-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เจสันกับขนแกะทองคำ  (อ่าน 3969 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18303
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
เจสันกับขนแกะทองคำ
« เมื่อ: 25 มกราคม 2013, 14:41:07 »

เจสันกับขนแกะทองคำ

กำเนิดขนแกะทองคำ



ตำนานขนแกะทองคำนั้นกล่าวว่า เมืองหนึ่งในแคว้นเธสสะลี กษัตริย์ผู้ปกครองพระนามว่า อธามัส (Athamas)
มีมเหสีพระนามว่า เนฟเฟลี (Nephele) ทั้งสองมีโอรสธิดาด้วยกันสององค์ โอรสมีนามว่า ฟริกซัส (Phryxus)
และธิดามีนามว่า เฮลลี (Helle)


ต่อมาท้าวอธามัสได้ไปอภิเษกสมรสใหม่กับเจ้าหญิงไอโน (Ino) ธิดาของท้าวแคดมัสกับพระนางเฮอร์ไมโอนี
แห่งเมืองธีบส์ พระนางเนฟเฟลีเกรงว่ามเหสีใหม่จะทำร้ายโอรสธิดาของนาง นางจึงสวดอ้อนวอนขอให้ซูส
คุ้มครองทุกคืน


ต่อมาเกิดข้าวยากหมากแพง นางไอโนก็ฉวยโอกาสติดสินบนโหรหลวงให้ทำนายว่าต้องจับเจ้าชายฟริกซัสบูชายัญ
ท้าวอธามัสหลงเชื่อจึงให้ทหารจับโอรสและธิดาไปบูชายัญ แต่มหาเทพเห็นเหตุการณ์ จึงส่งเทพเฮอร์เมสลงมาช่วย
เด็กทั้งสอง เทพเฮอร์เมสจึงเนรมิตแกะขนทองคำให้วิ่งตรงเข้าไปพาโอรสและธิดาทั้งสองขี่หลังหนีจากพิธีบูชายัญ


 
แกะขนทองคำพาโอรสและธิดาทั้งสองวิ่งตะบึงหนีราชภัยไป และขณะที่กำลังวิ่งข้ามช่องแคบระหว่างยุโรปกับเอเชีย
เจ้าหญิงเฮลลีก็เสียหลักพลัดตกจากหลังแกะ คงเหลือแต่เจ้าชายฟริกซัสที่เกาะหลังแกะจนแน่น แกะขนทองคำพา
เจ้าชายฟริกซัสไปถึงเมืองกอลคิส เจ้าเมืองคือ ท้าวอีอิทีส (Aeetes) ก็ต้อนรับเจ้าชายฟริกซัสเป็นอย่างดี
และต่อมาก็ให้แต่งงานกับ คาลไซโอพี (Chalsiope) ธิดาของพระองค์ ซึ่งเจ้าชายฟริกซัสก็ได้ฆ่าแกะขนทองคำ
ถวายซูส และเอาขนแกะทองคำถวายท้าวอีอิทีส


ท้าวอีอิทิสจึงโปรดให้เอาขนแกะทองคำไปแขวนไว้ในสวนหลวง มีมังกรไฟที่ไม่รู้จักหลับนอนตัวหนึ่งเฝ้าอยู่
ขนแกะทองคำนี้เลื่องลือและเป็นที่หมายปองไปทั้งแคว้นเธสสะลี แต่ไม่มีผู้ใดหาญกล้าไปเผชิญหน้ากับมังกรร้าย


เจสัน



ในแคว้นเธสสะลีนั้น มีเมืองอีกเมืองหนึ่ง ชื่อว่า ไอออลกอส มีท้าวอีสัน (Aeson) เป็นกษัตริย์ปกครอง
พระองค์มีโอรสนามว่า เจสัน (Jason) ซึ่งถูกส่งไปเรียนวิชากับไครอน เซนทอร์ผู้มีร่างเป็นม้าหัวเป็นคน
และเป็นอาจารยredวีรบุรุษหลายคน


ระหว่างที่เจสันยังเรียนวิชาอยู่ ท้าวพีเลียส (Pelias) น้องชายของท้าวอีสันก็เป็นกบฏ ยึดราชบัลลังก์ไป
เมื่อเจสันฝึกวิชาจบก็เดินทางกลับบ้านเมือง ระหว่างทางมีแม่น้ำที่เชี่ยวกรากขวางหน้าอยู่ และมีหญิงชรา
นางหนึ่งนั่งอยู่ริมฝั่งน้ำหมดปัญญาที่จะข้ามฝั่งไปได้ เจสันจึงอาสาแบกหญิงชรานางนั้นข้ามฝั่งไปด้วย




ยิ่งเดิน น้ำก็ยิ่งลึก ซ้ำร้ายน้ำหนักหญิงชราก็หนักมากขึ้นราวกับมีคนมาให้แบกเพิ่มเป็น 3-4 คน แต่เจสัน
ก็อดทนแบกหญิงชราจนข้ามฝั่งน้ำสำเร็จ

เมื่อถึงฝั่ง เจสันก็วางหญิงชราลง แต่เขาต้องตกตะลึงที่บัดนี้หญิงชรานางนั้นได้กลับกลายเป็นพระนางฮีรา
จอมมารดาสวรรค์ไปเสียแล้ว นับแต่นั้น เจสันเลยเป็นที่โปรดปรานของเทพีฮีรา และได้รับความช่วยเหลือ
จากพระนางมาตลอด

เจสันเข้าไปในพระราชวัง ทวงสิทธิในราชบัลลังก์คืนจากท้าวพีเลียส ท้าวพีเลียสก็จัดงานต้อนรับเจสันอย่างใหญ่โต
ระหว่างงานเลี้ยงพนักงานขับร้องได้ขับร้องบทเพลงรำพันถึงขนแกะทองคำ ซึ่งเจสันรู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
ท้าวพีเลียสจึงบอกเจสันว่าขนแกะทองคำเป็นสิ่งที่คู่ควรกับกษัตริย์ หากเจสันช่วงชิงขนแกะทองคำมาได้
เขาก็จะคืนบัลลังก์ให้ เจสันตกลง


เรืออาร์โก



เจสันจัดแจงต่อเรือขึ้นลำหนึ่ง เรียกว่าเรืออาร์โก ตามชื่อของอาร์กัสผู้เป็นช่างต่อเรือ เรืออาร์โกเป็นเรือ
ขนาด 50 ฝีพาย หัวโขนเรือพิเศษตรงที่เป็นรูปหญิงสาวที่สามารถพูดให้คำแนะนำแก่ลูกเรือได้เมื่อถึงเวลาอันสมควร


ข่าวการไปเอาขนแกะทองคำของเจสัน สร้างความตื่นเต้นแก่เหล่าผู้กล้าหาญ จึงมีผู้อาสาเป็นลูกเรือร่วม
เดินทางผจญภัยไปกับเจสันจำนวนมาก เช่น อคิลลิส เอสคิวเลปิอัส ออร์ฟิอัส เมลเลียเจอร์ เนสเตอร์
คัสเตอร์ และพอลลักซ์


เมื่อเรือพร้อม เรืออาร์โกก็เริ่มออกเดินทาง โดยมี ไทฟิส เป็นคนนำร่อง เอสคิวเลปิอัส เป็นหมอเทวดาประจำเรือ
ออร์ฟิอัส เป็นคนดีดพิณขับกล่อมลูกเรือ เรืออาร์โกเดินทางผ่านทะเลที่สงบราบรื่นภายใต้ความช่วยเหลือ
ของเทพีฮีรา จนถึงช่องแคบเฮลเลสปอนต์ พายเล่มหนึ่งก็หัก จึงต้องหยุดเรือเพื่อทำพายเล่มใหม่
ระหว่างนั้นเจสันก็สั่งให้ไฮลาส หลานของอคิลลิส ขึ้นบกไปหาน้ำจืดมาเพิ่มเติม แต่ไฮลาสหลงไปที่สระน้ำ
ที่อยู่ของนางอัปสรเหล่าหนึ่ง นางอัปสรเกิดหลงรักจึงฉุดไฮลาสลงสระน้ำไป

เมื่อทำพายเสร็จแล้ว เจสันและคณะไม่อาจอยู่รอไฮลาสได้ จึงออกเดินทางกันต่อไป โดยมีอคิลลิสอยู่
ตามหาไฮลาสต่อ แต่เมื่อหาไม่พบ อคิลลิสก็เดินทางต่อทางบกและตามไปสมทบกับเรืออาร์โกยังเมืองกอลคิส



ผากระทบกัน



เดินทางต่อจนถึงทะเลยูซินี เรืออาร์โกก็จอดแวะพักที่เมืองซาลไมเดสลัสเพื่อขอคำแนะนำการเดินทาง
จากท้าวฟินเนอุส (Phinneus) เนื่องจากหนทางข้างหน้านั้น เรืออาร์โกจะต้องแล่นผ่านหน้าผา
ซิมเพลกะดิส (Symplegades) ซึ่งเป็นช่องแคบที่มีหน้าผาอยู่สองฝั่ง ยามใดที่เรือแล่นผ่าน หน้าผาทั้งสอง
ก็จะวิ่งเข้าหากัน และกระทบกันจนเรือที่แล่นผ่านต้องอับปางลง ยังไม่มีเรือลำใดสามารถแล่นผ่านไปได้เ
ลย


 
ท้าวฟินเนอุสนั้นเป็นกษัตริย์ที่มีพระเนตรบอด แต่ได้รับพรจากเทพอพอลลอนทำให้พระองค์มีญานหยั่งรู้
เหตุการณ์ในอนาคต เหตุนี้ทำให้พระองค์ต้องพบกับความลำบากจากมหาเทพซูส เนื่องจากเทพีฮีราชอบ
มาให้ท้าวฟินเนอุสพยากรณ์ความลับต่างๆ ของมหาเทพ มหาเทพทรงลงโทษท้าวฟินเนอุสโดยการส่ง
นกฮาร์พีมาแย่งชิงอาหารทุกมื้อ และปล่อยกลิ่นเหม็นไว้คละคลุ้ง ทำให้ท้าวฟินเนอุสได้รับ
ความลำบากอย่างยิ่ง


เมื่อเจสันมาขอคำแนะนำเรื่องการเดินทางผ่านผาซิมเพลกะดิส ท้าวฟินเนอุสจึงขอให้เจสันปราบฝูงนกฮาร์พี
ให้พระองค์ก่อน เจสันรับปาก และให้ซีทิสกับกาเลอิสซึ่งสามารถบินได้เพราะเป็นลูกของลมเหนือ ให้บินขึ้นไป
แอบซ่อนรอเวลาอยู่ เมื่อถึงเวลาเสวย นกฮาร์พีก็มาแย่งอาหารเหมือนเดิม ซีทิสกับกาเลอิสจึงบินทะยานออกจาก
ที่ซ่อนไล่ฆ่าฟันฝูงนกนั้นทันที



เทพีฮีราเกรงว่าการฆ่านกฮาร์พีจะทำให้มหาเทพกริ้ว พระนางจึงส่ง ไอริส เทพีสายรุ้งลงมาห้าม และให้ฝูงนกฮาร์พี
สาบานกับแม่น้ำสติกซ์ว่าจะไม่รบกวนท้าวฟินเนอุสอีก ท้าวฟินเนอุสจึงยอมบอกความลับการเดินทางผ่าน
ช่องผาเพลกะดิสเป็นการตอบแทน


เมื่อเรืออาร์โกเดินทางถึงช่องผาเพลกะดิส เจสันก็ปล่อยนกพิราบตัวหนึ่งให้บินนำหน้าผ่านช่องผาไป
พอหน้าผารู้ว่ามีนกบินผ่านก็ขยับเขยื้อนเข้ามาหากันและกระทบกันอย่างแรงจังหวะที่หน้าผาผละออกห่างจากกัน
เจสันก็สั่งให้ฝีพาย พายเรืออาร์โกผ่านช่องผาไปอย่างเต็มกำลัง กว่าหน้าผาทั้งสองจะถอยกลับไปจุดตั้งต้น
และวิ่งกลับมากระทบกันอีกครั้งหนึ่ง เรืออาร์โกก็ผ่านพ้นรัศมีของช่องผาเพลกะดิสไปแล้วอย่างหวุดหวิด
คงมีแต่หางเสือเรือเท่านั้นที่ถูกหน้าผากระแทกจนแหลกละเอียด
   
นับจากไม่สามารถทำลายเรืออาร์โกได้ หน้าผาเพลกะดิสก็หมดฤทธิ์ เลิกวิ่งเข้ามากระทบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นกอินทรีย์ขนทองเหลือง

เรืออาร์โกเดินทางล่องลอยกลางทะเลมาเรื่อย วันหนึ่งเมื่อเรืออาร์โกแวะเข้าหาฝั่ง ก็พบเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ มีลาส
น้องชายของอาร์กอสผู้ต่อเรืออาร์โก มีลาสลอบมาในเรือลำหนึ่ง แต่ถูกจับได้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้ เมื่อรู้ว่าเรืออาร์โก
กำลังเดินทางไปกอลคิส เขาก็อาสาเดินทางไปด้วย และเตือนว่าข้างหน้ามีอันตรายจากนกขนทองเหลืองรออยู่


เมื่อเรืออาร์โกผ่านเกาะแห่งหนึ่งของเทพแอรีส เกาะแห่งนี้มีฝูงนกที่มีขนเป็นทองเหลืองอาศัยอยู่ มันดุร้ายมาก
และทำร้ายชาวเรือทุกคนที่เดินทางผ่านมา มีลาสบอกให้ทุกคนใส่เสื้อเกราะและใช้โล่ห์กำบัง ทำให้ลูกเรือสามารถ
เดินทางผ่านมาได้อย่างปลอดภัย



เมื่อเรือเทียบท่ากอลคิส เจสันและคณะก็เข้าเฝ้าท้าวอีอิทิส และเอ่ยปากขอขนแกะทองคำ ท้าวอีอิทิสจึงตั้งเงื่อนไขว่า
เจสันต้องฝ่าด่านที่พระองค์กำหนดขึ้นโดยลำพัง 4 อย่าง ให้สำเร็จในวันเดียวกัน คือ


1. ปราบวัวดุคู่หนึ่งที่มีเขาและกีบเท้าเป็นทองเหลือง และหายใจเป็นไฟ ให้เชื่องลง
2. นำวัวคู่นั้นไปไถดินแปลงหนึ่งซึ่งแข็งเป็นหินให้พร้อมเพาะปลูก
3. เอาฟันมังกรหว่านลงไปในรอยไถซึ่งจะทำให้เกิดเป็นนักรบขึ้น และเจสันต้องสังหารนักรบกลุ่มนั้นทั้งหมด
4. ให้เจสันฆ่ามังกรที่เฝ้าขนแกะทองคำ แล้วจึงจะเอาขนแกะทองคำไปได้


แม้จะเก่งกาจสักเพียงใด เจสันก็ไม่มีทางทำได้สำเร็จแน่ เทพีฮีราจึงต้องหาทางช่วยเหลือโดยพระนางไปหา
เทพีอโฟรไดที ขอร้องให้เทพีอโฟรไดทีใช้อีรอสเทพบุตรไปแผลงศรรักปักอกนางมีเดีย ธิดาอีกองค์หนึ่ง
ของท้าวอีอิทีส เพื่อให้นางหลงรักและจะได้ช่วยเหลือเจสันได้ เนื่องจากนางมีเดียมีเวทย์มนต์คาถาแบบแม่มด


นางมีเดีย



ระหว่างงานเลี้ยงต้อนรับ มีเดียก็พบกับเจสัน และโดนศรรักของอีรอสจนหลงรักเจสันขึ้นทันที
มีเดียแอบนัดเจสันมาพบ และมอบสีผึ้งวิเศษกับดอกไม้สีม่วงดอกหนึ่งให้ พร้อมบอกวิธีการใช้งาน
รวมทั้งบอกวิธีการปราบนักรบฟันมังกรให้แก่เจสัน


เมื่อถึงวันฝ่าด่าน เจสันก็ทาตัวด้วยสีผึ้งวิเศษ วัวดุทั้งคู่เลยกลายเป็นวัวเชื่องๆ ให้เจสันจูงไปไถนาหิน
ได้อย่างง่ายดาย เมื่อไถนาที่เป็นหินเสร็จ เจสันก็โปรยฟันมังกรลงไปในรอยไถ เกิดเป็นนักรบฟันมังกรผุดลุก
ขึ้นมามากมาย เจสันจัดการทุ่มหินลงกลางหมู่นักรบฟันมังกรตามคำแนะนำของมีเดีย นักรบฟันมังกร
ก็สับสนอลหม่าน ฆ่าฟันกันเองจนตายไปทั้งหมด เจสันมุ่งหน้าไปที่ขนแกะทองคำเพื่อปฏิบัติภาระกิจสุดท้าย
เขายื่นดอกไม้สีม่วงไปข้างหน้า ทำให้มังกรร้ายนอนหลับลงอย่างฉับพลัน เจสันจึงฉวยเอาขนแกะทองคำ
มาได้อย่างง่ายดาย



เจสันคิดว่าท้าวอีอิทีสคงไม่ยอมแน่ เขาจึงพามีเดียพร้อมสมัครพรรคพวกลงเรืออาร์โก และแล่นหนีไปทันที
ท้าวอีอิทีสส่งกองทัพเรือติดตามเจสันมาทันที และเมื่อพี่ชายคนหนึ่งของมีเดียสามารถปีนขึ้นเรือเจสันได้
มีเดียก็ใช้เวทมนต์ฉีกร่างพี่ชายเป็นชิ้นๆ โยนลงทะเลไป เรือของท้าวอีอิทีสเสียเวลาตามเก็บชิ้นส่วนศพนั้น
ทำให้ตามเรืออาร์โกไม่ทัน


เจสัน-มีเดีย

เมื่อกลับถึงเมืองไอออลกอส เหล่าวีรบุรุษที่ร่วมเดินทางไปกับเรือก็แยกย้ายจากกันไป ส่วนเจสันก็พามีเดีย
เดินทางเข้าวัง ซึ่งชาวเมืองก็พากันจัดงานต้อนรับเจสันอย่างเอิกเกริก เนื่องจากท้าวอีสัน พระบิดาของเจสัน
ทรงชราภาพมาก ไม่สามารถออกมาร่วมงานรื่นเริงได้ เจสันจึงขอให้มีเดียช่วยชุบท้าวอีสันให้กลับเป็นหนุ่มขึ้น


นางมีเดียจึงขี่มังกรบินไปยังดินแดนไกลโพ้นเพื่อเก็บสมุนไพรใบยาต่างๆ ถึง 9 วัน 9 คืน เมื่อกลับมาแล้ว
ก็จัดแจงตั้งศาลพิธี ไล่ผู้คนรวมทั้งเจสันออกไปคงเหลือไว้เพียงท้าวอีสันเท่านั้น มีเดียจัดการอาบร่างท้าวอีสัน
ด้วยน้ำยาสมุนไพร พร้อมท่องบ่นมนตราต่างๆ สุดท้ายก็เชือดคอท้าวอีสันเพื่อถ่ายเลือดเก่าออก
เปลี่ยนเป็นเลือดใหม่ที่ปรุงจากยาวิเศษ


ในที่สุดก็เสร็จสิ้นพิธี ท้าวอีสันก็กลับกลายเป็นหนุ่มขึ้นถึง 40 ปี ระหว่างนี้ท้าวพีเลียสยังบิดพริ้วไม่ยอมคืนบัลลังก์
ให้เจสันตามสัญญา แถมธิดาของท้าวพีเลียสยังขอให้มีเดียช่วยชุบพระบิดาให้กลับหนุ่มขึ้นด้วย นางมีเดีย
ก็รับปากด้วยความแค้น ในพิธี มีเดียชุบแกะแก่ๆ ให้กลายเป็นแกะหนุ่มให้ธิดาของท้าวพีเลียสดูเป็นตัวอย่าง
จากนั้นก็ทำพิธีให้ท้าวพีเลียส เมื่อถึงตอนสำคัญ มีเดียก็ให้ราชธิดาเชือดคอท้าวพีเลียส ธิดาท้าวพีเลียส
ก็ทำตามกล้าๆ กลัวๆ มีเดียจึงลงมือฆ่าท้าวพีเลียสเสียเองโดยไม่ได้ชุบให้เป็นหนุ่มขึ้นแต่อย่างใด
เมื่อท้าวพีเลียสสิ้นพระชนม์ ชาวเมืองกลับโกรธแค้นการกระทำของเจสันกับมีเดีย ทั้งสองจึงต้องขี่มังกร
บินหนีไปอยู่ที่เมืองคอรินทร์


จุดจบของเจสัน



เจสันกับมีเดียอยู่ร่วมกันจนมีบุตร 2 คน หลังจากอยู่ด้วยกัน 10 ปี เจสันก็เริ่มเอนเอียงไปชอบราชธิดา
ของเจ้าเมืองคอรินทร์ ถึงขั้นกำหนดวันวิวาห์กัน เจ้าเมืองกอรินธ์ขอให้เจสันเนรเทศนางมีเดียและบุตรทั้งสองไปเสีย
นางมีเดียรู้ก็เสียใจมากที่นางอุตส่าห์หนีจากบ้านเมืองตามเจสันมา สุดท้ายผลตอบแทนคือการทรยศหักหลัง

คืนวันก่อนงานอภิเษกมาถึง เจ้าหญิงมีเดียทรงเนรมิตเครื่องอาภรณ์อย่างงดงาม เป็นชุดเจ้าสาวที่สวยงาม
และนางก็วานให้พระโอรสทั้งสองนำไปมอบให้แก่เจ้าหญิงกลอซีเพื่อเป็นของขวัญสัมพันธไมตรีระหว่าง
เจ้าหญิงมีเดียกับเจ้าหญิงกลอซี เจ้าหญิงกลอซีเองก็เชื่อพระทัยว่าเจ้าหญิงมีเดียละความทิฐิแล้ว
เจ้าหญิงทรงสวมชุดเจ้าสาวนั้น

แต่แล้วร่างของหญิงก็ค่อยไหม้ด้วยไหมอาบพิษของเจ้าหญิงมีเดีย นางสิ้นอย่างอนาถ เจสันเสียใจเป็นอันมาก
ความฝันที่ตนจะได้ครอบครองบัลลังก์แห่งคอรินทร์สลายสิ้นทันที กษัตริย์ครีออนทรงเสียพระทัยที่พระราชธิดา
สิ้นพระชนม์จึงสั่งการทหารจับเจ้าหญิงมีเดียประหาร เจ้าหญิงมีเดียรู้อนาคตของนางอยู่เต็มอก นางจึงลงมือสังหาร
พระโอรสทั้งสองด้วยว่า นางเป็นเจ้าหญิงแห่งกอลคิส แต่ก็มิอาจจะกลับไปได้เพราะทรงทรยศต่อพระราชบิดา
และไม่อาจจะอยู่ที่คอรินทร์อีกต่อไป มีทางเดียวคือกลับไปยังโอลิมปัสอันเป็นดินแดนแห่งทวยเทพ

เพราะเชื้อสายกษัตริย์แห่งกอลคิสนั้นสืบเชื้อสายมาจากสุริยเทพเฮลิออนนั้นเอง เจ้าหญิงมีเดียเรียกราชรถ
ที่เทียบด้วยมังกรเหาะขึ้นฟ้า เจสันตกใจเป็นอันมากกับภาพที่เห็น คือ ศพของพระโอรสทั้งสองของเขา
และเจ้าหญิงมีเดียที่หนีจากเขาไป เขากล่าวด่าทอเจ้าหญิงมีเดียด้วยความแค้น เจ้าหญิงมีเดียก็ตอบกลับว่า
ทุกอย่างเป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้าเอง และเจ้าหญิงมีเดียก็หายไปในกลีบเมฆ นางกลับไปยังโอลิมปัสสถานแล้ว




เจสันเดินทางร่อนเร่พเนจรจนมาพบกับซากเรืออาร์โก

เจสันตกต่ำอย่างขนาดที่เรียกว่าติดดิน เขาถูกกษัตริย์ครีออนขับไล่ออกจากคอรินทร์นคร คนเหลือเพียง
ชุดที่ขาดจนดู กับรองเท้าข้างเดียวไม่มีความเป็นวีรบุรุษเหลืออยู่แล้ว เขาออกร่อนเร่พเนจรไปทั่วกรีซ
อย่างน่าอนาถ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาคือ วีรบุรุษเจสันผู้พิชิตขนแกะทองคำ




เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวและสกปรก เขาเดินทางมาจนพบกับซากเรืออาร์โก เขาดีใจมากจนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่
เขานั่งลงข้างโขนเรือนั้นและเขามองสายตาออกไปยังมหาสมุทรแห่งพระสมุทรโพไซดอน เจสันระลึกถึงอดีต
วันวานที่หอมหวาน วันที่เขาและสหายร่วมออกเดินทางไปตามหาขนแกะทองคำ พานพบกับอุปสรรคนานา
ก็มากมาย เขาจำคำนั้นได้ดี คำแห่งพระเทพีเฮร่าที่พระเทพีเคยกล่าวไว้กับเขาว่า วันสุดท้ายแห่งวีรบุรุษ
ย่อมที่จะจบไม่งดงาม เมื่อวันเริ่มต้นแห่งวีรบุรุษของเจ้า เจ้ามาด้วยเพียงรองเท้าข้างเดียว วันสุดท้ายของเจ้า
จะเหลือเพียงรองเท้าข้างเดียวเช่นกัน เจสันจำได้ดี และแล้วหัวโขนเรืออาร์โกก็หักลงทับศีรษะของเจสัน

และแล้วเจสันก็ถึงคราวหมดลม วันสุดท้ายของเขาตามคำพยากรณ์แห่งพระเทพีมาถึงเขาแล้ว....

         
กลุ่มดาวขนแกะทองคำ กับ กลุ่มดาวเรืออาร์โก



เจสันวีรบุรุษแห่งกรีกที่ยิ่งใหญ่จากตำนานที่เรื่องขานถึงการผจญภัยของเขา ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้ว
เขาก็ไม่เหลืออะไรเลย ส่วนขนแกะทองคำเจ้าตัวปัญหา มหาเทพซีอุสทรงมีเทวบัญชาโปรดให้เทพเฮอร์เมส
นำขนแกะทองคำไปไว้ในสรวงสวรรค์กลายเป็นกลุ่มดวงดาวบนท้องฟ้า และเรืออาร์โกก็ถูกนำขึ้นสู่สรวงสวรรค์

เจสันยังคงได้เป็นกัปตันเรืออาร์โกในดินแดนแห่งเทพยดาไปจนกัลปวสาน แต่ถึงแม้ว่าเขาเองจะปรารถนา
ที่จะพบกับเจ้าหญิงมีเดียยอดรักเพียงใด แต่นางก็ไม่ยอมที่จะอภัยให้กับเจสัน เจสันยังคงล่องเรืออาร์โก
บนท้องฟ้ายามราตรีกาลไปชั่วกาล...


credit :: siamtapco / dek-d
เรียบเรียงใหม่ :: cmxseed.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2013, 17:15:41 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

gundam1974

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 268
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจสันกับขนแกะทองคำ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 28 มกราคม 2013, 13:13:57 »

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวครับ

tunderfox

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 61
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจสันกับขนแกะทองคำ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 29 มกราคม 2013, 13:49:24 »

 ขอบคุณมากครับ ดีใจที่อุตสาห์นำมาแบ่งบันครัย

del38196

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 43
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจสันกับขนแกะทองคำ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 11:31:16 »
Post By Soccer Box Office SBO