-->

ผู้เขียน หัวข้อ: “ญี่ปุ่น” กลายเป็นสังคมไร้เซ็กซ์ อุตสาหกรรม “ถุงยาง” ขายไม่ออกต้องพึ่งดีมานด์จีน  (อ่าน 683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18393
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

“ญี่ปุ่น” กลายเป็นสังคมไร้เซ็กซ์ อุตสาหกรรม “ถุงยาง”
ขายไม่ออกต้องพึ่งดีมานด์จีน

cr.prachachat.net



อาจเป็นเพราะดินแดนญี่ปุ่น มีหนังผู้ใหญ่ 18+ ให้ดูกันเกลื่อนกลาด อาจเป็นเพราะดินแดนแห่งนี้ คนวัยหนุ่มสาว
คนวัยทำงาน มีความแข่งขันสูง มีความเครียดสูง มีความกดดันสูง ทำให้หนุ่มสาวญี่ปุ่นจำนวนมากเป็นพวก

“เฉยชาทางเพศ”

ที่ศัพท์สามัญคนไทยเรียกว่า “ตายด้านทางเพศ” หรือศัพท์ในสื่อต่างประเทศเรียกว่า
“กลุ่มอาการละเว้นการมีเพศสัมพันธ์” (Celibacy Syndrome)



แม้กระทั่งชาวญี่ปุ่นที่แต่งงานกันก็ยังไม่มีเพศสัมพันธ์กัน



จากการสำรวจพบของสมาคมวางแผนครอบครัวญี่ปุ่น (เจเอฟพีเอ) ที่ทำการสำรวจศึกษาปัญหาเรื่องเพศ
เป็นประจำทุกๆ 2 ปี เกี่ยวกับการมีเซ็กซ์ของชาวญี่ปุ่นในปี 2016 จากชาวญี่ปุ่นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,000 คน
ในทั่วประเทศ ช่วงอายุระหว่าง 16-49 ปี ในจำนวนนี้เป็นผู้ชายร้อยละ 46.8 หรือคิดเป็นจำนวน 1,263 คน
ที่เหลือเป็นผู้หญิง


พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นคนแต่งงานแล้วจำนวน 655 คน คิดเป็นร้อยละ 47.2 ยอมรับว่าตนเองไม่ได้มีเซ็กซ์
มานานกว่า 1 เดือน เมื่อเทียบกับปี 2014 มีกลุ่มผู้ที่ตอบว่าไม่ได้ประกอบกิจกรรมทางเพศเลยนานเป็นเดือนอยู่ที่
ร้อยละ 44.6

ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ตอบว่าไม่มีเซ็กซ์มานานกว่า 1 เดือน เป็นชายที่แต่งงานแล้วร้อยละ 47.3
และผู้หญิงที่แต่งงานแล้วร้อยละ 47.1



ดร.คูนิโอะ คิตามูระ ผู้อำนวยการเจเอฟพีเอ ระบุว่า ผลสำรวจของเจเอฟพีเอชี้ถึงเหตุผลหลักใหญ่ที่ทำให้แนวโน้ม
การมีเพศสัมพันธ์ลดลงระหว่างคู่สามีภรรยา ก็คือ “ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน” ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้เหตุผลว่า
เป็นเรื่องนี้ไว้ถึงร้อยละ 35.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2014 ที่มีร้อยละ 21.3

ส่วนเหตุผลเรื่อง ไร้ความต้องการทางเพศ – การไร้ความรู้สึกรักใคร่ ร้อยละ 22.3 บอกว่า เขามองเห็นสามีหรือภรรยา
ของตนเองเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเท่านั้น มากกว่าจะเห็นเป็นคู่รักกัน


ส่วนการไม่มีความต้องการเพศในกลุ่มวัยหนุ่มสาวผลสำรวจระบุว่า เป็นเรื่องปกติในชายอายุระหว่าง 18-24 ปี
และผู้หญิงร้อยละ 52.9 ในช่วงอายุเดียวกัน เป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยมีเซ็กซ์


ครองโสดไม่มีแม้คำว่าแฟน



ด้าน “แมรี่ บรินตัน” นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ซึ่งศึกษาถึงสังคมญี่ปุ่น ระบุว่า วัฒนธรรมการทุ่มเทให้เวลา
ต่อการทำงานของคนญี่ปุ่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เหลือเวลาในการที่ชีวิตจะไปใช้ในกิจกรรมอื่้นๆ ทางสังคมลดลง
โดยในหลายทศวรรษมานี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองยุคนั้นฝ่ายชายต้องออกไปทำงานขณะที่ฝ่ายหญิงเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
แต่ปัจจุบันที่ผู้หญิงเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น และส่งผลให้ทั้งชายและหญิงญี่ปุ่นก่อร่างสร้างครอบครัวได้ยากขึ้น


การศึกษาของบริษัทวิจัยในญี่ปุ่น เมื่อปี 2016 พบว่าเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ของชายชาวญี่ปุ่นที่ยังไม่แต่งงาน และฝ่ายหญิง
ที่ยังไม่แต่งงานอีกราว 60 เปอร์เซ็นต์ คนเหล่านี้ต่างเป็นโสดในแบบที่ไม่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบการมีแฟน หรือมีคู่
เรียกว่าโสดล้วนๆ ซึ่งเป็นคนละความหมายกับกลุ่มคนที่แม้ยังไม่แต่งงานแต่มีคู่รักที่อาจจะแต่งงานในอนาคต

สถานการณ์นี้ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าประชากรของญี่ปุ่นจะเหลือราว 100 ล้านคน ในปี 2053 ซึ่งจะลดเร็วกว่าที่รัฐบาลญี่ปุ่น
คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำที่ปี 2060



หันมาสมรสกับตุ๊กตายาง



เมื่อเซ็กซ์เปรียบเหมือนการปรบมือ ไม่สามารถปรบมือข้างเดียวแล้วดังได้ สังคมญี่ปุ่นที่มีความเครียดสะสมสูง
เมื่อเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน บางครั้งทำให้ต้องการทางเพศของคู่รักไม่เท่ากัน จนกลายเป็นปัญหาครอบครัว


ทางออกของชายหนุ่มญี่ปุ่นคือการหันมาสมสู่กับ “ตุ๊กตายาง” แทนภรรยาตัวเอง ตัวอย่างเช่น มาซายูกิ โอซากิ
หนุ่มญี่ปุ่นวัย 45 ปี ตกหลุมรักตุ๊กตายางตั้งแต่แรกเห็น
แล้วเอามาอยู่บ้านหลังเดียวกัน เขาเล่าว่า ตั้งแต่ภรรยา
ของเขาคลอดลูกสาวตัวน้อยออกมา ทั้งสองคนก็ไม่เคยหลับนอนด้วยกันอีกเลย ทำให้เขาเปลี่ยวเหงามาก
แต่แล้วเขาได้พบกับตุ๊กตายางที่ชื่อ “มายุ” เขาตกหลุมรักทันที

“วันแรกที่ผมพามายูเข้าบ้าน ภรรยาผมโมโหมาก แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า เธอก็เริ่มชินกับมายู
และไม่ได้ว่าอะไร ส่วนลูกสาว พอเธอรับรู้ว่าแท้จริงแล้วมายูไม่ใช่ตุ๊กตาบาร์บี้ตัวใหญ่อย่างที่คิดมาตลอด
เธอก็ตกอกตกใจมากและบอกว่ามันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว
โตพอที่จะแบ่งปันเสื้อผ้าของเธอให้มายูได้สวมใส่”




“มาซายูกิ” บอกความประทับใจในตัวตุ๊กตายางตัวนี้ว่า ไม่ว่ามีปัญหาอะไร “มายู” จะคอยรับฟังเสมอ รักมาก
และอยากอยู่ไปตลาดชีวิต นึกไม่ออกแล้วว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงจริง ๆ เป็นอย่างไร ผมอยากตายไปกับเธอ
ฝังเคียงข้างเธอ และพาเธอขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน ทุ่มเทเวลากับงานบ้าน ทำอาหาร ปัดกวาดเช็ดถู ซักผ้าซักผ่อน
และเลือกข่มตานอนให้หลับ ๆ ไป แทนที่จะคิดถึงเรื่องเซ็กส์

ส่วนภรรยาตัวจริงที่เป็น “มนุษย์” ของ “มาซายูกิ” ระบายความทุกข์เมื่อสามีหันไปสนใจตุ๊กตายาง
มากกว่าตัวเธอ ว่า พยายามทำใจยอมรับมัน


ในแต่ละปีมีการขายตุ๊กตายางมากถึง 2 พันตัวต่อปี ตกตัวละ 6 พันดอลลาร์ หรือ 2 แสนบาท ลูกค้าสามารถ
สั่งได้ว่าอยากให้ตุ๊กตายางตัวนั้นหน้าตาจิ้มลิ้ม สวยงามแค่ไหน แถมยังเปลี่ยนอวัยวะเพศได้




วิกฤตถุงยางญี่ปุ่นต้องพึ่งนักท่องเที่ยวจีน



เมื่อชาวญี่ปุ่นมีเซกซ์กันน้อยลง แม้แต่วัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์ ยังครองพรหมจรรย์อย่างเหนียวแน่น ทำให้อุตสาหกรรมถุงยางอนามัย
ของญี่ปุ่นต้องดิ้นเอาตัวรอดด้วยการพึ่งพาดีมานด์จากนักท่องเที่ยวจีน แม้จะมีเทคโนโลยีบางเฉียบเพียงแค่ 0.02 มิลลิเมตร
หรือ 0.01 มิลลิเมตร ก็ตาม


ซากามิ รับเบอร์ อินดัสทรี” (Sagami Rubber Industries Co.,) ผู้ผลิตถุงยางอนามัยแบรนด์ “ซากามิ ออริจินอล”
(Sagami Original) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอานิสงส์นี้ ได้เริ่มส่งถุงยางอนามัยรุ่นบาง 0.02 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นสินค้า
ยอดนิยมเข้าไปขายในประเทศจีน โดยตรงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม หลังดีมานด์พุ่งสูงต่อเนื่องจนปัจจุบันต้องประกาศปันส่วน
สินค้าที่ส่งให้กับร้านค้าในประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับดีมานด์จากนักท่องเที่ยวแดนมังกรที่เพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน หลังต้อง
ประสบปัญหาขาดแคลนสินค้าในหลายพื้นที่มาก่อน

“ดีมานด์จากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก ทำให้บริษัทได้รับออร์เดอร์จากร้านค้าปลีกเข้ามาไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะแบบบาง 0.02 มิลลิเมตร ที่แม้จะราคาถึงแพ็กละ 8.5 เหรียญสหรัฐ หรือ 2 เท่าของแบบปกติ
แต่ยังขายดีจนผลิตไม่ทัน ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกนับจากการหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012”

อิจิโร่ โอฮาโตะ ประธาน บริษัทซากามิ รับเบอร์ อินดัสทรีกล่าว



อีกด้านหนึ่งดีมานด์จากชาวญี่ปุ่นเองไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัว สะท้อนจากผลสำรวจเมื่อปี 2014 ของสมาคมการวางแผน
ครอบครัวของญี่ปุ่น ซึ่งพบว่า 47% ของผู้หญิงญี่ปุ่นอายุ 16-24 ปี ไม่มีความสนใจหรือถึงกับรังเกียจกิจกรรมทางเพศ
อีกทั้งคู่สามีภรรยาจำนวน 45% ที่ยอมรับว่าไม่มีเพศสัมพันธ์เลยในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จาก 41% ในปี 2012 และ 32% ในปี 2004


โดย “ซากามิ” เองได้พยายามแก้ปัญหานี้โดยจัดงาน “คืนคนโสด” ในสถานบันเทิงหลายแห่งของกรุงโตเกียว
เพื่อให้เหล่าหนุ่มสาวที่ยังโสดได้พบปะกัน ซึ่งช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาบริษัทอ้างว่ามีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 คน

เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง “โอคาโมโต อินดัสทรี” (Okamoto Industries) ผู้ผลิตถุงยางอนามัยแบรนด์ “โอคาโมโต” (Okamoto)
ที่เดินหน้ากระตุ้นตลาดในประเทศผ่านภาพยนตร์โฆษณาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตลอดทั้งปี 2016 นี้ เริ่มด้วยการทุ่มงบฯ
สร้างภาพยนตร์โฆษณาทีวีเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และปล่อยภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ที่ทำยอดชมแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง


รายละเอียดเพิ่มเติม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มิถุนายน 2018, 10:28:34 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

jaos

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 271
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด

an_aSpiriN

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 176
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด

Kritjip

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 15
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด