หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก1
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
4
xseed คลิป / มิดไมล์ Beep Beep EP8 พาน้องออยสาวสวยดีกรีนางงามจากอุดรมาพิชิตมิชชั่นสุดมันส์
« เมื่อ: 24 ตุลาคม 2020, 09:46:45 »5
xseed คลิป / ห้องแห่งความลับ EP. 8 น้องแตงโย สาวสายอ๊อก คอลึกสุดจัดปลัดบอก
« เมื่อ: 24 ตุลาคม 2020, 09:46:18 »6
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Liang Ren Fei Ai Ren ทาสแมวมีเปย์หมดตัว [39P]
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 15:08:49 »
7
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Liang Ren Fei Ai Ren ทาสแมวมีเปย์หมดตัว [39P]
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 15:04:38 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
img]https://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1603440127-5673.jpeg[/img]
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
img]https://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1603440127-5673.jpeg[/img]
8
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Linzi Xin ฮาโลวีนปีนี้มีนางแมว [62P]
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 14:57:41 »
9
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Linzi Xin ชุดรับสุดสัปดาห์ฮาโลวีน [62P]
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 14:54:14 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
10
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / อาเมะฟุริ โคโซ (雨降小僧) เด็กสายฝน กับ งานวิวาห์จิ้งจอก (狐の嫁入り)
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 10:14:20 »อาเมะฟุริ โคโซ (雨降小僧) เด็กสายฝน
กับ งานวิวาห์จิ้งจอก (狐の嫁入り)
อาเมะฟุริ โคโซ เป็นปีศาจเด็กผู้ชายที่สวมร่มไว้บนหัว ใส่รองเท้าเกี๊ยะ ถือโคมไฟ มักจะโผล่ออกมา
ตอนฝนตก ค่อนข้างจะขี้อาย ไม่ค่อยติดต่อกับผู้คน เมื่อไหร่ที่ฝนตกมันก็จะมาขโมยร่ม และหมวก
ขณะที่กางร่ม หรือใส่หมวกอยู่ เพื่อให้คนๆนั้นเปียกฝน นอกจากนี้บางคนยังเชื่อว่า อาเมะฟุริ โคโซ
เป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าแห่งฝน ผู้ซึ่งจะช่วยทำให้ฝนตกและบรรเทาทุกข์ชาวนาที่ต้องทนทุกข์ทรมาน
จากภัยแล้งที่ยาวนาน
มีนิทานของ อาเมะฟุริ โคโซ ที่เล่าถึง ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่จู่ๆฝนก็ตกอย่างหนัก
เขารีบไปหาที่หลบฝน ใกล้ๆถนนเขาได้พบกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่ถือร่มมือจับและโคมกระดาษอีกข้างหนึ่ง
ชายคนนั้นได้แย่งร่มบนหัวมาจากเด็กน้อย มาใส่บนศีรษะของเขา แล้วเดินจากไป เมื่อเขากลับถึงบ้าน
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เมื่อเขากำลังจะถอดร่มบนหัวของเขา ก็พบว่าเขาไม่สามารถถอดหมวกร่ม
นั้นออกได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสุนัขจิ้งจอกและ "พระภิกษุน้อยสายฝน" ในภาคอีสาน ว่าครั้งหนึ่งสุนัขจิ้งจอกบนภูเขา
พูดกับเณรน้อยว่า
"ฉันจะให้ปลากับเจ้าแต่เจ้าช่วยทำให้ฝนตกที เพราะลูกสาวของฉันแต่งงานได้ในตอนที่ฝนตกเท่านั้น"
(งานวิวาห์จิ้งจอก (狐の嫁入り) ในตำนานของญี่ปุ่นจะเกิดขึ้นเมื่อมีปรากฏการณ์ ฝนตกแดดออก(日照雨))
พระน้อยตอบว่า "ปล่อยให้ฉัน" ขณะที่เขาพูดท้องฟ้ารอบตัวเขาเริ่มมืดลงเล็กน้อย เขาโบกตะเกียงในมือ
และในพริบตาฝนก็เทลงมา และแล้วสุนัขจิ้งจอกก็ได้เริ่มพาลูกสาวเดินขบวนแต่งงาน
ถ้าพูดถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ้งจอกในวัฒนธรรมญี่ปุ่นแล้วนับว่ามีเยอะมากจนนับไม่ไหว ซึ่งภาพลักษณ์ของจิ้งจอก
ในเรื่องเล่าส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวละครที่หลอกมนุษย์ด้วยกลต่างๆ เช่นกันแปลงร่างและสร้างภาพลวงตา โดยสรุปคือ
มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เรื่องเล่าที่มาของชื่อเรียก “งานวิวาห์จิ้งจอก” นี้ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่นำเสนอ
ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกในแบบที่ต่างออกไป
เรื่องแรก: นางจิ้งจอกถูกใช้เป็นเครื่องสังเวย
ในอดีตมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งกำลังเจอกับภัยแล้งอย่างหนัก ชาวบ้านจึงตกลงกันว่าจะหาเครื่องสังเวยมาถวายแด่
เทพเจ้าเพื่อขอฝน โดยวางแผนว่าจะหลอกจับจิ้งจอกมาใช้สังเวย และที่ใกล้ๆ หมู่บ้านนี้เองก็มีนางจิ้งจอกตัวหนึ่ง
ที่ปลอมเป็นมนุษย์ผู้หญิงอาศัยอยู่ แต่ในระหว่างนั้นทั้งจิ้งจอกและชายหนุ่มต่างก็มีใจให้กันขึ้นมาจริงๆ
และแม้ว่าจิ้งจอกจะรู้ถึงแผนการของชาวบ้านแต่ก็ยังยอมสละตัวเองเป็นเครื่องสังเวยเพื่อความอยู่รอดของหมู่บ้าน
ว่ากันว่าน้ำตาของนางจิ้งจอกนั้นได้กลายเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาช่วยหมู่บ้านเอาไว้
เรื่องที่สอง: ขบวนเจ้าสาวของจิ้งจอกซ่อนตัวจากมนุษย์
เรื่องนี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายพอสมควร เรื่องนี้มีอยู่ว่ามีขบวนเจ้าสาวของจิ้งจอกที่ต้องเดินทางผ่านหมู่บ้าน
ของมนุษย์ในตอนกลางวัน และเพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ ขบวนจิ้งจอกจึงทำพิธีขอฝนให้ฝนตกแค่เฉพาะรอบๆ
ขบวนเพื่อใช้พรางตัวระหว่างเดินทาง จึงเป็นที่มาของปริศนาที่ว่าทำไมฝนตกทั้งที่อากาศแจ่มใสอยู่
นอกจากทั้งสองเรื่องนี้แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับฝน แต่ก็เกี่ยวกับงานวิวาห์ของจิ้งจอก
เล่ากันว่าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีธรรมเนียมเดินขบวนเจ้าสาวในตอนกลางคืนโดยจะจุดโคมไฟเวลาเดินขบวน
วันหนึ่งมีประกาศเกี่ยวกับการเดินขบวนเจ้าสาวในหมู่บ้านแต่พอถึงคืนที่กำหนดมีแสงโคมไฟปริศนาส่องแสง
อยู่ในป่า และแสงโคมนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครเห็นคนเดินในขบวนนั้นแม้แต่คนเดียว มีเพียงโคมไฟ
ลอยเป็นขบวนอยู่ในป่า ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นขบวนของจิ้งจอก
อีกเหตุผลหนึ่งที่คาดว่าเป็นที่มาของชื่อเรียกฝนชนิดนี้ว่า “งานวิวาห์จิ้งจอก” นั้นน่าจะมาจากวัฒนธรรมของ
คนญี่ปุ่นที่เชื่อว่าจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีความเชื่อมโยงกับเทพเจ้า ดังนั้นฝนที่เปรียบเสมือนพรจากเทพเจ้าจึงถูก
นำมาผูกกับจิ้งจอกไปโดยปริยายไม่ว่าฝนตกแดดออกจะเกิดจากน้ำตาของนางจิ้งจอกหรือเป็นการพรางตัว
ของขบวนจิ้งจอกจริงหรือไม่ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วฝนชนิดนี้ถือเป็นฝนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายใจ
ทุกครั้งที่ได้เจอ
กับ งานวิวาห์จิ้งจอก (狐の嫁入り)
อาเมะฟุริ โคโซ เป็นปีศาจเด็กผู้ชายที่สวมร่มไว้บนหัว ใส่รองเท้าเกี๊ยะ ถือโคมไฟ มักจะโผล่ออกมา
ตอนฝนตก ค่อนข้างจะขี้อาย ไม่ค่อยติดต่อกับผู้คน เมื่อไหร่ที่ฝนตกมันก็จะมาขโมยร่ม และหมวก
ขณะที่กางร่ม หรือใส่หมวกอยู่ เพื่อให้คนๆนั้นเปียกฝน นอกจากนี้บางคนยังเชื่อว่า อาเมะฟุริ โคโซ
เป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าแห่งฝน ผู้ซึ่งจะช่วยทำให้ฝนตกและบรรเทาทุกข์ชาวนาที่ต้องทนทุกข์ทรมาน
จากภัยแล้งที่ยาวนาน
มีนิทานของ อาเมะฟุริ โคโซ ที่เล่าถึง ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่จู่ๆฝนก็ตกอย่างหนัก
เขารีบไปหาที่หลบฝน ใกล้ๆถนนเขาได้พบกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่ถือร่มมือจับและโคมกระดาษอีกข้างหนึ่ง
ชายคนนั้นได้แย่งร่มบนหัวมาจากเด็กน้อย มาใส่บนศีรษะของเขา แล้วเดินจากไป เมื่อเขากลับถึงบ้าน
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เมื่อเขากำลังจะถอดร่มบนหัวของเขา ก็พบว่าเขาไม่สามารถถอดหมวกร่ม
นั้นออกได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสุนัขจิ้งจอกและ "พระภิกษุน้อยสายฝน" ในภาคอีสาน ว่าครั้งหนึ่งสุนัขจิ้งจอกบนภูเขา
พูดกับเณรน้อยว่า
"ฉันจะให้ปลากับเจ้าแต่เจ้าช่วยทำให้ฝนตกที เพราะลูกสาวของฉันแต่งงานได้ในตอนที่ฝนตกเท่านั้น"
(งานวิวาห์จิ้งจอก (狐の嫁入り) ในตำนานของญี่ปุ่นจะเกิดขึ้นเมื่อมีปรากฏการณ์ ฝนตกแดดออก(日照雨))
พระน้อยตอบว่า "ปล่อยให้ฉัน" ขณะที่เขาพูดท้องฟ้ารอบตัวเขาเริ่มมืดลงเล็กน้อย เขาโบกตะเกียงในมือ
และในพริบตาฝนก็เทลงมา และแล้วสุนัขจิ้งจอกก็ได้เริ่มพาลูกสาวเดินขบวนแต่งงาน
ถ้าพูดถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ้งจอกในวัฒนธรรมญี่ปุ่นแล้วนับว่ามีเยอะมากจนนับไม่ไหว ซึ่งภาพลักษณ์ของจิ้งจอก
ในเรื่องเล่าส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวละครที่หลอกมนุษย์ด้วยกลต่างๆ เช่นกันแปลงร่างและสร้างภาพลวงตา โดยสรุปคือ
มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เรื่องเล่าที่มาของชื่อเรียก “งานวิวาห์จิ้งจอก” นี้ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่นำเสนอ
ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกในแบบที่ต่างออกไป
เรื่องแรก: นางจิ้งจอกถูกใช้เป็นเครื่องสังเวย
ในอดีตมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งกำลังเจอกับภัยแล้งอย่างหนัก ชาวบ้านจึงตกลงกันว่าจะหาเครื่องสังเวยมาถวายแด่
เทพเจ้าเพื่อขอฝน โดยวางแผนว่าจะหลอกจับจิ้งจอกมาใช้สังเวย และที่ใกล้ๆ หมู่บ้านนี้เองก็มีนางจิ้งจอกตัวหนึ่ง
ที่ปลอมเป็นมนุษย์ผู้หญิงอาศัยอยู่ แต่ในระหว่างนั้นทั้งจิ้งจอกและชายหนุ่มต่างก็มีใจให้กันขึ้นมาจริงๆ
และแม้ว่าจิ้งจอกจะรู้ถึงแผนการของชาวบ้านแต่ก็ยังยอมสละตัวเองเป็นเครื่องสังเวยเพื่อความอยู่รอดของหมู่บ้าน
ว่ากันว่าน้ำตาของนางจิ้งจอกนั้นได้กลายเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาช่วยหมู่บ้านเอาไว้
เรื่องที่สอง: ขบวนเจ้าสาวของจิ้งจอกซ่อนตัวจากมนุษย์
เรื่องนี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายพอสมควร เรื่องนี้มีอยู่ว่ามีขบวนเจ้าสาวของจิ้งจอกที่ต้องเดินทางผ่านหมู่บ้าน
ของมนุษย์ในตอนกลางวัน และเพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ ขบวนจิ้งจอกจึงทำพิธีขอฝนให้ฝนตกแค่เฉพาะรอบๆ
ขบวนเพื่อใช้พรางตัวระหว่างเดินทาง จึงเป็นที่มาของปริศนาที่ว่าทำไมฝนตกทั้งที่อากาศแจ่มใสอยู่
นอกจากทั้งสองเรื่องนี้แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับฝน แต่ก็เกี่ยวกับงานวิวาห์ของจิ้งจอก
เล่ากันว่าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีธรรมเนียมเดินขบวนเจ้าสาวในตอนกลางคืนโดยจะจุดโคมไฟเวลาเดินขบวน
วันหนึ่งมีประกาศเกี่ยวกับการเดินขบวนเจ้าสาวในหมู่บ้านแต่พอถึงคืนที่กำหนดมีแสงโคมไฟปริศนาส่องแสง
อยู่ในป่า และแสงโคมนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครเห็นคนเดินในขบวนนั้นแม้แต่คนเดียว มีเพียงโคมไฟ
ลอยเป็นขบวนอยู่ในป่า ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นขบวนของจิ้งจอก
อีกเหตุผลหนึ่งที่คาดว่าเป็นที่มาของชื่อเรียกฝนชนิดนี้ว่า “งานวิวาห์จิ้งจอก” นั้นน่าจะมาจากวัฒนธรรมของ
คนญี่ปุ่นที่เชื่อว่าจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีความเชื่อมโยงกับเทพเจ้า ดังนั้นฝนที่เปรียบเสมือนพรจากเทพเจ้าจึงถูก
นำมาผูกกับจิ้งจอกไปโดยปริยายไม่ว่าฝนตกแดดออกจะเกิดจากน้ำตาของนางจิ้งจอกหรือเป็นการพรางตัว
ของขบวนจิ้งจอกจริงหรือไม่ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วฝนชนิดนี้ถือเป็นฝนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายใจ
ทุกครั้งที่ได้เจอ
11
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / เรื่องเล่าเหล่าผีพยาบาท (Vengeful Ghosts)
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2020, 09:27:33 »เรื่องเล่าเหล่าผีพยาบาท (Vengeful Ghosts)
คลาร์ล พรูอิท (Carl Pruitt)
ในเดือนมิถุนายน 1938 ที่ภาคตะวันออกของเคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชายคนหนึ่งชื่อ คลาร์ล พรูอิท
ได้รู้ว่าภรรยาของเขานอกใจ แถมเอาชายชู้มานอนบนเตียงของเขาอีกต่างหาก และนั้นทำให้เขาคว้าโซ่และ
รัดคอของเธอ ในขณะที่ชายชู้ หนี ต่อมาพรูอิทก็ฆ่าตัวตายและถูกฝังอยู่ห่างจากหลุมศพของภรรยาในสุสาน
และนั้นเองทำให้เขากลายเป็นวิญญาณแค้น
ว่ากันว่าใครก็ตามที่รบกวนหลุมฝังศพของพรูอิทจะเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน ที่ผ่านมามีสามราย
รายแรกเป็นเด็กหนุ่มที่โยนก้อนหินใส่หลุมฝังศพ และเขาก็ถูกฆ่าตายในขณะขี่จักรยานกลับบ้าน และจู่ๆ
ก็สูญเสียการควบคุมโดยอะไรบางอย่าง จักรยานเขาเกิดอุบัติเหตุแล้วโซ่จักรยานหลุดออกมาและรัดคอ
เด็กหนุ่มคนนั้น สัปดาห์ต่อมา แม่ของเด็กได้เอาขวานและทำลายหลุมฝังศพ ต่อมาในขณะที่เธอแขวนเสื้อ
ราวตากผ้าของเธอก็ได้หลุดออกแล้วก็รัดคอเธอเสียชีวิต (ราวตากผ้าทำจากห่วงโซ่) และหลังจากนั้น
ก็มีอีกคนที่รบกวนหลุมฝังและเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน
ในที่สุดชาวบ้านก็พบว่าหลุมศพของพรูอิทอันตราย ในที่สุดเขาก็จัดการย้ายศพอื่นๆ ไปไว้ที่แห่งใหม่
และปล่อยให้หลุมศพของพรูอินทิ้งร้างปกคลุมเต็มไปด้วยวัชพืช ในปี 1950 หลุมฝังศพของพรูอิท
ได้ถูกทำลายเพราะต้องการสร้างที่แห่งใหม่ น่าแปลกที่ไม่มีใครตายในจากการลบหลู่ครั้งนี้เลย
ซันดิล โบลอนก์ (Sundel Bolong)
ซันดิล โบลอนก์ วิญญาณพยาบาทในมาเลเซีย ว่ากันว่าเกิดจากหญิงสาวสวยที่เสียชีวิตตอนกำลังตั้งท้อง
แล้วลูกของเธอได้ทะลุออกจากด้านหลังของเธอในหลุมศพ บางตำนานเชื่อว่าเธอเสียชีวิตขณะคลอด
ในขณะที่บางตำนานเธอฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเป็นตำนานไหน ก็ล้วนเป็นวิญญาณพยาบาททั้งสิ้น
ลักษณะของวิญญาณเธอจะสวมชุดราตรีสีขาว ผมยาวพาดลงไปถึงก้นเพื่อปกปิดด้านหลังที่ปรากฏบาดแผล
เป็นรูใหญ่เปิดออกมาอย่างน่าสยดสยอง (เกิดจากลูกของเธอทะลุออกมา)
เหยื่อของเธอส่วนมากเป็นผู้ชาย เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงสวยมาก ทำให้ชายต่างหลงเสน่ห์ของเธอ และเธอ
จะล่อผู้ชาย คำว่า “Sundel” แปลว่าโสเภณี และ “Bolong” แปลว่าหลุมรู รวมกันก็คือ “โสเภณีที่มีรู”
ชูเรล (Churel)
ชูเรล รู้จักหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชูดาลิ (chudail) หรือ ชูเดล (chudel) เป็นผีพยาบาทในตำนานดังจาก
ประเทศอินเดียโดยเฉพาะทางตอนเหนือของอินเดีย โดยมักอยู่ในรูปผู้หญิงคนหนึ่ง เชื่อกันว่าอดียเธอเคยเป็น
ผู้หญิงตั้งครรถ์ที่เสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตรในเทศกาลดิวาลี (เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวฮินดู
จะเฉลิมฉลองเทศกาลนานถึงห้าวัน) และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนแวมไพร์ (คล้ายกับตำนานลิลิธ) และแก้แค้น
ครอบครัวที่ไม่ดูแลตน (เกรียน) ด้วยการหลอกหลอนส่วนผู้ชายจะดูดเลือดจนแห้ง แต่นั้นก็ไม่สามารดับแค้น
จึงล่าฆ่าคนอื่นด้วย
ชูเรลจะมีลักษณะน่าเกลียดและน่ากลัว กรงเล็บยาว ลิ้นยาวสีดำ และผมยาวกระเซิง แต่เธอมันจะปรากฏเป็น
สาวสวยที่ล่อชายหนุ่มแถมถิ่นทุรกันดาร และเธอจะอยู่ล่อชายหนุ่มไปยังสถานที่ที่เงียบสงบหรือไม่ก็ท่อระบายน้ำ
เพื่อแอบสูบเลือด, อสุจิ และความแข็งแรงจนชายหนุ่มกลายเป็นคนชรา
ดังนั้นชาวอินเดียจึงพิถีพิถันในการจัดพิธีศพหญิงสาวที่เสียชีวิตระหว่างคลอดบุตรมากโดยพวกเขาเชื่อว่าการจับเท้า
และมือผูกโซ่และเอาพริกแดงป้ายในดวงตาจะสามารถไม่ให้เกิดชูเรลได้
อนเรียว (Onryo)
อนเรียวเป็นวิญญาณจอมอาฆาตพยาบาท ที่เสียชีวิตด้วยความแค้น และพยายามล้างแค้นผู้คน ในช่วงที่พวกมันยัง
ไม่ถูกปลดปล่อย ตามความเชื่อของญี่ปุ่น ปกติแล้ววิญญาณนี้จะไม่มีลักษณะชัดเจน แต่จากการแต่งกายละครคาบิกิ
จะใช้การแต่งตัวด้วยกิโมสีขาวสำหรับการฝังศพ ผมยาวดำ และใบหน้าซีดขาว
อนเรียวถือว่าเป็นวิญญาณที่น่ากลัวมากเพราะมันสามารถฆ่าศัตรูหรือแม้แต่ก่อให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ (ผานดินไหว,
ไฟไหม้, พายุ, ภัยแล้ง, ความอดอยาก และโรคระบาด) แต่ส่วนมากวิญญาณจะแก้แค้นด้วยความทรมานด้านจิตใจ
มากกว่าจะทรมานด้านกายภาพ
โดยเรื่องของโอนีโยะที่ดังที่สุดคือโยสึยะ ไคดัน (Yotsuya Kaidan) ที่เราขนานนามว่าแม่นาคญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องราว
ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสามีฆ่า เพราะต้องการที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ เค้าจึงวางแผนฆ่าเธอ และเมื่อโออิวะตายไป
กลายเป็นวิญญาณแค้น และในช่วงกลางดึงที่สามีเข้าหอกับภรรยาใหม่นั้น เขาก็พบวิญญาณของโอนีโยะร้องโหยหวน
อยู่ตรงหน้า เขาจึงใช้ดาบฟันทันที แต่กลายเป็นว่าเมื่อเขามองอีกทีกลับเป็นเจ้าสาวของเขาเอง และหลังจากนั้นไม่ว่าเขา
จะหนีไปไหนเขาก็เจอหน้าของภรรยาเก่าในหน้าเกลียดน่ากลัวหลอกหลอน จนในที่สุดเขาก็ฆ่าตัวตายเอง
(ตำนานนี้มีหลากหลาย รายละเอียดแตกต่างกัน)
ผีตายโหง (Phi Tai Hong)
ชาวบ้านในประเทศไทยมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามที่ เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน หรือแบบโหดร้าย ไม่ตายแบบธรรมดา
ตามธรรมชาติ เช่น ถูกยิง จมน้ำ รถชน ฆ่าตัวตาย ไปจนถึงตายทั้งกลม และหากไม่ทำพิธีศพแบบถูกต้อง
คนที่ตายจะกลายเป็น ผีตายโหง
โดยเฉพาะผีตายทั้งกลมนั้นถือว่าเป็นผีที่มีความอาฆาตพยาบาลดุร้ายและน่ากลัวที่สุด ว่ากันว่าเธอมีพลังวิญญาณอย่างรุนแรง
สามารถทำร้ายคน หรือสร้างภัยพิบัติธรรมชาติ (โค้งร้อยศพ) และเพื่อให้ผีสงบจำเป็นต้องสร้างศาลผี ณ จุดที่เกิดเหตุ
เพื่อลดความเฮี้ยน (หรือต้องการบรรเทาทุกข์ทรมานผีตายโหง)
คนไทยนั้นมีความเชื่อเรื่องผีตายโหงเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าผีตายโหงจะไม่ไปยังคงวนเวียนอยู่ตรงสถานที่ที่ตนเสียชีวิต
และรอให้คนอื่นมาอยู่ด้วย และผีพยายามที่จะหาตัวตายตัวแทนมาแทนที่ตนเพื่อเป็นอิสระจากพันธนาการยึดติดที่
และนอกจากนี้หากครอบครัวใดที่สูญเสียสมาชิกจากการฆาตกรรมและฆาตกรยังลอยนวล พวกเขาจะเก็บศพในบ้านของพวกเขา
จนกว่าฆาตกรจะถูกจับและถูกลงโทษ (ส่วนเพื่ออะไรนั้นผมไม่แน่ใจ)
ผู้หญิงสีเขียว (Green Lady)
ผู้หญิงสีเขียวเป็นวิญญาณกลีสทิก (Glaistig) หรือผีน้ำ ตามตำนานของอังกฤษและสกอตแลนด์ ที่อาศัยใกล้แหล่งน้ำ
ที่ครึ่งบนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและครึ่งล่างเป็นแพะ (คล้ายกับเทพารักษ์) ด้านบนที่เป็นมนุษย์ของเธอมีสีผิวเทา ผมบลอนด์ยาว
ปกคลุมร่างกายเธอ นอกจากนี้เธอมักจะซ่อนร่างกายที่เป็นสัตว์ของเธอด้วยเสื้อคลุมสีเขียวตามชื่อของเธอ
ในบางเวลาเธอมักขี้เล่นด้วยการขว้างปาก้อนกวาดแกล้งคนเดินทางที่ผ่านไป หรือไม่ก็ทำให้หลงทาง และหัวเราะ
ต้นกำเนิดของเธอนั้นเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สูงศักดิ์ที่ถูกฆ่าตายโดยหนึ่งในคนรับใช้ของเธอและยัดลงปล่องไฟ
จนกลายเป็นวิญญาณแค้น ว่ากันว่าบางครั้งเธอก็ล่อผู้คนสู่ความตายด้วยการร้องเพลงของเธอ แต่ที่แปลกคือเธอ
เป็นผีที่ไม่ทำร้ายเด็กๆ เลย
ลาซีกัวนาบา (La Siguanaba)
เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใช้ชื่อนี้ ตอนแรกเธอชื่อว่า ซีเวเวท ที่มีความหมายอันแสนดีว่าหญิงผู้งดงาม ลาซีกัวนาบาถูกเล่าขาน
กันมาแต่โบราณว่า เธอแอบไปมีสัมพันธ์กับบุตรแห่งเทพเจ้าทลาล็อคของแอสเทค แต่ถึงเธอจะมีรักระดับนั้นก็ไม่ได้เป็น
แม่ที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะจริง ๆ แล้วเธอมีลูกชาย และเธอก็ทิ้งลูกชายเอาไว้เพียงลำพัง เพื่อจะได้ออกไปจ้ำจี้กับคู่รัก
ที่เป็นเทพองค์นั้น
เมื่อเทพทลาล็อคพบกับความจริงนี้ พระองค์จึงสาปนางซีเวเวท เพื่อให้เธอดูงดงามเวลาอยู่ไกล ๆ แต่ดูอัปลักษณ์
อย่างหนักเมื่อได้มองดูใกล้ ๆ จากนั้นเธอก็ได้ชื่อใหม่เป็น ลาซีกัวนาบา หรือที่แปลว่าหญิงผู้อัปลักษณ์
และถูกปล่อยเอาไว้ในแถบทุรกันดารเพื่อหลอกล่อให้พวกผู้ชายเข้ามาติดกับ
ในประเทศเอลซาวาดอร์ เรื่องเล่าเกี่ยวกับลาชิกัวนาบาจะบอกว่าเธอชอบมาซักผ้าที่ริมแม้น้ำ ทั้งยังถูกสาปให้ต้อง
ใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในการดูแลลูกชายที่เธอเคยทิ้งขว้าง แต่ทีนี้เวลาที่เหลือของเธอก็เรียกได้ว่ามีไม่น้อย
เพราะเธอถูกสาปให้เป็นอมตะไม่มีวันตายไปอีกหนึ่งกระทง ส่วนเหยื่อที่เธอเลือกก็มักจะเป็นพวกเจ้าชู้
โดยเธอจะออกมาอาบน้ำอยู่ใต้แสงจันทร์ในป่าลึก
และก็อย่างที่เราเล่าไป ความสวยระดับร้อยเมตรของเธอจะล่อลวงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ และเมื่อถึงตอนนั้นชาย
ผู้โชคร้ายก็จะต้องตายเพราะตกใจ เพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอจะดูอัปลักษณ์อย่างแรง ซึ่งถ้าเขาไม่ตาย ชายหนุ่ม
ก็จะพบว่าตัวเองหลงทางอยู่กลางป่า โดยครั้งหนึ่งนานมาแล้วลาซีกัวนาบาเคยปรากฏตัวต่อหน้าเด็ก ๆ
ในร่างของคุณแม่ จากนั้นก็หลอกล่อให้พวกเขาไปเสียชีวิตในป่า ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการปราบเธอก็คือ
จงนำไม้กางเขนไม่ก็ชิ้นส่วนของโลหะ มากัดให้แน่นแล้วสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า
ชินดิ(Chindi)
ชินดิ เป็นความเชื่อของชาวนาวาโฮ เชื่อว่าเป็นวิญญาณที่เกิดจากคนตายเพราะอุบัติเหตุหรือตายในสงคราม และไม่ให้เกียรติ
ต่อสถานที่ฝังศพทำให้เกิด ว่ากันว่าเป็นวิญญาณพยาบาทที่ตามกัดไม่ปล่อย หากพยาบาทจะตามหลอกหลอนให้คนและ
ครอบครัวทุกข์ทรมาน แม้จะนาน 100 ปีก็ไม่ปล่อย ตัวอย่างจากบันทึกครอบครัว ลอง ซอลท์ (Long Salt family)
ที่เชื่อว่าครอบครัวถูกวิญญาณหลอกหลอนยาวนานกว่า 100 ปี
นอกจากนี้ยังวิญญาณยังทำให้ทำให้เกิดโรคภัย (Ghost sickness) ที่เกิดขึ้นเฉพาะชาวพื้นเมืองนาวาโฮที่อธิบายไม่ได้ด้วย
(ผู้เป็นอาการจะไม่อยากอาหาร, ลำลักบ่อยครั้ง และชอบฝันร้าย เห็นภาพหลอน)
บ้านและทรัยย์สินของคนตายเป็นสถานที่มีโอกาสมากที่สุดที่จอเจอวิญญาณนี้เนพิเศษ ด้วยเหตุนี้ชาวนาวาโฮพยายาม
ให้ผู้ตายไปเสียชีวิตนอกบ้านแทนที่จะเป็นในบ้านเพื่อไม่ให้กลายเป็นที่ผีสิง
ฟุนายูเรย์ (Funayurei)
ฟูนายูเรย์ เป็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตในทะเล และกลายเป็นวิญญาณพยาบาทตามความเชื่อของญี่ปุ่น โดยชาวบ้านในญี่ปุ่น
มักพบปรากฏในรูปของเรือผี และมักล่อให้กัปตันเรือด้วยการเปลี่ยนเข็มทิศเพื่อให้เรือนอกเส้นทาง หรือไม่ก็ล่อให้เรือชนหน้าผา
หรือโขดหินและไปสู่ความตาย
เจ้าเรือผีนี้มักปรากฏในตอนที่ฝนตกหรือไม่ก็เรือที่มีพายุและหมอก เมื่อปรากฏออกมาก็จะพยายามให้เรือจม
บางตำนานเล่าว่ามันจะขอกระบวยตักน้ำ หากทำตามคำขอมันก็จะใช้กระบวบนั้นตักน้ำทะเลใส่เรือ เพื่อให้เรือจม
ลา ซาโยน่า (La Sayona)
ลา ซาโยน่า เป็นวิญญาณพยาบาทจากเวเนซุเอลา และประเทศใกล้เคียง แต่เดิมเป็นมนุษย์ผู้หญิงชื่อเมลิสสา เธอเป็นหญิงสวย
และมีสามีที่รักและมีลูกชายคนหนึ่ง จนกระทั่ววันหนึ่งขณะที่เธออาบน้ำในแม่น้ำก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งบอกว่าสามีของเธอ
ได้นอนกับแม่ของเธอ เธอจึงโกรธและกลับบ้านไปก็พบสามีและลูกของเธอนอนอยู่บนเตียง เธอจัดการเผาบ้านฆ่าพวกเขาสองคน
จากนั้นก็ไปบ้านแม่ของเธอและแทงแม่จนตาย หากแต่ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตก็ได้สาปแช่งว่าต่อไปนี้เธอจะต้องแก้แค้นผู้หญิงทุกคน
ด้วยการฆ่าสามีนอกใจของพวกเธอ
และหลังจากนั้นเป็นต้นเธอก็กลายเป็นวิญญาณแค้นตามล่าฆ่าผู้ชายมาโดยตลอด เธอมักปรากฏตัวในลักษณะผู้หญิงสวยและ
หากชายใดไปทักเธอ และหลงเธอและก็ เธอก็ล่อผู้ชายที่ลับๆ ในป่า และจากนั้นก็เผยร่างจริงในสภาพกะโหลกศีรษะเน่าเปื่อย
อย่างน่าสยดสยอง และฉีกร่างชายคนนั้นและกินเป็นอาหาร
ส่วนซาโยน่า หมายถึงผ้าที่ผีสวมนั้นเป็นชุดยาวสีขาวคล้ายชุดชั้นในยุคกลาง
อ้างอิง
http://listverse.com/2014/02/10/10-vengeful-ghosts-in-folklore-and-mythology/
คลาร์ล พรูอิท (Carl Pruitt)
ในเดือนมิถุนายน 1938 ที่ภาคตะวันออกของเคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชายคนหนึ่งชื่อ คลาร์ล พรูอิท
ได้รู้ว่าภรรยาของเขานอกใจ แถมเอาชายชู้มานอนบนเตียงของเขาอีกต่างหาก และนั้นทำให้เขาคว้าโซ่และ
รัดคอของเธอ ในขณะที่ชายชู้ หนี ต่อมาพรูอิทก็ฆ่าตัวตายและถูกฝังอยู่ห่างจากหลุมศพของภรรยาในสุสาน
และนั้นเองทำให้เขากลายเป็นวิญญาณแค้น
ว่ากันว่าใครก็ตามที่รบกวนหลุมฝังศพของพรูอิทจะเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน ที่ผ่านมามีสามราย
รายแรกเป็นเด็กหนุ่มที่โยนก้อนหินใส่หลุมฝังศพ และเขาก็ถูกฆ่าตายในขณะขี่จักรยานกลับบ้าน และจู่ๆ
ก็สูญเสียการควบคุมโดยอะไรบางอย่าง จักรยานเขาเกิดอุบัติเหตุแล้วโซ่จักรยานหลุดออกมาและรัดคอ
เด็กหนุ่มคนนั้น สัปดาห์ต่อมา แม่ของเด็กได้เอาขวานและทำลายหลุมฝังศพ ต่อมาในขณะที่เธอแขวนเสื้อ
ราวตากผ้าของเธอก็ได้หลุดออกแล้วก็รัดคอเธอเสียชีวิต (ราวตากผ้าทำจากห่วงโซ่) และหลังจากนั้น
ก็มีอีกคนที่รบกวนหลุมฝังและเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน
ในที่สุดชาวบ้านก็พบว่าหลุมศพของพรูอิทอันตราย ในที่สุดเขาก็จัดการย้ายศพอื่นๆ ไปไว้ที่แห่งใหม่
และปล่อยให้หลุมศพของพรูอินทิ้งร้างปกคลุมเต็มไปด้วยวัชพืช ในปี 1950 หลุมฝังศพของพรูอิท
ได้ถูกทำลายเพราะต้องการสร้างที่แห่งใหม่ น่าแปลกที่ไม่มีใครตายในจากการลบหลู่ครั้งนี้เลย
ซันดิล โบลอนก์ (Sundel Bolong)
ซันดิล โบลอนก์ วิญญาณพยาบาทในมาเลเซีย ว่ากันว่าเกิดจากหญิงสาวสวยที่เสียชีวิตตอนกำลังตั้งท้อง
แล้วลูกของเธอได้ทะลุออกจากด้านหลังของเธอในหลุมศพ บางตำนานเชื่อว่าเธอเสียชีวิตขณะคลอด
ในขณะที่บางตำนานเธอฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเป็นตำนานไหน ก็ล้วนเป็นวิญญาณพยาบาททั้งสิ้น
ลักษณะของวิญญาณเธอจะสวมชุดราตรีสีขาว ผมยาวพาดลงไปถึงก้นเพื่อปกปิดด้านหลังที่ปรากฏบาดแผล
เป็นรูใหญ่เปิดออกมาอย่างน่าสยดสยอง (เกิดจากลูกของเธอทะลุออกมา)
เหยื่อของเธอส่วนมากเป็นผู้ชาย เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงสวยมาก ทำให้ชายต่างหลงเสน่ห์ของเธอ และเธอ
จะล่อผู้ชาย คำว่า “Sundel” แปลว่าโสเภณี และ “Bolong” แปลว่าหลุมรู รวมกันก็คือ “โสเภณีที่มีรู”
ชูเรล (Churel)
ชูเรล รู้จักหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชูดาลิ (chudail) หรือ ชูเดล (chudel) เป็นผีพยาบาทในตำนานดังจาก
ประเทศอินเดียโดยเฉพาะทางตอนเหนือของอินเดีย โดยมักอยู่ในรูปผู้หญิงคนหนึ่ง เชื่อกันว่าอดียเธอเคยเป็น
ผู้หญิงตั้งครรถ์ที่เสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตรในเทศกาลดิวาลี (เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวฮินดู
จะเฉลิมฉลองเทศกาลนานถึงห้าวัน) และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนแวมไพร์ (คล้ายกับตำนานลิลิธ) และแก้แค้น
ครอบครัวที่ไม่ดูแลตน (เกรียน) ด้วยการหลอกหลอนส่วนผู้ชายจะดูดเลือดจนแห้ง แต่นั้นก็ไม่สามารดับแค้น
จึงล่าฆ่าคนอื่นด้วย
ชูเรลจะมีลักษณะน่าเกลียดและน่ากลัว กรงเล็บยาว ลิ้นยาวสีดำ และผมยาวกระเซิง แต่เธอมันจะปรากฏเป็น
สาวสวยที่ล่อชายหนุ่มแถมถิ่นทุรกันดาร และเธอจะอยู่ล่อชายหนุ่มไปยังสถานที่ที่เงียบสงบหรือไม่ก็ท่อระบายน้ำ
เพื่อแอบสูบเลือด, อสุจิ และความแข็งแรงจนชายหนุ่มกลายเป็นคนชรา
ดังนั้นชาวอินเดียจึงพิถีพิถันในการจัดพิธีศพหญิงสาวที่เสียชีวิตระหว่างคลอดบุตรมากโดยพวกเขาเชื่อว่าการจับเท้า
และมือผูกโซ่และเอาพริกแดงป้ายในดวงตาจะสามารถไม่ให้เกิดชูเรลได้
อนเรียว (Onryo)
อนเรียวเป็นวิญญาณจอมอาฆาตพยาบาท ที่เสียชีวิตด้วยความแค้น และพยายามล้างแค้นผู้คน ในช่วงที่พวกมันยัง
ไม่ถูกปลดปล่อย ตามความเชื่อของญี่ปุ่น ปกติแล้ววิญญาณนี้จะไม่มีลักษณะชัดเจน แต่จากการแต่งกายละครคาบิกิ
จะใช้การแต่งตัวด้วยกิโมสีขาวสำหรับการฝังศพ ผมยาวดำ และใบหน้าซีดขาว
อนเรียวถือว่าเป็นวิญญาณที่น่ากลัวมากเพราะมันสามารถฆ่าศัตรูหรือแม้แต่ก่อให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ (ผานดินไหว,
ไฟไหม้, พายุ, ภัยแล้ง, ความอดอยาก และโรคระบาด) แต่ส่วนมากวิญญาณจะแก้แค้นด้วยความทรมานด้านจิตใจ
มากกว่าจะทรมานด้านกายภาพ
โดยเรื่องของโอนีโยะที่ดังที่สุดคือโยสึยะ ไคดัน (Yotsuya Kaidan) ที่เราขนานนามว่าแม่นาคญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องราว
ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสามีฆ่า เพราะต้องการที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ เค้าจึงวางแผนฆ่าเธอ และเมื่อโออิวะตายไป
กลายเป็นวิญญาณแค้น และในช่วงกลางดึงที่สามีเข้าหอกับภรรยาใหม่นั้น เขาก็พบวิญญาณของโอนีโยะร้องโหยหวน
อยู่ตรงหน้า เขาจึงใช้ดาบฟันทันที แต่กลายเป็นว่าเมื่อเขามองอีกทีกลับเป็นเจ้าสาวของเขาเอง และหลังจากนั้นไม่ว่าเขา
จะหนีไปไหนเขาก็เจอหน้าของภรรยาเก่าในหน้าเกลียดน่ากลัวหลอกหลอน จนในที่สุดเขาก็ฆ่าตัวตายเอง
(ตำนานนี้มีหลากหลาย รายละเอียดแตกต่างกัน)
ผีตายโหง (Phi Tai Hong)
ชาวบ้านในประเทศไทยมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามที่ เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน หรือแบบโหดร้าย ไม่ตายแบบธรรมดา
ตามธรรมชาติ เช่น ถูกยิง จมน้ำ รถชน ฆ่าตัวตาย ไปจนถึงตายทั้งกลม และหากไม่ทำพิธีศพแบบถูกต้อง
คนที่ตายจะกลายเป็น ผีตายโหง
โดยเฉพาะผีตายทั้งกลมนั้นถือว่าเป็นผีที่มีความอาฆาตพยาบาลดุร้ายและน่ากลัวที่สุด ว่ากันว่าเธอมีพลังวิญญาณอย่างรุนแรง
สามารถทำร้ายคน หรือสร้างภัยพิบัติธรรมชาติ (โค้งร้อยศพ) และเพื่อให้ผีสงบจำเป็นต้องสร้างศาลผี ณ จุดที่เกิดเหตุ
เพื่อลดความเฮี้ยน (หรือต้องการบรรเทาทุกข์ทรมานผีตายโหง)
คนไทยนั้นมีความเชื่อเรื่องผีตายโหงเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าผีตายโหงจะไม่ไปยังคงวนเวียนอยู่ตรงสถานที่ที่ตนเสียชีวิต
และรอให้คนอื่นมาอยู่ด้วย และผีพยายามที่จะหาตัวตายตัวแทนมาแทนที่ตนเพื่อเป็นอิสระจากพันธนาการยึดติดที่
และนอกจากนี้หากครอบครัวใดที่สูญเสียสมาชิกจากการฆาตกรรมและฆาตกรยังลอยนวล พวกเขาจะเก็บศพในบ้านของพวกเขา
จนกว่าฆาตกรจะถูกจับและถูกลงโทษ (ส่วนเพื่ออะไรนั้นผมไม่แน่ใจ)
ผู้หญิงสีเขียว (Green Lady)
ผู้หญิงสีเขียวเป็นวิญญาณกลีสทิก (Glaistig) หรือผีน้ำ ตามตำนานของอังกฤษและสกอตแลนด์ ที่อาศัยใกล้แหล่งน้ำ
ที่ครึ่งบนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและครึ่งล่างเป็นแพะ (คล้ายกับเทพารักษ์) ด้านบนที่เป็นมนุษย์ของเธอมีสีผิวเทา ผมบลอนด์ยาว
ปกคลุมร่างกายเธอ นอกจากนี้เธอมักจะซ่อนร่างกายที่เป็นสัตว์ของเธอด้วยเสื้อคลุมสีเขียวตามชื่อของเธอ
ในบางเวลาเธอมักขี้เล่นด้วยการขว้างปาก้อนกวาดแกล้งคนเดินทางที่ผ่านไป หรือไม่ก็ทำให้หลงทาง และหัวเราะ
ต้นกำเนิดของเธอนั้นเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สูงศักดิ์ที่ถูกฆ่าตายโดยหนึ่งในคนรับใช้ของเธอและยัดลงปล่องไฟ
จนกลายเป็นวิญญาณแค้น ว่ากันว่าบางครั้งเธอก็ล่อผู้คนสู่ความตายด้วยการร้องเพลงของเธอ แต่ที่แปลกคือเธอ
เป็นผีที่ไม่ทำร้ายเด็กๆ เลย
ลาซีกัวนาบา (La Siguanaba)
เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใช้ชื่อนี้ ตอนแรกเธอชื่อว่า ซีเวเวท ที่มีความหมายอันแสนดีว่าหญิงผู้งดงาม ลาซีกัวนาบาถูกเล่าขาน
กันมาแต่โบราณว่า เธอแอบไปมีสัมพันธ์กับบุตรแห่งเทพเจ้าทลาล็อคของแอสเทค แต่ถึงเธอจะมีรักระดับนั้นก็ไม่ได้เป็น
แม่ที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะจริง ๆ แล้วเธอมีลูกชาย และเธอก็ทิ้งลูกชายเอาไว้เพียงลำพัง เพื่อจะได้ออกไปจ้ำจี้กับคู่รัก
ที่เป็นเทพองค์นั้น
เมื่อเทพทลาล็อคพบกับความจริงนี้ พระองค์จึงสาปนางซีเวเวท เพื่อให้เธอดูงดงามเวลาอยู่ไกล ๆ แต่ดูอัปลักษณ์
อย่างหนักเมื่อได้มองดูใกล้ ๆ จากนั้นเธอก็ได้ชื่อใหม่เป็น ลาซีกัวนาบา หรือที่แปลว่าหญิงผู้อัปลักษณ์
และถูกปล่อยเอาไว้ในแถบทุรกันดารเพื่อหลอกล่อให้พวกผู้ชายเข้ามาติดกับ
ในประเทศเอลซาวาดอร์ เรื่องเล่าเกี่ยวกับลาชิกัวนาบาจะบอกว่าเธอชอบมาซักผ้าที่ริมแม้น้ำ ทั้งยังถูกสาปให้ต้อง
ใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในการดูแลลูกชายที่เธอเคยทิ้งขว้าง แต่ทีนี้เวลาที่เหลือของเธอก็เรียกได้ว่ามีไม่น้อย
เพราะเธอถูกสาปให้เป็นอมตะไม่มีวันตายไปอีกหนึ่งกระทง ส่วนเหยื่อที่เธอเลือกก็มักจะเป็นพวกเจ้าชู้
โดยเธอจะออกมาอาบน้ำอยู่ใต้แสงจันทร์ในป่าลึก
และก็อย่างที่เราเล่าไป ความสวยระดับร้อยเมตรของเธอจะล่อลวงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ และเมื่อถึงตอนนั้นชาย
ผู้โชคร้ายก็จะต้องตายเพราะตกใจ เพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอจะดูอัปลักษณ์อย่างแรง ซึ่งถ้าเขาไม่ตาย ชายหนุ่ม
ก็จะพบว่าตัวเองหลงทางอยู่กลางป่า โดยครั้งหนึ่งนานมาแล้วลาซีกัวนาบาเคยปรากฏตัวต่อหน้าเด็ก ๆ
ในร่างของคุณแม่ จากนั้นก็หลอกล่อให้พวกเขาไปเสียชีวิตในป่า ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการปราบเธอก็คือ
จงนำไม้กางเขนไม่ก็ชิ้นส่วนของโลหะ มากัดให้แน่นแล้วสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า
ชินดิ(Chindi)
ชินดิ เป็นความเชื่อของชาวนาวาโฮ เชื่อว่าเป็นวิญญาณที่เกิดจากคนตายเพราะอุบัติเหตุหรือตายในสงคราม และไม่ให้เกียรติ
ต่อสถานที่ฝังศพทำให้เกิด ว่ากันว่าเป็นวิญญาณพยาบาทที่ตามกัดไม่ปล่อย หากพยาบาทจะตามหลอกหลอนให้คนและ
ครอบครัวทุกข์ทรมาน แม้จะนาน 100 ปีก็ไม่ปล่อย ตัวอย่างจากบันทึกครอบครัว ลอง ซอลท์ (Long Salt family)
ที่เชื่อว่าครอบครัวถูกวิญญาณหลอกหลอนยาวนานกว่า 100 ปี
นอกจากนี้ยังวิญญาณยังทำให้ทำให้เกิดโรคภัย (Ghost sickness) ที่เกิดขึ้นเฉพาะชาวพื้นเมืองนาวาโฮที่อธิบายไม่ได้ด้วย
(ผู้เป็นอาการจะไม่อยากอาหาร, ลำลักบ่อยครั้ง และชอบฝันร้าย เห็นภาพหลอน)
บ้านและทรัยย์สินของคนตายเป็นสถานที่มีโอกาสมากที่สุดที่จอเจอวิญญาณนี้เนพิเศษ ด้วยเหตุนี้ชาวนาวาโฮพยายาม
ให้ผู้ตายไปเสียชีวิตนอกบ้านแทนที่จะเป็นในบ้านเพื่อไม่ให้กลายเป็นที่ผีสิง
ฟุนายูเรย์ (Funayurei)
ฟูนายูเรย์ เป็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตในทะเล และกลายเป็นวิญญาณพยาบาทตามความเชื่อของญี่ปุ่น โดยชาวบ้านในญี่ปุ่น
มักพบปรากฏในรูปของเรือผี และมักล่อให้กัปตันเรือด้วยการเปลี่ยนเข็มทิศเพื่อให้เรือนอกเส้นทาง หรือไม่ก็ล่อให้เรือชนหน้าผา
หรือโขดหินและไปสู่ความตาย
เจ้าเรือผีนี้มักปรากฏในตอนที่ฝนตกหรือไม่ก็เรือที่มีพายุและหมอก เมื่อปรากฏออกมาก็จะพยายามให้เรือจม
บางตำนานเล่าว่ามันจะขอกระบวยตักน้ำ หากทำตามคำขอมันก็จะใช้กระบวบนั้นตักน้ำทะเลใส่เรือ เพื่อให้เรือจม
ลา ซาโยน่า (La Sayona)
ลา ซาโยน่า เป็นวิญญาณพยาบาทจากเวเนซุเอลา และประเทศใกล้เคียง แต่เดิมเป็นมนุษย์ผู้หญิงชื่อเมลิสสา เธอเป็นหญิงสวย
และมีสามีที่รักและมีลูกชายคนหนึ่ง จนกระทั่ววันหนึ่งขณะที่เธออาบน้ำในแม่น้ำก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งบอกว่าสามีของเธอ
ได้นอนกับแม่ของเธอ เธอจึงโกรธและกลับบ้านไปก็พบสามีและลูกของเธอนอนอยู่บนเตียง เธอจัดการเผาบ้านฆ่าพวกเขาสองคน
จากนั้นก็ไปบ้านแม่ของเธอและแทงแม่จนตาย หากแต่ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตก็ได้สาปแช่งว่าต่อไปนี้เธอจะต้องแก้แค้นผู้หญิงทุกคน
ด้วยการฆ่าสามีนอกใจของพวกเธอ
และหลังจากนั้นเป็นต้นเธอก็กลายเป็นวิญญาณแค้นตามล่าฆ่าผู้ชายมาโดยตลอด เธอมักปรากฏตัวในลักษณะผู้หญิงสวยและ
หากชายใดไปทักเธอ และหลงเธอและก็ เธอก็ล่อผู้ชายที่ลับๆ ในป่า และจากนั้นก็เผยร่างจริงในสภาพกะโหลกศีรษะเน่าเปื่อย
อย่างน่าสยดสยอง และฉีกร่างชายคนนั้นและกินเป็นอาหาร
ส่วนซาโยน่า หมายถึงผ้าที่ผีสวมนั้นเป็นชุดยาวสีขาวคล้ายชุดชั้นในยุคกลาง
อ้างอิง
http://listverse.com/2014/02/10/10-vengeful-ghosts-in-folklore-and-mythology/
12
CMX AV Recommend / มาแล้ว AV ล้อเลียน รับกระแส ดาบพิฆาตอสูร Movie ล่าสุด
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 15:04:23 »มาแล้ว AV ล้อเลียน รับกระแส ดาบพิฆาตอสูร Movie ล่าสุด
ช่วงปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผลงานอนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) นั้นมาแรงถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซ
เลยก็ว่าได้โดยล่าสุดภาคหนังโรง ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เพียง 3 วัน ที่เข้าฉาย ก็ฟันรายได้แล้วกว่า 1500 ล้านบาท!!
ทำลายสถิติการทำรายได้ตอนเปิดตัวมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
แน่นอนว่างานล้อเลียนในรูปแบบ AV ก็ต้องมาโดยที่เป็นกระแสมากที่สุดเป็นผลงานของค่าย COSCRAFT
ที่เน้นผลิตผลงานแนวคอสเพลย์ โดยเรื่องที่ว่านำแสดงโดยน้อง Nagisa Mitsuki โดยล่าสุดก็ได้ผลิตงาน
ออกมารับกระแสหนัง โดยจะว่าเป็นเวอร์ชั่นต่อน่าจะถูก นอกจากยังคงมีนักแสดงคนเดิม ยังเพิ่มเติมมาอีก
3 นาง มารับบทตัวละครอื่นๆได้แก่ Tanaka Nene / Abeno Miku / Konno Hikaru
คราวนี้ต้องปะทะกับปีศาจในความฝัน...เปียกแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม
Nagisa Mitsuki จากการ์ตูนยอดฮิต ดาบพิฆาตอสูร สู่วงการ AV
https://www.cnxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=185528.0
ช่วงปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผลงานอนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) นั้นมาแรงถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซ
เลยก็ว่าได้โดยล่าสุดภาคหนังโรง ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เพียง 3 วัน ที่เข้าฉาย ก็ฟันรายได้แล้วกว่า 1500 ล้านบาท!!
ทำลายสถิติการทำรายได้ตอนเปิดตัวมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
แน่นอนว่างานล้อเลียนในรูปแบบ AV ก็ต้องมาโดยที่เป็นกระแสมากที่สุดเป็นผลงานของค่าย COSCRAFT
ที่เน้นผลิตผลงานแนวคอสเพลย์ โดยเรื่องที่ว่านำแสดงโดยน้อง Nagisa Mitsuki โดยล่าสุดก็ได้ผลิตงาน
ออกมารับกระแสหนัง โดยจะว่าเป็นเวอร์ชั่นต่อน่าจะถูก นอกจากยังคงมีนักแสดงคนเดิม ยังเพิ่มเติมมาอีก
3 นาง มารับบทตัวละครอื่นๆได้แก่ Tanaka Nene / Abeno Miku / Konno Hikaru
คราวนี้ต้องปะทะกับปีศาจในความฝัน...เปียกแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม
Nagisa Mitsuki จากการ์ตูนยอดฮิต ดาบพิฆาตอสูร สู่วงการ AV
https://www.cnxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=185528.0
13
CMX AV Recommend / จีบสาวข้างทาง รับหน้าร้อนปี 2020 มาเป็นเซท Part2
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 13:54:36 »จีบสาวข้างทาง รับหน้าร้อนปี 2020 มาเป็นเซท Part2
กระทู้ต่อเนื่องของซีรี่ย์สมัครเล่น แนวจีบสาวจะสระว่ายน้ำไปซั่ม ของปี 2020 ที่่ผลิตกันมา
ต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อนของปีแบบนี้ พบสาวๆสุดแจ่มในชุดว่ายน้ำในซีรี่ย์ "จีบสาวข้างทาง"
หลังจากไม่ได้อัพเดทมาพักใหญ่ๆกลับมาทีก็ลงกันต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ขาดตอน เพราะดีเค้าเยอะจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
กระทู้ต่อเนื่องของซีรี่ย์สมัครเล่น แนวจีบสาวจะสระว่ายน้ำไปซั่ม ของปี 2020 ที่่ผลิตกันมา
ต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อนของปีแบบนี้ พบสาวๆสุดแจ่มในชุดว่ายน้ำในซีรี่ย์ "จีบสาวข้างทาง"
หลังจากไม่ได้อัพเดทมาพักใหญ่ๆกลับมาทีก็ลงกันต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ขาดตอน เพราะดีเค้าเยอะจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
14
CMX AV Recommend / อัพเดทผลงานหิวน้ำของสามนักแสดงสุดแจ่ม
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 13:54:12 »อัพเดทผลงานหิวน้ำของสามนักแสดงสุดแจ่ม
พอดีเดือนนี้เห็นงานใหม่เป็นแนวราดหน้า คาปากใกล้เคียงกัน เลยขอรวบเป็นกระทู้เดียว ก็ไม่มากไม่น้อยกับ
3 นักแสดง มาเริ่มกันที่ผลงานของค่าย Moodyz กับนักแสดง Minami Hatsukawa เป็นพี่ใหญ่รุ่นปี 2014
ที่มาใช้ชิวหารีดน้ำด้วยลุคต่างๆ ไม่ว่าจะนางพยาบาล หรือ เจ้านายสาว จัดแบบ 3P จัดให้แบบรีดจนน้ำแห้ง
กันไปข้างเลยทีเดียว
ต่อกันด้วยผลงานที่ 3 ของสาวผมสั้น Takizawa Raira เป็นผลงานของค่าย SOD กับคำโปรยว่า
"มันช่วยไม่ได้ที่ฉันอยากจะดูด ค.." นั้นเพราะการหยุดหงานเพราะโควิดถึง 3 เดือน นั้นทำให้เธอ
โหวหาหำที่เธอชื่นชอบอย่างแรง เพราะฉะนั้นงานนี้เลยขอจัดรีดน้ำไป 15 ดุ้น จนน้ำนองหน้า
ปิดท้ายกระทู้นี้ด้วย Kashii Hananoki ของค่าย Premium โดยงานนี้ก็เป็นผลงานชิ้นที่ 3 ของเธอเช่นกัน
โดยทางค่ายนิยามว่าเป็นผลงานดูดน้ำที่เร้าอารมณ์ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวของเธอ (แน่สิเพิ่ง 3 เรื่อง) ผลงานนี้
เธอจะต้องใช้ปากเลียดูดของ "ที่ยาวกว่าหน้า" พร้อมชุดเร้าใจอย่าง นางกระต่าย หรือ กี่เพ้า ด้วยนะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
พอดีเดือนนี้เห็นงานใหม่เป็นแนวราดหน้า คาปากใกล้เคียงกัน เลยขอรวบเป็นกระทู้เดียว ก็ไม่มากไม่น้อยกับ
3 นักแสดง มาเริ่มกันที่ผลงานของค่าย Moodyz กับนักแสดง Minami Hatsukawa เป็นพี่ใหญ่รุ่นปี 2014
ที่มาใช้ชิวหารีดน้ำด้วยลุคต่างๆ ไม่ว่าจะนางพยาบาล หรือ เจ้านายสาว จัดแบบ 3P จัดให้แบบรีดจนน้ำแห้ง
กันไปข้างเลยทีเดียว
ต่อกันด้วยผลงานที่ 3 ของสาวผมสั้น Takizawa Raira เป็นผลงานของค่าย SOD กับคำโปรยว่า
"มันช่วยไม่ได้ที่ฉันอยากจะดูด ค.." นั้นเพราะการหยุดหงานเพราะโควิดถึง 3 เดือน นั้นทำให้เธอ
โหวหาหำที่เธอชื่นชอบอย่างแรง เพราะฉะนั้นงานนี้เลยขอจัดรีดน้ำไป 15 ดุ้น จนน้ำนองหน้า
ปิดท้ายกระทู้นี้ด้วย Kashii Hananoki ของค่าย Premium โดยงานนี้ก็เป็นผลงานชิ้นที่ 3 ของเธอเช่นกัน
โดยทางค่ายนิยามว่าเป็นผลงานดูดน้ำที่เร้าอารมณ์ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวของเธอ (แน่สิเพิ่ง 3 เรื่อง) ผลงานนี้
เธอจะต้องใช้ปากเลียดูดของ "ที่ยาวกว่าหน้า" พร้อมชุดเร้าใจอย่าง นางกระต่าย หรือ กี่เพ้า ด้วยนะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
15
CMX Sexy Story / Re: [เรื่องสั้นอีโรติก] ชีวิตบัดซบของหมอ
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 10:49:51 »แป้งเองก็แปลกไป ผมเลยขอลาหยุด 2 อาทิตย์ เพื่อไปจับผิดเมียให้ได้ผมไปเช่าหอพักรายวันที่ติดกับคอนโดนั้น
เพื่อเฝ้าสังเกตแป้งโดยห้องที่ผมเช่านั้นอยู่สูงกว่าคอนโดชั้นหนึ่ง ผมใช้กล้องส่องทางไกลมองเข้าไปเห็นห้องนอน
ฝั่งที่แป้งนอน ส่วนห้องน้ำนั้นมีแค่ห้องเดียว ต้องเดินผ่านห้องรับแขก ซึ่งผมเห็นได้ชัดเจนแต่ผมไม่เห็นประดูทางเข้า
นะครับและประตู
วันนี้วันจันทร์ แป้งไม่ออกไปไหน งั้นก็แสดงว่าแป้งไม่ได้ไปทำงานที่บอกว่าทำงานก็โกหกผม อย่างแรกและ แต่ที่ออกไปก็ออกไป
ซื้อกับข้าว กับของใช้เท่านั้นโดยเข็นเจ้าน้ำไปด้วย พอตกเย็นทั้งสองแม่ลูกกินข้าวกัน แล้วเจ้านิวก็ปิดม่านหน้าต่างทั้งหมด
พอตกดึกหน่อยผมเห็นคนเงาคน 2 คนในห้องแป้งเอนตัวลงนอนแล้วไฟก็ดับไป แต่ห้องนั้นไม่มีใครเข้าออก คงเป็นเจ้านิวที่นอนกับแม่
พอเช้าผมก็ตื่นประมาณตี 5 ทั้งสองยังไม่ตื่น ผมเลยไปหาไรมาไว้กินพอขึ้นมา 2 คนนั้นตื่นแล้ว แป้งใส่ชุดนอนบางมาก จนเห็นข้างใน
และด้านในก็ไม่ใส่ชั้นในเลยสักชิ้น ตัวเจ้านิวเองก็ใส่แต่บ๊อกเซอร์
คงรู้นะครับว่าใส่บ๊อกเซอร์คงไม่ใส่กางเกงในอยู่แล้ว ในหัวผมก็พุดขึ้นมาว่า มันเคยมีข่าวแม่อยู่กินกับลูกแบบผัวเมียขึ้นมาในหัว
ผมเลยหากล้องตัวเล็กหลายตัว มาติดตั้งในห้องนอนของแป้ง และทุกมุมของห้องตอนที่คู่กับไปอยู่ที่บ้าน โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลย
เพราะผมก็แกล้งไปทำงานปรกติ แต่ที่แปลกคือห้องเจ้านิวนั้นเรียบร้อยมาก เหมือนไม่มีคนมานอนเลยมีฝุ่นเกาะที่โต๊ะเขียนหนังสือ
และตู้เสื้อผ้าด้วยทั้งที่ไม่น่าจะมีเพราะจ้างแม่บ้านแล้ว พอทั้งสองกลับไปผมก็ตามไปในห้องที่ผมเช่าอยู่แล้วก็เริ่มเก็บภาพในห้อง
จากกล้องทุกตัวทั้งคู่พอเข้ามาในห้อง
ทั้งคู่ก็เริ่มจูบปากกันอยู่สักพัก แล้วก็พาเจ้าน้ำที่หลับมานอนในเปลที่อยู่ตรงห้องรับแขก อเข้ามาให้ห้องแล้วทั้งคู่ก็เข้าจูบกัน
แล้วเจ้านิวก็จับหน้าอกแป้ง แป้งเองก็กำท่อนของเจ้านิวรูดขึ้นลงเหมือนกัน ผมได้ยินเสียงชัดเจน เพราะกล้องที่มีไมค์นั้นอยู่ที่
หัวนอนของแป้ง พอทั้งคู่เริ่มถอดเสื้อผ้าออกก็โผเข้าหากันจูบปากกันอย่างรุนแรง และเร่าร้อนมาก ตัวผมเองแทบทนดูต่อไปไม่ได้
แต่ก็ตั้งใจดูให้ถึงที่สุดน้ำตาคลอ เจ้านิวก็นั่งลงขอบเตียง ผมเห็นท่อนเอ็นของเจ้านิวมันใหญ่กว่าของผม แล้วแป้งก็คุกเค่าลง
แล้วทำในสิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อ ว่าแป้งจะทำเธอก้มลง ใช้มือกำลูดอ้าปากอมท่อนเอ็นลูกชายแล้วรูดขึ้นลงสักพักแล้วเจ้านิวบอกกว่า
ให้หยุดก่อนเดียวมันเสร็จ แล้วมันก็จับแม่มันขึ้นมานอนบนเตียงแล้วแหกขาแม่มันออกแล้วซุกหน้าเข้าไปที่หว่างขาแม่ ซุกอยู่ซักพัก
หน้าแป้งเหยเก ซี๊ด ปากไม่หยุด แล้วก็บอกเจ้านิวว่าแป้ง
"นิวจ๋า เอาใส่เถอะ แป้งไม่ไว้แล้วคะที่รักนิว" "จะให้นิวเอาใส่แล้วหรอ นิวก็อยากใส่เต็มทีแล้วแม่ งั้นนิว…"
แป้งเอามือแตะปากนิวไว้แล้วบอกว่า "อย่าเรียกแม่สิจ๊ะที่รัก ก็บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่ไม่มีแม่จ๊ะมีแต่เมียนิว"
"จ๊ะเมียจ๋าผัว ใส่แล้วนะ"
แล้วเจ้านิวก็จับท่อนเอ็นของเจ้านิวจ่อที่รูสวาทของแม่ แล้วกดลงไปอย่างช้านิดหนึงแล้วกดพรวดลงไปที่เดียวหน้าของแป้งเหยเก
แล้วแป้ง คราง "อ๊า…" ออกมากดังมาก แล้วบอกเจ้านิวว่าให้เบาหน่อย แล้วเจ้านิวก็เริ่มโยกเข้าออกช้าๆแล้วก็แรงขึ้นๆทำอยู่อย่างนั้น
ซักแป๊บเจ้านิวก็หยุดซอย แต่กลับมากระแทกแรงมาก ป๊าบๆๆ แป้งเองได้แต่ครางอย่างเดียว แล้วเจ้านิวก็บอกแม่ว่า
"เมียจ๋า เมียขึ้นมาทำมั้งสิจ๊ะ" แล้วแป้งก็ลุกขึ้นมาควบเจ้านิวอย่างแรง ไม่คิดเลยว่าเธอจะร่านได้ขนาดนี้ เธอโยกอยู่อย่างนั้น
จนเธอเกร็งและกระตุก จากนั้นแป้งก็ฟุบลงบนอกเจ้านิว แล้วทั้งคู่ก็หยุดนิ่งกันได้สักนาทีมั้งครับ แล้วเจ้านิวก็ให้แป้งหันทางขา
ของเจ้านิวแล้วแป้งก็คลานแล้วเจ้านิวกระแทกทางด้านหลัง ภาพมุมนี้ผมเห็นท่อนเอ็นเจ้านิวเข้าออกชัดเจนมากจากกล้องหัวเตียง
เจ้านิวกระแทกแรงมากเสียงเนื้อกระแทกกัน ดัง ปั๊บๆๆ แข่งกับเสียงครวญครางของแป้ง "อ๊ะ อ๊ะ …" เป็นจังหวะตามที่เจ้านิวกระแทก
แล้วแป้งก็บอกให้เจ้านิวเร่งจังหวะ
“ผัวขา แรงเลย คะ เมียจะเสร็จอีกแล้ว”
แล้วแล้วเจ้านิวก็ใส่เต็มแรงแปบไม่ยั้ง แล้วเจ้านิวก็ซูดปากแล้วบอกแป้งว่า “ผัวก็จะเสร็จแล้วจะเมียจ๋า”
แล้วเจ้านิวก็เร่งอีกไม่นานก็ดึงออกมาเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปจนสุดลำแล้วกดแช่ไว้ พอเจ้านิวดึงออกมาเท่านั้นและน้ำอสุจิ
ของเจ้านิวไหลย้อนออกมาหยดลงบนที่นอน แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันผมเลยกดโทรศัพท์โทรหาแป้ง แป้งรับด้วยอาการหอบแต่
พยายามกลั้นไว้ ผมถามว่าไปทำอะไรมาถึงหอบ แป้งตอบว่าก็วิ่งมารับโทรศัพท์ไงไปห้องน้ำมา แล้วซักพักเจ้านิวก็จับแก้มแป้ง
ให้ไปดูดท่อนเอ็นของมัน แป้งก็ทำตามแล้วผมก็ถามว่ากินไรอยู่ เธอบอกว่า กินกล้วยอยู่ แต่ที่ผมเห็นคือเธอกำลังกินกล้วย
ของลูกชายเธอเองอย่างโหยหา แล้วผมก็ได้ยินเสียงเจ้าน้ำร้อง เธอเลยรีบวางเพื่อไปดูลูก พอวางแล้ว เจ้านิวก็บอกว่า
“เมียลูกเราตื่นแล้ว คงเป็นเพราะแผ่นดินไหวเมื่อกี้แน่เลย”
แป้งก็บอกว่า “คงงั้นแหละ เดียวก็พังหมดหรอกใช้ของไม่ถนอมเลยนะผัวคนนี้”
แล้วก็ออกไปใส่น้ำเข้ามาเปลี่ยนผ้าออม แล้วเจ้านิวก็พูดว่า “หรืออยากได้แบบผัวคนที่แล้วละ” นั้นมันหมายถึงผมนิ
แป้งตอบไปว่า “ไม่เอาหรอกพ่อของผัวเอาไม่มันควยก็เล็กกว่า”
พอเอาเจ้าน้ำนอนแล้วทั้งคู่ก็เข้าไปอาบน้ำด้วยกันอาบอยู่นานมากเกือบชั่วโมงแล้วออกมานอนหลับไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
หลังจากวันนั้นผมเสียใจมาก เครียดมากด้วย ผมทำใจอยู่หลายวัยจนในที่สุดแป้งก็กลับมาบ้าน ผมเลยชวนเธอเข้าห้อง
แล้วบอกเธอว่าเราเลิกเป็นคนรักกันเถอะ พอเธอได้ยินดังนั้นเธอโกรธแล้วก็ว่าผมแรงๆ ผมเลยบอกเธอว่าให้เธอหยุดฟัง
ผมพูดให้จบก่อน ผมก็พูดต่อว่า ให้เราเป็นสามีภรรยากันแค่ในนามก็พอ ที่ผมทำแบบนี้ก็เพื่อลูก ไม่ใช่เพื่อหลาน
พอเธอได้ยินก็สะดุดใบหน้าที่ดูดุดันกลับดูหวาดระแวงขึ้นหาทันที ผมจะมีคนอื่นนอกบ้านคุณก็ไม่มีสิทธิ์ว่าผม พอได้ยินแบบนั้น
เธอก็โกรธผมอีก แล้วผมก็วางแผ่น dvd ไว้แผ่นหนึ่งบนปกเขียนไว้ว่า แป้งให้นิวดูด้วยนะ แล้วผมก็ไล่เธอออกไปจากห้อง
พอเธอไปเปิดดูกับเจ้านิวแล้ว ดูกลัวผมมากไม่กล้าสบตา ได้แต่ร้องให้ และก็มลงกราบเท้าผมอย่างเดียว แป้งเธอก็ขอโทษผม
แต่ผมเจ็บช้ำมามาก ผมเลยบอกเธอว่าต่อไปก็หาเงินใช้เองนะ เรื่องเรียนของไอ้นิวผมจัดการเอง เงินให้เป็นเดือน เท่าที่จำเป็น
คอนโดเดียวผ่อนหมด ย้ายออกด้วยนะผมจะปล่อยเช่า
คือผมตั้งใจจะแบ่งสมบัติทั้งหมดกับเธอ ไม่ใหเฃ้สามารถใช้เงินผมได้อย่างเมื่อก่อน ที่ใช้สบายมือ งานก็ไม่มีแล้วไหนจะ
ค่านมเจ้าน้ำอีก ผมเลยบอกไอ้นิวว่า
"ถ้ามึงอยากได้อีนี่เป็นเมีย มึงก็เอาไป...กูยกให้!!! แต่มึงไม่ต้องมาเอาอะไรจากกูอีก กูจะไม่ให้มึงซักอย่าง
หาเงินเลี้ยงลูกเมียมึงให้พอนะ พอมึงเรียนจบ กูจะหย่ากับอีนี่ แล้วมึงจะไปตายที่ไหนก็ไป"
---------------------------- END ----------------------------
เพื่อเฝ้าสังเกตแป้งโดยห้องที่ผมเช่านั้นอยู่สูงกว่าคอนโดชั้นหนึ่ง ผมใช้กล้องส่องทางไกลมองเข้าไปเห็นห้องนอน
ฝั่งที่แป้งนอน ส่วนห้องน้ำนั้นมีแค่ห้องเดียว ต้องเดินผ่านห้องรับแขก ซึ่งผมเห็นได้ชัดเจนแต่ผมไม่เห็นประดูทางเข้า
นะครับและประตู
วันนี้วันจันทร์ แป้งไม่ออกไปไหน งั้นก็แสดงว่าแป้งไม่ได้ไปทำงานที่บอกว่าทำงานก็โกหกผม อย่างแรกและ แต่ที่ออกไปก็ออกไป
ซื้อกับข้าว กับของใช้เท่านั้นโดยเข็นเจ้าน้ำไปด้วย พอตกเย็นทั้งสองแม่ลูกกินข้าวกัน แล้วเจ้านิวก็ปิดม่านหน้าต่างทั้งหมด
พอตกดึกหน่อยผมเห็นคนเงาคน 2 คนในห้องแป้งเอนตัวลงนอนแล้วไฟก็ดับไป แต่ห้องนั้นไม่มีใครเข้าออก คงเป็นเจ้านิวที่นอนกับแม่
พอเช้าผมก็ตื่นประมาณตี 5 ทั้งสองยังไม่ตื่น ผมเลยไปหาไรมาไว้กินพอขึ้นมา 2 คนนั้นตื่นแล้ว แป้งใส่ชุดนอนบางมาก จนเห็นข้างใน
และด้านในก็ไม่ใส่ชั้นในเลยสักชิ้น ตัวเจ้านิวเองก็ใส่แต่บ๊อกเซอร์
คงรู้นะครับว่าใส่บ๊อกเซอร์คงไม่ใส่กางเกงในอยู่แล้ว ในหัวผมก็พุดขึ้นมาว่า มันเคยมีข่าวแม่อยู่กินกับลูกแบบผัวเมียขึ้นมาในหัว
ผมเลยหากล้องตัวเล็กหลายตัว มาติดตั้งในห้องนอนของแป้ง และทุกมุมของห้องตอนที่คู่กับไปอยู่ที่บ้าน โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลย
เพราะผมก็แกล้งไปทำงานปรกติ แต่ที่แปลกคือห้องเจ้านิวนั้นเรียบร้อยมาก เหมือนไม่มีคนมานอนเลยมีฝุ่นเกาะที่โต๊ะเขียนหนังสือ
และตู้เสื้อผ้าด้วยทั้งที่ไม่น่าจะมีเพราะจ้างแม่บ้านแล้ว พอทั้งสองกลับไปผมก็ตามไปในห้องที่ผมเช่าอยู่แล้วก็เริ่มเก็บภาพในห้อง
จากกล้องทุกตัวทั้งคู่พอเข้ามาในห้อง
ทั้งคู่ก็เริ่มจูบปากกันอยู่สักพัก แล้วก็พาเจ้าน้ำที่หลับมานอนในเปลที่อยู่ตรงห้องรับแขก อเข้ามาให้ห้องแล้วทั้งคู่ก็เข้าจูบกัน
แล้วเจ้านิวก็จับหน้าอกแป้ง แป้งเองก็กำท่อนของเจ้านิวรูดขึ้นลงเหมือนกัน ผมได้ยินเสียงชัดเจน เพราะกล้องที่มีไมค์นั้นอยู่ที่
หัวนอนของแป้ง พอทั้งคู่เริ่มถอดเสื้อผ้าออกก็โผเข้าหากันจูบปากกันอย่างรุนแรง และเร่าร้อนมาก ตัวผมเองแทบทนดูต่อไปไม่ได้
แต่ก็ตั้งใจดูให้ถึงที่สุดน้ำตาคลอ เจ้านิวก็นั่งลงขอบเตียง ผมเห็นท่อนเอ็นของเจ้านิวมันใหญ่กว่าของผม แล้วแป้งก็คุกเค่าลง
แล้วทำในสิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อ ว่าแป้งจะทำเธอก้มลง ใช้มือกำลูดอ้าปากอมท่อนเอ็นลูกชายแล้วรูดขึ้นลงสักพักแล้วเจ้านิวบอกกว่า
ให้หยุดก่อนเดียวมันเสร็จ แล้วมันก็จับแม่มันขึ้นมานอนบนเตียงแล้วแหกขาแม่มันออกแล้วซุกหน้าเข้าไปที่หว่างขาแม่ ซุกอยู่ซักพัก
หน้าแป้งเหยเก ซี๊ด ปากไม่หยุด แล้วก็บอกเจ้านิวว่าแป้ง
"นิวจ๋า เอาใส่เถอะ แป้งไม่ไว้แล้วคะที่รักนิว" "จะให้นิวเอาใส่แล้วหรอ นิวก็อยากใส่เต็มทีแล้วแม่ งั้นนิว…"
แป้งเอามือแตะปากนิวไว้แล้วบอกว่า "อย่าเรียกแม่สิจ๊ะที่รัก ก็บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่ไม่มีแม่จ๊ะมีแต่เมียนิว"
"จ๊ะเมียจ๋าผัว ใส่แล้วนะ"
แล้วเจ้านิวก็จับท่อนเอ็นของเจ้านิวจ่อที่รูสวาทของแม่ แล้วกดลงไปอย่างช้านิดหนึงแล้วกดพรวดลงไปที่เดียวหน้าของแป้งเหยเก
แล้วแป้ง คราง "อ๊า…" ออกมากดังมาก แล้วบอกเจ้านิวว่าให้เบาหน่อย แล้วเจ้านิวก็เริ่มโยกเข้าออกช้าๆแล้วก็แรงขึ้นๆทำอยู่อย่างนั้น
ซักแป๊บเจ้านิวก็หยุดซอย แต่กลับมากระแทกแรงมาก ป๊าบๆๆ แป้งเองได้แต่ครางอย่างเดียว แล้วเจ้านิวก็บอกแม่ว่า
"เมียจ๋า เมียขึ้นมาทำมั้งสิจ๊ะ" แล้วแป้งก็ลุกขึ้นมาควบเจ้านิวอย่างแรง ไม่คิดเลยว่าเธอจะร่านได้ขนาดนี้ เธอโยกอยู่อย่างนั้น
จนเธอเกร็งและกระตุก จากนั้นแป้งก็ฟุบลงบนอกเจ้านิว แล้วทั้งคู่ก็หยุดนิ่งกันได้สักนาทีมั้งครับ แล้วเจ้านิวก็ให้แป้งหันทางขา
ของเจ้านิวแล้วแป้งก็คลานแล้วเจ้านิวกระแทกทางด้านหลัง ภาพมุมนี้ผมเห็นท่อนเอ็นเจ้านิวเข้าออกชัดเจนมากจากกล้องหัวเตียง
เจ้านิวกระแทกแรงมากเสียงเนื้อกระแทกกัน ดัง ปั๊บๆๆ แข่งกับเสียงครวญครางของแป้ง "อ๊ะ อ๊ะ …" เป็นจังหวะตามที่เจ้านิวกระแทก
แล้วแป้งก็บอกให้เจ้านิวเร่งจังหวะ
“ผัวขา แรงเลย คะ เมียจะเสร็จอีกแล้ว”
แล้วแล้วเจ้านิวก็ใส่เต็มแรงแปบไม่ยั้ง แล้วเจ้านิวก็ซูดปากแล้วบอกแป้งว่า “ผัวก็จะเสร็จแล้วจะเมียจ๋า”
แล้วเจ้านิวก็เร่งอีกไม่นานก็ดึงออกมาเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปจนสุดลำแล้วกดแช่ไว้ พอเจ้านิวดึงออกมาเท่านั้นและน้ำอสุจิ
ของเจ้านิวไหลย้อนออกมาหยดลงบนที่นอน แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันผมเลยกดโทรศัพท์โทรหาแป้ง แป้งรับด้วยอาการหอบแต่
พยายามกลั้นไว้ ผมถามว่าไปทำอะไรมาถึงหอบ แป้งตอบว่าก็วิ่งมารับโทรศัพท์ไงไปห้องน้ำมา แล้วซักพักเจ้านิวก็จับแก้มแป้ง
ให้ไปดูดท่อนเอ็นของมัน แป้งก็ทำตามแล้วผมก็ถามว่ากินไรอยู่ เธอบอกว่า กินกล้วยอยู่ แต่ที่ผมเห็นคือเธอกำลังกินกล้วย
ของลูกชายเธอเองอย่างโหยหา แล้วผมก็ได้ยินเสียงเจ้าน้ำร้อง เธอเลยรีบวางเพื่อไปดูลูก พอวางแล้ว เจ้านิวก็บอกว่า
“เมียลูกเราตื่นแล้ว คงเป็นเพราะแผ่นดินไหวเมื่อกี้แน่เลย”
แป้งก็บอกว่า “คงงั้นแหละ เดียวก็พังหมดหรอกใช้ของไม่ถนอมเลยนะผัวคนนี้”
แล้วก็ออกไปใส่น้ำเข้ามาเปลี่ยนผ้าออม แล้วเจ้านิวก็พูดว่า “หรืออยากได้แบบผัวคนที่แล้วละ” นั้นมันหมายถึงผมนิ
แป้งตอบไปว่า “ไม่เอาหรอกพ่อของผัวเอาไม่มันควยก็เล็กกว่า”
พอเอาเจ้าน้ำนอนแล้วทั้งคู่ก็เข้าไปอาบน้ำด้วยกันอาบอยู่นานมากเกือบชั่วโมงแล้วออกมานอนหลับไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
หลังจากวันนั้นผมเสียใจมาก เครียดมากด้วย ผมทำใจอยู่หลายวัยจนในที่สุดแป้งก็กลับมาบ้าน ผมเลยชวนเธอเข้าห้อง
แล้วบอกเธอว่าเราเลิกเป็นคนรักกันเถอะ พอเธอได้ยินดังนั้นเธอโกรธแล้วก็ว่าผมแรงๆ ผมเลยบอกเธอว่าให้เธอหยุดฟัง
ผมพูดให้จบก่อน ผมก็พูดต่อว่า ให้เราเป็นสามีภรรยากันแค่ในนามก็พอ ที่ผมทำแบบนี้ก็เพื่อลูก ไม่ใช่เพื่อหลาน
พอเธอได้ยินก็สะดุดใบหน้าที่ดูดุดันกลับดูหวาดระแวงขึ้นหาทันที ผมจะมีคนอื่นนอกบ้านคุณก็ไม่มีสิทธิ์ว่าผม พอได้ยินแบบนั้น
เธอก็โกรธผมอีก แล้วผมก็วางแผ่น dvd ไว้แผ่นหนึ่งบนปกเขียนไว้ว่า แป้งให้นิวดูด้วยนะ แล้วผมก็ไล่เธอออกไปจากห้อง
พอเธอไปเปิดดูกับเจ้านิวแล้ว ดูกลัวผมมากไม่กล้าสบตา ได้แต่ร้องให้ และก็มลงกราบเท้าผมอย่างเดียว แป้งเธอก็ขอโทษผม
แต่ผมเจ็บช้ำมามาก ผมเลยบอกเธอว่าต่อไปก็หาเงินใช้เองนะ เรื่องเรียนของไอ้นิวผมจัดการเอง เงินให้เป็นเดือน เท่าที่จำเป็น
คอนโดเดียวผ่อนหมด ย้ายออกด้วยนะผมจะปล่อยเช่า
คือผมตั้งใจจะแบ่งสมบัติทั้งหมดกับเธอ ไม่ใหเฃ้สามารถใช้เงินผมได้อย่างเมื่อก่อน ที่ใช้สบายมือ งานก็ไม่มีแล้วไหนจะ
ค่านมเจ้าน้ำอีก ผมเลยบอกไอ้นิวว่า
"ถ้ามึงอยากได้อีนี่เป็นเมีย มึงก็เอาไป...กูยกให้!!! แต่มึงไม่ต้องมาเอาอะไรจากกูอีก กูจะไม่ให้มึงซักอย่าง
หาเงินเลี้ยงลูกเมียมึงให้พอนะ พอมึงเรียนจบ กูจะหย่ากับอีนี่ แล้วมึงจะไปตายที่ไหนก็ไป"
---------------------------- END ----------------------------
16
CMX Sexy Story / [เรื่องสั้นอีโรติก] ชีวิตบัดซบของหมอ
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 10:49:36 »[เรื่องสั้นอีโรติก] ชีวิตบัดซบของหมอ
เริ่มเรื่องและประสบการณ์ชีวิตของผมเลยนะครับ ผมชื่อ "กิต" ครับผมเองก็มีภรรยาแล้วนะครับภรรยาของผม
ชื่อ "แป้ง" ครับเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยอะไรมากมายครับแต่รูปร่างดีนะครับ และ ขาวเพราะมีเชื้อจีน
ผมคบกับแป้งมาตั้งแต่ผมเรียนตอนผมอยู่ปี 2 ครับเธอก็อายุเท่าผมแหละครับเรียนที่เดียวกัน แต่คนละคณะ
ผมเรียนแพทย์ เธอเรียนจิตวิทยา
เรามีอะไรกันมาตั้งแต่เรียนแล้วละครับ แล้วผมก็ไม่ได้หลบซ่อนอะไรครอบครัวเราก็รับรู้ด้วยกันทั้ง2ฝ่าย และบ้านเรา
ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันด้วย พอผมเรียนจบ (ผมเรียนมากเธออยู่ปีหนึง) ได้เข้าเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นผมก็อายุ 23 ย่างเข้า 24 แล้วครับ ผมเลยขอเธอแต่งงาน แล้วผมก็ย้ายมาอยู่บ้านเดี่ยวที่พ่อกับแม่ซื้อไว้
เพื่อให้เป็นเรือนหอ ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ผมแหละครับ เราก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนผมมีลูกชาย
ประมาณว่าแต่งแล้วมีลูกเลย เพราะพ่อแม่อยากอุ้มหลานเร็วๆ ผมกับเธอร่วมกันตั้งชื่อว่า นิว
พ่อกับแม่ผมดีใจมากเลยครับ ตายายเข้าก็ดีใจมากเลยครับ แย่งกันเลี้ยงจนเหมือนไม่ใช่ลูกผมเลย แต่ก็ดีครับ
เพราะแป้งกับผมก็ต้องทำงานทั้งคู่ ผมเองบางทีก็ต้องเข้าเวรบ้านช่องไม่ค่อยได้กลับ ส่วนแป้งก็ทำงานเป็น
นักจิตวิทยาสังคมอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่พอทำไปได้ 15 ปี ก็ต้องออกมาอยู่กับบ้านเพราะบริษัทล้มละลาย
อายุก็ 38 ปีแล้ว ผมเลยให้เธออยู่กับบ้านเฉยๆ พอเจ้านิวจบ ม.3 ผมเลยจะให้ลูกไปเรียนโรงเรียนที่ไกลบ้าน
เพราะเจ้านิวดันสอบได้ ตอนแรกผมกับแป้งก็คุยกันอยู่ว่าจะเอายังไงดี ถามลูกลูกก็บอกว่ายังไงก็ได้เพราะมี
เพื่อนสอบได้และไปกันหลายคน ปู่ย่าตายายเจ้านิวไม่อยากให้ไปเพราะคิดถึงหลาน แต่เจ้านิวมันรบเร้า
อยากไปให้ได้ มารู้ที่หลังว่าที่สอบก็เพราะสอบตามแฟน แฟนไปก็เลยอยากตามไป
ที่ไม่บอกเพราะแป้งมาบอกผม เจ้านิว ไม่ค่อยสนิทกับผมนักหรอก เพราะผมไม่ค่อยอยู่บ้าน สนิทกับแม่เค้ามากกว่า
มีอะไรก็คุยกับแม่ แป้งก็เรียนจิตวิทยามาด้วยเลยให้คำปรึกษาและเค้าใจลูกมากกว่าผมที่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร
แล้วปัญหาก็เกิด...คือเจ้านิวจะต้องไปอยู่หอ แล้วลูกผมก็คนเดียวผมเลยผ่อนคอนโดที่ใกล้โรงเรียนให้เลย
เพราะผมคิดว่าต้องไปอยู่อีกหลายปี
พอลูกไปเรียนแล้วซักพัก แป้งเริ่มบ่นกับผมว่าเหงา เพราะเธอไม่ได้ทำอะไร ผมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านกลับก็ดึก
เธอเลยขอไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้านิว แล้วเสาร์-อาทิตย์ ก็ค่อยกลับมาบ้านพร้อมลูก แล้วบอกว่าถ้าผมเลิกงานเร็ว
ก็ให้ไปหาได้เพราะยังไงก็มีห้องนอน 2 ห้องอยู่แล้ว ผมเลยตกลงแล้วเธอก็โทรไปหาเจ้านิว เจ้านิวก็บอกยังไงก็ได้
ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเก็บห้องเอง แล้วเธอก็ไป
ปีแรกก็ไม่มีอะไรจนเข้าปีที่ 2 วันหนึงเธอกลับบ้านมาวันเสาร์ เจ้านิวเอาแต่อยู่ในห้อง ผมเลยถามเธอว่า เจ้านิวเป็นอะไร
เธอบอกว่าเจ้านิวถูกหักอกเสียใจอยู่ ผมเลยบอกเธอว่าให้ดูลูกดีนะเดียว ออกนอกลู่นอกทาง ไปแย่เลยเรามีลูกคนเดียว
คืนนั้นว่าจะมีอะไรกับเธอซักหน่อย หมดอารมณ์เลย พอวันอาทิตย์ไปลา ปู่ย่าตายายแล้ว แฟนผมก็ขับรถพาลูกกลับไป
พอได้ผ่านได้สัปดาห์หนึง แฟนผมก็พากันกลับมาบ้าน ลูกผมผิดไปจากเดิมเลยคือเค้า ร่าเริง สดใส แล้วครอเคลีย
อยู่กับแม่เค้าตลอดพอผมถามเค้า เค้าก็บอกว่าทำใจได้แล้ว แป้งก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน ผมเห็นครอบครัวมีความสุข
ผมก็สบายใจ
พอตกดึกหน่อยทุกคนในบ้านเข้านอน แป้งก็สะกิดผม ตัวผมเองก็เอาแต่ทำงานไม่ได้ทำการบ้านกับแป้งเลย ผมเองก็มีอารมณ์
เธอเองถึงจะ 38 แล้ว แต่ดูแลตัวเองดีสุขภาพดีออกกำลังกาย และก็ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เมียผมวันนี้ช่างสวยเหลือเกิน
ผมเริ่มหอมแก้มเธอ พรมจูบไปทั่วตัวของเธอ แล้วก็บดริมฝีปากไปที่ปากของเธอสอดลิ้นเข้าไปเธอก็ตอบรับมาอย่างเร่าร้อน
ขณะเดียวกันผมก็เอื้อมมือไปที่เนินสวาทของแป้งแล้วใช้นิ้วกับเนินสวาทแป้งจนแป้งเองบอกว่าพอก่อนเดียวเสร็จ ผมถอด
ชุดนอนของแป้งออก เป็นชุดแซกแบบสายเดี่ยวยาวแค่หัวเข่าเป็นแบบที่ผมชอบเลย เธอไม่ได้ใส่ชั้นใน ผมเองก็ถอดชุดนอน
ของผม แล้วผมก็เริ่มผมให้เธอนอนหงายอยู่ในท่าเบสิก ชั้นเข่า แยกขาออก
เรามีอะไรกับแบบนี้มาตั้งแต่คบกันท่าเบสิกตลอด ผมจะถามเธอทุกครั้งว่าพร้อมไหม เมื่อเธอบอกว่าพร้อม ผมก็หยิบถุงยาง
ออกมาใส่แต่แป้งบอกว่าช่วงปลอดภัยไม่ต้องใช้ก็ได้ ผมก็ไม่อยากใช้หรอกแต่แป้งยังท้องได้อยู่ไม่อยากมีลูกตอนแก่
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมก็เริ่มเจ้าท่อนเอ็นของผมที่แข็ง และกลัดมันเต็มที่จ่อไปที่ปากรูสวาทของแป้งแล้วค่อยๆ กดลงไปช้า
ผมถนอมเธอทุกครั้งที่มีอะไรกับเธอ แล้วผมก็เริ่มขยับอย่างช้าก่อน ได้ยินเสียงแป้งคราง ในลำคอ
ผมก็เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นๆ แป้งเองครางออกมาเสียงดัง "อ๊า…….. ซี๊ดดด……" แล้วแป้งก็บอกว่า "แรงอีก…แรงอีก…"
ผมเองก็เลยมีแรงเท่าไรใส่ไปหมดเลย พอผมใกล้จะเสร็จผมบอกเธอว่า "แม่ พ่อใกล้จะเสร็จแล้วนะ ซี๊ดดด…"
แป้งบอกผมว่า
" แม่ก็ใกล้แล้ว แรงๆเลย อ๊า ….. ใกล้แล้วเร็วอีก…..ซี๊ดดดดด จะเสร็จแล้ว …… อ๊า..อ๊า…อ๊า… เสร็จแล้วววว อ๊า…………"
แป้งกับผมถึงสวรรค์พร้อมกัน ผมหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปในเนินสวาทของแป้งอย่างเต็มที่ จนผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว แล้วผมก็ฟุ๊บหลับไป
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ผมรู้สึกสบายตัวอย่างมาก แต่แป้งตื่นก่อนแล้วลุกออกไปแล้ว แต่ผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมเมื่อคืน
เธอถึงร้อนแรงจัง ทั้งที่เมื่อก่อนเธอ แค่มีเสียงครางเบาๆ เท่านั้น ไม่ว่าผมจาทำแรงแค่ไหน แล้วผมก็เลิกคิดแลวะคิดว่าคงเพราะผม
ไม่ได้ทำการบ้านนานนั้นแหละ และผมก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะมีคนไข้ ผมเลยต้องไปทำงานพอทำกิจส่วนตัวเสร็จก็ลงไป
แป้งบอก "ทานอาหารเช้าก่อนนะคะ" ผมก็เลยทานอาหารเช้าแล้วถามแป้งว่า จะไปกี่โมง แป้งบอกว่าประมาณบ่าย 2 บ่าย 3
ผมเลยบอกว่า ทำไมไปเร็วจัง แป้งบอกว่าเบื่อรถติด ผมก็เลยอืมๆ แป้งก็ถามว่าผมต้องกลับกี่โมง ผมบอกว่าประมาณ 6 โมงเย็น
กว่าจะถึงคงเกือบทุ่ม แป้งเลยบอกว่าดูแลตัวเองนะ พอผมทานเสร็จผมก็หอมแก็วแป้งแล้วออกไปทำงาน
หลังจากนั้นแป้งกับลูก ก็ไม่ค่อยกลับมาที่บ้านในวันสุดสัปดาห์เหมือนเมื่อก่อน แป้งให้เหตุผลว่าได้งานเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียน
ที่เจ้านิวเรียนอยู่ เพราะเคยไปโรงเรียนเจ้านิวแล้ว ผอ.โรงเรียนเจ้านิวเคยไปรักษาโรคเครียดกับแป้ง เค้าเห็นแป้งอยู่เฉยๆเลยให้
ไปเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียน วันหยุดเลยไม่ค่อยว่าง ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร แล้วอยู่มาวันหนึงแป้งโทรมาบอกผมว่าแป้งท้อง
ท้องได้เดือนกว่าแล้ว ผมเองก็งง แต่ก็ดีใจ แป้งบอกว่าวันนั้นนับวันผิด ผมเลยบอกแป้งว่างั้นก็กลับมาที่บ้าน เดียวผมจ้างแม่บ้าน
ทำความสะอาดห้องให้เจ้านิวเอง แล้วเดียวผมจะเป็นคนแวะไปดูลูกเอง เธอบอกว่าไม่เป็นไร เจ้านิวดูแลเธอเป็นอย่างดีพึงพาได้
เธอพูดด้วยความรู้สึกมีความสุข ผมเลยขอสายคุยกับลูก แล้วสั่งให้ดูแลแม่ดีๆๆ นิวก็รับคำ
ผมเองก็แวะไปหาบ่อยครั้งมากขึ้น เพื่อเอายาบำรุงครรภ์ไปให้และจ้างแม่บ้านทำความสะอาด พอเธอตั้งท้องได้ 7เดือน ผมก็ให้
เธอกลับมาอยู่บ้านเพราะใกล้โรงบาลมากว่า และผมก็ดูแลได้ดีกว่าเจ้านิว ในวันที่คลอดเด็กออกมาเป็นเด็กผู้ชายแข็งแรง พร้อมกับ
ทำหมันเลย พอแป้งออกจากโรงบาล แล้วก็มาพักกับผมอยู่ประมาณ 3 เดือน เจ้านิวก็ปิดเทอมกลับมาอยู่บ้าน 2 เดือน
เจ้านิวก็เลยตั้งชื่อน้องว่า "น้ำ" ทั้งสองคนช่วยกันเลี้ยงน้องจนใกล้เปิดเทอม ทางโรงพยาบาลที่ผมสังกัดนั้นให้บุคลากรในโรงพยาบาล
ตรวจสุขภาพผมคือผมมีเชื้อน้อย ผมก็งงเลยแต่ความเป็นไปได้ที่จะท้องก็มีแต่ไง จากประสบการณ์ทำให้ผมเกิดความไม่ไว้ใจแป้ง
ผมแอบเจาะเลือดมาตรวจ ผมเองต้องชะงักเมื่อเกิดเรื่องผิดปรกติกับเลือดของลูกผม ลูกผมคนที่2ออกมาเป็นผู้ชาย เลือดกรู๊ป B
ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะ พ่อกับแม่ผมเลือดกรู๊ป AB ทั้งคู่ ตัวผมเองเลือดกรุ๊ป A แป้งกรุ๊ป AB คือตามหลักการแพทย์ลูกผม
กับแป้งนั้นจะไม่สามารถเกิดลูกกรุ๊ป B ได้ ลูกผมมีกรุ๊ปเลือได้แค่ A กับ AB เท่านั้น เพราะเจ้านิวก็กรุ๊ป AB
"น้ำไม่ใช่ลูกผมแน่นอน"
เริ่มเรื่องและประสบการณ์ชีวิตของผมเลยนะครับ ผมชื่อ "กิต" ครับผมเองก็มีภรรยาแล้วนะครับภรรยาของผม
ชื่อ "แป้ง" ครับเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยอะไรมากมายครับแต่รูปร่างดีนะครับ และ ขาวเพราะมีเชื้อจีน
ผมคบกับแป้งมาตั้งแต่ผมเรียนตอนผมอยู่ปี 2 ครับเธอก็อายุเท่าผมแหละครับเรียนที่เดียวกัน แต่คนละคณะ
ผมเรียนแพทย์ เธอเรียนจิตวิทยา
เรามีอะไรกันมาตั้งแต่เรียนแล้วละครับ แล้วผมก็ไม่ได้หลบซ่อนอะไรครอบครัวเราก็รับรู้ด้วยกันทั้ง2ฝ่าย และบ้านเรา
ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันด้วย พอผมเรียนจบ (ผมเรียนมากเธออยู่ปีหนึง) ได้เข้าเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นผมก็อายุ 23 ย่างเข้า 24 แล้วครับ ผมเลยขอเธอแต่งงาน แล้วผมก็ย้ายมาอยู่บ้านเดี่ยวที่พ่อกับแม่ซื้อไว้
เพื่อให้เป็นเรือนหอ ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ผมแหละครับ เราก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนผมมีลูกชาย
ประมาณว่าแต่งแล้วมีลูกเลย เพราะพ่อแม่อยากอุ้มหลานเร็วๆ ผมกับเธอร่วมกันตั้งชื่อว่า นิว
พ่อกับแม่ผมดีใจมากเลยครับ ตายายเข้าก็ดีใจมากเลยครับ แย่งกันเลี้ยงจนเหมือนไม่ใช่ลูกผมเลย แต่ก็ดีครับ
เพราะแป้งกับผมก็ต้องทำงานทั้งคู่ ผมเองบางทีก็ต้องเข้าเวรบ้านช่องไม่ค่อยได้กลับ ส่วนแป้งก็ทำงานเป็น
นักจิตวิทยาสังคมอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่พอทำไปได้ 15 ปี ก็ต้องออกมาอยู่กับบ้านเพราะบริษัทล้มละลาย
อายุก็ 38 ปีแล้ว ผมเลยให้เธออยู่กับบ้านเฉยๆ พอเจ้านิวจบ ม.3 ผมเลยจะให้ลูกไปเรียนโรงเรียนที่ไกลบ้าน
เพราะเจ้านิวดันสอบได้ ตอนแรกผมกับแป้งก็คุยกันอยู่ว่าจะเอายังไงดี ถามลูกลูกก็บอกว่ายังไงก็ได้เพราะมี
เพื่อนสอบได้และไปกันหลายคน ปู่ย่าตายายเจ้านิวไม่อยากให้ไปเพราะคิดถึงหลาน แต่เจ้านิวมันรบเร้า
อยากไปให้ได้ มารู้ที่หลังว่าที่สอบก็เพราะสอบตามแฟน แฟนไปก็เลยอยากตามไป
ที่ไม่บอกเพราะแป้งมาบอกผม เจ้านิว ไม่ค่อยสนิทกับผมนักหรอก เพราะผมไม่ค่อยอยู่บ้าน สนิทกับแม่เค้ามากกว่า
มีอะไรก็คุยกับแม่ แป้งก็เรียนจิตวิทยามาด้วยเลยให้คำปรึกษาและเค้าใจลูกมากกว่าผมที่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร
แล้วปัญหาก็เกิด...คือเจ้านิวจะต้องไปอยู่หอ แล้วลูกผมก็คนเดียวผมเลยผ่อนคอนโดที่ใกล้โรงเรียนให้เลย
เพราะผมคิดว่าต้องไปอยู่อีกหลายปี
พอลูกไปเรียนแล้วซักพัก แป้งเริ่มบ่นกับผมว่าเหงา เพราะเธอไม่ได้ทำอะไร ผมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านกลับก็ดึก
เธอเลยขอไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้านิว แล้วเสาร์-อาทิตย์ ก็ค่อยกลับมาบ้านพร้อมลูก แล้วบอกว่าถ้าผมเลิกงานเร็ว
ก็ให้ไปหาได้เพราะยังไงก็มีห้องนอน 2 ห้องอยู่แล้ว ผมเลยตกลงแล้วเธอก็โทรไปหาเจ้านิว เจ้านิวก็บอกยังไงก็ได้
ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเก็บห้องเอง แล้วเธอก็ไป
ปีแรกก็ไม่มีอะไรจนเข้าปีที่ 2 วันหนึงเธอกลับบ้านมาวันเสาร์ เจ้านิวเอาแต่อยู่ในห้อง ผมเลยถามเธอว่า เจ้านิวเป็นอะไร
เธอบอกว่าเจ้านิวถูกหักอกเสียใจอยู่ ผมเลยบอกเธอว่าให้ดูลูกดีนะเดียว ออกนอกลู่นอกทาง ไปแย่เลยเรามีลูกคนเดียว
คืนนั้นว่าจะมีอะไรกับเธอซักหน่อย หมดอารมณ์เลย พอวันอาทิตย์ไปลา ปู่ย่าตายายแล้ว แฟนผมก็ขับรถพาลูกกลับไป
พอได้ผ่านได้สัปดาห์หนึง แฟนผมก็พากันกลับมาบ้าน ลูกผมผิดไปจากเดิมเลยคือเค้า ร่าเริง สดใส แล้วครอเคลีย
อยู่กับแม่เค้าตลอดพอผมถามเค้า เค้าก็บอกว่าทำใจได้แล้ว แป้งก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน ผมเห็นครอบครัวมีความสุข
ผมก็สบายใจ
พอตกดึกหน่อยทุกคนในบ้านเข้านอน แป้งก็สะกิดผม ตัวผมเองก็เอาแต่ทำงานไม่ได้ทำการบ้านกับแป้งเลย ผมเองก็มีอารมณ์
เธอเองถึงจะ 38 แล้ว แต่ดูแลตัวเองดีสุขภาพดีออกกำลังกาย และก็ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เมียผมวันนี้ช่างสวยเหลือเกิน
ผมเริ่มหอมแก้มเธอ พรมจูบไปทั่วตัวของเธอ แล้วก็บดริมฝีปากไปที่ปากของเธอสอดลิ้นเข้าไปเธอก็ตอบรับมาอย่างเร่าร้อน
ขณะเดียวกันผมก็เอื้อมมือไปที่เนินสวาทของแป้งแล้วใช้นิ้วกับเนินสวาทแป้งจนแป้งเองบอกว่าพอก่อนเดียวเสร็จ ผมถอด
ชุดนอนของแป้งออก เป็นชุดแซกแบบสายเดี่ยวยาวแค่หัวเข่าเป็นแบบที่ผมชอบเลย เธอไม่ได้ใส่ชั้นใน ผมเองก็ถอดชุดนอน
ของผม แล้วผมก็เริ่มผมให้เธอนอนหงายอยู่ในท่าเบสิก ชั้นเข่า แยกขาออก
เรามีอะไรกับแบบนี้มาตั้งแต่คบกันท่าเบสิกตลอด ผมจะถามเธอทุกครั้งว่าพร้อมไหม เมื่อเธอบอกว่าพร้อม ผมก็หยิบถุงยาง
ออกมาใส่แต่แป้งบอกว่าช่วงปลอดภัยไม่ต้องใช้ก็ได้ ผมก็ไม่อยากใช้หรอกแต่แป้งยังท้องได้อยู่ไม่อยากมีลูกตอนแก่
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมก็เริ่มเจ้าท่อนเอ็นของผมที่แข็ง และกลัดมันเต็มที่จ่อไปที่ปากรูสวาทของแป้งแล้วค่อยๆ กดลงไปช้า
ผมถนอมเธอทุกครั้งที่มีอะไรกับเธอ แล้วผมก็เริ่มขยับอย่างช้าก่อน ได้ยินเสียงแป้งคราง ในลำคอ
ผมก็เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นๆ แป้งเองครางออกมาเสียงดัง "อ๊า…….. ซี๊ดดด……" แล้วแป้งก็บอกว่า "แรงอีก…แรงอีก…"
ผมเองก็เลยมีแรงเท่าไรใส่ไปหมดเลย พอผมใกล้จะเสร็จผมบอกเธอว่า "แม่ พ่อใกล้จะเสร็จแล้วนะ ซี๊ดดด…"
แป้งบอกผมว่า
" แม่ก็ใกล้แล้ว แรงๆเลย อ๊า ….. ใกล้แล้วเร็วอีก…..ซี๊ดดดดด จะเสร็จแล้ว …… อ๊า..อ๊า…อ๊า… เสร็จแล้วววว อ๊า…………"
แป้งกับผมถึงสวรรค์พร้อมกัน ผมหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปในเนินสวาทของแป้งอย่างเต็มที่ จนผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว แล้วผมก็ฟุ๊บหลับไป
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ผมรู้สึกสบายตัวอย่างมาก แต่แป้งตื่นก่อนแล้วลุกออกไปแล้ว แต่ผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมเมื่อคืน
เธอถึงร้อนแรงจัง ทั้งที่เมื่อก่อนเธอ แค่มีเสียงครางเบาๆ เท่านั้น ไม่ว่าผมจาทำแรงแค่ไหน แล้วผมก็เลิกคิดแลวะคิดว่าคงเพราะผม
ไม่ได้ทำการบ้านนานนั้นแหละ และผมก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะมีคนไข้ ผมเลยต้องไปทำงานพอทำกิจส่วนตัวเสร็จก็ลงไป
แป้งบอก "ทานอาหารเช้าก่อนนะคะ" ผมก็เลยทานอาหารเช้าแล้วถามแป้งว่า จะไปกี่โมง แป้งบอกว่าประมาณบ่าย 2 บ่าย 3
ผมเลยบอกว่า ทำไมไปเร็วจัง แป้งบอกว่าเบื่อรถติด ผมก็เลยอืมๆ แป้งก็ถามว่าผมต้องกลับกี่โมง ผมบอกว่าประมาณ 6 โมงเย็น
กว่าจะถึงคงเกือบทุ่ม แป้งเลยบอกว่าดูแลตัวเองนะ พอผมทานเสร็จผมก็หอมแก็วแป้งแล้วออกไปทำงาน
หลังจากนั้นแป้งกับลูก ก็ไม่ค่อยกลับมาที่บ้านในวันสุดสัปดาห์เหมือนเมื่อก่อน แป้งให้เหตุผลว่าได้งานเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียน
ที่เจ้านิวเรียนอยู่ เพราะเคยไปโรงเรียนเจ้านิวแล้ว ผอ.โรงเรียนเจ้านิวเคยไปรักษาโรคเครียดกับแป้ง เค้าเห็นแป้งอยู่เฉยๆเลยให้
ไปเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียน วันหยุดเลยไม่ค่อยว่าง ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร แล้วอยู่มาวันหนึงแป้งโทรมาบอกผมว่าแป้งท้อง
ท้องได้เดือนกว่าแล้ว ผมเองก็งง แต่ก็ดีใจ แป้งบอกว่าวันนั้นนับวันผิด ผมเลยบอกแป้งว่างั้นก็กลับมาที่บ้าน เดียวผมจ้างแม่บ้าน
ทำความสะอาดห้องให้เจ้านิวเอง แล้วเดียวผมจะเป็นคนแวะไปดูลูกเอง เธอบอกว่าไม่เป็นไร เจ้านิวดูแลเธอเป็นอย่างดีพึงพาได้
เธอพูดด้วยความรู้สึกมีความสุข ผมเลยขอสายคุยกับลูก แล้วสั่งให้ดูแลแม่ดีๆๆ นิวก็รับคำ
ผมเองก็แวะไปหาบ่อยครั้งมากขึ้น เพื่อเอายาบำรุงครรภ์ไปให้และจ้างแม่บ้านทำความสะอาด พอเธอตั้งท้องได้ 7เดือน ผมก็ให้
เธอกลับมาอยู่บ้านเพราะใกล้โรงบาลมากว่า และผมก็ดูแลได้ดีกว่าเจ้านิว ในวันที่คลอดเด็กออกมาเป็นเด็กผู้ชายแข็งแรง พร้อมกับ
ทำหมันเลย พอแป้งออกจากโรงบาล แล้วก็มาพักกับผมอยู่ประมาณ 3 เดือน เจ้านิวก็ปิดเทอมกลับมาอยู่บ้าน 2 เดือน
เจ้านิวก็เลยตั้งชื่อน้องว่า "น้ำ" ทั้งสองคนช่วยกันเลี้ยงน้องจนใกล้เปิดเทอม ทางโรงพยาบาลที่ผมสังกัดนั้นให้บุคลากรในโรงพยาบาล
ตรวจสุขภาพผมคือผมมีเชื้อน้อย ผมก็งงเลยแต่ความเป็นไปได้ที่จะท้องก็มีแต่ไง จากประสบการณ์ทำให้ผมเกิดความไม่ไว้ใจแป้ง
ผมแอบเจาะเลือดมาตรวจ ผมเองต้องชะงักเมื่อเกิดเรื่องผิดปรกติกับเลือดของลูกผม ลูกผมคนที่2ออกมาเป็นผู้ชาย เลือดกรู๊ป B
ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะ พ่อกับแม่ผมเลือดกรู๊ป AB ทั้งคู่ ตัวผมเองเลือดกรุ๊ป A แป้งกรุ๊ป AB คือตามหลักการแพทย์ลูกผม
กับแป้งนั้นจะไม่สามารถเกิดลูกกรุ๊ป B ได้ ลูกผมมีกรุ๊ปเลือได้แค่ A กับ AB เท่านั้น เพราะเจ้านิวก็กรุ๊ป AB
"น้ำไม่ใช่ลูกผมแน่นอน"
17
CMX Sexy Story / Re: [เรื่องสั้นอีโรติก] พ่อตาของฉัน เอามันส์มาก
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 10:45:51 »
และวันหนึ่ง… วันนั้นแฟนเมย์เข้ากรุงเทพฯ มาแล้ว 4 วัน เพื่อรอลงสินค้า เขายังไม่ได้กลับค่ะ เพราะต้องรอบรรทุกสินค้า
จากกรุงเทพฯ ขึ้นมาขายที่แถวจังหวัดบ้านเขาด้วย เลยต้องใช้เวลารอสินค้าอีก 1 วัน วันนั้นตอนกลางวัน แม่แฟนเมย์
เข้าไปในตัวเมืองนิดอยู่หน้าร้าน ลูกค้ามีมากเป็นพิเศษ พ่อแฟนเมย์โทรศัพท์เข้ามาให้นิดเอาเอกสารไปให้พ่อที่โรงงาน
เมย์เป็นคนรับสาย เมย์ก็บอกพ่อว่านิดกำลังมีลูกค้ามาก หากพ่อต้องการเอกสารด่วน เมย์จะเป็นคนเอาไปให้เอง ตกลง
เมย์เป็นคนเอาเอกสารที่พ่อต้องการไปให้พ่อแฟนเมย์ที่โรงงาน
ออฟฟิศด้านหน้ามีพนักงานทำงานหลายคนค่ะ แต่ในห้องด้านในพ่อแฟนเมย์อยู่คนเดียวในห้อง เมย์เป็นลูกสะใภ้
จึงเข้าไปได้โดยไม่ต้องขอใคร
" ไอ้เชียรมันไม่อยู่ เหงาก็ไปเที่ยวบ้างก็ได้นะลูก ให้เด็กมันขับรถพาไป อยากไปไหนก็บอกมันได้…"
เมย์ยิ้มคล้ายขอบคุณในความห่วงใยของพ่อแฟนเมย์ "ยิ้มทำไมล่ะ หรือไม่มีเงินก็บอกพ่อได้นะ…"
" เงินเมย์มีใช้ค่ะ…" " ทำไมทำหน้าเศร้าๆ ล่ะลูก ทะเลาะกับไอ้เชียรมันหรือเปล่า…"
"เปล่าค่ะ…" "งั้นรีบมีลูกชายให้พ่อเร็วๆ สิ…พ่ออยากได้หลานชาย…"
" พี่เชียรเขาไม่ค่อยสนใจเมย์เหมือนพ่อเลยค่ะ วันๆ ก็ไม่ค่อยอยู่ ไม่รู้มีเมียน้อยที่กรุงเทพฯ หรือเปล่า…"
"ไม่หรอกลูก ไอ้เชียรมันไม่เจ้าชู้หรอก เชื่อพ่อสิ ลูกก็สวยเซ็กซี่แบบนี้ ไอ้เชียรมันหลงลูกจะตาย พ่อรู้…"
"ไม่จริงหรอกค่ะ และเมย์ก็คงสวยสู้นิดไม่ได้…" "ได้สิลูก แล้วลูกทำไมเอาตัวเองไปเปรียบกับนิดเขาล่ะ…"
"ก็เห็นพ่อสนใจแต่นิดคนเดียวนี่คะ…"
"ก็นิดเขาไม่มีใคร พ่อก็เลยสงสารเค้า…ทำไมลูกถามอย่างนี้ล่ะ?…"
"ไม่รู้สิคะ ก็เมย์ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนิด…"
"อุ๊ย…ลูก ลูกได้ยินงั้นเหรอ งั้นลูกก็รู้สิ…"
"รู้สิคะ ก็ห้องเมย์ติดกับห้องนิดเค้า…"
"แล้วลูกบอกใครหรือเปล่า…" พ่อพูดพร้อมกับเดินมาหาเมย์ที่โซฟา "เปล่าค่ะ…"
"พ่ออยากให้นิดเค้าอยู่กับเรานานๆ พ่อก็เลยช่วยเค้า เค้าไม่มีใครนี่ลูก ไม่เหมือนลูก มีไอ้เชียรมันอยู่…"
"ถ้าไม่อยู่ล่ะคะ…" เมย์ถามแบบท้าทาย "ถ้าไม่อยู่ พ่อก็จะรักและเอ็นดูลูกให้มากๆ สิจ๊ะลูก…"
"เหมือนนิดหรือเปล่าคะ…" "ลูกเห็นหรือจ๊ะว่าพ่อทำอย่างไรกับนิด…"
"เห็นค่ะ…" เมย์ตอบแบบไม่เต็มเสียง เพราะความอาย พ่อลงนั่งชิดติดกับเมย์ โอบไหล่เมย์เบาๆ
"ลูกให้พ่อทำแบบนิดนะลูก รู้มั๊ยลูก ลูกทั้งสวยและเซ็กซี่…" "อุ๊ย…พ่อ…"
"หลับตาสิลูก อยู่เฉยๆ พ่อจะทำให้ลูกมีความสุข…" พ่อแฟนเมย์บอก พร้อมกับกอดจูบแก้มเมย์เบาๆ เล่นเอาเมย์ขนลุกซู่
มือพ่อเกาะกุมอยู่ที่เต้านมของเมย์แล้วลูบคลึงเบาๆ ทำเอาเมย์ใจวาบหวิว เสียวซ่านจนลืมตัว ปล่อยให้พ่อแฟนเมย์
แกะกระดุมเสื้อด้านหน้าออกจนหมด ยกทรงถูกพ่อแกะตะขอออกไป พ่อฟุบหน้าจูบเต้านมของเมย์ เมย์ใส่กระโปรงค่ะ
พ่อสอดมือเข้ามาเกาะกุมโคกจิ๋มของเมย์
"อูวววว…ลูกจ๋า จิ๋มใหญ่ดีจริงๆ…" "ซี๊ดดดด…อูววววว…พ่อ…พ่อขาอย่าเขี่ย…เมย์เสียวววว…โอวววววว…"
พ่อผัวใช้ปลายนิ้วเขี่ยร่องจิ๋มของเมย์นอกกางเกงใน เขี่ยลากผ่านตามร่องแคม เมย์เสียวจนตัวสั่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อ
รูดกางเกงในออกจากตัวเมย์ตอนไหน เผลอนั่งหลับตาด้วยความเสียว ผวาสะดุ้งสุดๆ ตัวอีกครั้ง ก็ตอนพ่อแฟนเมย์
ยกขาเมย์ขึ้น ถ่างออกทั้งสองข้าง แล้วฟุบหน้าลงมาจูบร่องจิ๋มของเมย์ ปลายลิ้นของพ่อเริ่มทำงานทันที
"ซี๊ดดดด…อูยยยย…พ่อ…พ่อขา…อย่า…อย่าเลีย…เมย์…เมย์เสียวววว…ซี๊ดดดดดด"
"เสียวก็ปล่อยออกมาสิลูก…จิ๋มลูกทั้งสวยทั้งใหญ่แบบนี้ พ่อชอบเลีย…ขอพ่อเลียให้อร่อยหน่อยนะ…"
พ่อเงยหน้ามาพูดแล้วก็ก้มลงไปเลียต่อ โดยเฉพาะตอนพ่อดูดเม็ดแตดของเมย์ แล้วใช้ปลายลิ้นดุนเบาๆ เร็วๆ เมย์ไม่เคย
โดยเลียจิ๋มดูดแตดแบบนี้มาก่อน พอมาเจอเข้าทำเอาเมย์ตัวเกร็งกระตุก ร้องครางลั่นห้องเลยก็ว่าได้
"ซี๊ดดดด…โอวววว…พ่อ…พ่อขา…เมย์…เมย์ไม่ไหวแล้ว…ซี๊ดดดด…อูยยยย…ออก…ว๊ายยยย…พ่อขา…พ่อ…
เมย์ไม่ไหวแล้ว…ออก…ออกแล้วววว…ซี๊ดดดดดด…"
พ่อแฟนเมย์ยังไม่ยอมหยุดเลีย ยังตวัดปลายลิ้นเลียร่องจิ๋มของเมย์อยู่ต่อไปอย่างอร่อยลิ้น เมย์ยังเสียวแบบต่อเนื่อง
เริ่มยกสะโพกขึ้นส่ายร่อน แล้วส่งเสียงครวญครางอีกครั้ง
"เป็นไงลูกเสียวจิ๋มอีกหรือยัง…" "ซี๊ดดดด…อาาาา…ค่ะ…เสียวอีกแล้วค่ะ…"
"ให้พ่อช่วยเอาแบบนิดเค้านะ…" เมย์ไม่ตอบได้แต่นั่งหลับตา ได้ยินเสียงพ่อถอดเสื้อผ้า ชั่วอึดใจพ่อก็จับปลายท่อนควย
ของพ่อลากผ่านร่องจิ๋มของเมย์เล่นเอาเมย์เสียวสะดุ้ง เมย์แอ่นร่องจิ๋มลอยขึ้นเล็กน้อย พ่อดึงสะโพกเมย์ให้ขยับมาที่
ขอบโซฟา
"ซี๊ดดดด…อาาาา…ดัน…ดันเข้ามาเลยสิคะพ่อขา…เมย์ต้องการมันแล้ว…อูยยยย…เบาๆ ก่อนนะคะพ่อ…
ควยพ่อมันใหญ่กว่าของพี่เชียรเยอะเลย…โอยยยยยย…"
กว่าเมย์จะรับท่อนควยของพ่อแฟนเมย์หมด ก็เล่นเอาเมย์เจ็บและรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน แต่พอพ่อเริ่มขยับซอยนี่สิคะ มันเสียว
สะใจเมย์เหลือเกิน ถึงกับครางซี๊ดออกมาเลย "เป็นไงจ๊ะเสียวไม๊…"
"สะ…เสียวววว…เสียวค่ะพ่อ…ซี๊ดดดด…อาาาาาา…" เมย์ตอบไปอย่างหมดอาย ยิ่งพ่อแฟนเมย์ขยับโยก เมย์ก็ยิ่งเสียว
ยิ่งเสียวเมย์ก็ยิ่งร้อง พ่ออุ้มเมย์ขึ้นมาจากโซฟาทั้งๆ ที่ท่อนควยของพ่อยังเสียบคารูจิ๋มเมย์อยู่เลย แล้วพ่อแฟนเมย์ก็
พลิกตัวเองลงไปนั่งพิงโซฟา ให้เมย์นั่งหันหน้าเข้าหา พ่อแฟนเมย์ดูดเลียเต้านมของเมย์ เมย์ก็ขยับตัวขย่มสะโพกซอย
ทั้งเสียวทั้งสะใจบอกไม่ถูกเลยค่ะ เมย์ได้ขึ้นสวรรค์ไปอีกครั้งอย่างง่ายดาย แต่พ่อแฟนเมย์ยังไม่เสร็จค่ะ เขาอึดมาก
จับเมย์โก้งโค้งกับโซฟา เขายืนกระแทกเมย์อยู่ที่พื้นห้อง ทั้งเร็ว รุนแรง ท่อนควยก็เข้ามาลึกมาก จนยันถึงมดลูกเมย์
เมย์เสียวที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ จนเขาส่งเมย์ขึ้นสวรรค์อีกครั้งนั่นแหละค่ะ พ่อแฟนเมย์ถึงยอมเสร็จ
" โอยยยย…พ่อขา…ซี๊ดดดด…ท่านี้เสียวเหลือเกินค่ะ…อูยยยย…ทำไมพ่อเย็ดเก่งจัง…พี่เชียรเย็ดเมย์ไม่เคยเสียวแบบนี้เลยค่ะ
…กระแทกแรงๆ เลยค่ะพ่อขา…อูยยยย…โอยยยย…ซี๊ดดดด…เสียวเหลือเกิน…พ่อขา…เมย์ไม่ไหวแล้ว…โอยยยย…ออก…
ออกแล้วววว…ซี๊ดดดด…โอยยยยยย…”
”พ่อก็ไม่ไหวแล้ว…อูวววว…ให้พ่อแตกใส่รูเลยนะลูก…โอยยยย…ไม่ไหวแล้ว…แตกแล้วววว…โอยยยย…อูยยยยยย…”
เราสองคนนั่งกอดกันกลมบนโซฟา ท่อนควยยังเสียบคารูจิ๋มของเมย์อยู่ชั่วครู่ เมย์ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกาย ออกมา
เมย์อายมากค่ะ พ่อแฟนก็เข้ามาปลอบ ไม่น่าเชื่อค่ะ อายุอย่างพ่อ จะขอเอาเมย์อีกครั้ง เมย์ก็อดใจอ่อนไม่ได้ ก็ติดใจรสเสียว
ของเขาเข้าแล้วนี่คะ ก็เลยยอมดูดให้เขาก่อนให้เขาเย่อ แล้วเมย์ก็ได้ลิ้มรสท่อนควยที่ใหญ่ยาวของพ่อแฟนเมย์สมใจ
เวลาดูดอมมันเต็มปากดีเหลือเกิน อร่อยสะใจเมย์จริงๆ ค่ะ อร่อยจนลืมควยแฟนเมย์ไปเลยค่ะ
วันนั้นเมย์มีความสุขสุดๆ เลยค่ะ แทบจะไม่มีแรงเดินกลับบ้าน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมย์กับนิดก็จะสลับผลัดเปลี่ยนกัน
ให้พ่อแฟนเมย์เย็ด โดยไม่มีใครรู้ แม้แต่นิดเองก็ไม่รู้ค่ะ บางวันตอนกลางวันพ่อแฟนเมย์ก็จะแอบกลับมาเย็ดนิดที่บ้าน
แล้วพอตอนบ่ายเมย์ก็ออกไปให้พ่อเย็ดที่โรงงาน เรียกว่าวันเดียวพ่อแฟนเมย์เย็ดพวกเราทั้งสองคนเลย เมย์ไม่เคย
อดอยากอีกเลย อยากเมื่อไหร่ก็ไปให้พ่อเย็ดได้ทันทียอมรับค่ะว่าติดใจและเต็มใจ คนแก่อะไรก็ไม่รู้ทั้งเย็ดเก่ง
และอึดเป็นบ้าเลยค่ะ
18
CMX Sexy Story / [เรื่องสั้นอีโรติก] พ่อตาของฉัน เอามันส์มาก
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2020, 10:45:33 »[เรื่องสั้นอีโรติก] พ่อตาของฉัน เอามันส์มาก
เราชื่อ “เมย์” แต่งงานแล้วค่ะ ปัจจุบันอายุ 24 ปี ลูก 1 ค่ะ แต่ทุกส่วนสัดบนร่างกายของเมย์ รับรองค่ะว่า
ไม่มีส่วนใดเสียหาย หย่อนยานนะคะ เมย์ดูแลตัวเองอย่างดีค่ะ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนเมย์เพิ่งคลอดลูก
ได้ 1 ปีเศษๆ หลังจากที่เมย์แต่งงานมาเกือบ 2 ปี
พอแต่งงานเสร็จ เมย์ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟนเมย์ ซึ่งบ้านแฟนเมย์เขามีอาชีพค้าขายส่งสินค้าเข้ากรุงเทพฯ
บ้านแฟนเมย์อยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไกลทีเดียว แฟนเมย์เขาไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกค่ะ เขาต้องขึ้นๆ ลงๆ กรุงเทพฯ
กับบ้านเขาตลอด ไปครั้งละ 2-3 วัน เป็นประจำ บ้านแฟนเมย์ค่อนข้างฐานะดีค่ะ มีลูกทั้งหมด 5 คน เป็น
ชาย 2 หญิง 3 แฟนเมย์เป็นคนสุดท้อง แก่กว่าเมย์ 2 ปี สองคนแรกเป็นผู้หญิง ซึ่งแต่งงานแยกครอบครัวไปแล้ว
ถัดมาก็เป็นผู้ชายซึ่งเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ เมื่อประมาณปีเศษๆ แล้วก็มีผู้หญิงอีกคน ซึ่งแต่งงานแล้วเช่นกัน
อยู่กรุงเทพฯ
เมย์แต่งงานแล้วก็ช่วยงานพ่อแม่แฟนเมย์ค้าขาย ดูแลกิจการภายในครอบครัว แต่เป็นงานเบาๆ นะคะ เพราะเมย์มีลูก
ซึ่งยังเล็กอยู่ ต้องคอยดูแล ที่บ้านแฟนเมย์เป็นโรงงาน และก็เปิดเป็นร้านค้าขายด้วยค่ะ การเงินพ่อแฟนเมย์กับแม่เป็น
ผู้ควบคุม “นิด” ดูแลเรื่องการค้าภายในร้านทั้งหมด นิดที่ว่า เป็นแฟนของพี่ชายแฟนเมย์ที่เสียชีวิตไปนั่นแหละค่ะ
แต่นิดยังไม่มีลูก นิดแก่กว่าเมย์ 2 ปีค่ะ ถึงแฟนนิดเสียไปแล้ว แต่นิดก็ยังอยู่กับครอบครัวแฟนเมย์ค่ะ
เรื่องนี้เริ่มแรกเกิดจากความอยากรู้อยากเห็นของเมย์เองแหละค่ะ คือเวลาปกติพ่อแฟนเมย์เขาจะไปดูแลโรงงานในตอนกลางวัน
แม่แฟนเมย์กลางวันเขาจะไปเก็บเงินในตัวจังหวัดเกือบทุกวัน เมย์อยู่ที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านค้าด้วย เมย์กับนิดสนิทกันมาก
เพราะเราต่างก็เป็นสะใภ้ด้วยกัน แฟนนิดเสีย ดูนิดจะเสียใจมาก แต่ก็ประมาณ 4-5 เดือน นิดก็ดูดีขึ้น จำได้ว่าตอนแฟนนิดเสียใหม่ๆ
นิดจะขอกลับไปอยู่บ้านนิด แต่ทั้งพ่อแม่ฝั่งสามี เป็นคนขอร้องให้นิดอยู่ช่วยงานที่ร้านอีกสักระยะ นิดก็เลยต้องอยู่ต่อ
เมย์เห็นนิดอารมณ์ดีผิดปกติ ไม่เหงา ไม่เศร้าซึม เช่นก่อนๆ แต่งตัวสวยขึ้น ก็ดูแปลกใจ
นิดไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหน จะไปก็ขับรถไปเอง และมีเด็กที่ร้านไปด้วยทุกครั้ง ห้องนอนนิดอยู่ติดกับห้องนอนเมย์
ตอนแฟนนิดอยู่ เมย์จะได้ยินเสียงนิดครวญคราง เวลาร่วมรักกับแฟนเป็นประจำ แรกๆ ก็ดูจะตื่นเต้น แต่นานๆ เข้าก็รู้สึกเฉยๆ
เป็นเรื่องปกติไปค่ะ นิดเองก็อาจจะได้ยินเสียงเมย์เหมือนกัน ห้องนอนมันติดกันนี่คะ ฝาห้องเป็นไม้ คือบ้านเป็นบ้านตึกครึ่งไม้ค่ะ
ชั้นบนเป็นไม้ จึงเก็บเสียงไม่ค่อยได้นัก แต่ติดแอร์นะคะ เมย์เคยแอบดูนิดค่ะ เคยแอบเจาะรูเอาไว้ดู แต่นิดเขาจะปิดไฟมืดมากค่ะ
เห็นเพียงเงาเรือนราง ได้ยินแต่เสียงร้องครวญครางเท่านั้น เมย์รู้ว่านิดเป็นคนเซ็กส์จัด ยังคิดเลยค่ะว่า แฟนนิดเสียไป นิดคง
ต้องมีแฟนใหม่อีกไม่นานแน่นอน ก็นิดสวยนี่คะ แม้จะตัวเล็กไปสักหน่อย แต่นมใหญ่ ก้นงอน หน้าตาดี แถมมีเงิน ใครก็อยากเอาค่ะ
ช่วงแฟนนิดเสียไปได้ไม่นาน ก็มีหนุ่มๆ มาจีบนิดแล้วค่ะ แต่นิดก็ทำเฉยๆ เมย์เฝ้าสังเกตนิด และก็จะรู้สึกแปลกใจที่ตอนสายๆ
เกือบทุกวัน นิดจะขอให้เมย์เฝ้าร้าน นิดจะขึ้นไปชั้นบน ห้องนอนของนิด โดยนิดจะอ้างโน่นอ้างนี่ เช่นขอไปอาบน้ำ ซึ่งผิดปกติ
เพราะนิดต้องอาบมาแล้วตอนตื่นนอนตอนเช้า เมย์รู้สึกแปลกใจ ในระยะหลังๆ ตอนสายๆ นี่จะไม่มีใครอยู่บ้านนะคะ พ่อแฟนเมย์
ก็ออกไปโรงงาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลบ้าน แม่แฟนเมย์ก็เข้าเมือง และก็แปลกใจอีกข้อคือ เวลาพ่อแม่แฟนเมย์อยู่บ้าน นิดเขาจะไม่เคย
หายไปไหนเลย ด้วยความสงสัย วันหนึ่งเมย์เลยย่องตามนิดขึ้นไปชั้นบน นิดเปิดประตูเข้าห้อง เมย์ก็เข้าห้องเมย์
เมย์ได้ยินเสียงนิดคุยกับผู้ชายค่ะ !!
ที่แรกเมย์ตกใจมาก ใครจะกล้าขึ้นมาชั้นบนบ้านเมย์ได้ เป็นไปไม่ได้ แต่พอฟังเสียงดีๆ เมย์ถึงรู้ว่าเป็นเสียงพ่อแฟนเมย์เองค่ะ
เขาคงเข้ามาทางหลังบ้าน ห้องนอนพ่อแฟนเมย์เขาก็อยู่ชั้นบนเหมือนกับห้องนอนเมย์และนิด เพียงแต่อยู่กันคนละฝั่งเท่านั้น
พ่อเข้ามาหานิด ทำอะไร? ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ เมย์เงี่ยหูฟัง
"อือ…ใจเย็นๆ สิคะผัวขา…ให้เมียแก้ผ้าก่อน เดี๋ยวเสื้อยับหมด ลงไปใครเห็นเขาจะสงสัยเอานะ…"
แค่นี้เมย์ก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว เมย์รีบแอบดูที่รูที่เมย์เคยเจาะเอาไว้ นิดกำลังนอนหงายบนเตียง ให้พ่อแฟนเมย์ดึงกางเกงใน
สีดำรูดออกทางปลายเท้า นิดนอนหงายเรือนร่างขาวจั๊วะอยู่บนเตียง เต้านมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นก้อนทั้งสองเต้า โคกเนื้อสิคะ
โหนกนูนเป็นกระเปาะ โหนกว่าของเมย์อีกค่ะ แต่คงเล็กกว่าของเมย์ สายตานิดหยาดเยิ้ม มองพ่อแฟนเมย์ซึ่งกำลังแก้ผ้าตัวเองออก
อย่างเร่งรีบ พ่อแฟนเมย์อายุใกล้ 60 ปีแล้วค่ะ แต่ยังดูแข็งแรง ไม่อ้วนลงพุงเหมือนเสี่ยทั่วไป รูปร่างก็สูงใหญ่ค่ะ พอพ่อร่างกาย
เปลือยเปล่า อะไรกันนั่น
ท่อนควยของพ่อแฟนเมย์ ทั้งใหญ่ทั้งยาว หัวถอกบานแดงส่ายหัวหงึกๆ
เกือบเท่าข้อแขนเมย์ทีเดียว
แปลกใจค่ะ ของพ่อทั้งใหญ่ยาว แต่ของแฟนเมย์เล็กกว่ามาก สั้นกว่าด้วย ทำไมไม่เหมือนกรรมพันธุ์ หรือพ่อให้มาน้อยก็ไม่รู้ค่ะ
ทั้งสองคนกอดจูบกันกลมบนเตียง นิดสอดมือมากำท่อนควยของพ่อกำรูดเบาๆ พ่อแฟนเมย์เลื่อนตัวมาจูบเลียที่เต้านมของนิด
ซึ่งนิดก็แอ่นอกให้ มือพ่อก็ลูบไล้ ใช้นิ้วเขี่ยร่องเสียวของนิด นิดก็ส่ายสะโพกไปมา หลับตาเผยอปากอ้าน้อยๆ ครางซี๊ดเบาๆ
จนพ่อแฟนเมย์เลื่อนตัวให้ต่ำลงไป ที่โคกจิ๋มที่โหนกนูนของนิด นิดผวาเฮือกแอ่นโคกจิ๋มลอยขึ้นมาทันที
"ซี๊ดดดด…ผัวขา…อูวววววว…"
นิดถ่างขาตั้งชันแอ่นโคกจิ๋มลอยขึ้น ใช้มือตัวเองกดไปที่หัวของพ่อแฟนเมย์ แล้วขยุ้มเส้นผมเอาไว้
"ซี๊ดดดด…อูยยยย…ผัวขา…โอวววว…เสียวจังเลยค่ะ…ซี๊ดดดด…อาาาา…ดี…ดีค่ะ…เลียนิดให้น้ำแตกไปเลยนะคะป๋าข
า…นิดชอบ…ซี๊ดดดด…อูยยยย…ชอบให้เลียให้น้ำแตกก่อนแล้วค่อยเอา…อูวววววว…"
พ่อแฟนเมย์จับขานิดกางออกจนร่องจิ๋มแบะอ้า แล้วก้มลงไปดูดเลียเม็ดแตดนิดอย่างอร่อยลิ้น เมย์ดูแล้วถึงกับขาสั่น ลีลาการเลีย
ของพ่อแฟนเมย์สุดยอดจริงๆ ค่ะ นี่แค่ดูยังเสียวจนน้ำแฉะไปหมด ถ้าโดนเข้าบางมันจะเสียวขนาดไหนกัน แฟนเมย์ไม่ได้ครึ่งหนึ่ง
ของพ่อเขาเลย เมย์เคยบอกให้แฟนเลียให้เมย์นานๆ แต่เขาก็เลียแค่เล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ แล้วเขาก็รีบจับท่อนควยเขาเสียบเข้ามา
แล้วก็กระแทกๆ และไม่นานเขาก็เสร็จแล้วค่ะ ไม่ถึงใจเมย์เลย เขาชอบน้ำแตกไปก่อนเมย์ ทำให้เมย์อารมณ์เสียหลายครั้ง
เมย์ก้มไปดูอีกครั้ง นิดกำลังร้องลั่น ใช้ขาสองข้างหนีบคอพ่อแฟนเมย์ไว้ แล้วส่ายเนินจิ๋มอัดกับปากพ่อแฟนเมย์
"เลียให้หมดเลยนะคะป๋าขา…ซี๊ดดดด…อูวววว…อร่อยจังเลยค่ะ ดูดให้หมดนะคะ มันจะได้บำรุงกำลังป๋า
จะได้เอานิดได้นานๆ เดี๋ยวนิดจะดูดให้ป๋าบ้าง…"
พ่อแฟนเมย์เลียร่องจิ๋มของนิดอย่างอร่อยลิ้น ตอนหลังจับขานิดถ่างออกจนกว้าง แล้วแยงลิ้นเข้าไปในรูจิ๋มคล้ายจะกวาดน้ำเสียว
ของนิดออกมาให้หมดทุกหยาดหยด นิดลุกขึ้นนั่ง
"อืออออ…พอแล้วค่ะป๋าขา นอนนะคะนิดจะดูดให้มั่ง…อืมมมม…ของป๋าทั้งใหญ่ทั้งยาว แข็งดีด้วย น่าดูดจังค่ะ…"
นิดเริ่มดูดเลีย ใช้มือกำลำท่อนส่วนโคนเอาไว้ เธอคงอมมันไม่หมดแน่เพราะความยาว นิดเอาลิ้นรัวที่ปลายหัวถอก มือก็กำรูด
กระทอก จนพ่อเริ่มครางในลำคอ เธออ้าปากอมหัวถอกเข้าไป แล้วพยายามกลืนท่อนควย ของพ่อแฟนเมย์เข้าไปให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้ แต่มันก็เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว หัวควยพ่อคงจะเข้าไปจนสุดคอหอยของเธอแล้ว นิดเลยรูดปากออกมาแล้ว
โยกหัวขึ้นๆ ลงๆ พ่อแฟนเมย์แอ่นท่อนควยตามขึ้นมา แล้วกระเด้าสวนกับปากเมย์อย่างสนุก
เพียงครู่เดียวนิดก็ลุกขึ้นนั่ง จับท่อนควยของพ่อแฟนเมย์ตั้งขึ้น แล้วกดร่องจิ๋มลงไป ทีเดียวมิดลำเลยค่ะ คงจะเคยเอากัน
เป็นประจำอยู่แล้วนี่คะ นิดเริ่มขยับโยก โดยที่มือพ่อแฟนเมย์ลูบไล้เต้านมนิดไปด้วย เมย์แอบดูอยู่ใกล้มาก แถมเป็นกลางวัน
มองเห็นท่อนควยขนาดใหญ่ยาวของพ่อแฟนเมย์ วิ่งเข้าออกรูจิ๋มของนิด เมย์ถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเลยค่ะ รู้สึกใจมันหวิวๆ
นิ้วของตัวเองก็แยงเข้ารูจิ๋ม จมหายเข้าไปมิดสองนิ้วเลยค่ะ แต่มันก็ยังไม่สะใจ เมย์เลยไปเปิดตู้เย็น หยิบแตงกวามาหนึ่งลูก
เลือกเอาลูกที่ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสูสีกับท่อนควยพ่อแฟนเมย์ มันทั้งเย็นทั้งเสียว คิดว่ากำลังโดยท่อนควยพ่อแฟนเมย์
กระทุ้งเอา ไม่นานน้ำเสียวเมย์ก็แตกซ่า บอกตรงๆ ค่ะ ว่าอยากกรีดร้องออกมาบ้างเวลาได้ขึ้นสวรรค์ แต่ก็ไม่กล้าค่ะ กลัวนิด
กับพ่อแฟนเมย์จะได้ยิน ต้องใช้ปากกัดหมอนเอาไว้
เมย์ได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไปแอบดูนิดอีก ทั้งสองคนยังเย็ดกันอยู่ค่ะ นิดกำลังโก้งโค้งอยู่บนเตียง โดยมีพ่อแฟนเมย์ยืนอยู่กับ
พื้นห้อง ใช้มือรั้งเอวนิดยืนอัดท่อนควยทั้งเร็วทั้งรุนแรง นิดคงจะพอใจและสะใจมากถึงกับร้องครางลั่นห้อง พ่อแฟนเมย์กระแทก
ไม่ยั้ง แคมจิ๋มสองข้างของนิดปลิ้นเข้าปลิ้นออก เวลาพ่อแฟนเมย์กระแทกท่อนควยเข้าไป ด้วยความใหญ่ของท่อนควย
แคมจิ๋มสองข้างของนิดจึงลู่ตามลำท่อนไปด้วย นิดคงเสียวมาก ถึงกับครางลั่น เร่งให้พ่ออัดกระแทกหนักขึ้นอีก จนทั้งสองคน
ตัวเกร็งกระตุกด้วยกันทั้งคู่
"โอยยยย…ซี๊ดดดด…ป๋าขา…นิดจะไม่ไหวแล้วค่ะ…เสียวเหลือเกิน…อูยยยย…ป๋าเย็ดมันส์ดีจริงๆ นิดชอบบบบ…ซี๊ดดดด…
ต้องมาเย็ดนิดทุกวันเลยนะคะป๋าขา…โอยยยย…อูยยยยย…ซี๊ดดดด…นิดจะแตกแล้วป๋าขา…กระแทกหนักๆ เลยค่ะ…
โอยยยย…นิดไม่ไหวแล้ว…โอยยยย…แตกแล้วววว…ป๋าขา…ซี๊ดดดด…อูยยยยยย…"
เมย์รีบลงมาชั้นล่างเพื่อดูหน้าร้านก่อนที่นิดจะลงมา หลังจากนั้นอีกประมาณ 15 นาทีค่ะค่ะ นิดลงมาด้วยอาการสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส
หลังจากนั้นเกือบทุกวัน เมย์ก็จะแอบขึ้นไปดูนิดกับพ่อแฟนเมย์เย็ดกันทุกครั้ง โดยไม่บอกให้ใครรู้แม้แต่แฟนเมย์เอง ยอมรับค่ะว่า
ขนาดแฟนเมย์กำลังกระแทกเมย์อยู่ เมย์ยังเคยหลับตาแล้วคิดว่ากำลังถูกพ่อแฟนเมย์เย็ดเหมือนที่นิดโดน เมย์ก็จะขึ้นสวรรค์ได้
อย่างรวดเร็ว มันเป็นความฝังใจที่อยู่ในความทรงจำของเมย์ตลอดมา
เราชื่อ “เมย์” แต่งงานแล้วค่ะ ปัจจุบันอายุ 24 ปี ลูก 1 ค่ะ แต่ทุกส่วนสัดบนร่างกายของเมย์ รับรองค่ะว่า
ไม่มีส่วนใดเสียหาย หย่อนยานนะคะ เมย์ดูแลตัวเองอย่างดีค่ะ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนเมย์เพิ่งคลอดลูก
ได้ 1 ปีเศษๆ หลังจากที่เมย์แต่งงานมาเกือบ 2 ปี
พอแต่งงานเสร็จ เมย์ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟนเมย์ ซึ่งบ้านแฟนเมย์เขามีอาชีพค้าขายส่งสินค้าเข้ากรุงเทพฯ
บ้านแฟนเมย์อยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไกลทีเดียว แฟนเมย์เขาไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกค่ะ เขาต้องขึ้นๆ ลงๆ กรุงเทพฯ
กับบ้านเขาตลอด ไปครั้งละ 2-3 วัน เป็นประจำ บ้านแฟนเมย์ค่อนข้างฐานะดีค่ะ มีลูกทั้งหมด 5 คน เป็น
ชาย 2 หญิง 3 แฟนเมย์เป็นคนสุดท้อง แก่กว่าเมย์ 2 ปี สองคนแรกเป็นผู้หญิง ซึ่งแต่งงานแยกครอบครัวไปแล้ว
ถัดมาก็เป็นผู้ชายซึ่งเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ เมื่อประมาณปีเศษๆ แล้วก็มีผู้หญิงอีกคน ซึ่งแต่งงานแล้วเช่นกัน
อยู่กรุงเทพฯ
เมย์แต่งงานแล้วก็ช่วยงานพ่อแม่แฟนเมย์ค้าขาย ดูแลกิจการภายในครอบครัว แต่เป็นงานเบาๆ นะคะ เพราะเมย์มีลูก
ซึ่งยังเล็กอยู่ ต้องคอยดูแล ที่บ้านแฟนเมย์เป็นโรงงาน และก็เปิดเป็นร้านค้าขายด้วยค่ะ การเงินพ่อแฟนเมย์กับแม่เป็น
ผู้ควบคุม “นิด” ดูแลเรื่องการค้าภายในร้านทั้งหมด นิดที่ว่า เป็นแฟนของพี่ชายแฟนเมย์ที่เสียชีวิตไปนั่นแหละค่ะ
แต่นิดยังไม่มีลูก นิดแก่กว่าเมย์ 2 ปีค่ะ ถึงแฟนนิดเสียไปแล้ว แต่นิดก็ยังอยู่กับครอบครัวแฟนเมย์ค่ะ
เรื่องนี้เริ่มแรกเกิดจากความอยากรู้อยากเห็นของเมย์เองแหละค่ะ คือเวลาปกติพ่อแฟนเมย์เขาจะไปดูแลโรงงานในตอนกลางวัน
แม่แฟนเมย์กลางวันเขาจะไปเก็บเงินในตัวจังหวัดเกือบทุกวัน เมย์อยู่ที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านค้าด้วย เมย์กับนิดสนิทกันมาก
เพราะเราต่างก็เป็นสะใภ้ด้วยกัน แฟนนิดเสีย ดูนิดจะเสียใจมาก แต่ก็ประมาณ 4-5 เดือน นิดก็ดูดีขึ้น จำได้ว่าตอนแฟนนิดเสียใหม่ๆ
นิดจะขอกลับไปอยู่บ้านนิด แต่ทั้งพ่อแม่ฝั่งสามี เป็นคนขอร้องให้นิดอยู่ช่วยงานที่ร้านอีกสักระยะ นิดก็เลยต้องอยู่ต่อ
เมย์เห็นนิดอารมณ์ดีผิดปกติ ไม่เหงา ไม่เศร้าซึม เช่นก่อนๆ แต่งตัวสวยขึ้น ก็ดูแปลกใจ
นิดไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหน จะไปก็ขับรถไปเอง และมีเด็กที่ร้านไปด้วยทุกครั้ง ห้องนอนนิดอยู่ติดกับห้องนอนเมย์
ตอนแฟนนิดอยู่ เมย์จะได้ยินเสียงนิดครวญคราง เวลาร่วมรักกับแฟนเป็นประจำ แรกๆ ก็ดูจะตื่นเต้น แต่นานๆ เข้าก็รู้สึกเฉยๆ
เป็นเรื่องปกติไปค่ะ นิดเองก็อาจจะได้ยินเสียงเมย์เหมือนกัน ห้องนอนมันติดกันนี่คะ ฝาห้องเป็นไม้ คือบ้านเป็นบ้านตึกครึ่งไม้ค่ะ
ชั้นบนเป็นไม้ จึงเก็บเสียงไม่ค่อยได้นัก แต่ติดแอร์นะคะ เมย์เคยแอบดูนิดค่ะ เคยแอบเจาะรูเอาไว้ดู แต่นิดเขาจะปิดไฟมืดมากค่ะ
เห็นเพียงเงาเรือนราง ได้ยินแต่เสียงร้องครวญครางเท่านั้น เมย์รู้ว่านิดเป็นคนเซ็กส์จัด ยังคิดเลยค่ะว่า แฟนนิดเสียไป นิดคง
ต้องมีแฟนใหม่อีกไม่นานแน่นอน ก็นิดสวยนี่คะ แม้จะตัวเล็กไปสักหน่อย แต่นมใหญ่ ก้นงอน หน้าตาดี แถมมีเงิน ใครก็อยากเอาค่ะ
ช่วงแฟนนิดเสียไปได้ไม่นาน ก็มีหนุ่มๆ มาจีบนิดแล้วค่ะ แต่นิดก็ทำเฉยๆ เมย์เฝ้าสังเกตนิด และก็จะรู้สึกแปลกใจที่ตอนสายๆ
เกือบทุกวัน นิดจะขอให้เมย์เฝ้าร้าน นิดจะขึ้นไปชั้นบน ห้องนอนของนิด โดยนิดจะอ้างโน่นอ้างนี่ เช่นขอไปอาบน้ำ ซึ่งผิดปกติ
เพราะนิดต้องอาบมาแล้วตอนตื่นนอนตอนเช้า เมย์รู้สึกแปลกใจ ในระยะหลังๆ ตอนสายๆ นี่จะไม่มีใครอยู่บ้านนะคะ พ่อแฟนเมย์
ก็ออกไปโรงงาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลบ้าน แม่แฟนเมย์ก็เข้าเมือง และก็แปลกใจอีกข้อคือ เวลาพ่อแม่แฟนเมย์อยู่บ้าน นิดเขาจะไม่เคย
หายไปไหนเลย ด้วยความสงสัย วันหนึ่งเมย์เลยย่องตามนิดขึ้นไปชั้นบน นิดเปิดประตูเข้าห้อง เมย์ก็เข้าห้องเมย์
เมย์ได้ยินเสียงนิดคุยกับผู้ชายค่ะ !!
ที่แรกเมย์ตกใจมาก ใครจะกล้าขึ้นมาชั้นบนบ้านเมย์ได้ เป็นไปไม่ได้ แต่พอฟังเสียงดีๆ เมย์ถึงรู้ว่าเป็นเสียงพ่อแฟนเมย์เองค่ะ
เขาคงเข้ามาทางหลังบ้าน ห้องนอนพ่อแฟนเมย์เขาก็อยู่ชั้นบนเหมือนกับห้องนอนเมย์และนิด เพียงแต่อยู่กันคนละฝั่งเท่านั้น
พ่อเข้ามาหานิด ทำอะไร? ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ เมย์เงี่ยหูฟัง
"อือ…ใจเย็นๆ สิคะผัวขา…ให้เมียแก้ผ้าก่อน เดี๋ยวเสื้อยับหมด ลงไปใครเห็นเขาจะสงสัยเอานะ…"
แค่นี้เมย์ก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว เมย์รีบแอบดูที่รูที่เมย์เคยเจาะเอาไว้ นิดกำลังนอนหงายบนเตียง ให้พ่อแฟนเมย์ดึงกางเกงใน
สีดำรูดออกทางปลายเท้า นิดนอนหงายเรือนร่างขาวจั๊วะอยู่บนเตียง เต้านมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นก้อนทั้งสองเต้า โคกเนื้อสิคะ
โหนกนูนเป็นกระเปาะ โหนกว่าของเมย์อีกค่ะ แต่คงเล็กกว่าของเมย์ สายตานิดหยาดเยิ้ม มองพ่อแฟนเมย์ซึ่งกำลังแก้ผ้าตัวเองออก
อย่างเร่งรีบ พ่อแฟนเมย์อายุใกล้ 60 ปีแล้วค่ะ แต่ยังดูแข็งแรง ไม่อ้วนลงพุงเหมือนเสี่ยทั่วไป รูปร่างก็สูงใหญ่ค่ะ พอพ่อร่างกาย
เปลือยเปล่า อะไรกันนั่น
ท่อนควยของพ่อแฟนเมย์ ทั้งใหญ่ทั้งยาว หัวถอกบานแดงส่ายหัวหงึกๆ
เกือบเท่าข้อแขนเมย์ทีเดียว
แปลกใจค่ะ ของพ่อทั้งใหญ่ยาว แต่ของแฟนเมย์เล็กกว่ามาก สั้นกว่าด้วย ทำไมไม่เหมือนกรรมพันธุ์ หรือพ่อให้มาน้อยก็ไม่รู้ค่ะ
ทั้งสองคนกอดจูบกันกลมบนเตียง นิดสอดมือมากำท่อนควยของพ่อกำรูดเบาๆ พ่อแฟนเมย์เลื่อนตัวมาจูบเลียที่เต้านมของนิด
ซึ่งนิดก็แอ่นอกให้ มือพ่อก็ลูบไล้ ใช้นิ้วเขี่ยร่องเสียวของนิด นิดก็ส่ายสะโพกไปมา หลับตาเผยอปากอ้าน้อยๆ ครางซี๊ดเบาๆ
จนพ่อแฟนเมย์เลื่อนตัวให้ต่ำลงไป ที่โคกจิ๋มที่โหนกนูนของนิด นิดผวาเฮือกแอ่นโคกจิ๋มลอยขึ้นมาทันที
"ซี๊ดดดด…ผัวขา…อูวววววว…"
นิดถ่างขาตั้งชันแอ่นโคกจิ๋มลอยขึ้น ใช้มือตัวเองกดไปที่หัวของพ่อแฟนเมย์ แล้วขยุ้มเส้นผมเอาไว้
"ซี๊ดดดด…อูยยยย…ผัวขา…โอวววว…เสียวจังเลยค่ะ…ซี๊ดดดด…อาาาา…ดี…ดีค่ะ…เลียนิดให้น้ำแตกไปเลยนะคะป๋าข
า…นิดชอบ…ซี๊ดดดด…อูยยยย…ชอบให้เลียให้น้ำแตกก่อนแล้วค่อยเอา…อูวววววว…"
พ่อแฟนเมย์จับขานิดกางออกจนร่องจิ๋มแบะอ้า แล้วก้มลงไปดูดเลียเม็ดแตดนิดอย่างอร่อยลิ้น เมย์ดูแล้วถึงกับขาสั่น ลีลาการเลีย
ของพ่อแฟนเมย์สุดยอดจริงๆ ค่ะ นี่แค่ดูยังเสียวจนน้ำแฉะไปหมด ถ้าโดนเข้าบางมันจะเสียวขนาดไหนกัน แฟนเมย์ไม่ได้ครึ่งหนึ่ง
ของพ่อเขาเลย เมย์เคยบอกให้แฟนเลียให้เมย์นานๆ แต่เขาก็เลียแค่เล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ แล้วเขาก็รีบจับท่อนควยเขาเสียบเข้ามา
แล้วก็กระแทกๆ และไม่นานเขาก็เสร็จแล้วค่ะ ไม่ถึงใจเมย์เลย เขาชอบน้ำแตกไปก่อนเมย์ ทำให้เมย์อารมณ์เสียหลายครั้ง
เมย์ก้มไปดูอีกครั้ง นิดกำลังร้องลั่น ใช้ขาสองข้างหนีบคอพ่อแฟนเมย์ไว้ แล้วส่ายเนินจิ๋มอัดกับปากพ่อแฟนเมย์
"เลียให้หมดเลยนะคะป๋าขา…ซี๊ดดดด…อูวววว…อร่อยจังเลยค่ะ ดูดให้หมดนะคะ มันจะได้บำรุงกำลังป๋า
จะได้เอานิดได้นานๆ เดี๋ยวนิดจะดูดให้ป๋าบ้าง…"
พ่อแฟนเมย์เลียร่องจิ๋มของนิดอย่างอร่อยลิ้น ตอนหลังจับขานิดถ่างออกจนกว้าง แล้วแยงลิ้นเข้าไปในรูจิ๋มคล้ายจะกวาดน้ำเสียว
ของนิดออกมาให้หมดทุกหยาดหยด นิดลุกขึ้นนั่ง
"อืออออ…พอแล้วค่ะป๋าขา นอนนะคะนิดจะดูดให้มั่ง…อืมมมม…ของป๋าทั้งใหญ่ทั้งยาว แข็งดีด้วย น่าดูดจังค่ะ…"
นิดเริ่มดูดเลีย ใช้มือกำลำท่อนส่วนโคนเอาไว้ เธอคงอมมันไม่หมดแน่เพราะความยาว นิดเอาลิ้นรัวที่ปลายหัวถอก มือก็กำรูด
กระทอก จนพ่อเริ่มครางในลำคอ เธออ้าปากอมหัวถอกเข้าไป แล้วพยายามกลืนท่อนควย ของพ่อแฟนเมย์เข้าไปให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้ แต่มันก็เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว หัวควยพ่อคงจะเข้าไปจนสุดคอหอยของเธอแล้ว นิดเลยรูดปากออกมาแล้ว
โยกหัวขึ้นๆ ลงๆ พ่อแฟนเมย์แอ่นท่อนควยตามขึ้นมา แล้วกระเด้าสวนกับปากเมย์อย่างสนุก
เพียงครู่เดียวนิดก็ลุกขึ้นนั่ง จับท่อนควยของพ่อแฟนเมย์ตั้งขึ้น แล้วกดร่องจิ๋มลงไป ทีเดียวมิดลำเลยค่ะ คงจะเคยเอากัน
เป็นประจำอยู่แล้วนี่คะ นิดเริ่มขยับโยก โดยที่มือพ่อแฟนเมย์ลูบไล้เต้านมนิดไปด้วย เมย์แอบดูอยู่ใกล้มาก แถมเป็นกลางวัน
มองเห็นท่อนควยขนาดใหญ่ยาวของพ่อแฟนเมย์ วิ่งเข้าออกรูจิ๋มของนิด เมย์ถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเลยค่ะ รู้สึกใจมันหวิวๆ
นิ้วของตัวเองก็แยงเข้ารูจิ๋ม จมหายเข้าไปมิดสองนิ้วเลยค่ะ แต่มันก็ยังไม่สะใจ เมย์เลยไปเปิดตู้เย็น หยิบแตงกวามาหนึ่งลูก
เลือกเอาลูกที่ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสูสีกับท่อนควยพ่อแฟนเมย์ มันทั้งเย็นทั้งเสียว คิดว่ากำลังโดยท่อนควยพ่อแฟนเมย์
กระทุ้งเอา ไม่นานน้ำเสียวเมย์ก็แตกซ่า บอกตรงๆ ค่ะ ว่าอยากกรีดร้องออกมาบ้างเวลาได้ขึ้นสวรรค์ แต่ก็ไม่กล้าค่ะ กลัวนิด
กับพ่อแฟนเมย์จะได้ยิน ต้องใช้ปากกัดหมอนเอาไว้
เมย์ได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไปแอบดูนิดอีก ทั้งสองคนยังเย็ดกันอยู่ค่ะ นิดกำลังโก้งโค้งอยู่บนเตียง โดยมีพ่อแฟนเมย์ยืนอยู่กับ
พื้นห้อง ใช้มือรั้งเอวนิดยืนอัดท่อนควยทั้งเร็วทั้งรุนแรง นิดคงจะพอใจและสะใจมากถึงกับร้องครางลั่นห้อง พ่อแฟนเมย์กระแทก
ไม่ยั้ง แคมจิ๋มสองข้างของนิดปลิ้นเข้าปลิ้นออก เวลาพ่อแฟนเมย์กระแทกท่อนควยเข้าไป ด้วยความใหญ่ของท่อนควย
แคมจิ๋มสองข้างของนิดจึงลู่ตามลำท่อนไปด้วย นิดคงเสียวมาก ถึงกับครางลั่น เร่งให้พ่ออัดกระแทกหนักขึ้นอีก จนทั้งสองคน
ตัวเกร็งกระตุกด้วยกันทั้งคู่
"โอยยยย…ซี๊ดดดด…ป๋าขา…นิดจะไม่ไหวแล้วค่ะ…เสียวเหลือเกิน…อูยยยย…ป๋าเย็ดมันส์ดีจริงๆ นิดชอบบบบ…ซี๊ดดดด…
ต้องมาเย็ดนิดทุกวันเลยนะคะป๋าขา…โอยยยย…อูยยยยย…ซี๊ดดดด…นิดจะแตกแล้วป๋าขา…กระแทกหนักๆ เลยค่ะ…
โอยยยย…นิดไม่ไหวแล้ว…โอยยยย…แตกแล้วววว…ป๋าขา…ซี๊ดดดด…อูยยยยยย…"
เมย์รีบลงมาชั้นล่างเพื่อดูหน้าร้านก่อนที่นิดจะลงมา หลังจากนั้นอีกประมาณ 15 นาทีค่ะค่ะ นิดลงมาด้วยอาการสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส
หลังจากนั้นเกือบทุกวัน เมย์ก็จะแอบขึ้นไปดูนิดกับพ่อแฟนเมย์เย็ดกันทุกครั้ง โดยไม่บอกให้ใครรู้แม้แต่แฟนเมย์เอง ยอมรับค่ะว่า
ขนาดแฟนเมย์กำลังกระแทกเมย์อยู่ เมย์ยังเคยหลับตาแล้วคิดว่ากำลังถูกพ่อแฟนเมย์เย็ดเหมือนที่นิดโดน เมย์ก็จะขึ้นสวรรค์ได้
อย่างรวดเร็ว มันเป็นความฝังใจที่อยู่ในความทรงจำของเมย์ตลอดมา
19
xseed คลิป / ล้วงลึก..คุณกับสาวเซกซี่ DJปิ๊งปิ๊ง จนต้องขอจับ!!
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2020, 14:24:24 »20
xseed คลิป / TALK A DOR FEAT. เอนไซม์ : 10 โหมดหนังยอดนิยมของผู้หญิงในเว็บน้องพอน
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2020, 14:22:34 »21
xseed คลิป / ห้องแห่งความลับ EP. 7 น้องปังปอนด์สาวอกใหญ่ อยาก 3 ต่อ 1 กับพิธีกร งานนี้มีเสียว
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2020, 14:13:20 »22
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Xiao Xiongmao บันนี่เกิร์ลน่าอุ้ม [77P]
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2020, 09:07:13 »
23
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Xiao Xiongmao บันนี่เกิร์ลน่าอุ้ม [77P]
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2020, 09:01:40 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
[/url]
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
[/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url][/url]24
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Yang chen chen (Sugar) กระต่ายสาวคนงาม [80P]
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2020, 16:26:02 »
25
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Yang chen chen (Sugar) กระต่ายสาวคนงาม [80P]
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2020, 16:20:08 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
26
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / โอนิ ฮิโตะคุชิ (鬼一口) ปีศาจกลืนคน
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2020, 15:15:11 »โอนิ ฮิโตะคุชิ (鬼一口) ปีศาจกลืนคน
โอนิ ฮิโตะคุชิ เป็นปีศาจตนหนึ่ง ที่กินคนเป็นอาหาร มีหัวขนาดมหึมา และปากขนาดใหญ่ บ้างก็ว่ามันคล้ายกับ
ปลาปีศาจที่อาศัยในใต้ทะเลลึก มันมีลิ้นยาวทำให้สามารถกวาดเหยื่อเข้าปากได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นยังมีที่เล่าว่าที่ลิ้นมันเปรียบเสมือนเหยื่อล่อ โดยจะมีลักษณะเป็นหัวของหญิงสาวที่งดงาม
เพื่อล่อให้ผู้คนมาช่วยเธอ กว่าจะรู้ตัวก็ไม่เหลือระยะให้หนี โดนตวัดเข้าปากเป็นอาหารของมัน
โดยมีเรื่องเล่าของนิทานอิเซะ ในสมัยเฮอัน เป็นเรื่องเล่าของปีศาจตนนี้มีอยู่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งได้ไปคบหา
ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลาหลายปี แต่เป็นเพราะว่าฐานะทางสังคม ทำให้เขาทั้งคู่ไม่สามารถจะคบกันได้
แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พาผู้หญิงคนนี้หนีออกมาด้วยกัน
ขณะที่กำลังหนีในคืนนั้นเองก็ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้น เขาก็ได้พบกับโกดังร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งประตูนั้น
มันไม่ได้ล็อคอยู่ เขาจึงให้ผู้หญิงเข้าไปหลบข้างในนั้น ส่วนตัวเขาเองจะยืนถือธนูเฝ้าอยู่หน้าห้องรอ
จนกว่าจะรุ่งสาง เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เขาจึงไปแอบดู ก็เห็นผู้หญิงคนนั้น เธอกำลังเป็น
อาหารที่อยู่ในปากของปีศาจยักษ์ตนนี้ที่อยู่ในโกดัง เธอได้กรีดร้องอย่างเสียงดังก่อนที่เธอจะตาย
เสียงนั้นได้เงียบหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยเสียงของฟ้าร้อง
จากเรื่องเล่านี้ ทำให้มีบางคนเชื่อว่า ถ้ามีคนเสียชีวิต หรือ หายไป มักจะบอกว่า
"เป็นฝีมือของปีศาจ"นั่นเอง
โอนิ ฮิโตะคุชิ เป็นปีศาจตนหนึ่ง ที่กินคนเป็นอาหาร มีหัวขนาดมหึมา และปากขนาดใหญ่ บ้างก็ว่ามันคล้ายกับ
ปลาปีศาจที่อาศัยในใต้ทะเลลึก มันมีลิ้นยาวทำให้สามารถกวาดเหยื่อเข้าปากได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นยังมีที่เล่าว่าที่ลิ้นมันเปรียบเสมือนเหยื่อล่อ โดยจะมีลักษณะเป็นหัวของหญิงสาวที่งดงาม
เพื่อล่อให้ผู้คนมาช่วยเธอ กว่าจะรู้ตัวก็ไม่เหลือระยะให้หนี โดนตวัดเข้าปากเป็นอาหารของมัน
โดยมีเรื่องเล่าของนิทานอิเซะ ในสมัยเฮอัน เป็นเรื่องเล่าของปีศาจตนนี้มีอยู่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งได้ไปคบหา
ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลาหลายปี แต่เป็นเพราะว่าฐานะทางสังคม ทำให้เขาทั้งคู่ไม่สามารถจะคบกันได้
แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พาผู้หญิงคนนี้หนีออกมาด้วยกัน
ขณะที่กำลังหนีในคืนนั้นเองก็ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้น เขาก็ได้พบกับโกดังร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งประตูนั้น
มันไม่ได้ล็อคอยู่ เขาจึงให้ผู้หญิงเข้าไปหลบข้างในนั้น ส่วนตัวเขาเองจะยืนถือธนูเฝ้าอยู่หน้าห้องรอ
จนกว่าจะรุ่งสาง เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เขาจึงไปแอบดู ก็เห็นผู้หญิงคนนั้น เธอกำลังเป็น
อาหารที่อยู่ในปากของปีศาจยักษ์ตนนี้ที่อยู่ในโกดัง เธอได้กรีดร้องอย่างเสียงดังก่อนที่เธอจะตาย
เสียงนั้นได้เงียบหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยเสียงของฟ้าร้อง
จากเรื่องเล่านี้ ทำให้มีบางคนเชื่อว่า ถ้ามีคนเสียชีวิต หรือ หายไป มักจะบอกว่า
"เป็นฝีมือของปีศาจ"นั่นเอง
27
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / ยานพาหนะผีสิง (Creepy Vehicles)
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2020, 14:46:15 »ยานพาหนะผีสิง (Creepy Vehicles)
Eastern Air Lines Flight 401
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี 1972 เมื่อเครื่องบินลำนี้ได้ตกลงไปบริวเณบึงในฟลอริด้า ส่งผลทำให้มีคนเสียชีวิต
101 คนและอีกนักบินและวิศวกรการบินสองคน คือ บ๊อบ ลอฟท์ (Bob Loftz) และ วิศวกรของเครื่อง
คือ ดอน เรโป (Don Repo)
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่ากลัวเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเครื่องบินลำที่เกิดเหตุก็ถูกทุบเป็นชิ้นๆ
และเอาบางชิ้นที่ยังสามารถใช้เป็นอะไหล่ได้ถูกถอดมาใช้กับเครื่องบินลำอื่นๆในฝูงบินและนั่นเป็นที่มาของ
ความลึกลับที่เกิดขึ้น เมื่อมีคนพบเห็นผีสองนักบินทั้ง ลอฟท์ และ เรโป ปรากฏตัวบ่อยครั้ง โดยส่วนมาก
จะเห็นทั้งคู่นั่งเงียบๆ ในหมู่ผู้โดยสาร อีกทั้งบางคนยังได้คุยกับวิญญาณทั้งสอง ก่อนที่จะหายไป
ต่อหน้าตาต่อผู้สนทนา
สองผีน่าขนลุกนี้มุกปรากฏในบริเวณที่ใกล้ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่สืบทอดมาจากไฟลท์ 401 แต่ส่วนมาก
วิญญาณไม่ได้หลอกหลอนในลักษณะเป็นภัยคุกคาม แต่เป็นการตื่นภัยที่จะเกิดเครื่องบินลำนั้น เช่น
มีเจ้าหน้าที่ได้เจอใบหน้าลีโปในเตาอบไมโครเวฟ ซึ่งออกมาเตือนว่าในไม่ช้า เครื่องบินลำนั้นเกิดไฟใหม้
เกิดขึ้นในระหว่างการบิน เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นจริงและต้องยกเลิกเที่ยวบินในที่สุด
แม้ว่าทางการสายการบินจะไม่แสดงความคดเห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทุกวันนี้เรื่องราวแปลกประหลาด
ของเครื่องบิน อีสเทอร์น แอรไลน์ ไฟลท์ 401 ยังคงหลอกหลอนเจ้าหน้าที่เครื่องบินต่อไป
หรือแม้แต่รองประธานบริษัทก็ได้พบเห็นผีนักบินมาแล้ว
The Black Volga
ในช่วงยุค 60 และยุค 70 ประชาชนภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต มักมีความกังวลกับสงครามเย็น
ที่อาจเกิดขึ้น และนอกเหนือจากความหวาดกลัวการปกครองคอมมัวนิตส์ที่แสนโหดร้ายแล้ว พวกเขายัง
หวาดกลัวสิ่งที่เรียกว่า “รถโวลก้า” สีดำที่คุกคามชีวิตประจำวันที่สงบสุขของพวกเขา
รถโวลก้าสีดำ เป็นตำนานเมืองที่น่ากลัวและมีชื่อเสียงของโซเวียตในเวลานั้น กล่าวกันว่ามันจะลักพาตัวเด็ก
และฆ่าทุกคนที่เดินเข้ามาใกล้มัน ที่มาของมันลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนขับโวลก้าสีดำและทำไมมัน
ลักพาตัวเด็ก บางคนบอกว่าเป็นเป็นซาตาน ไม่ก็ปีศาจเป็นคนขับ บางคนบอกว่าเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัว
จะถูกนำไปขายให้แก่ชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่ต้องการเลือดมารักษาโรคมะเร็วของพวกเขา ไปจนถึงขายอวัยวะ
และแน่นอนว่าเด็กจะหายไปตลอดกาลหากโดนรถโวลก้าสีดำจับตัวได้
ตำนานของโวลก้าสีดำนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของรัสเซีย เบลารุส ยูเครน โปแลนด์ ไปจนถึงมองโกเลีย
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดสนุบสนุนว่าเป็นเรื่องจริง แต่โวลก้านั้นเป็นรถที่แดงที่สุดของโซเวียตในเวลานั้น
คนที่เป็นเจ้าของได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคอมมิวนิสต์เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านหวาดกลัว
มักหวาดกลัวพวกนี้อยู่แล้ว และน่าจะเป็นที่มาของตำนานเมืองน่ากลัวดังกล่าว
Silverpilen
สตอกโฮล์มเมืองหลวงแห่งความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองสวีเดน ที่นี้ยังตำนานที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไฟใต้ดิน
รถไฟผีที่เรียกว่า Silverpilen (ลูกศรเงิน) ซึ่งเป็นรถไฟรุ่น C5 ที่ปลดประจำการไปแล้วตอนกลางดึกมัก
จะมีคนเห็น รถไฟใต้ดินที่ วิ่งผ่าน สถานีด้วยความเร็วสูงโดยไม่จอดรับผู้โดยสารและไม่มีใครอยู่บนรถทั้งสิ้น
Silverpilen จะเป็นรถไฟผีสิงหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ แต่สิ่งที่รู้คือรถไฟขบวนนี้หลายคนแทบไม่ชอบมันเลย
เพราะเนื่องด้วยการฉาบสีอลูมิเนียมทั้งตัวรถ (จนเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งค่อนข้างน่าขนหัวลุกแก่ผู้พบเห็น
และไม่เคยถูกผลิตจำนวนมาก ทำให้มันเปิดตัวในฐานะรถไฟสำรองในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น มันไม่เคยเข้าไป
อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน จนเป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารลืมเลือนมันไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่า จะปลดระวางไปตั้งแต่ปี 1996 ไปแล้วก็ตาม แต่ทุกวันนี้มันคงหลอกหลอนแก่คนงานรถไฟใต้ดิน
ในอุโมงค์ที่ถูกทิ้งร้างจนถึงทุกวันนี้
The Phantom Bus Of London
ในปี 1934 ของเช้าตรู่ได้มีผู้ขับขี่รถเมล์สองชั้นไปเคมบริดจ์ การ์เดนส์ W11 และด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ
เขาลอนดอนได้หักเลี้ยวรถกะทันหัน จนชนกับกำแพงเข้าอย่างจังและระเบิดจนเกิดเปลวไฟ เขาตายอย่างสยดสยอง
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของรถผีแห่งกรุงลอนดอน
หลังจากนั้นเป็นต้นมาในชั่วโมงแรกๆ ของเช้าวันใหม่ ชาวลอนดอนที่อยู่ในบริเวณเคมบริดจ์ การ์เดนส์ ได้เห็น
รถเมล์สองชั้นลอนดอนผีสิงปรากฏตัว ตัวรถมีสีแดงฉูดฉาด ไฟร้องไปตามถนน ที่น่าขนลุกคือมันไม่มีคนขับ
ไม่มีแสงไฟที่เคยเป็น และมันจะขับไปท้องถนนโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และเมื่อมันจะชนประสานงากับรถ
ที่อยู่ข้างหน้า ทำให้คนขับพยายามต้องหักเลี้ยงออกจากเส้นทางเพื่อเปิดทางให้มัน จากนั้นมันก็ส่งเสียงดัง
ราวกับฟ้าผ่าและเมื่อหันกลับมากก็พบว่า มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่มีใครทราบว่ารถเมล์สองชั้นลอนดอนปรากฏตัวเพื่ออะไรกันแน่ แต่ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นมันคือ
เดือนพฤษภาคม 1990 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นมันอีกเลย
Pippo, The Ghost Plane
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวอิตาเลียนต้องตกระกำลำบากอย่างหนัก ทั้งจากรัฐบาลฟาซิสของตัวเองและ
พันธมิตรนาซี อีกทั้งกองทัพสัมพันธมิตรยังตราหน้าว่าพวกเขาเป็นศัตรู แต่ถึงกระนั้นประชาชนที่อยู่ทาง
ภาคเหนือของอิตาลีใต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่ใหญ่กว่า (และแปลกกว่า) นั่นคือเครื่องบินลึกลับ
ที่เรียกว่า ปิปโป (Pippo)
ไม่มีใครรู้ว่า ปิปโป มาจากไหน เป็นเครื่องบินรุ่นอะไร หรือใครขับ แม้กระทั่งว่ามันเป็นของฝ่ายไหนก็ไม่มีใครรู้
ปิปโป อยู่ๆก็โพล่มาและยิงปืนกลถล่มใส่ทุกคนที่ขวางเส้นทางบินของมัน มันเป็นที่จดจำด้วยเสียงเครื่องยนต์
อันเป็นเอกลักษณ์ที่ดัง "ปิบ-ปิบ" (อันเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งส่วนมากจะได้ยินยามค่ำคืน
หลายคนกลัวปิปโป ถึงขนาดตอนกลางคืนพวกเขาจะปิดกั้นไม่ให้แสงไฟในบ้านลอดออกไปด้านนอกได้
เพื่อไม่ให้กลายเป็นเป้าให้โดน ปิปโป ยิงถล่ม กระสุนของมันนั่นว่ากันว่ามีหลากหลาย ตั้งแต่ ปากการะเบิด
ลูกอมยาพิษ และ ระเบิดร้ายแรง และถ้ามันมันเกิดเบื่อขึ้นมามันก็จะยิงถล่มพวกชาวไร่ชาวนาผู้บริสุทธิเล่น
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าตัวจริงของปิปโป น่าจะเป็นเครื่องบินลาดตระเวณของอังกฤษ รูปแบบ de Havilland
Mosquito ที่มีรูปลักษณ์และเสียงเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับ ปิปโป ซึ่งบินผ่านภูมิภาคนี้ยามค่ำคืน
แต่กระนั้น ปิปโป ก็ยังเป็นเครื่องบินผีที่ยังหลอกหลอนอยู่ในความทรงจำของคนในแถบอิตาลีตอนเหนืออยู่เช่นเดิม
The Jumping Car Of Cape Town
เรื่องของรถเคลื่อนที่ได้อีกเองราวกับมีชีวิตนั้น เกิดขึ้นที่เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ ครอบครัวของ Ian Schietekat
และแขกที่มาพัก ได้ตื่นขึ้นมากลางตึก เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นข้างนอก และเมื่อพวกเขาออกมาหาที่มาของเสียง
ก็พบว่ารถยนตร์เรโนลต์เกิดอาการกุกๆ กักๆ แล้วกระโดดไปรอบๆ ลาน แล้วทำลายรั้ว ก่อนที่จะหยุดกับที่
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามีคนพยายามขโมยรถ หากแต่เมื่อตรวจสอบข้างในรถก็พบว่ารถไม่มีคนขับเลย
แม้แต่น้อย และสภาพข้างในรถยังปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกทั้งบริเวณบ้านของพวกเขาก็ไม่มีร่องรอย
คนบุกรุกแต่อย่างใดอีก
เมื่อตำรวจมาถึง แน่นอนเขาไม่เชื่อคำพูดของพยานว่ารถเคลื่อนที่กระโดดไปมาได้อีก.... แต่ทันใดนั้นจู่ๆ
รถก็เปิดไฟหน้าเอง และมันก็วิ่งตรงไปหาเจ้าหน้าที่ ส่งเสียงคำราม และเริ่มกระโดดไปข้างล่าง
จนชนกับต้นไม้ ทำให้มันหยุดอีกครั้ง
หลังจากสืบสวนก็พบว่าสาเหตุที่รถกระโดดได้เองก็จากระบบสตาร์ทเกิดสนิท อย่างไรก็ตามพวกเขา
ไม่สามารถอธิบายเสียงคำรามของรถได้เลยว่าเกิดจากอะไรกันแน่!?
Abraham Lincoln's Phantom Train
หนึ่งในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่รู้จักกันมากที่สุดเป็น
"รถไฟผีลิงคอล์น” กล่าวกันว่าเป็นรถไอน้ำที่จะวิ่งผ่าน 180 เมืองทุกเดือนเมษายน และจุดหมายของมัน
คือสปริงฟิลด์สถานที่พักผ่อนแห่งสุดท้ายหลังเสียชีวิตของอับราฮัม ลินคอล์น แม้ไม่เห็นตัวอับราฮัม
แต่ในขณะที่รถไฟผีปรากฏนาฬิกาจะหยุดเดิน รถไฟก็จะโผล่ออกมาจากเมฆหนาซึ่งเป็นหมอกสีดำหนา
และจะเห็นโลงศพถูกปกคลุมด้วยผ่ธงชาติอเมริกันและมีทหารยืนอยู่ล้อมรอบ ราวกับขบวนแห่ศพในวันที่
ประธานาธิบดีเสียชีวิตก็ว่าได้
The Cursed Car Of Franz Ferdinand
บริษัท Graf & Stift เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตรถที่มีชื่อเสียง ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น รถของพวกเขา
เพิ่งประสบความสำเร็จได้กลายเป็นรถสำหรับผู้มีชื่อเสียงเป็นที่เรียบร้อย แต่น่าเศร้าเมื่อรถของเขาได้ถูกจารึกว่า
เป็นรถที่ ท่านดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ประทับพร้อมกับพระชายาก่อนที่จะถูกยิงลอบปลงพระชนม์ทั้งคู่ที่เมือง
ซาราเยโว ซึ่งการลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1
ที่น่าตกใจคือรถที่ท่านดยุคเฟอร์ดินานด์ประทับ คือรถ 1910 Graf & Stift Double Phaeton เป็นรถ
ที่มีตำนานน่ากลัวในช่วง 12 ปีก่อนที่ท่านดยุคจะประทับนั้น มันผ่านมือเจ้าของกว่า 15 รายและเจ้าของ
ทุกรายล้วนประสบชะตากรรมที่น่าสยดสยอง บางคนประสบกับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต บางคนกลายเป็นบ้า
และเสียชีวิต บางคนเพียงเก้าวันหลังจากซื้อรถก็ได้ฆ่าตัวตายอย่างลึกลับ
และเลวร้ายยิ่งกว่าผู้ว่าการรัฐยูโกสลาเวียได้รับอุบัติเหตุที่สี่แยกหลังจากครอบครองรถจนต้องเสียแขนเขาไป
ต่อมาเพื่อนที่เป็นแพทย์ก็ขอซื้อรถคำสาปนี้และหลังจากที่นั่งก็เกิดพลิกคว่ำและร่างก็ถูกบดอย่างสยดสยอง
ต่อมาเจ้าของที่เป็นนักขับรถแข่งชาวสวิสก็ได้รับชะตากรรมเดียวกัน แม้แต่เกษตรกรเซอร์เบียที่ไม่เคยมีโอกาส
ที่จะได้ขับรถคันนี้ยังถูกล้มทับร่างของเขาในระหว่างการลากจูง
เจ้าของคนสุดท้ายเป็นคนโรมาเนียที่แสนโชคร้าย เพราะระหว่างที่เขากำลังเดินทางด้วยรถคนนี้เพื่อไปแต่งงาน
กับเพื่อนห้าคน หากแต่ระหว่างทางรถก็หมุนและออกจากการควบคุม รถเกิดอุบัติเหตุเขากับเพื่อตายหมด
แน่นอนว่าไม่มีสิ่งอธิบายได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสาปหรือเปล่า แต่สิ่งที่บอกได้ก็คือรถของท่าน
ดยุคเฟอร์ดินานด์ได้รถที่มีส่วนเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัจจุบันท่านสามารถเห็นรถที่มีชื่อเสียงได้ในพิพิธภัณฑ์ออสเตรีย
James Dean's Porsche Spyder
วันที่ 30 กันยายน 1955 เจมส์ ดีน ดาราหนุ่มหล่อแห่งยุค ที่มากด้วยพรสวรรค์ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร
เพราะอุบัติเหตุจากการขับรถ Porsche 550 Spyder สีเงินเปิดประทุนคู่ใจของเขา (คนขับคือช่างยนต์
ประจำตัวของดีน) ที่ทางหลวงสาย 466 ช่วงเมืองโชเลม แคลิฟอร์เนีย
ผลจากอุบัติเหตุเจมส์ ดีน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจในเวลาต่อมา และ
หลังจากเจมส์ดีนเสียชีวิต รถของเจมส์ ดีน ถูกนำนำมาซ่อมใหม่ และขายต่อเป็นทอดๆ และเจ้าของที่ได้
รถคนนั้นไปก็ประสบชะตากรรมที่เคราะห์ร้ายต่างๆ นาๆ จนหลายๆ คนเชื่อว่ามันเป็นรถอาถรรพ์
เพราะเจมส์ดีนห่วงรถคนนี้มาก
รายแรกคือนาย จอร์จ (George Barris) ซึ่งเป็นผู้ปรับแต่งรถแข่งคันนี้ ซื้อซากรถในราคา $ 2,500
หายนะก็เกิดขึ้นเมื่อในขณะที่ตรวจสอบสภาพอยู่นั้น จู่ ๆ ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อันหนักอึ้งก็หล่นลงมา
ทับขาของช่างซ่อมคนนั้น จนกระดูกขาแหลกละเอียดทั้ง 2 ข้าง
ต่อมาสองนายแพทย์ทรอย แม็คอองรี(Troy McHenry) และวิลเลียม (William Eschid) ที่ได้ซื้อ
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากรถมรณะคันนี้ไปใส่ในรถ แข่งของเขา ต่อมาพวก เค้าก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ระหว่างแข่งขัน สาเหตุเกิดจากการที่รถยนต์ของเขาควบคุมไม่ได้ แล้วมันก็พุ่งเข้าชนรถแข่งคันอื่น ๆ
จนเหตุให้แม็คอองรีตาย
จากนั้นหลังจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ ตำรวจทางหลวง California Highway Patrol ได้ขอยืมซากรถคันนี้
เพื่อไปใช้ในการรณรงค์การลดอุบัติเหตุบนทางหลวง ในช่วงปี 1958-1959 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
เพราะมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึงบ่อยครั้ง เช่น ซากรถได้เลื่อนไถลไปทับเด็กนักเรียนในระหว่างการขนย้ายที่
โรงเรียนใน Sacramento และท้ายที่สุดในปี 1960 หลังจากที่ตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียส่งซากรถ
Little Bastard กลับคืนให้เจ้าของที่ลอสแองเจลีส และก็ปล่อยทิ้งเจ้ารถมรณะไว้ไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวอีก
จนกระทั่งปี 1960 ซากรถมรณะก็หายไปอย่างลึกลับไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยจนปัจจุบัน
The Haunted German War Submarine
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เรือดำน้ำเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมาก หนึ่งในรุ่นที่อันตรายมากที่สุดคือ
เรือดำน้ำของเยอรมันชั้น UB III ด้วยสถิตจมเรือไปกว่า 507 รวมถึงเรือประจันบาน HMS Britania
จนเป็นที่หวาดกลัวของเรือรบอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม เรือดำน้ำ UB III เป็นเรือที่ไม่ได้อันตรายเฉพาะฝ่ายศัตรูเท่านั้น มันยังเป็นอันตรายต่อ
ลูกเรือของมันเอง หายนะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต่อเรือเจ้าหน้าที่สามคนขาดอากาศหายใจเพราะไอจากเครื่องดีเซล
อีกสองคนโดนนั่งร้านตกลงมาขยี้เละ ช่วงที่เอาเรืออกทดสอบ ลูกเรือคนหนึ่งถูกคลื่นพัดจมทะเลหายสาบสูญ
ในการทดสอบครั้งแรกเรือก็จมลงก้นทะเลเพราะถังบัลลาสต์แตกทำให้ลูกเรือติดอยู่ในเรือหลายชั่วโมง
โดยที่ช่วยตัวเองไม่ได้ อีกทั้งแบตเตอรี่ที่เสียหายเริ่มปล่อยแก๊สพิษออกมาทีละน้อย ถึงแม้ว่าจะกู้เรือ
ขึ้นมาได้สำเร็จแต่ลูกเรือป่วยหนักกันเกือบหมด และตายไปสองคนเพราะแก๊สพิษ
อย่างไรก็ตามเรือดำน้ำยังคงใช้งานได้ มันจึงปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง หากแต่ก็เกิดปัญหาตามมาอีก
ในภารกิจช่วงแรกตอปิโดเกิดขัดข้องทำให้ลูกเรือตายไป 8 และนายทหารตายอีก 1 หลังจากนั้น
นายทหารคนนี้ก็เริ่มหลอกหลอนคนในเรือลำนี้ หลังจากนั้นไม่นานกัปตันเรือก็โดนสะเก็ดชิ้นส่วน
ปลิวมาตัดหัวขาด คืนวันนั้นลูกเรือหลายคนเห็นผีกัปตันเฝ้าร่างที่ไร้หัวของตัวเอง
ในที่สุดลูกเรือทุกคนทนไม่ไหวและขอย้ายกันหมดแต่กองทัพเรือหาตำแหน่งอื่นให้ไม่ได้เลยทำพิธี
ไล่วิญญาณให้แทน ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลย หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ถูกเรือดำน้ำของสหรัฐซุ่มโจมตี
หากแต่จากคำให้การของกัปตันเรือดำน้ำอเมริกันบอกว่า กลับบอกว่าพวกเขาไม่มีโอกาสจะได้ยิงเลย
สรุปคือเรือดำน้ำระเบิดขึ้นมาเอง!!
อ้างอิง
http://listverse.com/2013/07/16/10-creepy-and-mysterious-phantom-vehicles/
Eastern Air Lines Flight 401
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี 1972 เมื่อเครื่องบินลำนี้ได้ตกลงไปบริวเณบึงในฟลอริด้า ส่งผลทำให้มีคนเสียชีวิต
101 คนและอีกนักบินและวิศวกรการบินสองคน คือ บ๊อบ ลอฟท์ (Bob Loftz) และ วิศวกรของเครื่อง
คือ ดอน เรโป (Don Repo)
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่ากลัวเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเครื่องบินลำที่เกิดเหตุก็ถูกทุบเป็นชิ้นๆ
และเอาบางชิ้นที่ยังสามารถใช้เป็นอะไหล่ได้ถูกถอดมาใช้กับเครื่องบินลำอื่นๆในฝูงบินและนั่นเป็นที่มาของ
ความลึกลับที่เกิดขึ้น เมื่อมีคนพบเห็นผีสองนักบินทั้ง ลอฟท์ และ เรโป ปรากฏตัวบ่อยครั้ง โดยส่วนมาก
จะเห็นทั้งคู่นั่งเงียบๆ ในหมู่ผู้โดยสาร อีกทั้งบางคนยังได้คุยกับวิญญาณทั้งสอง ก่อนที่จะหายไป
ต่อหน้าตาต่อผู้สนทนา
สองผีน่าขนลุกนี้มุกปรากฏในบริเวณที่ใกล้ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่สืบทอดมาจากไฟลท์ 401 แต่ส่วนมาก
วิญญาณไม่ได้หลอกหลอนในลักษณะเป็นภัยคุกคาม แต่เป็นการตื่นภัยที่จะเกิดเครื่องบินลำนั้น เช่น
มีเจ้าหน้าที่ได้เจอใบหน้าลีโปในเตาอบไมโครเวฟ ซึ่งออกมาเตือนว่าในไม่ช้า เครื่องบินลำนั้นเกิดไฟใหม้
เกิดขึ้นในระหว่างการบิน เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นจริงและต้องยกเลิกเที่ยวบินในที่สุด
แม้ว่าทางการสายการบินจะไม่แสดงความคดเห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทุกวันนี้เรื่องราวแปลกประหลาด
ของเครื่องบิน อีสเทอร์น แอรไลน์ ไฟลท์ 401 ยังคงหลอกหลอนเจ้าหน้าที่เครื่องบินต่อไป
หรือแม้แต่รองประธานบริษัทก็ได้พบเห็นผีนักบินมาแล้ว
The Black Volga
ในช่วงยุค 60 และยุค 70 ประชาชนภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต มักมีความกังวลกับสงครามเย็น
ที่อาจเกิดขึ้น และนอกเหนือจากความหวาดกลัวการปกครองคอมมัวนิตส์ที่แสนโหดร้ายแล้ว พวกเขายัง
หวาดกลัวสิ่งที่เรียกว่า “รถโวลก้า” สีดำที่คุกคามชีวิตประจำวันที่สงบสุขของพวกเขา
รถโวลก้าสีดำ เป็นตำนานเมืองที่น่ากลัวและมีชื่อเสียงของโซเวียตในเวลานั้น กล่าวกันว่ามันจะลักพาตัวเด็ก
และฆ่าทุกคนที่เดินเข้ามาใกล้มัน ที่มาของมันลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนขับโวลก้าสีดำและทำไมมัน
ลักพาตัวเด็ก บางคนบอกว่าเป็นเป็นซาตาน ไม่ก็ปีศาจเป็นคนขับ บางคนบอกว่าเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัว
จะถูกนำไปขายให้แก่ชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่ต้องการเลือดมารักษาโรคมะเร็วของพวกเขา ไปจนถึงขายอวัยวะ
และแน่นอนว่าเด็กจะหายไปตลอดกาลหากโดนรถโวลก้าสีดำจับตัวได้
ตำนานของโวลก้าสีดำนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของรัสเซีย เบลารุส ยูเครน โปแลนด์ ไปจนถึงมองโกเลีย
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดสนุบสนุนว่าเป็นเรื่องจริง แต่โวลก้านั้นเป็นรถที่แดงที่สุดของโซเวียตในเวลานั้น
คนที่เป็นเจ้าของได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคอมมิวนิสต์เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านหวาดกลัว
มักหวาดกลัวพวกนี้อยู่แล้ว และน่าจะเป็นที่มาของตำนานเมืองน่ากลัวดังกล่าว
Silverpilen
สตอกโฮล์มเมืองหลวงแห่งความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองสวีเดน ที่นี้ยังตำนานที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไฟใต้ดิน
รถไฟผีที่เรียกว่า Silverpilen (ลูกศรเงิน) ซึ่งเป็นรถไฟรุ่น C5 ที่ปลดประจำการไปแล้วตอนกลางดึกมัก
จะมีคนเห็น รถไฟใต้ดินที่ วิ่งผ่าน สถานีด้วยความเร็วสูงโดยไม่จอดรับผู้โดยสารและไม่มีใครอยู่บนรถทั้งสิ้น
Silverpilen จะเป็นรถไฟผีสิงหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ แต่สิ่งที่รู้คือรถไฟขบวนนี้หลายคนแทบไม่ชอบมันเลย
เพราะเนื่องด้วยการฉาบสีอลูมิเนียมทั้งตัวรถ (จนเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งค่อนข้างน่าขนหัวลุกแก่ผู้พบเห็น
และไม่เคยถูกผลิตจำนวนมาก ทำให้มันเปิดตัวในฐานะรถไฟสำรองในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น มันไม่เคยเข้าไป
อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน จนเป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารลืมเลือนมันไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่า จะปลดระวางไปตั้งแต่ปี 1996 ไปแล้วก็ตาม แต่ทุกวันนี้มันคงหลอกหลอนแก่คนงานรถไฟใต้ดิน
ในอุโมงค์ที่ถูกทิ้งร้างจนถึงทุกวันนี้
The Phantom Bus Of London
ในปี 1934 ของเช้าตรู่ได้มีผู้ขับขี่รถเมล์สองชั้นไปเคมบริดจ์ การ์เดนส์ W11 และด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ
เขาลอนดอนได้หักเลี้ยวรถกะทันหัน จนชนกับกำแพงเข้าอย่างจังและระเบิดจนเกิดเปลวไฟ เขาตายอย่างสยดสยอง
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของรถผีแห่งกรุงลอนดอน
หลังจากนั้นเป็นต้นมาในชั่วโมงแรกๆ ของเช้าวันใหม่ ชาวลอนดอนที่อยู่ในบริเวณเคมบริดจ์ การ์เดนส์ ได้เห็น
รถเมล์สองชั้นลอนดอนผีสิงปรากฏตัว ตัวรถมีสีแดงฉูดฉาด ไฟร้องไปตามถนน ที่น่าขนลุกคือมันไม่มีคนขับ
ไม่มีแสงไฟที่เคยเป็น และมันจะขับไปท้องถนนโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และเมื่อมันจะชนประสานงากับรถ
ที่อยู่ข้างหน้า ทำให้คนขับพยายามต้องหักเลี้ยงออกจากเส้นทางเพื่อเปิดทางให้มัน จากนั้นมันก็ส่งเสียงดัง
ราวกับฟ้าผ่าและเมื่อหันกลับมากก็พบว่า มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่มีใครทราบว่ารถเมล์สองชั้นลอนดอนปรากฏตัวเพื่ออะไรกันแน่ แต่ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นมันคือ
เดือนพฤษภาคม 1990 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นมันอีกเลย
Pippo, The Ghost Plane
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวอิตาเลียนต้องตกระกำลำบากอย่างหนัก ทั้งจากรัฐบาลฟาซิสของตัวเองและ
พันธมิตรนาซี อีกทั้งกองทัพสัมพันธมิตรยังตราหน้าว่าพวกเขาเป็นศัตรู แต่ถึงกระนั้นประชาชนที่อยู่ทาง
ภาคเหนือของอิตาลีใต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่ใหญ่กว่า (และแปลกกว่า) นั่นคือเครื่องบินลึกลับ
ที่เรียกว่า ปิปโป (Pippo)
ไม่มีใครรู้ว่า ปิปโป มาจากไหน เป็นเครื่องบินรุ่นอะไร หรือใครขับ แม้กระทั่งว่ามันเป็นของฝ่ายไหนก็ไม่มีใครรู้
ปิปโป อยู่ๆก็โพล่มาและยิงปืนกลถล่มใส่ทุกคนที่ขวางเส้นทางบินของมัน มันเป็นที่จดจำด้วยเสียงเครื่องยนต์
อันเป็นเอกลักษณ์ที่ดัง "ปิบ-ปิบ" (อันเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งส่วนมากจะได้ยินยามค่ำคืน
หลายคนกลัวปิปโป ถึงขนาดตอนกลางคืนพวกเขาจะปิดกั้นไม่ให้แสงไฟในบ้านลอดออกไปด้านนอกได้
เพื่อไม่ให้กลายเป็นเป้าให้โดน ปิปโป ยิงถล่ม กระสุนของมันนั่นว่ากันว่ามีหลากหลาย ตั้งแต่ ปากการะเบิด
ลูกอมยาพิษ และ ระเบิดร้ายแรง และถ้ามันมันเกิดเบื่อขึ้นมามันก็จะยิงถล่มพวกชาวไร่ชาวนาผู้บริสุทธิเล่น
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าตัวจริงของปิปโป น่าจะเป็นเครื่องบินลาดตระเวณของอังกฤษ รูปแบบ de Havilland
Mosquito ที่มีรูปลักษณ์และเสียงเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับ ปิปโป ซึ่งบินผ่านภูมิภาคนี้ยามค่ำคืน
แต่กระนั้น ปิปโป ก็ยังเป็นเครื่องบินผีที่ยังหลอกหลอนอยู่ในความทรงจำของคนในแถบอิตาลีตอนเหนืออยู่เช่นเดิม
The Jumping Car Of Cape Town
เรื่องของรถเคลื่อนที่ได้อีกเองราวกับมีชีวิตนั้น เกิดขึ้นที่เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ ครอบครัวของ Ian Schietekat
และแขกที่มาพัก ได้ตื่นขึ้นมากลางตึก เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นข้างนอก และเมื่อพวกเขาออกมาหาที่มาของเสียง
ก็พบว่ารถยนตร์เรโนลต์เกิดอาการกุกๆ กักๆ แล้วกระโดดไปรอบๆ ลาน แล้วทำลายรั้ว ก่อนที่จะหยุดกับที่
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามีคนพยายามขโมยรถ หากแต่เมื่อตรวจสอบข้างในรถก็พบว่ารถไม่มีคนขับเลย
แม้แต่น้อย และสภาพข้างในรถยังปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกทั้งบริเวณบ้านของพวกเขาก็ไม่มีร่องรอย
คนบุกรุกแต่อย่างใดอีก
เมื่อตำรวจมาถึง แน่นอนเขาไม่เชื่อคำพูดของพยานว่ารถเคลื่อนที่กระโดดไปมาได้อีก.... แต่ทันใดนั้นจู่ๆ
รถก็เปิดไฟหน้าเอง และมันก็วิ่งตรงไปหาเจ้าหน้าที่ ส่งเสียงคำราม และเริ่มกระโดดไปข้างล่าง
จนชนกับต้นไม้ ทำให้มันหยุดอีกครั้ง
หลังจากสืบสวนก็พบว่าสาเหตุที่รถกระโดดได้เองก็จากระบบสตาร์ทเกิดสนิท อย่างไรก็ตามพวกเขา
ไม่สามารถอธิบายเสียงคำรามของรถได้เลยว่าเกิดจากอะไรกันแน่!?
Abraham Lincoln's Phantom Train
หนึ่งในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่รู้จักกันมากที่สุดเป็น
"รถไฟผีลิงคอล์น” กล่าวกันว่าเป็นรถไอน้ำที่จะวิ่งผ่าน 180 เมืองทุกเดือนเมษายน และจุดหมายของมัน
คือสปริงฟิลด์สถานที่พักผ่อนแห่งสุดท้ายหลังเสียชีวิตของอับราฮัม ลินคอล์น แม้ไม่เห็นตัวอับราฮัม
แต่ในขณะที่รถไฟผีปรากฏนาฬิกาจะหยุดเดิน รถไฟก็จะโผล่ออกมาจากเมฆหนาซึ่งเป็นหมอกสีดำหนา
และจะเห็นโลงศพถูกปกคลุมด้วยผ่ธงชาติอเมริกันและมีทหารยืนอยู่ล้อมรอบ ราวกับขบวนแห่ศพในวันที่
ประธานาธิบดีเสียชีวิตก็ว่าได้
The Cursed Car Of Franz Ferdinand
บริษัท Graf & Stift เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตรถที่มีชื่อเสียง ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น รถของพวกเขา
เพิ่งประสบความสำเร็จได้กลายเป็นรถสำหรับผู้มีชื่อเสียงเป็นที่เรียบร้อย แต่น่าเศร้าเมื่อรถของเขาได้ถูกจารึกว่า
เป็นรถที่ ท่านดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ประทับพร้อมกับพระชายาก่อนที่จะถูกยิงลอบปลงพระชนม์ทั้งคู่ที่เมือง
ซาราเยโว ซึ่งการลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1
ที่น่าตกใจคือรถที่ท่านดยุคเฟอร์ดินานด์ประทับ คือรถ 1910 Graf & Stift Double Phaeton เป็นรถ
ที่มีตำนานน่ากลัวในช่วง 12 ปีก่อนที่ท่านดยุคจะประทับนั้น มันผ่านมือเจ้าของกว่า 15 รายและเจ้าของ
ทุกรายล้วนประสบชะตากรรมที่น่าสยดสยอง บางคนประสบกับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต บางคนกลายเป็นบ้า
และเสียชีวิต บางคนเพียงเก้าวันหลังจากซื้อรถก็ได้ฆ่าตัวตายอย่างลึกลับ
และเลวร้ายยิ่งกว่าผู้ว่าการรัฐยูโกสลาเวียได้รับอุบัติเหตุที่สี่แยกหลังจากครอบครองรถจนต้องเสียแขนเขาไป
ต่อมาเพื่อนที่เป็นแพทย์ก็ขอซื้อรถคำสาปนี้และหลังจากที่นั่งก็เกิดพลิกคว่ำและร่างก็ถูกบดอย่างสยดสยอง
ต่อมาเจ้าของที่เป็นนักขับรถแข่งชาวสวิสก็ได้รับชะตากรรมเดียวกัน แม้แต่เกษตรกรเซอร์เบียที่ไม่เคยมีโอกาส
ที่จะได้ขับรถคันนี้ยังถูกล้มทับร่างของเขาในระหว่างการลากจูง
เจ้าของคนสุดท้ายเป็นคนโรมาเนียที่แสนโชคร้าย เพราะระหว่างที่เขากำลังเดินทางด้วยรถคนนี้เพื่อไปแต่งงาน
กับเพื่อนห้าคน หากแต่ระหว่างทางรถก็หมุนและออกจากการควบคุม รถเกิดอุบัติเหตุเขากับเพื่อตายหมด
แน่นอนว่าไม่มีสิ่งอธิบายได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสาปหรือเปล่า แต่สิ่งที่บอกได้ก็คือรถของท่าน
ดยุคเฟอร์ดินานด์ได้รถที่มีส่วนเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัจจุบันท่านสามารถเห็นรถที่มีชื่อเสียงได้ในพิพิธภัณฑ์ออสเตรีย
James Dean's Porsche Spyder
วันที่ 30 กันยายน 1955 เจมส์ ดีน ดาราหนุ่มหล่อแห่งยุค ที่มากด้วยพรสวรรค์ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร
เพราะอุบัติเหตุจากการขับรถ Porsche 550 Spyder สีเงินเปิดประทุนคู่ใจของเขา (คนขับคือช่างยนต์
ประจำตัวของดีน) ที่ทางหลวงสาย 466 ช่วงเมืองโชเลม แคลิฟอร์เนีย
ผลจากอุบัติเหตุเจมส์ ดีน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจในเวลาต่อมา และ
หลังจากเจมส์ดีนเสียชีวิต รถของเจมส์ ดีน ถูกนำนำมาซ่อมใหม่ และขายต่อเป็นทอดๆ และเจ้าของที่ได้
รถคนนั้นไปก็ประสบชะตากรรมที่เคราะห์ร้ายต่างๆ นาๆ จนหลายๆ คนเชื่อว่ามันเป็นรถอาถรรพ์
เพราะเจมส์ดีนห่วงรถคนนี้มาก
รายแรกคือนาย จอร์จ (George Barris) ซึ่งเป็นผู้ปรับแต่งรถแข่งคันนี้ ซื้อซากรถในราคา $ 2,500
หายนะก็เกิดขึ้นเมื่อในขณะที่ตรวจสอบสภาพอยู่นั้น จู่ ๆ ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อันหนักอึ้งก็หล่นลงมา
ทับขาของช่างซ่อมคนนั้น จนกระดูกขาแหลกละเอียดทั้ง 2 ข้าง
ต่อมาสองนายแพทย์ทรอย แม็คอองรี(Troy McHenry) และวิลเลียม (William Eschid) ที่ได้ซื้อ
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากรถมรณะคันนี้ไปใส่ในรถ แข่งของเขา ต่อมาพวก เค้าก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ระหว่างแข่งขัน สาเหตุเกิดจากการที่รถยนต์ของเขาควบคุมไม่ได้ แล้วมันก็พุ่งเข้าชนรถแข่งคันอื่น ๆ
จนเหตุให้แม็คอองรีตาย
จากนั้นหลังจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ ตำรวจทางหลวง California Highway Patrol ได้ขอยืมซากรถคันนี้
เพื่อไปใช้ในการรณรงค์การลดอุบัติเหตุบนทางหลวง ในช่วงปี 1958-1959 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
เพราะมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึงบ่อยครั้ง เช่น ซากรถได้เลื่อนไถลไปทับเด็กนักเรียนในระหว่างการขนย้ายที่
โรงเรียนใน Sacramento และท้ายที่สุดในปี 1960 หลังจากที่ตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียส่งซากรถ
Little Bastard กลับคืนให้เจ้าของที่ลอสแองเจลีส และก็ปล่อยทิ้งเจ้ารถมรณะไว้ไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวอีก
จนกระทั่งปี 1960 ซากรถมรณะก็หายไปอย่างลึกลับไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยจนปัจจุบัน
The Haunted German War Submarine
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เรือดำน้ำเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมาก หนึ่งในรุ่นที่อันตรายมากที่สุดคือ
เรือดำน้ำของเยอรมันชั้น UB III ด้วยสถิตจมเรือไปกว่า 507 รวมถึงเรือประจันบาน HMS Britania
จนเป็นที่หวาดกลัวของเรือรบอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม เรือดำน้ำ UB III เป็นเรือที่ไม่ได้อันตรายเฉพาะฝ่ายศัตรูเท่านั้น มันยังเป็นอันตรายต่อ
ลูกเรือของมันเอง หายนะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต่อเรือเจ้าหน้าที่สามคนขาดอากาศหายใจเพราะไอจากเครื่องดีเซล
อีกสองคนโดนนั่งร้านตกลงมาขยี้เละ ช่วงที่เอาเรืออกทดสอบ ลูกเรือคนหนึ่งถูกคลื่นพัดจมทะเลหายสาบสูญ
ในการทดสอบครั้งแรกเรือก็จมลงก้นทะเลเพราะถังบัลลาสต์แตกทำให้ลูกเรือติดอยู่ในเรือหลายชั่วโมง
โดยที่ช่วยตัวเองไม่ได้ อีกทั้งแบตเตอรี่ที่เสียหายเริ่มปล่อยแก๊สพิษออกมาทีละน้อย ถึงแม้ว่าจะกู้เรือ
ขึ้นมาได้สำเร็จแต่ลูกเรือป่วยหนักกันเกือบหมด และตายไปสองคนเพราะแก๊สพิษ
อย่างไรก็ตามเรือดำน้ำยังคงใช้งานได้ มันจึงปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง หากแต่ก็เกิดปัญหาตามมาอีก
ในภารกิจช่วงแรกตอปิโดเกิดขัดข้องทำให้ลูกเรือตายไป 8 และนายทหารตายอีก 1 หลังจากนั้น
นายทหารคนนี้ก็เริ่มหลอกหลอนคนในเรือลำนี้ หลังจากนั้นไม่นานกัปตันเรือก็โดนสะเก็ดชิ้นส่วน
ปลิวมาตัดหัวขาด คืนวันนั้นลูกเรือหลายคนเห็นผีกัปตันเฝ้าร่างที่ไร้หัวของตัวเอง
ในที่สุดลูกเรือทุกคนทนไม่ไหวและขอย้ายกันหมดแต่กองทัพเรือหาตำแหน่งอื่นให้ไม่ได้เลยทำพิธี
ไล่วิญญาณให้แทน ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลย หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ถูกเรือดำน้ำของสหรัฐซุ่มโจมตี
หากแต่จากคำให้การของกัปตันเรือดำน้ำอเมริกันบอกว่า กลับบอกว่าพวกเขาไม่มีโอกาสจะได้ยิงเลย
สรุปคือเรือดำน้ำระเบิดขึ้นมาเอง!!
อ้างอิง
http://listverse.com/2013/07/16/10-creepy-and-mysterious-phantom-vehicles/
28
CMX AV Recommend / [AV DEBUT] Aoyama Mizuho อดีตนางแบบชุดว่ายน้ำ สมญา "God BODY"
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 15:28:11 »[AV DEBUT] Aoyama Mizuho
อดีตนางแบบชุดว่ายน้ำ สมญา "God BODY"
Aoyama Mizuho หน้าใหม่วัยมีผัวแล้ว ของค่าย Madonna แต่อายุอานามถือว่ายังต้นๆเพียง 32 ปี
อดีตเธอเคยเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำหุ่นดีถึงขั้นคนในวงกรยกให้เป็น "God BODY" โดยสามีของเธอ
เป็นอดีตนักกีฬาเบสบอล และตอนนี้ก็เป็นผู้จัดการชมรมเบสบอลในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากเรา
จะได้ชมหุ่นสวยของเธอ ที่มาพร้อมหน้าอกคัพ F ยังได้ดูเธอโดนกระทำในหลายหลายรูปแบบ
รายละเอียดเพิ่มเติม
อดีตนางแบบชุดว่ายน้ำ สมญา "God BODY"
Aoyama Mizuho หน้าใหม่วัยมีผัวแล้ว ของค่าย Madonna แต่อายุอานามถือว่ายังต้นๆเพียง 32 ปี
อดีตเธอเคยเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำหุ่นดีถึงขั้นคนในวงกรยกให้เป็น "God BODY" โดยสามีของเธอ
เป็นอดีตนักกีฬาเบสบอล และตอนนี้ก็เป็นผู้จัดการชมรมเบสบอลในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากเรา
จะได้ชมหุ่นสวยของเธอ ที่มาพร้อมหน้าอกคัพ F ยังได้ดูเธอโดนกระทำในหลายหลายรูปแบบ
รายละเอียดเพิ่มเติม
29
CMX AV Recommend / [AV DEBUT] Kuriyama Rio พี่สาวตัวเล็ก คุณภาพแน่น
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 14:55:41 »[AV DEBUT] Kuriyama Rio พี่สาวตัวเล็ก คุณภาพแน่น
คุ้นเคยกันดีกับชื่อผลงานซีรี่ย์ FIRST IMPRESSION เปิดตัวหน้าใหม่ของ IDEA POCKET ในเดือนนี้ก็ได้
เปิดตัว Kuriyama Rio ไม่ได้แจ้งอายุเอาไว้ แต่คำโปรยเขียนว่า พี่สาวสุดน่ารักผู้มีความสูง 148 cm
นอกจากนั้นยังมีหน้าอกใหญ่ที่มีสัดส่วนสมบูรณ์สวยงาม แม้ว่าเธอจะช่วยตัวเองทุกวันแต่พอมาทำต่อหน้ากล้อง
ก็ค่อนข้างเครียดไม่น้อย แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆชินเล่นแบบ 3P ได้แบบชิลๆ
ด้วยเสน่ห์และความสดใส รวมถึงสไตล์ที่โดดเด่นในการรับมือนักแสดงชายของเธอ นับเป็นคุณสมบัติที่
สุดพิเศษสำหรับที่เหมาะจะเป็นดารารุ่นต่อไปจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
คุ้นเคยกันดีกับชื่อผลงานซีรี่ย์ FIRST IMPRESSION เปิดตัวหน้าใหม่ของ IDEA POCKET ในเดือนนี้ก็ได้
เปิดตัว Kuriyama Rio ไม่ได้แจ้งอายุเอาไว้ แต่คำโปรยเขียนว่า พี่สาวสุดน่ารักผู้มีความสูง 148 cm
นอกจากนั้นยังมีหน้าอกใหญ่ที่มีสัดส่วนสมบูรณ์สวยงาม แม้ว่าเธอจะช่วยตัวเองทุกวันแต่พอมาทำต่อหน้ากล้อง
ก็ค่อนข้างเครียดไม่น้อย แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆชินเล่นแบบ 3P ได้แบบชิลๆ
ด้วยเสน่ห์และความสดใส รวมถึงสไตล์ที่โดดเด่นในการรับมือนักแสดงชายของเธอ นับเป็นคุณสมบัติที่
สุดพิเศษสำหรับที่เหมาะจะเป็นดารารุ่นต่อไปจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
30
CMX AV Recommend / [AV DEBUT] โปร 10 เดือน 10 ค่าย E-body เปิดตัว 2 หน้าใหม่ Maki Natsume&Aisu Moe
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 14:28:30 »[AV DEBUT] โปร 10 เดือน 10 ค่าย E-body เปิดตัว
2 หน้าใหม่ Maki Natsume & Aisu Moe
เริ่มกันที่คนแรก Maki Natsume อีกหนึ่งสาวอกอี๋มคัพ G ที่มาในผลงาน "ลองมาเป็นผัวหนูไหม..?"
แม่สาววัย 23 ปีคนนี้ให้เหตุผลในการเข้าวงการ AV ง่ายๆ เพียงแค่เพราะเธออยากมีเซ็กส์ ถ้าเป็นไปได้
ก็อยากมีเซ็กส์กับผู้ชายทุกคน โดยเธอมองว่ามันก็เหมือนคนที่รักรถที่หากมีโอกาสก็อยากลองขี่รถ
หลายๆยี่ห้อ หรือคนชอบดูอนิเมะที่ไม่ชอบความจำเจได้ดูหลายๆแนว เธอบอกว่าสนใจเรื่องเซ็กส์ทุกประเภท
คนที่สอง Aisu Moe ภรรยายังสาวที่นิสัยเรียบร้อยและน่ารัก แต่เธอมีนิสัยติดเลียขนมตั้งแต่ยังเด็ก
พอโตมาเลยกลายเป็นว่า เธอชอบ "อม..มากกว่าเซ็กส์" และเนื่องจากต้องรอคอยสามีของเธอที่เดินทาง
ไปทำธุรกิจในต่างประเทศต่างประเทศ ทำให้ความต้องการทางเพศของเธเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเธอ
คงต้องเรียกว่า เหงาปาก น่าจะถูกสินะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
2 หน้าใหม่ Maki Natsume & Aisu Moe
เริ่มกันที่คนแรก Maki Natsume อีกหนึ่งสาวอกอี๋มคัพ G ที่มาในผลงาน "ลองมาเป็นผัวหนูไหม..?"
แม่สาววัย 23 ปีคนนี้ให้เหตุผลในการเข้าวงการ AV ง่ายๆ เพียงแค่เพราะเธออยากมีเซ็กส์ ถ้าเป็นไปได้
ก็อยากมีเซ็กส์กับผู้ชายทุกคน โดยเธอมองว่ามันก็เหมือนคนที่รักรถที่หากมีโอกาสก็อยากลองขี่รถ
หลายๆยี่ห้อ หรือคนชอบดูอนิเมะที่ไม่ชอบความจำเจได้ดูหลายๆแนว เธอบอกว่าสนใจเรื่องเซ็กส์ทุกประเภท
คนที่สอง Aisu Moe ภรรยายังสาวที่นิสัยเรียบร้อยและน่ารัก แต่เธอมีนิสัยติดเลียขนมตั้งแต่ยังเด็ก
พอโตมาเลยกลายเป็นว่า เธอชอบ "อม..มากกว่าเซ็กส์" และเนื่องจากต้องรอคอยสามีของเธอที่เดินทาง
ไปทำธุรกิจในต่างประเทศต่างประเทศ ทำให้ความต้องการทางเพศของเธเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเธอ
คงต้องเรียกว่า เหงาปาก น่าจะถูกสินะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
31
CMX AV Recommend / [AV DEBUT] Nagasawa Yukino นักศึกษาไฮโซก้าวเข้าสู่โลกแห่ง AV
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 14:07:09 »[AV DEBUT] Nagasawa Yukino
นักศึกษาไฮโซก้าวเข้าสู่โลกแห่ง AV
ค่าย MOODYZ ภูมิใจเสนอ Nagasawa Yukino สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชือดัง บ้านฐานะดี
ส่งเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แรกเห็นจะพบว่าถ้อยคำและพฤติกรรมของเธอดูสง่างาม ผู้ดี๊ ผู้ดี
...แต่หลังจากที่เจอสอดใส่ดุ้นสอยเข้าไป เธอก็เปลี่ยนไปทันที
ท่ายากบอกเลยจิ๊บๆ เพราะเธอสามารถใช้ประโยชน์จากร่างกายที่อ่อนนุ่มในการแสดงได้เป็นอย่างดี
แถมยิ่งมาเจอดุ้นแบบสดๆ ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์เธออย่างแรง
รายละเอียดเพิ่มเติม
นักศึกษาไฮโซก้าวเข้าสู่โลกแห่ง AV
ค่าย MOODYZ ภูมิใจเสนอ Nagasawa Yukino สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชือดัง บ้านฐานะดี
ส่งเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แรกเห็นจะพบว่าถ้อยคำและพฤติกรรมของเธอดูสง่างาม ผู้ดี๊ ผู้ดี
...แต่หลังจากที่เจอสอดใส่ดุ้นสอยเข้าไป เธอก็เปลี่ยนไปทันที
ท่ายากบอกเลยจิ๊บๆ เพราะเธอสามารถใช้ประโยชน์จากร่างกายที่อ่อนนุ่มในการแสดงได้เป็นอย่างดี
แถมยิ่งมาเจอดุ้นแบบสดๆ ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์เธออย่างแรง
รายละเอียดเพิ่มเติม
32
CMX AV Recommend / Top 10 ดาราเอวีขวัญใจผู้คนในร้าน DVD Zerokizhiaward ประจำเดือน ก.ย. 63
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 13:46:26 »Top 10 ดาราเอวีขวัญใจผู้คนในร้าน
DVD Zerokizhiaward ประจำเดือน ก.ย. 63
ผลเดือนนี้ค่อนข้างโอเคที่ผลงไม่ซ้ำนักแสดงกระทู้ก่อนเยอะ โดยอันดับ 1 เป็นหน้าใหม่ลีลาเด็ดมาแรง
ของปีนี้อย่าง Nozomi Ishihara ชื่อไม่คุ้นก็เยอะ ชื่อคุ้นก็ไม่น้อยไม่ว่าจะเป็น Eimi Fukada หรือ
Yuu Shinoda หน้าใหม่อย่าง Riri Nanatsumori ก็ติดชาร์ตนี้อีกหนึ่ง ก็จะซ้ำๆหน่อยเพราะงาน
น้องยังน้อย อย่างไรก็แล้วแต่ Mio Kimijima ตัวท็อปของปีก่อนก็กลับมาติดชาร์ตอีกครั้งจนได้
1 Nozomi Ishihara
2 Ichika Matsumoto
3 Nene Tanaka
4 Eimi Fukada
5 Riri Nanatsumori
6 Mayuki Ito
7 Rei Kuruki
8 Yuu Shinoda
9 Imai Kaho
10 Mio Kimijima
รายละเอียดเพิ่มเติม
DVD Zerokizhiaward ประจำเดือน ก.ย. 63
ผลเดือนนี้ค่อนข้างโอเคที่ผลงไม่ซ้ำนักแสดงกระทู้ก่อนเยอะ โดยอันดับ 1 เป็นหน้าใหม่ลีลาเด็ดมาแรง
ของปีนี้อย่าง Nozomi Ishihara ชื่อไม่คุ้นก็เยอะ ชื่อคุ้นก็ไม่น้อยไม่ว่าจะเป็น Eimi Fukada หรือ
Yuu Shinoda หน้าใหม่อย่าง Riri Nanatsumori ก็ติดชาร์ตนี้อีกหนึ่ง ก็จะซ้ำๆหน่อยเพราะงาน
น้องยังน้อย อย่างไรก็แล้วแต่ Mio Kimijima ตัวท็อปของปีก่อนก็กลับมาติดชาร์ตอีกครั้งจนได้
1 Nozomi Ishihara
2 Ichika Matsumoto
3 Nene Tanaka
4 Eimi Fukada
5 Riri Nanatsumori
6 Mayuki Ito
7 Rei Kuruki
8 Yuu Shinoda
9 Imai Kaho
10 Mio Kimijima
รายละเอียดเพิ่มเติม
33
CMX Sexy Story / [เรื่องสั้นอีโรติก] พี่เมียผมใหญ่ ให้อดใจยังไงไหวหละ
« เมื่อ: 15 ตุลาคม 2020, 10:33:06 »[เรื่องสั้นอีโรติก] พี่เมียผมใหญ่ ให้อดใจยังไงไหวหละ
สวัสดีพี่ๆทีมงานทุกท่านครับ…………ผมเองเป็นคนต่างจังหวัดครับ พอดีได้แต่งงานกับภรรยาๆผมเป็นกรุงเทพครับ
ตอนนี้ผมกับภรรยาก้ออายุ 28 เท่ากันครับ…………ผมไม่มีบ้านกรุงเทพ แต่งงานเสร็จ แม่ภรรยาก้อให้เข้าไปอยู่ในบ้าน
ในบ้านของภรรยา เป็นครอบครัวใหญ่ครับอยู่กันถึงสี่ครอบครัว รวมทั้งผมและภรรยา ส่วนพี่น้องของ ภรรยาคนอื่นๆ
ที่ขยับขยายออกไปอยู่ข้างนอก กับสามีหรือภรรยาอีกสามครอบครัว
ตอนแรกที่เข้ามาก็อึดอัดพอสมควร เพราะไม่เคยสถานที่สักเท่าไหร่ แต่สักสอง สามเดือน ก้อเริ่มชินครับ……………
ในบ้าน ชั้นล่างมีอยู่ สองห้อง ก้อมีพี่ชายของภรรยา สองคน อยู่กับภรรยาเขา ส่วนชั้นบนมีอยู่ สองห้องก้อมี
แม่ภรรยาหนึ่งห้อง และพี่สาว อยู่กับสามี ซึ่ง 2-3 วันสามีเขาจะกลับมาสักครั้ง ส่วนผมกับภรรยาที่เข้าไปอยู่ใหม่
ก็เลยต้องเอาตู้เสื้อผ้ามาบังกั้นไว้พอเป็นห้องนอนชั่วคราวได้ครับ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมมีโอกาสเขียนเรื่องมาเล่า
ให้ท่านผู้อ่านมีดังนี้ครับ………….
พี่สาวของภรรยา คนที่ถัดจากภรรยาผม และอายุแก่กว่าผมและภรรยา ประมาณสองปี มีสามีแล้วครับ ตอนแรกก็
อยู่บ้านสามีเขาแหละครับ แต่พอท้องได้ประมาณ 6 เดือน ท้องเริ่มโตเขาก็กลับมาขออาศัยอยู่กับแม่เขา ซึ่งคือ
แม่ยายผมนั่นเอง เพราะต้องมีคนดูแล ส่วนสามีเขาจะมาหาทุกวันศุกร์ แต่ไม่ได้ค้างเพราะไม่มีที่นอน แต่ก็คงเป็น
โอกาสดีที่พี่เขยแกจะได้แอบเที่ยวง่ายขึ้น (อิจฉา)
ส่วนพี่เมียผมเขาตอนแรกก็กางมุ้งนอนอีกมุมหนึ่ง………………แต่พอได้ 3 คืนเขาก็มาขอนอนกับภรรยาผม
เพราะเขาสนิทกัน ผมก็เลยต้องออกไปนอนแทนที่ของพี่สาวเขาข้างนอก เลยหมดโอกาสมีอะไรกับแฟนผมไปเลย
พออดเล่นเสียวกับเมียได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ก็เริ่มจะทนไหวละครับ เรายังหนุ่มนี่นา เงี่ยนทุกวันอยู่แล้ว………….
แล้วมีอยู่คืนหนึ่งผมเกิดทนไม่ไหว ท่อนเนื้อผมแข็งมาก กำรูดๆ ยังไงก็ไม่หายเงี่ยน เพราะมันอยากจริงๆครับ
พอประมาณตี 3 พี่สาวภรรยาหลับสนิท ผมไม่ทนแล้ว ผมเลยมีโอกาส คลานไปปลุกเมีย ขึ้นมาเอากัน ผมสมใจอยาก
แต่ก้อไม่สะใจเท่าไหร่ เพราะจะโลดโผนไม่ได้เดี๋ยวพี่สาวภรรยาตื่น แต่ก็มันน้ำแตกไป 2 ครั้ง……….และคืนต่อๆมา
ผมก็ทำเหมือนเดิม คือ ประมาณ ตี3 ตี4 ผมก็จะแอบเข้าไปหาภรรยาผมและเอากัน โดยที่มีพีแฟนผมยังนอนอยู่
ข้างๆเสมอ
ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวของภรรยาผมจะรู้ตัวหรือปล่า เพราะช่วงหลังผมใส่แรงขึ้นมาก พร้อมกับเสียงครางหนักๆ……….
มีอยู่คืนหนึ่งผมก็เข้าไปหาภรรยาผมตามปกติ แต่พอเปิดมุ้งเท่านั้นแหละครับผมต้องตาค้าง …โดยสายตาไปสัมผัส
กับหว่างขาของพี่สาวภรรยา ที่ใส่ชุดนอน แต่ไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมรู้สึกว่า มือไม้สั่นขึ้นมาทันที ผมคิดว่า
จะทำอย่างไรจะได้เห็นชัดกว่านี้ แต่จะเปิดไฟคงจะไม่ได้แน่นอน เพราะภรรยาผมจะต้องตื่น เลยคิดว่าไฟของ
โทรศัพท์มือถือ น่าจะได้ เลยย่องออกไปเอาโทรศัพท์ มือถือข้างนอก……….แล้วปิดเสียง
พอเสร็จก็กลับย่องไปหาเป้าหมายทันที ตอนนั้นใจผมเต้นแรงมาก ตื่นเต้น จริงๆ มือสั่นนิดๆ พอผมกดโทรศัพท์
ไฟเริ่มสว่าง ผมต้องอุทานในใจโอย ภาพพี่สาวแฟนวัย 30 นอนหงายขาอวบขาวถ่างอ้าออก ประสาคนท้อง
ทำไมมันใหญ่และโหนกนูนอย่างนี้ ขนหมอยที่ดกดำ แผ่ปกคลุมเนินหอยที่นูนขึ้นมาเต็มทั่วเนินสามเหลี่ยม
โค้งหายไปในง่ามก้น น่าดูมาก หอยใหญ่กว่าเมียเราอีก ..หรือว่าเป็นเพราะเขาท้อง
หรือว่าถือเป็นพี่สาวพอออกมาก่อน เลยเอาของแม่มามากกว่าน้องสาว มือผมสั่นมาก ผมยื่นนิ้วชี้ไปแตะเบาๆ
ที่ขนหมอยพี่สาวแฟน มันนุ่มมือมาก ผมเอาจมูกสูดกลิ่น ซึ่งมีกลิ่น เหมือนฉี่ พอสะใจแล้วผมก็ปิดโทรศัพท์ผม
ไม่กล้าทำมากกว่านี้ เพราะถ้าเขาตื่นผมยุ่งแน่ … และหันกลับมาหาภรรยาผมที่นอนอยู่ข้างๆ งัดท่อนเนื้อที่แข็งโด่
เปิดผ้าถุงเสียบทันที…ผมเอาภรรยาผมไม่ถึง 2 นาทีก็น้ำแตก ภรรยาผมงงๆว่าทำไม่เสร็จเร็วจัง ก่อนที่ภรรยา
จะถามอะไรอีก ผมช็ดหัวแล้ว รีบต่ออีกเกม (ค่อยยังชั่ว…………..)
คืนต่อมา ผมหาโอกาส ที่จะได้เห็นเนินนูนหมอยดกอีกครั้ง แต่ก้ออีกก้อแห้ว เพราะเขานอนไม่โป๊เลย………….
พอได้อีก 2 วัน ผมก็มีธุระกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และก็ได้รู้ว่าพ่อผมเป็นคนที่นอนไม่ค่อยหลับ เลยต้องกินยานอนหลับช่วย
และ ยาที่พ่อกินก็เป็นยานอนหลับที่แรงพอสมควร (อา...ขอบคุณครับพ่อ กระดอผมมีความหวังแล้ว)
ผมเลยวางแผนที่จะเอายาของพ่อ แกล้งบอกพ่อว่าผมก้อนอนไม่ค่อยหลับ อยากลองกินยาของพ่อบ้าง ผมนอนที่บ้าน
ทานข้าวเย็นผมลองกินครึ่งเม็ด พอทุ่มครึ่งยาออกฤทธิ์ ง่วงมาก ผมเลยนอนหลับสนิทตั้งแต่ตอนนั้นยันเช้าเลย
รู้สึกว่ามันดีจริงๆ พอจะกลับเลยขอพ่ออีก 2 เม็ดบอกว่าจะเอาไปกินที่กรุงเทพ พอขับรถก็นึกมาตลอดว่าจะเอาให้
พี่สาวเมียผมกินได้ยังไง แล้วพอผ่านแถว สระบุรี มีน้ำส้มขายเป็นแถวยาวเลยคิดแผนออกมาทันที เลยซื้อน้ำส้ม
มา 6 ขวด แล้วแกล้งลืมไว้ในรถ พอท่านข้าวเย็น ที่บ้านกรุงเทพเสร็จ ประมาณ2ทุ่ม เลยแกล้ง พูดขึ้นว่า
ซื้อน้ำส้มมาฝากแต่ลืมไว้ในรถ ภรรยาผมอาสาจะลงไปเอาผมเลยบอกว่า ผมลืมของ ไว้ในรถด้วยเดี๋ยวลงเอาเอง
เสร็จแล้ว ก็บดยานอนหลับ 2 เม็ดแบ่งใส่ 2 ขวด ของภรรยา และพี่สาวภรรยาพอผม ถือขึ้นไป 3 ขวด ยื่นให้
ภรรยาผม 2 ขวด ภรรยาผมส่งต่อให้พี่สาวเธอ ส่วนผมก้อกินขวดที่ไม่ได้ผสมยา………และขอตัวไปดูดบุหรี่ชั้นล่าง
พอนึกถึงหอยที่ใหญ่นูน หมอยดกดำแผ่เต็มหน้าขาของพี่แฟน ท่อนแท่งผมลุกตุงกางเกง จนผมต้องบอกตัวเองว่า
เย็นไว้ไอ้หนู เดี๋ยวได้บุกป่าหมอยดกแน่ๆ……….ปล่อยให้ทั้งสองคนกินน้ำส้มผมให้เต็มที่ สักพักผมก็อาบน้ำนอน
บอกภรรยาว่า…เดินทางเพลียมาก.. ขอนอนก่อน ผมก็นอนที่ของผมข้างนอก แล้วผมก้อตื่นมาอีกที...ประมาณตี1
เดินไปดูขวดน้ำส้ม ที่ทั้งสองคนดื่มหมดขวดทั้ง 2 ขวด แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้อง เห็นภรรยา และพี่สาว นอนสนิท
ผมจึงแกล้ง เขย่าตัวภรรยาปรากฏว่าได้ผลครับภรรยาผม ไม่มีอาการโต้ตอบ และลองเขย่าตัวพี่สาวภรรยาปรากฏว่า
เหมือนกันเลยครับ แท่งผมลุกโชนทันที กลิ่นหอยของพี่แฟน ยังติดจมูกอยู่เลย
ผมเลยเริ่มแผนในทันที เอามือสอดเข้าไปในผ้าถุง ของพี่สาวภรรยา ปรากฏว่าเธอใส่กางเกงในครับ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา
อูว… กางเกงในตัวนิดเดียว มันปิดหอยที่โหนกใหญ่ของพี่ได้เหรอ สงสารกางเกงในนะ เธอต้องใส่ตัวเล็กเพราะท้อง
เอาขึ้นสูงไม่ได้ ผมเลยเอามือรูดกางเกงในเธอออก ตอนนั้นใจผมสั่นมากครับ ถ้าเกิดเขาตื่น ผมจะแก้ตัวว่าอย่างไร
แต่เมื่อเห็นหอยใหญ่ตรงหน้าเท่านั้น และการสัมผัสลูบคลำ ความโหนกนูนและขนดกของพี่สาวภรรยาแล้ว ใจมันกลับ
กล้าขึ้นมาทันใด เป็นไงเป็นกัน อูย..หอยสวดหอยนูนจริงพี่จ๋า ผมเงี่ยน จนหัวแท่ง เปียกหมดแล้ว พี่น่าเอามาก
ไม่ว่ากันนะพี่ ก็พี่มาแย่งที่นอนผม นึกว่าสงสาร น้องเขยก็แล้วกันนะ ขอผมได้เอาหอยพี่เถอะ……….ผมค่อยๆเอาจมูก
เอาไปสัมผัสตรงส่วนนั้น แปลกที่วันนี้ไม่มีกลิ่นเหมือนวันนั้น ผมเลยจัดการเลีย และดูด เม็ดของพี่สาวแฟนอยู่นานพอควร
และกะว่าจะขึ้น ขย่มภรรยาสักหน่อย แต่ความคิดดันขึ้นมาทันได ว่าลองเอาใส่ของพี่สาวภรรยา เล่นของใหม่ ดีกว่า………
สักครั้งไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ยอมแล้ว ตอนนี้ต้องขอเอาเนินใหญ่หมอยดกนี้ให้ได้ ว่าแล้วก็นั่งเอาขาของเธอมาพาดบนขาผม
พอเอาของผมเข้าไปจ่อรู้สึกว่าปากช่องคลอดของเขาขมิบตุบๆ แถมเด้งเอวนิดๆ ..ขนาดหลับนะนี่ หรือเป็นที่ว่าพี่สาวแฟน
ไม่ได้เอามานานหรือเธอเซ็กจัดกว่าแฟนผม
ผมยัดหัวถอกเข้าไปช้าๆ เจ้าหัวแดงของผมผม….ค่อยๆหายเข้าไปกลางดงหมอยที่ดกดำ ทีละนิด ..อูย.ผมเสียวจังพี่
ทุกขุมขนผมลุกชัน นี่ผมกำลังลักหลับพี่แฟนอยู่ ..อูย..เสียวมากขอบคุณครับพี่ ที่มานอนกับแฟนผม…….พอมันผ่าน
เข้าไปหมดหัวถอก ผมรู้สึกว่าน้ำผมมันจะแตกให้ได้เลยครับ เลยจัดการดึงเข้าดึงออก5-6 ทีน้ำผมก้อพุ่งเข้าในช่องคลอด
ของพี่สาวภรรยา อย่างแรง และคาไว้สักพักผมก้อนอนกอดพี่สาวภรรยา อย่างกะกอดภรรยาตัวเอง……
พอประมาณ 10 นาที แหมเราลงทุนแล้ว ต้องเอาให้คุ้ม ว่าแล้ว ผมก้อเริ่ม เกมที่สอง อย่างเมามัน และรุนแรงพอสมควร
พอเสร็จ ก้อทิชชู เช็ดน้ำที่ไหลย้อนออกมาข้างนอก และใส่กางเกงในให้เธอและกลับมานอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น………
คราวนี้ผมนอนหอบอยู่ข้างมุ้งแฟน และพี่สาวเค้านานพอดู หลังดื่ม น้ำเย็นและเช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จ ..ผมเพ่งมองที่
พี่สาวเขาอีกที เออแนะ..เขาน่าเอากว่าแฟนผมมากรูปร่างเขาเต็มไม้เต็มมือดี มิน่าละ พี่เขยถึงจีบเอาเป็นเมีย..
สักพักไอ้ใบ้ผม ก็ชูคออีกแล้ว ผมเองก็ไม่กลัวตาย รูดกางเกงในพี่สาวแฟนอออก ขอสอดใส่อีกครั้งนะพี่ ถึงตายไม่ว่าอะไร
ครั้งนี้ พี่สาวแฟนมีเด้งเอวสู้แฮะ เอาเหอะพี่ โอย มันจริงๆ ตายไม่ว่าขอข้าได้กระเด้า………..พอตอนเย็น อีกวัน
กลับจากที่ทำงาน ถามหาพี่สาวภรรยาว่ากลับไปบ้านแล้วหรือ ภรรยาบอกว่า…..พี่สาวไปโรงพยาบาล เธอตกขาวเยอะมาก
แถวปวดบั้นเอวด้วย ผมเลยคิดในใจว่า เธอตกขาวหรือว่าน้ำผมกันแน่ เธอจะรู้ไหมนี่
ส่วนผมคิดว่ายังไงต้องหาทางเอาอีก ก็ติดใจไม่หาย คนอะไร หอยใหญ่กว่าน้องมาก…จากใจ ยอดน้องเขย
สวัสดีพี่ๆทีมงานทุกท่านครับ…………ผมเองเป็นคนต่างจังหวัดครับ พอดีได้แต่งงานกับภรรยาๆผมเป็นกรุงเทพครับ
ตอนนี้ผมกับภรรยาก้ออายุ 28 เท่ากันครับ…………ผมไม่มีบ้านกรุงเทพ แต่งงานเสร็จ แม่ภรรยาก้อให้เข้าไปอยู่ในบ้าน
ในบ้านของภรรยา เป็นครอบครัวใหญ่ครับอยู่กันถึงสี่ครอบครัว รวมทั้งผมและภรรยา ส่วนพี่น้องของ ภรรยาคนอื่นๆ
ที่ขยับขยายออกไปอยู่ข้างนอก กับสามีหรือภรรยาอีกสามครอบครัว
ตอนแรกที่เข้ามาก็อึดอัดพอสมควร เพราะไม่เคยสถานที่สักเท่าไหร่ แต่สักสอง สามเดือน ก้อเริ่มชินครับ……………
ในบ้าน ชั้นล่างมีอยู่ สองห้อง ก้อมีพี่ชายของภรรยา สองคน อยู่กับภรรยาเขา ส่วนชั้นบนมีอยู่ สองห้องก้อมี
แม่ภรรยาหนึ่งห้อง และพี่สาว อยู่กับสามี ซึ่ง 2-3 วันสามีเขาจะกลับมาสักครั้ง ส่วนผมกับภรรยาที่เข้าไปอยู่ใหม่
ก็เลยต้องเอาตู้เสื้อผ้ามาบังกั้นไว้พอเป็นห้องนอนชั่วคราวได้ครับ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมมีโอกาสเขียนเรื่องมาเล่า
ให้ท่านผู้อ่านมีดังนี้ครับ………….
พี่สาวของภรรยา คนที่ถัดจากภรรยาผม และอายุแก่กว่าผมและภรรยา ประมาณสองปี มีสามีแล้วครับ ตอนแรกก็
อยู่บ้านสามีเขาแหละครับ แต่พอท้องได้ประมาณ 6 เดือน ท้องเริ่มโตเขาก็กลับมาขออาศัยอยู่กับแม่เขา ซึ่งคือ
แม่ยายผมนั่นเอง เพราะต้องมีคนดูแล ส่วนสามีเขาจะมาหาทุกวันศุกร์ แต่ไม่ได้ค้างเพราะไม่มีที่นอน แต่ก็คงเป็น
โอกาสดีที่พี่เขยแกจะได้แอบเที่ยวง่ายขึ้น (อิจฉา)
ส่วนพี่เมียผมเขาตอนแรกก็กางมุ้งนอนอีกมุมหนึ่ง………………แต่พอได้ 3 คืนเขาก็มาขอนอนกับภรรยาผม
เพราะเขาสนิทกัน ผมก็เลยต้องออกไปนอนแทนที่ของพี่สาวเขาข้างนอก เลยหมดโอกาสมีอะไรกับแฟนผมไปเลย
พออดเล่นเสียวกับเมียได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ก็เริ่มจะทนไหวละครับ เรายังหนุ่มนี่นา เงี่ยนทุกวันอยู่แล้ว………….
แล้วมีอยู่คืนหนึ่งผมเกิดทนไม่ไหว ท่อนเนื้อผมแข็งมาก กำรูดๆ ยังไงก็ไม่หายเงี่ยน เพราะมันอยากจริงๆครับ
พอประมาณตี 3 พี่สาวภรรยาหลับสนิท ผมไม่ทนแล้ว ผมเลยมีโอกาส คลานไปปลุกเมีย ขึ้นมาเอากัน ผมสมใจอยาก
แต่ก้อไม่สะใจเท่าไหร่ เพราะจะโลดโผนไม่ได้เดี๋ยวพี่สาวภรรยาตื่น แต่ก็มันน้ำแตกไป 2 ครั้ง……….และคืนต่อๆมา
ผมก็ทำเหมือนเดิม คือ ประมาณ ตี3 ตี4 ผมก็จะแอบเข้าไปหาภรรยาผมและเอากัน โดยที่มีพีแฟนผมยังนอนอยู่
ข้างๆเสมอ
ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวของภรรยาผมจะรู้ตัวหรือปล่า เพราะช่วงหลังผมใส่แรงขึ้นมาก พร้อมกับเสียงครางหนักๆ……….
มีอยู่คืนหนึ่งผมก็เข้าไปหาภรรยาผมตามปกติ แต่พอเปิดมุ้งเท่านั้นแหละครับผมต้องตาค้าง …โดยสายตาไปสัมผัส
กับหว่างขาของพี่สาวภรรยา ที่ใส่ชุดนอน แต่ไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมรู้สึกว่า มือไม้สั่นขึ้นมาทันที ผมคิดว่า
จะทำอย่างไรจะได้เห็นชัดกว่านี้ แต่จะเปิดไฟคงจะไม่ได้แน่นอน เพราะภรรยาผมจะต้องตื่น เลยคิดว่าไฟของ
โทรศัพท์มือถือ น่าจะได้ เลยย่องออกไปเอาโทรศัพท์ มือถือข้างนอก……….แล้วปิดเสียง
พอเสร็จก็กลับย่องไปหาเป้าหมายทันที ตอนนั้นใจผมเต้นแรงมาก ตื่นเต้น จริงๆ มือสั่นนิดๆ พอผมกดโทรศัพท์
ไฟเริ่มสว่าง ผมต้องอุทานในใจโอย ภาพพี่สาวแฟนวัย 30 นอนหงายขาอวบขาวถ่างอ้าออก ประสาคนท้อง
ทำไมมันใหญ่และโหนกนูนอย่างนี้ ขนหมอยที่ดกดำ แผ่ปกคลุมเนินหอยที่นูนขึ้นมาเต็มทั่วเนินสามเหลี่ยม
โค้งหายไปในง่ามก้น น่าดูมาก หอยใหญ่กว่าเมียเราอีก ..หรือว่าเป็นเพราะเขาท้อง
หรือว่าถือเป็นพี่สาวพอออกมาก่อน เลยเอาของแม่มามากกว่าน้องสาว มือผมสั่นมาก ผมยื่นนิ้วชี้ไปแตะเบาๆ
ที่ขนหมอยพี่สาวแฟน มันนุ่มมือมาก ผมเอาจมูกสูดกลิ่น ซึ่งมีกลิ่น เหมือนฉี่ พอสะใจแล้วผมก็ปิดโทรศัพท์ผม
ไม่กล้าทำมากกว่านี้ เพราะถ้าเขาตื่นผมยุ่งแน่ … และหันกลับมาหาภรรยาผมที่นอนอยู่ข้างๆ งัดท่อนเนื้อที่แข็งโด่
เปิดผ้าถุงเสียบทันที…ผมเอาภรรยาผมไม่ถึง 2 นาทีก็น้ำแตก ภรรยาผมงงๆว่าทำไม่เสร็จเร็วจัง ก่อนที่ภรรยา
จะถามอะไรอีก ผมช็ดหัวแล้ว รีบต่ออีกเกม (ค่อยยังชั่ว…………..)
คืนต่อมา ผมหาโอกาส ที่จะได้เห็นเนินนูนหมอยดกอีกครั้ง แต่ก้ออีกก้อแห้ว เพราะเขานอนไม่โป๊เลย………….
พอได้อีก 2 วัน ผมก็มีธุระกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และก็ได้รู้ว่าพ่อผมเป็นคนที่นอนไม่ค่อยหลับ เลยต้องกินยานอนหลับช่วย
และ ยาที่พ่อกินก็เป็นยานอนหลับที่แรงพอสมควร (อา...ขอบคุณครับพ่อ กระดอผมมีความหวังแล้ว)
ผมเลยวางแผนที่จะเอายาของพ่อ แกล้งบอกพ่อว่าผมก้อนอนไม่ค่อยหลับ อยากลองกินยาของพ่อบ้าง ผมนอนที่บ้าน
ทานข้าวเย็นผมลองกินครึ่งเม็ด พอทุ่มครึ่งยาออกฤทธิ์ ง่วงมาก ผมเลยนอนหลับสนิทตั้งแต่ตอนนั้นยันเช้าเลย
รู้สึกว่ามันดีจริงๆ พอจะกลับเลยขอพ่ออีก 2 เม็ดบอกว่าจะเอาไปกินที่กรุงเทพ พอขับรถก็นึกมาตลอดว่าจะเอาให้
พี่สาวเมียผมกินได้ยังไง แล้วพอผ่านแถว สระบุรี มีน้ำส้มขายเป็นแถวยาวเลยคิดแผนออกมาทันที เลยซื้อน้ำส้ม
มา 6 ขวด แล้วแกล้งลืมไว้ในรถ พอท่านข้าวเย็น ที่บ้านกรุงเทพเสร็จ ประมาณ2ทุ่ม เลยแกล้ง พูดขึ้นว่า
ซื้อน้ำส้มมาฝากแต่ลืมไว้ในรถ ภรรยาผมอาสาจะลงไปเอาผมเลยบอกว่า ผมลืมของ ไว้ในรถด้วยเดี๋ยวลงเอาเอง
เสร็จแล้ว ก็บดยานอนหลับ 2 เม็ดแบ่งใส่ 2 ขวด ของภรรยา และพี่สาวภรรยาพอผม ถือขึ้นไป 3 ขวด ยื่นให้
ภรรยาผม 2 ขวด ภรรยาผมส่งต่อให้พี่สาวเธอ ส่วนผมก้อกินขวดที่ไม่ได้ผสมยา………และขอตัวไปดูดบุหรี่ชั้นล่าง
พอนึกถึงหอยที่ใหญ่นูน หมอยดกดำแผ่เต็มหน้าขาของพี่แฟน ท่อนแท่งผมลุกตุงกางเกง จนผมต้องบอกตัวเองว่า
เย็นไว้ไอ้หนู เดี๋ยวได้บุกป่าหมอยดกแน่ๆ……….ปล่อยให้ทั้งสองคนกินน้ำส้มผมให้เต็มที่ สักพักผมก็อาบน้ำนอน
บอกภรรยาว่า…เดินทางเพลียมาก.. ขอนอนก่อน ผมก็นอนที่ของผมข้างนอก แล้วผมก้อตื่นมาอีกที...ประมาณตี1
เดินไปดูขวดน้ำส้ม ที่ทั้งสองคนดื่มหมดขวดทั้ง 2 ขวด แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้อง เห็นภรรยา และพี่สาว นอนสนิท
ผมจึงแกล้ง เขย่าตัวภรรยาปรากฏว่าได้ผลครับภรรยาผม ไม่มีอาการโต้ตอบ และลองเขย่าตัวพี่สาวภรรยาปรากฏว่า
เหมือนกันเลยครับ แท่งผมลุกโชนทันที กลิ่นหอยของพี่แฟน ยังติดจมูกอยู่เลย
ผมเลยเริ่มแผนในทันที เอามือสอดเข้าไปในผ้าถุง ของพี่สาวภรรยา ปรากฏว่าเธอใส่กางเกงในครับ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา
อูว… กางเกงในตัวนิดเดียว มันปิดหอยที่โหนกใหญ่ของพี่ได้เหรอ สงสารกางเกงในนะ เธอต้องใส่ตัวเล็กเพราะท้อง
เอาขึ้นสูงไม่ได้ ผมเลยเอามือรูดกางเกงในเธอออก ตอนนั้นใจผมสั่นมากครับ ถ้าเกิดเขาตื่น ผมจะแก้ตัวว่าอย่างไร
แต่เมื่อเห็นหอยใหญ่ตรงหน้าเท่านั้น และการสัมผัสลูบคลำ ความโหนกนูนและขนดกของพี่สาวภรรยาแล้ว ใจมันกลับ
กล้าขึ้นมาทันใด เป็นไงเป็นกัน อูย..หอยสวดหอยนูนจริงพี่จ๋า ผมเงี่ยน จนหัวแท่ง เปียกหมดแล้ว พี่น่าเอามาก
ไม่ว่ากันนะพี่ ก็พี่มาแย่งที่นอนผม นึกว่าสงสาร น้องเขยก็แล้วกันนะ ขอผมได้เอาหอยพี่เถอะ……….ผมค่อยๆเอาจมูก
เอาไปสัมผัสตรงส่วนนั้น แปลกที่วันนี้ไม่มีกลิ่นเหมือนวันนั้น ผมเลยจัดการเลีย และดูด เม็ดของพี่สาวแฟนอยู่นานพอควร
และกะว่าจะขึ้น ขย่มภรรยาสักหน่อย แต่ความคิดดันขึ้นมาทันได ว่าลองเอาใส่ของพี่สาวภรรยา เล่นของใหม่ ดีกว่า………
สักครั้งไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ยอมแล้ว ตอนนี้ต้องขอเอาเนินใหญ่หมอยดกนี้ให้ได้ ว่าแล้วก็นั่งเอาขาของเธอมาพาดบนขาผม
พอเอาของผมเข้าไปจ่อรู้สึกว่าปากช่องคลอดของเขาขมิบตุบๆ แถมเด้งเอวนิดๆ ..ขนาดหลับนะนี่ หรือเป็นที่ว่าพี่สาวแฟน
ไม่ได้เอามานานหรือเธอเซ็กจัดกว่าแฟนผม
ผมยัดหัวถอกเข้าไปช้าๆ เจ้าหัวแดงของผมผม….ค่อยๆหายเข้าไปกลางดงหมอยที่ดกดำ ทีละนิด ..อูย.ผมเสียวจังพี่
ทุกขุมขนผมลุกชัน นี่ผมกำลังลักหลับพี่แฟนอยู่ ..อูย..เสียวมากขอบคุณครับพี่ ที่มานอนกับแฟนผม…….พอมันผ่าน
เข้าไปหมดหัวถอก ผมรู้สึกว่าน้ำผมมันจะแตกให้ได้เลยครับ เลยจัดการดึงเข้าดึงออก5-6 ทีน้ำผมก้อพุ่งเข้าในช่องคลอด
ของพี่สาวภรรยา อย่างแรง และคาไว้สักพักผมก้อนอนกอดพี่สาวภรรยา อย่างกะกอดภรรยาตัวเอง……
พอประมาณ 10 นาที แหมเราลงทุนแล้ว ต้องเอาให้คุ้ม ว่าแล้ว ผมก้อเริ่ม เกมที่สอง อย่างเมามัน และรุนแรงพอสมควร
พอเสร็จ ก้อทิชชู เช็ดน้ำที่ไหลย้อนออกมาข้างนอก และใส่กางเกงในให้เธอและกลับมานอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น………
คราวนี้ผมนอนหอบอยู่ข้างมุ้งแฟน และพี่สาวเค้านานพอดู หลังดื่ม น้ำเย็นและเช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จ ..ผมเพ่งมองที่
พี่สาวเขาอีกที เออแนะ..เขาน่าเอากว่าแฟนผมมากรูปร่างเขาเต็มไม้เต็มมือดี มิน่าละ พี่เขยถึงจีบเอาเป็นเมีย..
สักพักไอ้ใบ้ผม ก็ชูคออีกแล้ว ผมเองก็ไม่กลัวตาย รูดกางเกงในพี่สาวแฟนอออก ขอสอดใส่อีกครั้งนะพี่ ถึงตายไม่ว่าอะไร
ครั้งนี้ พี่สาวแฟนมีเด้งเอวสู้แฮะ เอาเหอะพี่ โอย มันจริงๆ ตายไม่ว่าขอข้าได้กระเด้า………..พอตอนเย็น อีกวัน
กลับจากที่ทำงาน ถามหาพี่สาวภรรยาว่ากลับไปบ้านแล้วหรือ ภรรยาบอกว่า…..พี่สาวไปโรงพยาบาล เธอตกขาวเยอะมาก
แถวปวดบั้นเอวด้วย ผมเลยคิดในใจว่า เธอตกขาวหรือว่าน้ำผมกันแน่ เธอจะรู้ไหมนี่
ส่วนผมคิดว่ายังไงต้องหาทางเอาอีก ก็ติดใจไม่หาย คนอะไร หอยใหญ่กว่าน้องมาก…จากใจ ยอดน้องเขย
34
CMX Sexy Story / [เรื่องสั้นอีโรติก] น้องเมียเอาได้ พี่ใส่ถุงยางแล้ว
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 15:41:18 »[เรื่องสั้นอีโรติก] น้องเมียเอาได้ พี่ใส่ถุงยางแล้ว
ผมแต่งงานกับแฟนผมได้ 2 ปี แฟนผมมีน้องคนหนึ่งชื่อ "น้องแนน" เรียนอยุ่ ปวช.3 เธอเป็นเด็กน่ารัก ขาว หุ่นดี
นมกับก้นสวยมาก ผมอดใจไม่ไหวจนต้องแอบดูน้องแนนอาบน้ำเป็นประจำ เวลาเอากับแฟนจะค้เองแอบนึกถึง
น้องแนนเสมอ เพราะจะมันทำให้ผมมีอารมณ์และทำกับแฟนแรงมาก
มีอยู่วันนึงแฟนผมไปต่างจังหวัด ผมกลับจากทำงานก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องน้องแนน ผมเลยไปแอบดูตรงรู
ที่ผมเจาะไว้ดูน้องแนนเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็เห็นน้องแนนกับแฟนกำลังเอากันอยู่ในท่าหมา น้องแนนทำหน้าได้
เร้าอารมณ์มาก แฟนน้องแนนซอยก้นได้สักพัก ก็เร่งเร็วขึ้นสงสัยกำลังจะเสร็จ เพราะอัดก้นกลมกลึงของน้องแนน
เสียงน้องแนนดังขึ้น ผมรีบออกจากห้องแล้วไปเคาะประตูเรียกว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า"
สักพักแฟนน้องแนนก็ออกมาบอกว่า "ผมมาหาแนนครับพี่ ผมกลับก่อนนะครับ"
มันคงกลัวผม หลังจากแฟนน้องแนนไปแล้ว ผมก็ไปล็อกห้องแล้วเข้าไปในห้องน้องแนน เธอใส่ผ้าขนหนูอยู่
หน้าแดงคงอายผม ผมถามว่าทำอะไรกัน เธอบอกว่าคุยกัน ผมบอกว่าไม่จริงผมจะฟ้องพี่เธอ น้องแนนทำหน้า
เหมือนจะร้องไห้ ผมบังคับให้เธอเล่า จนผมมีอารมณ์จนทนไม่ได้ ผมถามน้องแนนว่า "ไม่กลัวท้องเหรอ"
น้องแนนบอกว่าแฟนใส่ถุงยางผมก็บอกว่า "ถ้าพี่ใส่ถุงยางแล้วทำแนนได้ไหม"
ว่าแล้วผมก็เข้าไปกอดไซ้ดึงผ้าขนหนูน้องแนนออก ตอนแรกเธอขัดขืนแต่พอผมดูดนมได้ เธอก็อ่อนเพราะคง
มีอารมณ์ค้างอยู่ ผมดูดติ่งน้องแนนจนเธอร้องลั่น บอกว่าพี่แนนไม่ไหวแล้ว ผมก็งัดของผมมาให้น้องแนนดูด
เธอบอกว่าไม่เป็นเคย แต่ใช้มือชักให้แฟนแล้วก็เอากันเลย ผมก็เลยสอนให้ตอนแรกก็โดนฟัน แต่สักพักน้องแนน
ก็ทำได้ดีพอแข็งได้ ทีนี้พอผมจับมาจ่อหอยเธอ น้องแนนรีบร้องทักว่าใส่ถุงก่อนพี่ ผมบอกไม่มีถุง น้องแนน
ก็เอื้อมไปหยิบที่หัวเตียงมาแล้วใส่ให้ผม
เธอบอกว่าของพี่ใหญ่จังแนนกลัวเจ็บ แล้วผมก็จับน้องแนนนอนลงผมก็นอนทาบลงไปพยายามชวนน้องแนนคุย
จังหวะที่เผลอ ผมก็ดึงถุงยางออก โดยน้องแนนไม่รู้ตัวแล้วจับยัดทันที น้องแนนร้องว่าเจ็บผมรีบดูดนม
เพื่อกลบเกลื่อนสักพัก น้องแนนก็ครางด้วยความสุขสักพัก ก็จับน้องแนนยกล้อกดลึกสุดๆ สักพักน้องแนน
ก็กระตุกอ้าปากค้างหัวนมตั้งอกแดงเป็นผืน ผมรู้ทันทีว่าเธอเสร็จแล้ว ผมรีบซอยน้องแนนตอดแรงจนผมทนไม่ไหว
ผมปล่อยน้ำพุ่งเข้าไปในมดลูกน้องแนนอย่างเต็มแรง แล้วกระแทกซ้ำจมสมใจผมกดแช่ไว้สักพัก
น้องแนนบอกว่ารู้สึกมีอะไรเข้าไปข้างใน แล้วเธอก็เอามือมาจับที่รูปรากฏว่ามีน้ำเยิ้มออกมา เธอตกใจมาก
รีบลุกขึ้นถามว่าทำไมพี่ทำอย่างนี้ ผมบอกว่าพี่รักน้องแนนพี่เป็นผัวน้องแนนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ต่อไป
จะให้คนอื่นทำไม่ได้แล้ว น้องแนนร้องไห้ผมก็ปลอบอยู่สักพัก ผมก็เริ่มยกสองต่อคืนนั้นผมทำน้องแนน 4 ครั้ง
ปล่อยเข้าหมด แล้วเราก็แอบเอากันเรื่อยมา
ผมพาเธอไปฉีดยาคุมจะได้เล่นกันอย่างหายห่วง เธอบอกเลิกกับแฟนและยอมเป็นเมียผมคนเดียว
บ่อยครั้งที่ตอนเย็นผมจะไปรับเธอที่โรงเรียน แล้วไปแวะเอากันที่โรงแรมก่อนกลับบ้าน แต่ถึงอย่างไร
ผมก็ยังคงทำการบ้านกับเมียผมเสมอ เพราะลีลาของเมียผมเอง ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องแนนแต่อย่างใด
ผมแต่งงานกับแฟนผมได้ 2 ปี แฟนผมมีน้องคนหนึ่งชื่อ "น้องแนน" เรียนอยุ่ ปวช.3 เธอเป็นเด็กน่ารัก ขาว หุ่นดี
นมกับก้นสวยมาก ผมอดใจไม่ไหวจนต้องแอบดูน้องแนนอาบน้ำเป็นประจำ เวลาเอากับแฟนจะค้เองแอบนึกถึง
น้องแนนเสมอ เพราะจะมันทำให้ผมมีอารมณ์และทำกับแฟนแรงมาก
มีอยู่วันนึงแฟนผมไปต่างจังหวัด ผมกลับจากทำงานก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องน้องแนน ผมเลยไปแอบดูตรงรู
ที่ผมเจาะไว้ดูน้องแนนเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็เห็นน้องแนนกับแฟนกำลังเอากันอยู่ในท่าหมา น้องแนนทำหน้าได้
เร้าอารมณ์มาก แฟนน้องแนนซอยก้นได้สักพัก ก็เร่งเร็วขึ้นสงสัยกำลังจะเสร็จ เพราะอัดก้นกลมกลึงของน้องแนน
เสียงน้องแนนดังขึ้น ผมรีบออกจากห้องแล้วไปเคาะประตูเรียกว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า"
สักพักแฟนน้องแนนก็ออกมาบอกว่า "ผมมาหาแนนครับพี่ ผมกลับก่อนนะครับ"
มันคงกลัวผม หลังจากแฟนน้องแนนไปแล้ว ผมก็ไปล็อกห้องแล้วเข้าไปในห้องน้องแนน เธอใส่ผ้าขนหนูอยู่
หน้าแดงคงอายผม ผมถามว่าทำอะไรกัน เธอบอกว่าคุยกัน ผมบอกว่าไม่จริงผมจะฟ้องพี่เธอ น้องแนนทำหน้า
เหมือนจะร้องไห้ ผมบังคับให้เธอเล่า จนผมมีอารมณ์จนทนไม่ได้ ผมถามน้องแนนว่า "ไม่กลัวท้องเหรอ"
น้องแนนบอกว่าแฟนใส่ถุงยางผมก็บอกว่า "ถ้าพี่ใส่ถุงยางแล้วทำแนนได้ไหม"
ว่าแล้วผมก็เข้าไปกอดไซ้ดึงผ้าขนหนูน้องแนนออก ตอนแรกเธอขัดขืนแต่พอผมดูดนมได้ เธอก็อ่อนเพราะคง
มีอารมณ์ค้างอยู่ ผมดูดติ่งน้องแนนจนเธอร้องลั่น บอกว่าพี่แนนไม่ไหวแล้ว ผมก็งัดของผมมาให้น้องแนนดูด
เธอบอกว่าไม่เป็นเคย แต่ใช้มือชักให้แฟนแล้วก็เอากันเลย ผมก็เลยสอนให้ตอนแรกก็โดนฟัน แต่สักพักน้องแนน
ก็ทำได้ดีพอแข็งได้ ทีนี้พอผมจับมาจ่อหอยเธอ น้องแนนรีบร้องทักว่าใส่ถุงก่อนพี่ ผมบอกไม่มีถุง น้องแนน
ก็เอื้อมไปหยิบที่หัวเตียงมาแล้วใส่ให้ผม
เธอบอกว่าของพี่ใหญ่จังแนนกลัวเจ็บ แล้วผมก็จับน้องแนนนอนลงผมก็นอนทาบลงไปพยายามชวนน้องแนนคุย
จังหวะที่เผลอ ผมก็ดึงถุงยางออก โดยน้องแนนไม่รู้ตัวแล้วจับยัดทันที น้องแนนร้องว่าเจ็บผมรีบดูดนม
เพื่อกลบเกลื่อนสักพัก น้องแนนก็ครางด้วยความสุขสักพัก ก็จับน้องแนนยกล้อกดลึกสุดๆ สักพักน้องแนน
ก็กระตุกอ้าปากค้างหัวนมตั้งอกแดงเป็นผืน ผมรู้ทันทีว่าเธอเสร็จแล้ว ผมรีบซอยน้องแนนตอดแรงจนผมทนไม่ไหว
ผมปล่อยน้ำพุ่งเข้าไปในมดลูกน้องแนนอย่างเต็มแรง แล้วกระแทกซ้ำจมสมใจผมกดแช่ไว้สักพัก
น้องแนนบอกว่ารู้สึกมีอะไรเข้าไปข้างใน แล้วเธอก็เอามือมาจับที่รูปรากฏว่ามีน้ำเยิ้มออกมา เธอตกใจมาก
รีบลุกขึ้นถามว่าทำไมพี่ทำอย่างนี้ ผมบอกว่าพี่รักน้องแนนพี่เป็นผัวน้องแนนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ต่อไป
จะให้คนอื่นทำไม่ได้แล้ว น้องแนนร้องไห้ผมก็ปลอบอยู่สักพัก ผมก็เริ่มยกสองต่อคืนนั้นผมทำน้องแนน 4 ครั้ง
ปล่อยเข้าหมด แล้วเราก็แอบเอากันเรื่อยมา
ผมพาเธอไปฉีดยาคุมจะได้เล่นกันอย่างหายห่วง เธอบอกเลิกกับแฟนและยอมเป็นเมียผมคนเดียว
บ่อยครั้งที่ตอนเย็นผมจะไปรับเธอที่โรงเรียน แล้วไปแวะเอากันที่โรงแรมก่อนกลับบ้าน แต่ถึงอย่างไร
ผมก็ยังคงทำการบ้านกับเมียผมเสมอ เพราะลีลาของเมียผมเอง ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องแนนแต่อย่างใด
35
xseed คลิป / ทำไมอเมริกาไม่มีรัฐประหาร อังกฤษ ควีนเรียกไปด่า หมาทั้งกองทัพ : เจาะข่าวตื้น 261
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 15:03:59 »36
xseed คลิป / โรงเรียนเผด็จการ รัฐก็เผด็จการ แจกก้วยกันดีก่า : เจาะข่าวตื้น 260
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 15:02:25 »37
xseed คลิป / มิดไมล์ Beep Beep Ep7 พาน้องมายด์ สาวสวยมาพิชิตภารกิจสุดลุ้น
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 15:01:31 »38
xseed คลิป / ห้องแห่งความลับ EP. 6 +Special : น้องชมพู / ฮาล้านXแวนโก๊ะ
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 15:00:13 »41
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Zhou Yuxi เด็กๆจ๋ามาคลายร้อนกันเถอะ [68P]
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 09:06:35 »
42
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Zhou Yuxi เด็กๆจ๋ามาคลายร้อนกันเถอะ [68P]
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 09:01:06 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
43
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Re: Meng Fan ค่าเทอมแพงไหมน้อง [52P]
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 08:48:56 »44
ห้องพิคโพส อีกไม่นานห้องนี้จะปิดให้เฉพาะสมาชิกดู โปรดสมัครสมาชิกด้วยนะครับ / Meng Fan ค่าเทอมแพงไหมน้อง [52P]
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 08:44:33 »เนื่องด้วยรูปเยอะบางคนเนตไม่แรง กระทู้นี้ขอโชว์ 30 รูปนะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
ใครอยากดูครบเซท คอมเม้นท์เอานะครับ
45
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / วะนิวโดะ (輪入道 ) ปีศาจกงล้อ
« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2020, 15:26:10 »วะนิวโดะ (輪入道 ) ปีศาจกงล้อ
วะนิโด เป็นปีศาจที่มีรูปร่างเป็นกงล้อขนาดใหญ่ มีไฟลุกอยู่รอบๆ ส่วนตรงกลางวงล้อจะมีศีรษะขนาดใหญ่
ของชายแก่อยู่ สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าทุกข์ทรมานอยู่ ซึ่งปีศาจตนนี้เกิดจากวิญญาณที่เคราะห์ร้าย
ถูกประหารอย่างไร้ความยุติธรรม โดยใช้เกวียนลากด้วยวัว หน้าที่ของมันคือการเฝ้าประตูนรก ว่ากันว่ามัน
มักปรากฏตัวข้างหลังผู้หญิงที่เป็นแม่ และตะโกนว่า "หันมาดูลูกของเจ้าสิ" " ถ้าหากพวกเธอมองย้อนกลับไป
มันจะกินวิญญาณของพวกเธอ ว่ากันว่าแต่เดิมมันเป็น คนขับรถม้า ที่พลาดตกลงไปในหน้าผาจนตาย
ก่อนจะกลายเป็นปีศาจออกวิ่งสร้างความหวาดกลัวในถนนบนภูเขาเป็นระยะๆ
ยังมีนิทานเล่าว่ากาลครั้งหนึ่งที่ถนนโทโตะในเกียวโต จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งชื่อ "รินจินโด"
มีลักษณะเป็นวงล้อยักษ์มีหัวโล้นขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางวงล้อ
ยามค่ำคืนเจ้าสัตว์ประหลาดชนิดนี้จะวิ่งจากเมืองไปยังภูเขา พร้อมกับออร่าที่น่ากลัวอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น
แต่กระนั้นก็มีหญิงคนหนึ่งต้องการดูสัตว์ประหลาดให้เห็นกับตา จึงแอบแง้มเปิดช่องประตูเล็กอย่างระมัดระวัง
เพื่อรอดูการมาถึงของสัตว์ประหลาด เมื่อเธอได้ยินเสียงกึกก้องของล้อดังขึ้น และเมื่อมันเลี้ยวมาถึงตำแหน่ง
ของเธอ ก็ปรากฏล้อรถขนาดใหญ่ซึ่งมีใบหน้าที่น่ากลัวแขวนอยู่ ควบตรงมาหาผู้หญิงคนนั้น จนเธอต้องผงะ
ขณะกำลังจะถอยศีรษะ ในเวลานั้นสัตว์ประหลาดตะโกนว่า
"คุณผู้หญิงแทนที่จะมาจ้องหน้าข้า หันกลับไปมองลูกของเจ้าจะดีกว่า"
เมื่อนางได้ยิงดังนั้นก็หันหน้ากลับไปมองลูกของเธอด้วยความประหลาดใจ และเธอก็พบว่าแขนขาลูกรัก
ของเธอนั้นถูกฉีกออกอย่างไร้ความปราณี ถือเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกับเจ้า วะนิวโดะ มาก
วะนิโด เป็นปีศาจที่มีรูปร่างเป็นกงล้อขนาดใหญ่ มีไฟลุกอยู่รอบๆ ส่วนตรงกลางวงล้อจะมีศีรษะขนาดใหญ่
ของชายแก่อยู่ สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าทุกข์ทรมานอยู่ ซึ่งปีศาจตนนี้เกิดจากวิญญาณที่เคราะห์ร้าย
ถูกประหารอย่างไร้ความยุติธรรม โดยใช้เกวียนลากด้วยวัว หน้าที่ของมันคือการเฝ้าประตูนรก ว่ากันว่ามัน
มักปรากฏตัวข้างหลังผู้หญิงที่เป็นแม่ และตะโกนว่า "หันมาดูลูกของเจ้าสิ" " ถ้าหากพวกเธอมองย้อนกลับไป
มันจะกินวิญญาณของพวกเธอ ว่ากันว่าแต่เดิมมันเป็น คนขับรถม้า ที่พลาดตกลงไปในหน้าผาจนตาย
ก่อนจะกลายเป็นปีศาจออกวิ่งสร้างความหวาดกลัวในถนนบนภูเขาเป็นระยะๆ
ยังมีนิทานเล่าว่ากาลครั้งหนึ่งที่ถนนโทโตะในเกียวโต จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งชื่อ "รินจินโด"
มีลักษณะเป็นวงล้อยักษ์มีหัวโล้นขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางวงล้อ
ยามค่ำคืนเจ้าสัตว์ประหลาดชนิดนี้จะวิ่งจากเมืองไปยังภูเขา พร้อมกับออร่าที่น่ากลัวอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น
แต่กระนั้นก็มีหญิงคนหนึ่งต้องการดูสัตว์ประหลาดให้เห็นกับตา จึงแอบแง้มเปิดช่องประตูเล็กอย่างระมัดระวัง
เพื่อรอดูการมาถึงของสัตว์ประหลาด เมื่อเธอได้ยินเสียงกึกก้องของล้อดังขึ้น และเมื่อมันเลี้ยวมาถึงตำแหน่ง
ของเธอ ก็ปรากฏล้อรถขนาดใหญ่ซึ่งมีใบหน้าที่น่ากลัวแขวนอยู่ ควบตรงมาหาผู้หญิงคนนั้น จนเธอต้องผงะ
ขณะกำลังจะถอยศีรษะ ในเวลานั้นสัตว์ประหลาดตะโกนว่า
"คุณผู้หญิงแทนที่จะมาจ้องหน้าข้า หันกลับไปมองลูกของเจ้าจะดีกว่า"
เมื่อนางได้ยิงดังนั้นก็หันหน้ากลับไปมองลูกของเธอด้วยความประหลาดใจ และเธอก็พบว่าแขนขาลูกรัก
ของเธอนั้นถูกฉีกออกอย่างไร้ความปราณี ถือเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกับเจ้า วะนิวโดะ มาก
46
ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก / เรื่องสยองของตัวตลก (Terror Tales of Clowns)
« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2020, 15:00:02 »เรื่องสยองของตัวตลก (Terror Tales of Clowns)
โดย Cammy-เต่านรก
The Union Screaming House
ในเดือนพฤษภาคม สตีเฟ่น ลาช๊านซ์ และลูกทั้งสามของเขา ได้ตัดสินใจย้ายออกจากอพาร์ทเม้นขนาดเล็กเพื่อไปอยู่อาศัย
ในบ้านโบราณใหญ่หลังหนึ่งใน ยูเนี่ยน มิสซูรี บ้านหลังนั้นมีชั้นใต้ดินที่ยังมีพื้นที่ห้องน้ำฝักบัวเก่ากับห้องเก็บเนื้อและผลไม้
ในห้องใต้ดิน ซึ่งสภาพบ้านสมบูรณ์น่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง แต่หารูไม่ว่าบ้านหลังนี้มีของแถมที่ไม่พึ่งประสงค์ติดมาด้วย
และแล้วในช่วงสัปดาห์ต่อจากนั้นสตีฟและลูกๆของเขา ก็ถูกหลอกหลอนจากสิ่งลึกลับและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
ยกตัวอย่าง ร่างหมอกมืดของมนุษย์ที่หลบซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ หรือผ่านตามจุดต่างๆ ของไล่ล่าลูกของเขา
(ลูกชายอ้างว่ามันขึ้นจากชั้นใต้ดิน) เสียงกริ๊ดร้องที่ดังมาจากด้านในของบ้าน ไปจนถึงแรงสั่นสะเทือนของบ้าน
และบางสิ่งบางอย่างน่ากลัวนั้นคือ ผีตัวตลกปีศาจ เดินในห้องโผล่ และพวกลูก ๆ ของเขาอ้างว่าฝันเห็นชายคนหนึ่ง
ที่อยู่ในห้องใต้ดิน ตั้งหน้าตั้งตาล้างเลือดออกจากร่างกายของเขาในห้องอาบน้ำฝักบัว
ในที่สุดสตีฟก็ตัดสินใจพาครอบครัวย้ายออกจากบ้านหาที่อยู่ใหม่ในที่สุด และเรื่องราวของเขาประสบมาได้เขียนไว้
ในหนังสือ The Uninvited: The True Story of the Union Screaming House
Zozzaby's Stinky Ghost
เฟรเดอริก ซอซซาบาย เป็นตัวตลกจากสาธารณรัฐเชโกสโลวาเกีย (ซอมซาบายแปลว่า “จมูกใหญ่”) ที่ย้ายไปลิเวอร์พูล
ในช่วงยุคสมัยเอ็ดเวิร์ด (เป็นระยะเวลาระหว่างปี ค .ศ. 1901 ถึงปี ค.ศ. 1910) ต่อมาเขาฆ่าตัวตายอย่างอนาถ
และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของวิญญาณตัวตลกหลอกหลอนเด็ก
คืนหนึ่งในเดือนธันวาคม 2002 โทมัน อายุ 13 ปีและน้องชายของเขา ขณะนอนอยู่บนเตียงสองชั้นจู่ๆ พวกเขาก็ถูกปลุก
ให้ตื่นเพราะได้ยินเสียงหัวเราะดังก้องในห้อง ไม่ช้าที่พวกเขาลืมตาพวกเขาก็เห็นผีร่างโปร่งใสบางส่วนน่ากลัวยืนอยู่มุม
ที่อยู่ใกล้ประตูของพวกเขา มันแต่งกายในชุดสีสูทวันพีชน้ำตาลแดง สวมหมวกรูปทรงกรวย ปลอกคอสีขาว มันเอามือ
ข้างหนึ่งวางบนท้อง และเอามืออีกข้างที่ชี้ไปทางเด็ก พร้อมกับคำรามเสียงหัวเราะ
ใบหน้าของผีตัวนั้นก็แปลกประหลาด และน่ากลัวมาก จมูกดั้งหักใหญ่ทาสีแดง ตากลวงจนเห็นร่องตาดำกะโหลก
ใบหน้าแต่งหน้าหนักจนเป็นตัวตลกจนไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง และยังมีสีเขียวเรืองแสงที่สว่างรอบตัวมัน เด็กทั้งสอง
ร้องไห้และพยายามร้องหาพ่อแม่ แต่ไม่มีใครมาช่วยพวกเขา ก่อนที่ตัดสินใจหาทางฝ่าผี (ที่มันพยายามเพื่อป้องกัน
ไม่ให้พวกเด็กออกจากห้อง) ที่ว่าไปที่ห้องพ่อแม่และอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น
และเมื่อไปตรวจสอบห้องนั้นอีกทีพบกลิ่นหอม แต่น่าคลื่นไส้เหมือนน้ำยาดองศพก่อนที่จะจางหายไป
Klutzo The Christian Clown
นายอามอน พอล คาล็อก จูเนียร์ อายุ 57 ปี เป็นตลกเกษียณในสปริงฟิลด์ อิลลินอยส์ แม้ว่าจะลาวงการไปแล้ว
แต่เนื่องด้วยเป็นผู้นับถือศาสนาศริสต์ ชอบทำงานการกุศล ทำให้บางโอกาสเขามักแต่งเป็นตัวตลก Klutzo
เขาทำการแสดงเพื่อความบันเทิงให้ความสุขแก่เด็กในโรงเรียน หรือแม้กระทั่งเด็กกำพร้านอกประเทศ เช่น
เม็กซิโกและฟิลิปปินส์ ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังเป็นเพียงแค่หมาป่าในเสื้อผ้าตัวตลกเท่านั้น
ในเดือนมิถุนายน 2007 คาล็อก ได้มาถึงสนามบินนานานชาติซานฟรายซิสหลังจากทำงานเป็นตัวตลกแสดงที่
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศฟิลิปปินส์ เขาถูกหยุดโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อมีการพบภาพเปลือย
ของเด็กผู้ชายที่ถูกถ่ายเก็บในแล็ปท็อปและกล้องดิจิตอลของเขา และเมื่อออกหมายค้นก็พบ แผ่นซีดี 21 แผ่น
ซึ่งเป็นภาพยนตร์ลามกเด็กที่หายออกจากบ้าน และบางภาพแสดงเห็นได้ชัดว่าคาล็อกขืนใจเด็กเหล่านั้น
ส่วนทางด้านคาล็อกนั้นตามข่าวบอกว่าเขาถูกปืนไฟฟ้าจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช็อกตาย
ในเวลาต่อมาในเวลาต่อมา (ทำไมถึงโดนก็ไม่รู้)
West Palm Beach Murder
ในเดือนพฤษภาคม 1990 มาร์ลีน วอร์เรน ผู้อยู่อาศัยในเวลลิงตันได้เปิดประตูเมื่อพบว่ามีแขกอยู่หน้าบ้าน และเมื่อ
เปิดออกมาก็พบตัวตลกถือช่อดอกไม้และลูกโป่งสีน้ำเงินสองใบ แต่ยังไม่ทันที่เอพูด “ขอบคุณ” เจ้าตัวตลกดังกล่าว
ก็ใช้ปืน .38 คาลิเบอร์ ยิงเธอตายทันที เมื่อลูกชายของวอร์ลีนได้ยินเสียงปืน และวิ่งไปที่ประดูก็พบแม่ของเขานอน
อยู่สระว่ายน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด และนอกบ้านเขาก็ได้เห็นตัวตลกที่มีตาสีน้ำตาลขับรถเผ่นหนีไกลออกไป
ต่อมาก็ได้มีการสืบสวนและมีผู้ต้องสงสัยสองคน คนแรกคือ ไมเคิล วอร์เรน สามีของผู้ตาย และ ชีล่า คีน ที่มีข่าวลือว่า
มีเป็นอดีตคนรักเก่าของไมเคิล ทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชีล่าอ้างว่าเธอกับไมเคิล เป็นเพียงคู่ค้าทางธุรกิจ
ส่วนไมเคิลอ้างว่าในวันเกิดเหตุฆาตกรรมเขากำลังอยู่เส้นทางไปคาลเดอร์ เรซ ร่วมกับเพื่อนๆ ในช่วงที่ภรรยาของเขา
ถูกสังหาร แม้ว่าจะมีหลักฐานที่ชี้ว่าพวกเขาทั้งสองมีความผิด แต่ไม่เพียงพอที่จะมัดตัว
และจนบัดนี้คดีฆาตกรตัวตลกก็ยังคงปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย
Clown Kidnappers
ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 80 ถึงช่วงต้นยุค 90 ได้เกิดคดีตัวตลกลักพาตัวเด็กหลายรายในอเมริกา หนึ่งในเหตุการณ์น่ากลัว
เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1981 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บรุกไลน์ แมสซาซูเซต ได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับรถตู้ลึกลับ
ที่มักชอบมาป่วนเปี้ยนใกล้โรงเรียนประถม โดยตัวตลกหรือกลุ่มคนที่อยู่ในรถ จะใช้ลูกอมเพื่อล่อเหยื่อเด็กสาวเข้าไปในรถตู้
ช่วงปลายปี 2008 เกิดขึ้นที่ชิคาโกรัฐอิลลินอยส์ มีการแจ้งเตือนชุมชนว่าได้ปรากฏชายไม่ทราบชื่อแต่งตัวเป็นตัวตลก
และขายหรือแจกลูกโป่ง เพื่อล่อเด็กเขาไปรถตู้สีขาวของเขาก่อนที่จะถูกลักพาตัวไป
Camanche Road Mystery
ในเดือนกันยายน 2004 เอริค เดา และภรรยาของเขา กำลังขับรถกลับบ้านเขาในคามันชี, ไอโอวา ทุกอย่างไปอย่างราบรื่น
จนกระทั่งพวกเขาเห็นภาพที่หน้าตกใจตรงหน้าพวกเขา เหมือนบนมีผีตุ๊กตา โรนัลด์ แม็กโดนัลด์ จำนวนหลายสิบตัว เรียงราย
อยู่เต็มถนน ตุ๊กตาดังกล่าวเป็นเซรามิค สูง 14 นิ้ว เพียงแต่ใบหน้าของพวกเขานั้นน่ากลัวกว่าที่พบเห็นในร้านแม็คโดนัลด์
ซึ่งปรากฏแบบไม่มีที่มาที่ไปโดยทั้งสิ้น ราวกับอยู่แดนสนธยา
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 0.30 น. อีกทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาสาสมัครก็ได้อ้างว่าเขาขับรถในถนนสายเดียวกันสองชั่วโมง
ก่อนหน้าและได้เห็นสิ่งผิดปกติเช่นกัน ภรรยาของเอริคอ้างว่ามันเหมือนกับดักประหลาด เหมือนมันดึงดูดให้เธอออกจากรถ
ของพวกเขาและพวกมันจะจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ตามเช้าวันรุ่งขึ้น ตุ๊กตาตัวตลกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
Vincent Hitchcock
วินเซนต์ฮิตช์ค็อก เป็นชื่อตุ๊กตาตัวตลก (ชื่อของตัวตุ๊กตามาจากวินเซนต์ ไพรซ์นักแสดงหนังสยองขวัญกับอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก)
ซึ่งมันเป็นตุ๊กตาตัวตลกของเล่น ซึ่งเจ้าของซึ่งเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากโอเรกอนได้เห็นตุ๊กตานี้จากงานประมูลบออนไลน์
แม้รูปร่างหน้าตาจะน่าขยะแขยยงแต่เธอก็ซื้อมันในราคา $500
ไม่นานหลังจากที่วางวินเซนต์ในมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็ประสบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด เช่น ตุ๊กตาตัวตลกเคลื่อนย้ายที่ได้เอง
และเคยพบตุ๊กตายกแขนทั้งสองข้างในอากาศอย่างลึกลับ ต่อมามีบันทึกเทปอยู่ใกล้กับตุ๊กตาและเมื่อเปิดออกมาก็ได้ยินเสียงทุ้มลึก
ของมนุษย์ที่เปล่งเสียงคำว่า “Wake up !” (ตื่นได้แล้ว!) ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง
แม้ว่าจะเชื่อว่าตุ๊กตา วินเซนต์ฮิตช์ค็อก ถูกครอบงำด้วยวิญญาณเด็ก แต่ตัวตนของวิญญาณของผียังคงเป็นปริศนา
The Clown Statue
รูปปั้นตัวตลกเป็นตำนานเมืองที่น่าขนหัวลุกในอีเมล์ลูกโซ่มานานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้รายละเอียดปลีกย่อย
จะแตกต่างกันไป แต่ที่นิยมที่สุดคือ ตำนานเล่าว่า มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งถูกจ้างเป็นพี่เลี้ยงเด็กในบ้านหลังใดหลังหนึ่ง
ในแคลิฟอร์เนีย และให้อยู่บ้านขณะที่พ่อแม่ของเด็กไปรับประทานอาหารค่ำตอนกลางคืน
เมื่อพ่อแม่เด็กออกไปข้างนอก พี่เลี้ยงเด็กก็เดินมาที่ห้องนั่งเล่นก็พบตุ๊กตาตัวตลกตั้งยืนอยู่ข้างโซฟาดูทีวี แต่ตอนนั้น
เธอไม่สนใจมากนักเลยนั่งโซฟาเพื่อดูทีวี ระหว่างที่เธอดูทีวีเธอก็พบอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล เมื่อเธอรู้สึกเหมือนกับว่า
ตุ๊กตาตัวตลกจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจเธอเลยออกจากห้องนั่งเล่นเพื่อสอบถามพ่อแม่ของเด็ก
ก็พบว่าบ้านนี้ไม่มีรูปปั้นตัวตลก และเมื่อกลับมาดูอีกทีก็พบว่าตัวตลกหายไปแล้ว
แล้วตุ๊กตาตัวตลกนั้นคืออะไรกันแน่..? ผี..? หรือคนบ้าหลุดจากโรงพยาบาล..?
The Harlequin
แดน นิทเชลล์ ในวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ได้อ้างว่าทั้งชีวิตของเธอต้องต่อสู้กับสิ่งลึกลับหลอกหลอนชนิดหนึ่ง
ที่เรียกว่า The Harlequin ซึ่งเจ้า ฮัลลิควิน นี้เป็นตัวละครในนิยายของผู้เขียน แบรด สไตเกอร์เป็นสิ่งมีชีวิต
ที่คล้ายๆ กะเทย ปากกว้าง ดวงตาดำ แขนขายาว และผิวขาวมาก
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มิทเชลล์ได้อ้างว่าในคืนตอนดึกคืนหนึ่งเธอนอนอยู่บนเตียง จู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตคล้ายกระเทย
ปากกว้าง ใส่เสื้อผ้าแปลก เหมือนตัวตลก ปรากฏออกมาพร้อมกลิ่นหอมสดเหมือนฝนฤดูร้อน และมันก็เต้นรำ
ไปรอบๆ ห้องของเธอ
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อคำพูดของมิทเชลล์ ในฤดูใบไม้ผลิปี 1981 เธอยังถูกตัวตลกก่อกวนแบบไม่เลิก เธอบอกกับ
ครอบครัวของเธอว่าได้ยินเสียงหัวเราะจากชั้นบัน มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่ากลัวจนเสียวสันหลัง หลังจากนั้นครอบครัว
ของเธอก็ได้เห็นตัวตลก แม้ไม่เห็นชัดๆ แต่พวกเธอรู้สึกได้ว่ามันอยู่ที่ใดสักแห่งในบ้านของพวกเธอ ทุกคนได้ยิน
เสียงหัวเราะ
ขณะนี้มิทเชลล์แม้ว่าจะโตแล้วตัวตลกยังตามมาหาเธอ มันมักปรากฏตัวแล้วก็หายไป มีอยู่คืนหนึ่งเธอ
ตื่นขึ้นมาเห็นอยู่บนเท้าบนเตียงของเธอ
Pogo's Other Victims
หลายคนคงรู้จักจอห์น เวย์น แกรี่ “ฆาตกรตัวตลก” ที่เป็นฝันร้ายของเด็กชายวัยรุ่นแห่งเมืองชิคาโก้ รัฐอิลินอยส์
เขาเป็นคนมีหน้าตาในสังคม ชอบทำงานสังคมสงเคราะห์แต่งตัวเป็นตัวตลกโฟ้โก้ไปเยี่ยมเด็กๆในโรงพยาบาล
หากแต่เบื้องหลังกลับมีรสนิยมรักร่วมเพศหรือความผิดปกติทางจิตอันเนื่องมาจากประสบการณ์ที่เลวร้ายในวัยเด็ก
จนกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องฆาตกรรมเด็กหนุ่มที่เป็นผู้ชายถึง33 คน ทุกคนข่มขืน ทรมานและฆ่าอย่างไร้ความปราณี
ที่น่ากลัวกว่านั้นเขานำศพไปซ่อนตามจุดๆ ของบ้านของเขา (บางส่วนไปทิ้งแม่น้ำ) จนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณบ้าน
จนทำให้เขาถูกจับ ต่อมานักสืบพบว่าจอห์นเดินทางไป 15-20 รัฐในปี 1970 เชื่อว่าในช่วงเวลานั้นเขาฆ่าเหยื่อคนอื่นๆ
ที่ไม่ถูกระบุด้วย หากแต่จนบัดนี้ศพของเหยื่อเหล่านี้ยังไม่มีใครค้นพบ
สุดท้ายจอห์นถูกประหารด้วยการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดเมื่อวันที่ 10พฤษภาคม 1994 แต่เรื่องราวของเขา
ยังคงมีชื่อเสียงในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
อ้างอิง
http://listverse.com/2013/08/08/10-terrifying-tales-about-clowns/
โดย Cammy-เต่านรก
The Union Screaming House
ในเดือนพฤษภาคม สตีเฟ่น ลาช๊านซ์ และลูกทั้งสามของเขา ได้ตัดสินใจย้ายออกจากอพาร์ทเม้นขนาดเล็กเพื่อไปอยู่อาศัย
ในบ้านโบราณใหญ่หลังหนึ่งใน ยูเนี่ยน มิสซูรี บ้านหลังนั้นมีชั้นใต้ดินที่ยังมีพื้นที่ห้องน้ำฝักบัวเก่ากับห้องเก็บเนื้อและผลไม้
ในห้องใต้ดิน ซึ่งสภาพบ้านสมบูรณ์น่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง แต่หารูไม่ว่าบ้านหลังนี้มีของแถมที่ไม่พึ่งประสงค์ติดมาด้วย
และแล้วในช่วงสัปดาห์ต่อจากนั้นสตีฟและลูกๆของเขา ก็ถูกหลอกหลอนจากสิ่งลึกลับและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
ยกตัวอย่าง ร่างหมอกมืดของมนุษย์ที่หลบซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ หรือผ่านตามจุดต่างๆ ของไล่ล่าลูกของเขา
(ลูกชายอ้างว่ามันขึ้นจากชั้นใต้ดิน) เสียงกริ๊ดร้องที่ดังมาจากด้านในของบ้าน ไปจนถึงแรงสั่นสะเทือนของบ้าน
และบางสิ่งบางอย่างน่ากลัวนั้นคือ ผีตัวตลกปีศาจ เดินในห้องโผล่ และพวกลูก ๆ ของเขาอ้างว่าฝันเห็นชายคนหนึ่ง
ที่อยู่ในห้องใต้ดิน ตั้งหน้าตั้งตาล้างเลือดออกจากร่างกายของเขาในห้องอาบน้ำฝักบัว
ในที่สุดสตีฟก็ตัดสินใจพาครอบครัวย้ายออกจากบ้านหาที่อยู่ใหม่ในที่สุด และเรื่องราวของเขาประสบมาได้เขียนไว้
ในหนังสือ The Uninvited: The True Story of the Union Screaming House
Zozzaby's Stinky Ghost
เฟรเดอริก ซอซซาบาย เป็นตัวตลกจากสาธารณรัฐเชโกสโลวาเกีย (ซอมซาบายแปลว่า “จมูกใหญ่”) ที่ย้ายไปลิเวอร์พูล
ในช่วงยุคสมัยเอ็ดเวิร์ด (เป็นระยะเวลาระหว่างปี ค .ศ. 1901 ถึงปี ค.ศ. 1910) ต่อมาเขาฆ่าตัวตายอย่างอนาถ
และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของวิญญาณตัวตลกหลอกหลอนเด็ก
คืนหนึ่งในเดือนธันวาคม 2002 โทมัน อายุ 13 ปีและน้องชายของเขา ขณะนอนอยู่บนเตียงสองชั้นจู่ๆ พวกเขาก็ถูกปลุก
ให้ตื่นเพราะได้ยินเสียงหัวเราะดังก้องในห้อง ไม่ช้าที่พวกเขาลืมตาพวกเขาก็เห็นผีร่างโปร่งใสบางส่วนน่ากลัวยืนอยู่มุม
ที่อยู่ใกล้ประตูของพวกเขา มันแต่งกายในชุดสีสูทวันพีชน้ำตาลแดง สวมหมวกรูปทรงกรวย ปลอกคอสีขาว มันเอามือ
ข้างหนึ่งวางบนท้อง และเอามืออีกข้างที่ชี้ไปทางเด็ก พร้อมกับคำรามเสียงหัวเราะ
ใบหน้าของผีตัวนั้นก็แปลกประหลาด และน่ากลัวมาก จมูกดั้งหักใหญ่ทาสีแดง ตากลวงจนเห็นร่องตาดำกะโหลก
ใบหน้าแต่งหน้าหนักจนเป็นตัวตลกจนไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง และยังมีสีเขียวเรืองแสงที่สว่างรอบตัวมัน เด็กทั้งสอง
ร้องไห้และพยายามร้องหาพ่อแม่ แต่ไม่มีใครมาช่วยพวกเขา ก่อนที่ตัดสินใจหาทางฝ่าผี (ที่มันพยายามเพื่อป้องกัน
ไม่ให้พวกเด็กออกจากห้อง) ที่ว่าไปที่ห้องพ่อแม่และอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น
และเมื่อไปตรวจสอบห้องนั้นอีกทีพบกลิ่นหอม แต่น่าคลื่นไส้เหมือนน้ำยาดองศพก่อนที่จะจางหายไป
Klutzo The Christian Clown
นายอามอน พอล คาล็อก จูเนียร์ อายุ 57 ปี เป็นตลกเกษียณในสปริงฟิลด์ อิลลินอยส์ แม้ว่าจะลาวงการไปแล้ว
แต่เนื่องด้วยเป็นผู้นับถือศาสนาศริสต์ ชอบทำงานการกุศล ทำให้บางโอกาสเขามักแต่งเป็นตัวตลก Klutzo
เขาทำการแสดงเพื่อความบันเทิงให้ความสุขแก่เด็กในโรงเรียน หรือแม้กระทั่งเด็กกำพร้านอกประเทศ เช่น
เม็กซิโกและฟิลิปปินส์ ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังเป็นเพียงแค่หมาป่าในเสื้อผ้าตัวตลกเท่านั้น
ในเดือนมิถุนายน 2007 คาล็อก ได้มาถึงสนามบินนานานชาติซานฟรายซิสหลังจากทำงานเป็นตัวตลกแสดงที่
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศฟิลิปปินส์ เขาถูกหยุดโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อมีการพบภาพเปลือย
ของเด็กผู้ชายที่ถูกถ่ายเก็บในแล็ปท็อปและกล้องดิจิตอลของเขา และเมื่อออกหมายค้นก็พบ แผ่นซีดี 21 แผ่น
ซึ่งเป็นภาพยนตร์ลามกเด็กที่หายออกจากบ้าน และบางภาพแสดงเห็นได้ชัดว่าคาล็อกขืนใจเด็กเหล่านั้น
ส่วนทางด้านคาล็อกนั้นตามข่าวบอกว่าเขาถูกปืนไฟฟ้าจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช็อกตาย
ในเวลาต่อมาในเวลาต่อมา (ทำไมถึงโดนก็ไม่รู้)
West Palm Beach Murder
ในเดือนพฤษภาคม 1990 มาร์ลีน วอร์เรน ผู้อยู่อาศัยในเวลลิงตันได้เปิดประตูเมื่อพบว่ามีแขกอยู่หน้าบ้าน และเมื่อ
เปิดออกมาก็พบตัวตลกถือช่อดอกไม้และลูกโป่งสีน้ำเงินสองใบ แต่ยังไม่ทันที่เอพูด “ขอบคุณ” เจ้าตัวตลกดังกล่าว
ก็ใช้ปืน .38 คาลิเบอร์ ยิงเธอตายทันที เมื่อลูกชายของวอร์ลีนได้ยินเสียงปืน และวิ่งไปที่ประดูก็พบแม่ของเขานอน
อยู่สระว่ายน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด และนอกบ้านเขาก็ได้เห็นตัวตลกที่มีตาสีน้ำตาลขับรถเผ่นหนีไกลออกไป
ต่อมาก็ได้มีการสืบสวนและมีผู้ต้องสงสัยสองคน คนแรกคือ ไมเคิล วอร์เรน สามีของผู้ตาย และ ชีล่า คีน ที่มีข่าวลือว่า
มีเป็นอดีตคนรักเก่าของไมเคิล ทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชีล่าอ้างว่าเธอกับไมเคิล เป็นเพียงคู่ค้าทางธุรกิจ
ส่วนไมเคิลอ้างว่าในวันเกิดเหตุฆาตกรรมเขากำลังอยู่เส้นทางไปคาลเดอร์ เรซ ร่วมกับเพื่อนๆ ในช่วงที่ภรรยาของเขา
ถูกสังหาร แม้ว่าจะมีหลักฐานที่ชี้ว่าพวกเขาทั้งสองมีความผิด แต่ไม่เพียงพอที่จะมัดตัว
และจนบัดนี้คดีฆาตกรตัวตลกก็ยังคงปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย
Clown Kidnappers
ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 80 ถึงช่วงต้นยุค 90 ได้เกิดคดีตัวตลกลักพาตัวเด็กหลายรายในอเมริกา หนึ่งในเหตุการณ์น่ากลัว
เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1981 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บรุกไลน์ แมสซาซูเซต ได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับรถตู้ลึกลับ
ที่มักชอบมาป่วนเปี้ยนใกล้โรงเรียนประถม โดยตัวตลกหรือกลุ่มคนที่อยู่ในรถ จะใช้ลูกอมเพื่อล่อเหยื่อเด็กสาวเข้าไปในรถตู้
ช่วงปลายปี 2008 เกิดขึ้นที่ชิคาโกรัฐอิลลินอยส์ มีการแจ้งเตือนชุมชนว่าได้ปรากฏชายไม่ทราบชื่อแต่งตัวเป็นตัวตลก
และขายหรือแจกลูกโป่ง เพื่อล่อเด็กเขาไปรถตู้สีขาวของเขาก่อนที่จะถูกลักพาตัวไป
Camanche Road Mystery
ในเดือนกันยายน 2004 เอริค เดา และภรรยาของเขา กำลังขับรถกลับบ้านเขาในคามันชี, ไอโอวา ทุกอย่างไปอย่างราบรื่น
จนกระทั่งพวกเขาเห็นภาพที่หน้าตกใจตรงหน้าพวกเขา เหมือนบนมีผีตุ๊กตา โรนัลด์ แม็กโดนัลด์ จำนวนหลายสิบตัว เรียงราย
อยู่เต็มถนน ตุ๊กตาดังกล่าวเป็นเซรามิค สูง 14 นิ้ว เพียงแต่ใบหน้าของพวกเขานั้นน่ากลัวกว่าที่พบเห็นในร้านแม็คโดนัลด์
ซึ่งปรากฏแบบไม่มีที่มาที่ไปโดยทั้งสิ้น ราวกับอยู่แดนสนธยา
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 0.30 น. อีกทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาสาสมัครก็ได้อ้างว่าเขาขับรถในถนนสายเดียวกันสองชั่วโมง
ก่อนหน้าและได้เห็นสิ่งผิดปกติเช่นกัน ภรรยาของเอริคอ้างว่ามันเหมือนกับดักประหลาด เหมือนมันดึงดูดให้เธอออกจากรถ
ของพวกเขาและพวกมันจะจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ตามเช้าวันรุ่งขึ้น ตุ๊กตาตัวตลกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
Vincent Hitchcock
วินเซนต์ฮิตช์ค็อก เป็นชื่อตุ๊กตาตัวตลก (ชื่อของตัวตุ๊กตามาจากวินเซนต์ ไพรซ์นักแสดงหนังสยองขวัญกับอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก)
ซึ่งมันเป็นตุ๊กตาตัวตลกของเล่น ซึ่งเจ้าของซึ่งเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากโอเรกอนได้เห็นตุ๊กตานี้จากงานประมูลบออนไลน์
แม้รูปร่างหน้าตาจะน่าขยะแขยยงแต่เธอก็ซื้อมันในราคา $500
ไม่นานหลังจากที่วางวินเซนต์ในมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็ประสบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด เช่น ตุ๊กตาตัวตลกเคลื่อนย้ายที่ได้เอง
และเคยพบตุ๊กตายกแขนทั้งสองข้างในอากาศอย่างลึกลับ ต่อมามีบันทึกเทปอยู่ใกล้กับตุ๊กตาและเมื่อเปิดออกมาก็ได้ยินเสียงทุ้มลึก
ของมนุษย์ที่เปล่งเสียงคำว่า “Wake up !” (ตื่นได้แล้ว!) ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง
แม้ว่าจะเชื่อว่าตุ๊กตา วินเซนต์ฮิตช์ค็อก ถูกครอบงำด้วยวิญญาณเด็ก แต่ตัวตนของวิญญาณของผียังคงเป็นปริศนา
The Clown Statue
รูปปั้นตัวตลกเป็นตำนานเมืองที่น่าขนหัวลุกในอีเมล์ลูกโซ่มานานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้รายละเอียดปลีกย่อย
จะแตกต่างกันไป แต่ที่นิยมที่สุดคือ ตำนานเล่าว่า มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งถูกจ้างเป็นพี่เลี้ยงเด็กในบ้านหลังใดหลังหนึ่ง
ในแคลิฟอร์เนีย และให้อยู่บ้านขณะที่พ่อแม่ของเด็กไปรับประทานอาหารค่ำตอนกลางคืน
เมื่อพ่อแม่เด็กออกไปข้างนอก พี่เลี้ยงเด็กก็เดินมาที่ห้องนั่งเล่นก็พบตุ๊กตาตัวตลกตั้งยืนอยู่ข้างโซฟาดูทีวี แต่ตอนนั้น
เธอไม่สนใจมากนักเลยนั่งโซฟาเพื่อดูทีวี ระหว่างที่เธอดูทีวีเธอก็พบอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล เมื่อเธอรู้สึกเหมือนกับว่า
ตุ๊กตาตัวตลกจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจเธอเลยออกจากห้องนั่งเล่นเพื่อสอบถามพ่อแม่ของเด็ก
ก็พบว่าบ้านนี้ไม่มีรูปปั้นตัวตลก และเมื่อกลับมาดูอีกทีก็พบว่าตัวตลกหายไปแล้ว
แล้วตุ๊กตาตัวตลกนั้นคืออะไรกันแน่..? ผี..? หรือคนบ้าหลุดจากโรงพยาบาล..?
The Harlequin
แดน นิทเชลล์ ในวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ได้อ้างว่าทั้งชีวิตของเธอต้องต่อสู้กับสิ่งลึกลับหลอกหลอนชนิดหนึ่ง
ที่เรียกว่า The Harlequin ซึ่งเจ้า ฮัลลิควิน นี้เป็นตัวละครในนิยายของผู้เขียน แบรด สไตเกอร์เป็นสิ่งมีชีวิต
ที่คล้ายๆ กะเทย ปากกว้าง ดวงตาดำ แขนขายาว และผิวขาวมาก
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มิทเชลล์ได้อ้างว่าในคืนตอนดึกคืนหนึ่งเธอนอนอยู่บนเตียง จู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตคล้ายกระเทย
ปากกว้าง ใส่เสื้อผ้าแปลก เหมือนตัวตลก ปรากฏออกมาพร้อมกลิ่นหอมสดเหมือนฝนฤดูร้อน และมันก็เต้นรำ
ไปรอบๆ ห้องของเธอ
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อคำพูดของมิทเชลล์ ในฤดูใบไม้ผลิปี 1981 เธอยังถูกตัวตลกก่อกวนแบบไม่เลิก เธอบอกกับ
ครอบครัวของเธอว่าได้ยินเสียงหัวเราะจากชั้นบัน มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่ากลัวจนเสียวสันหลัง หลังจากนั้นครอบครัว
ของเธอก็ได้เห็นตัวตลก แม้ไม่เห็นชัดๆ แต่พวกเธอรู้สึกได้ว่ามันอยู่ที่ใดสักแห่งในบ้านของพวกเธอ ทุกคนได้ยิน
เสียงหัวเราะ
ขณะนี้มิทเชลล์แม้ว่าจะโตแล้วตัวตลกยังตามมาหาเธอ มันมักปรากฏตัวแล้วก็หายไป มีอยู่คืนหนึ่งเธอ
ตื่นขึ้นมาเห็นอยู่บนเท้าบนเตียงของเธอ
Pogo's Other Victims
หลายคนคงรู้จักจอห์น เวย์น แกรี่ “ฆาตกรตัวตลก” ที่เป็นฝันร้ายของเด็กชายวัยรุ่นแห่งเมืองชิคาโก้ รัฐอิลินอยส์
เขาเป็นคนมีหน้าตาในสังคม ชอบทำงานสังคมสงเคราะห์แต่งตัวเป็นตัวตลกโฟ้โก้ไปเยี่ยมเด็กๆในโรงพยาบาล
หากแต่เบื้องหลังกลับมีรสนิยมรักร่วมเพศหรือความผิดปกติทางจิตอันเนื่องมาจากประสบการณ์ที่เลวร้ายในวัยเด็ก
จนกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องฆาตกรรมเด็กหนุ่มที่เป็นผู้ชายถึง33 คน ทุกคนข่มขืน ทรมานและฆ่าอย่างไร้ความปราณี
ที่น่ากลัวกว่านั้นเขานำศพไปซ่อนตามจุดๆ ของบ้านของเขา (บางส่วนไปทิ้งแม่น้ำ) จนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณบ้าน
จนทำให้เขาถูกจับ ต่อมานักสืบพบว่าจอห์นเดินทางไป 15-20 รัฐในปี 1970 เชื่อว่าในช่วงเวลานั้นเขาฆ่าเหยื่อคนอื่นๆ
ที่ไม่ถูกระบุด้วย หากแต่จนบัดนี้ศพของเหยื่อเหล่านี้ยังไม่มีใครค้นพบ
สุดท้ายจอห์นถูกประหารด้วยการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดเมื่อวันที่ 10พฤษภาคม 1994 แต่เรื่องราวของเขา
ยังคงมีชื่อเสียงในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
อ้างอิง
http://listverse.com/2013/08/08/10-terrifying-tales-about-clowns/
47
CMX AV Recommend / Midorikawa Miyabi ผู้ขอมาดื่มด่ำ Sex ให้เมามาย
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2020, 12:20:25 »Midorikawa Miyabi ผู้ขอมาดื่มด่ำ Sex ให้เมามาย
Midorikawa Miyabi สาวมหาลัยปี 3 วัย 21 ปี ที่เพิ่งเดบิวส์ไปเมื่อ ก.ย. 2020 กับค่าย Fitch ส่วน
เหตุผลที่มาเล่น AV ก็เพื่อเก็บเงินไปเพื่อเติมเต็มความฝันอันยิ่งใหญ่ของเธอที่อยากเปิดร้านเสริมสวย
ขึ้นเดือนใหม่สาวคัพ H คนนี้ก็ออกงานชิ้นที่ 2 ทันที
โดยเธอให้เหตุผลว่า เพราะเรื่องแรกค่อนข้างตั้งใจมากจนเกร็ง มีทั้ง ความตึงเครียดและความอาย
แต่คราวนี้เธอต้องการดื่มด่ำกับความเสียว ทางค่ายเลยบอกว่าได้..เดี๋ยวจัดให้จนเมา Sex ไปเลย
นำทีมโดย Taku Yoshimura อ้วนจอมเลีย
รายละเอียดเพิ่ม
Midorikawa Miyabi สาวมหาลัยปี 3 วัย 21 ปี ที่เพิ่งเดบิวส์ไปเมื่อ ก.ย. 2020 กับค่าย Fitch ส่วน
เหตุผลที่มาเล่น AV ก็เพื่อเก็บเงินไปเพื่อเติมเต็มความฝันอันยิ่งใหญ่ของเธอที่อยากเปิดร้านเสริมสวย
ขึ้นเดือนใหม่สาวคัพ H คนนี้ก็ออกงานชิ้นที่ 2 ทันที
โดยเธอให้เหตุผลว่า เพราะเรื่องแรกค่อนข้างตั้งใจมากจนเกร็ง มีทั้ง ความตึงเครียดและความอาย
แต่คราวนี้เธอต้องการดื่มด่ำกับความเสียว ทางค่ายเลยบอกว่าได้..เดี๋ยวจัดให้จนเมา Sex ไปเลย
นำทีมโดย Taku Yoshimura อ้วนจอมเลีย
รายละเอียดเพิ่ม
48
CMX AV Recommend / Hibiki Natsume ผ่านมา 3 งาน หนูยังไม่มีชื่อทางการ
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2020, 12:03:53 »Hibiki Natsume ผ่านมา 4 งาน หนูยังไม่มีชื่อทางการ
Hibiki Natsume สาวผมสั้น หุ่นแซบจากค่าย SOD ที่ล่าสุดเปิดผลงานที่ 3 แล้วแต่เธอยังย้ำว่า "ฉันยังไม่มีชื่อ"
โดยกระทู้นี้ก็ขอรวมผลงานที่ 2 ด้วยเลยละกัน เนื่องด้วยเรื่องแรกค่อนข้างจะเปิดตัวอย่างฉุกละหุก เรื่องนี้ทางค่าย
จึงได้มอบบทที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เพื่อดึงศักยภาพทางการแสดงของเธอ แหละตอนที่ 3 เป็นแนว
เจอลักหลับ แหละงานล่าสุดพบเธอในการแสดงผ่านคอสเพลย์ต่างๆ สี่ชุด ในเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ
ราละเอียดเพิ่มเติม
Hibiki Natsume สาวผมสั้น หุ่นแซบจากค่าย SOD ที่ล่าสุดเปิดผลงานที่ 3 แล้วแต่เธอยังย้ำว่า "ฉันยังไม่มีชื่อ"
โดยกระทู้นี้ก็ขอรวมผลงานที่ 2 ด้วยเลยละกัน เนื่องด้วยเรื่องแรกค่อนข้างจะเปิดตัวอย่างฉุกละหุก เรื่องนี้ทางค่าย
จึงได้มอบบทที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เพื่อดึงศักยภาพทางการแสดงของเธอ แหละตอนที่ 3 เป็นแนว
เจอลักหลับ แหละงานล่าสุดพบเธอในการแสดงผ่านคอสเพลย์ต่างๆ สี่ชุด ในเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ
ราละเอียดเพิ่มเติม
49
CMX AV Recommend / ครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการจับกุมข้อหาสร้าง "หนังโป๊ปลอม" ด้วยเทคโนโลยี AI
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2020, 11:17:55 »ครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการจับกุมข้อหาสร้าง
"หนังโป๊ปลอม" ด้วยเทคโนโลยี AI
เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. 2020 ชายตกงานนาม Kouya Nomaguchi วัย 30 ปี ที่จังหวัดโออิตะ ถูกตำรวจเกียวโต
เข้าจับกุมในข้อหาละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ด้วยการโพสต์คลิปที่มีการใช้เทคโนโลยี AI เปลี่ยนใบหน้านักแสดง AV
เป็นหน้าเหล่าคนดัง บนทวิตเตอร์ ที่ถูกเรียกว่า "หนังโป๊ปลอม"
โดยคาดว่า Nomaguchi เริ่มโพสคลิปลักษณะดังกล่าว ช่วงเดือนเมษายนของปีนี้ ซึ่ง "หนังโป๊ปลอม" นั้นสร้างขึ้น
โดยตัวเขาเอง และคนอื่น ๆ บนไซต์ของเขา ซึ่งมีคนดูประมาณ 50,000 คน โดยเขาได้หากำไรจากการขายคลิปวีดีโอ
ดังกล่าวในราคา 94 ถึง 250 เยน ผ่านเว็บไซต์ที่โพสต์ภาพลามกอนาจารในต่างประเทศ คาดว่าปีนี้เขาได้รับเงินไปแล้ว
ประมาณ 560,000 เยน รวมทั้งการขายโดยตรง และโฆษณา
มีผู้เสียหายเป็นคนดังที่ถูกนำใบหน้ามาใช้รวม 11 คน Nomaguchi ยอมรับสารภาพว่า ทำไปเพราะต้องการหาเงิน
นี่ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการจับกุมคดรหนังโป๊ปลอม นอกจากนั้นยังสามารถจับกุมเพิ่มเติมในความผิดลักษณะ
เดียวกันเพิ่มอีก 2 ราย โดยพวกเขาใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "Deep Fake" สร้างหนังโป๊ปลอมขึ้นมา ซึ่งสร้างรายได้
ให้พวกดเขา ประมาณ 800,000 เยนภายในเวลาไม่ถึงแปดเดือน
รายละเอียดเพิ่มเติม
"หนังโป๊ปลอม" ด้วยเทคโนโลยี AI
เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. 2020 ชายตกงานนาม Kouya Nomaguchi วัย 30 ปี ที่จังหวัดโออิตะ ถูกตำรวจเกียวโต
เข้าจับกุมในข้อหาละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ด้วยการโพสต์คลิปที่มีการใช้เทคโนโลยี AI เปลี่ยนใบหน้านักแสดง AV
เป็นหน้าเหล่าคนดัง บนทวิตเตอร์ ที่ถูกเรียกว่า "หนังโป๊ปลอม"
โดยคาดว่า Nomaguchi เริ่มโพสคลิปลักษณะดังกล่าว ช่วงเดือนเมษายนของปีนี้ ซึ่ง "หนังโป๊ปลอม" นั้นสร้างขึ้น
โดยตัวเขาเอง และคนอื่น ๆ บนไซต์ของเขา ซึ่งมีคนดูประมาณ 50,000 คน โดยเขาได้หากำไรจากการขายคลิปวีดีโอ
ดังกล่าวในราคา 94 ถึง 250 เยน ผ่านเว็บไซต์ที่โพสต์ภาพลามกอนาจารในต่างประเทศ คาดว่าปีนี้เขาได้รับเงินไปแล้ว
ประมาณ 560,000 เยน รวมทั้งการขายโดยตรง และโฆษณา
มีผู้เสียหายเป็นคนดังที่ถูกนำใบหน้ามาใช้รวม 11 คน Nomaguchi ยอมรับสารภาพว่า ทำไปเพราะต้องการหาเงิน
นี่ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการจับกุมคดรหนังโป๊ปลอม นอกจากนั้นยังสามารถจับกุมเพิ่มเติมในความผิดลักษณะ
เดียวกันเพิ่มอีก 2 ราย โดยพวกเขาใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "Deep Fake" สร้างหนังโป๊ปลอมขึ้นมา ซึ่งสร้างรายได้
ให้พวกดเขา ประมาณ 800,000 เยนภายในเวลาไม่ถึงแปดเดือน
รายละเอียดเพิ่มเติม
50
CMX AV Recommend / [AV DEBUT] Shion Mako ตัวท็อปร้านเมดคาเฟ่ชื่อดังเปิดตัว AV
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2020, 10:44:21 »[AV DEBUT] Shion Mako
ตัวท็อปร้านเมดคาเฟ่ชื่อดังเปิดตัว AV
ค่าย Marrion ได้ฤกษ์เปิดตัวหน้าใหม่ประเดิมคนแรกของรหัสนี้ ด้วยสาวเมดค่าเฟ่ชื่อดัง Shion Mako
วัย 20 ปี ก่อนมาถ่ายนทำเธอทำงานในร้านเมดคาเฟ่ชื่อดัง แถมยังเป็นตัวท็อปของร้านเลยทีเดียว
สไตล์โดนใจ สายอ้อน สายแบ๊ว แน่นอน ครั้งแรกที่เจอเธอเหมือนเป็น เด็กสาวแนวที่ชอบเล่นเกมเงียบๆ
แต่หารู้ไม่ว่าเธอเป็นสาวที่ไวไฟมาก
เซ็กส์ครั้งแรกของเธอก็มีกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และเจนสังเวียนมีประสบการณ์มามากมาย อย่างไรก็ตาม
พอถึงเวลาถ่ายทำจริงการถอดเพื่อถ่ายทำต่อหน้ากล้องครั้งแรกดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ
จนนักแสดงร่วมต้องพูดคุยช่วยละลายพฤติกรรม จนสุดท้ายก็ทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้ในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม
ตัวท็อปร้านเมดคาเฟ่ชื่อดังเปิดตัว AV
ค่าย Marrion ได้ฤกษ์เปิดตัวหน้าใหม่ประเดิมคนแรกของรหัสนี้ ด้วยสาวเมดค่าเฟ่ชื่อดัง Shion Mako
วัย 20 ปี ก่อนมาถ่ายนทำเธอทำงานในร้านเมดคาเฟ่ชื่อดัง แถมยังเป็นตัวท็อปของร้านเลยทีเดียว
สไตล์โดนใจ สายอ้อน สายแบ๊ว แน่นอน ครั้งแรกที่เจอเธอเหมือนเป็น เด็กสาวแนวที่ชอบเล่นเกมเงียบๆ
แต่หารู้ไม่ว่าเธอเป็นสาวที่ไวไฟมาก
เซ็กส์ครั้งแรกของเธอก็มีกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และเจนสังเวียนมีประสบการณ์มามากมาย อย่างไรก็ตาม
พอถึงเวลาถ่ายทำจริงการถอดเพื่อถ่ายทำต่อหน้ากล้องครั้งแรกดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ
จนนักแสดงร่วมต้องพูดคุยช่วยละลายพฤติกรรม จนสุดท้ายก็ทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้ในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม
เครื่องพิมพ์เสื้อ | รีโมทผ้าม่าน |เสาอากาศทีวีดิจิตอล | เครื่องพิมพ์ โฟโต้เคก พิมพ์หน้าเค้ก | นวดกระปู๋ | นวดกระษัย | ไซด์ไลน์ | Sideline | นวดน้ำมัน | นวดอโรมา | นวดแผนโบราณ | อาบ อบ นวด | การบ้าน | เรื่องเสียว | ลายแทง | หนังโป๊ | AV | เชียงใหม่ | ร้านนวดกระปู๋ | พริตตี้สปา | พริตตี้นวด | นวด | นวดสปา | หางาน | พนักงานนวด | รายได้ดี | Heaven108 | Royal Online | บาคาร่า | จีคลับ | gclub | royal Online | royal Online v2
-
Powered by SMF 2.0 RC5 | SMF © 2006–2010, Simple Machines LLC
Hide Tag Special By SMF Personal © 2011
