
และชาญฉลาดของเขา ทำเอาประเทศรอบข้างหวาดกลัวไปตามๆกัน แม้แต่ชาติมหาอำนาจในสมัยนั้นอย่างตุรกีเอง
พอได้ยินชื่อวลาด ดารคูลา เท่านั้น ก็แทบจะเข่าอ่อนลงมากองกับพื้นเลย ทำไม?

ประการแรกก็มาจากความบ้าเลือดในการทำสงครามของเขา อีกประการก็คงมาจากวิธีลงโทษเชลยศึก วลาด ดารคูลา จับเอาเหล่า
เชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ
วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั้นเลย ในช่วงที่ว่างเว้นสงคราม วลาด ดารคูลา ก็จับเอาชาวเมือง
ลูกเด็กเล็กแดงทั้งหลาย มาทำบาร์บิคิวสดๆ พฤติกรรมนี้เอง จึงทำให้ท่านวลาด ดารคูลา ได้รับฉายาว่า Impaler หรือนักเสียบ

ปี 1476 มีคนพบร่างศพวลาด ดารคูลา ศีรษะขาดอยู่ที่หนองน้ำใกล้โบสถ์สนากรอฟ ส่วนใครเป็นคนฆ่ายังเป็นปริศนาตั้งแต่บัดนี้
แต่ที่แน่ๆ มีข่าวว่าศีรษะของเขาถูกนำไปถวายแก่สุรต่านในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ไม่มีใครดีใจไปกว่าชาวเตอร์กศัตรูของวลาด ดารคูลา
อีกแล้ว




แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนียจริงหรือ?

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594827-5695.jpeg)
               
เรื่องรางของแดร็กคูล่าเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาโดยนักวิชาการ หลายคนว่า แดร็กคูล่า มีแหล่งกำเนิดมาจากไหนกันแน่ คนส่วนมากเชื่อว่า
"แบรม สโตเกอร์" เขียนเรื่อง แดร็กคูล่า ขึ้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าชาย วลาด ดารคูลา แต่มีนักวิชาการที่จริงจังกับเรื่องนี้(บ้าเรื่องนี้ มั้ง)
ออกมาแย้ง เขาอ้างว่า บราม สโตเกอร์ ไม่มีความรู้เรื่อง วลาด ดารคูลา เลย และเขาอาจเคยผ่านหูผ่านตา "The history of Ireland"
มาพอควรจนเกิดแนวความคิดที่จะแต่งนิยายขึ้น แต่ความจริงจะเป็นเช่นใดคงยังไม่มีใครพิสูจน์ได้แน่นอนครับ


ส่วนนี้คือข้อสันนิษฐานว่าแดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรามซิลเวเนีย

1. วลาด ดารคูลาและวลาด ดราคูลไม่ได้ชื่อปีศาจ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนตั้งชื่อลูกว่าปีศาจหรอก ซึ่งดราคูลา แปลว่าลูกมังกร
    ส่วนดราคูลแปลว่า มังกรต่างหาก

2. สโตเกอร์ไม่เคยไปยุโรปตะวันออก และเป็นไปได้สูงว่านอกจากชื่อและสถานที่แล้ว เขาไม่รู้ประวัติกับวลาด ดราคูลาสักนิด
   และส่วนที่อ้างว่าทั้งสองมีความเชื่อมโยงกันนั้นล้วนเป็นผลงานของนักวิชาการจอมปลอมทั้งสิ้น

3. แต่ที่รู้แน่ๆ คือ แบรม สโตเกอร์ แต่งเรื่องนี้ขึ้น โดยรับแรงบันดาลใจจากการกินปูผัดผงกระหรี่ของภรรยามากเกินไปจนฝันร้าย

4. แบรม สโตเกอร์ ไม่ได้บอกอะไรทั้งสิ้นว่ารับแรงบรรดาใจแดร็กคูล่ามาจากประวัติของวลาด ดารคูลาและวลาด ดราคูล


คราวนี้มาดูเรื่องแดร็กคูล่าที่น่าจะเกิดขึ้นที่ไอร์แลนด์บ้างน่ะครับ





เรื่องของ History of Ireland

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594826-7651.jpeg)
           
.........ที่ประเทศ ไอร์แลนด์มีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเรียกว่าสุสานของลอร์ค อบาร์ทัค มันตั้งอยู่กลางท้องทุ่งในเขตเกลนนูยิน
ทางเหนือของแคว้นลอนดอนเดอรี  ตำนานพื้นเมืองกล่าวว่าในศตวรรษที่ 5 ที่ 6 ลอร์ค อบาร์ทัค เป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหนึ่ง
มีชื่อเสียงในทางไม่ดีนัยว่าเป็นพ่อมด ดังนั้นคนใต้บังคับบัญชาของเขาจึงกลัวเขามาก

พวกเขาเหล่านั้นจึงไปขอร้องให้ คาธัคหัวหน้าเผ่าอีกเผ่าให้มาฆ่าเขา คาธัคจึงฆ่าพ่อมดคนนี้และนำศพไปฝังไว้ในที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง
แต่ว่ารุ่งเช้า ลอร์ค อบาร์ทัค ก็กลับมาและร้องให้เอาเหยือกรองเลือดคนใต้บังคับบัญชาของเขามาให้เขาดื่มเพื่อศพของเขาจะได้
กลับมามีชีวิต อีกครั้ง แต่ คาธัคก็กลับมาฆ่าและนำศพไปฝังอีก แต่วิญญาณร้ายไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผู้นี้ได้กลับมาและร้องข้อดื่มเลือด
อีกเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ

คาธัคไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ไปปรึกษาพระดรูอิค หรือนักบุญของศาสนาคริสต์ ท่านผู้นี้ก็ได้บอกว่า ลอร์ค อบาร์ทัค กลายเป็นผู้ไม่ตาย
และเป็นผู้ดื่มเลือดมนุษย์ดังนั้นจึงฆ่าไม่สำเร็จ แต่ก็สามารถผนึกไว้ไม่ให้ออกมาอาละวาดได้ด้วยการนำดาบที่ทำมาจากไม้หยิว
(ไม้สนชนิดหนึ่ง)มาแทงเขาให้ทะลุฝัง ศพโดยกลับหัวลงไปลงหนามไว้รอบๆหลุมฝังศพและนำหินก้อน ใหญ่มาทับหลุมศพอีกครั้งหนึ่ง
เท่านี้ชาวไอร์แลนด์ก็ไม่ต้องบริจาคเลือดโดยไม่เต็มใจอีกต่อไป

แต่คุณเชื่อหรือไม่ ในปี 1997 ได้มีการหักร้างถางพงในย่านแกลนนูยิน ในสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นสุสานของ ลอร์ค อบาร์ทัค ในขณะที่
คนงานตัดไม้ก็เกิดอุบัติเหตุสะบัดมือขาดแล้วเลือดเขาใหลลงดินเสมือนว่าให้ ลอร์ค อบาร์ทัค ดื่ม แม้แต่คนงานที่ไปสำรวจที่นั่นยัง
เกิดอุบัติเหตุหกล้มโดยไม่มีสาเหตุ

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1462594826-7158.jpeg)

มีเรื่องตลกเหมือนกัน ตอนที่นิยายกับภาพยนตร์แดร็กคูล่าได้รับแปลเป็นภาษาโรมาเนียเมื่อปี 1992 แต่ชาวโรมาเนียกลับ
ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร เขาให้เหตุผลว่า


"นี้หรือที่คนตะวันตกกลัว ในตำนานพื้นบ้านของเรามีเรื่องน่ากลัวกว่านี้เยอะ"

นับว่าโชคดีของสโตเกอร์ที่ไม่รู้จักโรมาเนีย ไม่เช่นนั้นเรื่องแดร็กคูล่าของเขาอาจจะสยองขวัญกว่านี้ "ก็เป็นได้"


 + + ต่วนตูนพิเศษ  ฉบับ 325 มีนาคม 2545
credit :: cammy@dek-d.com